All posts by Jasmine

CR Asia Group ประกาศการรีแบรนด์และเปลี่ยนชื่อเป็น CR3

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–26 พ.ค. 2565

CR Asia Group ประกาศเปลี่ยนชื่อแบรนด์เป็น CR3 พร้อมกับเปลี่ยนโลโก้ขององค์กรใหม่ ซึ่งสะท้อนถึงการเน้นยำด้านยุทธศาสตร์ของเราในด้านความยั่งยืนและพลังงานสะอาด โดย CR3 จะยังคงมุ่งมั่นเพื่อความเป็นเลิศในการแก้ปัญหาด้านวิศวกรรมพลังงานต่อไป พร้อม ๆ ไปกับการแสวงหาโอกาสในอนาคตในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

แบรนด์และโลโก้ CR3 จะถูกนำมาแทนที่ชื่อ CR Asia ที่เคยใช้สำหรับองค์กร การดำเนินงาน และโลโก้ของเราในอดีต  CR3 เป็นธุรกิจโซลูชั่นวิศวกรรมพลังงานชั้นนำที่ดำเนินงานทั่วเอเชีย ด้วยประวัติที่ยาวนาน 30 ปี และให้บริการลูกค้าใน 18 ประเทศทั่วเอเชีย ณ ที่ตั้งหลักถาวรในสิงคโปร์  ไทย อินเดีย และมาเลเซีย แบรนด์ใหม่ CR3 ของเรา  มุ่งมั่นที่จะขยายฐานที่ตั้งเพิ่มเติมนอกเหนือจากตลาดดั้งเดิมของเราในเอเชียเพื่อให้บริการลูกค้าของเราได้ดียิ่งขึ้น

แบรนด์ CR3 ใหม่ของเรา เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญ เนื่องจากลูกค้าของเราที่ทำงานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้ดำเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการใช้พลังงานและการลดการใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างต่อเนื่อง โลโก้ใหม่เชื่อมโยงประสบการณ์ในอดีตของ CR3 กับโอกาสในอนาคต หมายเลข “3” ของ CR3 หมายถึงการตั้งชื่อใหม่ครั้งที่ 3 จากชื่อเดิมของ Contract Resources และ CR Asia พร้อมไปกับการเน้นย้ำการดำเนินงาน 3 ทศวรรษของเราในทักษะหลัก 3 ประการของเราในด้านประสิทธิภาพพลังงาน ความเป็นเลิศทางวิศวกรรม และโซลูชันที่ยั่งยืน โลโก้สีเขียวสดใสของ CR3 เน้นย้ำถึงความสำคัญของความยั่งยืนต่อตลาดของเรา การผสมผสานระหว่างการออกแบบตัวอักษรที่ดูเป็นระบบกลไกและที่ถูกขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เป็นการนำเสนอความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาและขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในภาคพลังงานนอกเอเชีย รวมถึงการมุ่งเน้นที่การเพิ่มโซลูชันทางวิศวกรรมที่เป็นนวัตกรรมและที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

“การเปลี่ยนชื่อองค์กรถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับเรา เนื่องจากเป็นการเสนอข้อความที่มุ่งเน้นการจัดหาโซลูชั่นประหยัดพลังงานเพื่อตอบสนองความท้าทายด้านคาร์บอนในปัจจุบันมากขึ้น แบรนด์ใหม่ของเราทำให้ภาพลักษณ์ทางการตลาดของเราชัดเจนขึ้นว่าเราเป็นใคร และอะไรที่ทำให้ CR3 ไม่เหมือนใคร เราเชื่อว่าสัญลักษณ์ที่โดดเด่นนี้จะชี้นำและเร่งการเติบโตและวิวัฒนาการทางธุรกิจของเรา” Mark Stansfield ซีอีโอของ CR3 กล่าว “สัญลักษณใหม่ถูกออกแบบมาเพื่อการเริ่มบทใหม่สำหรับ CR3 Group และเพื่อสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนในตลาดของ CR3 สำหรับลูกค้าของเรา”

สัญลักษณ์ CR3 จะปรากฏในสินทรัพย์ทางธุรกิจ ชื่อบริษัท และการสื่อสารทั้งหมด และจะถูกนำมาใช้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า การสร้างแบรนด์และการส่งข้อความของ CR3 จะตอกย้ำตำแหน่งของตนในฐานะผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชันวิศวกรรมพลังงานที่ต้องการเปลี่ยนมาใช้คาร์บอนในระดับที่ต่ำสำหรับลูกค้าใหม่และลูกค้าเดิม

David Young ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจของและผู้ขับเคลื่อนหลักในกลยุทธ์การรีแบรนด์ของ CR3 กล่าวว่า “สัญลักษณ์ใหม่ของ CR3 จะทำให้ CR3 โดดเด่นในด้านพลังงานสำหรับคู่ค้าและลูกค้าของเรา เว็บไซต์ใหม่ โลโก้ใหม่ การสร้างแบรนด์ เครื่องมือ และทรัพยากรเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อ CR3 ในการทำให้สอดคล้องกับแผนในอนาคตของเรา และเราจะนำเสนอโซลูชันที่ครอบคลุมด้วยแนวทางที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางมากขึ้น จังหวะเวลานั้นสมบูรณ์แบบเพราะเกิดขึ้นได้ไม่นานหลังจากการเข้าซื้อกิจการของ ShawKwei & Partners และจะช่วยให้ CR3 โดดเด่นออกมาจากหมู่คู่แข่ง”

โลโก้ใหม่ของ CR3 มีผลบังคับใช้ทันที และจะนำไปใช้กับบริษัท โซลูชั่น สินทรัพย์ บริการ ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ของ CSR Group

เกี่ยวกับ CR3 Group

CR3 Group ก่อตั้งขึ้นในปี 2534 (เดิมชื่อ CR Asia Group) ให้บริการโซลูชั่นด้านวิศวกรรมพลังงานแก่ลูกค้าผ่านโรงงานหลักในประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินเดีย CR3 Group มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชันวิศวกรรมพลังงานทั่วเอเชีย โดยให้บริการลูกค้าระดับโลกในอุตสาหกรรมที่เน้นให้ความสำคัญกับสินทรัพย์ เช่น การผลิตพลังงาน การแปรรูปทางเคมี และกระแสไฟฟ้า

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220503005118/en/

ติดต่อ:

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม:

CR3 Group

Zee Noor

ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรกลุ่ม

อีเมล: cocom@cr3.group

โทร: +65 6268 0255

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Trilliant เตรียมปรับใช้ AMI ร่วมกับ SAMART Telcoms สำหรับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ของประเทศไทย

Logo

AMI จะช่วยให้ กฟภ. ปรับปรุงประสิทธิภาพการรวบรวมข้อมูลแบบเรียลไทม์สำหรับลูกค้าเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม (C&I)

ประเทศไทย และสิงคโปร์–(บิสิเนสไวร์)–26 พ.ค. 2565

Trilliant ผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกด้านโซลูชั่นสาธารณูปโภคสำหรับการตรวจวัดขั้นสูงและระบบสมาร์ทกริด ยินดีที่จะประกาศความร่วมมือครั้งใหม่กับ SAMART ในการติดตั้ง Advanced Metering Infrastructure (AMI) ให้กับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (กฟภ.)  การปรับใช้นี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ Trilliant ในด้านระบบสาธารณูปโภคในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

Andy White ประธานและซีอีโอของ Trilliant กล่าวว่า “Trilliant ทุ่มเทเพื่อนำเสนอโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมแก่ลูกค้าของเราทั่วโลก  แพลตฟอร์มของเราให้สามารถปรับใช้เทคโนโลยีไร้สายแบบไฮบริดที่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพกับแอพพลิเคชั่นที่หลากหลาย ทำให้ระบบสาธารณูปโภคสามารถให้บริการระดับสูงสุดแก่ลูกค้าของพวกเขา  การเป็นพันธมิตรกับ SAMART ช่วยให้เราสามารถส่งมอบแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ของเราเพื่อรองรับการปรับใช้กับหลายแบรนด์”

กฟภ. ประเทศไทย ได้ทำสัญญากับ STS Consortium ซึ่งประกอบด้วย SAMART Telcoms PCL และ SAMART Communication Services

“การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพจาก Trilliant ผู้ให้บริการเทคโนโลยีระดับโลก ได้เสริมความแข็งแกร่งในการนำเสนอโซลูชั่นของเราแก่กฟภ. เราตั้งตารอที่จะได้เป็นหุ้นส่วนระยะยาวและร่วมมือในอนาคตในประเทศไทย” นายสุชาติ ดวงทวี รองประธานอาวุโส SAMART Telcoms PCL กล่าว

