Category Archives: Technology

ANANDA Scientific ประกาศการอนุมัติจาก FDA สำหรับคำขอ IND การทดลองทางคลินิกสำหรับการประเมินวิธีการรักษา Social Anxiety Disorder (SAD)

Logo

NEW YORK & GREENWOOD VILLAGE, Colo.–(BUSINESS WIRE)–30 พฤศจิกายน 2022 

ANANDA Scientific Inc. บริษัทชีวเวชภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการวิจัย ประกาศการอนุมัติจากสำนักงานอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) สำหรับคำขออนุมัติ IND การทดลองทางคลินิกเพื่อการประเมินใช้ Nantheia™ A1002N5S ซึ่งเป็นยาที่ใช้ในการวิจัยโดยใช้แคนนาบิดิออล (CBD) ในเทคโนโลยีการสกัด Liquid Structure™ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ANANDA โดยเป็นแนวโน้มการรักษาสำหรับโรคกลัวการเข้าสังคม (Social Anxiety Disorder) องค์กร National Center for Complimentary and Integrative Health (HCCIH ที่เป็นแผนกหนึ่งของ NIH) กำลังจัดหาเงินทุนสำหรับการทดลองนี้ ซึ่งจะมีการดำเนินการที่ NYU Grossman School of Medicine (ตัวบ่งชี้ Clinical Trials.gov: NCT05571592)

(Photo: Business Wire)

(รูปภาพ: Business Wire)

ผู้ตรวจสอบหลักสำหรับการทดลองนี้คือ Naomi Simon, MD, MSc. ศาสตราจารย์ด้านจิตเวชศาสตร์และผู้อำนวยการโครงการ Anxiety, Stress and Prolonged Grief Program ที่ NYU Grossman School of Medicine และ Esther Blessing, MD, PhD ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านจิตเวชศาสตร์ที่ NYU Grossman School of Medicine การทดลองแบบสองทางโดยควบคุมเปรียบเทียบกับยาหลอก จะเป็นการศึกษาเปรียบเทียบระหว่าง Nantheia™ A1002N5S และยาหลอกในช่วงระยะเวลาการรักษา 21 วัน โดยมีการวัดผลลัพธ์หลักคือ การเปลี่ยนแปลงใน Trier Social Stress Test (TSST) เพื่อตรวจสอบระดับความกังวลและผลกระทบต่อการสร้างภาพทางประสาท

“เรามีความยินดีในความก้าวหน้าในการศึกษาที่สำคัญนี้ สำหรับพัฒนาการวิธีการรักษาโรคกลัวการเข้าสังคม (Social Anxiety Disorder) แบบใหม่ ซึ่งเป็นอาการที่น่าวิตกกังวลและยังไม่สามารถรักษาได้ในปัจจุบัน” กล่าวโดย Dr. Simon

Dr. Blessing กล่าวว่า “เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับความก้าวหน้าในการทดลองทางคลินิกที่ได้จากผลลัพธ์พรีคลินิกที่มีแนวโน้มในการใช้ CBD เพื่อรักษาโรควิตกกังวล”

“เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมมือกันกับ Dr. Simon และ Dr. Blessing อีกครั้งในการทดลองที่สำคัญนี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อชีวิตของผู้คนจำนวนมาก” กล่าวโดย Sohail R. Zaidi ซีอีโอของ ANANDA “เราคาดหวังที่จะได้เห็นความก้าวหน้าในการประยุกต์ใช้ยา Nantheia A1002N5S ที่กำลังอยู่ระหว่างการศึกษา พร้อมตัวบ่งชี้ข้อกำหนดทางการแพทย์ที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองอย่างมีนัยสำคัญ”

เกี่ยวกับ ANANDA SCIENTIFIC

ANANDA เป็นบริษัทชั้นนำด้านชีวเวชภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการวิจัย โดยเป็นผู้บุกเบิกการศึกษาทางคลินิกที่มีคุณภาพสูงเพื่อประเมินข้อบ่งชี้ในการรักษา เช่น PTSDRadiculopathic Pain, Anxiety และ Opioid Use Disorder (Mt. Sinai และ UCLA) บริษัทมีการใช้เทคโนโลยีการสกัดที่ได้รับการจดสิทธิบัตร (ได้รับอนุญาตจาก Lyotropic Delivery Systems (LDS) Ltd ในเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล) เพื่อสกัดสารแคนนาบินอยด์และสารประกอบที่ได้จากต้นในประโยชน์ทางชีวภาพ ละลายน้ำได้ และมีอายุการเก็บรักษาที่เสถียร รวมถึงมุ่งเน้นในการผลิตเภสัชภัณฑ์ระดับพรีเมียมที่มีประสิทธิภาพสูง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52981086/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ANANDA Scientific Media Relations | Christopher Moore | 813 326 4265 | media@anandascientific.com

แหล่งข้อมูล: ANANDA Scientific Inc.

NielsenIQ เปิดตัวรายงานใหม่ที่มุ่งเน้นผลกระทบด้านความยั่งยืนสำหรับอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค

Logo

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้บริษัทต่าง จะต้องริเริ่มความคิดในการสร้างโมเดลธุรกิจ และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในอีกห้าปีข้างหน้า

CHICAGO–(BUSINESS WIRE)–30 พฤศจิกายน 2022

วันนี้ NielsenIQ มีการเปิดตัวรายงานใหม่ “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีผลต่อความยั่งยืน ” ที่มุ่งเน้นผลกระทบในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่ออุตสาหกรรมสินค้าบรรจุภัณฑ์สำหรับผู้บริโภค ในอีกห้าปีข้างหน้า มีการคาดการณ์ว่า การกำกับดูแลและต้นทุนจะกำหนดให้ผู้ผลิต แบรนด์ และผู้ค้าปลีกจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงและมุ่งมั่นที่จะสร้างโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืน และลดความเสี่ยงทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

“เราได้มุ่งเน้นความยั่งยืนในวาระขององค์กรมาระยะหนึ่งแล้ว โดยเป็นลำดับที่มีความสำคัญ ซึ่งธุรกิจบางแห่งอาจตัดสินใจดำเนินการเชิงรุกเพื่อความก้าวหน้า และบางธุรกิจอาจยังคงเฝ้ารอดูผลก่อนตัดสินใจ” Regan Leggett, Foresight Leader, NielsenIQ กล่าว “ต้นทุนพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก บวกกับความล้มเหลวของการเพาะปลูก และการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัทต่าง ๆ จำต้องสร้างโมเดลธุรกิจเพื่ออนาคต มิฉะนั้น อาจมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนและผลกระทบด้านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้”

ท่ามกลางความท้าทายในห่วงโซ่อุปทาน แรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ และการใช้จ่ายอย่างระมัดระวังของผู้บริโภค มีรายงานระบุว่า ผู้บริโภคได้รับข้อมูลมากขึ้นเกี่ยวกับความยั่งยืนและความคาดหวังในการดำเนินการและความรับผิดชอบขององค์กร รายงานฉบับใหม่มีการกล่าวถึงประเด็นสำคัญ ดังนี้

  1. ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมีผลในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจที่มีอยู่ เนื่องด้วยผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างไร
  2. ธรรมาภิบาลและกฎระเบียบใหม่มีผลต่อการขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนอย่างไร
  3. พื้นฐานใหม่ในการตัดสินใจเปลี่ยนไปสำหรับผู้บริโภคอย่างไร
  4. ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีบทบาทอย่างไรในการผลักดันวาระด้านความยั่งยืนให้ก้าวหน้า ผู้บริโภคมีความเชื่อถือในผู้ใด และวิธีการที่บริษัทสามารถช่วยให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกด้านความยั่งยืนมากขึ้นอย่างไร
  5. อนาคตของความยั่งยืนสำหรับผู้ค้าปลีก แบรนด์ ผู้บริโภค และรัฐบาลเป็นอย่างไร
  6. บริษัทจะต้องมีการดำเนินการอย่างไร เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในอนาคตและคำมั่นจากทางรัฐบาล

“ผู้บริโภคต้องการความช่วยเหลือในการดำรงชีวิตและบริโภคอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกองค์กรที่จะมีแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน” Nicole Corbett รองประธานจาก Thought Leadership ของ NielsenIQ กล่าว “ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ผู้บริโภคมักมองหาการปฏิบัติที่ไม่มุ่งเน้นวัตถุ และการไม่ยึดติดแบรนด์และผู้ค้าปลีก ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถไว้วางใจได้ในทุกระดับ”

จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่อยู่ในขั้นวิกฤต และอาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในอีกห้าปีข้างหน้า เมื่อบริษัทต่าง ๆ มีการปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองความต้องการ แนวทาง และการดำเนินธุรกิจต่าง  ๆ การดำเนินธุรกิจเชิงรุกจะช่วยให้บริษัทได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ ในขณะที่อุตสาหกรรมอื่น ๆ มีการแย่งชิงกันเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการและคงความยั่งยืน

สำหรับข้อมูลรายงานเชิงลึกล่าสุด สามารถเข้าดูได้ที่: https://nielseniq.com/global/en/insights/analysis/2022/the-changing-climate-of-sustainability-has-reached-a-critical-moment/

เกี่ยวกับ NielsenIQ

NielsenIQ เป็นบริษัทที่ให้บริการด้านข้อมูลระดับโลก โดยมีการนำเสนอมาตรฐานสูงในการวัดดัชนีผู้บริโภคและค้าปลีกด้วยประสบการณ์ที่มีความเข้าใจธุรกิจเป็นอย่างดี และสามารถเชื่อมโยง นำไปปฎิบัติได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดสำหรับผู้บริโภคที่ผ่านการพัฒนาในทุกช่องทางทั่วโลก NielsenIQ เป็นแหล่งข้อมูลที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เราให้บริการ และเป็นผู้บุกเบิกดัชนีชี้วัดผู้บริโภคและค้าปลีกในศตวรรษหน้า ข้อมูลเชิงลึกของเรา และการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ CPG และบริษัทค้าปลีกให้สามารถเข้าถึงชุมชนที่ให้บริการ และช่วยส่งเสริมการเติบโตทางธุรกิจด้วยเช่นกัน

NielsenIQ เป็นบริษัทในเครือของ Advent International โดยมีสำนักงานอยู่ในกว่า 90 ประเทศ โดยครอบคลุมมากกว่า 90% ของประชากรโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ NielsenIQ.com

ติดต่อ

เอเชียแปซิฟิก: Tarini Mathur Kaul (tarini.mathurkaul@nielseniq.com)
ยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา: Sebastien Monard (sebastien.monard@nielseniq.com)
อเมริกาใต้: Ari Rodriguez (ari.rodriguez@nielseniq.com)
อเมริกาเหนือ: Gillian Mosher (gillian.mosher@nielseniq.com)

แหล่งข้อมูล: NielsenIQ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

NTT DATA เข้าร่วม Global Alliance Program ของ EOI Space

Logo

ข้อตกลงนี้จะเอื้อให้ลูกค้าของ NTT DATA สามารถวางแผนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและการป้องกันประเทศด้วยความสามารถการถ่ายภาพทางดาวเทียมของ EOI Space

LOUISVILLE, Colo.–(BUSINESS WIRE)–29 พฤศจิกายน 2022

 EOI Space คือบริษัทที่ปรับใช้กลุ่มดาวเทียมซึ่งให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตำแหน่งแก่ลูกค้าภาครัฐและเชิงพาณิชย์ วันนี้ได้ประกาศเกี่ยวกับข้อตกลงด้านการจัดจำหน่ายเชิงกลยุทธ์กับ NTT DATA Corporation ซึ่งเป็นผู้นำด้านธุรกิจดิจิทัลและบริการทางไอทีระดับโลก เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีภาพถ่ายโลกที่มีความละเอียดสูงเป็นพิเศษของ EOI Space แก่ลูกค้าในตลาดประเทศญี่ปุ่น

Christopher Thein, CEO of EOI Space (left) and Hidenori Chihara, Executive Vice President of NTT DATA. (Photo: Business Wire)

Christopher Thein, CEO จาก EOI Space (ซ้าย) และ Hidenori Chihara, รองกรรมการผู้จัดการจาก NTT DATA. (ภาพ: Business Wire)

NTT DATA เป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการเจ้าแรกใน Global Alliance Program ของ EOI Space ซึ่งเป็นกลุ่มองค์กรจำกัดระดับโลกที่มีสิทธิ์เข้าถึงเนื้อหาและบริการดาวเทียมของ EOI Space ก่อนใคร ด้วยความร่วมมือครั้งนี้ NTT DATA จะใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยใหม่ล่าสุดของ EOI Space นั่นคือ ดาวเทียม Stingray ซึ่งมีวงโคจรโลกที่ต่ำมาก (Very Low Earth Orbit (VLEO)) ช่วยให้สามารถมอบข้อมูลความจุสูงที่ลูกค้าต้องการ เพื่อตรวจสอบและรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้น ตลอดจนการคุกคามความปลอดภัยสาธารณะ ซึ่ง EOI Space วางแผนที่จะเปิดตัวดาวเทียมดวงแรกในไตรมาส 1 ปี 2024 โดยมีดาวเทียมอีกห้าดวงที่คาดว่าจะเปิดตัวภายใน 12 เดือน ขณะเดียวกัน NTT DATA ก็จะสร้าง Secure Access Facility ในญี่ปุ่น เพื่อเสริมความสามารถในการดาวน์ลิงก์โดยตรงจากกลุ่มดาวเทียม Stingray

“EOI Space และ NTT DATA ร่วมมือกันสร้าง Secure Access Facility สำหรับ NTT DATA แบบระยะยาว ซึ่งจะช่วยให้สามารถส่งข้อมูลและข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์แก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วกว่าที่เคย” Christopher Thein ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง EOI Space กล่าว “นี่คืออุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นการถ่ายภาพคุณภาพสูงอย่างทันเวลา เราขอขอบคุณพันธมิตรที่ทุ่มเทร่วมใจให้กับภารกิจและตลาดนี้สำหรับ NTT DATA”

“โดยการใช้ดาวเทียม Stingray ของ EOI Space เราจะสามารถรวบรวมภาพความละเอียดสูงจำนวนมากในศูนย์ข้อมูลของเรา เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ภายใน การใช้อัลกอริธึม AI ล่าสุดของเราจะช่วยให้เราสามารถให้บริการผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มแก่ลูกค้าของเรา โดยการแยกความแตกต่างในข้อมูลที่รวบรวมไว้ก่อนหน้านี้และข้อมูลที่รวบรวมใหม่ เพื่อตรวจสอบความผิดปกติ” Hideyuki Nakamura ผู้จัดการฝ่ายบริหารจาก NTT DATA กล่าว “นอกเหนือจากนี้ เรายังสามารถขยายการใช้งานภาพของ EOI Space สำหรับระบบป้องกันภัยพิบัติต่างๆ และโครงการบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะมีการพัฒนาขึ้นในอนาคต และสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เสริมระดับความยืดหยุ่น”

อนาคตของดาวเทียม: ขนาดเล็ก แต่ให้ผลสูง

ดาวเทียมกลายมามีความสำคัญมากขึ้นในชีวิตประจำวันและในด้านความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนทั่วโลก ดาวเทียม Stingray ของ EOI Space สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบขับเคลื่อนพลาสมาที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท โดยทำงานในวงโคจรที่ใกล้โลกมากกว่าเดิมเมื่อเทียบกับดาวเทียมอื่นๆ ในตลาด ช่วยให้ดาวเทียมสามารถจับภาพความละเอียดสูงเกือบ 15 ซม. ได้แบบเรียลไทม์ ระบบขับเคลื่อนแบบไอออนไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นอย่างเป็นอิสระของ EOI Space ซึ่งอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร ช่วยให้สามารถมั่นใจได้ว่า ดาวเทียมจะสามารถทำงานได้อย่างเสถียรในวงโคจรโลกต่ำ นอกจากนี้ ดาวเทียม Stingray ของ EOI Space ที่มีขนาดเล็กจะช่วยให้ NTT DATA และลูกค้าสามารถเข้าถึงภาพความละเอียดสูงและความจุข้อมูลที่เพิ่มสูงขึ้นด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับดาวเทียมขนาดใหญ่ที่มีราคาแพงกว่าในการพัฒนาและเปิดตัว

NTT DATA คาดว่า ยอดขายข้อมูลของ EOI Space และผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม เช่น การวิเคราะห์ AI มีมูลค่าสูงกว่า 70 ล้านดอลลาร์ในปี 2028 โดยคาดการณ์ว่า ยอดขายส่วนใหญ่จะมาจากการนำไปใช้ในการป้องกัน ความปลอดภัยสาธารณะ และการจัดการภัยพิบัติ บริษัทยังได้เข้าร่วมกับนักลงทุนรายย่อยอื่นๆ ในกลุ่ม Series A ของ EOI Space พร้อมการลงทุนในตราสารทุน แสดงถึงความมุ่งมั่นที่มีต่อ EOI Space และตลาดการสังเกตการณ์โลก

