Aramco Digital และ Intel ตั้งเป้าที่จะร่วมมือกันจัดตั้งศูนย์พัฒนา Open RAN แห่งแรกของซาอุดิอาระเบีย

Logo

ดาห์ราน, ซาอุดิอาระเบีย–(BUSINESS WIRE)–15 มกราคม 2024

Aramco Digital และ Intel ประกาศเจตนารมณ์ที่จะจัดตั้งศูนย์พัฒนา Open RAN (Radio Access Network) แห่งแรกของซาอุดิอาระเบีย สิ่งอํานวยความสะดวกนี้คาดว่าจะขับเคลื่อนนวัตกรรม ส่งเสริมความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และมีส่วนสนับสนุนภูมิทัศน์การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในราชอาณาจักร

ความร่วมมือนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเร่งการพัฒนาและปรับใช้เทคโนโลยี Open RAN ซึ่งช่วยให้ราชอาณาจักรสามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมที่แข็งแกร่งและคล่องตัว โดยมุ่งเน้นที่การเร่งการแปลงเป็นดิจิทัลในอุตสาหกรรมต่างๆ ความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ 2030 ของซาอุดิอาระเบีย ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความหลากหลายทางเศรษฐกิจ

Open RAN ซึ่งเป็นกระบวนทัศน์ที่พัฒนาขึ้นในสถาปัตยกรรมเครือข่ายไร้สาย ช่วยให้เกิดความยืดหยุ่น ความสามารถในการทํางานร่วมกัน และนวัตกรรมที่มากขึ้น Aramco Digital นําเสนอความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความต้องการ และความทะเยอทะยานในการพัฒนาของราชอาณาจักร ตลอดจนโอกาสในการปรับใช้เทคโนโลยี Open RAN ควบคู่ไปกับมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ของภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจของราชอาณาจักร Intel ผู้บุกเบิกด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร นําความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยี Open RAN มาสู่ความร่วมมือกัน

จุดเด่นของความร่วมมือกัน:

1. **ศูนย์กลางนวัตกรรม:** ศูนย์พัฒนา Open RAN มีจุดมุ่งหมายที่จะทําหน้าที่เป็นศูนย์กลางนวัตกรรม ส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง Aramco Digital กับวิศวกร นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมของ Intel

2. **การพัฒนาบุคคลากรในท้องถิ่น:** ศูนย์มีจุดมุ่งหมายที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาบุคลากรในท้องถิ่น โดยจัดให้มีการฝึกอบรมและประสบการณ์ตรงในสาขาที่พัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี Open RAN และการประมวลผลแบบเอดจ์

3. **ผลกระทบทางเศรษฐกิจ:** ความร่วมมือนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น ผ่านความคิดริเริ่มที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่กว้างขึ้นของวิสัยทัศน์ 2030

4. **ความร่วมมือระดับโลก:** ความร่วมมือใน Open RAN ระหว่าง Aramco Digital และ Intel คาดว่าจะขยายออกไปเกินขอบเขต โดยเชื่อมโยงซาอุดิอาระเบียเข้ากับภูมิทัศน์ระดับโลก ของการพัฒนาและการปรับใช้ Open RAN และ Edge

Tareq Amin ซีอีโอของ Aramco Digital กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของเรา ในการช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมในราชอาณาจักร ศูนย์พัฒนา Open RAN คาดว่าจะเป็นตัวเร่งให้เกิดวิวัฒนาการทางดิจิทัล โดยเป็นแพลตฟอร์มสําหรับการทํางานร่วมกัน การพัฒนาทักษะ และการสร้างระบบนิเวศเทคโนโลยีที่มีชีวิตชีวา หัวใจสําคัญของความร่วมมือนี้ คือการสร้างกลุ่มความสามารถในท้องถิ่นสำหรับเทคโนโลยี 5G ขั้นสูง และเทคโนโลยี 6G ในอนาคต”

“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมมือกันใน Open RAN กับ Aramco Digital และเพื่อรวมความสามารถทางเทคโนโลยีของ Intel ในด้านเครือข่าย การประมวลผลแบบเอดจ์ และซอฟต์แวร์ เข้ากับข้อมูลเชิงลึกในท้องถิ่นและความเป็นผู้นําในอุตสาหกรรมของ Aramco Digital เรามุ่งมั่นที่จะเร่งการปรับใช้โซลูชัน Open RAN แบบ edge-native ในซาอุดิอาระเบียและที่อื่น ๆ” [Sachin Katti รองประธานอาวุโสของ Intel และผู้จัดการทั่วไปของ Network and Edge Group] กล่าว

ศูนย์พัฒนา Open RAN มีแผนที่จะเริ่มดําเนินการในปี 2024 ซึ่งนับเป็นก้าวสําคัญในการเดินทางของซาอุดิอาระเบียสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี

เกี่ยวกับ Aramco Digital:

Aramco Digital เป็นบริษัทด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีในเครือของ Aramco ซึ่งเป็นบริษัท พลังงานและเคมีภัณฑ์ครบวงจรระดับโลก Aramco Digital มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและนวัตกรรมทางเทคโนโลยีในภาคส่วนต่างๆ

เกี่ยวกับ Intel:

Intel (NASDAQ: INTC) เป็นผู้นําระดับโลกในด้านนวัตกรรมการประมวลผล บริษัทออกแบบและสร้างเทคโนโลยีที่จําเป็น ซึ่งทําหน้าที่เป็นรากฐานสําหรับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของโลก

*ที่มา: AETOSWire

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53882082/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Hosam M. Al-Gharib
media.inquires@aramcodigital.com

ที่มา: Aramco Digital

Korea Grand Sale 2024 เทศกาลช้อปปิ้งและการท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดของเกาหลีเริ่มขึ้นแล้ว

Logo

มหกรรมช้อปปิ้งระยะเวลา 50 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 มกราคมถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์

กรุงโซล เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–15 มกราคม 2024

Korea Grand Sale ซึ่งเป็นอีเวนต์ใหญ่ครั้งแรกในปีนี้โดยเป็นส่วนหนึ่งของ 2023-2024 Visit Korea Year พร้อมแล้วที่จะจุดประกาย “ช่วงเวลาสุดพิเศษในเกาหลี” ของคุณตั้งแต่วันที่ 11 มกราคมเป็นต้นไป

