All posts by Jasmine

Toshiba เริ่มจัดส่งตัวอย่างพรีไดรเวอร์ IC สำหรับมอเตอร์แบบไร้แปรงถ่านในยานยนต์ซึ่งรองรับความปลอดภัยในการใช้งาน

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–28 กันยายน 2564

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) ได้เริ่มจัดส่งตัวอย่างทดสอบของรุ่น “TB9083FTG” ซึ่งเป็นพรีไดรเวอร์ IC สำหรับการใช้งานในยานยนต์ โดยรวมถึงมอเตอร์ไร้แปรงถ่านสำหรับระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าและเบรกไฟฟ้า Toshiba จะจัดส่งตัวอย่างขั้นสุดท้ายในเดือนมกราคม 2565 และจะเริ่มการผลิตจำนวนมากในเดือนธันวาคม 2565

เอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210927005866/en/

Toshiba: a pre-driver IC

Toshiba: พรีไดรเวอร์ IC รุ่น “TB9083FTG” สำหรับการใช้งานยานยนต์รวมถึงมอเตอร์ไร้แปรงสำหรับระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าและเบรกไฟฟ้า (กราฟิก: Business Wire)

TB9083FTG เป็นพรีไดรเวอร์สามเฟสที่ควบคุมและขับเคลื่อนเพาเวอร์ MOSFET แบบ N-channel ภายนอกสำหรับการขับมอเตอร์ DC แบบไร้แปรงถ่านสามเฟส รองรับ ASIL-D[1] ความปลอดภัยในการใช้งาน[2] และสอดคล้องกับ ISO 26262 ฉบับที่ 2 ช่วยให้สามารถใช้กับระบบยานยนต์ที่มีความปลอดภัยสูง

IC รุ่นใหม่นี้มีพรีไดรเวอร์สามช่องสัญญาณในตัวสำหรับเซฟตี้รีเลย์ที่ควบคุมและขับเคลื่อนรีเลย์สำหรับมอเตอร์และแหล่งจ่ายไฟ ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ส่วนประกอบภายนอกและช่วยลดจำนวนชิ้นส่วน

TB9083FTG อยู่ในแพ็คเกจ P-VQFN48-0707-0.50-005 ขนาดเล็ก (7.0 มม. x 7.0 มม. (typ.)) พร้อมโครงสร้างแบบ wettable flank [3] เนื่องจากความจำเป็นในการออกแบบให้มีการสำรองทำให้มีข้อจำกัดเกี่ยวกับพื้นที่บอร์ดของหน่วยควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ การใช้แพ็คเกจขนาดเล็กนี้จึงช่วยลดพื้นที่การติดตั้งทั้งหมด

หมายเหตุ:

[1] ASIL (ระดับความสมบูรณ์ของความปลอดภัยในยานยนต์): ระดับความปลอดภัยในยานยนต์สูงสุดที่ควบคุมในมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงาน ISO 26262

[2] มาตรฐานการทำงานตามความปลอดภัยพยายามลดความเสี่ยงที่เกิดจากความล้มเหลวของระบบ การรับรอง ISO 26262 ยอมรับว่าการดำเนินการหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทสำหรับระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (E/E) เพื่อการใช้งานในรถยนต์ตรงตามเกณฑ์ที่เข้มงวดที่ระบุไว้ในมาตรฐาน และจัดหาวิธีการอิสระในการประเมินความสามารถของซัพพลายเออร์ที่มีศักยภาพให้กับบุคคลที่สาม

[3] รูปร่างของ side leads ของบรรจุภัณฑ์

แอปพลิเคชัน

อุปกรณ์ยานยนต์

– พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า เบรคไฟฟ้า ปั้มชนิดต่าง ๆ ฯลฯ

คุณสมบัติ

– รองรับความปลอดภัยในการใช้งาน

– พัฒนาตามมาตรฐาน ISO 26262 ฉบับที่ 2

– คู่มือความปลอดภัยและรายงานการวิเคราะห์ความปลอดภัย

– ฟังก์ชันสำรองในตัว ABIST[4] และ LBIST[5]

– อินเทอร์เฟซ SPI[6] พร้อมการตรวจสอบ CRC[7] 

– พรีไดรเวอร์สามเฟส

ควบคุมและขับเคลื่อนเพาเวอร์ MOSFET สามเฟส (Nch x 6 ชิ้น) มีวางจำหน่าย

สามารถตั้งค่าความถี่ในการส่งข้อมูล PWM Choppingได้ถึง 20kHz

– พรีไดรเวอร์สามช่องในตัวสำหรับเซฟตี้รีเลย์

สามารถควบคุม / ขับเคลือนรีเลย์สามตัวสำหรับแต่ละเฟสของมอเตอร์ อีกนัยหนึ่ง หนึ่งช่องควบคุม / ขับเคลื่อนรีเลย์สามตัวสำหรับมอเตอร์แบบ collective และอีกสองช่องควบคุม / ขับเคลื่อนรีเลย์สำหรับแหล่งจ่ายไฟ

– แอมพลิฟายเออร์ในตัวสำหรับการตรวจจับกระแสไฟของมอเตอร์

สำหรับการขยายแรงดันไฟฟ้าที่สร้างขึ้นในตัวต้านทานแบบ shunt 3 เฟส

ตั้งค่า gain ได้ 6 แบบ

– แพคเกจเล็ก

โครงสร้างแบบ wettable flank ขนาดเล็กติดพื้นผิว แพคเกจ P-VQFN48-0707-0.50-005 พร้อม E-pad[8]

หมายเหตุ:

[4] ABIST (การทดสอบตัวเองในตัวแบบอะนาล็อก)

[5] LBIST (การทดสอบตัวเองในตัวแบบลอจิก)

[6] SPI (การสื่อสารอนุกรมแบบ SPI)

[7] CRC (การตรวจสอบข้อผิดพลาด CRC)

[8] E-pad (แผ่นสัมผัส): กรอบโลหะที่ด้านหลังของบรรจุภัณฑ์

ข้อมูลจำเพาะหลัก

หมายเลขส่วน

TB9083FTG

มอเตอร์ที่รองรับ

มอเตอร์ DC แบบไร้แปรงถ่านสามเฟส

หน้าที่หลัก

การสื่อสาร SPI, แอมพลิฟายเออร์ตรวจจับกระแส,

พรีไดรเวอร์สามช่องสำหรับเซฟตี้รีเลย์ ฟังก์ชัน clamping MOSFET VGS ภายนอก  

ฟังก์ชันการวินิจฉัยตนเอง

ABIST, LBIST

การตรวจจับข้อผิดพลาด

การตรวจจับแรงดันตก, การตรวจจับแรงดันไฟเกิน,

การตรวจจับ MOSFET VGS/VDS ภายนอก,

การตรวจจับอุณหภูมิเกิน

ช่วงแรงดันไฟฟ้าที่ใช้งาน

VB=4.5V ถึง 28V

VCC=3.0V ถึง 5.5V

แหล่งจ่ายไฟภายนอก

2 แหล่งจ่ายไฟ (VB, VCC)

อุณหภูมิในการทำงาน

Ta=-40℃ ถึง 150℃

Tj=-40℃ ถึง 175℃

แพคเกจ

ชื่อ

P-VQFN48-0707-0.50-005

ขนาด typ. (มม.)

7.0 × 7.0

ความน่าเชื่อถือ

ผ่านการรับรองมาตรฐาน AEC-Q100

ข้อเสนอตัวอย่างสุดท้าย

มกราคม 2565

การผลิตจำนวนมาก

ธันวาคม 2565

ติดตามลิงก์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไดรเวอร์มอเตอร์ ICs แบบไร้แปรงถ่านของ Toshiba รวมถึงพรีไดรเวอร์ ICs
 
Automotive Brushless Motor Driver ICs

สอบถามข้อมูลสำหรับลูกค้า:

System Devices Marketing Dept. III
Automotive Marketing Group II
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

*ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ

*ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลการติดต่อเป็นปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และสตอเรจขั้นสูง ใช้ประสบการณ์และนวัตกรรมกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนำเสนอให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจในเซมิคอนดักเตอร์แบบแยกระบบ LSIs และผลิตภัณฑ์ HDD ที่โดดเด่น

พนักงานของบริษัท 22,000 คนทั่วโลกร่วมกันมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุดและเน้นการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อส่งเสริมการร่วมสร้างมูลค่าและตลาดใหม่  ด้วยยอดขายประจำปีที่สูงกว่า 710 พันล้านเยน (6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ตั้งตารอที่จะสร้างและมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทุกที่

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210927005866/en/

สอบถามสำหรับสื่อ:

Chiaki Nagasawa
Digital Marketing Department
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
Tel: +81-3-3457-4963
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ฟอรัมธุรกิจระดับโลกครั้งแรกในอาเซียนเพื่อสำรวจศักยภาพของตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Logo

ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(บิสิเนสไวร์)–27 ก.ย. 2564

การประชุม Global Business Forum (GBF) ASEAN ครั้งแรกจะสำรวจศักยภาพทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน และโอกาสที่ภูมิภาคนี้มีให้แก่ธุรกิจและนักลงทุนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ใน โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 8-9 ธันวาคม 2564 ที่ศูนย์แสดงสินค้า Dubai Exhibition Centre, Expo 2020 Dubai