เกี่ยวกับ EOI Space

EOI Space ตั้งอยู่ใน Louisville, Colorado กำลังพัฒนาดาวเทียมขนาดเล็กที่สามารถบินต่ำอย่างไม่เหมือนใคร เพื่อรวบรวมภาพถ่ายความละเอียดสูงเป็นพิเศษ รองรับการใช้งานด้านสังเกตการณ์ในโลกที่หลากหลายในวงโคจรโลกที่ต่ำมาก (Very Low Earth Orbit (VLEO)) โดยใช้สิทธิบัตรเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ผ่านการรับรองและกำลังอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร การปฏิบัติการใกล้โลกมากขึ้นกว่าเดิมจะทำให้ EOI บันทึกมุมมองของโลกจากอวกาศ เพื่อให้ได้ข้อมูลข่าวกรองแบบเรียลไทม์ที่มีมูลค่าสูงเชิงพาณิชย์ การติดตามทรัพย์สิน และการตรวจสอบสถานการณ์ ขณะนี้ EOI Space กำลังระดมทุนเพื่อลงทุนในการขยายกลุ่มดาวเทียม ติดตามเราได้ที่ https://eoi.space เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับภารกิจและโอกาสในการลงทุนของเรา

เกี่ยวกับ NTT DATA

NTT DATA เป็นส่วนหนึ่งของ NTT Group  และเป็นผู้คิดค้นนวัตกรรมด้านไอทีและบริการธุรกิจระดับโลกที่เชื่อถือได้ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่โตเกียว เราให้บริการช่วยลูกค้าในการเปลี่ยนแปลงผ่านการให้คำปรึกษา โซลูชันอุตสาหกรรรม บริการกระบวนการทางธุรกิจ การปรับปรุงไอทีให้ทันสมัย และบริการบริหารจัดการ โดย NTT DATA ช่วยให้ลูกค้าและสังคมสามารถก้าวไปสู่อนาคตแห่งดิจิทัลได้อย่างมั่นใจ เรามุ่งมั่นในการช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จในระยะยาวและวางแผนที่จะขยายบริการไปให้ถึงทั่วโลกมากกว่า 50 ประเทศ พร้อมดูแลใส่ใจลูกค้าในท้องถิ่น ติดตามเราได้ที่ https://www.nttdata.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52979658/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ผู้ติดต่อฝ่ายสื่อ:
Paul Smith
EOI Space
+1 650.200.3360
media@eoi.space

แหล่งข้อมูล: EOI Space

FPT Software เปิดสำนักงานใหม่ในประเทศไทย ตั้งเป้าเป็นบริษัทไอที 30 อันดับแรกของประเทศ

Logo

BANGKOK–(BUSINESS WIRE)–1 ธันวาคม 2022

เมื่อเร็วๆ นี้ FPT Software ผู้ให้บริการโซลูชันไอทีชั้นนำของเวียดนาม ได้ประกาศเปิดสำนักงานแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย สาขานี้มีเป้าหมายที่จะเป็นบริษัทไอทีชั้นนำ 30 อันดับแรกในประเทศไทย โดยช่วยเหลือการปรับเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์ของ FPT Software เพื่อขยายการดำเนินงานไปทั่วโลก

FPT Software’s representatives and distinguished guests at the Appreciation Dinner to celebrate the office opening on November 22 (Photo: Business Wire)

ตัวแทนของ FPT Software และแขกผู้มีเกียรติในงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเฉลิมฉลองการเปิดสำนักงานในวันที่ 22 พฤศจิกายน (ภาพ: Business Wire)

ฯพณฯ Phan Chi Thanh เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย, วรนุช เดชะไกศยะ ประธาน KBTG, จรุง เกียรติสุภาพงศ์ รองประธาน KBTG, CHRO Nguyen Tuan Minh ของ FPT Software, Nguyen Hoang Trung รองประธานของ FPT Software, FPT Greater Bay Indochina (FPT GBI – บริษัทในเครือของ FPT Software ) CEO Levi Nguyen และแขกผู้มีเกียรติท่านอื่น ๆ ได้เข้าร่วมพิธีเปิด

ในงาน ฯพณฯ Phan Chi Thanh เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย ได้เน้นย้ำถึงความร่วมมืออย่างรอบด้านระหว่างไทยและเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล เอกอัครราชทูตยังเชื่อว่าด้วยความสามารถด้านไอทีของ FPT Software บริษัทสามารถมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างความสัมพันธ์นี้และเร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลได้

โดยมีการคาดว่าสาขากรุงเทพฯ จะตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในประเทศไทยได้ Levi Nguyen CEO ของ FPT GBI กล่าวว่า “เราตั้งเป้าที่จะขยายกำลังแรงงานในท้องถิ่นของเราให้เป็นวิศวกรไอทีคุณภาพสูง 500 คนในอีก 3 ปีข้างหน้า และร่วมงานกับบริษัทไทยจากหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงการค้าปลีก, BFSI, การผลิต และอื่น ๆ อีกมากมาย”

ตามที่ CEO ของ FPT GBI กล่าวว่า สำนักงานใหม่จะช่วยให้ FPT Software ทำงานอย่างใกล้ชิดกับองค์กรชั้นนำในประเทศไทยในโครงการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล “ปรัชญาของบริษัทของเราคือการอยู่ใกล้ชิดกับลูกค้า ดังนั้นสำนักงานนี้จะช่วยให้เราสามารถให้บริการได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น” กล่าวโดย Levi

CEO ของ FPT GBI กล่าวเสริมว่า “นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่แข็งแกร่งและทรัพยากรของบริษัทในแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น Make ของธนาคารกสิกรไทย Alive & Vitality ของ AIA ตลอดจนเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น Cloud, Data, Artificial Intelligence และ Cyber ​​Security”

วรนุช เดชะไกศยะ ประธาน KBTG กล่าวในงานว่า “ดิฉันเคยไปเยี่ยมชมวิทยาเขตของ FPT Software ในเวียดนามมาก่อน และไม่เห็นความแตกต่างจาก Silicon Valley ในสหรัฐอเมริกามากนัก ดิฉันดีใจที่ได้สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับบริษัทไอทีชั้นนำอย่าง FPT Software พวกเขามีผู้เชี่ยวชาญกว่า 100 คนที่อุทิศตัวเพื่อสนับสนุนแพลตฟอร์มดิจิทัลและระบบหลักของเรา และเราวางแผนที่จะเพิ่มเป็นสองเท่าในปี 2023″

เวียดนามและไทยกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล โดยรัฐบาลทั้งสองได้แนะนำกรอบการทำงานและโครงการต่าง ๆ ในการปลดล็อกศักยภาพการทำงานร่วมกันระหว่างบริษัทของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในภาคส่วนไอซีที ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศจะคิดเป็น 20% ถึง 30% ของ GDP ภายในปี 20301 ในฐานะบริษัทไอทีชั้นนำของเวียดนาม FPT Software มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือระยะยาวในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลระหว่างเวียดนามและไทย

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา FPT Software ดำรงอยู่อย่างแข็งแกร่งใน 7 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย เวียดนาม ไทย อินโดนีเซีย และจีน (รวมถึงฮ่องกง) ทำให้สามารถให้บริการด้านไอทีแบบครบวงจรแก่ธุรกิจทุกภาคส่วน บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเป็นหนึ่งใน 50 อันดับแรกของผู้ให้บริการการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลระดับโลกภายในปี 2030

สำนักงานใหม่ของ FPT Software ตั้งอยู่ที่อาคารธนภูมิ ชั้น 10 โซน C ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร

เกี่ยวกับ FPT Software

FPT Software เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีและไอทีระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่ในเวียดนาม โดยมีรายได้มากกว่า 632.5 ล้านดอลลาร์และพนักงาน 25,500 คนใน 28 ประเทศ ในฐานะผู้บุกเบิกการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล บริษัทได้ให้บริการระดับโลกในโรงงานอัจฉริยะ แพลตฟอร์มดิจิทัล RPA, AI, IoT, คลาวด์, AR/VR, BPO และอื่น ๆ ซึ่งให้บริการลูกค้ามากกว่า 1,000 รายทั่วโลก โดยหลายร้อยรายเป็นบริษัทที่ติดอันดับ Fortune Global 500 ในด้านยานยนต์ การธนาคารและการเงิน โลจิสติกส์และการขนส่ง สาธารณูปโภค และอื่น ๆ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชมที่ http://www.fpt-software.com