Trilliant ได้เชื่อมต่อสมาร์ทมิเตอร์มากกว่า 3 ล้านเครื่องสำหรับลูกค้าในอินเดียและมาเลเซียแล้ว โดยมีแผนที่จะติดตั้งเพิ่มเติมอีก 7 ล้านเมตรในช่วง 3 ปีข้างหน้าผ่านความร่วมมือที่มีอยู่  ด้วยการเพิ่มกฟภ. เป็นลูกค้า เทคโนโลยีของ Trilliant จะถูกนำไปใช้ในบ้านใหม่หลายล้านหลังในเร็วๆ นี้ ซึ่งช่วยให้ระบบสาธารณูปโภคเข้าถึงไฟฟ้าให้กับลูกค้าได้อย่างเสถียร

การปรับใช้อย่างต่อเนื่องใน APAC เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงเทคโนโลยีที่สร้างขึ้นตามวัตถุประสงค์ของ Trilliant สำหรับสาธารณูปโภคและชุมชน  เมื่อเร็วๆ นี้ Frost & Sullivan ได้รับรางวัล Asia-Pacific Smart Utility Communications Platform Company of the Year ประจำปี 2564 Trilliant ยังคงทุ่มเทให้กับเส้นทางนวัตกรรมเทคโนโลยี

Trilliant ยังคงร่วมมือกับผู้ให้บริการด้านพลังงานเพื่อติดตั้งมาตรวัดอัจฉริยะ ระบบเฮดเอนด์ และฮับการสื่อสารให้เสร็จสมบูรณ์อย่างปลอดภัยและทันท่วงที  การใช้งานเหล่านี้สนับสนุนระบบสาธารณูปโภคในการบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนผ่านการปรับปรุงกระบวนการอย่างต่อเนื่องและการจัดการบริการด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้น

เกี่ยวกับ Trilliant

Trilliant® ให้อำนาจแก่อุตสาหกรรมพลังงานด้วยแพลตฟอร์มการสื่อสารที่สร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้สาธารณูปโภคและเมืองต่างๆ สามารถปรับใช้แอปพลิเคชันใดๆ ได้อย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้บนเครือข่ายที่ทรงพลังเพียงเครือข่ายเดียว  ด้วยโซลูชั่นที่ได้รับการพิสูจน์แล้วและเป็นไปตามข้อกำหนดทั่วโลก Trilliant ให้อำนาจคุณด้วยการเชื่อมต่อโลกแห่งสรรพสิ่ง ® www.trilliant.com

เกี่ยวกับ SAMART Telcoms PCL

SAMART TELCOMS GROUP ให้บริการโซลูชั่นและบริการด้าน ICT และนวัตกรรมดิจิทัล ซึ่งรวมถึง Network Solutions, Enhanced Technology และ Business Application ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การออกแบบระบบ การติดตั้งและการใช้งาน การดำเนินงาน และการบำรุงรักษาในฐานะผู้นำและผู้ให้บริการโซลูชั่นครบวงจรสำหรับลูกค้าในภาครัฐและเอกชน

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220525006051/en/

ติดต่อ:

Tracey Mitchell
tracey.mitchell@trilliant.com 

Cindy Watson/Anita Wong
StrategicAmpersand Inc.
TrilliantPR@stratamp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Tricor Group นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการขยายตลาดทั่วโลกโดยมุ่งเน้นที่กลุ่มอาเซียน : แนวโน้มเศรษฐกิจ ข้อมูลเชิงลึกและโอกาสทางธุรกิจ

Logo

ฮ่องกง–(บิสิเนสไวร์)–26 พฤษภาคม 2565

หลังจากอัตราการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ค่อนข้างซบเซาในปีที่แล้ว ระบบเศรษฐกิจของสมาคมประชาชาติ แห่งเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) อยู่ในตำแหน่งที่ดีสำหรับการเติบโตและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในปี 2565 และปีต่อๆ ไปตามข้อมูลจาก รายงานมุ่งเน้นกลุ่มอาเซียนของ Tricor Group : แนวโน้มเศรษฐกิจ ข้อมูลเชิงลึก และ โอกาสทางธุรกิจ  ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจเพื่อเป็นแนวทางให้กับบรรษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ (MNCs) วิสาหกิจขนาดกลางละขนาดย่อม (SMEs)  และผู้ประกอบการที่สนใจในการจัดตั้งประกอบกิจการ และขยายการเติบโต ของธุรกิจทั่วอาเซียน

รายงานนี้นำเสนอมุมมอง ข้อสังเกต และการวิเคราะห์จากผู้บริหารระดับสูงของ Tricor ในประเด็นว่าแนวโน้มการค้าโลก มีผลกระทบต่อ การค้าการลงทุน และการขยายตลาดโลกในระบบเศรษฐกิจของอาเซียนอย่างไร  รายงานประกอบด้วย ส่วนพิเศษเกี่ยวกับ การลงนามที่สำคัญในความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP)   ที่เป็นการเชื่อมโยง 15 ประเทศเข้าด้วยกัน และ ครอบคลุม 30% ของประชากรโลกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม การค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก RCEP คาดว่าจะลดภาษีลง 90% ถึง 93% ของรายการภาษีข้ามพรมแดน รายงานยังมีภาพรวมของแต่ละตลาดในอาเซียน โดยมีหัวข้อเฉพาะสำหรับ การจัดตั้งบริษัท การพิจารณาด้านภาษี และสภาพแวดล้อมด้านแรงงาน

Lennard Yong CEO ของ Tricor Group กล่าวว่า “การอนุมัติกลุ่มการค้า RCEP เป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับการค้าโลกและ การพัฒนาที่สำคัญซึ่งจะเปลี่ยนทิศทางกระแส FDI อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในอีกหลายเดือนและปีข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เศรษฐกิจที่เติบโตเต็มที่ของอาเซียนทำหน้าที่เป็นหัวใจหลักในการกระตุ้นให้เกิดข้อตกลง ซึ่งที่Tricor เราเฝ้าติดตามว่าข้อตกลงที่สำคัญนี้จะกระตุ้นให้เกิดแนวโน้มการค้าโลกใหม่ๆ หนุนห่วงโซ่อุปทานในเอเชียและขยายโอกาส สำหรับนักลงทุน ต่างชาติอย่างไร  ด้วยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางของไตรคอร์ในแต่ละท้องที่ และการเชื่อมต่อแบบยืดหยุ่น ช่วยเสริมสถานะของเรา ในฐานะพันธมิตร 'ที่ทุกคนเลือก' สำหรับองค์กรที่ต้องการขยายไปทั่วอาเซียน เอเชียแปซิฟิก และอื่นๆ”

Wendy Wang, CFO & COO ของ Tricor Group กล่าวว่า “ในขณะที่โควิด-19 ได้สร้างกระแสการกีดกันทางการค้าไปทั่วโลก RCEP ได้คาดการณ์ว่าเครือข่ายการค้าทั่วเอเชียจะมีขนาด ความสำคัญ และขอบเขตมากกว่าของข้อตกลงการค้า ของสหภาพยุโรป  โดยเชื่อว่าการ เปิดกว้างของตลาดที่เพิ่มขึ้นจะส่งเสริมความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ  ซึ่งลักษณะเด่นที่มี แนวโน้มมากที่สุดอย่างหนึ่งของข้อตกลงนี้คือ เป็นครั้งแรกที่กลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ (Emerging Economic) ในอาเซียนจะถูกเชื่อมโยงกับ ประเทศ มหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว ของจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ผ่านข้อตกลงการค้าที่ครอบคลุมในฉบับเดียว โดยที่RCEP ใกล้จะรับรองว่าการค้าภายในเอเชีย ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าการค้าระหว่างเอเชียแปซิฟิกกับอเมริกาเหนือ และ ยุโรป รวมกันแล้วจะยังคงทำหน้าที่เป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโต สำหรับเศรษฐกิจโลกต่อไป”

David Ong CEO ของ Tricor Singapore กล่าวว่า “RCEP ส่งเสริมการค้าข้ามพรมแดนอย่างมาก ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ ของเศรษฐกิจแบบเปิดและเพื่อส่งออกของสิงคโปร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทในสิงคโปร์จะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ในการจัดหาสินค้า หรือวัตถุดิบ  และขณะนี้สามารถเข้าถึงแหล่งผู้จัดหาสินค้าที่ใหญ่ขึ้นทั่วทั้งอาเซียนและเอเชียแปซิฟิก ที่ Tricor Singapore เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้ องค์กรระดับโลก และท้องถิ่นพลิกโฉมแผนธุรกิจของพวกเขา เพื่อให้พวกเขาสามารถ ใช้ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้นใหม่ เหล่านี้ และร่วมมือกับพันธมิตรระดับภูมิภาคเพื่อสำรวจตลาดใหม่ๆ”

Sunshine Farzan หัวหน้าฝ่ายการตลาดและการสื่อสารของ Tricor Group กล่าวว่า “พาดหัวข่าวในช่วงสองปีที่ ผ่านมาถูกครอบงำโดยเรื่องราวที่อยู่ทุกหนทุกแห่ง นั่นก็คือโควิด-19  มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถคาดการณ์ได้ถึงความทุกข์ยาก และการหยุดชะงักที่แพร่หลายที่โรคระบาดใหญ่นี้มีต่อเศรษฐกิจและภาคธุรกิจทั่วโลก แต่จากประสบการณ์ภาคพื้นสนามล่าสุดของ Tricor Group ชี้ให้เห็นว่า แม้จะมีอุปสรรค์และความไม่แน่นอนที่รออยู่ข้างหน้า โอกาสที่เกิดขึ้นใหม่ ยังมีมากมายสำหรับธุรกิจทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นโยบายเศรษฐกิจที่ผ่านเมื่อเร็วๆ นี้และการเกิดของ RCEP กำลังเปิดโอกาสใหม่ ๆ ในอาเซียน ด้วยการเน้นย้ำถึงโอกาสที่จะเกิดขึ้นเหล่านี้และกำหนดขั้นตอนที่เป็นไปได้ไปข้างหน้า คู่มือธุรกิจอาเซียนของ Tricor สามารถช่วยผู้นำธุรกิจและนักลงทุนให้ก้าวล้ำนำหน้าในภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน”

ไฮไลท์สำคัญจากแนวโน้มเศรษฐกิจอาเซียนและดัชนีชี้วัดธุรกิจของ Tricor ได้แก่

  • เจาะลึกการจัดตั้งบริษัท การพิจารณาด้านภาษี และสภาพแวดล้อมด้านแรงงานสำหรับเศรษฐกิจอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ
  • การสำรวจอาเซียนในฐานะที่เป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตสำหรับกลยุทธ์การลงทุนและการขยายกิจการของบรรษัท ข้ามชาติจากจีนแผ่นดินใหญ่
  • ภาพรวมของอาเซียนและผลกระทบของ RCEP โดยพิจารณาจากกระแส FDI และข้อมูลจากแหล่งภายนอก ที่ผ่าน การรับรอง ตลอดจนข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญของ Tricor ว่าเหตุใดบรรษัทข้ามชาติขนาดใหญ่และนักลงทุน จึงเลือกอาเซียนสำหรับการขยายธุรกิจ
  • การวิเคราะห์จุดยืนของสิงคโปร์ในฐานะ 'ประตูสู่อาเซียน' โดยให้ความสนใจกับสาเหตุที่บรรษัทข้ามชาติขนาดใหญ่จากทั่วโลก ต่างมุ่งเป้าไปที่สิงคโปร์ในฐานะที่เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับแผนการขยายธุรกิจทั่วโลก
  • สรุปความท้าทายทั่วไปและวิธีที่ Tricor ช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายในการขยายกิจการทั่วโลกและการลงทุน ในระบบเศรษฐกิจของอาเซียน

ด้วยบริการและความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของ Tricor คำแนะนำที่ให้ไว้ในรายงานเป็นข้อมูลเชิงลึกแก่บริษัท เพื่อวัตถุประสงค์ ทางธุรกิจ และการใช้ประโยชน์จากแนวโน้มการค้าโลกล่าสุดที่เปลี่ยนแปลงอาเซียน เอเชียแปซิฟิก และอื่นๆ

เพื่อเรียกดูคู่มือกรุณาคลิกที่นี่ https://www.tricorglobal.com/asean-in-focus-economic-outlook-insights-opportunities

ขอบคุณ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ

HONG KONG SAR (GROUP OFFICE)

Sunshine Farzan

Tricor Services Limited

Group Head of Marketing & Communications

Tel: +852 2980 1261

Email: Sunshine.Farzan@hk.tricorglobal.com

เกี่ยวกับ Tricor Group

Tricor Group (Tricor) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการขยายธุรกิจชั้นนำของเอเชีย โดยมีความรู้ครอบคลุมทั่วโลก และ มีผู้เชี่ยวชาญในแต่ละท้องถิ่น ในด้านธุรกิจ องค์กร นักลงทุน ทรัพยากรบุคคล และ การจัดทำเงินเดือน บริการด้านคอร์เปอเรททรัสต์ และ หนี้ และ ที่ปรึกษาด้านการกำกับดูแล Tricor เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับการเติบโตของธุรกิจของลูกค้า ตั้งแต่การจัดตั้ง ไปจนถึงการเสนอขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งTricor มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วผ่านการเติบโต และ การพัฒนาที่เกิดขึ้น ตลอดจนการเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วน การควบรวมกิจการ และการเข้าซื้อกิจการ  โดยปัจจุบันกลุ่มบริษัท มีลูกค้าประมาณ 50,000 รายทั่วโลก (รวมถึงลูกค้าประมาณ 20,000 รายในจีนแผ่นดินใหญ่) มีพนักงานประมาณ 3,000 ราย และเครือข่ายสำนักงานใน 49 เมืองใน 22 ประเทศ/เขตแดน กลุ่มลูกค้าของเราประกอบด้วยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประมาณ 2,000 แห่งในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง จีนแผ่นดินใหญ่ สิงคโปร์ และมาเลเซีย และมากกว่า 40% ของบริษัทที่ติดอันดับ Fortune Global 500 รวมถึงบรรษัทข้ามชาติและองค์กรเอกชนที่ประกอบกิจการในตลาดระหว่างประเทศจำนวนมาก

เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์: www.tricorglobal.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

bitbank inc. ผู้ประกอบการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์คริปโต ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับ Sumitomo Mitsui Trust Holdings Inc. เพื่อจัดตั้งบริษัททรัสต์ที่เชี่ยวชาญด้านสินทรัพย์ดิจิทัล

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–24 พ.ค. 2565

bitbank, inc. (สำนักงานใหญ่: โตเกียว ญี่ปุ่น CEO: Noriyuki Hirosue) และ Sumitomo Mitsui Trust Holdings, Inc. (HQ: Tokyo Japan, ผู้อำนวยการ, ประธาน: Toru Takakura) ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดตั้ง “Japan Digital Asset Trust Preparatory Company, inc*1 หรือ “JADAT”” ซึ่งจะเป็นบริษัทเตรียมการเพื่อจัดตั้งบริษัททรัสต์ที่เชี่ยวชาญด้านสินทรัพย์ดิจิทัล*2 โดยในบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะศึกษาความเป็นไปได้ของ SuMi TRUST Holdings ในการลงทุนใน JADAT

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหาเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220523005408/en/

bitbank, inc., a crypto asset exchange operator, has signed a MOU with Sumitomo Mitsui Trust Holdings, Inc. to establish a trust company specializing in digital assets

bitbank, inc. ผู้ดำเนินการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์คริปโต ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับ Sumitomo Mitsui Trust Holdings, Inc. เพื่อจัดตั้งบริษัททรัสต์ที่เชี่ยวชาญด้านสินทรัพย์ดิจิทัล “JADAT” (กราฟิก: Business Wire)

JADAT จะได้ความรู้ know-how เกี่ยวกับระบบการจัดการการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลจากระดับความปลอดภัยขั้นสูงของ bitbank และของประเทศญี่ปุ่น และได้ความรู้ know-how ด้านธุรกิจทรัสต์จาก SuMi TRUST Holdings ซึ่งเป็นกลุ่มธนาคารทรัสต์เฉพาะทาง

*1 หลังจากการจดทะเบียนโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามพระราชบัญญัติธุรกิจทรัสต์ คาดว่าจะเปลี่ยนชื่อธุรกิจเป็น Japan Digital Asset Trust, inc..

*2 สินทรัพย์ Crypto, โทเค็นความปลอดภัยบนบล็อคเชนสาธารณะ, สเตเบิลคอยน์ และ NFT

เกี่ยวกับบริษัทใหม่

ชื่อ: Japan Digital Asset Trust Preparatory Company, inc.

ซีอีโอ: Noriyuki Hirosue

เนื้อหาธุรกิจ: ธุรกิจการดูแลทรัพย์สินดิจิทัล

เว็บไซต์: http://jadat.com/en

เกี่ยวกับ bitbank, inc.

[บทนำ]

bitbank ดำเนินการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ crypto ของญี่ปุ่น ซึ่งมีปริมาณการค้าในประเทศต่อเดือนที่ 731.7 พันล้านเยน ส่วนแบ่งปริมาณการค้าในประเทศ 33.7% (ในเดือนเมษายน 2564) และเงินฝากของลูกค้ามากกว่า 300 พันล้านเยน บริษัทกำลังขยายตัวขนาดธุรกิจอย่างรวดเร็ว  เพื่อขยายตลาดสินทรัพย์ crypto ในประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องมีนักลงทุนสถาบันเข้าสู่ตลาดมากขึ้น อนึ่ง ด้วยจุดแข็งของเราในด้านเทคโนโลยีการจัดเก็บสินทรัพย์ crypto สภาพคล่องของการซื้อขายแบบสปอต, ความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ทำให้เราจะมีส่วนร่วมในการขยายตัวต่อไปของตลาดสินทรัพย์ crypto ผ่านธุรกิจที่ไว้วางใจสินทรัพย์ดิจิทัลกับ JADAT

[ชื่อบริษัท]

bitbank, inc.

[URL]

https://bitbank.cc/about/corporate

[CEO]

Noriyuki Hirosue

[ที่อยู่]

141-0031 7F, KDX Nishigotanda Building, 7-20-9 Nishigotanda, Shinagawa, Tokyo, Japan

[วันก่อตั้ง]

7 พ.ค., 2557

[ทุนเริ่มต้น]

8,647.21 ล้านเยน (รวมทุนสำรอง)

[คำอธิบายธุรกิจ]

บริการที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ Crypto (cryptocurrency)

ผู้ดำเนินการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ Crypto ทะเบียนเลขที่ 00004 ออกโดยผู้อำนวยการสำนักการเงินท้องถิ่นคันโต

[สมาชิกภาพ]

Japan Virtual and Crypto assets Exchange Association (JVCEA)

Japan Crypto Asset Business Association (JCBA)

Blockchain Collaborative Consortium (BCCC)

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220523005408/en/

ติดต่อ:

bitbank, inc.

Midori Abe

+81-50-1751-8600

midori.abe@bitcoinbank.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Gradiant เข้าซื้อกิจการบริษัทด้าน Machine Learning อย่าง Synauta เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี AI ในการจัดการน้ำ

Logo

แบบจำลองดิจิทัลคู่เสมือนของ Gradiant ที่ผสานกับ AI ของ Synauta จะสร้างแบบจำลองที่มีประสิทธิภาพสำหรับการบำบัดน้ำเสียและการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ โดยมีการใช้พลังงานและสารเคมีในอัตราที่ต่ำ รวมถึงต้นทุนการดำเนินงานที่ลดลง

บอสตัน–(BUSINESS WIRE)–21 พฤษภาคม 2565

Gradiant ผู้ให้บริการและผู้พัฒนาโซลูชันเทคโนโลยีน้ำสะอาดระดับโลก ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้เข้าซื้อกิจการ Synauta ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านการจัดการน้ำอัจฉริยะของแคนาดา เพื่อเร่งใช้เทคโนโลยีแบบจำลองดิจิทัลคู่เสมือนสำหรับจัดการน้ำ Gradiant เป็นผู้บุกเบิกการใช้แบบจำลองดิจิทัลคู่เสมือนในการบำบัดน้ำเสียจากอุตสาหกรรมและการแยกเกลือออกจากน้ำทะเล รวมถึงการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ การเข้าซื้อกิจการจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานะของ Gradiant ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีและโซลูชันการจัดการน้ำแบบครบวงจร และเร่งการปรับใช้เทคโนโลยีแบบจำลองดิจิทัลคู่เสมือนเพื่อการจัดการน้ำผ่านระบบดิจิทัลในอนาคต

Prakash Govindan ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Gradiant กล่าวว่า “การจัดการน้ำด้วยระบบดิจิทัลเป็นหน่วยที่เติบโตเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมน้ำทั่วโลก และการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะเป็นการนำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดต่าง ๆ มารวมเข้าด้วยกัน การนำแบบจำลองดิจิทัลคู่เสมือนมาใช้ในการจัดการน้ำจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วไปพร้อมกับการใช้ประโยชน์จากการสื่อสารผ่านระบบ 5G ระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม และการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ การบำบัดน้ำในโรงงานอุตสาหกรรมจะอัจฉริยะขึ้น สะอาดขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อผสมผสานกับแบบจำลองข้อมูลอัจฉริยะของ Synauta”

Gradiant เป็นบริษัทที่แยกตัวออกมาจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) โดยให้บริการโซลูชันน้ำแบบครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ การดำเนินงาน และการบริหารทรัพย์สินเพื่อประโยชน์สูงสุด ซึ่งรวมอยู่ในแพลตฟอร์มดิจิทัลเพียงแห่งเดียวให้แก่ลูกค้าต่าง ๆ ได้แก่ Micron, Glaxo Smith Kline, Pfizer, Rio Tinto และ Coca-Cola การจัดการโครงสร้างพื้นฐานระบบน้ำทั่วโลกถูกประเมินว่าจะใช้เงินประมาณ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี และโซลูชันดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทสำคัญ การวิจัยทางการตลาดล่าสุดคาดการณ์ว่าค่าใช้จ่ายในการลงทุนระบบน้ำดิจิทัลแต่ละปีจะสูงถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2573 โดยการลงทุนในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะมีมูลค่า 6.3 พันล้านดอลลาร์ ลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมและภาครัฐต่างหันมาใช้แพลตฟอร์ม AI มากขึ้นในการจัดการน้ำและการบำบัดน้ำเสีย เพื่อจัดการกับความท้าทายจากแรงกดดันด้านความยั่งยืนและต้นทุน ความต่อเนื่องทางธุรกิจ การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และเหตุการณ์เกี่ยวกับสภาพอากาศ

อัลกอริทึมการเรียนรู้ด้วยเครื่องจักรของ AI อันเป็นกรรมสิทธิ์ของ Synauta จะถูกนำไปใช้ในโรงงานแยกเกลือของภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมทั่วโลก เทคโนโลยีของ Synauta จะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานผ่านการกำหนดเงื่อนไขการทำงานและโปรแกรมการบำรุงรักษาที่เหมาะสมตามข้อมูลกระบวนการแบบเรียลไทม์ ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าชั้นนำ เช่น PUB ในสิงคโปร์, Veolia, Aqualia, Engie และ GHD

Mike Dixon ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Synauta กล่าวว่า “การเข้าร่วม Gradiant จะทำให้ Synauta สามารถจัดการข้อมูลและ AI เพื่อปรับใช้งานในภาคอุตสาหกรรมให้กับลูกค้าทั่วโลก การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะสร้างขุมพลังดิจิทัลสำหรับอุตสาหกรรมการจัดการน้ำ ซึ่งจะทำให้เป้าหมายด้านความยั่งยืนทางน้ำในภาคอุตสาหกรรมเข้าใกล้ความเป็นจริงมากขึ้น” 

การชำระเงินจะเป็นไปตามเงื่อนไขการปิดตามธรรมเนียมและคาดว่าจะปิดได้ในไตรมาสที่สองของปี 2565

เกี่ยวกับ Gradiant

Gradiant เป็นผู้ให้บริการและผู้พัฒนาโซลูชันโครงการเทคโนโลยีน้ำสะอาดระดับโลกสำหรับการจัดการน้ำและการบำบัดน้ำเสียขั้นสูง โซลูชันแบบครบวงจรและความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของ Gradiant จะช่วยจัดการกับความท้าทายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับระบบน้ำที่สำคัญที่สุดของโลกได้อย่างยั่งยืนและคุ้มค่า Gradiant ให้บริการแก่ลูกค้าในการจัดการภารกิจหลักให้แก่อุตสาหกรรมที่สำคัญของโลกด้วยชุดเทคโนโลยีที่แตกต่างและเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Gradiant และขับเคลื่อนโดยผู้เชี่ยวชาญชั้นนำด้านการจัดการน้ำ Gradiant ก่อตั้งขึ้นที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างและปรับใช้โซลูชันการบำบัดน้ำอย่างยั่งยืน บริษัทอยู่ในสถานะที่โดดเด่นในการจัดการกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นในโลกที่เกิดจากอุตสาหกรรม การเพิ่มขึ้นของประชากร และปัญหาจากน้ำ ปัจจุบัน Gradiant มีพนักงานมากกว่า 400 คน ดำเนินงานจากสำนักงานใหญ่ระดับโลกในบอสตัน สำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาค และห้องปฏิบัติการวิจัยและพัฒนาด้านนวัตกรรมระดับโลกในสิงคโปร์ และสำนักงานใน 10 ประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเข้าไปที่ gradiant.com  

เกี่ยวกับ Synauta

Synauta ผสมผสานความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการแยกเกลือออกจากน้ำทะเลและการเรียนรู้ของเครื่องจักรด้วย AI เพื่อบำบัดน้ำมากขึ้นโดยใช้พลังงานและสารเคมีน้อยลงเพื่อลดต้นทุนการดำเนินงานให้แก่ลูกค้าของเรา อัลกอริธึมที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทจะกำหนดสภาวะการทำงานและโปรแกรมการบำรุงรักษาที่เหมาะสมให้กับแหล่งน้ำขององค์กรชั้นนำทั่วโลก ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ synauta.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220517005044/en/

ติดต่อ:

ข้อมูลติดต่อสำหรับองค์กร 
Felix Wang 
รองประธานฝ่ายการตลาดของ Gradiant 
fwang@gradiant.com 

ข้อมูลติดต่อสำหรับสื่อ 
Consort Partners 
gradiant@consortpartners.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay Inc. ร่วมมือกับพันธมิตรในยุโรปเพื่อสนับสนุนโครงการฟื้นฟูหอยนางรมพื้นเมือง

Logo

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–19 พฤษภาคม 2565

แนวปะการังและหอยนางรมเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมด้วยการดูแลระบบนิเวศต่างๆ  หอยนางรมตัวเดียวสามารถกรองน้ำได้มากถึง 240 ลิตรต่อวัน ส่งผลให้ปรับปรุงคุณภาพน้ำและความใสมากขึ้น และสนับสนุนปลาและสัตว์ทะเลที่ไม่มีกระดูกสันหลังที่มีเอกลักษณ์และมีความหลากหลายสูง  ในขณะเดียวกัน แนวปะการังหอยนางรมเป็นที่อยู่อาศัยทางทะเลที่ถูกคุกคามมากที่สุดในโลก โดยสูญเสียไปประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลก

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220519005168/en/

Mary Kay logo

โลโก้ Mary Kay

ในการเฉลิมฉลองวันสัตว์ใกล้สูญพันธุ์โลกและวันสากลเพื่อความหลากหลายทางชีวภาพ  Mary Kay Inc. ผู้นำระดับโลกใน ความยั่งยืนขององค์กร ประกาศความร่วมมือกับ The Nature Conservancy (TNC) และพันธมิตรในยุโรป เพื่อสนับสนุนโครงการฟื้นฟูหอยนางรมพื้นเมืองในภาคพื้นทวีปสหราชอาณาจักรและยุโรป

TNC ได้ช่วยเปิดตัว Native Oyster Restoration Alliance (NORA) ซึ่งเป็นเครือข่ายในยุโรปที่ประกอบด้วยหน่วยงานของรัฐ นักวิทยาศาสตร์ เอ็นจีโอ ผู้ปลูกหอยนางรม และองค์กรเอกชน  ทีมงานกำลังร่วมมือกันในการฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัยของหอยนางรมพื้นเมืองของยุโรป ดังนั้นจึงสนับสนุนความหลากหลายทางชีวภาพที่ต้องพึ่งพาอาศัยและช่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำอีกครั้ง

“แนวปะการังหอยนางรมเป็นหนึ่งในการลงทุนที่ดีที่สุดที่เราสามารถทำได้ในการอนุรักษ์ระบบธรรมชาติ” Dr. Elizabeth McLeod ผู้นำด้านการอนุรักษ์แนวปะการังในโครงการ Global Reef ของ TNC กล่าว “ประชากรหอยนางรมที่มีสุขภาพดีช่วยให้น้ำสะอาดขึ้นและช่วยปกป้องพื้นที่ชายฝั่งทะเลและผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นั่นจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ  ด้วยการสนับสนุนจากผู้ให้ทุนอย่าง Mary Kay TNC สามารถกู้คืนและปกป้องระบบที่สำคัญเหล่านี้ได้ในระยะยาว”

ความร่วมมือระหว่าง Mary Kay กับ TNC และเครือข่าย NORA จะสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่ปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพและทรัพยากรทางทะเลทั่วยุโรป ตัวอย่าง ได้แก่

  • ฟื้นฟูหอยนางรมในสหราชอาณาจักร
    • เขตอนุรักษ์ทางทะเลของ Blackwater, Crouch, Roach และ Colne Estuaries (MCZ): พื้นที่คุ้มครองทางทะเล 284 ตารางกิโลเมตรนี้ถูกกำหนดในปี 2013 สำหรับหอยนางรมพื้นเมือง โดยมีพื้นที่ เป็นโครงการฟื้นฟูที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
    • The Solent (ช่องแคบของน้ำที่แยก Isle of Wight จากแผ่นดินใหญ่ของสหราชอาณาจักร): ประชากรหอยนางรมถูกทำลายตั้งแต่สมัยโรมัน  อันที่จริง ระหว่างปี 2515-2549 เป็นแหล่งการประมงหอยนางรมที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป  อย่างไรก็ตาม การจับปลามากเกินไป โรคภัย และการปล้นสะดมทำให้เกิดการล่มสลายและการปิดตัวในที่สุดในปี 2556 โดยมีผู้ทำประมงที่จำกัดและเข้าถึงเป็นครั้งคราวเท่านั้นตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
  • การฟื้นฟูหอยนางรมในยุโรป
    • ทะเลเหนือของเยอรมัน: บริเวณนี้เป็นแหล่ของหอยนางรมยุโรปพื้นเมืองที่แพร่หลายในอดีต แต่ถูกจำแนกว่าใกล้สูญพันธุ์ตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 20  สิ่งมีชีวิตแต่ละชิ้นนั้นหายากมาก และชนิดนี้อยู่ในบัญชีแดงของ IUCN ของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ โครงการนี้กำลังพัฒนาและทดสอบวิธีการนอกชายฝั่งเพื่อการฟื้นฟูสต็อกหอยนางรมในพื้นที่ในระยะยาว

“Mary Kay ภูมิใจที่ได้สนับสนุนงานของ The Nature Conservancy เพื่อช่วยรื้อฟื้นหอยนางรมพื้นเมืองของยุโรปเพื่อฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลที่สำคัญ” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay กล่าว “ประสบการณ์มากมายของ The Nature Conservancy ในการฟื้นฟูแนวปะการังหอยนางรมในสี่ทวีปทำให้เรามั่นใจในความพยายามของพวกเขาในการฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัยที่หายากและใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งเหล่านี้ในน่านน้ำทางทะเลของยุโรป ที่แมรี่ เคย์ เรามุ่งความสนใจไปที่การจากโลกนี้ไปให้ดีขึ้นกว่าที่เราพบ ซึ่งรวมถึงการปกป้องสิ่งมีชีวิตทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก”

หากต้องการอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของ Mary Kay ในด้านความยั่งยืน โปรดไปที่ marykayglobal.com/sustainability และดาวน์โหลดกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลกของ Mary Kay ที่ชื่อ Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ดินแดนและน่านน้ำที่ทุกชีวิตพึ่งพา  ภายใต้การนำของวิทยาศาสตร์ เราสร้างสรรค์โซลูชั่นที่สร้างสรรค์และใช้งานได้จริงสำหรับความท้าทายที่ยากที่สุดในโลกของเรา เพื่อให้ธรรมชาติและผู้คนสามารถเติบโตไปด้วยกัน เรากำลังจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อนุรักษ์ที่ดิน น้ำ และมหาสมุทรในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน จัดหาอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน และช่วยให้เมืองต่างๆ มีความยั่งยืนมากขึ้น ใน 79 ประเทศและดินแดน  เราใช้แนวทางการทำงานร่วมกันที่มีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น รัฐบาล ภาคเอกชน และพันธมิตรอื่นๆ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ www.nature.org หรือติดตาม @nature_press บน Twitter

เกี่ยวกับ Mary Kay

หนึ่งในผู้ทลายเพดานแก้วดั้งเดิม Mary Kay Ash ก่อตั้งบริษัทความงามในฝันของเธอในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียว: การทำให้ชีวิตของผู้หญิงสมบูรณ์ยิ่งขึ้น  ความฝันนั้นได้เบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในด้านวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เครื่องสำอางสี อาหารเสริม และน้ำหอมที่ทันสมัย  Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยร่วมมือกับองค์กรต่างๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ การปกป้องผู้รอดชีวิตจากการทารุณกรรมในครอบครัว เพื่อทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็กๆ ทำตามความฝัน  เรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com ติดตามเราได้ที่ Facebook, Instagramและ LinkedIn หรือ  Twitter

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220519005168/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications (ฝ่ายสื่อสารองค์กร)
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย







Toshiba ขยายความร่วมมือกับ MikroElektronika เปิดตัว Clicker 4 สำหรับบอร์ดพัฒนา TMPM4K เพื่อใช้ในการควบคุมมอเตอร์

Logo

ซึ่งจะเป็นการประเมินผลพารามิเตอร์ที่ใช้งานหลัก ๆ อย่างครอบคลุม และใช้เงินลงทุนเพียงเล็กน้อย

คาวาซากิ, ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–19 พฤษภาคม 2565

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) กำลังเพิ่มการสนับสนุนที่สามารถนำเสนอให้แก่โครงการออกแบบการควบคุมมอเตอร์ให้มากขึ้นผ่านระบบนิเวศของพันธมิตรด้านเทคโนโลยี การขยายความร่วมมือไปยัง MikroElektronika (MIKROE) ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้แพลตฟอร์มประเมินผลแบบใหม่ได้ในขณะนี้

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220518005506/en/

Toshiba: A

Toshiba: “Clicker 4 สำหรับ TMPM4K” ที่วางซ้อนบน “Clicker 4 Inverter Shield” โดยทั้งคู่มาจาก MIKROE (ภาพ: Business Wire)

บอร์ดพัฒนา Clicker 4 จาก MIKROE สำหรับ M4K MCU ของ Toshiba ที่ผสานกับ Clicker 4 Inverter Shield จะเป็นโซลูชันที่ใช้งานง่ายและคุ้มค่าสำหรับการทดลองใช้งานในสถานการณ์ควบคุมมอเตอร์ BLDC โดย Clicker 4 สำหรับ TMPM4K จะมีโปรแกรมตรวจแก้จุดบกพร่องที่มาพร้อมตัวบอร์ด ซึ่งไม่ต้องใช้โปรแกรมตรวจแก้จุดบกพร่องภายนอก และจะประกอบด้วยเต้ารับ mikroBUS™ 4 ช่องเพื่อเชื่อมต่อกับบอร์ด MIKROE Click™ ที่หลากหลาย ทำให้สามารถเพิ่มฟังก์ชันการทำงานเพิ่มเติมได้ นอกจากนี้ยังมีตัวเชื่อมต่อส่วนขยาย พอร์ตแก้ไขจุดบกพร่อง JTAG/SWD ไฟ LED และปุ่มกด บอร์ดนี้มาพร้อมกับ Clicker 4 Inverter Shield ซึ่งมี MOSFET 6 ตัวสำหรับใช้งานมอเตอร์ สวิตชิ่งเพาเวอร์ซัพพลายที่ใช้ควบคุมแรงดันไฟฟ้าของมอเตอร์สูงสุด 48 โวลต์ พร้อมแหล่งจ่ายไฟควบคุม 5 โวลต์ ซึ่งสามารถนำไปใช้จ่ายไฟให้กับบอร์ดควบคุมภายนอกได้ การเชื่อมต่อที่ยืดหยุ่นจะช่วยให้มีการรับข้อมูลป้อนกลับตำแหน่งจากเซ็นเซอร์ Hall และเอ็นโค้ดเดอร์แบบเพิ่มค่า และยังมีการป้องกันกระแสไฟฟ้าเกินเพื่อความมั่นใจในการใช้งาน

M4K MCU นั้นถูกใช้อย่างแพร่หลายทั่วทั้งอุตสาหกรรม ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าได้รับความนิยมเพื่อนำไปใช้ในการควบคุมมอเตอร์รุ่นต่อไป อุปกรณ์เหล่านี้ใช้แกนโปรเซสเซอร์ Arm® Cortex®-M4 ที่มีส่วนการคำนวณเลขที่เป็นจุดทศนิยม (FPU) และมีหน่วยป้องกันหน่วยความจำ (MPU) ด้วย อุปกรณ์เหล่านี้สามารถทำงานได้ที่ 160MHz และมีฟังก์ชันตัวขับมอเตอร์แบบตั้งโปรแกรมได้ขั้นสูง (A-PMD) ควบคู่ไปกับความสามารถขั้นสูงของ vector engine plus (A-VE+) เพื่อใช้ในการควบคุม vector ทรัพยากรหน่วยความจำประกอบด้วยแฟลชรหัสขนาด 256kBytes และแฟลชข้อมูลขนาด 32kBytes

Clicker 4 สำหรับ TMPM4K และ Clicker 4 Inverter Shield ได้รับการสนับสนุนโดยซอฟต์แวร์ MCU Motor Studio ซึ่งจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ของ Toshiba ซอฟท์แวร์นี้เป็นซอฟต์แวร์ที่เรียบง่าย มีโครงสร้างที่ดี และใช้งานได้หลากหลาย โดยมีส่วนประกอบหลัก 2 ส่วน ได้แก่ Motor Control PC Tool ที่มีการกำหนดค่าพารามิเตอร์ การควบคุมไดรฟ์ และการบันทึกและการวินิจฉัยแบบเรียลไทม์ผ่าน UART ความเร็วสูง และ Motor Control Firmware ที่กำหนดค่าและจัดการได้อย่างเต็มที่สำหรับ M4K MCU

เกี่ยวกับ MIKROE

MIKROE เป็นผู้ผลิตเครื่องมือฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการพัฒนาระบบฝังตัว บริษัทผลิตบอร์ดต่าง ๆ สำหรับเชื่อมต่อไมโครคอนโทรลเลอร์กับอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ เช่น เซ็นเซอร์ ไดรเวอร์มอเตอร์ และอื่น ๆ 
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MIKROE ที่: https://www.mikroe.com/

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ M4K MCU ของ Toshiba สำหรับการควบคุมมอเตอร์ สามารถดูรายละเอียดได้ที่นี่: 
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/semiconductor/product/microcontrollers/txz4aplus-series.html

* บอร์ด mikroBUS และ Click เป็นเครื่องหมายการค้าของ MIKROE 
* Arm และ Cortex เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Arm limited (หรือบริษัทในเครือ) ในสหรัฐอเมริกาและ/หรือทั่วโลก 
* TXZ+ เป็นเครื่องหมายการค้าของ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation 
* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทที่เกี่ยวข้อง 
* ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาด้านบริการ และข้อมูลการติดต่อ เป็นข้อมูล ณ ปัจจุบันในวันที่ประกาศ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ระดับแถวหน้าผู้จัดหาโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และการจัดเก็บที่มีความก้าวล้ำ รวบรวมประสบการณ์และนวัตกรรมที่สะสมมากว่าครึ่งศตวรรษ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์ ระบบ LSIs และ HDD อันโดดเด่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจของเรา

พนักงานทั้ง 23,000 คนจากทั่วโลกของ TDSC มุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ของเราให้ถึงระดับสูงสุด และให้ความสำคัญกับการทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า เพื่อส่งเสริมการสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ ๆ ร่วมกัน ด้วยยอดขายต่อปีที่สูงกว่า 8.5 แสนล้านเยน (7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในขณะนี้ TDSC หวังที่จะได้มีส่วนสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับผู้คนทั่วโลก 
ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220518005506/en/

ติดต่อ:

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับลูกค้า: 
ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์ MCU และอุปกรณ์ดิจิทัล 
โทร: +81-44-548-2233 
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/contact.html

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อ: 
K.Tanaka, E.Sugizaki 
กลุ่มสื่อสารองค์กรและข้อมูลการตลาด 
ฝ่ายวางแผนเชิงกลยุทธ์ 
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation 
โทร: +81-44-548-2122 
เมล: tdsc-publicrelations@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

SMART Modular เปิดตัวผลิตภัณฑ์ SMART Kestral PCIe Optane Memory AddCard เพื่อรองรับการขยายและเร่งความเร็วของหน่วยความจำ

Logo

กำหนดเป้าหมายสำหรับผู้ที่ต้องการขยายสเกลระดับที่ใหญ่มากและศูนย์ข้อมูลที่ใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่บนระบบที่ใช้ AMD, ARM และ Intel ที่ใช้ CPU

เมืองนิวไทเป, ใต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–19 พ.ค. 2565

SMART Modular Technologies, Inc. (“SMART”) ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของ SGH (Nasdaq: SGH) และเป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ โซลิดสเตตไดรฟ์ และผลิตภัณฑ์สตอเรจแบบไฮบริด ได้ประกาศเปิดตัว SMART Kestral™ PCIe Optane™ Memory Add- in-Card (AIC) ซึ่งสามารถเพิ่มหน่วยความจำ Optane Memory ได้สูงสุด 2TB บนอินเทอร์เฟซ PCIe-Gen4-x16 หรือ PCIe-Gen3-x16 ที่ไม่ขึ้นกับ CPU ของเมนบอร์ด ทั้งนี้ Kestral AIC ของ SMART เร่งความเร็วอัลกอริธึมที่เลือกโดยการถ่ายโอนฟังก์ชันการจัดเก็บข้อมูลที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์จาก CPU โฮสต์ไปยัง Intel FPGA บน AIC

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหาเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220518006168/en/

SMART Modular Technologies' Kestral PCIe Optane Memory Add-in-Card (Photo: Business Wire)

เทคโนโลยี Kestral PCIe Optane Memory Add-in-Card ของ SMART Modular Technologies (รูปภาพ: Business Wire)

AIC หน่วยความจำ Kestral ของ SMART เหมาะอย่างยิ่งสำหรับศูนย์ข้อมูลที่สเกลใหญ่มาก ๆ และสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกันซึ่งต้องการใช้แอปพลิเคชันหน่วยความจำขนาดใหญ่ และที่สามารถได้รับประโยชน์จากการขยายหน่วยความจำหรือการเร่งความเร็วของระบบผ่านที่เก็บข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ได้

“ด้วยความก้าวหน้าของมาตรฐานการเชื่อมต่อระหว่างกัน เช่น CXL และ OpenCAPI ทำให้สมาชิกครอบครัวใหม่ของ SMART อย่าง  Kestral AIC รุ่นใหม่ สามารถตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมในด้านรูปแบบโมดูล หน่วยความจำรูปแบบใหม่ และอินเทอร์เฟซสำหรับการขยายและการเร่งความเร็วของหน่วยความจำ” Mike Rubino รองประธานฝ่ายวิศวกรรมของ SMART Modular กล่าว  “SMART สามารถใช้ประโยชน์จากประสบการณ์หลายปีของเราในการพัฒนาและผลิตโซลูชั่นหน่วยความจำที่ใช้คอนโทรลเลอร์ เพื่อตอบสนองความต้องการหน่วยความจำที่เกิดขึ้นใหม่แบบแอดออน และการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้านเซิร์ฟเวอร์และระบบสตอเรจให้กับลูกค้า”

ประโยชน์หลัก ๆ:

  • หน่วยความจำต่อเซิร์ฟเวอร์มากขึ้นด้วยต้นทุนต่อกิกะไบต์ที่ลดลง
  • การอัปเกรดภาคสนามสำหรับอัลกอริธึมและโปรโตคอลใหม่
  • การอัพเกรดอย่างราบรื่นสำหรับเซิร์ฟเวอร์ที่มีอยู่ด้วยโซลูชันหน่วยความจำแบบกำหนดเอง
  • รองรับเทคโนโลยีหน่วยความจำและโปรโตคอลที่หลากหลาย รวมถึง Intel Optane DIMM, DDR4 RDIMM และ LRDIMM

คุณลักษณะทางเทคนิค:

  • ความสูงเต็มที่ ความยาวครึ่งหนึ่ง (FHHL) ฟอร์มแฟกเตอร์ช่องคู่
  • Thermal Design Power  (TDP) น้อยกว่า 150W โดยใช้ฮีทซิงค์แบบพาสซีฟ
  • Intel Stratix® 10 DX FPGA ใช้งานด้วยการสนับสนุน IP หลายรายการสำหรับการกำหนดโซลูชัน
  • Quad Core ARM A53 พร้อมหน่วยความจำ 2GB DDR4 ออนบอร์ดและการเร่งความเร็วการจัดเก็บ 8GB
  • สล็อต DIMM สี่ช่องพร้อมช่องสัญญาณแยกกันสองช่อง ซึ่งสามารถใส่ Optane DIMM สี่ช่องสูงสุด 512GB ต่ออัน หรือ DDR4 RDIMM สองตัวสูงสุด 256GB

ในอนาคต AIC จาก SMART จะสามารถรองรับหน่วยความจำ Optane ขนาด 4TB ในโหมด App Direct แบบถาวรผ่านการโหลด/การจัดเก็บปกติสำหรับสถาปัตยกรรม CPU ทั้งหมด ซึ่งจะทำให้สล็อต DDR DIMM ที่ต่อพ่วงโดยตรงมีพื้นที่ว่างมากขึ้น การ์ดหน่วยความจำ SMART Kestral เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเซิร์ฟเวอร์การฝึกอบรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ด้วยเครื่อง (Machine Learning, ML) ซึ่งช่วยให้อัลกอริทึมขนาดใหญ่สามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็วและปราศจากความเสี่ยงที่จะเกิดความล้มเหลวระหว่างเหตุการณ์ไฟฟ้าดับ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SMART Kestral Memory AIC โปรดไปที่ หน้าผลิตภัณฑ์ และรับ บทสรุปทางเทคนิค ที่ smartm.com หรือติดต่อฝ่ายขายได้ที่ info@smartm.com.

* ตัว “S” และ “SMART” ที่ออกแบบมาด้วยสไตล์พิเศษ ซึ่งรวมถึง “SMART Modular Technologies” เป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ SMART Modular Technologies, Inc. เครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนอื่น ๆ ทั้งหมด ถือเป็นทรัพย์สินของเจ้าของกิจการ

เกี่ยวกับ SMART Modular Technologies

เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้วที่ SMART Modular Technologies ได้ช่วยเหลือลูกค้าทั่วโลกในการใช้งานการประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูงผ่านการออกแบบ การพัฒนา และการบรรจุภัณฑ์ในขั้นสูงของโซลูชันหน่วยความจำแบบพิเศษ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งของเรามีตั้งแต่เทคโนโลยีระดับแนวหน้าในปัจจุบันไปจนถึงผลิตภัณฑ์ DRAM และ Flash storage แบบมาตรฐานและแบบเดิม เราจัดหาโซลูชันหน่วยความจำและสตอเรจแบบมาตรฐาน ทนทาน และกำหนดเองได้ ที่ตอบสนองความต้องการของแอพพลิเคชั่นที่หลากหลายในตลาดที่มีการเติบโตสูง

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220518006168/en/

ติดต่อฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์

Arthur Sainio

SMART Modular Technologies

39870 Eureka Dr., Newark, CA 94583

+1 (510) 364-3647

info@smartm.com

ติดต่อสำหรับสื่อ

John Crook

SMART Modular Technologies

ฝ่ายการสื่อสารการตลาด

John.Crook@smartm.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Aqara ประกาศเปิดตัว D100 Zigbee กลอนประตูอัจฉริยะอัตโนมัติเต็มรูปแบบ

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–19 พฤษภาคม 2565

Aqara ผู้ให้บริการชั้นนำสำหรับผลิตภัณฑ์บ้านอัจฉริยะ ได้ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์กลอนประตูอัจฉริยะด้วยการปล่อยกลอนล็อกแบบมีตลับใหม่ รุ่น D100 Zigbee ซึ่งเป็นสมาร์ทล็อกรุ่นที่สามของแบรนด์สำหรับตลาดโลก ทั้งนี้ต่างจาก N100 Zigbee และ A100 Zigbee รุ่นก่อนหน้านี้ที่เป็นกลอนล็อกแบบมือจับดั้งเดิม โดย D100 Zigbee รุ่นใหม่เป็นกลอนล็อกแบบมีตลับอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ช่วยให้ผู้ใช้เปิดประตูโดยไม่ต้องกดที่จับหรือหมุนลูกบิด กลอนล็อกรุ่นใหม่ได้รับการออกแบบให้ทำงานร่วมกับ HomeKit รวมถึงฟีเจอร์ home key ล่าสุด และยังรองรับการปลดล็อกผ่าน Google Assistant ซึ่ง D100 Zigbee ได้วางจำหน่ายแล้วในสิงคโปร์ คูเวต ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และคาดว่าจะมีวางจำหน่ายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าไปยังประเทศ/ภูมิภาคอื่น ๆ รวมถึงมาเลเซีย ไทย เวียดนาม ฮ่องกง ไต้หวัน คาซัคสถาน ไนจีเรีย เป็นต้น

เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ กลอนล็อก D100 Zigbee นั้นสามารถใช้ได้กับประตูที่มีความหลากหลายขึ้น โดยติดตั้งกับประตูที่มีความหนาระหว่าง 40 ถึง 120 มิลลิเมตร และแม้แต่ประตูสไตลิสต์มือจับแบบดึง นอกจากนี้ยังมีชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-ion) ที่ทนทานขึ้น ทั้งนี้ชุดแบตเตอรี่ 2480mAh แบบถอดออกได้สามารถชาร์จใหม่ผ่านพอร์ตแบบ USB-C และแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 12 เดือนระหว่างการชาร์จในแต่ละครั้ง ทั้งยังรองรับการเตือนเวลาแบตเตอรี่ต่ำ และแม้ว่าแบตเตอรี่จะหมด กลอนล็อกยังสามารถชาร์จจากข้างนอกผ่านพาวเวอร์แบงค์แบบ USB-C และยังมีความคล้ายคลึงกับกลอนล็อก Aqara รุ่นอื่น ๆ ที่มีกุญแจแบบกลไกซึ่งให้ผู้ใช้สามารถเปิดกลอนล็อกได้แม้ในขณะที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ล้มเหลว

D100 Zigbee มีฟีเจอร์เครื่องสแกนลายนิ้วมือ 3 มิติ พร้อมระบบป้องกันการหลอกด้วยรูปภาพหรือวิดีโอ และเครื่องสแกนนี้มีการเคลือบแซฟไฟร์เพื่อความทนทานที่ดีขึ้น กลอนล็อกติดตั้งแผงปุ่มกดล่องหน และรองรับรหัสผ่านถาวรที่สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวและแบบเป็นครั้งคราว (6-10 หลัก) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้อนุญาตและจัดการการเข้าถึงบ้านสำหรับสมาชิกในครอบครัวและผู้มาเยือนได้อย่างง่ายดาย ทั้งนี้รหัสผ่านแบบเพียงครั้งเดียวและแบบเป็นครั้งคราวสามารถสร้างและจัดการแบบระยะไกลได้* ซึ่งทำให้กลอนล็อกนี้เป็นตัวเลือกในอุดมคติสำหรับบ้านเช่า โดยการ์ด NFC ยังมีกลอนล็อกซึ่งสะดวกสำหรับสมาชิกในครอบครัวที่มีอายุน้อยและผู้สูงอายุในการปลดล็อก

และยิ่งไปกว่านั้น D100 Zigbee ยังได้รับการออกแบบให้ทำงานร่วมกับ HomeKit และรองรับฟีเจอร์ home key ใน Apple Wallet ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถแท็กอุปกรณ์ iPhone หรือ Apple Watch เพื่อปลดล็อกได้ง่าย ๆ นอกจากนี้ยังรองรับการสั่งงานด้วยเสียงรวมไปถึง Siri และ Google Assistant เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบกับผู้ช่วยคนโปรดว่าประตูล็อกอยู่หรือไม่ หรือขอให้ผู้ช่วยปลดล็อกประตูให้ได้

ฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงรวมอยู่ในกลอนล็อก D100 Zigbee เพื่อความปลอดภัยสำหรับบ้านและทรัพย์สิน รวมไปถึง:

  • กลอนล็อกแบบสามสลักเกลียวและกระบอกที่มีความปลอดภัยสูงทำให้กลอนล็อกทนทานต่อการพยายามเจาะทะลุ;
  • ชิปควบคุมและรักษาความปลอดภัยถูกวางไว้ที่แผงล็อกด้านใน เพื่อไม่ให้ถูกดัดแปลงแม้แผงด้านนอกจะถูกบุกรุก;
  • ลูกบิดแบบกลไกติดตั้งไว้ ช่วยให้ล็อกและปลดล็อกจากด้านในที่ปรับปรุงให้ดีขึ้นเพื่อความปลอดภัยและเป็นทางออกฉุกเฉิน;
  • ระบบแจ้งเตือนการงัดแงะมีทั้งในพื้นที่และระยะไกล ซึ่งลำโพงในตัวจะส่งเสียงเตือนในขณะที่การแจ้งเตือนทางมือถือจะถูกส่งไปยังผู้ใช้ในการตรวจจับความพยายามในการงัดแงะ;
  • การล็อกอัตโนมัติหลังจากประตูถูกปิด และการแจ้งเตือนประตูเปิดทิ้งไว้จะทำงานหากประตูเปิดนานกว่า 10 วินาที;
  • สวิตช์ล็อกป้องกันเด็กถูกวางไว้เหนือปุ่มปลดล็อก และเมื่อทำการเปิดสวิตช์ไว้แล้วจะป้องกันไม่ให้เด็กเปิดประตูโดยไม่ได้ตั้งใจ;
  • ระบบการพิสูจน์ยืนยันตัวตนจะหยุดเป็นเวลา 3 นาทีหลังจากการพิสูจน์ยืนยันตัวตนนั้นล้มเหลวครบ 5 ครั้ง และการแจ้งเตือนความพยายามที่ผิดปกตินี้จะถูกส่งไปยังผู้ใช้ เพื่อให้การเดารหัสในแต่ละหลักแทบจะเป็นไปไม่ได้;
  • ความสามารถในการเพิ่มตัวเลขสุ่มก่อนและหลังรหัสผ่านเพื่อป้องกันการโจมตีจากการแอบดูและรอยนิ้วมือ;
  • กุญแจปลดล็อกระยะไกลทั้งหมดรวมถึงรหัสผ่านที่สร้างจากระยะไกลนั้นปลอดภัยด้วยการเข้ารหัสแบบ end-to-end และคีย์สำหรับเข้ารหัสจะถูกเก็บไว้ในกลอนล็อกและมือถือของผู้ใช้ที่จับคู่กันในเครื่อง ซึ่งอนุญาตให้เฉพาะการล็อกพิเศษนี้เท่านั้นที่จะถอดรหัสได้

ทั้ง Bluetooth 5.0 และ Zigbee 3.0 ถูกผสานรวมเข้ากับกลอนล็อก D100 Zigbee ในขณะที่การรองรับ Bluetooth ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อโดยตรงกับอุปกรณ์มือถือและเทคโนโลยีโฮมฮับของ Apple ทั้งนี้การผสานรวม Zigbee ที่ทำให้ D100 Zigbee แตกต่างจากที่มีวางจำหน่ายอยู่ในตลาด เมื่อเชื่อมต่อกับฮับ Zigbee 3.0 Aqara โดยกลอนล็อกไม่เพียงรองรับการปลดล็อกจากระยะไกลผ่านแอป Aqara Home แต่ยังเชื่อมโยงกับอุปกรณ์เสริม Aqara อื่น ๆ เพื่อเปิดใช้งานการทำงานอัตโนมัติภายในบ้าน ตัวอย่างเช่น เมื่อกดปุ่ม Away บนแผงปุ่มกดของกลอนล็อก ผู้ใช้สามารถเปิดระบบแจ้งเตือนของ Aqara Home ซึ่งกล้องรักษาความปลอดภัยและเซ็นเซอร์จะเปิดใช้งาน และปิดไฟ ระบบ AC และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอื่น ๆ ด้วยอุปกรณ์ Aqara ที่หลากหลายนี้ ผู้ใช้สามารถสร้างระบบอัตโนมัติที่ปรับแต่งให้เหมาะสมตามสภาพแวดล้อมภายในบ้านที่ต้องการได้

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลอนล็อก D100 Zigbee กรุณาเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ของเรา

* จำเป็นต้องใช้ฮับ Zigbee 3.0 Aqara

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220518005555/en/

ติดต่อ:

สำหรับสอบถามสื่อ:
Michell Li
มือถือ: +86 18501199430
อีเมล:  media@aqara.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

METAQ Coin จดทะเบียนใน Global Exchange MEXC

Logo

ปังโย เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–18 พฤษภาคม 2565

Metaplanet ประกาศว่าสกุลเงินดิจิทัล 'METAQ Coin' ได้รับการจดทะเบียนบน MEXC แพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำระดับโลก 

METAQ Coin ทำผลงานได้ถึง 128,000% ที่งาน Kickstarter listing voting ที่จัดโดย MEXC และได้รับการจดทะเบียนบน MEXC ตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา

MEXC Exchange ก่อตั้งขึ้นในปี 2561 เป็นหนึ่งใน 10 อันดับแรกของแพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำระดับโลกที่จดทะเบียนบน CoinMarketCap ซึ่งเป็นเว็บไซต์ตลาดสกุลเงินดิจิทัลระดับโลก และมีผู้ใช้มากกว่า 6 ล้านคนใน 200 ประเทศ โดยในการซื้อขายแลกเปลี่ยนนั้นสามารถที่จะจ่ายด้วยสกุลเงินดิจิทัลผ่าน Visa และ Mastercard ทั้งนี้มีการเติบโตอย่างรวดเร็วโดยการสนับสนุนจากบริการต่าง ๆ เช่น DeFi, staking และ Kickstarter ที่ใช้โทเค็น MX token ของตนเอง

METAQ Coin เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่สามารถใช้ใน Crypto Fishing เกม NFT-P2E ที่พัฒนาและให้บริการโดยโครงการ METAQ ในเกมนั้นผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนโทเค็น AQUA ที่ได้รับมากับ METAQ Coins

ด้วย METAQ Coin มีการจดทะเบียนบน MEXC Exchange การเข้าถึง Crypto Fishing ของผู้ใช้จึงได้รับการปรับปรุงขึ้นอย่างมาก

“ด้วยการจดทะเบียนใน MEXC Exchange ที่มีชื่อเสียงระดับโลก การรับรู้แบรนด์ของ METAQ ในหมู่นักลงทุนต่างประเทศและผู้ใช้ทั้งในประเทศและต่างประเทศจะเพิ่มขึ้น ในขณะที่รักษาผู้ใช้ที่ยังคงใช้งานอยู่ นอกจากนี้ยังจะกระตุ้นการขยายตัวทั่วโลกของระบบนิเวศ METAQ” JeongYeop Shin ซีอีโอของ Metaplanet กล่าว “ทีมโครงการ METAQ จะให้บริการอัปเกรดแก่ผู้ใช้เกมอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน”

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ:

Metaplanet
Layla Jeong
+82-10-9779-9270
metaplanet99@gmail.com