Korea Grand Sale 2024 runs from January 11th to February 29th, offering benefits and discounts across various areas, including K-travel, K-shopping, K-culture, and more. (Graphic: Visit Korea Committee)

Korea Grand Sale 2024 เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 มกราคมถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ โดยจะมอบสิทธิประโยชน์และส่วนลดในภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวเกาหลี การช้อปปิ้งในเกาหลี วัฒนธรรมเกาหลี และอีกมากมาย (กราฟิก: คณะกรรมการ Visit Korea)

เทศกาลที่น่าตื่นเต้นนี้พร้อมที่จะมอบสิทธิประโยชน์และส่วนลดในภาคส่วนต่างๆ ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวเกาหลี การช้อปปิ้งในเกาหลี และวัฒนธรรมเกาหลี ดื่มด่ำกับประสบการณ์ในแบบฉบับเกาหลีขนานแท้หลากหลายแขนง พร้อมด้วยโปรแกรมคอนเทนต์เกาหลีได้รับการคัดสรรมาเพื่ออีเวนต์นี้โดยเฉพาะ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53879288/en

ข้อมูลติดต่อ

คณะกรรมการ Visit Korea
Saeram Zeong
zeongs@smtown.com

แหล่งที่มา: คณะกรรมการ Visit Korea

Wemade ขอนำเสนอกิจกรรมปีใหม่ MIR4 ‘ค้นหาหิน Cintamani สีฟ้า’!

Logo

  • ร้านค้าแลกเปลี่ยนและกิจกรรมเช็คอินพร้อมให้เข้าร่วมกิจกรรมแล้วในขณะนี้ โดยสามารถรับไอเทมต่างๆ เช่น ‘กล่องของขวัญเซอร์ไพรส์มังกรเหลือง’ และ ‘ตั๋วแลกเปลี่ยนสโนว์บอร์ดดอกไม้ฤดูหนาว’
  • มีการเพิ่มอุปกรณ์สำรองในตำนานใหม่ ‘อุปกรณ์สำหรับโอนถ่าย’ ซึ่งจะเพิ่ม PHYS ATK และ Spell ATK เมื่อติดตั้ง

SEOUL, South Korea–(BUSINESS WIRE)–11 มกราคม 2024

เกม MMORPG MIR4 ยอดฮิตของ Wemade เริ่มต้นกิจกรรมปีใหม่ “ค้นหาหิน Cintamani สีฟ้า” เมื่อวันที่ 9 มกราคม

Wemade is organizing MIR4 New Year's event called

ในขณะนี้ Wemade กำลังดำเนินการจัดกิจกรรมปีใหม่ MIR4 ที่มีชื่อว่า “ค้นหาหิน Cintamani สีฟ้า” (กราฟิก: Wemade)

“ร้านค้าแลกเปลี่ยนหิน Cintamani สีฟ้าของ Mir” เปิดให้บริการแล้วใน MIR4 จนถึงวันจันทร์ที่ 22 เดือนมกราคม ผู้เล่นสามารถนำ “หิน Cintamani สีฟ้า” ที่ได้รับในระหว่างการไล่ล่าหาสมบัติสำหรับ NPC “(2024) Mir” ที่ค้นพบในเมืองใหญ่ของแต่ละพื้นที่ เพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยนเป็นไอเทมอื่นๆ เช่น “รูปปั้นมังกรฟ้าในตำนาน” และ “กล่องของขวัญเซอร์ไพรซ์มังกรเหลือง” ซึ่งรวบรวมตั๋วคอลเล็กชันต่างๆ รวมทั้งมีการแจกเหรียญตรา Codex เพื่อใช้ในการบูสต์เอฟเฟกต์ต่างๆ เช่น EVA และ CRIT

กิจกรรม “เช็คอินมังกรฟ้า 14 วัน” จะดำเนินต่อจนถึงวันจันทร์ที่ 5 เดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับวันที่ผู้เล่นลงชื่อเข้าในระบบ มีรางวัลไอเทมมากมาย “[E] Dragonsteel Box” และ “ตั๋วแลกเปลี่ยนสโนว์บอร์ดดอกไม้ฤดูหนาว” ยิ่งไปกว่านั้น “ร้านเหรียญกิจกรรมแคลน” ยังคงเปิดให้บริการจนถึงวันอังคารที่ 23 เดือนมกราคม ผู้เล่นสามารถใช้เหรียญแคลนที่ได้รับจากกิจกรรมแคลนเพื่อซื้อ “[L] Mystic Enhancement Stone”, “Sarmati’s Transference Equipment Box” และอื่นๆ อีกมากมาย

มีการเพิ่มอุปกรณ์สำรองในตำนานใหม่ “อุปกรณ์ถ่ายโอน” อุปกรณ์ถ่ายโอนเป็นไอเทมที่ได้รับเมื่อผู้เล่นสร้างความสัมพันธ์กับแต่ละบุคคลจาก Outerworld ผ่าน Mirage Ship ตัวละครที่มีระดับ 100 ขึ้นไปสามารถติดตั้งได้ และ PHYS ATK และ Spell ATK จะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการติดตั้ง

จากการต่อสู้ของฉันสู่สงครามของเรา! สามารถดูรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับ MIR4 ได้ที่ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/53879332/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Wemade Co., Ltd. (112040: KOSDAQ)
Jennifer Jung, PR Manager
jennifer@wemade.com

แหล่งข้อมูล: Wemade Co., Ltd.

แซลมอนขึ้นแท่นธนาคารจดทะเบียนในฟิลิปปินส์

Logo

มะนิลา ฟิลิปปินส์ –(BUSINESS WIRE)–9 มกราคม 2024

แซลมอน บริษัทเทคโนโลยีทางการเงินที่มุ่งมั่นพัฒนาการเข้าถึงสินเชื่อ การออมและการลงทุนให้กับลูกค้าที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินกว่า 500 ล้านคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ประกาศการรับรองการอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการการเงินแห่งธนาคารกลางแห่งฟิลิปปินส์ (BSP) ให้ทำการถือครองหุ้นในธนาคารแห่งซานตาโรซา (ลากูน่า) ซึ่งถือเป็นสถาบันทางการเงินจดทะเบียนที่ได้รับความไว้วางใจในการให้บริการชาวฟิลิปปินส์ตั้งแต่ปี 2506

ทั้งนี้แซลมอนจะถือครองหุ้น 59.7% ของธนาคารแห่งซานตาโรซาเมื่อมีการบรรลุข้อตกลงในการถือครองหุ้นฉบับนี้ ซึ่งกระบวนการต่าง ๆ จะสิ้นสุดลงในอีกไม่กี่สัปดาห์ โดยใบรับรองการจดทะเบียนและรอยเท้านิเวศน์ของธนาคารแห่งซานตาโรซาจะทำให้แซลมอนสามารถเสนอขายผลิตภัณฑ์สินเชื่อและการกู้ยืมที่มีการบริหารจัดการโดยใช้เอไอให้กับลูกค้าทั่วประเทศ ทั้งนี้แซลมอนจะดำเนินธุรกิจทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ โดยสร้างความแตกต่างให้กับตนเองโดยการให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้าทุกระดับ ซึ่งลูกค้ากว่า 92% ของบริษัทแนะนำให้เพื่อนและครอบครัวใช้บริการของแซลมอน

การก้าวขึ้นมาเป็นธนาคารจดทะเบียนในตลาดหลักถือเป็นก้าวสำคัญทั้งสำหรับแซลมอนและฟิลิปปินส์ โดยแซลมอนได้จับมือกับบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินหลายแห่งที่ดำเนินธุรกิจสถาบันธนาคารจดทะเบียนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสัญญาความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มการเข้าถึงบริการธนาคารสมัยใหม่ในหมู่ชาวฟิลิปปินส์ที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินหลายล้านคนในภูมิภาคสำคัญ ๆ เช่น เมโทรมะนิลา เซบู และดาเวา ซึ่งแซลมอนวางแผนที่จะขยายสาขาใหม่อีกหลายสาขาตามความเห็นชอบของธนาคารกลางแห่งฟิลิปปินส์ โดยธุรกรรมทางการเงินถือเป็นการส่งเสริมโครงการเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธนาคารท้องถิ่นที่ริเริ่มโดยธนาคารกลางแห่งฟิลิปปินส์ในปี 2565 เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับภาคการธนาคารท้องถิ่นของประเทศและส่งเสริมการเติบโตแบบองค์รวมเพื่อรับมือกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาของประชากรชาวฟิลิปปินส์ที่มีความตื่นตัว พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ และมีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยี

“เรารู้สึกตื่นเต้นกับการพัฒนาการครั้งสำคัญซึ่งเป็นอีกก้าวที่สำคัญของแซลมอน และรู้สึกซาบซึ้งกับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางแห่งฟิลิปปินส์ และวิสัยทัศน์ของธนาคารในการขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการทางการเงินในประเทศ ข้อตกลงฉบับนี้จะช่วยให้เราเข้าถึงชุมชนด้อยโอกาสในฟิลิปปินส์ได้มากขึ้น โดยให้บริการทางการเงินที่ทันสมัย ยึดถือลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และเข้าถึงง่ายกับผู้คนมากขึ้น เรายังภาคภูมิใจกับความสัมพันธ์อันน่าอัศจรรย์ของเรากับทีมบริหารของธนาคารแห่งซานตาโรซา (ลากูน่า) และหมายมั่นที่จะสร้างสถาบันการเงินที่แข็งแกรงไปพร้อม ๆ กันเพื่อขยายการบริการให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศฟิลิปปินส์”

แซลมอนจะคงรักษาและยกระดับการให้บริการในรูปแบบออฟไลน์ของธนาคารไว้เช่นเดิม โดยอัดฉีดเงินทุนและเทคโนโลยีอย่างเพียงพอให้กับธนาคารเพื่อยกระดับการบริการให้กับลูกค้าทุกคน กลยุทธ์การยึดเอาลูกค้าเป็นศูนย์กลางของแซลมอน ที่เป็นที่ชื่นชมในกลุ่มลูกค้าปัจจุบัน จะมีการนำไปปรับใช้ให้ครอบคลุมทุกช่องทาง รวมถึงช่องทางออฟไลน์ด้วย

ติดต่อ
pr@fhl.world

ที่มา: Salmon

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

SingPost เปิดใช้งานการขนส่งโลจิสติกส์อีคอมเมิร์ซแบบเรียลไทม์ทั่วเอเชียแปซิฟิกด้วย Boomi

Logo

ทีมงาน SingPost ผู้ให้บริการไปรษณีย์และโลจิสติกส์อีคอมเมิร์ซชั้นนำ ร่วมมือกับ Boomi เพื่อเสริมการให้บริการแก่ลูกค้าใหม่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น 75  เปอร์เซนต์

SINGAPORE & CHESTERBROOK, Pa.–(BUSINESS WIRE)–10 มกราคม 2024

Boomi™ ผู้นำด้านการเชื่อมต่อและระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ ประกาศในวันนี้ว่า  Singapore Post Limited (SingPost) มีการร่วมมือกับ แพลตฟอร์ม Boomi เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและเพิ่มความเร็วในการให้บริการแก่ลูกค้าใหม่ได้เร็วยิ่งขึ้น เพื่อตอบรับเป้าหมายการปรับแปลงเป็นระบบดิจิทัล

SingPost Enables Real-Time eCommerce Logistics Delivery Across Asia Pacific With Boomi (Graphic: Business Wire)

SingPost เปิดใช้งานการขนส่งโลจิสติกส์อีคอมเมิร์ซแบบเรียลไทม์ทั่วเอเชียแปซิฟิกด้วย Boomi (กราฟิก: Business Wire)

ในขณะที่อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ทั่วโลกคาดว่า จะมีมูลค่าสูงถึง 6.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2023 รายได้จากอีคอมเมิร์ซเฉพาะในเอเชียคาดว่าจะสูงถึง 1.92 ล้านล้านเหรียญในปี 2024 ในฐานะผู้ให้บริการไปรษณีย์และโลจิสติกส์อีคอมเมิร์ซชั้นนำในเอเชียแปซิฟิก SingPost ให้บริการ 13 ตลาดทั่วจุดหมายปลายทางทั่วโลกถึง 220 แห่ง ด้วยเป้าหมายที่มุ่งเน้นการจัดส่งพัสดุอีคอมเมิร์ซทั้งในประเทศและต่างประเทศ SingPost ได้เริ่มโครงการปรับแปลงเป็นระบบดิจิทัล พร้อมกับการใช้งานเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงแพลตฟอร์มบูรณการข้อมูลที่ปรับแต่งได้ และ AI เชิงสร้างสรรค์