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210927005637/en/

Dubai Chamber โดยร่วมกับ Expo 2020 Dubai ภายใต้หัวข้อ “The New Frontiers” จัดงาน GBF ASEAN 2021 เป็นงานแรก ในชุด GBF เพื่อเน้นภูมิภาคอาเซียน  ฟอรั่มระดับสูงนี้จะนำรัฐบาลและผู้นำทางธุรกิจจากตลาดอาเซียนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มารวมกันเพื่อสำรวจแนวทางใหม่ๆ ของความร่วมมือทางเศรษฐกิจและโอกาสการลงทุนที่เกิดขึ้นใหม่

ฟอรั่มสองวันนี้จะตรวจสอบพลวัตที่เปลี่ยนแปลงไปของภูมิภาคอาเซียนอันเนื่องมาจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 รวมถึงโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและความร่วมมือทางการค้า  หัวข้ออื่นๆ ในวาระนี้ ได้แก่ แผนระหว่างสมาชิกอาเซียนและคู่ภาคีเพื่อสร้างเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตามข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคที่จะเพิ่มมูลค่าประมาณ 186 พันล้านดอลลาร์ให้กับ GDP ทั่วโลกภายในปี 2573

ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของภาครัฐและเอกชนที่เข้าร่วม ฟอรั่มยังจะหารือถึงวิธีการใหม่ๆ ที่ประเทศอาเซียนสามารถพัฒนาเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำเพื่อสร้างอนาคตที่ยืดหยุ่นและยั่งยืนมากขึ้น โดยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่เสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก  ประเด็นอื่นๆ ได้แก่ การหารือว่ามีความแตกต่างระหว่างแบรนด์ของผู้ประกอบการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือตะวันออกกลางหรือไม่ และดูไบและสิงคโปร์ในฐานะศูนย์กลางระดับโลกสำหรับภูมิภาคของตนสามารถเรียนรู้จากกันและกันได้มากเพียงใด

GBF ASEAN เป็นส่วนหนึ่งของชุด Global Business Forum ของ Dubai Chamber ซึ่งเปิดตัวในปี 2555 เพื่อเป็นเวทีในการขับเคลื่อนการค้าและสำรวจโอกาสระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กับตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก

ชม https://www.youtube.com/watch?v=_mPn7rISN1I

เกี่ยวกับหอการค้าและอุตสาหกรรม Dubai Chamber of Commerce and Industry

Dubai Chamber of Commerce and Industry ตั้งขึ้นในปี 2508 เป็นหน่วยงานสาธารณะที่ไม่แสวงหาผลกำไรซึ่งมีภารกิจเป็นตัวแทน สนับสนุน และปกป้อง ผลประโยชน์ของชุมชนธุรกิจในดูไบโดยการสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้ออำนวย สนับสนุนการพัฒนาธุรกิจ และการส่งเสริมดูไบให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ www.dubaichamber.com

*ที่มา: AETOSWire

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210927005637/en/

ติดต่อ:

Ruba Abdel Halim, Manager, PR & Corporate Communications (ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร), +97142028450
ruba.halim@dubaichamber.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

PPRO เสนอการรวมเข้ากับ PayPal Commerce Platform สำหรับ PSPs ทั่วโลก

Logo

ลอนดอน–(BUSINESS WIRE)–27 กันยายน 2564

ในวันนี้ PPRO ประกาศการรวมระบบของ PayPal Commerce Platform

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยตอกย้ำตำแหน่งผู้นำด้านการตลาดของ PPRO ในฐานะหนึ่งในผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินในท้องถิ่นสำหรับผู้ให้บริการชำระเงิน (PSP) ธนาคาร และเกตเวย์

การรวมตัวกันของ PPRO จะช่วยให้ลูกค้าลดเวลาในการรวบรวมโซลูชัน PayPal Commerce Platform ลงได้อย่างมาก และช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึง PayPal Wallet ได้ การพัฒนานี้ทำให้ลูกค้าของ PPRO มีโอกาสทำให้ผู้ค้าของตนสามารถเข้าถึงฐานผู้ใช้ของ PayPal ที่มีบัญชีที่ใช้งานอยู่มากกว่า 403 ล้านบัญชีใน 200 ตลาด

Claire Gates ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ของ PPRO กล่าวว่า “ข่าวในวันนี้ถือเป็นการก้าวไปข้างหน้าใน PPRO และความสัมพันธ์อันยาวนานของ PayPal ประโยชน์สำหรับพันธมิตรในการเข้าร่วมแพลตฟอร์มของ PPRO นั้นชัดเจน: เราประหยัดเวลาและเงินให้กับพวกเขา และมอบคุณภาพของการรวบรวมวิธีการชำระเงินที่นำไปสู่อัตราการแปลง หรือ conversion rates ที่สูง ด้วยการเพิ่ม PayPal Commerce Platform และความสามารถในการเสนอ PayPal Wallet ข้อเสนอนี้ไม่สามารถละเลยโดยใครก็ตามที่ทำงานในพื้นที่อีคอมเมิร์ซทั่วโลก”

ด้วยการเป็นพันธมิตรกับ PPRO PSP ธนาคาร แพลตฟอร์ม และองค์กรที่มีแพลตฟอร์มการชำระเงิน ไม่เพียงแต่จะได้รับประโยชน์จากการเข้าถึง PayPal Commerce Platform แต่ยังมาจากวิธีการชำระเงินในท้องถิ่น (LPM) ที่หลากหลายทั่วโลก ความเชี่ยวชาญด้านการชำระเงินระดับโลกของ PPRO ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพและนวัตกรรม มูลค่าผ่านเครือข่าย LPM และ PSP ของ PPRO สามารถเข้าถึงได้ด้วยสัญญาเดียวและการรวบรวมเพียงครั้งเดียว ความเรียบง่ายนี้ขจัดความซับซ้อนในรอบการชำระเงินของท้องถิ่น เพิ่มความเร็วสู่ตลาด และช่วยเพิ่มยอดขายให้กับผู้ค้า

PPRO และ PayPal จะจัดไลฟ์สตรีมในวันที่ 7 ตุลาคม 2564 เวลา 11:30 น. เขตเวลาออมแสงยุโรปกลาง (CEST) เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือของพวกเขาและวิธีที่บริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกสามารถบรรลุอัตราการแปลงที่สูง โดยเสนอวิธีการชำระเงินที่ลูกค้ารู้จักและไว้วางใจ

PPRO ได้สร้างตัวเองให้เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินในท้องถิ่นที่น่าเชื่อถือที่สุดในพื้นที่การชำระเงินข้ามพรมแดน ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตระหว่างประเทศสำหรับผู้ให้บริการชำระเงิน ธนาคาร เกตเวย์ และองค์กรที่มีแพลตฟอร์มการชำระเงิน

ข่าวของการผนวกรวม PayPal Commerce Platform เกิดขึ้นหลังจาก PPRO ประกาศเมื่อต้นปีนี้ว่าได้ระดมทุน 180 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้มูลค่ารวมของบริษัทอยู่ที่กว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210927005059/en/

ติดต่อ:

Natacha Rousseau
(323) 352-6417
natacha@mediafrenzyglobal.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

JSSI แต่งตั้ง Trevor Merszei ให้เป็นรองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจประจำเอเชียแปซิฟิก

Logo

ชิคาโก-(BUSINESS WIRE)–27 ก.ย. 2564

Jet Support Services, Inc. (JSSI) ผู้ให้บริการอิสระชั้นนำด้านการสนับสนุนการบำรุงรักษาและบริการทางการเงินแก่อุตสาหกรรมการบินเพื่อธุรกิจ ได้แต่งตั้ง Trevor Merszei ให้เป็นรองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจสำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC)

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210926005017/en/

JSSI appoints Trevor Merszei vice president of business development for APAC. (Photo: Business Wire)

JSSI แต่งตั้ง Trevor Merszei ให้เป็นรองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจประจำ APAC (ภาพ: Business Wire)

Merszei นำประสบการณ์กว่า 14 ปีในด้านการขาย การตลาด และความเป็นผู้นำของผู้บริหารระดับสูงมาสู่ตำแหน่ง บทบาทของเขาในประเทศไทยจะเน้นไปที่การเพิ่มการรับรู้เกี่ยวกับข้อเสนอที่สำคัญ ๆ ของบริษัทในภูมิภาคนี้ ซึ่งรวมถึง Conklin & de Decker, JSSI Advisory Services, JSSI Parts & Leasing และซอฟต์แวร์ติดตามการบำรุงรักษา SierraTrax

“เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ต้อนรับ Trevor เข้าสู่ทีมของเราในเอเชียแปซิฟิก เนื่องจาก JSSI ยังคงขยายชุดบริการไปยังเจ้าของเครื่องบินและผู้ให้บริการต่อไป” Mark Winzar รองประธานอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ JSSI สำหรับ EMEA และ APAC กล่าว “ความเป็นผู้นำและความรู้ด้านการตลาดเชิงลึกของเขาจะมีคุณค่าอย่างยิ่งในยุคหลังโควิด โดยไม่เพียงแต่ช่วยสนับสนุนผู้เข้ามาใหม่ในภาคธุรกิจของเราเท่านั้น แต่ยังรวมถึงลูกค้าที่มีอยู่แล้วภายในภูมิภาคด้วย”

“ผมภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับ JSSI ในขณะที่บริษัทยังคงเพิ่มพูนประสบการณ์การเป็นเจ้าของเครื่องบินด้วยผลิตภัณฑ์และบริการในระดับนวัตกรรมใหม่เพื่อสนับสนุนลูกค้าของเราทั่วทั้งภูมิภาคนี้ ผมเห็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นมากมายที่รออยู่ข้างหน้าสำหรับเราในการสนับสนุนเจ้าของและผู้ให้บริการในทุกขั้นตอนของวงจรชีวิตของเครื่องบิน” Merszei กล่าวเสริม

ด้วยภูมิหลังทางอาชีพที่ไม่เหมือนใครตั้งแต่การเล่นสโนว์บอร์ดแบบมืออาชีพ ไปจนถึงการแสดงซิทคอม ล่าสุด Merszei ดำรงตำแหน่งซีอีโอที่ OrientSKYs ซึ่งเป็นบริษัทเช่าเหมาลำเครื่องบินเจ็ตในกรุงเทพฯ ซึ่งเขามีหน้าที่ดูแลการเข้าซื้อกิจการที่มีชื่อเสียง ซึ่งรวมถึง Gulfstream G650 มือสองคันแรกของโลก และ เครื่องบินเจ็ทโบอิ้งระดับธุรกิจของเอกชนรายแรกในประเทศไทย

เกี่ยวกับ Jet Support Services, Inc.

เป็นเวลากว่า 30 ปี ที่ Jet Support Services, Inc. (JSSI) เป็นผู้ให้บริการอิสระชั้นนำด้านการสนับสนุนการบำรุงรักษาและบริการทางการเงินแก่อุตสาหกรรมธุรกิจการบิน JSSI มีหน้าที่รับผิดชอบในการบำรุงรักษาเครื่องบินไอพ่นธุรกิจ เครื่องบินไอพ่นประจำภูมิภาค และเฮลิคอปเตอร์มากกว่า 2,000 ลำทั่วโลก และให้บริการลูกค้าผ่านโครงสร้างพื้นฐานของที่ปรึกษาด้านเทคนิคที่ผ่านการรับรอง JSSI ใช้ประโยชน์จากความรู้ทางเทคนิค ประสบการณ์ กำลังซื้อ และข้อมูล เพื่อสนับสนุนในทุกขั้นตอนของวงจรชีวิตเครื่องบิน ตั้งแต่การจัดหาเครื่องบินไปจนถึงการรื้อถอนและแยกชิ้นส่วนเครื่องบิน

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ jetsupport.com

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210926005017/en/

ข้อมูลติดต่อ

Chiara Lawrance / Ali Gibson / Jane Lindsay

8020 ฝ่ายติอต่อสื่อสาร

+44 (0) 1483 447380

JSSI@8020comms.com

Tom Morton

JSSI

+1 312.644.8779

tmorton@jetsupport.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

TEPCO Power Grid Inc.: ลงนามข้อตกลงในโครงการปรับปรุงการจัดการสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้าของ Electricite Du Laos

Logo

โตเกียว–(บิสิเนสไวร์)–24 ก.ย. 2564

เมื่อวันที่ 22 กันยายน TEPCO Power Grid, Inc. (ประธานและกรรมการผู้จัดการ: Yoshinori Kaneko) ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับสามบริษัท ได้แก่ Tokyo Electric Power Services Co., Ltd. (ประธาน: Yasuhiro Kubo) และ World Business Associates Co., Ltd. (ประธาน: Jun Sugiura) โดยลงนามในข้อตกลงกับ Japan International Cooperation Agency (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “JICA”) เกี่ยวกับโครงการปรับปรุงการจัดการสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้าของ Electricite du Laos

ในปี 2563 รัฐบาลลาวได้ตัดสินใจยุบแผนกส่งไฟฟ้าของ Electricite Du Laos (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “EDL”) และก่อตั้ง Electricite Du Laos Transmission Company, Ltd. (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “EDL-T” ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการระบบส่งไฟฟ้าทั้งภายในและภายนอกประเทศลาว  โดยร่วมกับการก่อตั้ง EDL-T การขายแผนกส่งไฟฟ้าแรงสูง และการสร้างกลยุทธ์ของบริษัทและแผนธุรกิจในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจใหม่นี้ได้กลายเป็นประเด็นเร่งด่วน เนื่องจากมีการเจรจาสัญญาขายไฟฟ้ากับประเทศเพื่อนบ้าน จัดการการส่งที่ฝากไว้ตามข้อตกลงการส่ง และเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจจัดจำหน่าย

นอกจากนี้ บริษัทยังต้องจัดการกับประเด็นต่างๆ เช่น การสร้างและดำเนินการตามแผนการจัดหาเงินทุน/การลงทุนเพื่อบริหารจัดการอุปทานภายในประเทศและการแลกเปลี่ยนพลังงานกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเหมาะสมที่สุดภายในโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าใหม่ การปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการ และการสร้างโครงสร้างเพื่อฝึกอบรม ทรัพยากรมนุษย์ที่จำเป็นในการทำงานเหล่านี้ให้สำเร็จ

แต่ละบริษัทในกิจการร่วมค้าจะใช้จุดแข็งของตน เช่น การให้คำปรึกษาและประสบการณ์ในอุตสาหกรรมไฟฟ้าทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่น ประสบการณ์ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และประสบการณ์การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการจัดการและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นต้น เพื่อช่วย EDL เสริมสร้างโครงสร้างการจัดการและความสามารถเพื่อให้สามารถจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่เผชิญได้ด้วยตนเอง

TEPCO Group จะยังคงร่วมมือในฐานะ “ที่ปรึกษานโยบายด้านพลังงานของลาว” ของ JICA (2020~) และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ JICA “เพื่อการปรับปรุงคุณภาพไฟฟ้าผ่านการอัพเกรดรหัสกริดและเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบบังคับใช้กฎหมาย” (2021~) ในขณะที่เรามีส่วนร่วม การพัฒนาภาคพลังงานของลาว

ข่าวประชาสัมพันธ์: https://www.tepco.co.jp/en/hd/newsroom/press/archives/2021/20210922_02.html

สรุปโครงการปรับปรุงการจัดการสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้าของ Electricite du Laos

1. ระยะเวลา/อาณาเขตที่บังคับใช้

  • กันยายน 2564 ~ มีนาคม 2567 (เบื้องต้น)
  • ลาว

2. ผู้ทำสัญญา

  • JICA

3. วัตถุประสงค์

  • เสริมสร้างความสามารถในการปฏิบัติงานและการจัดการของ EDL โดยสร้างกลยุทธ์องค์กรที่เหมาะสมและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน เสริมสร้างความสามารถในการจัดการทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนา และให้การสนับสนุนที่จำเป็นในการเสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน ความสามารถในการวางแผนจึงสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของภาคพลังงานของลาว

4. รายละเอียดโครงการ

  • ให้การสนับสนุนการสร้างแผนการปรับปรุงระบบบริหารคุณภาพ
  • สนับสนุนการสร้างกลยุทธ์องค์กรและแผนที่เกี่ยวข้อง
  • สนับสนุนการเสริมสร้างระบบการตรวจสอบภายใน กลไกการเปิดเผยข้อมูล และระบบการกำกับดูแล
  • สนับสนุนการทำแผนพัฒนาแผนก
  • สนับสนุน ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน
  • สนับสนุนการสร้างแผนการจัดการและพัฒนาทรัพยากรบุคคล
  • ฝึกอบรมผู้สอน
  • สนับสนุนสำหรับการสร้างแผนทางการเงินและอัตราค่าไฟฟ้า

อ่านเวอร์ชันที่มาบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210924005204/en/

ติดต่อสอบถามได้ที่:

Kazuki Hashi
Secretary and Risk Management Office (สำนักงานเลขานุการและบริหารความเสี่ยง), TEPCO Power Grid, Inc.
pgkouhou@tepco.co.jp / +81-3-6373-1111

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

นักวิจัย NTHU พัฒนาเครื่องตรวจละลายลิ่มเลือดด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง

Logo

ซินจู๋, ไต้หวัน–(บิสิเนส ไวร์)–24 ก.ย. 2564

เนื่องจากการฉีดวัคซีน COVID-19 ทำให้เกิดปัญหาลิ่มเลือดอุดตัน ดร. Chih-Kuang Yeh ศาสตราจารย์พิเศษประจำภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์และวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ได้นำทีมวิจัยเพื่อพัฒนาเครื่องตรวจละลายลิ่มเลือดด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงเครื่องแรกของโลก และยังสามารถรักษาลิ่มเลือดอุดตันอย่างรวดเร็ว และปลอดภัย โดยงานวิจัยชิ้นนี้ได้รับการตีพิมพ์ใน Proceedings of the National Academy of Sciences (PNAS) ในปี 2564 นอกจากนี้ สิทธิบัตรของสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปยังได้รับอนุมัติ โดยระหว่างนี้ก็ได้มีการยื่นคำขอเพิ่มเติมกับที่อื่น ๆ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210924005015/en/

(Photo: National Tsing Hua University)

(ภาพ: National Tsing Hua University)

อุปกรณ์นี้ได้รับการพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาการเกิดลิ่มเลือดอุดตันทั่วไป 2 อย่างที่เรียกว่า pulmonary embolism หรือ โรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด(PE) และ deep vein thrombosis หรือ ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึก (DVT) ซึ่งมีผู้ป่วยรายใหม่ทั่วโลก 10 ล้านรายต่อปี DVT เป็นสาเหตุหลักของ PE และ PE อาจทำให้หัวใจล้มเหลวและมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 65 ศาสตราจารย์ Yeh อธิบายว่าทางเลือกในการรักษาในปัจจุบันรวมไปถึงสายสวนสำหรับนำส่งยาและอุปกรณ์ตัดลิ่มเลือด แต่วิธีเหล่านี้ไม่ได้ผลเพียงพอหรืออาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดภาวะตกเลือดได้ นี่เป็นเหตุผลที่กระตุ้นให้เขาค้นคว้าเพื่อหาวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น

ทีมงานของ Yeh ซึ่งทำงานร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม ได้พัฒนาอุปกรณ์อัลตราโซนิกขนาด 0.2 มม. ซึ่งสามารถสร้างกระแสน้ำวนแบบอัลตราโซนิกคล้ายพายุทอร์นาโด และสร้างกระแสน้ำวนรอบก้อนเลือดที่รุนแรง จึงเป็นการเพิ่มการเจาะของยาละลายลิ่มเลือด และส่งผลให้มีการสลายลิ่มเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ทำให้ลิ่มเลือดลดขนาดลงเหลือเพียง 0.001 ซม.

“ผมเคยเห็นลิ่มเลือดที่ยาวกว่า 40 ซม. การใช้เพียงยาเพื่อละลาย ก็ช้าเกินไป” Yeh อธิบาย “มันเหมือนกับการซักเสื้อผ้า การแช่ผ้าในผงซักฟอกอย่างเดียวไม่พอ การกวนด้วยเครื่องซักผ้าเป็นขั้นตอนสำคัญในการทำความสะอาดเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว”

Yeh กล่าวว่าการศึกษาในสัตว์ทดลองได้แสดงผลการหดตัวของลิ่มเลือดอุดตันร้อยละ 60 ในสมองของหนูหลังจากใช้ กระแสน้ำวนอัลตราโซนิกเป็นเวลา 10 นาที ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการรักษาที่รวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้น คุณสมบัติป้อนกลับของอัลตราซาวนด์ยังสามารถใช้สำหรับการติดตามการรักษาแบบเรียลไทม์

Yeh เสริมว่าทีมของเขากำลังทำงานเกี่ยวกับการใช้กระแสน้ำวนอัลตราโซนิกสำหรับภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่ไม่ลุกลามซึ่งมีศักยภาพในการรักษาเส้นเลือดอุดตันในสมอง นอกจากนี้ เมื่อใช้รวมกับ microbubbles เพื่อควบคุมการปลดปล่อยยาก็ทำให้สามารถใช้รักษาความผิดปกติทางระบบประสาท เช่น โรคพาร์กินสันและโรคลมชักได้

เมื่อใคร่ครวญถึงวิธีที่เขาสนใจกระแสน้ำวนแบบอัลตราโซนิกเป็นครั้งแรก Yeh นึกย้อนถึงการเดินทางกับครอบครัวที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทางทะเลเมื่อสิบปีก่อน เขายืนอยู่ข้างนิทรรศการ waterspout ตอนที่เขาเกิดความคิดที่ว่าคลื่นอัลตราโซนิกสามารถทำสิ่งที่คล้ายกันและอาจเป็นประโยชน์สำหรับการใช้งานทางการแพทย์บางอย่างได้

ทีมของ Yeh มีชื่อว่า VorteSonic ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างกระแสน้ำวนและคลื่นเสียง สมาชิกในทีมหลัก ได้แก่ นักศึกษาปริญญาเอก  Wei-Chen Lo และ Zong-Han Hsieh ผู้รับผิดชอบเครื่องแปลงสัญญาณอัลตราโซนิกและระบบการขับเคลื่อน และ ดร.Chun-Yen Lai ที่จะนำทีมต่อหลังจากกลายมาเป็นสตาร์ทอัพจากมหาวิทยาลัย Dr. Lai มีประสบการณ์ทั้งในด้านวิชาการและอุตสาหกรรม และเคยไปเยี่ยมเพื่อนที่ทำงานเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์เชิงนวัตกรรมที่ Stanford University ในสหรัฐอเมริกาด้วย

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210924005015/en/

ติดต่อ:

Holly Hsueh

NTHU

(886)3-5162006

hoyu@mx.nthu.edu.tw

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

KUNIHIKO HIRABAYASHI ได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–24 กันยายน 2564

ศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น (AJC) มีความยินดีที่ได้ประกาศแต่งตั้งคุณ Kunihiko Hirabayashi เป็นเลขาธิการศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น ในกรุงโตเกียว ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210924005103/en/

Mr. Kunihiko Hirabayashi, the Secretary General of the AJC (Photo: Business Wire)

Kunihiko Hirabayashi เลขาธิการศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น (ภาพ: Business Wire)

คุณ Hibayashi เป็นอดีตหัวหน้าที่ปรึกษาระดับภูมิภาคด้านสุขภาพขององค์การยูนิเซฟ สำนักงานภาคพื้นเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก กรุงเทพฯ ประเทศไทย ซึ่งทำหน้าที่ให้คำปรึกษาด้านเทคนิคและเป็นตัวแทนสำนักงานภูมิภาคขององค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) มานานกว่า 18 ปี ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2546 ถึง สิงหาคม 2564 ก่อนหน้านั้น เขาทำงานให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคแก่โรงพยาบาลในประเทศกำลังพัฒนามาประมาณ 10 ปี ด้านการศึกษา เขาได้รับปริญญาเอก สาขาสรีรวิทยาและการแพทย์ จากมหาวิทยาลัย Tsukuba จังหวัดอิบารากิ ประเทศญี่ปุ่น

คุณ Hirabayashi อุทิศชีวิตการทำงานมากว่า 40 ปีเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของผู้คนและเด็ก ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและกลุ่มประเทศอาเซียน โดยรับฟังอย่างจริงใจในเสียงของผู้มีอำนาจตัดสินใจต่าง ๆ เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ครูผู้สอน ผู้นำธุรกิจและชุมชน ผู้ประกอบการเพื่อสังคม และผู้นำทางความคิดรุ่นเยาว์ ตลอดจนเสียงของผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียงซึ่งเปราะบางและถูกกีดกันมากที่สุด เช่น ผู้พลัดถิ่น ผู้ลี้ภัย และคนพิการ เขาได้ใช้เวลาลงพื้นที่ในประเทศเหล่านั้นอีกด้วย

คุณ Hirabayashi กล่าวว่า “ศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่นมีประวัติความเป็นเลิศมาเป็นเวลา 40 ปีในฐานะสะพานเชื่อมระหว่างประเทศประเทศสมาชิกอาเซียนกับญี่ปุ่นเพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนประชาชน ศูนย์แห่งนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญมากมายที่มีความมุ่งมั่นและความกระตือรือร้น ซึ่งกำลังทุ่มเทความพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อขยายและกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนกับญี่ปุ่นให้ลึกซึ้ง ผมจะทำหน้าที่สำคัญในการรื้อปรับระบบของศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่นแห่งนี้ และจะรับผิดชอบต่ออนาคตที่ยั่งยืน บูรณาการ สันติสุข และมั่นคงสำหรับผู้คนในประเทศสมาชิกอาเซียนและญี่ปุ่นผ่านการทำงานร่วมกันกับเพื่อนร่วมงานที่ไว้วางใจได้

ศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น (AJC)

ศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น (AJC) เป็นองค์การระหว่างรัฐบาลที่ก่อตั้งโดยประเทศสมาชิกอาเซียนและญี่ปุ่นในปี 2524 โดยทำหน้าที่ส่งเสริมการส่งออกจากประเทศสมาชิกอาเซียนไปยังญี่ปุ่น พร้อมฟื้นฟูการลงทุน การท่องเที่ยว ตลอดจนการแลกเปลี่ยนประชาชนระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนกับญี่ปุ่น
ลิงก์: https://www.asean.or.jp/en/

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210924005103/en/

ติดต่อ:

หน่วยประชาสัมพันธ์ศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น
Tomoko Miyauchi (MS)
ลิงก์: https://www.asean.or.jp/en/
โทร: +81-3-5402-8118
อีเมล: toiawase_ga@asean.or.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Illumination และ Nintendo ประกาศวันฉายภาพยนตร์และนักพากย์สำหรับภาพยนตร์แอนิเมชั่น Super Mario Bros.