_________________________
1 เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยมีแนวโน้มคิดเป็น 30% ของ GDP ภายในปี 2030: รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(https://www.nationthailand.com/blogs/in-focus/40008944)

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สื่อ
Mai Duong (Ms.)
FPT Software
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
อีเมล: MCP.PR@fsoft.com.vn
เว็บไซต์: https://www.fpt-software.com/newsroom/

แหล่งที่มา: FPT Software

Eco Expo Asia 2022 กลับมาอีกครั้งในเดือนธันวาคมด้วยธีม “นวัตกรรมเพื่อความเป็นกลางของระดับคาร์บอน”

Logo

แนวโน้มที่ดีขึ้นเมื่อฮ่องกงยุติการกักบริเวณในโรงแรม

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–28 พฤศจิกายน 2022

งาน Eco Expo Asia 2022 ซึ่งจัดร่วมกันโดยองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกงและ Messe Frankfurt (HK) Ltd และร่วมจัดโดยสำนักงานสิ่งแวดล้อมและนิเวศวิทยาภาครัฐของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 ถึง 17 ธันวาคม ที่ศูนย์การประชุมและนิทรรศการฮ่องกง งานแสดงสินค้าจัดขึ้นภายใต้รูปแบบไฮบริด EXHIBITION+ รูปแบบใหม่ล่าสุด โดยนอกจากจะให้ผู้แสดงสินค้าและผู้ซื้อติดต่อกันแบบเจอตัวกันจริงๆ แล้ว ก็ยังมีช่องทางให้พูดคุยกันผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ “Click2Match” อีกด้วย โดยงานนี้จะจัดถึงวันที่ 24 ธันวาคม โดยเปิดโอกาสให้องค์กรต่างๆ พบกับ “หนทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ในเชิงรุก

Eco Expo Asia 2022 returns in December (Photo: Business Wire)

Eco Expo Asia 2022 กลับมาอีกครั้งในเดือนธันวาคมนี้ (ภาพ: Business Wire)

ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน รัฐบาลเขตปกครองพิเศษฮ่องกงจะขอยุติการกักตัวสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศด้วยนโยบายใหม่ “0+3” ผู้เดินทางเข้าประเทศไม่ต้องทดสอบ PCR ก่อนบินและไม่ต้องกักตัวในโรงแรมที่กำหนดอีกต่อไป ผู้เดินทางเข้าประเทศที่มีรหัสสีเหลืองในช่วงสามวันของการเฝ้าระวังทางการแพทย์จะได้รับอนุญาตให้เข้างานแสดงที่เกี่ยวข้องทางธุรกิจได้

ธีมของ Eco Expo Asia 2022 คือ “นวัตกรรมสะอาดเพื่อความเป็นกลางของระดับคาร์บอน” โดยมุ่งเน้นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่สามารถช่วยลดคาร์บอนในโลก ในฐานะงานสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อม งานแสดงสินค้าในปีนี้จะประกอบด้วยผู้จัดแสดงสินค้ากว่า 200 รายจากเก้าประเทศและภูมิภาคโดยแบ่งออกเป็นเก้าโซนพิเศษ ซึ่งมีตั้งแต่หมวดการขนส่งจนถึงการเงินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และอีกมากมาย เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้เกิดการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรมต่างๆ โดยที่รักษาความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โซนพิเศษสำหรับสามประเทศและภูมิภาคจะกลับมาอีกครั้งในปีนี้ ซึ่งประกอบด้วยแคนาคา ฮ่องกง และญี่ปุ่น โซนญี่ปุ่นจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาก โดยมีผู้แสดงสินค้าประมาณ 30 รายที่มาพร้อมผลิตภัณฑ์ โซลูชันและเทคโนโลยีล่าสุดด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การอัปไซเคิลทรัพยากร รวมถึงการเงินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและ ESG ซึ่งเป็นการนำเสนอนวัตกรรมของญี่ปุ่นที่ดีที่สุด

งานประชุม Eco Asia ปีนี้เป็นงานที่พลาดไม่ได้ เพราะในงานจะมีวิทยากรรุ่นใหญ่มาแบ่งปันมุมมองในหัวข้อต่างๆ เช่น รูปแบบธุรกิจหมุนเวียน” “เศรษฐกิจไฮโดรเจน” “การดัดแปลงให้อาคารใช้พลังงานได้มีประสิทธิภาพและการเงินที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

งานนี้จะเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมในวันสุดท้ายเพื่อส่งเสริมการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยผู้เข้าชมสามารถเข้าร่วมเวิร์กช็อปด้านสิ่งแวดล้อม ตลาดสีเขียว และงานสัมมนาต่างๆ ได้

นักธุรกิจ: ลงทะเบียนเลยตอนนี้เพื่อรับบัตรฟรี https://bit.ly/3OKv9Wo

คนทั่วไป: ลงทะเบียนเลยตอนนี้เพื่อสัมผัสชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม https://bit.ly/3FacHDn

เว็บไซต์ : www.ecoexpoasia.com

ดูเวอร์ชันของแหล่งข้อมูลใน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20221128005301/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

โปรดติดต่อฝ่ายจัดนิทรรศการของ HKTDC:
Jojo Li
โทร: (852) 22404136
อีเมล: jojo.ty.li@hktdc.org

แหล่งข้อมูล: Hong Kong Trade Development Council

การประเมิน IRAP ของออสเตรเลียยอมรับว่า Boomi มอบการควบคุมความปลอดภัยที่ครอบคลุม

Logo

  • Boomi เสร็จสิ้นการประเมินอิสระสำหรับการควบคุมความปลอดภัยบนคลาวด์ภายใต้กรอบ IRAP ของรัฐบาลออสเตรเลีย

เชสเตอร์บรูค เพนซิลเวเนีย–(BUSINESS WIRE)–29 พฤศจิกายน 2022

Boomi™ ผู้นำด้านการเชื่อมต่ออัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ ประกาศในวันนี้ว่า Boomi AtomSphere™ Platform ได้รับการประเมินอิสระสำหรับการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์เทียบกับการควบคุมที่ได้รับการป้องกันโดยคู่มือความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (ISM) ของรัฐบาลออสเตรเลีย

Australia’s IRAP Assessment Recognizes Boomi to Provide Comprehensive Security Controls (Graphic: Business Wire)

การประเมิน IRAP ของออสเตรเลียยอมรับว่า Boomi มอบการควบคุมความปลอดภัยที่ครอบคลุม (กราฟิก: Business Wire)

การประเมินนี้ดำเนินการภายใน Australian Signals Directorate (ASD) Information Security Registered Assessors Program (IRAP) ซึ่งเป็นกรอบการทำงานทั่วไปที่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานรัฐบาลออสเตรเลียในการประเมินท่าทางความปลอดภัยของผู้ขาย ที่เป็นการสานต่อ โมเมนตัมของ Boomi ในตลาดภาครัฐ

“การเร่งการประสานงานของภาครัฐของออสเตรเลียให้ความสำคัญกับการจัดลำดับความสำคัญของการใช้ข้อมูลในการตัดสินใจและการกำหนดข้อมูลให้เป็นทรัพย์สินของชาติที่ใช้ร่วมกัน” กล่าวโดย Nathan Gower ผู้อำนวยการ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ของ Boomi “การมีมาตรฐานที่จำเป็นสำหรับการปกป้องข้อมูล และการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีอยู่ทั่วหน่วยงานและเขตอำนาจศาลนั้นมีความสำคัญในโลกของคลาวด์ในปัจจุบัน และการผ่านการประเมิน IRAP ของเราถือเป็นการยืนยันว่าเทคโนโลยีของเราพร้อมใช้งานสำหรับภาครัฐของออสเตรเลียและสามารถดำเนินการได้อย่างปลอดภัยในระดับที่ได้รับการปกป้องภายในสภาพแวดล้อมคลาวด์ของพวกเขา”

การประเมินที่ระดับ PROTECTED ถือว่า Boomi มอบการควบคุมความปลอดภัยที่ครอบคลุมในการออกแบบระบบและประสิทธิภาพการดำเนินงานทั่วทั้งแพลตฟอร์มบูรณาการแบบใช้โค้ดน้อยในฐานะบริการ (iPaaS) ซึ่งรวมถึง Master Data Hub, การจัดการ B2B/EDI, การจัดการ API และการจัดการกระแสงาน

มาตรการรักษาความปลอดภัยของ Boomi ในการจัดเก็บ ประมวลผล และสื่อสารข้อมูลช่วยให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถซื้อแพลตฟอร์ม Boomi AtomSphere ได้โดยไม่ต้องทำการประเมินด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังสนับสนุนการขยายงานเชิงพาณิชย์กับองค์กรหลายแห่งในออสเตรเลียที่ยอมรับ IRAP เป็นมาตรฐานสูงสุดสำหรับการประเมินความปลอดภัยของระบบคลาวด์

Boomi ฉลองรางวัลมากมายสำหรับความเป็นเลิศด้านผลิตภัณฑ์และวัฒนธรรม รวมถึงรางวัล  Gold Globee® Award ในประเภท Platform as a Service (PaaS), รางวัล Stevie® ระดับนานาชาติสองรางวัลสำหรับบริษัทยอดเยี่ยมแห่งปีและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ โดยเป็นหนึ่งในสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดของนิตยสาร Inc. และรางวัล Comparably สองรางวัลสำหรับสุดยอด CEO สำหรับความหลากหลายและบริษัทที่ดีที่สุดสำหรับการเติบโตในสายอาชีพ

Boomi ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุดและมีนวัตกรรมมากที่สุดในอเมริกาในรายชื่อ Deloitte Technology Fast 500™ และ Inc. 5000 ล่าสุด Boomi ได้สร้างสถิติอุตสาหกรรมสำหรับฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มบูรณาการ เพิ่มผู้นำระดับโลก และขยายขอบเขตไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง

Boomi ได้รับตำแหน่งผู้นำใน Gartner® Magic Quadrant™ สำหรับการบริการแพลตฟอร์มระดับองค์กร (EiPaaS) เป็นเวลาแปดปีติดต่อกัน

ในฐานะบริษัทชั้นนำด้านการบริการซอฟต์แวร์ (SaaS) ระดับโลก Boomi นำเสนอชุมชนผู้ใช้ที่กำลังเติบโตซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 100,000 ราย และเป็นหนึ่งในอาร์เรย์ของผู้รวมระบบระดับโลก (GSI) ที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่แพลตฟอร์มรวมการบริการ (iPaaS) บริษัทมีเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลกประมาณ 800 ราย ซึ่งรวมถึง Accenture, Deloitte, SAP และ Snowflake และเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการคลาวด์ไฮเปอร์สเกลเลอร์รายใหญ่ที่สุด ซึ่งรวมถึง Amazon Web Services, Google และ Microsoft เป็นต้น

แพลตฟอร์มแบบเนทีฟคลาวด์ที่ใช้ low-code ของ Boomi ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ในทุกอุตสาหกรรมเชื่อมต่อแอปพลิเคชันข้อมูล ปรับปรุงกระแสงาน และมอบประสบการณ์ลูกค้าที่บูรณาการมากขึ้น

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

ข้อจำกัดความรับผิดชอบของ Gartner:

Gartner, Magic Quadrant for Enterprise Integration Platform as a Service, Eric Thoo, Keith Guttridge, Bindi Bhullar, Shameen Pillai, Abhishek Singh, 29 กันยายน 2021.

Gartner ไม่รับรองผู้จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใด ๆ ที่ปรากฎในเอกสารเผยแพร่งานวิจัยของบริษัท และไม่แนะนำให้ผู้ใช้เทคโนโลยีเลือกเฉพาะผู้จำหน่ายที่มีคะแนนสูงสุดหรือตำแหน่งอื่น ๆ เอกสารเผยแพร่งานวิจัยของ Gartner ประกอบด้วยความคิดเห็นขององค์กรวิจัยของ Gartner และไม่ควรได้รับการตีความว่าเป็นข้อเท็จจริง Gartner ปฏิเสธการรับประกันทั้งหมด ไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยาย ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยนี้ รวมถึงการรับประกันใด ๆ ของความสามารถในการขายหรือความเหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะ GARTNER และ Magic Quadrant เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนและเครื่องหมายบริการของ Gartner, Inc. และ/หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ และนำมาใช้ในที่นี้โดยได้รับอนุญาต ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมด ไปใช้ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข ก่อนได้รับอนุญาต หมายเหตุ: Boomi เป็นที่รู้จักในนาม Dell Boomi ตั้งแต่ปี 2014 ถึง 2019

เกี่ยวกับ Boomi

Boomi มุ่งมั่นที่จะทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นด้วยการเชื่อมต่อทุกคนเข้ากับทุกสิ่งและทุกที่ Boomi เป็นผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มรวมการบริการ (iPaaS) และปัจจุบันเป็นบริษัทซอฟต์แวร์เชิงบริการ (SaaS) ชั้นนำระดับโลก Boomi นำเสนอฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มการผสานรวมและเครือข่ายทั่วโลกของพันธมิตรกว่า 800 ราย ซึ่งรวมถึง Accenture, Capgemini, Deloitte, SAP และ Snowflake องค์กรระดับโลกหันมาใช้แพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลของ Boomi เพื่อค้นหา บริหาร และจัดการข้อมูล ขณะที่เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน กระบวนการ และผู้คนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและรวดเร็วขึ้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ http://www.boomi.com

© 2022 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ 'B', Boomiverse และ AtomSphere เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP หรือบริษัทย่อยหรือบริษัทในเครือ ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมด ไปใช้ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข ก่อนได้รับอนุญาต ชื่อหรือเครื่องหมายอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20221128005027/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

สื่อ:

Jasmine Ee

หัวหน้าฝ่ายสื่อและนักวิเคราะห์สัมพันธ์ใน APJ ที่ Boomi
jasmine.ee@boomi.com

แหล่งที่มา: Boomi

Toshiba เป็นผู้ชนะรางวัล World Electronics Achievement Awards ของ AspenCore

Logo

KAWASAKI, Japan–(BUSINESS WIRE)–24 พฤศจิกายน 2022

Toshiba Devices & Storage (Shanghai) Co., Ltd. บริษัทสาขาในเซี่ยงไฮ้ของ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) เป็นผู้ชนะเลิศประเภท “Power Semiconductor/Driver of the Year” ในงาน World Electronics Achievement Awards (WEAA) 2022 โดย Toshiba Devices & Storage (Shanghai) Co., Ltd. ได้เข้ารับรางวัลในพิธีซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2022

Toshiba is a Winner at AspenCore World Electronics Achievement Awards (Photo: Business Wire)

Toshiba เป็นผู้ชนะรางวัล World Electronics Achievement Awards ของ AspenCore (ภาพ: Business Wire)

AspenCore ซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในกลุ่มสื่อเทคโนโลยีชั้นนำของโลก และทุก ๆ ปี WEAA ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจะมีการยกย่องบริษัทและบุคคลที่มีส่วนร่วมอย่างโดดเด่นในด้านนวัตกรรมและการพัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ในปีนี้ XPQR3004PB MOSFET ของ Toshiba ซึ่งเป็นทรานซิสเตอร์สนามไฟฟ้าของสารกึ่งตัวนำโลหะออกไซด์แรงดันต่ำเชิงกลยุทธ์ ได้รับรางวัล “Power Semiconductor/Driver of the Year”

Tsutomu Nomura ประธานบริษัท Toshiba Devices & Storage (Shanghai) Co., Ltd. กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่ได้รับการยกย่องจาก WEAA อันทรงเกียรติ โดยเป็นปีที่ห้าติดต่อกันที่ผลิตภัณฑ์ของเราได้รับรางวัล Toshiba มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการจัดหาอุตสาหกรรมยานยนต์และภาคส่วนอื่น ๆ ด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กำลังที่ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์และเพิ่มความเป็นกลางทางคาร์บอน”

XPQR3004PB ที่เปิดตัวในปีงบประมาณนี้ เป็น MOSFET แรงดันต่ำ 40V ที่มี N-channel สำหรับการใช้งานในยานยนต์ เหมาะสำหรับสวิตช์แบตเตอรี่ในรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมอเตอร์ช่วยขับขี่ในรถยนต์ไฮบริด ทั้งยังเป็นแม่พิมพ์ UMOS IX ที่ก้าวหน้าที่สุดของ Toshiba และรวมอยู่ในแพ็คเกจ L-TOGL™ ซึ่ง AspenCore รับรองว่า มีกระแสไฟฟ้าสูง ความสามารถในการกระจายความร้อนสูง และความน่าเชื่อถือสูง

จากนี้ Toshiba จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจสารกึ่งตัวนำกำลัง (power semiconductor) ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความสามารถในการประหยัดพลังงานสูง และนำไปสู่สังคมที่ใช้พลังงานต่ำและความเป็นกลางทางคาร์บอน

* TOGL™ เป็นเครื่องหมายการค้าของ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ

* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาบริการ และข้อมูลติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลขั้นสูง ระดมประสบการณ์และนวัตกรรมกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนำเสนอเซมิคอนดักเตอร์แบบแยก ระบบ LSI และผลิตภัณฑ์ HDD ให้กับลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจ

พนักงานของบริษัทจำนวน 23,000 คนทั่วโลกมีความมุ่งมั่นร่วมกันในการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุด และส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในการสร้างมูลค่าร่วมกันและการเปิดตลาดใหม่ ปัจจุบัน Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ที่มียอดขายต่อปีทะลุ 8.5 แสนล้านเยน (7.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ตั้งตารอที่จะสร้างและมีส่วนร่วมเพื่ออนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทุกหนทุกแห่ง

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52977612/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Customer Inquiries:
ติดต่อเรา

รายชื่อติดต่อหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมด้านสื่อ:
K.Tanaka, S.Mihashi
กลุ่มงานสื่อสารองค์กรและข่าวกรองการตลาด
ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
โทร: +81-44-548-2122
อีเมล: tdsc-publicrelations@ml.toshiba.co.jp

แหล่งที่มา: Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

พนักงานมีความสุขเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกฉลองวันผู้ปกครอง

Logo

ฮานอย เวียดนาม–(BUSINESS WIRE)–21 พฤศจิกายน 2022

ในขณะที่ทั่วโลกกำลังปลดพนักงานด้านเทคโนโลยี FPT Software ซึ่งเป็นธุรกิจไอทีชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ต้อนรับผู้ปกครองของพนักงานหลายพันคนมาที่สำนักงานเพื่อแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจและมุ่งมั่นที่จะมอบสภาพการทำงานที่ดีที่สุดให้กับพนักงาน

Thousands of employees’ parents are welcomed at FPT Software’s offices across the country (Photo: Business Wire)

ผู้ปกครองของพนักงานหลายพันคนได้รับการต้อนรับที่สำนักงานของ FPT Software ทั่วประเทศ (ภาพ: Business Wire)

ตั้งแต่ปี 2006 วันที่ 19 พฤศจิกายนได้กลายเป็นวันผู้ปกครองสำหรับ FPT Software เพื่อแสดงความขอบคุณต่อผู้ปกครองของพนักงาน โดยจัดขึ้น 1 วันก่อนวันครูของเวียดนามโดยมีความคิดที่ว่าผู้ปกครองควรได้รับเกียรติก่อน ซึ่งบ่งบอกถึงวัฒนธรรมประจำชาติ

งานปีนี้ใช้ธีม “พาผู้ปกครองไปทำงาน” และจัดขึ้นในสี่เมืองใหญ่ โดยมีผู้ปกครองหลายพันคนมาเยี่ยมบริษัท FPT Software ถึงที่ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีแห่งแรกในเวียดนามที่ริเริ่มแนวคิดนี้ร่วมกับ Google หรือ LinkedIn

ผู้ปกครองของพนักงานจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ทำงานของลูก ๆ หลาน ๆ จากจุดนั้นก็จะได้สัมผัสกับงานทำงานตลอดวัน ตั้งแต่การประชุมบริษัทไปจนถึงพื้นที่รับประทานอาหารกลางวันของบริษัท สิ่งนี้ทำให้ผู้ปกครองมีโอกาสได้เห็นกับตาตัวเองว่าลูก ๆ หลาน ๆ ทำอะไรกันบ้างเมื่อมาทำงาน ซึ่งช่วยให้ครอบครัวคุยกันรู้เรื่องมากขึ้น

วันผู้ปกครองเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดของปี ไม่เพียงแต่พนักงานของ FPT Software เท่านั้น แต่ผู้ปกครองก็ด้วย พนักงานชาวเวียดนามหลายพันคนที่ทำงานในสาขาต่าง ๆ ทั่วโลก แม้จะไม่สามารถกลับบ้านได้ แต่ก็ได้เชิญผู้ปกครองให้มาร่วมงาน

ในเช้าวันที่อากาศแจ่มใส ทุก ๆ พื้นที่ทำงานของ FPT Software มีผู้ปกครองที่ภาคภูมิใจมากมายนับไม่ถ้วนแวะเวียนกันมา พร้อมเสียงหัวเราะ ความสนุกสนาน และความสุข น้ำตาหลั่งไหลและรับฟังถ้อยคำกันอย่างจริงใจ

Ms. Chu Thi Thanh Ha ประธานบริษัท FPT Software กล่าวในงานว่า “ความสำเร็จของ FPT Software ไม่อาจเกิดขึ้นได้หากปราศจากความทุ่มเทของพนักงานทุกคนและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากผู้ปกครอง” และสนับสนุนให้พนักงานบริษัทใช้เวลากับครอบครัวมากขึ้น “สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ ไม่มีอะไรยาใจได้ดีไปกว่าการได้รับข้อความหรือได้รับโทรศัพท์จากลูก ๆ ทุกวัน”

FPT Software มุ่งมั่นที่จะจัดหาสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีที่สุดให้กับพนักงาน โดยบริษัทกำลังสร้างระบบแคมปัสตามมาตรฐานของบริษัทไอทีชั้นนำอย่าง Google หรือ Facebook นอกจากนี้ พนักงานและครอบครัวยังได้รับการสนับสนุนด้วยดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่อาศัยและรถยนต์ การดูแลสุขภาพ และการศึกษาจาก FPT Group ด้วย

ความทุ่มเทนี้ทำให้ FPT Software ได้รับรางวัลจาก Great Place to Work® ในฐานะหนึ่งใน “สถานที่ทำงานที่ดีที่สุดในเอเชีย” บริษัทไอทีแห่งนี้ได้รับการยอมรับในด้านวัฒนธรรมองค์กรเชิงบวก โดยพิจารณาจากการดูแลและการสนับสนุนบุคลากรของบริษัทอย่างแท้จริง ตั้งแต่ความปลอดภัยทางร่างกายไปจนถึงสุขภาพจิตและอารมณ์ที่ดี

เนื่องในโอกาสวันผู้ปกครองนี้ บริษัทขอยืนยันคำมั่นสัญญาที่มีต่อพนักงาน และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครองว่าลูก ๆ หลาน ๆ จะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และพนักงานจะใช้โอกาสนี้เพื่อขอบคุณคนที่อยู่เคียงข้างมาโดยตลอด

สิบหกปีนับตั้งแต่ที่มีการจัดวันผู้ปกครอง กิจกรรมนี้ก็ยิ่งใหญ่ขึ้นตามการเติบโตของบริษัท โดยเผยแพร่ข้อความแห่งความรักของ FPT Software ให้ผู้คนได้สัมผัสกันมากขึ้น บริษัทมีความมุ่งมั่นในระยะยาวที่จะทำให้พนักงานเป็นหัวใจของการทำธุรกิจ และรักษาสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์ของบริษัทไอทีชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป

FPT Software เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีและไอทีระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่ในเวียดนาม โดยมีรายได้มากกว่า 632.5 ล้านเหรียญสหรัฐ และพนักงาน 25,500 คนใน 28 ประเทศ ในฐานะผู้บุกเบิกการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล บริษัทนี้ให้บริการระดับสากลแก่ลูกค้ามากกว่า 1,000 รายทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ของ FPT Software มีอยู่ทั่วโลก ในธุรกิจระดับแนวหน้าของทุกพื้นที่ เช่น อีคอมเมิร์ซ ยานยนต์ การบิน หรือบริการด้านสุขภาพ เป็นต้น

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52973966/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Media contact
Mai Duong (Ms.)
FPT Software
PR Manager
อีเมล: MCP.PR@fsoft.com.vn

Dzung Duong (Ms.)
Corporate Branding Manager
อีเมล: DungDTH1@fsoft.com.vn

เว็บไซต์: https://www.fpt-software.com/newsroom/

แหล่งที่มา: FPT Software

บริษัท Wipro ประกาศตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (APMEA) ในเมืองดูไบ

Logo

เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และบังกาลอร์ อินเดีย–(BUSINESS WIRE)–18 พฤศจิกายน 2022

บริษัท Wipro Limited (NYSE: WIT, BSE: 507685, NSE: WIPRO) เป็นบริษัทชั้นนำผู้ให้บริการและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี ได้ประกาศเปิดสำนักงานใหญ่ด้านกลยุทธ์ทางการตลาดประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (APMEA) ในเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

Sheikh Hamdan bin Mohammed bin Rashid Al Maktoum มกุฎราชกุมารแห่งเมืองดูไบและประธานสภาบริหารเมืองดูไบ และ Sheikh Maktoum bin Mohammed bin Rashid Al Maktoum รองเจ้าผู้ครองนครดูไบ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่คนสำคัญของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้เข้าเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ที่เพิ่งเปิดใหม่ในวันเปิดทำการวันแรก

เจ้าชาย Sheikh Hamdan bin Mohammed กล่าวว่า  “การก่อตั้งหน่วยงานแห่งใหม่ของ Wipro ในเมืองดูไบนี้ สะท้อนให้เห็นถึงสถานะการเติบโตของเอมิเรตในฐานะที่เป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับบริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศชั้นนำของโลก วิสัยทัศน์ของการเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมของ Sheikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum ผู้ซึ่งเป็นรองประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรีแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเจ้าผู้ครองนครดูไบ ทำให้เมืองดูไบกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนจากผู้เล่นระดับแนวหน้าของโลก ในอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนอนาคตของเศรษฐกิจโลก เมืองดูไบได้สร้างโครงสร้างพื้นฐานและระบบนิเวศแบบพลวัตรสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ พร้อมกับกรอบการกำกับดูแลที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนนวัตกรรม ผู้ประกอบการ และการขยายธุรกิจ เมืองนี้ยังเป็นฐานที่ตั้งในอุดมคติสำหรับการเข้าถึงผู้มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของโลก ซึ่งดึงดูดให้เมืองดูไบได้รับประโยชน์อย่างต่อเนื่องจากโอกาสในการเติบโตมากมายและมาตรฐานการครองชีพที่สูง ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เมืองดูไบได้ร่วมเป็นพยานในความสำเร็จด้านเทคโนโลยีระดับโลกที่สำคัญหลายอย่าง ซึ่งช่วยเสริมภาพลักษณ์ของเมืองในฐานะจุดศูนย์กลางระดับโลกสำหรับการเติบโตและองค์กรในภาคส่วนนี้”

สำนักงานใหญ่ที่เพิ่งเปิดใหม่ซึ่งตั้งอยู่ ณ ใจกลางของสถานประกอบการธุรกิจอันพลุกพล่านของ One Central ที่ Dubai World Trade Centre จะเป็นผู้นำในการขยายตัวและการลงทุนของ Wipro ทั่วสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และ APMEA โดยจะช่วยจัดการธุรกิจ เทคโนโลยี และวาระการเปลี่ยนแปลงของลูกค้าในภาคส่วนสำคัญ เช่น บริการทางการเงิน การค้าปลีก โทรคมนาคม พลังงานและสาธารณูปโภค รวมไปถึงภาครัฐด้วย Wipro เริ่มดำเนินกิจการดังกล่าวในตะวันออกกลาง ณ ปี 2001 และปัจจุบันได้แพร่กระจายไปในหลายประเทศในแต่ละภูมิภาค หน่วยการตลาดเชิงกลยุทธ์ของ APMEA สร้างรายได้ประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์ให้กับ Wipro และมีพนักงานมากกว่า 30,000 คน

Rishad Premji ประธานกรรมการบริหารบริษัท Wipro Limited กล่าวว่า “เรายินดีที่ได้เปิดตัวสำนักงานใหญ่ APMEA ของเราในเมืองดูไบ ซึ่งถือเป็นการเปิดบทใหม่สำหรับ Wipro ในตลาดที่ขับเคลื่อนไปอย่างรวดเร็วและเน้นการใช้เทคโนโลยีเป็นอันดับแรก เมืองดูไบเป็นประตูสู่โลก และมีรัฐบาลที่ก้าวหน้า พนักงานที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และนโยบายที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ ทำให้เมืองดูไบเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับเราในขณะที่เราขยายธุรกิจไปทั่วภูมิภาค APMEA”

ความร่วมมือในระบบนิเวศเป็นหนึ่งในแกนหลักของกลยุทธ์ทางธุรกิจของ Wipro สำนักงานใหญ่ APMEA จะมีพื้นที่สำหรับนวัตกรรมร่วม ซึ่งพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ อันได้แก่ AWS, Microsoft, HPE, Informatica, Palo Alto Networks, SAS และ Snowflake จะร่วมมือกับ Wipro เพื่อสร้างโซลูชันร่วมกันที่จะตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของภาคส่วนและเทคโนโลยีที่สำคัญ

ที่นี่จะเป็นที่รวมพลังของกลุ่ม Wipro สำนักงานใหญ่แห่งนี้จะเป็นที่ตั้งของทีมงานที่เชี่ยวชาญในท้องถิ่นจาก Capco ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีและการจัดการระดับโลกที่มุ่งเน้นบริการทางการเงิน และจาก Designit ซึ่งเป็นบริษัทด้านการออกแบบเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรม เป็นการนำเสนอความสามารถที่แตกต่างที่สุดของ Wipro ในพื้นที่ นอกจากนี้ Wipro ยังได้เปิดตัว Lab45 ในภูมิภาค ซึ่งเป็นพื้นที่นวัตกรรมอันมีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาโซลูชันที่ล้ำสมัยเพื่อส่งเสริมและเร่งสร้างไอเดียให้กับลูกค้า

Thierry Delaporte ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการของ Wipro Limited กล่าวว่า “การก่อตั้งสำนักงานใหญ่ของเราที่นี่เปิดโอกาสในการเติบโตอย่างมากมาย และเป็นโอกาสในการทำงานร่วมกันทั่วทั้งภูมิภาค สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เข้าใจถึงคุณค่าเชิงกลยุทธ์ของเทคโนโลยี และพลังของการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่ดี Wipro เองก็ได้แบ่งปันวิสัยทัศน์นั้น เราจะใช้ประโยชน์จากความสามารถระดับโลก ความเชี่ยวชาญในท้องถิ่น ตลอดจนระบบนิเวศของพันธมิตรระดับโลกเพื่อร่วมกันสร้างโซลูชันสำหรับลูกค้าในภูมิภาคนี้”

Anis Chenchah ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Wipro Limited ประจำ APMEA กล่าวว่า “ข้าพเจ้ารู้สึกยินดีที่มี Wipro เป็นบริษัทระดับโลกแห่งแรกในอุตสาหกรรมของเราที่รวม 3 ทวีปอันกว้างใหญ่อย่างแอฟริกา เอเชีย และโอเชียเนียเอาไว้ภายใต้การนำที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองดูไบ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของข้าพเจ้า การแลกเปลี่ยนทางธุรกิจระหว่างแอฟริกาและเอเชียนั้นเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก สร้างโอกาสยิ่งใหญ่ให้กับ Wipro ด้วยที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ โครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย และแนวคิดระดับโลก เมืองดูไบจึงเป็นสถานที่ในอุดมคติสำหรับการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจในส่วนที่มีแนวโน้มที่ดีของโลกนี้”

เกี่ยวกับ Wipro Limited

Wipro Limited (NYSE: WIT, BSE: 507685, NSE: WIPRO) เป็นบริษัทชั้นนำผู้ให้บริการและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นการสร้างโซลูชันนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอันซับซ้อนที่สุดของลูกค้า ดึงคุณประโยชน์จากความสามารถแบบองค์รวมของเราในการให้คำปรึกษา การออกแบบ วิศวกรรม และการดำเนินงาน เราช่วยให้ลูกค้าได้ตระหนักถึงความทะเยอทะยานที่กล้าหาญที่สุดของพวกเขา และสร้างธุรกิจที่พร้อมสำหรับอนาคตและมีความยั่งยืน ด้วยพนักงานและพันธมิตรทางธุรกิจกว่า 250,000 คนใน 66 ประเทศ เราทำตามคำมั่นสัญญาในการช่วยเหลือลูกค้า เพื่อนร่วมงาน และชุมชนของเราเพื่อให้สามารถเติบโตในโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม เยี่ยมชมเราได้ที่ www.wipro.com

บทความคาดการณ์ในอนาคต

บทความคาดการณ์ในอนาคตในที่นี้แสดงถึงความเชื่อของ Wipro เกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคต ซึ่งหลายอย่างเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ไม่แน่นอนโดยเนื้อแท้ และอยู่นอกเหนือการควบคุมของ Wipro ข้อความดังกล่าวรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อความเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของ Wipro ผลการดำเนินงานทางการเงินในอนาคต แผน ความคาดหวัง และความตั้งใจ เรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต Wipro จึงขอเตือนให้ผู้อ่านทราบว่าบทความคาดการณ์ในอนาคตนี้มีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างอย่างมากจากผลลัพธ์ที่คาดการณ์ไว้ในข้อความดังกล่าว ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนดังกล่าวรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความผันผวนของรายรับ รายได้ และผลกำไรของเรา, ความสามารถของเราในการสร้างและจัดการการเติบโต, การดำเนินการขององค์กรที่เสนอโดยสมบูรณ์, การแข่งขันที่รุนแรงในบริการด้านไอที, ความสามารถของเราในการรักษาความได้เปรียบด้านต้นทุน, การเพิ่มอัตราค่าจ้างในอินเดีย, ความสามารถของเราในการดึงดูดและรักษาผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะสูง, เวลาและต้นทุนที่มากเกินไปสำหรับสัญญาราคาคงที่, กรอบเวลาคงที่, การกระจุกตัวของลูกค้า, ข้อจำกัดในการอพยพ, ความสามารถของเราในการจัดการการดำเนินงานระหว่างประเทศ, ความต้องการที่ลดลงสำหรับเทคโนโลยีในพื้นที่โฟกัสหลักของเรา, การหยุดชะงักของเครือข่ายโทรคมนาคม, ความสามารถของเราในการดำเนินการและบูรณาการการเข้าซื้อกิจการที่อาจเกิดขึ้นให้สำเร็จ, ความรับผิดต่อความเสียหายในสัญญาบริการของเรา, ความสำเร็จของบริษัทที่เราลงทุนเชิงกลยุทธ์, การถอนแรงจูงใจทางการคลัง, ความไม่แน่นอนทางการเมือง, สงคราม, ข้อจำกัดทางกฎหมายในการเพิ่มทุนหรือการซื้อบริษัทนอกอินเดีย, การใช้ทรัพย์สินทางปัญญาของเราโดยไม่ได้รับอนุญาต และสภาวะเศรษฐกิจทั่วไปที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจและอุตสาหกรรมของเรา

ความเสี่ยงเพิ่มเติมที่อาจส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานในอนาคตของเราได้อธิบายไว้อย่างครบถ้วนในเอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะรายงานประจำปีในแบบฟอร์ม 20-F เอกสารที่ยื่นเสนอเหล่านี้มีอยู่ที่ www.sec.gov ในบางกรณี เราอาจจัดทำแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าที่เป็นลายลักษณ์อักษรและปากเปล่าเพิ่มเติม รวมถึงข้อความที่อยู่ในเอกสารที่บริษัทยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และรายงานของเราต่อผู้ถือหุ้น เราไม่ดำเนินการอัปเดตบทความคาดการณ์ล่วงหน้าที่อาจจัดทำขึ้นเป็นครั้งคราวโดยเราหรือในนามของเรา

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

ติดต่อ Wipro Media:
Purnima Burman
purnima.burman@wipro.com

ติดต่อ H+K Strategies Media:
Mark Sutton & Ghinwa Al Ahmad
Mark-r.sutton@hkstrategies.com
Ghinwa.AlAhmad@hkstrategies.com

แหล่งที่มา: Wipro Limited

Tusk Innovation ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับ Black Friday

Logo

KUALA LUMPUR, Malaysia–(BUSINESS WIRE)–17 พฤศจิกายน 2022

Tusk Inc. Limited (www.tusklimited.com) บริษัทที่เริ่มต้นในปี 2012 ในฐานะบริษัทจัดการเงินทุนในกรุงกัวลาลัมเปอร์ซึ่งมีสำนักงานอยู่ทั่วโลก และปัจจุบันเป็นหนึ่งในบริษัทโซลูชันไฟฟ้าชั้นนำที่มุ่งเน้นการผลิตสำหรับผู้ใช้อุปกรณ์การทำเหมือง พลังงานแสงอาทิตย์ และอะแดปเตอร์ กำลังประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับ Black Friday สายผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับไฟฟ้า ดูเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://tusklimited.com/products

This product is sold with a 7in 1 Solar Panel, so you don’t have to pay for the panel. (Photo: Business Wire)

ผลิตภัณฑ์นี้ขายพร้อมแผงโซลาร์เซลล์ 7in 1 คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าแผง (ภาพ: Business Wire)

ในฐานะหนึ่งในบริษัทโซลูชันไฟฟ้าชั้นนำ Tusk ประกาศให้ส่วนลด 30% สำหรับนวัตกรรมของ Tusk ในวัน Black Friday สำหรับอุปกรณ์การทำเหมืองแบบคอมโบ ซึ่งรวมเอาแผงโซลาร์เซลล์เข้ากับเครื่องขุดบิตคอยน์ เพื่อให้การทำเหมืองเป็นไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญใดๆ เนื่องจากไฟฟ้าเป็นปัญหาหลักในอุตสาหกรรมการทำเหมือง

โดยการปรับล่าสุดจากวัสดุโพลีคริสตัลไลน์เป็นวัสดุเซลล์แสงอาทิตย์ นวัตกรรมของ Tusk มีการทดสอบประสิทธิภาพของการรวมผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์เข้ากับเครื่องขุดคริปโตเคอเรนซี และได้พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุด นักลงทุนด้านนวัตกรรมของ Tusk สามารถทำเหมืองคอยน์ของตนได้อย่างง่ายดายโดยไม่มีการหยุดชะงักแล้วในขณะนี้ ทั้งยังมีความเสี่ยงน้อยลง และได้ผลกำไรสูงสุด

นี่เป็นความพยายามในการลดปริมาณไฟฟ้าที่ใช้เมื่อลูกค้าทำการขุดคริปโตเคอเรนซี และได้รับการเปิดเผยโดย John Walls ประธานฝ่ายปฏิบัติการ (COO) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของ Walls “รายงานต่างๆ แสดงให้เห็นว่าปริมาณไฟฟ้าที่คนงานเหมืองต้องการอาจมากเกินกว่าที่จะจัดการได้ ดังนั้น เราจึงได้ตัวเลือกที่สมเหตุสมผล”

กำไรจากการขุด

แม้ว่าจะเป็นเรื่องน่ายินดีและให้ผลกำไรสูงสำหรับใครหลายๆ คนในการสร้างฟาร์มเหมืองคริปโตเคอเรนซี แต่ก็มีการคาดเดามากมายว่าพวกเขาอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการใช้ไฟฟ้า Tusk Inc ได้สร้างโซลูชันที่ใช้งานได้ยาวนานด้วยการมอบแผงโซลาร์เซลล์ที่ไม่สัมพันธ์กับค่าไฟฟ้าของคุณและอุปกรณ์การขุดบิตคอยน์ที่สามารถทำการขุดแบบคู่ได้ คุณสามารถขุดคอยน์ของคุณโดยไม่ต้องคอยกังวลกับความผันผวนของตลาด

Tusk Inc ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย และสหราชอาณาจักร มีความโดดเด่นที่แตกต่างจากที่อื่น โดยลูกค้าสามารถรับบริการพัฒนากระเป๋าเงินดิจิทัล (crypto wallet) รวมถึงหน่วยประมวลผลกราฟิกจากบริษัทที่มีสำนักงานอยู่ในสามทวีป นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์ในการพัฒนาบล็อกเชน และโซลูชันการขุดบิตคอยน์ รวมถึงด้านอื่นๆ อีกมากมาย

เกี่ยวกับ Tusk

ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 โดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการ และต่อมาทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีก็ได้เข้ามามีส่วนร่วม ปัจจุบัน Tusk Inc เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโซลูชันไฟฟ้าชั้นนำ พวกเขาภูมิใจในความสามารถในการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากพวกเขาอยู่ในธุรกิจการบริหารความเสี่ยงมานานกว่าทศวรรษ และด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีหลายประการ พวกเขาได้รวมกิจการที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าไว้ในระบบการจัดการความเสี่ยง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการขุดคริปโตเคอเรนซี โดยใช้วัสดุเซลล์แสงอาทิตย์

ข้อมูลติดต่อ

John Walls
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
john@tusklimited.com
(+60)1117000943

แหล่งที่มา: Tusk Inc. Limited

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย