Category Archives: General News

เส้นทางการเสริมพลังของ Mary Kay ยังคงดำเนินต่อไป : แบรนด์เข้าร่วมหลักการเสริมพลังของผู้หญิงในเอเชียแปซิฟิก

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–21 ธันวาคม 2023

Mary Kay Inc. ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนระดับโลกสำหรับการเสริมสร้างพลังของผู้หญิง ได้ประกาศในวันผู้ประกอบการสตรี (Women's Entrepreneurship Day) ว่า บริษัทได้กลายเป็นผู้ลงนามอย่างเป็นทางการใน Women's Empowerment Principles (WEPs) แห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในเดือนมีนาคม 2019 ก้าวแรกของ Mary Kay Inc. ในการเดินทางของ WEP โดยกลายเป็นผู้ลงนามระดับโลกในระหว่างการประชุม WEPs ซึ่งจัดขึ้นนอกรอบของ Commission on Status of Women (CSW63)

“ที่ Mary Kay เราเป็นผู้นำโดยช่วยส่งเสริมผู้หญิงจากทุกสาขาอาชีพด้วยเครื่องมือที่ถูกต้อง การให้คำปรึกษา และการศึกษาที่เหมาะสม เพื่อให้พวกเขาสามารถตัดสินใจเลือกที่นำไปสู่ชีวิตที่เติมเต็มและมีความหมายสำหรับตนเอง ครอบครัว และชุมชน” Wendy Wang ประธาน Mary Kay ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าว (เครดิตภาพ: Mary Kay Inc.)

ในขณะที่ Mary Kay ฉลองครบรอบ 60 ปี บริษัทได้เข้าร่วม WEP เพื่อแสดงตำแหน่งตัวเองในฐานะผู้นำด้านผู้ประกอบการสตรีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งสื่อความถึงโอกาสทางธุรกิจที่ไม่มีใครเทียบได้ พร้อมส่งเสริมสถานที่ทำงานที่สนับสนุน และตอบแทนชุมชนผ่านโครงการริ่เริ่มกิจกรรมเพื่อสังคมขององค์กร (CSR)

WEP จัดทำกรอบการทำงานแบบองค์รวมสำหรับบริษัทต่างๆ เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและการเสริมพลังของผู้หญิงในสถานที่ทำงาน ตลาด และชุมชน ทั้งยังขับเคลื่อนผลลัพธ์เชิงบวกสำหรับสังคมและธุรกิจ WEP เปิดตัวในปี 2010 โดย UN Women และ UN Global Compact WEP ได้รับแจ้งจากแรงงานระหว่างประเทศ และมาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชน โดยมีพื้นฐานมาจากการยอมรับว่าธุรกิจต่างๆ มีส่วนได้ส่วนเสียและมีความรับผิดชอบต่อความเท่าเทียมทางเพศและการเสริมอำนาจของสตรี

ในแถลงการณ์ Wendy Wang ประธาน Mary Kay ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า:

“จากการแสวงหาเส้นทาง WEP ระดับโลกที่ Mary Kay ได้เริ่มต้นขึ้นในปี 2019 ในวันนี้ ณ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัทได้ยืนยันอีกครั้งถึงคำมั่นสัญญาที่จะช่วยเร่งปิดช่องว่างระหว่างเพศในสถานที่ทำงาน ตลาด และชุมชน 'การเสริมพลังของผู้หญิง' เป็นมากกว่าความสำเร็จในอาชีพของผู้หญิง – มันต้องมีมุมมองแบบองค์รวม แผนงานไปสู่ความก้าวหน้าและผลกระทบที่วัดได้ เช่นเดียวกับการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด รวมถึงภาคเอกชน – และ WEP ก็กำลังทำเช่นนั้น ที่ Mary Kay เราเป็นผู้นำโดยช่วยส่งเสริมผู้หญิงจากทุกสาขาอาชีพด้วยเครื่องมือที่ถูกต้อง การให้คำปรึกษา และการศึกษาที่เหมาะสม เพื่อให้พวกเขาสามารถตัดสินใจเลือกที่นำไปสู่ชีวิตที่เติมเต็มและมีความหมายสำหรับตนเอง ครอบครัว และชุมชน”

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งสำคัญของ WEP สำหรับ Mary Kay ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Mary Kay China เพิ่งเปิดตัวรายงาน Mary Kay China Empowering Women Impact Report ครั้งแรกในหัวข้อ “Thinking Like A Woman” (คิดเหมือนกับผู้หญิง) รายงานดังกล่าวได้ปฏิบัติตามหลักการที่ 7 ว่าด้วย “การวัดผลและการรายงาน” ” และหลักการที่ 6 ว่าด้วย “การริเริ่มและการสนับสนุนของชุมชน”

การดำเนินการของ WEP:

รายงานดังกล่าวเปิดเผยผลงานของ Mary Kay China และผลลัพธ์ในการเสริมพลังของผู้หญิงเพื่อให้บรรลุความสำเร็จผ่านแนวทางที่หลากหลาย ทั้งในการเป็นผู้นำ ตลาด สถานที่ทำงาน และงานชุมชน ส่วนรายงานฉบับต่อๆ ไปจะครอบคลุมถึงคำมั่นสัญญาและอิทธิพลของ Mary Kay ในประเทศอื่นๆ ในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นภูมิภาคที่บริษัทดำเนินธุรกิจอยู่ ความสำเร็จบางส่วนต่อไปนี้ ได้ครอบคลุมหลักการ WEPs ทั้ง 7 ประการซึ่งถูกเน้นย้ำในรายงาน:

ผู้นำมายาวนานและผู้สนับสนุนระดับโลกเพื่อการเสริมพลังสตรี

  • Mary Kay ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกกลายเป็นผู้ลงนาม WEPs
  • ใช้กลยุทธ์การพัฒนา “All For Her” เพื่อให้การสนับสนุนรอบด้านสำหรับที่ปรึกษาด้านความงามอิสระ

เพิ่มขีดความสามารถของสตรีผ่านธุรกิจ

  • ตั้งแต่ปี 2022 ถึงเดือนมีนาคม 2023 มีที่ปรึกษาด้านความงามอิสระ 1,327,082 คนเข้าร่วมการฝึกอบรม

ตั้งแต่ปี 2020 ถึง 2022 Mary Kay ได้ลงทุนมากกว่า 80 ล้านหยวน (หยวนจีน) ในการเพิ่มศักยภาพทางดิจิทัลเพื่อพัฒนาเครื่องมือทางธุรกิจออนไลน์และออฟไลน์สำหรับที่ปรึกษาด้านความงาม

สถานที่ที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้หญิงในการทำงาน

  • ในปี 2022 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงในทีมผู้บริหารและพนักงานของ Mary Kay China ทั้งคู่อยู่ที่ 57% ในขณะที่ 64% ของพนักงานที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้หญิงด้วย
  • ในปี 2022 พนักงานของ Mary Kay China 93% ได้เข้าร่วมการฝึกอบรมเกี่ยวกับการจัดการโปรเจ็ค แนวโน้มของตลาด และความเป็นผู้นำ โดยมีเซสชันการฝึกอบรมเฉลี่ย 1.6 ครั้งต่อคน เวลาการฝึกอบรม 6 ชั่วโมง และเงินลงทุนในการฝึกอบรม 1,500 หยวน

การให้กลับคืนสู่ชุมชน

  • ณ เดือนเมษายน 2023 ผู้หญิงทั้งหมด 257,117 คนได้รับประโยชน์จากโครงการ CSR ของ Mary Kay China
  • ในปี 2022 ที่ปรึกษาด้านความงามอิสระของ Mary Kay China และพนักงาน 1,267 คนได้บริจาคเงินในการให้บริการอาสาสมัครมากกว่า 9,000 ชั่วโมงในความสามารถที่หลากหลาย: ทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครที่ไม่ใช่แพทย์ในศูนย์ศัลยกรรมปากแหว่งเพดานโหว่ ช่วยทำความสะอาดชุมชนของพวกเขา หรือจัดชั้นเรียนความงามฟรีเพื่อการกุศล

เกี่ยวกับ Mary Kay

Then. Now. Always. (ตั้งแต่ก่อนนั้น ตอนนี้และตลอดไป) Mary Kay Ash เป็นหนึ่งในผู้ทำลายเพดานกระจกเดิม เธอได้ก่อตั้งแบรนด์ความงามในฝันของตัวเองในเท็กซัสเมื่อปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือ เพื่อทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น ความฝันนั้นเบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทระดับโลกที่มีสมาชิกพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ เป็นเวลา 60 ปีที่โอกาสของ Mary Kay ได้เพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการกำหนดอนาคตของตนเองผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ล้ำสมัย เครื่องสำอางตกแต่งสี อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อในการรักษาโลกของเราไว้ให้กับคนรุ่นใหม่ในอนาคต การปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งและการละเมิดในครอบครัว และส่งเสริมให้เยาวชนทำตามความฝันของพวกเขา เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com ค้นหาเกี่ยวกับเราใน  Facebook Instagram และ LinkedIn หรือติดตามเราใน X (ชื่อเดิมคือ Twitter)

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/53871013/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ฝ่ายสื่อสารองค์กร Mary Kay Inc.
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

แหล่งที่มา: Mary Kay Inc.



แก้ไขและแทนที่: Aurora, PTT Station และ Royal Umbrella เป็นหนึ่งในผู้ชนะเลิศคว้ารางวัล 2023 – 2024 World Branding Awards

Logo

LONDON–(BUSINESS WIRE)–15 ธันวาคม 2023

World Branding Awards ครั้งที่ 17 ยกย่องความสำเร็จและบรรลุเป้าหมายสำหรับกลุ่มแบรนด์ที่ดีที่สุดของโลก ในฐานะผู้ชนะเลิศระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก 2023 – 2024 World Branding Awards มีแบรนด์เข้าร่วมมากกว่า 1,500 แบรนด์จากกว่า 40 ประเทศที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น “แบรนด์แห่งปี” ในจำนวนนี้ มีไม่ถึง 200 แบรนด์ที่เป็นหนึ่งในผู้ชนะเลิศ

พิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้จัดขึ้นที่ต้นกำเนิดของรางวัลนี้ นั่นคือ พระราชวังเคนซิงตัน สหราชอาณาจักร โดยได้ต้อนรับแขกกว่า 100 คนทั่วโลก และดำเนินรายการโดย David Croft ผู้จัดรายการโทรทัศน์ชื่อดัง

ผู้ชนะเลิศระดับโลกที่ได้พิสูจน์ความเป็นเลิศและการสร้างแบรนด์อย่างไร้ที่ติในอุตสาหกรรม ได้แก่ Sunsilk (สหราชอาณาจักร), LURPAK (เดนมาร์ก), Marriott International (สหรัฐอเมริกา), และ IKEA (สวีเดน)

ผู้ชนะเลิศจากประเทศไทย ได้แก่ Thai Life Insurance, PTT Station, King Power, M-150, Café Amazon, Royal Umbrella, Aurora, VITADAY, TrueOnline, Farmhouse, และ TOPS ผู้ชนะเลิศจากประเทศอื่นๆ ได้แก่ FERN- D (ฟิลิปปินส์), Frank & Co. (อินโดนีเซีย), Chow Tai Fook (ฮ่องกง), Sokos Hotels (ฟินแลนด์), Mercadona (สเปน), Airland (ฮ่องกง), และ Getha (มาเลเซีย) และยังมีแบรนด์อื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึงในที่นี้

มีเพียง 14 แบรนด์เท่านั้นที่คว้ารางวัล Regional Tier ในปีนี้ ได้แก่ Nippon Rent-A-Car (ญี่ปุ่น), GIG (คูเวต), MR.DIY (มาเลเซีย), M-150 (ไทย), HECOM (ฮ่องกง), และ VITADAY (ไทย) แบรนด์เหล่านี้ได้รับการโหวตให้เป็นแบรนด์โปรดของผู้บริโภคใน 4 ประเทศขึ้นไปภายใต้ 3 ภูมิภาคขึ้นไปทางภูมิศาสตร์ที่เฉพาะเจาะจง

“นี่เป็นการเฉลิมฉลองความพยายามอย่างต่อเนื่องซึ่งมีความสำคัญต่อการสร้างแบรนด์ที่โดดเด่น ในการคงการตอบรับแบรนด์อย่างต่อเนื่อง แบรนด์จะต้องมีการสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่น สะท้อนถึงความเป็นแบรนด์และคงอยู่ตราบเท่านาน ซึ่งไม่เพียงเป็นการสร้างวัฒนธรรมและชุมชนสำหรับแบรนด์ผ่านการตลาดเท่านั้น แต่ยังต้องรับประกันได้ว่า ผู้คนทุกเจนเนอเรชันจะยังให้การตอบรับแบรนด์และมีความสนใจในแบรนด์อย่างต่อเนื่อง” Mr Richard Rowles ประธานของ World Branding Forum กล่าว

ในปีนี้ มีผู้บริโภคเข้าร่วมในการเสนอชื่อทั่วโลกมากกว่า 150,000 คน โดยเฉลี่ยแล้ว ในแต่ละประเทศมีเพียง 5 แบรนด์เท่านั้นที่คว้ารางวัลชนะเลิศ ซึ่งพิสูจน์ได้ว่า การได้รับรางวัล World Branding Award นี้ถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งยวด

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและรายชื่อผู้ชนะเลิศทั้งหมดได้ที่ awards.brandingforum.org

เกี่ยวกับ WORLD BRANDING AWARDS

World Branding Awards เป็นรางวัลอันทรงเกียรติของ World Branding Forum ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ได้รับการจดทะเบียน รางวัลนี้เป็นการยกย่องความสำเร็จของแบรนด์ที่ดีที่สุดของโลก

โซเชียลมีเดีย

Facebook: https://www.facebook.com/worldbrandingforum/

Twitter: https://twitter.com/WorldBranding

Instagram: https://www.instagram.com/worldbranding/

LinkedIn: https://linkedin.com/company/world-branding-forum

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

อีเมล: editorial@brandingforum.org

แหล่งข้อมูล: World Branding Awards

Panda High Plains Hemp Gin ดำเนินการขั้นสุดท้ายในการเปิดตัวโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปกัญชาที่ใหญ่ที่สุดสำหรับโลกตะวันตกทางออนไลน์

Logo

DALLAS–(BUSINESS WIRE)–12 ธันวาคม 2023

Panda Biotech ประกาศในวันนี้ว่า การก่อสร้างอาคารได้เสร็จสมบูรณ์ และขั้นตอนการเริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการเพื่อเปิดตัวโครงการ Panda High Plains Hemp Gin™ (the “Panda Hemp Gin”) สู่ตลาดออนไลน์จะเริ่มต้นในช่วงต้นไตรมาสที่ 4 กระบวนการทดสอบการใช้งานเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาสที่ 1 ปี 2024 ในโรงงานขนาด 500,000 ตารางฟุตในเมือง Wichita Falls รัฐเท็กซัส Panda Hemp Gin จะดำเนินการแปรรูปกัญชาระดับอุตสาหกรรมเป็นปริมาณ 10 เมตริกตันต่อชั่วโมง เพื่อใช้ในการผลิตเส้นใยเกรดสำหรับสิ่งทอ กากใยผสม กากใยผสมแบบสั้น และผลิตภัณฑ์พลอยได้ที่อุดมด้วยสารอาหาร ซึ่งจะมีการนำมาอัดเป็นก้อน โรงงานแห่งนี้คาดว่าจะเป็นศุนย์แปรรูปกัญชาที่ใหญ่ที่สุดสำหรับโลกตะวันตก และเป็นหนึ่งในศูนย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

Inside the Panda Hemp Gin, a 500,000 square foot industrial hemp processing facility in Witchita Falls, Texas scheduled to begin commercial operations Q1 2024. (Photo: Business Wire)

ภายใน Panda Hemp Gin ซึ่งเป็นโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปกัญชาขนาด 500,000 ตารางฟุตในเมือง Wichita Falls รัฐเท็กซัส มีกำหนดจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2024 (ภาพถ่าย: Business Wire)

“ในแต่ละส่วนของสายการผลิต Panda Hemp Gin รวมถึงท่อลมเหนือศีรษะความยาวสามไมล์ การกลั่น การผสม ระบบทอฝ้ายเชิงกล การบรรจุถุงและจัดเก็บ การอัดก้อน และอื่นๆ จะมีการเริ่มการทำงาน ตรวจสอบ ปรับสมดุล และทดสอบการใช้งานแยกกัน” Scott Evans รองประธานบริหารของ Panda Biotech กล่าว “ปัจจุบัน อุปกรณ์ทั้งหมดได้รับการนำเข้าระบบออนไลน์เพื่อให้บริการอย่างเป็นทางการโดยแยกแต่ละอุปกรณ์”

กระบวนการทางวิศวกรรมและการผลิตที่ Panda Hemp Gin ได้รับการรับรองโลกสีเขียวจาก Mid-South Engineering Company โดยมีการใช้เฉพาะแหล่งพลังงานหมุนเวียน ตามหลักการ Green Bond ของ International Capital Market Association โดย Panda Biotech ยังมีการร่วมมือกับ Oritain ซึ่งเป็นบริษัทตรวจสอบย้อนกลับทางวิทยาศาสตร์ เพื่อนำกัญชาที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้สูงสุดที่ปลูกในสหรัฐอเมริกา 100 เปอร์เซนต์ออกสู่ตลาด

นอกเหนือจากนี้ Panda Biotech มีการลงนามในสัญญากับผู้ผลิตเพื่อปลูกต้นกัญชงสำหรับฤดูการปลูกในปี 2024 รวมถึงการซื้อเส้นใยป่านกัญชาที่ได้รับการเก็บเกี่ยวหรือแปรรูปแล้ว เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทได้เปิดตัวโปรแกรมการจ่ายเพื่อปลูกที่ไม่มีใครเทียบได้สำหรับผู้ผลิตเพื่อเริ่มปลูกกัญชาจาก Panda ด้วยเงินรับประกันล่วงหน้าและการสนับสนุนด้านพืชไร่ ผู้ผลิต Panda ยังได้รับเมล็ดพันธุ์ที่ผ่านการทดสอบและผ่านการพิสูจน์แล้วโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และประสบความสำเร็จในการลดความเสี่ยงที่ผู้ผลิตอาจประสบและเน้นย้ำความมุ่งมั่นและคำมั่นสัญญาจาก Panda ในการสนับสนุนชุมชนเกษตรกรรม ประโยชน์ในการปลูกกัญชานั้นมีมาก เนื่องจากเป็นพืชหมุนเวียนที่ดีเยี่ยม ซึ่งช่วยในการปรับสภาพดินและให้อัตรากำไรที่สูง หากสนใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติม สามารถใช้แบบสอบถามสำหรับผู้ปลูกได้ที่ pandabiotech.com

เกี่ยวกับ PANDA BIOTECH

Panda Biotech, LLC เป็นบริษัทเอกชน ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมือง Dallas รัฐเท็กซัส และเป็นผู้บุกเบิกรายแรกในอุตสาหกรรมเส้นใยป่านกัญชาและกากใย Panda Biotech มีประสบการณ์ด้านการบริหารระดับผู้นำในการพัฒนา จัดหาเงินทุน ก่อสร้าง และดำเนินการสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่สำหรับพลังงานสะอาด โดยมีการพัฒนาโครงการ 22 โครงการด้วยเงินทุน 12 พันล้านเหรียญสหรัฐโดยประมาณ ปัจจุบัน บริษัทกำลังพัฒนาโรงงานผลิตเหล้าจินจากกัญชาเชิงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โครงการแรกของ Panda คือ Panda High Plains Hemp Gin™ LLC (Panda Hemp Gin) โดยเป็นความร่วมมือกันกับ Aka-Ag, LLC ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Southern Ute Indian Tribe Growth Fund โรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ Wichita Falls รัฐเท็กซัส โดยเป็นโรงงานแปรรูปกัญชาขนาดใหญ่ที่สุดสำหรับโลกตะวันตก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pandabiotech.com และ @pandabiotech บน Instagram, Twitter หรือ LinkedIn

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Beth Gebhard
SVP, Marketing and Public Relations
beth.gebhard@pandabiotech.com

แหล่งข้อมูล: Panda Biotech

Aurora, PTT Station และ Royal Umbrella เป็นหนึ่งในผู้ชนะเลิศคว้ารางวัล 2023 – 2024 World Branding Awards

Logo

LONDON–(BUSINESS WIRE)–8 ธันวาคม 2023

World Branding Awards ครั้งที่ 17 ยกย่องความสำเร็จและบรรลุเป้าหมายสำหรับกลุ่มแบรนด์ที่ดีที่สุดของโลก ในฐานะผู้ชนะเลิศระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก 2023 – 2024 World Branding Awards มีแบรนด์เข้าร่วมมากกว่า 1,500 แบรนด์จากกว่า 40 ประเทศที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น “แบรนด์แห่งปี” ในจำนวนนี้ มีไม่ถึง 200 แบรนด์ที่เป็นหนึ่งในผู้ชนะเลิศ

พิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้จัดขึ้นที่ต้นกำเนิดของรางวัลนี้ นั่นคือ พระราชวังเคนซิงตัน สหราชอาณาจักร โดยได้ต้อนรับแขกกว่า 100 คนทั่วโลก และดำเนินรายการโดย David Croft ผู้จัดรายการโทรทัศน์ชื่อดัง

ผู้ชนะเลิศระดับโลกที่ได้พิสูจน์ความเป็นเลิศและการสร้างแบรนด์อย่างไร้ที่ติในอุตสาหกรรม ได้แก่ Sunsilk (สหราชอาณาจักร), LURPAK (เดนมาร์ก), Marriott International (สหรัฐอเมริกา), และ IKEA (สวีเดน)

ผู้ชนะเลิศจากประเทศไทย ได้แก่ Thai Life Insurance, PTT Station, M-150, Café Amazon, Royal Umbrella, Aurora, VITADAY, TrueOnline, Farmhouse, และ TOPS ผู้ชนะเลิศจากประเทศอื่นๆ ได้แก่ FERN- D (ฟิลิปปินส์), Frank & Co. (อินโดนีเซีย), Chow Tai Fook (ฮ่องกง), Sokos Hotels (ฟินแลนด์), Mercadona (สเปน), Airland (ฮ่องกง), และ Getha (มาเลเซีย) และยังมีแบรนด์อื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึงในที่นี้

มีเพียง 14 แบรนด์เท่านั้นที่คว้ารางวัล Regional Tier ในปีนี้ ได้แก่ Nippon Rent-A-Car (ญี่ปุ่น), GIG (คูเวต), MR.DIY (มาเลเซีย), M-150 (ไทย), HECOM (ฮ่องกง), และ VITADAY (ไทย) แบรนด์เหล่านี้ได้รับการโหวตให้เป็นแบรนด์โปรดของผู้บริโภคใน 4 ประเทศขึ้นไปภายใต้ 3 ภูมิภาคขึ้นไปทางภูมิศาสตร์ที่เฉพาะเจาะจง

“นี่เป็นการเฉลิมฉลองความพยายามอย่างต่อเนื่องซึ่งมีความสำคัญต่อการสร้างแบรนด์ที่โดดเด่น ในการคงการตอบรับแบรนด์อย่างต่อเนื่อง แบรนด์จะต้องมีการสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่น สะท้อนถึงความเป็นแบรนด์และคงอยู่ตราบเท่านาน ซึ่งไม่เพียงเป็นการสร้างวัฒนธรรมและชุมชนสำหรับแบรนด์ผ่านการตลาดเท่านั้น แต่ยังต้องรับประกันได้ว่า ผู้คนทุกเจนเนอเรชันจะยังให้การตอบรับแบรนด์และมีความสนใจในแบรนด์อย่างต่อเนื่อง” Mr Richard Rowles ประธานของ World Branding Forum กล่าว

ในปีนี้ มีผู้บริโภคเข้าร่วมในการเสนอชื่อทั่วโลกมากกว่า 150,000 คน โดยเฉลี่ยแล้ว ในแต่ละประเทศมีเพียง 5 แบรนด์เท่านั้นที่คว้ารางวัลชนะเลิศ ซึ่งพิสูจน์ได้ว่า การได้รับรางวัล World Branding Award นี้ถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งยวด

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและรายชื่อผู้ชนะเลิศทั้งหมดได้ที่ awards.brandingforum.org

เกี่ยวกับ WORLD BRANDING AWARDS

World Branding Awards เป็นรางวัลอันทรงเกียรติของ World Branding Forum ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ได้รับการจดทะเบียน รางวัลนี้เป็นการยกย่องความสำเร็จของแบรนด์ที่ดีที่สุดของโลก

โซเชียลมีเดีย

Facebook: https://www.facebook.com/worldbrandingforum/

Twitter: https://twitter.com/WorldBranding

Instagram: https://www.instagram.com/worldbranding/

LinkedIn: https://linkedin.com/company/world-branding-forum

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

อีเมล: editorial@brandingforum.org

แหล่งข้อมูล: World Branding Awards

นักวิจัยโรคมะเร็งชื่อดังระดับโลกจากสเปนและสหรัฐอเมริกา ผนึกกำลังเพื่อจัดการกับความต้องการและความท้าทายที่สำคัญในการวิจัยโรคมะเร็งในสตรี

Logo

จากสถิติพบว่าผู้หญิง 1 ใน 3 จะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระหว่างที่มีชีวิตอยู่ ความก้าวหน้าในการวิจัยและการรักษาอย่างทันท่วงทีมีความสำคัญต่อสุขภาพของผู้หญิง

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–8 ธันวาคม 2023

Mary Kay Inc.ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางตกแต่งสีขายตรงอันดับ 1 ของโลก และมูลนิธิที่บริษัทสนับสนุน ซึ่งรวมถึงมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundationในสหรัฐอเมริกา ยังคงให้การสนับสนุนอย่างมั่นคง เพื่อการวิจัยโรคมะเร็งของผู้หญิงผ่านการให้ทุนสนับสนุนแผนงานวิจัย และโครงการวิจัยต่างๆ การมอบทุนให้กับนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และการอำนวยความสะดวกในการทดลองทางคลินิก ทั้งหมดนี้เพื่อการค้นหาวิธีการรักษา

”The incidence of breast cancer in women is seeing an upward trend in the world, and today we can say that 1 in 3 women will be diagnosed with cancer in their lifetime,” said Dr. O’Shaughnessy (Courtesy of Joyce O'Shaughnessy, M.D.).

“อุบัติการณ์ของโรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิงกำลังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และในปัจจุบันเราสามารถพูดได้ว่าผู้หญิง 1 ใน 3 จะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระหว่างที่มีชีวิตอยู่” ดร. O’Shaughnessy กล่าว (ได้รับความอนุเคราะห์จากแพทย์หญิง Joyce O'Shaughnessy)

เมื่อเร็วๆ นี้ Mary Kay ได้จัดการประชุมเสมือนจริงระหว่าง ดร. Joyce O'Shaughnessyเฉลิมฉลองประธานสตรีในการวิจัยมะเร็งเต้านมที่ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยเบย์เลอร์และประธานการวิจัยมะเร็งเต้านมที่ U.S. Oncology ในดัลลัส รัฐเท็กซัส และ ดร. Eva Ciruelos ผู้ประสานงานหน่วยมะเร็งเต้านม โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย และ โรงพยาบาล HM และประธานกลุ่ม SOLTI ด้านการวิจัยมะเร็งเต้านมและมูลนิธิ FERO ที่ได้รับทุนการสนับสนุนจาก Mary Kay Spain ซึ่งประจำอยู่ในกรุงมาดริด ประเทศสเปน ทั้งสองเป็นผู้นำทีมวิจัยของตนเองในประเทศบ้านเกิดของตน โดยมุ่งเน้นที่การสืบสวนรูปแบบมะเร็งที่หายากและลุกลามในสตรี ได้แก่ มะเร็งเต้านมระยะลุกลามชนิดทริปเปิลเนกาทีฟ (TNBC)  แม้จะอยู่ห่างจากกันหลายพันไมล์ แต่ทั้งสองรู้จักกันมานาน – และร่วมมือกันเป็นเวลาหลายปีในการวิจัย TNBC เพื่อค้นหาวิธีแก้ปัญหาและการรักษาโรคร้ายแรงนี้

นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ 2 คนในสาขาของตน นั่งลงเพื่อหารือเกี่ยวกับความสำคัญของความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ระดับโลก โดยเน้นย้ำถึงความเร่งด่วนสำหรับนักวิจัยทั่วโลกในการแบ่งปันการค้นพบและความก้าวหน้าเพื่อรวบรวมผลลัพธ์

“มันไม่ใช่เรื่องของการมีความคิดที่ดีที่สุด แต่เป็นการร่วมมือกันเพื่อให้ผู้ป่วยแต่ละรายได้รับการรักษาที่ดีที่สุด และนี่คือสิ่งที่ต้องซึมซาบในอุตสาหกรรมการแพทย์ คลินิก และเภสัชกรรม อุบัติการณ์ของโรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิงกำลังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และในปัจจุบันเราสามารถพูดได้ว่าผู้หญิง 1 ใน 3 จะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระหว่างที่มีชีวิตอยู่2” ดร. O’Shaughnessy กล่าว

“หากไม่มีความร่วมมืออย่างต่อเนื่องระหว่างผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด คงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะวินิจฉัยโรคที่เฉพาะเจาะจงได้” ดร.Ciruelos ให้ความเห็น “การติดตามการรักษาของผู้ป่วยแต่ละรายในลักษณะเฉพาะบุคคลถือเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อนั้นเราจะสามารถระบุได้ว่าเหตุใดการรักษาแบบเดียวกันสำหรับผู้ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันจึงได้ผลสำหรับบางคน แต่ไม่ใช่สำหรับคนอื่นๆ”

พวกเขายืนยันความผิดหวังกับความแตกต่าง และความไม่เท่าเทียมกัน ที่พวกเขาเห็นในการเข้าถึงการรักษา ยา และการรักษาในประเทศต่างๆ และเรียกร้องให้มีความเป็นเอกภาพในการเสนอการรักษาที่เท่าเทียมกันมากขึ้นสำหรับผู้ป่วยทุกคน โดยไม่คำนึงถึงที่อยู่อาศัยของพวกเขา นักวิจัยทั้งสองยังเห็นพ้องกันว่าการหาเวลาอุทิศตนให้กับการวิจัยโรคมะเร็งอย่างเต็มที่เป็นเรื่องยาก เนื่องจากต้องรับมือกับความท้าทายด้านเงินทุน และแสดงความขอบคุณต่อผู้สนับสนุน ซึ่งรวมถึงมูลนิธิ Mary Kay Ash และมูลนิธิ Fero ที่ทำให้งานช่วยชีวิตของพวกเขาเป็นไปได้

ดร. O'Shaughnessy กล่าวเสริมว่า “ในปี 1985 เรารู้สึกหงุดหงิดอย่างมากจากการไม่มีทางเลือกในการรักษาสำหรับผู้หญิงที่เป็นมะเร็ง วันนี้เราเห็นความก้าวหน้าอย่างมากในเรื่องนี้ และฉันก็มองโลกในแง่ดีขึ้นต่อความสำเร็จของนักวิจัยรุ่นต่อไป”

ด้วยการให้ทุนสนับสนุนโครงการวิจัยมะเร็งโดยมูลนิธิ Mary Kay Ash ในสหรัฐอเมริกา และรางวัลมอบทุนของ Mary Kay Spain ให้กับมูลนิธิ FERO ในสเปน ทำให้ดร. O’Shaughnessy และ ดร. Ciruelos สามารถทำงานร่วมกันต่อไปได้ Mary Kay เป็นแถวหน้าของการวิจัยโรคมะเร็งของผู้หญิง โดยสนับสนุนการวิจัยที่ก้าวล้ำซึ่งนำโดยผู้หญิงเพื่อผู้หญิง Mary Kay มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือนักวิจัยทั่วโลก โดยสนับสนุนการวิจัยเชิงแปล (การวิจัยที่เชื่อมโยงการวิจัยในห้องปฏิบัติการกับผู้ป่วยโดยตรง) การทดลองทางคลินิกที่มุ่งปรับปรุงการตรวจหา การพยากรณ์โรค และการรักษาโรคมะเร็งในสตรี ตลอดจนองค์กรที่สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง เช่น มูลนิธิ FERO ในประเทศสเปน

ติดตามบทสนทนาเต็มๆ ของพวกเขาได้ที่ Mary Kay Global YouTube channel.

เกี่ยวกับ Mary Kay

จากนั้น ตอนนี้ เสมอ Mary Kay Ash หนึ่งในผู้ที่ทำสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำได้สำเร็จ ก่อตั้งแบรนด์ความงามในฝันของเธอในเท็กซัสเมื่อปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือการทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทระดับโลกที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ เป็นเวลากว่า 60 ปีแล้วที่ Mary Kay ได้เพิ่มศักยภาพให้กับผู้หญิงในการกำหนดอนาคตของตนเองผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสำอางตกแต่งสี ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และน้ำหอมที่ทันสมัย Mary Kay เชื่อในการรักษาโลกของเราสำหรับคนรุ่นต่อไปในอนาคต ปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็ง และความรุนแรงในครอบครัว และสนับสนุนให้เยาวชนทำตามความฝันของพวกเขา เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบเราได้ที่  Facebook Instagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ที่ X (เดิมชื่อว่าทวิตเตอร์)

1 “ที่มา บริษัท ยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ความงามและการดูแลส่วนบุคคล ฉบับปี 2023 ยอดขายมูลค่าที่ RSP ข้อมูลปี 2022”

2 สมาคมโรคมะเร็งอเมริกัน https://www.cancer.org/cancer/types/breast-cancer/about/how-common-is-breast-cancer.html

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53867905/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Mary Kay Inc. ฝ่ายสื่อสารองค์กร
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

แหล่งที่มา: Mary Kay Inc.


เปิดตัว APO Productivity Databook 2023

Logo

TOKYO–(BUSINESS WIRE)–6 ธันวาคม 2023

Asian Productivity Organization (APO) เปิดตัว APO Productivity Databook 2023 ซึ่งเป็นสิ่งพิมพ์ประจำปีที่รวบรวมสถิติและแนวโน้มความสามารถในการผลิตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างครอบคลุม โดยนำเสนอการวิเคราะห์โดยละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบการผลิตและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ช่วยให้ผู้ถือหุ้นทำความเข้าใจภูมิทัศน์ปัจจุบันและตัดสินใจได้ตามข้อมูล วิธีการที่เคร่งครัดและมาตรฐานการรวบรวมข้อมูลของ Databook ช่วยให้สามารถมั่นใจได้ถึงชื่อเสียงในฐานะแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ สำหรับทุกคนที่มีความสนใจในความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของประเทศในเอเชีย

Example of data from the APO Productivity Databook 2023: Figure 5.13 Half-Century Total Factor Productivity index by Country, 1970-2021 (Graphic: Business Wire)

ตัวอย่างข้อมูลจาก APO Productivity Databook 2023: ภาพ 5.13 ดัชนีความสามารถในการผลิตปัจจัยรวมครึ่งศตวรรษตาประเทศ ปี 1970-2021 (กราฟิก: Business Wire)

APO Productivity Databook เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล โดยสามารถช่วยเหลือผู้กำหนดนโยบาย ผู้นำทางธุรกิจ และนักวิจัยในการวางแผนเศรษฐกิจ เปรียบเทียบประสิทธิภาพการผลิตในประเทศกับมาตรฐานระดับภูมิภาคและระดับโลก และระบุโอกาสและความท้าทายในการเติบโต

ไฮไลต์สำคัญของ APO Productivity Databook 2023

  • โปรไฟล์สมาชิก APO ยี่สิบเอ็ดโปรไฟล์และโปรไฟล์ระดับภูมิภาคห้าแห่ง พร้อมตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพการทำงาน
  • แนะนำวิธีการใหม่ เช่น การรวมมูลค่าของทรัพยากรแร่ธาตุและพลังงาน (MER) และประเมินปริมาณที่ดินและคุณภาพแรงงานที่ดีขึ้น
  • แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ: ตั้งแต่ปี 2015 ถึง 2021 เศรษฐกิจของ Asia31 (สมาชิก APO 21 ราย และผู้ที่ไม่ใช่สมาชิก 10 ราย) เติบโตทุกปีที่ 4% ในปี 2021 คิดเป็น 48% ของเศรษฐกิจโลก เทียบกับสหรัฐอเมริกา (16%) และ EU27 (14%) การคาดการณ์ในปี 2030 ระบุว่า ส่วนแบ่งเศรษฐกิจโลกของเอเชียเพิ่มขึ้นเป็น 53%
  • การวิเคราะห์เฉพาะภาคส่วน: แม้จะมีการกระจายภาคส่วน เกษตรกรรม ป่าไม้ และประมง ยังคงครอบสัดส่วนในการจ้างงานในเอเชียในปี 2021 โดยคิดเป็นสัดส่วนของการจ้างงานถึง 30% ในขณะเดียวกัน การผลิตก็กลายเป็นภาคส่วนที่สำคัญ คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 20% ของมูลค่าเพิ่มทั้งหมดใน 12 ประเทศในเอเชีย

APO Productivity Databook 2023 มีจำหน่ายทั้งในรูปแบบดิจิทัลและฉบับพิมพ์ และสามารถเข้าดูและดาวน์โหลดได้ฟรีจากลิงก์ด้านล่าง

https://doi.org/10.61145/TRKP9496

จะมีการอัปเดต APO Productivity Database 2023 ซึ่งเป็นเครื่องมือออนไลน์ที่แสดงข้อมูลการผลิตของ 31 ประเทศในเอเชีย และเกณฑ์มาตรฐานจากกลุ่มเศรษฐกิจหลายกลุ่มทั่วโลกในลิงก์ด้านล่างด้วยเช่นกัน

https://www.apo-tokyo.org/productivitydatabook/

เกี่ยวกับ APO

Asian Productivity Organization (APO) เป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลระดับภูมิภาคที่อุทิศตนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยไม่เกี่ยวกับการเมือง ไม่แสวงหาผลประโยชน์ และไม่เลือกปฏิบัติ มีการก่อตั้งขึ้นในปี 1961 โดยมีสมาชิกผู้ก่อตั้งแปดคน และปัจจุบัน APO ประกอบด้วยประเทศสมาชิก 21 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ กัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ฟิจิ ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย อิหร่าน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สปป.ลาว มาเลเซีย มองโกเลีย เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ศรีลังกา ไทย เตอร์กิเย และเวียดนาม

APO วางแผนในการกำหนดอนาคตของภูมิภาคโดยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศสมาชิกผ่านบริการให้คำปรึกษาด้านนโยบายระดับชาติ โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางความคิด โครงการริเริ่มในการสร้างขีดความสามารถของสถาบัน และการแบ่งปันความรู้เพื่อเพิ่มผลผลิต

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53867246/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ติดต่อเพื่อขอรายละเอียด:
Digital Information Unit, APO: pr@apo-tokyo.org;
โทร: +81-3-3830-0411;
เว็บไซต์: https://www.apo-tokyo.org.

แหล่งข้อมูล: Asian Productivity Organization

Mary Kay ขยายสู่ฮังการี การยกระดับความงามและการสร้างเสริมพลังในยุโรปกลาง

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–1 ธันวาคม 2023

บริษัท Mary Kay Inc. ซึ่งเป็นแบรนด์ความงามอันโดดเด่นและผู้สนับสนุนระดับโลกในการสร้างเสริมศักยภาพของผู้หญิงในระดับโลก รู้สึกตื่นตเต้นที่ได้ประกาศถึงการขยายุรกิจไปยังฮังการี ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่ถือเป็นการรุกครั้งล่าสุดของบริษัทในตลาดยุโรป การขยายธุรกิจนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการฉลองครบรอบ 60 ปีที่สำคัญของ Mary Kay โดยเน้นย้ำถึงมรดกที่ยืนยาวในการนำเสนอโอกาสในการเป็นผู้ประกอบการที่ไม่มีใครเทียบได้และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอางแบบมีสีคุณภาพสูง

With Hungary’s rich cultural tapestry, vibrant heritage, and dynamic economy, Mary Kay Inc. is set to introduce a range of initiatives aimed at bolstering the economic empowerment of Hungarian women. (Credit: Mary Kay Inc.)

ด้วยพรมวัฒนธรรมอันมั่งคั่งของฮังการี มรดกอันมีชีวิตชีวา และเศรษฐกิจที่ไม่หยุดนิ่ง Mary Kay Inc. จึงเตรียมที่จะแนะนำโครงการริเริ่มสร้างสรรค์ต่างๆ ที่มุ่งเป้าไปยังการส่งเสริมการเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจของหญิงสาวชาวฮังการี (เครดิต: Mary Kay Inc. )

การดำเนินงานของ Mary Kay Hungary จะได้รับการดูแลจากสำนักงานของ Mary Kay ในสาธารณรัฐเช็ก ณ กรุงปราก เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการขยายตัวครั้งยิ่งใหญ่นี้ จึงมีการจัดกิจกรรมทั้งในปรากและบูดาเปสต์ การขยายธุรกิจนี้ต่อยอดมาจากการได้รับรางวัลล่าสุดของแบรนด์ในการเป็นแบรนด์ขายตรงอันดับ 1 ของโลกในด้านผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางสีโดยบริษัท Euromonitor International1

“การขยายธุรกิจไปยังฮังการีเป็นสิ่งหนึ่งที่เราคำนึงถึงมาโดยตลอด และเรารู้ว่าถึงเวลาที่จะแนะนำโอกาสในการทำงานที่ไม่มีใครเทียบได้และผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ในตลาดใหม่แห่งนี้มาถึงแล้ว” Tara Eustace ประธานของ Mary Kay ในภูมิภาคยุโรปกล่าว “ฉันมั่นใจว่าภายใต้การนำของ Edita Szaboova และตลาด Mary Kay สาธารณรัฐเช็กและสโลวาเกียที่ประสบความสำเร็จอย่างมากของเรา เราจะสร้างโอกาสในการสร้างรายได้ที่สดใสและมีความเป็นไปได้สำหรับผู้หญิงในฮังการี”

Edita Szaboova ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay สาธารณรัฐเช็กและสโลวาเกีย แสดงความกระตือรือร้นเกี่ยวกับการขยายตลาดใหม่

“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มอบอำนาจให้กับเหล่าผู้ประกอบการหญิงที่มีความมุ่งมั่นในฮังการี ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจหลักของเราในการยกระดับชีวิตของผู้หญิง” Szaboova กล่าว “การเป็นผู้ประกอบการได้รับความเคารพและการสนับสนุนอย่างสูงในฮังการี และงานวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงจะเปิดรับโอกาสใหม่นี้ในการทำงาน เรียนรู้ และสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนของตนเองได้”

ด้วยพรมวัฒนธรรมอันมั่งคั่งของฮังการี มรดกอันมีชีวิตชีวา และเศรษฐกิจที่ไม่หยุดนิ่ง บริษัท Mary Kay Inc. พร้อมที่จะแนะนำโครงการริเริ่มสร้างสรรค์ต่างๆ ที่มุ่งส่งเสริมการเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของหญิงสาวชาวฮังการี โดยโครงการริเริ่มเหล่านี้ได้รวมถึงโปรแกรมการศึกษา การให้คำปรึกษา และการลงทุนทางเศรษฐกิจที่สำคัญในประเทศอีกด้วย

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดติดตาม Mary Kay Hungary ออนไลน์ได้ที่ www.marykay.hu และเชื่อมต่อกันอยู่เสมอบน Instagram และ Facebook

About Mary Kay

Then. Now. Always. (ตั้งแต่ก่อนนั้น ตอนนี้และตลอดไป) Mary Kay Ash เป็นหนึ่งในผู้ทำลายเพดานกระจกดั้งเดิม เธอได้ก่อตั้งแบรนด์ความงามในฝันของตัวเองในเท็กซัสเมื่อปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือ เพื่อทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น ความฝันนั้นเบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทระดับโลกที่มีสมาชิกพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ เป็นเวลา 60 ปีที่โอกาสของ Mary Kay ได้เพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการกำหนดอนาคตของตนเองผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ล้ำสมัย เครื่องสำอางตกแต่งสี อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อในการรักษาโลกของเราไว้ให้กับคนรุ่นใหม่ในอนาคต การปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งและการละเมิดในครอบครัว และส่งเสริมให้เยาวชนทำตามความฝันของพวกเขา เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่  marykayglobal.com ค้นหาเกี่ยวกับเราใน Facebook Instagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ใน X (ชื่อเดิมคือ Twitter)

1 ” ที่มา Euromonitor International Limited; ความงามและการดูแลส่วนบุคคล ฉบับปี 2023 ยอดขายมูลค่าที่ราคาปลีกผู้บริโภค (RSP) ข้อมูลปี 2022”

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ฝ่ายสื่อสารองค์กร Mary Kay Inc.
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

แหล่งที่มา: Mary Kay Inc.




APO ยังคงให้ความสนับสนุน สปป.ลาว ในการเพิ่มผลผลิต

Logo

TOKYO–(BUSINESS WIRE)–28 พฤศจิกายน 2023

Dr. Indra Pradana Singawinata เลขาธิการ Asian Productivity Organization (APO) เยือน สปป.ลาว เมื่อวันที่ 23 และ 24 เดือนพฤศจิกายน ปี 2023 เพื่อพบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูง และเปิดงานเทศกาลการเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ

APO Secretary-General Dr. Indra Pradana Singawinata (L) with Deputy Prime Minister and Minister of Foreign Affairs, H.E. Saleumxay Kommasith. (Photo: Business Wire)

Dr. Indra Pradana Singawinata เลขาธิการ APO (ซ) พร้อมด้วย H.E. Saleumxay Kommasith รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (ภาพถ่าย: Business Wire)

ในระหว่างการเยือน Dr. Indra เลขาธิการ ได้พบกับ H.E. Saleumxay Kommasith รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ H.E. Malaythong Kommasith รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ เพื่อหารือเกี่ยวกับความท้าทายด้านการผลิตและโอกาสที่ สปป.ลาว กำลังเผชิญ และการสนับสนุนจาก APO สำหรับกลยุทธ์การผลิตระดับชาติ รองนายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณต่อ APO สำหรับการสนับสนุนการขับเคลื่อนการผลิตของประเทศอย่างต่อเนื่อง และชื่นชมประสิทธิผลของการให้ความช่วยเหลือจาก APO ต่อ SME และภาครัฐของ สปป.ลาว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวง Kommasith เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างผลกระทบโดยตรงในวงกว้าง เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตที่มีผลต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ด้วยตลาดที่เปิดเสรีมากขึ้นในภูมิภาค ความสามารถในการแข่งขันจึงเป็นเป้าหมายหลักในการเพิ่มประสิทธิภาพ โดยหวังว่า จะได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องและมากยิ่งขึ้นจาก APO ต่อความคืบหน้าในการผลิตของ สปป.ลาว

Dr. Indra เลขาธิการ แสดงความยินดีกับ สปป.ลาว สำหรับความคืบหน้าที่โดดเด่นในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตนับตั้งแต่เข้าร่วม APO ในปี 2002 ซึ่งบรรลุระดับการเติบโตของแรงงานได้เร็วที่สุดในกลุ่มประเทศสมาชิกอื่นๆ ในระหว่างปี 2011–17 นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ สปป.ลาว จะต้องกระจายโครงสร้างทางเศรษฐกิจและส่งเสริมการเติบโตของผลิตภาพในภาคส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะในกลุ่ม SME ซึ่งเป็นกลุ่มหลักที่สำคัญของเศรษฐกิจ และเป็นแหล่งสร้างงานและรายได้ การปรับปรุงการจัดการด้านกฎระเบียบที่สนับสนุนการผลิต และการดำเนินธุรกิจที่ง่ายดายยิ่งขึ้นเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่สามารถนำไปปรับใช้งานได้  Dr. Indra กล่าวเสริม

เลขาธิการ APO เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ APO ในการทำงานร่วมกันกับ สปป.ลาว ในการผลิต โดยให้บริการที่ปรึกษาด้านนโยบาย โครงการเสริมสร้างขีดความสามารถ โครงการริเริ่มที่ชาญฉลาด และแพลตฟอร์มการแบ่งปันความรู้ นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้ สปป.ลาว ใช้ประโยชน์จากการเป็นสมาชิกใน APO และรับประโยชน์จากแนวทางปฏิบัติและประสบการณ์ที่ดีของสมาชิกอื่นๆ

Dr. Indra เลขาธิการ ยังเปิดงาน National Productivity Festival และ Exhibition on Innovations for Higher Quality ซึ่งจัดโดย Department of Small and Medium Enterprise of the Ministry of Industry and Commerce ของ สปป.ลาว โดยกล่าวยกย่องความคิดสร้างสรรค์และพลวัตของชาวลาวและองค์กรที่มุ่งมั่นปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพในด้านต่างๆ รวมถึงเยาวชน และหวังว่างานมหกรรมและนิทรรศการนี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดนวัตกรรมและความร่วมมือมากยิ่งขึ้นระหว่างผู้ถือหุ้นระดับประเทศ รวมถึง สปป.ลาว และสมาชิก APO รายอื่นๆ

เกี่ยวกับ APO

Asian Productivity Organization (APO) เป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลระดับภูมิภาคที่อุทิศตนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกผ่านความร่วมมือกัน โดยไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่แสวงหาผลกำไร และไม่เลือกปฏิบัติ APO ก่อตั้งขึ้นในปี 1961 โดยมีสมาชิกร่วมก่อตั้งแปดคน ปัจจุบันประกอบด้วยประเทศสมาชิก 21 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ กัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ฟิจิ ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย อิหร่าน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สปป.ลาว มาเลเซีย มองโกเลีย เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ศรีลังกา ไทย เตอร์กิเย และเวียดนาม

APO กำหนดอนาคตของภูมิภาคโดยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของสมาชิก ผ่านบริการให้คำปรึกษาด้านนโยบายระดับชาติ ทำหน้าที่เป็นคลังความคิด โครงการริเริ่มในการสร้างขีดความสามารถของสถาบัน และการแบ่งปันความรู้เพื่อเพิ่มผลผลิต

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53863386/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
Digital Information Unit, APO:
pr@apo-tokyo.org
โทร: +81-3-3830-0411
เว็บไซต์: https://www.apo-tokyo.org

แหล่งข้อมูล: Asian Productivity Organization

Walmart Foundation ทุ่มเงิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อสนับสนุนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา

Logo

คำแถลงจาก Donna Morris ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของ Walmart

BENTONVILLE, Ark.–(BUSINESS WIRE)–26 พฤศจิกายน 2023

Walmart, Inc. และ Walmart Foundation ยังคงมองหาวิธีอย่างต่อเนื่องที่จะช่วยเหลือผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงที่สร้างความเสียหายอย่างมากในอิสราเอลและฉนวนกาซา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมา ภายหลังการโจมตีของผู้ก่อการร้ายโดยกลุ่มฮามาส เมื่อมีการหยุดต่อสู้ชั่วคราว Walmart Foundation ทุ่มเงิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อสนับสนุน Direct Relief ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในการช่วยเหลือทางการแพทย์ฉุกเฉินแก่พลเรือนในฉนวนกาซาตามเงื่อนไขที่ได้รับอนุญาต

การบริจาคนี้มาจากเงินลงทุน 1 ล้านเหรียญสหรัฐของ Walmart Foundation ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าในงานบริการฉุกเฉินของ Magen David Adom ในอิสราเอล

พวกเราร่วมส่งกำลังใจไปยังผู้ร่วมงานของเรา ลูกค้า และสมาชิก ผู้ซึ่งได้รับผลกระทบเป็นการส่วนตัว รวมถึงผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์นี้ เรามาร่วมกันส่งกำลังใจ ความเห็นอกเห็นใจ และความเมตตาสู่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เราดำเนินงานกันอย่างแข็งขันที่ Walmart และ Sam’s Club เพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ว่า ไม่มีใครทอดทิ้งใคร

เกี่ยวกับ Walmart

Walmart Inc. (NYSE: WMT) เป็นธุรกิจค้าปลีกหลายช่องทางที่ขับเคลื่อนโดยผู้คนและการใช้เทคโนโลยี ซึ่งช่วยให้ผู้คนสามารถประหยัดเงินและมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น – ในทุกที่และทุกเวลา – ไม่ว่าจะเป็นในร้านค้า ทางออนไลน์ และผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ ในแต่ละสัปดาห์ ลูกค้าและสมาชิกประมาณ 240 ล้านคนเข้ามาจับจ่ายใช้สอยที่ร้านค้ากว่า 10,500 แห่งของเรา และเว็บไซต์ eCommerce มากมายใน 19 ประเทศ ด้วยรายรับในปีงบประมาณ 2023 มูลค่า 611 พันล้านเหรียญสหรัฐ Walmart มีการว่าจ้างพนักงานโดยประมาณ 2.1 ล้านคนทั่วโลก Walmart ยังคงเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน เป็นองค์กรการกุศล และโอกาสในการจ้างงาน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Walmart ได้ที่ corporate.walmart.com ติดตามเราบน Facebook ได้ที่ facebook.com/walmart บน X (เดิมชื่อ Twitter) ได้ที่ twitter.com/walmart และบน LinkedIn ได้ที่ linkedin.com/company/walmart/

เกี่ยวกับองค์กรการกุศลของ Walmart

Walmart.org เป็นตัวแทนองค์กรการกุศลของ Walmart และ Walmart Foundation โดยมีการมุ่งเน้นที่จุดแข็งที่เป็นเอกลักษณ์ของธุรกิจ Walmart.org ดำเนินการเพื่อจัดการากับปัญหาทางสังคมและสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ และทำงานร่วมกันกับผู้อื่น เพื่อจุดประกายการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบที่ยั่งยืน Walmart มีร้านค้าอยู่ใน 19 ประเทศ มีการว่าจ้างพนักงานกว่า 2 ล้านคน และดำเนินธุรกิจร่วมกับซัพพลายเออร์นับพันราย ซึ่งเป็นผลให้ทางซัพพลายเออร์ก็มีการจ้างงานพนักงานหลายล้านคนด้วยเช่นกัน Walmart.org ช่วยให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีขึ้น โดยสนับสนุนโครงการสร้างโอกาสการเติบโตในงานสำหรับพนักงานแรวหน้า เพิ่มความเท่าเทียม เสริมสร้างงานเพื่อลดอัตราความอดอยาก สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมสำหรับกลุ่มคนในห่วงโซ่อุปทาน ปกป้องและฟื้นฟูธรรมชาติ ลดขยะของเสียและการปล่อยมลพิษ และสร้างชุมขนที่แข็งแกร่ง สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ www.walmart.org หรือติดตามบน X (เดิมชื่อ Twitter) @Walmartorg

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ: Walmart Media Relations (https://corporate.walmart.com/news/contact-media-relations)

แหล่งข้อมูล: Walmart Inc.

Mori Building เฉลิมฉลองการเปิดตัว Azabudai Hills อย่างเป็นทางการ

Logo

การพัฒนาเมืองใหม่จะช่วยสร้างย่านใหม่ระดับโลกใจกลางกรุงโตเกียว
เป็นเมืองภายในเมือง ซึ่งผู้คนสามารถอยู่อาศัย ทำงาน และสนุกสนานได้ในระยะที่เดินถึงได้
มุ่งเน้นเรื่อง ธรรมชาติ & สุขภาพด้วยพื้นที่เขียวขจีขนาด 24,000 ม.2
ทำเลที่ตั้งดีเยี่ยม และฟังชันการทำงานแบบผสมผสานจะช่วยเสริมศักยภาพการแข่งขันระดับนานาชาติของโตเกียว

TOKYO–(BUSINESS WIRE)–24 พฤศจิกายน 2023

Mori Building Co., Ltd. นักพัฒนาภูมิทัศน์เมืองชั้นนำของญี่ปุ่น มีการประกาศเปิดตัว Azabudai Hills อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นย่านคอมเพล็กซ์แบบผสมผสานและเป็นย่านใหม่ระดับโลกใจกลางกรุงโตเกียว Embracing the concept of “Modern Urban Village – Green & Wellness”, Azabudai Hills ยึดถือแนวคิด Modern Urban Village – Green & Wellness” เป็นสถานที่สำคัญที่อุดมด้วยธรรมชาติ พร้อมฟังก์ชันการช้านแบบผสมผสานในเมือง เช่น ศูนย์ธุรกิจชั้นนำ ที่พักอาศัย ร้านค้าปลีก ศูนย์วัฒนธรรม สิ่งอำนวยความสะดวกด้านการแพทย์ สถาบันการศึกษา และพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยความเขียวขจีที่รวบรวมผู้คนมารวมกัน

©DBOX for Mori Building Co., Ltd - Azabudai Hills (Graphic: Business Wire)

©DBOX สำหรับ Mori Building Co., Ltd – Azabudai Hills (กราฟิก: Business Wire)

วิสัยทัศน์ของ Mori Building สำหรับ Azabudai Hills คือการปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นชุมชนแนวคิด “Green & Wellness” ตามมาตรฐานแห่งทศวรรษที่ 21 โดยผู้คนสามารถใช้ชีวิตร่วมกันกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน  Azabudai Hills ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 8.1 เฮกตาร์ มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 861,700 ม.² รวมถึงพื้นที่สำนักงาน 214,500 ม.² พื้นที่สีเขียว 24,000 ม.² ที่พักอาศัย 1,400 ยูนิต ห้องพักในโรงแรม 122 ห้อง ตลอดจนร้านค้าปลีกและร้านอาหารประมาณ 150 แห่ง Mori JP Tower เพิ่มสูงขึ้นอีก 330 เมตร ทำให้กลายเป็นอาคารที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ย่าน “เมืองภายในเมือง” ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่นี้จะต้อนรับพนักงานออฟฟิศประมาณ 20,000 คน และผู้อยู่อาศัย 3,500 คน เมื่อคนเต็ม และคาดว่าจะต้อนรับผู้มาเยือน 30 ล้านคนต่อปี

“Mori Building ทุ่มเทให้กับการสร้างและรักษาความมีชีวิตชีวาของเมืองผ่านโครงการพัฒนาเมืองขนาดใหญ่” Shingo Tsuji ประธานและ CEO ของ Mori Building Co., Ltd. กล่าว “ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เรายังคงประเมินทิศทางของเมืองในอนาคตต่อไป เมื่อสังคมพัฒนาขึ้น เมืองใหญ่ๆ ทั่วโลกผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราเชื่อว่า สิ่งที่ผู้คนต้องการจากการใช้ชีวิตในเมืองในอนาคตคือ ความสามารถในการเข้าถึงฟังก์ชันการใช้งานแบบผสมผสาน พร้อมการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น และเพลิดเพลินไปกับความเป็นอยู่ที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ เราต้องการสร้างพื้นที่ที่คุณค่าเหล่านี้ในใจกลางกรุงโตเกียว Azabudai Hills แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของเราตามหลักการ ‘Green & Wellness’ สำหรับชีวิตในเมือง เช่นเดียวกับความตั้งใจของเราที่จะสนับสนุนความสามารถเทียบเท่าระดับนานาชาติของเมืองโตเกียว”

การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Green & Wellness

Azabudai Hills สะท้อนวิสัยทัศน์ของ Mori เกี่ยวกับ Modern Urban Village – Green & Wellness ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยแมกไม้เขียวขจีที่รวบรวมผู้คนมารวมตัวกันเพื่อสร้างชุมชนแห่งใหม่ในใจกลางกรุงโตเกียว

การออกแบบสถาปัตยกรรมของ Azabudai Hills เริ่มต้นขึ้นโดยการเน้นการสัญจรไปมาของผู้คนและภูมิทัศน์จตุรัสกลางเมือง Central Green จากนั้น จึงพิจารณาสถานที่สำหรับอาคารสูง โดยผสมผสานไปกับแมกไม้เขียวขจี ซึ่งเป็นแนวคิดที่ตรงกันข้ามกับทิศทางในการวางผังสร้างอาคารแบบดั้งเดิม

นอกเหนือจากนี้ การใช้งานอาคารสูงขนาดกะทัดรัดยังเอื้อให้สามารถพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ให้กับพื้นที่ได้ โดยการรวบรวมที่ดินขนาดเล็กจำนวนมาก จากนั้น สร้างตึกระฟ้าสามแห่งในบริเวณนั้น Mori Building มีการสร้างพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยความเขียวขจีของหมู่แมกไม้ในระดับชั้นฐาน นี่เป็นพื้นฐานแนวคิดเมืองสวนแบบแนวตั้งที่ Mori Building นำไปใช้ในโครงการที่โดดเด่นตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา รวมถึง ARK Hills, Roppongi Hills และ Toranomon Hills

Azabudai Hills ดึงผู้คนให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้นด้วยพืชพรรณนานาชนิดกว่า 320 สายพันธุ์ที่เปลี่ยนพื้นที่ในแต่ละฤดูกาล จะมีการสร้างสวนผลไม้ขนาดประมาณ 200 ม.² บนพื้นที่สีเขียวโดยมีไม้ผล 11 ชนิด เปิดโอกาสให้ชาวเมืองได้มีโอกาสใกล้ชิดกับธรรมชาติที่หาได้ยาก

การจัดแสดงงานศิลปะสาธารณะทั่วบริเวณคอมเพล็กซ์ช่วยสร้างพื้นที่ศิลปะในเมืองผสมผสานกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว และผู้คนสามารถจินตนาการความเชื่อมโยงกับโลกธรรมชาติได้ หอศิลป์ Azabudai Hills จะเป็นแหล่งส่งเสริมวัฒนธรรมหลักใน Azabudai Hills ซึ่งจะมีการพัฒนาตามแนวคิดที่ว่า “ทุกแห่งหนในเมืองคือพิพิธภัณฑ์”

ทีมงานสถาปัตยกรรมและการออกแบบชั้นนำ ประกอบด้วย Pelli Clarke & Partners และ Heatherwick Studio รวมตัวกันเพื่อสร้างแลนด์มาร์กที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบญี่ปุ่น โดยคำนึงถึงความงามของท้องถิ่น ภูมิประเทศ และองค์ประกอบตามฤดูกาล พร้อมกันนั้น ก็มีการนำเสนอแนวคิดใหม่ในการใช้ชีวิตในเมืองที่เน้นความเขียวขจี ความเป็นอยู่ที่ดี และกลมกลืนเข้ากับธรรมชาติในวงกว้าง

“เมืองต่างๆ เป็นสิ่งประดิษฐ์อันยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์ และ Azabudai Hills มีการขับเคลื่อนวิวิฒนการเป็นอย่างมาก โดยผสมผสานสถาปัตยกรรม ธรรมชาติ และชุมชนเข้าด้วยกัน ด้วยการประสานงานร่วมมือโดยตรงกับ Mr. Minoru Mori และ Mr. Shingo Tsuji ช่วยให้เราสามารถสร้างเมืองภายในเมืองที่มีชีวิตชีวา มีความหลากหลาย และมีวัฒนธรรม” Fred Clarke ผู้ร่วมก่อตั้งและหุ้นส่วนของ Pelli Clarke & Partners กล่าว “โดยการคำนึงถึงพลเมืองเป็นอันดับแรก Mori Building และทีมออกแบบสร้างสรรค์การมีส่วนร่วมในศิลปะและวิทยาศาสตร์ในการสร้างอนาคตให้เมืองของเรา และเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้แบ่งปันวิสัยทัศน์ที่มีมายาวนานหลายทศวรรษ!”

“เราได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างย่านเมืองที่เชื่อมโยงอารมณ์ของผู้คนในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป” Thomas Heatherwick ผู้ก่อตั้ง Heatherwick Studio กล่าว “โดยการผสมผสานเชื่อมโยงวัฒนธรรมและสังคมเข้ากับภูมิทัศน์แบบสามมิติที่ไม่เหมือนใคร พร้อมภูมิทัศน์ตามวิสัยทัศน์ ช่วยให้สามารถเชื่อมโยงผู้มาเยือนกับชุมชนท้องถิ่นเข้าด้วยกัน และสามารถเพลิดเพลินกับพื้นที่สาธารณาสีเขียวแบบเปิดได้ ที่นี่เป็นพื้นที่สาธารณะที่มีความสนุกสนานและไม่เหมือนใครในกรุงโตเกียว และได้รับการออกแบบมาเพื่อตราตรึงในใจตลอดไป”

บ้านสำหรับธุรกิจชั้นนำและสถาบันระดับโลก

Azabudai Hills ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์เดียวกันตามแนวคิด Green & Wellness ในบรรดาพันธมิตรอันทรงเกียรติเหล่านี้ ประกอบด้วย Keio University Center for Preventive Medicine; The British School in Tokyo ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงเรียนนานาชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในใจกลางเมือง, Janu Tokyo เปิดตัวครั้งแรกในโลกกับแบรนด์พี่น้องของ Aman และเป็นโรงแรมแห่งเดียวที่อยู่ระหว่างการพัฒนา, Aman Residences ในโตเกียว นำเสนอมาตรฐานการครองชีพแนวใหม่ด้วยจำนวนเพียง 91 ยูนิต ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของแบรนด์ Aman ที่มีความครบครัน, Tokyo Venture Capital Hub ซึ่งรวบรวมบริษัทร่วมลงทุนในญี่ปุ่นกว่า 70 แห่ง ร้านค้าปลีกประมาณ 150 แห่ง รวมถึงแบรนด์หรูระดับโลก, Azabudai Hills Marke ซึ่งส่งเสริมวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม และ MORI Building DIGITAL ART MUSEUM : EPSON teamLab Borderless ซึ่งเดิมมีที่ตั้งอยู่ที่ Odaiba, Tokyo สถานประกอบการอันโดดเด่นหลายแห่งเหล่านี้ได้เปิดให้บริการแล้วใน Azabudai Hills โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมายที่จะเปิดให้บริการหลังเดือนธันวาคม ปี 2023

กำหนดการเปิดตัวที่กำลังจะมาถึง

  • ปลายเดือนมกราคม ปี 2024 – Azabudai Hills Market
  • ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2024 – MORI Building Digital Art Museum: EPSON teamLab Borderless
  • เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2024 – Janu Tokyo
  • ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2024 – Garden Plaza (แบรนด์หรู)
     

35 ปีแห่งการสร้างสรรค์

โครงการ Azabudai Hills เริ่มขึ้นในปี 1989 ด้วยการก่อตั้ง Council of Redeveloping Cities โครงการนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่แนวยาว เป็นเนินเขาและหุบเขาที่มีภูมิประเทศที่ซับซ้อน ก่อนการพัฒนาใหม่ ย่านต่างๆ มีความกระจัดกระจายเต็มไปด้วยบ้านไม้และอาคารขนาดเล็ก จึงมีการปรับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและปรับปรุงการใช้งานในเมือง

นับจากนั้นเป็นต้นมา Mori Building Co. มีการร่วมมือกันกับเจ้าของที่ดินกว่า 300 รายที่มีภูมิหลังที่หลากหลายมาเป็นเวลาเกือบ 35 ปี เพื่อสร้างสรรค์ Azabudai Hills โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากเจ้าของที่ดินและผู้คนในท้องถิ่น ในปี 2017 ผังเมืองได้รับการอนุมัติและการก่อสร้างได้เริ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม ปี 2019

“ผมกำลังจะมีอายุครบ 99 ปีในเดือนธันวาคมนี้ และโครงการ Azabudai Hills ได้เริ่มขึ้นในช่วงอายุกลาง 60 ปีของผม เรามีการวางแนวทางอย่างรอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่า ทุกคนไปในทิศทางเดียวกันกับแผนการพัฒนาใหม่นี้ เมื่อตัดสินใจกันได้ โครงการก็มีการดำเนินการอย่างรวดเร็ว จนแทบไม่น่าเชื่อว่า เรากำลังจะมาถึงเส้นชัยแล้ว Mori Building มีบทบาทสำคัญการเป็นผู้นำการพัฒนาและทำให้โครงการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเป็นจริงได้” Kenichi Magatani ประธาน Azabudai Hills Urban Redevelopment Association กล่าว

“ฉันอาศัยอยู่ในละแวกนี้มาเป็นเวลานานแล้ว แต่ไม่เคยเห็นโครงการพัฒนาเมืองที่มีพลวัตเช่นนี้ในใจกลางเมืองมาก่อน ฉันมั่นใจว่า ผู้คนจะประทับใจไม่เพียงแค่ตึกสูงตระการตาเท่านั้น แต่ยังตื่นตาตื่นใจไปกับความเขียวขจีที่อุดมสมบูรณ์ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอันน่าทึ่ง เช่น ตลาดและร้านอาหาร ร้านค้าปลีก พิพิธภัณฑ์ ศูนย์การแพทย์ และโรงเรียนนานาชาติ ฉันเชื่อมั่นว่า ย่านนี้จะเป็นแหล่งใหม่ที่ทำให้โตเกียวและญี่ปุ่นจะเป็นที่จดจำไปอีกนาน” Magatani กล่าว

นวัตกรรมความอำนวยความสะดวก/ระบบนิเวศ VC

Azabudai Hills เป็นบ้านสำหรับ Tokyo Venture Capital Hub (TVCH) ซึ่งเป็นศูนย์กลางร่วมลงทุนขนาดใหญ่แห่งแรกในญี่ปุ่น TVCH ได้รับการออกแบบมาเพื่อส่งเสริมกลุ่มสตาร์ทอัพในประเทศ แลกเปลี่ยนแนวคิดทางธุรกิจระหว่าง VC และผู้ประกอบการ และสร้างสรรค์ระบบนิเวศที่ฟื้นฟูเศรษฐกิจนวัตกรรมของญี่ปุ่น

TVCH ตั้งอยู่ที่ชั้น 4 และชั้น 5 ของ Garden Plaza B โดยมีการนำเสนอพื้นที่สำนักงานและพื้นที่ที่สามารถใช้ในการทำงานร่วมกันที่ดีที่สุด เพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเสนอการลงทุน การสัมมนา เวิร์กช็อป และกิจกรรมงานสร้างเครือข่ายต่างๆ TVCH จะเป็นเจ้าภาพรวมองค์กร VC กว่า 70 องค์กร และ VC อิสระชั้นนำ ได้แก่ Drone Fund, Incubate Fund, Spiral Capital รวมถึง Japan Venture Capital Association และ University of Tokyo Edge Capital Partners (UTEC)

นอกจากนี้ กลุ่มสตาร์ทอัพ VC และองค์กรต่างๆ ที่ TVCH จะได้รับการส่งเสริมให้ร่วมทีมกับผู้ทำงานในศูนย์เสริมสร้างนวัตกรรมอื่นๆ เช่น ARCH and CIC Tokyo และ Japan Innovation Campus ในซิลิคอนวัลเลย์ ซึ่งตั้งอยู่ภายในพื้นที่อื่นๆ ของ Mori ในญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ

ผู้นำด้านความยั่งยืน

Azabudai Hills เป็นผู้นำในการส่งเสริมการลดการปล่อยคาร์บอนและรีไซเคิลทรัพยากร นับตั้งการก่อสร้างแล้วเสร็จ ไฟฟ้า 100% ที่จ่ายให้กับคอมเพล็กซ์จะมาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน และบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ผ่านโครงการริเริ่มด้านสิ่งแวดล้อมระบบนานาชาติด้านพลังงานงานทดแทน (Renewable Energy 100% – RE100) ซึ่งนำโดย Climate Group จาก UK โดยมีการปรับใช้เทคโนโลยี AI ในศูนย์พลังงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการการใช้พลังงานแบบผสมผสานของคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่แห่งนี้

นอกจากนี้ Azabudai Hills ยังมีการปรับใช้มาตรการทั่วทั้งบริเวณคอมเพล็กซ์แห่งนี้ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการใช้พลังงานทดแทน การนำน้ำฝนกลับมาใช้ใหม่ในการรดน้ำ และการรีไซเคิลพลาสติก

Azabudai Hills ได้รับการเสนอรางวัลอันทรงเกียรติด้านสิ่งแวดล้อมหลายรางวัล รวมถึงได้รับการรับรอง LEED Neighborhood Development ระดับสูงสุดสำหรับการพัฒนาแบบผสมผสาน การรับรอง LEED’s BD+C (Building Design/Core and Shell Development) รวมถึงการรับรอง WELL

สามารถดูรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับ Azabudai Hills และแนวคิดต่างๆ ได้จากเว็บไซต์ด้านล่างนี้:
https://onl.tw/VYcx5TJ

Mori Building คือนักพัฒนาเมืองเชิงนวัตกรรมซึ่งมีสำนักงานที่ตั้งอยู่ในโตเกียว บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มศักยภาพของเมืองให้สูงสุดด้วยการสร้างและดูแลรักษาศูนย์กลางเมืองที่ปลอดภัย ยั่งยืน และเป็นสากลตามแนวคิด Vertical Garden City อันเป็นเอกลักษณ์ของบริษัท ประกอบด้วยศูนย์กลางอาคารสูงสำหรับธุรกิจ การศึกษา การท่องเที่ยว และที่พักอาศัย แนวคิดนี้มีการปรับใช้ในโครงการระดับแนวหน้าต่างๆ ของบริษัท รวมถึง ARK Hills, Roppongi Hills และ Toranomon Hills ในโตเกียว และ Shanghai World Financial Center Mori Building ยังดำเนินการธุรกิจด้านการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ การบริหารโครงการ และบริการให้คำปรึกษา โดยสามารถเข้าดูรายละเอียดและแนวคิดของบริษัทได้ที่ www.mori.co.jp/en

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53861780/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สอบถามเกี่ยวกับสื่อนานาชาติ

Weber Shandwick
Mayuko Harada (Japan)
moribldg@webershandwick.com

Shiwei Yin (Outside Japan)
moribldgnyc@webershandwick.com

แหล่งข้อมูล: Mori Building Co., Ltd.