เพื่อปรับปรุงธุรกิจให้ทันสมัยท่ามกลางภูมิทัศน์ห่วงโซ่อุปทานที่ซับซ้อน พร้อมการปรับปรุงความพึงพอใจของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น SingPost จึงต้องการโซลูชันที่ปรับขนาดได้และมีประสิทธิภาพสำหรับการปรับแปลงข้อมูลและแผนที่ข้อมูล รวมถึงการจัดการบูรณาการและอินเทอร์เฟซโปรแกรมมิ่งสำหรับแอปพลิเคชัน (API)

“ข้อมูลเป็นรากฐานสำคัญสำหรับธุรกิจของเรา เราใช้ข้อมูลเพื่อประสานการจัดส่งโลจิสติกส์อีคอมเมิร์ซแบบครบวงจร โดยคำนึงถึงประสบการณ์ของลูกค้าเป็นหลัก เราต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า ลูกค้าของเราได้รับข้อมูลที่อัปเดตในทุกขั้นตอน ตั้งแต่สั่งซื้อสินค้าออนไลน์จนถึงสินค้ามาถึงหน้าประตูบ้าน” Noel Singgih, Group CIO ของ SingPost กล่าว

ในการตรวจสอบให้แน่ใจว่า ข้อมูลพร้อมใช้งาน และสามารถใช้งานได้แบบเรียลไทม์ เป็นส่วนสำคัญในเป้าหมายการปรับแปลงเป็นระบบดิจิทัลของ SingPost บริษัทต้องการยกเลิกการใช้ข้อมูลแบบแนวดิ่ง ปรับปรุงการกำกับดูแลข้อมูล และเปลี่ยนจากระบบเดิมที่ซ้ำซ้อน เพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสทางการตลาดและขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ SingPost ต้องการแพลตฟอร์มบูรณาการที่เสถียรและเชื่อถือได้สำหรับบริการ (iPaaS)

“เราต้องการแพลตฟอร์มบูรณาการเชิงกลยุทธ์สำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (EDI) และการผสานข้อมูลแบบ API เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและมีความยืดหยุ่นในการปรับขนาดสำหรับธุรกิจของเราและความต้องการตามฤดูกาล” Singgih กล่าว “ด้วยแพลตฟอร์ม Boomi ในปัจจุบัน เราสามารถเริ่มให้บริการแก่ลูกค้าใหม่ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นถึง 75 เปอร์เซนต์ จากที่เราต้องใช้เวลาห้าถึงหกสัปดาห์ ปัจจุบันเราใช้เวลาน้อยกว่าสองสัปดาห์ ความร่วมมือของเรากับ Boomi ช่วยให้เราสามารถปรับปรุงความโปร่งใสในการจัดส่งและการปฏิบัติตามคำสั่งซื้อของลูกค้า ช่วยให้เรามีความคล่องตัวยิ่งขึ้น และมีโอกาสทางการตลาดสูงขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดกลางและผู้ค้าปลีกอีคอมเมิร์ซ”

“ในโลกดิจิทัลที่เราเชื่อมต่อถึงกันโดยทั่ว การก้าวนำหน้าเป็นกุญแจสำคัญ Boomi ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมได้อย่างรวดเร็วและในวงกว้าง เพื่อให้บรรลุการปรับแปลงให้เป็นระบบดิจิทัลและสอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นพันธมิตรกับ SingPost ในการปรับแปลงบริษัทดิจิทัลแห่งแรก โดยมุ่งเน้นที่ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลแบบเรียลไทม์” Thomas Lai รองประธานและผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นของ Boomi กล่าว

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Boomi
Boomi มีเป้าหมายที่จะทำให้โลกนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้นโดยการเชื่อมโยงทุกคนเข้าด้วยกันกับทุกสิ่งและจากทุกที่ ในฐานะที่เป็นผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มบูรณาการบนระบบคลาวด์ในฐานะบริการ (iPaaS) และปัจจุบันเป็นบริษัทซอฟท์แวร์ที่ให้บริการ (SaaS) ชั้นนำระดับโลก Boomi มีฐานข้อมูลลูกค้าขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มบูรณาการและเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลกประมาณ 800 ราย – รวมถึง Accenture, Capgemini, SAP และ Snowflake องค์กรระดับโลกหันมาใช้แพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลของ Boomi ในการค้นหา จัดการ และผสานรวมข้อมูล ในขณะเดียวกัน ก็เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน กระบวนการ และผู้คนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ boomi.com

© 2023 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ ‘B’, และ Boomiverse เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP หรือบริษัทสาขาหรือบริษัทในเครือ สงวนลิขสิทธิ์ ชื่อหรือเครื่องหมายอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53866937/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สื่อ:
Jasmine Ee
Head of Media and Analyst Relations, APJ
jasmine.ee@boomi.com

แหล่งข้อมูล: Boomi, LP

GIGABYTE ปลดปล่อยความมหัศจรรย์ของ AI ในงาน CES 2024: ผู้บุกเบิกเซิร์ฟเวอร์ AI/HPC, เทคโนโลยีสีเขียว, AIoT และGaming Powerhouses

Logo

ไทเป–(BUSINESS WIRE)–10 มกราคม 2024

GIGABYTE Technology ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกด้านไอทีที่มุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมระดับโลกผ่านระบบคลาวด์และคอมพิวเตอร์ AI และยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ด้วยนวัตกรรมฮาร์ดแวร์ กำลังเป็นศูนย์กลางที่งาน CES 2024 ด้วยซีรีส์เซิร์ฟเวอร์ AI/HPC ที่ล้ำสมัย ซึ่งเน้นโดยเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับ AMD Instinct™ MI300A APU, NVIDIA Grace Hopper Superchip, และ NVIDIA HGX H100 8-GPU ชิปใหม่เหล่านี้จากผู้นำในอุตสาหกรรมได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการเติบโตแบบทวีคูณของ AI โดยจัดการพารามิเตอร์โมเดลและชุดข้อมูลที่เพิ่มสูงขึ้น จึงถือเป็นก้าวสำคัญใหม่ในภูมิทัศน์ของ AI

GIGABYTE's presentation at CES includes cutting-edge AI/HPC servers, servers for advanced data centers, green computing solutions, AIoT, and AI-powered flagship computers, embodying the booth theme

การนำเสนอของ GIGABYTE ที่งาน CES มีทั้งเซิร์ฟเวอร์เทคโนโลยี HPC/AI สุดล้ำ, เซิร์ฟเวอร์สำหรับศูนย์ข้อมูลขั้นสูง, โซลูชันการประมวลผลสีเขียว, AIoT, และคอมพิวเตอร์รุ่นเรือธงที่ประมวลผลด้วยเทคโนโลยี AI, โดยรวมอยู่ในบูธที่มาในธีม “อนาคตแห่งระบบประมวลผล” (รูป: Business Wire)

ที่บูธ GIGABYTE ยังจัดแสดงโซลูชั่นระบบประมวลผลรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ช่วยให้ศูนย์ข้อมูลสามารถรองรับเวิร์กโหลด AI จำนวนมากพร้อมลดการใช้พลังงานลง บรรลุเป้าหมายแห่งความยั่งยืนด้วยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่น้อยลง

นิทรรศการของ GIGABYTE ครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์เชิงนวัตกรรมที่หลากหลาย เซิร์ฟเวอร์ โซลูชันadvanced cooling solutions AIoT และคอมพิวเตอร์รุ่นเรือธงที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งออกแบบมาสำหรับนักเล่นเกมและผู้สร้าง โดยรวบรวมบูธต่างๆ ในหัวข้อ “Future of COMPUTING” แบ่งเป็นห้าส่วนที่โดดเด่น

เซิร์ฟเวอร์ AI/HPC: คอมพิวเตอร์ระดับ Exascale

GIGABYTE และบริษัทในเครือ Giga Computing กำลังเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ AI/HPC ระดับท็อปสี่ตัวที่งาน CES เซิร์ฟเวอร์ G383-R80 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เสริมล่าสุด รองรับ AMD Instinct™ MI300A APU ซึ่งผสานรวม CPU, GPU และหน่วยความจำ HBM3 แบบรวมขนาด 128GB เพื่อรองรับการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่แบบเรียลไทม์

ความโดดเด่นอีกอย่างคือ AI server ซีรีส์ G593 ที่มาพร้อมกับ NVIDIA HGX H100 8-GPU ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมในการฝึกฝนโมเดล AI และการอนุมานภายในการกำหนดค่า 5U ความหนาแน่นสูงที่ไม่มีใครเทียบได้ เซิร์ฟเวอร์นี้มีความเป็นเลิศในเกณฑ์มาตรฐานการฝึกอบรม MLPerf และพิสูจน์ให้เห็นถึงความเก่งกาจของเวิร์กโหลด AI ที่หลากหลาย

สำหรับความต้องการด้านคอมพิวเตอร์ที่ปรับขนาดได้และยืดหยุ่น GIGABYTE ขอแนะนำ XH23-VG0 ซึ่งขับเคลื่อนโดย NVIDIA Grace Hopper Superchip ซึ่งยึดตามการออกแบบโมดูลาร์ MGX โดยมอบสล็อตขยาย FHFL สำหรับแอปพลิเคชัน AI/HPC ขนาดใหญ่ G493-SB0 รองรับ GPU Gen5 สล็อตคู่ 8 ช่อง รองรับปริมาณงานที่หลากหลาย รวมถึง generative AI การจำลองเสมือน การเรนเดอร์ และกราฟิก 3D

ศูนย์ข้อมูลที่ยั่งยืน: ระบบประมวลผลรักษ์สิ่งแวดล้อม

โซลูชันการประมวลผลรักษ์สิ่งแวดล้อมของ GIGABYTE ช่วยให้อุตสาหกรรมสามารถบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน ท่ามกลางการดำเนินงานที่ต้องใช้การประมวลผลสูงและเวิร์กโหลด AI เซิร์ฟเวอร์ที่พร้อมระบายความร้อนด้วยของเหลวและแบบ immersion cooling-ready servers ได้รับการรับประกันประสิทธิภาพด้วยการออกแบบระบายความร้อนชั้นนำของอุตสาหกรรมของ GIGABYTE ซึ่งรับประกันประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ยอดเยี่ยม (PUE) และต้นทุนการเป็นเจ้าของ (TCO) ที่ได้เปรียบ GIGABYTE ยังนำเสนอระบบ direct liquid cooling (DLC) และโซลูชันการทำความเย็นแบบ single-phase immersion cooling ซึ่งรวมทั้งหมดในหนึ่งเดียว สำหรับนิทรรศการพร้อมตู้เซิร์ฟเวอร์ภายในองค์กรและถังแช่ A1P0-EA0

การใช้งานไอทีแบบ Agile

ที่บูธ GIGABYTE ขอแนะนำเซิร์ฟเวอร์จัดเก็บข้อมูล S183-SH0 ซึ่งได้รับการปรับแต่งสำหรับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) โดยมี E1.S NVMe SSD จำนวน 32 ตัวสำหรับการจัดเก็บและเรียกค้นข้อมูลความเร็วสูง นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงเซิร์ฟเวอร์คลาวด์ R163-P32 พร้อมโปรเซสเซอร์ตระกูล AmpereOne™ ที่รองรับสูงสุด 192 คอร์ และเซิร์ฟเวอร์ Edge ความหนาแน่นสูง E163-S30 ที่สร้างขึ้นสำหรับสภาพแวดล้อมเครือข่าย 5G เซิร์ฟเวอร์ที่ล้ำสมัยเหล่านี้ช่วยให้อุตสาหกรรมต่างๆ สามารถปรับตัวเข้ากับแนวโน้มของตลาดที่กำลังพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว

IoT ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และความคล่องตัวทางอิเล็กทรอนิกส์

GIGABYTE นำเสนอโซลูชั่นอัจฉริยะที่ครอบคลุมสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย AI พร้อมด้วย  Advanced Driver Assistance Systems (ADAS) และระบบเทเลเมติกส์ของยานพาหนะช่วยให้ขับขี่อัตโนมัติในสภาพถนนที่ซับซ้อน คอมพิวเตอร์แบบแล็ปท็อปที่ทนทานเป็นพิเศษและพีซีอุตสาหกรรมแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการประมวลผลข้อมูลที่มีความทนทานสูงและประสิทธิภาพที่เสถียรในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นในสถานการณ์ของสถานีตรวจอากาศที่บูธ

การเล่นเกมและการสร้างสรรค์

GIGABYTE ได้รับการยกย่องด้าน gaming and creator computers รวมถึง AORUS AERO และ แล็ปท็อป เมนบอร์ด การ์ดกราฟิก และจอภาพ 4K OLED ของ GIGABYTE Gaming series แสดงให้เห็นถึงพลังและเสน่ห์ในงาน CES กลุ่มผลิตภัณฑ์แล็ปท็อปสำหรับเล่นเกม AI ในปี 2024 ของ GIGABYTE มีคอร์ AI เจเนอเรชันถัดไปและ AI Nexus ที่เป็นกรรมสิทธิ์สำหรับประสบการณ์ AI ที่ราบรื่นในด้านประสิทธิภาพ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ และ AI กำเนิด นอกจากนี้ ผู้ชื่นชอบงานสร้างสรรค์ยังสามารถสำรวจการออกแบบที่มีน้ำหนักเบาราวขนนก 1.49 กก. ของแล็ปท็อป AERO 14 OLED และจอแสดงผล OLED HDR 2.8K ที่ปรับเทียบสี ซึ่งช่วยยกระดับประสิทธิภาพการทำงานไปสู่อีกระดับหนึ่ง

เยี่ยมชมหน้าเวบเพจของ GIGABYTE’s CES event page.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53876542/en

ติดต่อ

ฝ่ายสื่อ: Michael Pao brand@GIGABYTE.com

ที่มา: GIGABYTE Technology


อีเว้นท์งานนับถอยหลังวันส่งท้ายปีเก่า “HAPPY NEW YEAR TOKYO” จัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ตึกศาลาว่าการกรุงโตเกียว!

Logo

พร้อมการแสดงแสงสีเสียงและกิจกรรมบนเวที

TOKYO–(BUSINESS WIRE)–9 มกราคม 2024

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองปี 2023 และแบ่งปันเสน่ห์ของเมืองโตเกียวในยามค่ำคืนที่รอคอยสำหรับปี 2024 จึงมีการจัดอีเว้นท์งานนับถอยหลังเพื่อต้อนรับวันปีใหม่ “HAPPY NEW YEAR TOKYO” ที่ Tomin Hiroba (Citizen’s Plaza) ที่ตึกศาลาว่าการกรุงโตเกียว เพื่อความสนุกสนานสำหรับทุกคน ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ โดยมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 650 คนในค่ำคืนนั้น

The Projection Mapping Show (Photo: Business Wire)

การแสดงแสงสีเสียง (ภาพถ่าย: Business Wire)

เริ่มต้นด้วยการแสดงแสงสีเสียงอันงดงามที่นำเสนอเสน่ห์ของเมืองโตเกียว เช่น สถานที่ที่มีชื่อเสียงต่างๆ และฤดูกาลทั้งสี่ ตามด้วยการแสดงพิเศษร่วมกับ Pikotaro นักร้องนักแต่งเพลง และตัวการ์ตูนจาก Sanrio เช่น Hello Kitty ปรากฏตัวบนเวทีในฐานะแขกรับเชิญ ทำให้ทุกคนตื่นเต้นกันเป็นอย่างมาก ในตอนจบ แขกรับเชิญ และผู้ว่าการ Koike พร้อมด้วยผู้เข้าร่วมต่างชูโคมขึ้น เพื่อขอพรสำหรับปีใหม่และอนาคตของโตเกียวขึ้นสู่ท้องฟ้า ตามด้วยอีเว้นท์งานนับถอยหลังเพื่อต้อนรับวันปีใหม่อันน่ามหัศจรรย์

กิจกรรมบนเวทีกับ Pikotaro ตัวการ์ตูนจาก Sanrio และผู้ว่าการ Koike เข้าร่วมงาน

Pikotaro มาเป็นแขกรับเชิญและเผยการเรียบเรียงเพลงประจำตัว “PPAP” เป็นเวอร์ชันพิเศษสำหรับอีเว้นท์นี้ Pikotaro กล่าวว่า “ผมแต่งเนื้อเพลงด้วยคำว่า 'YO' ซึ่งแสดงถึง 'ตัวคุณ' และ 'TOK' ซึ่งหมายถึงการเคลื่อนที่ของเข็มนาฬิกา ในคำว่า 'TOKYO' และผสานข้อความ 'ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันกับโตเกียว' เข้ากับเพลง”

จากนั้น เริ่มต้นด้วยการปรากฏตัวของ Hello Kitty ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวการ์ตูนจาก Sanrio โดยมีการโชว์การแสดงสุดน่ารักพร้อมการแสดงแสงสีเสียง

หลังการแสดงของแขกรับเชิญ ผู้ว่าการ Koike ขึ้นเวที เธอเขียนข้อความไว้ว่า “เราทุกคนส่องแสงเน้นเสน่ห์ของโตเกียว” บนหนึ่งในโคมลอยที่มีอยู่ และกล่าวว่า “เสน่ห์ของโตเกียวที่เกิดใหม่ โดยสร้างขึ้นโดยพวกเราทุกคน นั่นหมายถึง เมื่อคุณมีความสว่างไสว โตเกียวจะส่องสว่างมากยิ่งขึ้น” ในช่วงสุดท้าย มีการฉายธีมการแสดงแสงสีเสียงที่สดใสพร้อมแสดงธีมสี่ฤดูกาลของโตเกียวบนจอผนังโค้งขนาดใหญ่ และจากนั้น พร้อมกับการแสดงภาพนับถอยหลัง โคมลอยจะนำพาความปรารถนาของผู้เข้าร่วมลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ทั่วทั้งบริเวณ พร้อมแสงสีเสียงอันน่ามหัศจรรย์

© 2023 SANRIO CO., LTD. เลขที่อนุมัติ P151227-2

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53874967/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

หากนักข่าวมีคำถามหรือต้องการข้อมูล:
Shigeki Yamaguchi
Director for City Sales, Tourism Division, Bureau of Industrial and Labor Affairs, Tokyo Metropolitan Government
Shigeki_Yamaguchi@member.metro.tokyo.jp

แหล่งข้อมูล: Tokyo Metropolitan Government



Sharp เตรียมเข้าร่วมงาน CES 2024 ซึ่งเป็นงานกิจกรรมทางด้านเทคโนโลยีที่สำคัญในอเมริกา

Logo

ลาสเวกัส–(BUSINESS WIRE)–4 มกราคม 2024

Sharp Corporation จะเข้าร่วมในงาน CES 2024 ซึ่งเป็นหนึ่งในงานกิจกรรมทางด้านเทคโนโลยีที่ทรงอิทธิพลที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก ตามสโลแกนที่ว่า “Toward the Future for a Better Life (ก้าวล้ำไปในอนาคต)” Sharp จะส่งเสริมเทคโนโลยีระดับเวิร์ลคลาสที่หลากหลายในตลาดโลกด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ภายใต้กรรมสิทธิ์ของเรา

  • ไฮไลท์
  1. การใช้ชีวิตแบบสมาร์ท
    เทคโนโลยีที่ลดข้อกังวลต่างๆ มากมายภายในบ้านและทำให้ชีวิตสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคุณ
    ผู้สอนเสมือนจริง (บอตอธิบายรายละเอียด) ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีแบบ Edge AI ที่ทาง Sharp ได้พัฒนาขึ้นมาชื่อว่า CE-LLM*1 (Communication Edge-LLM) จะทำการแนะนำนิทรรศการผ่านการสนทนาแบบอินเตอร์แอคทีฟอย่างไร้ที่ติ นอกจากนี้เตาอบความความเร็วสูงที่ลดเวลาในการปรุงอาหารลงอย่างมากด้วยเทคโนโลยีการทำความร้อนที่มีลักษณะเฉพาะตัวและการควบคุมแหล่งจ่ายความร้อนได้อย่างลงตัวที่สุด นิทรรศการนี้ยังมีทั้งเครื่องเป่าผมและเครื่องดูดฝุ่นทรงตั้งที่มาพร้อมกับเสียงรบกวนต่ำและทรงพละกำลังสูง
  2. การปฏิวัติทางอุตสาหกรรม
    แนวคิดที่จะมอบความเร็วและประสิทธิภาพต่อแวดวงอุตสาหกรรมต่างๆ นิทรรศการนี้จึงประกอบไปด้วยเทคโนโลยีกล้องที่รองรับเทคโนโลยี XR นอกจากการนำเสนอภาพเสมือนจริงในการสนทนาและแนวคิดต่างๆ ต่อการดำเนินธุรกิจโดยใช้แว่นตา XR*2 และระบบ AI และจอแสดงข้อมูลที่สามารถใช้งานได้กับสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น คำแนะนำในการใช้งานของตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ เซ็นเซอร์รับกลิ่น Olfactory ที่ใช้ระบบ AI ที่ได้รับการพัฒนาด้วยการปรับเทคโนโลยีพื้นผิวของจอแสดงผล ช่วยในการตรวจจับกลิ่นโดยการเลียนแบบสิ่งมีชีวิต และอุปกรณ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ก๊าซ IMS (ion Mobility Spectrometry) ที่ใช้องค์ประกอบการปล่อยอิเล็กตรอนในชั้นบรรยากาศจะนำใช้ในการจัดแสดง
  3. ความยั่งยืน
    เทคโนโลยีต่างๆ ที่สร้างพลังงานหมุนเวียนแห่งโลกอนาคตและแก้ไขปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้ดียิ่งขึ้น การจัดแสดงป้าย LCD แบบใช้การสะท้อนแสงสำหรับจอกระดาษอิเล็กทรอนิกส์ชนิดสีที่ใช้ภายนอกอาคารและ ePoster ที่มีการใช้พลังงานต่ำ Sharp จะยังทำการเปิดตัวอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ที่ใช้ภายในอาคารอย่าง LC-LH ที่ใช้แสงสว่างภายในอาคารและให้ประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าสูง และสามารถจ่ายไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ IoT ได้อีกด้วย รีโมตคอนโทรลของ TV ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ LC-LH ก็นำมาแสดงด้วยเช่นเดียวกัน
  • ตำแหน่งบูทของ Sharp: 17229 เซ็นทรัลฮอล์ ลาสเวกัสคอนเวนชันเซ็นเตอร์ (เนวาดา สหรัฐอเมริกา)
  • วันและเวลาจัดนิทรรศการ: 9 ถึง 12 มกราคม 2024 (วันอังคารถึงวันศุกร์) เวลา: 10:00 – 18:00 น.
    สำหรับรายละเอียด: Dates and Hours (ces.tech)

*1

ระบบจะตอบการสนทนาและการโต้ตอบกลับอย่างเป็นธรรมชาติและสมบูรณ์แบบไร้ที่ติด้วยการตัดสินใจจัดการกับคำถามในทันทีโดยใช้ Edge AI เช่น LLM ที่ติดตั้งมาพร้อมกับระบบ หรือ AI บนคลาวด์ เช่น Chat GPT สำหรับการตอบคำถามจากผู้ใช้งาน

*2

เทคโนโลยี XR/เทคโนโลยี CR: เทคโนโลยีที่ใช้สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านการผสานระหว่างโลกแห่งความจริงและโลกเสมือนจริง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53873296/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

ทีมประชาสัมพันธ์และการสร้างแบรนด์ของ Sharp Corporation
pr-brand@sharp.co.jp

แหล่งข้อมูล: Sharp Corporation





Tim Liu CTO ของ Hillstone Networks แชร์แนวโน้มความปลอดภัยทางไซเบอร์ประจำปี 2024

Logo

CTO’s Corner: การนำทางภูมิทัศน์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่กำลังพัฒนากับ Tim Liu

ซานตาคลารา แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–22 ธันวาคม 2023

Hillstone Networks ภูมิทัศน์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในปี 2024 นั้นถูกเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ซึ่งนำเสนอทั้งความท้าทายและโอกาส ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมกำลังติดตามแนวโน้มสำคัญหลายประการอย่างใกล้ชิดซึ่งเป็นการเปิดประตูสู่ภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมถึงกลยุทธ์ด้านไอทีที่เป็นนวัตกรรมเพื่อรับมือกับพวกมัน Tim Liu CTO แบ่งปันแนวโน้มสูงสุดของเขาในปี 2024:

ผลกระทบของ AI ต่อความปลอดภัยทางไซเบอร์

การนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้นั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยได้รับแรงกระตุ้นจากการเปิดตัว ChatGPT และเทคโนโลยี AI อื่นๆ ในปี 2023 ทั้งยังได้เปลี่ยนรูปแบบการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง แม้ว่า AI จะสัญญาว่าจะปรับปรุงความคิดสร้างสรรค์ ประสิทธิภาพการทำงาน และการปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ทั่วไป แต่ก็ยังนำมาซึ่งเวกเตอร์ภัยคุกคามใหม่แบบใหม่อีกด้วย ธรรมชาติของ 'wild West' ในขอบเขตของ AI ร่วมกับกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูล ความอ่อนแอของ AI ต่อการหลอกลวงทางอินเตอร์เน็ตและการหาประโยชน์ทางวิศวกรรมสังคมที่มีการเสริมพลังด้วยกลยุทธ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น เป็นผลให้เกิดความซับซ้อนอีกชั้นต่อภูมิทัศน์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ เมื่อ AI เข้าถึงได้มากขึ้น ยิ่งก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับศักยภาพของ AI ทั้งในวัตถุประสงค์ด้านดีและด้านที่เป็นอันตราย อีกทั้งเราต้องยังคงตื่นตัวเสมอเกี่ยวกับผลกระทบที่ตามมา

ความท้าทายด้านความปลอดภัยบนคลาวด์

การนำระบบคลาวด์มาใช้ยังคงไม่หยุดยั้งโดยส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากความต้องการริเริ่มด้าน AI ขององค์กร อย่างไรก็ตาม รูปแบบความรับผิดชอบร่วมกันด้านความปลอดภัยบนคลาวด์และการปฏิบัติตามข้อกำหนดนั้นไม่เป็นที่เข้าใจในระดับสากลโดยเฉพาะในระดับผู้บริหารระดับสูงและระดับคณะกรรมการ ปัญหาต่างๆ เช่น ข้อกังวลด้านความปลอดภัยของอินสแตนซ์บนคลาวด์ที่มีการจัดการแบบระบบไอทีเงาและการขาดการดูแลโดยทีมไอทีที่มีประสบการณ์ มีส่วนทำให้เกิดความท้าทายด้านความปลอดภัยบนคลาวด์ที่ยังคงอยู่

การขยายพื้นที่โจมตี

การแพร่หลายของอุปกรณ์ Edge รวมถึงอุปกรณ์ IoT สิ่งอำนวยความสะดวกที่เชื่อมต่อกับ 5G และยานพาหนะไฟฟ้าที่เชื่อมต่อเครือข่ายกำลังขยายขอบเขตภัยคุกคามด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์มากขึ้นอย่างรวดเร็ว การป้องกันเครือข่ายแบบดั้งเดิมจะต้องพัฒนาเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ของการโจมตีใหม่ ๆ และจุดเข้าใช้งานใหม่เหล่านี้โดยต้องใช้แนวทางที่ครอบคลุมสู่ความปลอดภัยทางไซเบอร์

ปัจจัยมนุษย์ในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์

ท่ามกลางการมุ่งเน้นไปที่ AI Cloud และอุปกรณ์ปลายทาง ปัจจัยมนุษย์ยังคงเป็นเวกเตอร์การโจมตีที่แพร่หลาย เหตุการณ์ความปลอดภัยทางไซเบอร์มักเกิดจากการกระทำของมนุษย์โดยเน้นน้ำหนักไปที่ของการปฏิบัติด้านความปลอดภัยพื้นฐาน การอัปเดตการฝึกอบรมพนักงานและการจัดการอย่างระมัดระวังจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการหลีกเลี่ยงภัยคุกคามทางไซเบอร์ และทำให้ชัดเจนว่าการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์นั้นเป็นปัญหาของผู้คนมากพอ ๆ กับเทคโนโลยี

การแปลงความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยดิจิตอล

ในขณะที่ธุรกิจพึ่งพาการทำธุรกรรมดิจิตอลมากขึ้นการสร้างและการรักษาความไว้วางใจดิจิทัลจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็น กลยุทธ์การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์มีส่วนทำให้ความไว้วางใจดิจิทัลโดยเน้นที่ท่าทางความปลอดภัยแบบองค์รวมและการพัฒนาที่พัฒนาเช่นการดำเนินงานด้านความปลอดภัย (SECOPS) เครื่องมือเช่น SIEM และ XDR มีบทบาทสำคัญในการย้ายจากการรื้อล่วงหน้าไปยังท่าโพสต์ที่ผ่านมาโดยมุ่งเน้นไปที่การตรวจจับการตอบสนองและการบรรเทา แนวโน้มที่เกิดขึ้นใหม่เช่น SASE และ SSE เน้นย้ำถึงความจำเป็นสำหรับวิธีการรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจรและแบบบูรณาการ

ภูมิทัศน์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ในปี 2024 ต้องการการปรับตัวและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เทคโนโลยีวิวัฒนาการไปอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนองค์กรจะต้องระมัดระวังการจัดลำดับความสำคัญของมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เน้นผู้คนเป็นศูนย์กลางและยอมรับกลยุทธ์ความปลอดภัยแบบองค์รวมเพื่อนำทางภูมิทัศน์การคุกคามที่พัฒนาขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

สุขสันต์วันหยุดจาก Hillstone Networks

เกี่ยวกับ Hillstone Networks

Hillstone Networks เป็นผู้นำในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ส่งมอบทั้งความลึกและความกว้างของการป้องกันให้กับบริษัททุกขนาดตั้งแต่ Edge ไปจนถึง Cloud ตลอดจนทั่วทั้งภาระงาน แนวทางการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์แบบบูรณาการของ Hillstone Networks นำมาซึ่งความครอบคลุม การควบคุมและการรวมเข้าด้วยกันให้กับองค์กรกว่า 26,000 แห่งทั่วโลกwww.hillstonenet.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Zeyao Hu
+1 4085086750
inquiry@hillstonenet.com

แหล่งที่มา: Hillstone Networks

Thai Herald

Thai Herald