Logo

ซานตา โมนิกา แคลิฟอร์เนีย และเกียวโต ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–24 ก.ย. 2564

Illumination (สำนักงานใหญ่: ซานตา โมนิกา แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ: Chris Meledandri) และ Nintendo Co., Ltd. (สำนักงานใหญ่: Kyoto, Minami-ku, Japan; กรรมการและประธานแทน: Shuntaro Furukawa, ซึ่งจะเรียกว่า “Nintendo” ต่อจากนี้) ประกาศในวันนี้ว่า ภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องใหม่ที่สร้างจากโลกจินตนาการของ Super Mario Bros. จะเข้าฉายทั่วโลกในช่วงเทศกาลวันหยุดปี 2565 โดย Universal Pictures จะนำภาพยนตร์เข้าฉายในอเมริกาเหนือในวันที่ 21 ธันวาคม 2565 โดยกำหนดฉายสำหรับประเทศและภูมิภาคเพิ่มเติมจะมีการประกาศในอนาคต ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการร่วมทุนสร้างระหว่าง Universal Pictures และ Nintendo

นอกจากนี้ ทั้งสองบริษัทยังได้ประกาศชื่อนักพากย์สำหรับตัวละคร ได้แก่ มาริโอ้ (Chris Pratt), เจ้าหญิงพีช (Anya Taylor-Joy), ลุยจิ(Charlie Day), บาวเซอร์ (Jack Black), โท้ด(Keegan-Michael Key), ดองกี้ คอง (Seth Rogen), แครงกี้ คอง (Fred Armisen), คาเม็ก (Kevin Michael Richardson) และสไปค์ (Sebastian Maniscalco) นักพากย์แต่ละคนได้รับการคัดเลือกมาจากความสามารถในการถ่ายทอดจิตวิญญาณที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละตัวละครของพวกเขา

ภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องใหม่นี้จะผลิตโดย Chris Meledandri แห่ง Illumination และ Shigeru Miyamoto แห่ง Nintendo กำกับโดย Aaron Horvath และ Michael Jelenic ซึ่งเคยร่วมงานกันในภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง Teen Titans Go! และภาพยนตร์เรื่อง Teen Titans Go! สู่ภาพยนตร์ บทภาพยนตร์จะเขียนโดย Matthew Fogel ซึ่งเขียนบท ให้กับ The LEGO Movie 2: The Second Part และภาพยนตร์ของ Illumination เรื่อง Minions: The Rise of Gru เป็นต้น

“มาริโอและลุยจิเป็นฮีโร่สองคนที่เป็นที่รักมากที่สุดในวัฒนธรรมสมัยนิยมทั้งหมด และเรารู้สึกเป็นเกียรติที่มีโอกาสพิเศษที่จะได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ ชิเงรุ มิยาโมโตะ และทีมงานที่มีจินตนาการอย่างกว้างขวางที่ Nintendo เพื่อทำให้ตัวละครเหล่านี้มีชีวิตในภาพยนตร์แอนิเมชั่น ซึ่งไม่เหมือนกับภาพยนตร์เรื่องใด ๆ ที่ Illumination เคยทำมาก่อนจนถึงปัจจุบัน” Chris Meledandri ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Illumination และผู้อำนวยการภายนอกของ Nintendo กล่าว

“เรากำลังร่วมมือกับคริสและทีมงานมากประสบการณ์ของเขา ไม่เพียงแต่สร้างภาพยนตร์ลิขสิทธิ์ตัวละครเท่านั้น แต่ยังสร้างความบันเทิงรูปแบบใหม่ที่ทำให้ Super Mario Bros. มีชีวิตบนหน้าจอ และให้ทุกคนสนุกได้ไม่ว่าพวกเขาจะรู้จักเกมนี้หรือไม่ก็ตาม  การผลิตจนถึงตอนนี้มีความสร้างสรรค์และดำเนินไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายต่างก็เรียนรู้จากกันและกันเป็นอย่างมาก เราขอให้แฟน ๆ รออีกหน่อยสำหรับการเปิดตัวรอบปฐมทัศน์ และเราหวังว่าพวกเขาจะตั้งตารอที่จะได้เห็นตัวละครที่ไม่เหมือนใครจาก Super Mario Bros. บนหน้าจอขนาดใหญ่” ชิเงรุ มิยาโมโตะ ผู้อำนวยการตัวแทน Fellow of Nintendo กล่าว

  • เสียงพากย์

มาริโอ้ – Chris Pratt

เจ้าหญิงพีช – Anya Taylor-Joy

ลุยจิ – Charlie Day

บาวเซอร์ – Jack Black

โท้ด – Keegan-Michael Key

ดองกี้ คอง – Seth Rogen

แครงกี้ คอง – Fred Armisen

คาเม็ก – Kevin Michael Richardson

สไปค์ – Sebastian Maniscalco

??? – Charles Martinet

  • เกี่ยวกับภาพยนตร์แอนิเมชั่น Super Mario Bros.

ภาพยนตร์แอนิเมชั่น Super Mario Bros. ซึ่งผลิตโดย Chris Meledandri แห่ง Illumination และ ชิเงรุ มิยาโมโตะ จาก Nintendo มีกำหนดเข้าฉายในช่วงเทศกาลวันหยุดปี 2565โดยจะฉายรอบปฐมทัศน์ในวันที่ 21 ธันวาคม 2565 ในอเมริกาเหนือ กำหนดการวางจำหน่ายสำหรับประเทศและภูมิภาคเพิ่มเติมจะมีการประกาศในอนาคต ภาพยนตร์เรื่องนี้จะร่วมทุนโดย Universal Pictures และ Nintendo ซึ่งจะถูกนำออกฉายทั่วโลกโดย Universal Pictures

  • เกี่ยวกับ Illumination

อิลลูมิเนชั่น ซึ่งก่อตั้งโดย Chris Meledandri  ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์® ในปี 2550 เป็นหนึ่งในผู้ผลิตภาพยนตร์แอนิเมชั่นชั้นนำของวงการบันเทิง แฟรนไชส์ของบริษัทประกอบด้วยภาพยนตร์แอนิเมชั่นสองเรื่องจากสี่เรื่องยอดนิยมตลอดกาล และแบรนด์อันเป็นที่รักของบริษัทผสมผสานกับตัวละครที่น่าจดจำและโดดเด่น การดึงดูดใจทั่วโลก และความเกี่ยวข้องทางวัฒนธรรมได้ทำให้ได้รายได้ไปแล้วกว่า 6.25 พันล้านดอลลาร์ทั่วโลก อิลลูมิเนชั่นได้รับเกียรติจาก Fast Company ให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในโลก

  • เกี่ยวกับ Nintendo

Nintendo Co., Ltd. ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ได้สร้างแฟรนไชส์ที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก ได้แก่ Mario™, Donkey Kong™, The Legend of Zelda™, Metroid™, Pokémon™, Animal Crossing™, Pikmin™ และ Splatoon™ ผ่านผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์แบบบูรณาการ Nintendo ตั้งเป้าที่จะมอบประสบการณ์ความบันเทิงที่ไม่เหมือนใครและใช้งานง่ายสำหรับทุกคน การผลิตและการตลาดอุปกรณ์วิดีโอเกม เช่น ระบบตระกูล Nintendo Switch™ การพัฒนาและใช้งานแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์อัจฉริยะ และการร่วมมือกับพันธมิตรในโครงการความบันเทิงอื่นๆ เช่น เนื้อหาภาพ และสวนสนุก Nintendo มียอดขายวิดีโอเกมมากกว่า 5.1 พันล้านเกมและมากกว่า 800 ล้านหน่วยฮาร์ดแวร์ทั่วโลก จากการเปิดตัว Nintendo Entertainment System™ เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว จนถึงปัจจุบันและในอนาคต ภารกิจต่อเนื่องของ Nintendo คือการสร้างความบันเทิงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สร้างรอยยิ้มให้กับผู้คนทั่วโลก

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210923006003/en/

ติดต่อสำหรับ Illumination

Sarah Levinson Rothman

sarah.rothman@ledecompany.com

917-623-6060

ติดต่อสำหรับ Nintendo

Eddie Garcia

egarcia@golin.com

213-335-5536

หรือ

Cindy Gordon

cindgo02@noa.nintendo.com

650-226-4040

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รัฐบาลเกาหลีสนับสนุน SMEs ด้าน ICT อย่างแข็งขันสำหรับการเข้าสู่ตลาดต่างประเทศเพื่อเอาชนะสถานการณ์ COVID-19

Logo

– งานส่งออกบนแพลตฟอร์มธุรกิจ ICT ออนไลน์ระดับโลกถูกจัดขึ้น เพื่อพัฒนาเส้นทางการตลาด

โซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–23 ก.ย. 2564

กระทรวงวิทยาศาสตร์และไอซีทีของเกาหลี (MSIT, รัฐมนตรี: Hyesook Lim) และสมาคมส่งเสริม ICT แห่งเกาหลี (KAIT, ประธาน: Jung Ho Park) ได้จัดงาน World Online ICT Show (WOW) 2021 Business Meeting เพื่อสนับสนุนการเข้าสู่ตลาดต่างประเทศของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของเกาหลี (SMEs) ในอุตสาหกรรม ICT ที่ประสบปัญหาในการพัฒนาเส้นทางการตลาดเนื่องจากการยืดเยื้อของ COVID-19

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210923005372/en/

The Ministry of Science and ICT of Korea and the Korea Association for ICT Promotion held the World Online ICT Show (WOW) 2021 Business Meeting to support overseas market entry of Korean small and medium enterprises in the ICT industry experiencing difficulties in marketing route development due to the prolongation of COVID-19. The meeting was held online and offline concurrently using the WOW platform and at the venue in COEX. Over 80 Korean ICT SMEs and 62 buyers from 29 countries attended the business meeting held on September 15 and 16. Through the meeting, not only was export consulting to a scale of USD 57 million carried out, but also some companies concluded MOUs. Targeting businesses that are highly likely to win orders, the second export fair is planned. (Photo: Business Wire)

กระทรวงวิทยาศาสตร์และไอซีทีของเกาหลีและสมาคมส่งเสริมไอซีทีของเกาหลีได้จัดงาน World Online ICT Show (WOW) 2021 Business Meeting เพื่อสนับสนุนการเข้าสู่ตลาดต่างประเทศของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของเกาหลีในอุตสาหกรรมไอซีทีที่ประสบปัญหาในการพัฒนาเส้นทางการตลาดเนื่องจาก การยืดเยื้อของ COVID-19 ทั้งนี้ การประชุมจัดขึ้นทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์โดยใช้แพลตฟอร์ม WOW และที่สถานที่จัดงานใน COEX โดย SME ด้าน ICT ของเกาหลีกว่า 80 รายและผู้ซื้อ 62 รายจาก 29 ประเทศเข้าร่วมการประชุมทางธุรกิจที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 และ 16 กันยายน ผ่านการประชุมนี้ ไม่เพียงแต่จะมีการให้คำปรึกษาด้านการส่งออกในระดับ 57 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบริษัทบางแห่งที่ลงนามบันทึกความเข้าใจด้วย  อนึ่ง กำลังมีการวางแผนงานส่งออกครั้งที่สอง โดยมีเป้าหมายไปที่ธุรกิจที่มีแนวโน้มสูงที่จะทำให้เกิดคำสั่งซื้อ  (ภาพ: Business Wire)

SME ด้าน ICT ของเกาหลีกว่า 80 รายและผู้ซื้อ 62 รายจาก 29 ประเทศ รวมทั้งสหรัฐอเมริกา บราซิล เบลเยียม จีน และเวียดนาม ได้เข้าร่วมการประชุมทางธุรกิจที่จัดขึ้นในวันที่ 15 และ 16 กันยายนโดยใช้แพลตฟอร์ม WOW โดยแพลตฟอร์มนี้เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อช่วยให้ธุรกิจ ICT ในประเทศเข้าสู่ตลาดต่างประเทศและขยายการส่งออกในช่วงเวลาที่ยากลำบากหลังจากการระบาดของ COVID-19

การประชุมจัดขึ้นทางออนไลน์และออฟไลน์พร้อมกันที่สถานที่จัดงานใน COEX สำหรับบริษัทที่ไม่สามารถเข้าร่วมงานได้ ก็จัดให้มีบริการให้คำปรึกษาออนไลน์ในรูปแบบของการประชุมทางวิดีโอแบบสามทางกับผู้ซื้อและล่าม

เพื่อให้ประสบความสำเร็จในสัญญาการส่งออกของบริษัทที่เข้าร่วม ได้มีการสำรวจความต้องการล่วงหน้าสำหรับการจับคู่ธุรกิจกับผู้ซื้อ นอกจากนี้ เพื่อเอาชนะข้อจำกัดของรูปแบบไร้สัมผัสของงานนี้ สมุดรายชื่อเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่เข้าร่วมจึงถูกผลิตและแจกจ่ายให้กับผู้ซื้อเพื่อให้ข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับบริษัท นอกจากนี้ SMEs ที่เข้าร่วมยังได้รับโอกาสในการได้รับบริการด้านการค้าและที่ปรึกษาด้าน IR อย่างมืออาชีพ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาในปัจจุบัน

ในงานดังกล่าว ไม่เพียงแต่จะมีการให้คำปรึกษาบริษัทด้านการส่งออกในระดับ 57 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบริษัทบางแห่งที่ลงนามบันทึกความเข้าใจด้วย ตัวอย่างเช่น More Dream Inc. ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจมูลค่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ กับ MAIZA Tech ของมาเลเซียเพื่อส่งออกเทคโนโลยีแป้นพิมพ์หลายภาษาสำหรับสมาร์ทโฟน ส่วนบริษัทอื่น ๆ ซึ่งรวมถึง Hurien และ HelloFactory ยังอยู่ในกระบวนการอภิปรายเชิงบวกเพื่อลงนามในบันทึกความเข้าใจกับผู้ซื้อในต่างประเทศ

เจ้าหน้าที่ของ KAIT กล่าวว่า “เราจะยังคงมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ บรรลุผลลัพธ์ที่สำคัญผ่านการติดตามและติดตามผลการจัดการอย่างเป็นระบบ เช่น การจัดงานแสดงสินค้าส่งออกครั้งที่สองในช่วงเดือนพฤศจิกายน โดยกำหนดเป้าหมายธุรกิจที่มีแนวโน้มสูงที่จะทำให้ได้รับคำสั่งซื้อ”

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210923005372/en/

ติดต่อ:

สมาคมส่งเสริมไอซีทีเกาหลี

Jungeun Park

+82-2-580-0545

ECOMICE

Hyuni Lee

+82-2-6000-4277

hilee@ecomice.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Women’s Entrepreneurship Accelerator ฉลองครบรอบปีที่สองโดยประกาศความคิดริเริ่มที่มีผลกระทบเพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงสำหรับผู้ประกอบการสตรี

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–23 กันยายน 2564

Women's Entrepreneurship Accelerator (WEA) เป็นโครงการริเริ่มเชิงกลยุทธ์แบบหุ้นส่วนความร่วมมือจากภาคส่วนที่หลากหลายที่จัดตั้งขึ้นโดยหน่วยงานของสหประชาชาติ 5 แห่งและ Mary Kay Inc. ในวันนี้ได้ฉลองครบรอบปีที่สองด้วยการประกาศความคืบหน้าในหลายโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อส่งผลกระทบต่อผู้หญิง 5 ล้านคนทั่วโลกภายในปี 2573 โปรแกรมและผลิตภัณฑ์องค์ความรู้ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ WEA ในการเพิ่มผลกระทบด้านการพัฒนาอย่างสูงสุดของผู้ประกอบการสตรีในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ที่จะเปิดตัวในไตรมาสที่สี่ของปีนี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210923005313/en/

Women’s Entrepreneurship Accelerator logo (Graphic: WEA)

โลโก้ Women’s Entrepreneurship Accelerator (กราฟิก: WEA)

“เมื่อสองปีที่แล้ว Accelerator มุ่งมั่นที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสตรีสามารถเริ่มต้นและขยายธุรกิจของตนเพื่อเร่งความก้าวหน้าสู่ความเท่าเทียมของผู้หญิง” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “วันนี้เราตื่นเต้นที่จะรายงานความคืบหน้าตามคำมั่นสัญญานั้นและแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่ไม่เหมือนใครทั้ง 5 หน่วยงานของสหประชาชาติและภาคเอกชนสามารถมีได้เมื่อทำงานร่วมกัน โปรแกรมเหล่านี้แสดงถึงขั้นตอนที่เป็นรูปธรรมสู่การเปลี่ยนแปลงระบบซึ่งจำเป็นต่อการส่งเสริมสภาพแวดล้อมของการเติบโต ความยั่งยืน และความยืดหยุ่นสำหรับผู้ประกอบการสตรี”

โปรแกรมเชิงกลยุทธ์ซึ่งทั้งหมดกำหนดขึ้นโดยมุ่งเน้นเฉพาะเรื่องเพศที่มีลักษณะเฉพาะ เป็นผลลัพธ์ร่วมกันของความร่วมมือระหว่างองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (ITC) ข้อตกลงแห่งสหประชาชาติ (UNGC) โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) และองค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) ด้วยการสนับสนุนเชิงกลยุทธ์และการระดมทุนของ Mary Kay

  • เครื่องมือและการฝึกอบรมสร้างขีดความสามารถดิจิทัล

ในความร่วมมือกับ ITC SheTrades โครงการ Accelerator จะนำเสนอหลักสูตรที่มีคำแนะนำเสริมด้วยการฝึกอบรมภาคสนามสำหรับผู้หญิงจากประเทศกำลังพัฒนาที่สนใจในการเป็นผู้ประกอบการและ/หรือวางแผนที่จะรวมเข้ากับห่วงโซ่คุณค่าระดับภูมิภาคและระดับโลก เซสชั่นการฝึกอบรมในประเทศปี 2564 จะเกิดขึ้นจริงในบราซิล โคลอมเบีย อินเดีย และเม็กซิโก

หลักสูตรออนไลน์เกี่ยวกับการเป็นผู้ประกอบการมีจุดมุ่งหมายเพื่อสอนผู้ประกอบการสตรีให้มีทักษะในการออกแบบและจัดตั้งธุรกิจที่มีศักยภาพในเชิงเศรษฐกิจ ด้วยโมดูลอินเทอร์แอคทีฟ 27 โมดูลที่ครอบคลุมเจ็ดขั้นตอนสำคัญของการพัฒนาธุรกิจและอัดแน่นไปด้วยวิดีโอมากกว่า 200 รายการ ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้วิธีนำวัฒนธรรมการเป็นผู้ประกอบการ พัฒนาแนวคิดผ่านการคิดเชิงออกแบบและวิธีการเริ่มต้นแบบของลีนสตาร์ทอัพ เตรียมเครื่องมือที่ช่วยออกแบบโมเดลธุรกิจผ่านปัจจัยทั้ง 9 ด้าน ออกแบบสำนวนการขาย ระบุแหล่งเงินทุน ค้นหาพันธมิตรที่เหมาะสม ให้คำปรึกษา สร้างทีม และจัดตั้งธุรกิจของพวกเขา

หลักสูตรนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ใช้ทุกคนโดยไม่มีขีดจำกัดในการเข้าร่วม และผู้เข้าร่วมจะได้รับใบรับรองเมื่อจบหลักสูตร

หลักสูตร Women's Entrepreneurship Accelerator ITC SheTrades จะค่อย ๆ เผยแพร่ระหว่างเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2564 ในภาษาอังกฤษ สเปน และฝรั่งเศส และจะมีภาษาอาหรับ รัสเซีย และจีนกลางในปี 2565 โดยจะสามารถเข้าถึงได้บนเว็บไซต์ Accelerator และโดยตรงบนพื้นที่การเรียนรู้เสมือนจริงของ ITC SheTrades และแอพมือถือที่จะเริ่มตุลาคม 2564

  • การวิจัยผู้ประกอบการ

ตามวัตถุประสงค์ของ WEA สำหรับปี 2563-2564 ILO มุ่งเน้นที่การเสริมสร้างความเข้มแข็งในการสนับสนุนการพัฒนาผู้ประกอบการสตรีในเม็กซิโกและบราซิล ในเม็กซิโก WEA และ ILO จะเปิดเผยผลการวิจัยจากการประเมินกรอบการทำงานที่ส่งผลต่อการพัฒนาผู้ประกอบการสตรี

การศึกษานี้เป็นภาคส่วนเฉพาะสำหรับการค้าและอุตสาหกรรมในเมืองเม็กซิโกซิตี้ และได้รับผลกระทบของโควิด-19 การประเมินประกอบด้วยชุดคำแนะนำที่สามารถนำไปปฏิบัติได้สำหรับสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยที่มากขึ้น ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรระดับชาติ รวมถึงสมาคมนายจ้าง หอการค้า และสมาคมผู้ประกอบการสตรีเพื่อให้มั่นใจในความเป็นเจ้าของและความยั่งยืนของชาติ

ในบราซิลผ่านทาง WEA โดย ILO กำลังร่วมมือกับ SENAI ผู้นำระดับชาติด้านการฝึกอบรมทางเทคนิคและอาชีวศึกษา เพื่อสนับสนุนการพัฒนาผู้ประกอบการสตรีและส่งเสริมการเจรจาบนพื้นฐานในผลการประเมินของ WED ที่ดำเนินการในกรอบการทำงานของโครงการ Win-Win ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสหภาพยุโรป โปรแกรมการประชุมระดับชาติและระดับภูมิภาค สัมมนา การฝึกอบรม และแคมเปญการสื่อสารได้ถูกรวบรวมไว้เพื่อสร้างและรวมแรงผลักดันเพื่อสนับสนุนการพัฒนาผู้ประกอบการสตรี

  • การสนับสนุนและฝึกอบรมการจัดซื้อจัดจ้างที่ตอบสนองต่อเพศสภาพ (GRP)

การจัดซื้อจัดจ้างโดยคำนึงถึงเพศสภาพ (GRP) อาจส่งผลกระทบในการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ และมีส่วนสนับสนุนการเสริมอำนาจทางเศรษฐกิจของสตรี ในทั่วโลกหนึ่งในสามของธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่เป็นเจ้าของโดยผู้หญิง1 แต่ผู้หญิงก็ยังชนะเพียง 1% ของค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทขนาดใหญ่และรัฐบาล2

Women's Entrepreneurship Accelerator เข้าร่วมในการประชุมยุคสมัยแห่งความเท่าเทียม หรือ Generation Equality Forum ในปารีส (30 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม) ผ่านโปรแกรม “Drivers of Change” ซึ่งจัดเป็นเสวนาในหัวข้อ “Building a Transformative Strategy for Gender-Responsive Procurement” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักรอบด้าน อุปสรรคที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงถึงกันของการเป็นผู้ประกอบการสตรีและเพื่อส่งเสริม GRP

ผลงานหลักของ UN Women ต่อสายงาน GRP ของโครงการ Accelerator ในปี 2564 ได้แก่ การจัดตั้ง Business Case for GRP ผ่านการเปิดตัวชุมชนแห่งการปฏิบัติ (CoP) ในเดือนกรกฎาคม โดยร่วมมือกับ UN Global Compact เพื่อดึงดูดผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากภาคเอกชน

UN Women ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก UN Global Compact กำลังดำเนินการสำรวจทั่วโลกเกี่ยวกับ GRP ในทุกภาคส่วน UN Women กำลังสัมภาษณ์บริษัทและองค์กรต่าง ๆ มากกว่า 50 แห่ง ซึ่งเมื่อรวมกับการตอบแบบสำรวจแล้ว จะส่งผลให้เกิดกรณีศึกษาและเครื่องมือสนับสนุนตามหลักฐานเพื่อเน้นกรณีธุรกิจของ GRP เครื่องมือสนับสนุนจะเผยแพร่ภายในเดือนธันวาคม 2564 และจะสนับสนุน WEA เพื่อสนับสนุนโปรแกรมริเริ่มที่สำคัญที่สุดของ UN Women “กระตุ้นโอกาสที่เท่าเทียมกันสำหรับผู้ประกอบการสตรี”

ในเดือนธันวาคม UN Women Europe และ Central Asia (ECA) จะเปิดตัวโปรแกรมนำร่องขั้นต้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของทั้งผู้ประกอบการสตรีและภาคเอกชนโดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการสตรี: (1) การสร้างขีดความสามารถในการจัดซื้อจัดจ้างของผู้ประกอบการสตรีเพื่อโอกาสในการแข่งขันการประมูลกับภาครัฐและภาคเอกชน (2) เสริมสร้างขีดความสามารถของหน่วยงานภาคเอกชนจากทุกภาคส่วนในการกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติ และการออกแบบความคิดริเริ่มในการจัดซื้อจัดจ้างและการลงทุนที่ตอบสนองต่อเพศสภาพ

การประกาศของโครงการ Accelerator เกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญของโปรแกรมเหล่านี้เป็นเพียงขั้นตอนล่าสุดที่ดำเนินการโดยหุ้นส่วนความร่วมมือจากภาคส่วนที่หลากหลายเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการประกอบการในฐานะแรงผลักดันที่สำคัญในการพัฒนาความเสมอภาคของผู้หญิงในปี 2564 และปีต่อ ๆ ไป

ที่การประชุม Generation Equality Forum ในกรุงปารีส โครงการ Accelerator ได้ประกาศความมุ่งมั่นในการเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิง 5 ล้านคนภายในสิ้นปี 2573 และสร้างระบบนิเวศสำหรับการเสริมอำนาจทางเศรษฐกิจของผู้หญิงที่ส่งเสริมการเติบโต ความยั่งยืน และความยืดหยุ่นสำหรับผู้ประกอบการสตรี

ในวันที่ 28 กันยายน โครงการ Accelerator จะจัดงานเสมือนจริงในหัวข้อ “Joining Forces to Drive Change” ซึ่งจะเรียกผู้บริหารระดับสูงของ ILO, ITC, UNDP, UNGC และ UN Women โดยมีคำปราศรัยเบื้องต้นจาก Mary Kay ซึ่งจัดขึ้นในช่วง UNGA 76 เพื่อฉลองครบรอบ 2 ปีของ WEA งานระดับสูงจะเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายในระบบนิเวศของผู้ประกอบการสตรีได้ฟังจากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในหัวข้อต่อไปนี้: ความเสมอภาคทางเพศและการเสริมอำนาจของผู้หญิง การสนับสนุนทางเศรษฐกิจและสังคมของผู้ประกอบการผู้หญิง นโยบายและแนวปฏิบัติที่เกิดขึ้นใหม่ซึ่งสามารถนำไปใช้และทำซ้ำได้ทั่วโลกเพื่อสนับสนุนความเป็นผู้นำของผู้หญิงในธุรกิจ ลงทะเบียนและสอบถามข้อมูลอื่น ๆ คลิกที่นี่

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ Women's Entrepreneurship Accelerator และผลงานที่ทำตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมื่อสองปีที่แล้ว กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ we-accelerate.com

เกี่ยวกับ Women’s Entrepreneurship Accelerator

Women's Entrepreneurship Accelerator (WEA) เป็นโครงการริเริ่มแบบหุ้นส่วนความร่วมมือจากภาคส่วนที่หลากหลายเกี่ยวกับผู้ประกอบการสตรีที่จัดตั้งขึ้นระหว่าง UNGA 74 โดยหน่วยงานของสหประชาชาติห้าแห่ง ได้แก่ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (ITC) ข้อตกลงแห่งสหประชาชาติ (UNGC) โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP), องค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) และ Mary Kay Inc. จะเพิ่มพลังให้ผู้ประกอบการสตรี 5 ล้านคนภายในปี 2573

เป้าหมายสูงสุดของโครงการนี้คือการเพิ่มผลกระทบด้านการพัฒนาของผู้ประกอบการสตรีให้มากที่สุดในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยการสร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้ประกอบการสตรีทั่วโลก โครงการ Accelerator เป็นตัวอย่างของพลังในการเปลี่ยนแปลงของการเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือจากภาคส่วนที่หลากหลายที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร เพื่อควบคุมศักยภาพของผู้ประกอบการสตรี

เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ we-accelerate. ติดตามเราได้ที่: Twitter (We_Accelerator), Instagram (@we_accelerator), Facebook (@womensentrepreneurshipaccelerator), LinkedIn (@womensentrepreneurshipaccelerator)

เกี่ยวกับ International Labour Organization

The International Labour Organization หรือ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) เป็นหน่วยงานเฉพาะทางของสหประชาชาติที่จัดตั้งขึ้นในปี 2462 หลังจากเกิดสงครามทำลายล้าง เพื่อดำเนินตามวิสัยทัศน์ตามสมมติฐานที่ว่าสันติภาพที่เป็นสากลและยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่ออยู่บนพื้นฐานของความยุติธรรมทางสังคม เป้าหมายหลักของ ILO คือการส่งเสริมสิทธิในการทำงาน ส่งเสริมโอกาสการจ้างงานที่เหมาะสม ส่งเสริมการคุ้มครองทางสังคม และเสริมสร้างการเจรจาในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับงาน โครงสร้างไตรภาคีที่เป็นเอกลักษณ์ของ ILO นั้นให้เสียงที่เท่าเทียมกันแก่คนงาน นายจ้าง และรัฐบาล เพื่อให้แน่ใจว่าความคิดเห็นของหุ้นส่วนทางสังคมจะสะท้อนให้เห็นอย่างใกล้ชิดในมาตรฐานแรงงานและในการกำหนดนโยบายและแผนงาน

โครงการพัฒนาผู้ประกอบการสตรีของ ILO (ILO-WED) เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และดำเนินการมาเกือบสองทศวรรษแล้ว ILO-WED ทำงานเพื่อเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับผู้หญิงโดยดำเนินการยืนยันเพื่อสนับสนุนสตรีที่เพิ่งเริ่มต้น กำหนดรูปแบบและขยายวิสาหกิจของตนเอง และโดยการนำประเด็นความเท่าเทียมทางเพศมาผสมผสานเข้ากับงานของ ILO ในการพัฒนาองค์กร เว็บไซต์: www.ilo.org | Twitter – @ILOWED | Facebook – ILO WED (@International Labour Organization)

เกี่ยวกับ International Trade Centre

ศูนย์การค้าระหว่างประเทศ หรือ International Trade Centre (ITC) เป็นหน่วยงานร่วมของ World Trade Organization and the United Nations หรือ องค์การการค้าโลกและสหประชาชาติ ITC ช่วยวิสาหกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดย่อมในระบบเศรษฐกิจกำลังพัฒนาและช่วงเปลี่ยนผ่านให้มีความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกมากขึ้น เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนภายในกรอบของวาระ Aid-for-Trade และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ

โครงการ SheTrades Initiative ของ ITC ตั้งเป้าที่จะเชื่อมโยงผู้ประกอบการสตรีและธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของสามล้านคนเข้ากับตลาดต่างประเทศภายในปี 2564 SheTrades ทำงานร่วมกับรัฐบาล บริษัท และองค์กรสนับสนุนธุรกิจเพื่อทำการวิจัย กำหนดนโยบายและข้อบังคับด้านการค้า อำนวยความสะดวกด้านการเงิน และขยายการเข้าถึงสู่ประกวดราคาสาธารณะ และห่วงโซ่อุปทานขององค์กร ช่วยให้ผู้ประกอบการสตรีมีสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่หลากหลายและหลักสูตรที่ยืดหยุ่นบนแพลตฟอร์ม www.shetrades.com สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ www.intracen.org และติดตาม ITC บน Twitter | Facebook | LinkedIn | Instagram | Flickr

เกี่ยวกับ United Nations Global Compact

ตามความคิดริเริ่มพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติ ข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ หรือ United Nations Global Compact คือการเรียกร้องให้บริษัทต่าง ๆ ทุกแห่งจัดการดำเนินงานและกลยุทธ์ของตนให้สอดคล้องกับหลักการสากล 10 ประการในด้านสิทธิมนุษยชน แรงงาน สิ่งแวดล้อม และการต่อต้านการทุจริต เปิดตัวในปี 2543 หน้าที่ของ UN Global Compact คือการชี้นำและสนับสนุนชุมชนธุรกิจทั่วโลกในการทำให้เป้าหมายและค่านิยมของ UN ก้าวหน้าผ่านแนวปฏิบัติขององค์กรที่รับผิดชอบ ด้วยบริษัทมากกว่า 10,000 แห่งและผู้ลงนามที่ไม่ใช่ธุรกิจ 3,000 รายในกว่า 160 ประเทศและเครือข่ายท้องถิ่นมากกว่า 60 แห่ง เป็นโครงการริเริ่มเพื่อความยั่งยืนขององค์กรที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ @globalcompact บนโซเชียลมีเดียและเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราได้ที่ unglobalcompact.org

เกี่ยวกับ UN Women

องค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ หรือ UN Women เป็นองค์กรของ UN ที่อุทิศตนเพื่อความเท่าเทียมทางเพศและการเสริมอำนาจของผู้หญิง UN Women เป็นแชมป์ระดับโลกสำหรับผู้หญิงและเด็กผู้หญิง ก่อตั้งขึ้นเพื่อเร่งความก้าวหน้าในการตอบสนองความต้องการทั่วโลก

UN Women สนับสนุนประเทศสมาชิก UN ในขณะที่พวกเขากำหนดมาตรฐานระดับโลกสำหรับการบรรลุความเท่าเทียมทางเพศ และทำงานร่วมกับรัฐบาลและภาคประชาสังคมในการออกแบบกฎหมาย นโยบาย โปรแกรม และบริการที่จำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่ามีการบังคับใช้มาตรฐานอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อผู้หญิงและเด็กหญิงทั่วโลกอย่างแท้จริง การทำงานทั่วโลกเพื่อทำให้วิสัยทัศน์ของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นจริงสำหรับผู้หญิงและเด็กผู้หญิง และยืนอยู่เบื้องหลังการมีส่วนร่วมที่เท่าเทียมกันของผู้หญิงในทุกด้านของชีวิต โดยเน้นที่ลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์สี่ประการ: ผู้หญิงเป็นผู้นำ การมีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียมกันจากระบบการบริหารการปกครอง ผู้หญิงมีรายได้ที่มั่นคง มีการทำงานที่ดีและมีอิสระทางเศรษฐกิจ ผู้หญิงและเด็กผู้หญิงทุกคนมีชีวิตที่ปราศจากความรุนแรงทุกรูปแบบ ผู้หญิงและเด็กผู้หญิงมีส่วนร่วมและมีอิทธิพลมากขึ้นในการสร้างสันติภาพและการยืนหยัดที่ยั่งยืน และได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียมกันจากการป้องกันภัยธรรมชาติและความขัดแย้งและการดำเนินการด้านมนุษยธรรม UN Women ยังประสานงานและส่งเสริมการทำงานของระบบ UN ในการพัฒนาความเท่าเทียมทางเพศ

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นมากกว่า 58 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอมมากมาย และยังทุ่มเทกับการช่วยให้ผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขามีพลังด้วยการร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญและสนับสนุนกับการวิจัยด้านมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายและพาเธอสู่ความสำเร็จไปทีละขั้น เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com

1 World Bank (2020). Enterprise Surveys, World Bank Gender Data Portal cited by World Bank Blogs (2020) Women entrepreneurs needed – stat!
2 Vazquez and Sherman (2014). Cited by UN Women (2017) The Power of Procurement: How to source from women-owned businesses.

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210923005313/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or  media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย