All posts by Jasmine

ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยเนแบรสกาและ ANANDA Scientific ประกาศว่า FDA ได้อนุมัติ IND สำหรับการทดลองทางคลินิกเพื่อสำรวจการรักษาความผิดปกติของโรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง (PTSD)

Logo

โอมาฮา เนแบรสกาและกรีนวูด วิลเลจ โคโลราโด–(บิสิเนสไวร์)–17 พฤษภาคม, 2565

ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยเนแบรสกา (UC) และ ANANDA Scientific Inc ประกาศความร่วมมือในการทดลองทางคลินิกรอบใหม่เพื่อตรวจสอบการรักษาผู้ใหญ่ที่มีความผิดปกติจากโรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง (PTSD)

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220517005065/en/

(Photo: Business Wire)

(ภาพ: Business Wire)

การทดลองนี้นำโดยนักวิจัยหลัก Mathew Rizzo, MD, ศาสตราจารย์จาก Reynolds และประธานของ UNMC Department of Neurological Sciences และหัวหน้าแพทย์สำหรับบริการทางระบบประสาทที่ Nebraska Medicine

การศึกษาจะประเมินประสิทธิผลของ Nantheia™ ATL5 ซึ่งเป็นยาที่ใช้ในการวิจัยโดยใช้เทคโนโลยีการนำส่ง cannabidiol ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ANANDA  ยาที่ใช้ในการศึกษาวิจัยใหม่ (investigational new drug – IND) ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)

(Clinical Trials.gov Identifier NCT05269459)

“นี่เป็นการทดลองทางคลินิกครั้งที่สองของเราที่กำหนดเป้าหมายไปที่ PTSD เรารู้สึกตื่นเต้นที่ทีมวิจัยของ UNMC ได้ร่วมมือกับเราเพื่อประเมินยาของเราสำหรับโรคที่ย่ำแย่โรคนี้” Sohail R. Zaidi ซีอีโอของ ANANDA กล่าว “นี่เป็นขั้นตอนสำคัญในความพยายามของเราในการจัดหาทางเลือกในการรักษาที่ดีขึ้นให้กับผู้ป่วย PTSD”

“เป้าหมายหลักสำหรับทีมวิจัยของเราคือการวิจัยการรักษาแบบใหม่ตามหลักฐานเพื่อให้ประชากรผู้ป่วย PTSD จำนวนมากมีตัวเลือกการรักษาใหม่” Dr. Rizzo กล่าว “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ ANANDA Scientific ในการทดลองครั้งนี้”

Dr. Rizzo ยังเป็นผู้อำนวยการเครือข่ายการวิจัยทางคลินิกของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ Great Plains เขาเป็นประธานคณะกรรมการบริหารของ American Brain Coalition ซึ่งสนับสนุนการวิจัยขั้นสูงสำหรับการรักษาทางระบบประสาท

ทีมวิจัยของ Dr. Rizzo ได้แก่ Jennifer Merickel, Ph.D., นักประสาทวิทยาทางปัญญาและผู้ช่วยศาสตราจารย์ใน UNMC Department of Neurological Sciences และ Brigette Vaughan พยาบาลวิชาชีพขั้นสูง แพทย์และนักวิจัยใน UNMC Department of Psychiatry

การศึกษาทางคลินิกแบบสุ่มตัวอย่างแบบ double-blind ควบคุมด้วยยาหลอกระยะที่ 2 นี้ กำลังวางแผนที่จะลงทะเบียนผู้เข้าร่วม 240 คน เพื่อให้การประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ Nantheia™ ATL5 อย่างเข้มงวด

เกี่ยวกับ NANTHEIA™ ATL5

Nantheia™ ATL5 เป็นยาที่ใช้ในการวิจัยซึ่งใช้เทคโนโลยีการนำส่ง cannabidiol ในโครงสร้างของเหลวของ ANANDA  การศึกษาทางคลินิกเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีการนำส่ง Liquid Structure™ ของ ANANDA (ได้รับอนุญาตจาก Lyotropic Delivery Systems (LDS) Ltd ในกรุงเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล) สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและความเสถียรของ cannabidiol.  Nantheia ™ ATL5 เป็นผลิตภัณฑ์รับประทานทางช่องปากที่มี cannabidiol 100 มก. ต่อแคปซูลซอฟเจล

เกี่ยวกับศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยเนแบรสกา

UNMC เป็นศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพเชิงวิชาการเพียงแห่งเดียวของเนบราสก้า  UNMC มุ่งมั่นที่จะให้การศึกษาแก่บุคลากรทางการแพทย์ในศตวรรษที่ 21 เพื่อค้นหาวิธีรักษาโรคร้ายแรง  การดูแลผู้ป่วยอย่างดีที่สุด และให้บริการรัฐและชุมชนผ่านการขยายงานที่ได้รับรางวัล  UNMC มีวิทยาลัยหกแห่งและสองสถาบัน ให้บริการนักศึกษามากกว่า 4,200 คนในกว่าสิบสองโปรแกรม  นักวิจัยที่ UNMC ดำเนินการวิจัยที่ล้ำสมัยในด้านวิทยาศาสตร์ระบบประสาท มะเร็งวิทยา โรคติดเชื้อ และพื้นที่สำคัญอื่นๆ

เกี่ยวกับ ANANDA SCIENTIFIC

อนันดาเป็นบริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ชั้นนำที่มุ่งเน้นการวิจัย โดยบุกเบิกการศึกษาทางคลินิกที่มีความสามารถสูงเพื่อประเมินข้อบ่งชี้ในการรักษาโรค เช่น PTSD, Radiculopathic โรควิตกกังวล และ ความผิดปกติของการใช้ Opioid (Mt. Sinai และ UCLA) บริษัทใช้เทคโนโลยีการจัดส่งที่ได้รับการจดสิทธิบัตรในการผลิต cannabinoids และสารประกอบที่ได้จากพืชอื่นๆ มีความสามารถในการย่อยสลายทางชีวภาพสูง ละลายน้ำได้ มีอายุการเก็บรักษาที่เสถียร และมุ่งเน้นไปที่การผลิตผลิตภัณฑ์ยาที่มีคุณภาพระดับพรีเมียม บริษัทกำลังขยายฐานการวิจัยผ่านการสนับสนุนหลายฉบับกับมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อกระจายพอร์ตโฟลิโอทางคลินิกให้สอดคล้องกับข้อมูลการวิจัยที่แข็งแกร่ง  บริษัทมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ANANDA ประสบความสำเร็จในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร โดยขยายไปสู่ตลาดอื่นๆ เช่น สหภาพยุโรป จีน แอฟริกา และประเทศอื่นๆ ในเอเชีย

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220517005065/en/

ติดต่อ:

ANANDA Scientific Media Relations | Christopher Moore | 813 326 4265 | media@anandascientific.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

TTI แต่งตั้ง Ross Gilardi เป็นรองประธานอาวุโสฝ่ายการเงิน – ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์

Logo

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–17 พ.ค. 2565

Techtronic Industries Co. Ltd.  (เรียกย่อว่า “TTI” หรือ “กลุ่มบริษัท”) ผู้นำระดับโลกด้านเครื่องมือไร้สายระดับมืออาชีพ เครื่องมือ DIY และอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับใช้กลางแจ้ง (รหัสสินค้า: 669, สัญลักษณ์ ADR: TTNDY) ยินดีที่จะประกาศเรื่องการแต่งตั้งคุณ Ross Gilardi เป็นรองประธานอาวุโสฝ่ายการเงิน ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ โดยมีผลวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 คุณ Gilardi จะประจำอยู่ที่สหรัฐอเมริกาและรับผิดชอบงานด้านนักลงทุนสัมพันธ์ของ TTI ทั่วโลก เขาจะรายงานตรงต่อประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คุณ Joseph Galli

คุณ Gilardi ได้เข้าร่วมทีมหลังจากประสบความสำเร็จในอาชีพเป็นเวลา 23 ปีในฐานะนักวิเคราะห์วิจัยด้านหุ้นที่ได้รับความเชื่อถือและได้รับคะแนนสูงจาก Bank of America – Merrill Lynch อาชีพการวิจัยหุ้นที่โดดเด่นของเขายังรวมไปถึง การใช้ชีวิต 4 ปีในสหราชอาณาจักรและ 20 ปีในสหรัฐอเมริกา ที่ซึ่งเขาได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในนักวิเคราะห์การวิจัยระดับโลกชั้นนำจากการสำรวจในหมู่นักลงทุนสถาบันทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรปในหลายหมวดหมู่อุตสาหกรรม เขามีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมมากมาย และยังมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับนักลงทุนทั่วโลกที่เขาจะนำเข้ามาสู่บทบาทใหม่ของเขาด้วย คุณ Gilardi สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์จาก Boston College และ MBA จาก Columbia Business School

คุณ Galli ซีอีโอกล่าวว่า “ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา Ross ได้พัฒนาความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงศักยภาพอันมหาศาลของ TTI ประสบการณ์ของ Ross ในตลาดทุน ประกอบกับความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของเขากับชุมชนการเงินทั่วโลก จะเป็นสินทรัพย์ที่ดีในขณะที่เรากำลังเดินหน้าขยายฐานนักลงทุนระดับโลกของเราต่อไป”

เกี่ยวกับ TTI

TTI ก่อตั้งขึ้นในปี 2528 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งฮ่องกง ในปี 2533 TTI เป็นผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีไร้สายตั้งแต่เครื่องมือไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าใช้งานกลางแจ้ง ผลิตภัณฑ์ดูแลพื้นและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับผู้บริโภค ผู้ใช้มืออาชีพ และผู้ใช้ในอุตสาหกรรมในบ้าน การก่อสร้าง , อุตสาหกรรมบำรุงรักษา, อุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท TTI มีรากฐานที่สร้างขึ้นจากแรงขับเคลื่อนเชิงกลยุทธ์ 4 ประการ ได้แก่ แบรนด์ที่ทรงพลัง ผลิตภัณฑ์ระดับนวัตกรรม กลุ่มคนที่ยอดเยี่ยม และความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างขวางในระยะยาวในการพัฒนาเทคโนโลยีไร้สายให้ก้าวหน้า กลยุทธ์การเติบโตระดับโลกของการแสวงหานวัตกรรมผลิตภัณฑ์อย่างไม่หยุดยั้งทำให้ TTI อยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม กลุ่มผลิตภัณฑ์ในแบรนด์ที่ทรงพลังของ TTI ประกอบด้วยเครื่องมือไฟฟ้า MILWAUKEE, AEG และ RYOBI อุปกรณ์เสริม เครื่องมือช่าง และผลิตภัณฑ์สำหรับใช้กลางแจ้ง ผลิตภัณฑ์เลย์เอาต์และการวัดของ EMPIRE และผลิตภัณฑ์ดูแลพื้นและทำความสะอาด HOOVER, ORECK, VAX และ DIRT DEVIL

TTI เป็นหนึ่งในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี Hang Seng, FTSE RAFI™ All-World 3000 Index, FTSE4Good Developed Index และ MSCI ACWI Index ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.ttigroup.com.

เครื่องหมายการค้าทั้งหมดที่ระบุไว้นอกเหนือจาก AEG และ RYOBI เป็นของกลุ่มบริษัท ส่วน AEG เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ AB Electrolux (มหาชน) และใช้งานภายใต้ใบอนุญาต RYOBI เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Ryobi Limited และใช้ภายใต้ใบอนุญาต

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220516005729/en/

ติอต่อสอบถามรายละเอียดฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์:

ฝ่ายติดต่อหลัก

นักลงทุนสัมพันธ์ TTI

โทร: +1 (954) 541 9660

อีเมล: ir@ttihq.com

ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

นักลงทุนสัมพันธ์ TTI

โทร: +(852) 2402 6888

อีเมล: ir@tti.com.hk

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Celmatix ประกาศความสำเร็จก้าวสำคัญในขั้นก่อนศึกษาทางคลินิกของโครงการพัฒนายาป้องกันภาวะหมดประจำเดือนก่อนวัยอันควร

Logo

สารกระตุ้นกลไกตอบสนองยีน AMHR2 ที่สามารถพัฒนาเป็นตัวยาได้แสดงให้เห็นถึงฤทธิ์ที่มีความเฉพาะสูงในการทดสอบทางชีวภาพ รวมถึงคุณสมบัติทางเภสัชจลนศาสตร์ที่ต้องการในการศึกษากับสัตว์ในขั้นก่อนการศึกษาทางคลินิก

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–16 พฤษภาคม 2565

วันนี้ Celmatix Inc. บริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพที่มุ่งเน้นด้านชีววิทยาของรังไข่ ประกาศถึงการจำแนกสารกระตุ้นกลไกตอบสนองยีน AMHR2 ตัวใหม่ที่สามารถนำไปพัฒนาเป็นยาได้ โดยแสดงให้เห็นถึงฤทธิ์ทางชีวภาพที่เข้มข้นในการทดสอบในขั้นก่อนการศึกษาทางคลินิก (พรีคลินิก) ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาหลาย ๆ ครั้ง รวมถึงคุณสมบัติทางเภสัชจลนศาสตร์ที่สอดคล้องกับคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการสำหรับยาแบบฉีด โครงการดังกล่าว ซึ่งเป็นผลจากความมุ่งเน้นทางด้านการค้นหาตัวบ่งชี้ทางชีวภาพตัวใหม่และเป้าหมายทางยาเพื่อสุขภาพของผู้หญิงของ Celmatix ที่ยาวนานนับทศวรรษ มีข้อบ่งชี้ทางคลินิกที่กำหนดไว้ในตอนแรกเพื่อป้องกันภาวะหมดประจำเดือนก่อนวัยอันควรในผู้หญิงที่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัด โดยในทุก ๆ เดือนที่ผู้หญิงเข้ารับการรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัด การสูญเสียการทำงานของรังไข่และภาวะหมดประจำเดือนถูกกระตุ้นให้เกิดเร็วขึ้นโดยเฉลี่ย 1.5 ปี

Dr. Piraye Yurttas Beim ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Celmatix กล่าวว่า “หากพูดในแง่ของลักษณะประชากรแล้ว ภาวะหมดประจำเดือนเป็นปรากฏการณ์ที่ค่อนข้างใหม่ และเป็นผลจากการค้นพบทางการแพทย์ที่ทำให้ผู้หญิงในปัจจุบันมีอายุยืนยาวเหนืออายุการทำงานของรังไข่ ในศตวรรษที่ผ่านมาอายุขัยเฉลี่ยของผู้หญิงทั่วโลกอยู่ที่ต่ำกว่า 50 ปี ดังนั้น ผู้หญิงส่วนใหญ่จึงไม่ได้มีชีวิตยาวนานพอที่จะเจอกับภาวะหมดประจำเดือน ปัจจุบัน อายุขัยเป็นตัวเร่งเดี่ยวที่มีนัยสำคัญมากที่สุดของการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับอายุในผู้หญิง เช่น โรคกระดูกพรุนและโรคหัวใจ ความเสี่ยงในการก่อตัวของโรคเรื้อรังเหล่านี้ก่อนอายุ 70 ปี เพิ่มขึ้น 300% สำหรับผู้หญิงที่ประสบกับภาวะการสูญเสียการทำงานของรังไข่และภาวะหมดประจำเดือนก่อนเวลา ที่ Celmatix เรามุ่งมั่นที่จะช่วยผู้หญิงให้สามารถสร้างสุขภาพที่ดีได้สูงสุดด้วยการปรับและยืดการทำงานของรังไข่ ทีมของเราทำงานมากว่าทศวรรษเพื่อค้นหาตัวกระตุ้นโมเลกุลที่เกี่ยวกับสุขภาพของรังไข่และภาวะความเจ็บป่วยที่เกี่ยข้องอย่างภาวะการมีบุตรยาก ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) และภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกขึ้นผิดที่ จากการทำงาน เราพบความกระจ่างว่าฮอร์โมนแอนตี้มูลเลอเรียน (AMH) ซึ่งเป็นลิแกนด์โดยธรรมชาติของยีน AMHR2 คือตัวควบคุมการทำงานของรังไข่ที่เป็นตัวหลัก เช่นเดียวกับเอสโตรเจน แต่ที่ต่างจากเอสโตรเจนก็คือเราไม่สามารถสร้าง AMH บริสุทธิ์ได้จากแหล่งธรรมชาติอย่างปัสสาวะ หรือไม่สามารถสังเคราะห์ได้ทางเคมี และความพยายามก่อนหน้านี้ก็ไม่สามารถสร้างการตัดต่อทางพันธุกรรมของ AMH ที่มีความเฉพาะสูง หรือความเสถียรทางเภสัชจลนศาสตร์ที่จำเป็นสำหรับการนำไปรักษาได้”

Dr. Stephen Palmer ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านวิทยาศาสตร์ของ Celmatix อธิบายว่า “หนึ่งในสิ่งที่ดึงดูดผมในฐานะผู้พัฒนายาให้กับ Celmatix ก็คือศักยภาพของโครงการสารกระตุ้นกลไกตอบสนองยีน AMHR2 ในการชี้ให้เห็นถึงความต้องการด้านสุขภาพของผู้หญิงที่สำคัญซี่งยังไม่ได้รับการตอบสนอง ผมได้ประจักษ์แล้วว่าโครงการสารกระตุ้นกลไกตอบสนองยีน AMHR2 ของ Celmatix นั้นเดินมาถูกทางแล้วกับการเป็นการค้นพบแห่งศตวรรษที่ 21 เทียบเท่ากับการพัฒนายาคุมกำเนิดและยาสำหรับรักษาการมีบุตรยากในศตวรรษที่ผ่านมา ตัวบ่งชี้นำของเราคือการการรักษาด้วยเคมีบำบัดกระตุ้นให้เกิดการเสื่อมของรังไข่ (CIOF) แต่เราก็เชื่อว่าสารกระตุ้นกลไกลตอบสนองของยีน AMHR2 อาจสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับตัวบ่งชี้ด้านสุขภาพอื่น ๆ ของผู้หญิงได้ในวงกว้าง ผลจากการทำงานของเราแสดงให้เห็นว่าแอนะล็อก AMH ของเรามีพารามิเตอร์ทางเภสัชจลนศาสตร์จากการศึกษาในสัตว์ทดลองตามที่ต้องการ และทำให้เกิดการส่งสัญญาณเข้าสู่เซลล์ตามที่ต้องการในการทดสอบเซลล์ฟอลลิเคิลของรังไข่แบบดั้งเดิม และการเสื่อมของท่อ Müllerian ในระบบของยูโรเจนิทาลริดจ์จากการศึกษาในหลอดทดลอง โดยการแสดงให้เห็นถึงฤทธิ์ที่มีความจำเพาะสูงในทั้งเนื้อเยื่อเป้าหมาย (รังไข่) และการทดสอบการทำงานของ AMH ที่ดีที่สุด ทำให้เรามั่นใจที่จะเดินหน้าโครงการนี้ต่อให้เข้าใกล้ขั้นตอนการศึกษาทางคลินิกไปอีกขั้น”

การประกาศนี้เกิดขึ้นไม่นานหลัง Celmatix ประกาศก้าวแห่งความสำเร็จครั้งที่สามในช่วงเวลาห้าปีของการเป็นพันธมิตรที่มีจุดมุ่งหมายในหลาย ๆ ด้านกับ Evotec ในเดือนมกราคม ความสำเร็จนั้นเกิดขึ้นจากการที่ Evotec และ Bayer AG เร่งพัฒนาโครงการยาที่ให้ความสำคัญกับเป้าหมายยาใหม่ที่ค้นพบโดย Celmatix สู่กระบวนการ hit-identification

เกี่ยวกับ Celmatix

Celmatix Inc. เป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพด้านสุขภาพของผู้หญิงที่ทำงานในขั้นก่อนการศึกษาทางคลินิกโดยมุ่งเน้นทางด้านชีววิทยาของรังไข่ โครงการสารกระตุ้นกลไกตอบสนองยีน AMHR2 เพื่อ “นำไปสู่การผลิตยา” ที่มุ่งเน้นทางด้านความเสื่อมสภาพของรังไข่ และความร่วมมือด้าน PCOS และการคุมกำเนิดที่ไม่ใช้ฮอร์โมนกับผู้นำอุตสาหกรรม ทำให้ Celmatix สามารถชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองและมีความต้องการสูง ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาการยับยั้งและการบุกเบิกด้านสุขภาพรังไข่ในเจเนอเรชันใหม่ แพลตฟอร์มด้านสุขภาพรังไข่แบบ multi-omic ที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่ง Celmatix เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ เป็นรากฐานที่นำไปสู่การพัฒนาการรักษาใหม่ ๆ ที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมของบริษัท สำหรับข้อมเพิ่มเติม ดูได้ที่เว็บไซต์ของบริษัท www.celmatix.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220516005290/en/

ติดต่อ:

Jasmine Newby
celmatix@mww.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

NielsenIQ เปิดตัวโซลูชันสื่อค้าปลีกเพื่อสร้างรายได้จากสินทรัพย์และการวัดค่าแบบ ROI สำหรับผู้ค้าปลีก

Logo

NielsenIQ Activate ช่วยให้ผู้ค้าปลีกใช้ประโยชน์จากข้อมูลของตนเองเพื่อเร่งกระแสรายได้ใหม่

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–16 พฤษภาคม 2565

วันนี้ NielsenIQ บริษัทผู้ให้บริการด้านข้อมูลระดับโลก ประกาศเปิดตัว NielsenIQ Activate โซลูชันการให้บริการทางด้านซอฟต์แวร์ (SaaS) ที่ช่วยให้ผู้ค้าปลีกเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ผ่านสื่อการค้าปลีกและข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าที่ครอบคลุมซึ่งกระตุ้นนักช้อปด้วยข้อเสนอโปรโมชันเฉพาะบุคคล

NielsenIQ Activate ประกอบด้วยแอปพลิเคชันเฉพาะสำหรับการสร้างผู้ชมที่กำหนดเป้าหมายแบบไฮเปอร์ การจัดการข้อเสนอและการโฆษณา และการวัดผลแบบ end-to-end เครื่องมือการให้บริการแบบ SaaS เป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม NielsenIQ Connect ที่จะช่วยให้ผู้ค้าปลีกสร้างรายได้ที่ยั่งยืนโดยสร้างรายได้จากสินทรัพย์สื่อการค้าปลีกผ่านช่องทางจริงและทางดิจิทัล นอกจากนี้ผู้ค้าปลีกจะสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือกับแบรนด์และแจ้งให้พวกเขาทราบถึงข้อมูลเชิงลึกที่พวกเขาต้องการเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า ดำเนินการตามข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้น และวัดค่าแบบ ROI ในกิจกรรมของพวกเขาในทุกช่องทาง

“เรามุ่งมั่นที่จะสานต่อสิ่งที่เราทำไว้โดยกำหนดศตวรรษหน้าของการวัดผลผู้บริโภคและการค้าปลีก” Xavier Facon ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อค้าปลีกระดับโลกของ NielsenIQ กล่าว “NielsenIQ Activate รวบรวมความสามารถในการบรรลุมุมมองที่ละเอียดของลูกค้าในทุกช่องทาง และรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความเสี่ยงและโอกาสสำหรับการโฆษณาไว้ในแพลตฟอร์มเดียว วิธีนี้จะช่วยให้ผู้ค้าปลีกเปิดตัวแคมเปญได้อย่างง่ายดายโดยอิงจากการสร้างกลุ่มเป้าหมายที่คาดการณ์ได้ และรวบรวมการวัดผลเกี่ยวกับผลกระทบของโฆษณาในทุกช่องทางในขณะที่สอดคล้องกับแบรนด์พันธมิตร”

NielsenIQ Activate ตระหนักดีว่าผู้ค้าปลีกทุกรายมีความแตกต่างกัน โดยช่วยให้ผู้ค้าปลีกสามารถนำสื่อค้าปลีกมาใช้เองและมีความยืดหยุ่นในการผสานรวมเข้ากับระบบนิเวศส่วนบุคคลของตน นอกจากนี้ผู้ค้าปลีกจะสามารถสร้างบุคลิกและผู้ชมที่แม่นยำจากคุณลักษณะของลูกค้านับพันราย รับข้อมูลเชิงลึกจากทุกช่องทางที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางเพื่อการตัดสินใจที่ดีขึ้น ลดเวลาในการเปิดตัวและวัดผลการมีส่วนร่วมของลูกค้าที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลในแบบเรียลไทม์ ทั้งในสื่อที่เป็นเจ้าของเองและสื่อภายนอก และปรับให้สอดคล้องกับแบรนด์ที่ลูกค้าต้องการเพื่อเพิ่มการสร้างรายได้จากสื่อและข้อมูล

“NielsenIQ กำลังขยายการเติบโตในระดับโลก และสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับศตวรรษหน้าของการวัดผลผู้บริโภคและการค้าปลีกที่รวดเร็ว คล่องแคล่วว่องไว และเชื่อมโยงถึงกัน” David Johnson ประธานฝ่ายค้าปลีกระดับโลกของ NielsenIQ กล่าว “ตลาดกำลังพัฒนา และเป็นงานของเราที่จะทำให้แน่ใจว่าอุตสาหกรรมการวัดผลมีวิวัฒนาการไปตามกาลเวลา ในฐานะบริษัทผู้ให้บริการด้านข้อมูลชั้นนำระดับโลกในอุตสาหกรรมนี้ เรามีความแข็งขันในการนำเสนอแนวค้าปลีกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าของเราได้อย่างแม่นยำ”

การรวมความสามารถจากการเข้าซื้อกิจการล่าสุด Precima และ CiValue ทำให้ NielsenIQ Activate รองรับความสามารถในการปรับแต่งเฉพาะบุคคลที่เพิ่มมากขึ้นจากความสามารถหลักของ NielsenIQ ซึ่งอุตสาหกรรมค้าปลีกต้องพึ่งพาการตัดสินใจที่สำคัญและประสบการณ์เฉพาะบุคคล NielsenIQ ยังคงเป็นผู้ชนะเลิศในด้านการเปลี่ยนแปลงผ่านผลิตภัณฑ์ค้าปลีกและโปรแกรมการทำงานร่วมกัน ทำให้ผู้ค้าปลีกและแบรนด์ต่าง ๆ เพิ่มส่วนแบ่งในกระเป๋าเงินของพวกเขาโดยใช้ข้อมูลลูกค้าและข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ และเสริมอำนาจพวกเขาด้วยชุดการเปิดใช้งานที่เหมาะสมเพื่อดำเนินการและวัดค่า

“โซลูชันที่เรียบง่ายและใช้งานง่ายของ CiValue และ Precima ใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและวิทยาศาสตร์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเมื่อรวมกับการวัดประสิทธิภาพทั่วโลกของ NielsenIQ จะเชื่อมโยงผู้ค้าปลีกเข้ากับผู้ผลิต CPG อย่างแท้จริง” Beni Basel ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ CiValue กล่าว “ไม่มีแพลตฟอร์มอื่นใดที่สามารถช่วยให้ผู้ค้าปลีกและแบรนด์ทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มมูลค่าของลูกค้าด้วยแพลตฟอร์มแบบ AI ที่เรียบง่ายและใช้งานง่าย ซึ่งวางลูกค้าให้เป็นศูนย์กลางของการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ NielsenIQ Activate กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ https://nielseniq.com/global/en/solutions/nielseniq-activate/.

เกี่ยวกับ NielsenIQ

NielsenIQ เป็นผู้นำในด้านการให้บริการมุมมองที่สมบูรณ์ที่สุดเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลก NielsenIQ ขับเคลื่อนโดยแพลตฟอร์มข้อมูลผู้บริโภคที่ก้าวล้ำและความสามารถในการวิเคราะห์ที่หลากหลาย ทำให้บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคและผู้ค้าปลีกชั้นนำของโลกสามารถตัดสินใจได้อย่างกล้าหาญและมั่นใจ

NielsenIQ ใช้ชุดข้อมูลที่ครอบคลุมและการวัดผลธุรกรรมทั้งหมดอย่างเท่าเทียมกัน ช่วยให้ลูกค้ามีมุมมองเชิงคาดการณ์ล่วงหน้าเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในแพลตฟอร์มการค้าปลีกทั่วทั้งหมด ระบบปรัชญาเปิดของเราในการรวมข้อมูลนั้นยังช่วยให้ชุดข้อมูลผู้บริโภคมีอิทธิพลมากที่สุดในโลก NielsenIQ มอบความจริงที่สมบูรณ์

NielsenIQ เป็นบริษัทในเครือ Advent International มีการดำเนินงานในเกือบ 100 ตลาด ครอบคลุมมากกว่า 90% ของประชากรโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ NielsenIQ.com

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220516005072/en/

ติดต่อ:

Gillian Mosher
VP, Communication
647-282-9714
Gillian.Mosher@nielseniq.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

HappyFresh พลิกโฉมความสามารถของคลังสินค้าให้เป็นดิจิทัลด้วย Blue Yonder

Logo

บริษัทขายของชำออนไลน์ชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขับเคลื่อนโดย WMS ของ Blue Yonder

จาการ์ตา อินโดนีเซีย และสก็อตต์เดล รัฐแอริโซนา–(บิสิเนสไวร์)–16 พฤษภาคม 2565

พฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปอันเป็นผลมาจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 โดยหลายคนเลือกที่จะจัดส่งแทน  เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับบริการ HappyFresh ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพด้านร้านขายของชำออนไลน์ได้เปลี่ยนการดำเนินงานคลังสินค้าด้วยระบบดิจิทัลด้วยระบบการจัดการคลับสินค้า warehouse management system (WMS) ของ Blue Yonder

HappyFresh ตั้งเป้าที่จะทำให้การช็อปปิ้งสะดวกยิ่งขึ้นด้วยการส่งมอบทั้งของชำและของสดรอบเมืองในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง บริษัทมีกองขนส่งสินค้าของตนเองและพนักงานเลือกของชำจากศูนย์ที่อยู่ใกล้เคียงที่อยู่จัดส่งของลูกค้า  HappyFresh มีพนักงาน 544 คนทั่วประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย

HappyFresh กำลังมองหาการเร่งการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรมทางดิจิทัลโดยปรับให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าในเชิงรุก ซึ่งรวมถึงระยะเวลาในการจัดส่งที่ยืดหยุ่น การจัดการคำสั่งซื้อที่กำหนดเอง และการตอบสนองแบบเรียลไทม์ และให้ความสำคัญกับความยั่งยืนของสังคมมากขึ้น หุ้นส่วนการดำเนินงานของเราคือ Super Globalindo Viktoria (SGV) ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม eGrocery ที่นำประสบการณ์ เทคนิค การดำเนินงาน นวัตกรรม และการบูรณาการมาสู่การใช้งานด้วยทรัพยากรทีมในท้องถิ่นและบริการผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม

HappyFresh เปิดตัว WMS ของ Blue Yonder ที่ศูนย์ร้านค้าแห่งแรกในปี 2564 และได้เริ่มเปิดตัวที่ศูนย์ในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา  HappyFresh จะเปิดตัวศูนย์เพิ่มเติมในปี 2022 รวมถึงศูนย์กระจายสินค้าเพื่อรองรับศูนย์ในอินโดนีเซีย

ด้วย Blue Yonder นั้น HappyFresh สามารถ:

  • วัดผลอย่างต่อเนื่องและเพิ่มประสิทธิภาพรายการสั่งซื้อ ประหยัดเวลาสำหรับคำสั่งซื้อทั้งหมดและกระบวนการปฏิบัติตามเพื่อให้แน่ใจว่าตรงตามกรอบเวลาการจัดส่งหนึ่งชั่วโมง
  • ปรับปรุงประสิทธิภาพในการรับสินค้าสำหรับผู้ปฏิบัติงานโดยปรับขั้นตอนการทำงานให้เหมาะสมเพื่อขจัดเวลาที่เสียไปและขั้นตอนที่ไม่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว
  • ลดเวลาการเดินทางระหว่างงานโดให้ผู้ปฏิบัติงานเริ่มงานครั้งถัดไปเมื่อการมอบหมายงานก่อนหน้านี้สิ้นสุดลง แทนที่จะเดินกลับไปที่เริ่มต้น

“การสร้างกลยุทธ์ในการปฏิบัติตามคำสั่งซื้อที่มีประสิทธิผลและมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้กลายเป็นจุดสนใจที่สำคัญมากขึ้นสำหรับเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความต้องการในการจัดส่งภายในหนึ่งชั่วโมง  นอกจากนี้ ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในปัจจุบันและความท้าทายในการจ้างงานได้เพิ่มความจำเป็นในการปรับปรุงรายการสั่งซื้อในการรับสินค้า  Blue Yonder WMS ช่วยให้เราสามารถเรียกใช้วิธีการรับสินค้าที่หลากหลาย เช่นการรับสินค้าชิ้นด้วยและการรับสินค้าตามโซน ซึ่งช่วยให้เราเพิ่มความเร็วในการปฏิบัติตามข้อกำหนดและประสิทธิผลสูงสุด เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคในช่วงเวลาที่ท้าทายเหล่านี้” Mesut Keleş รองประธานอาวุโสฝ่ายซัพพลาย HappyFresh กล่าว

WMS ของ Blue Yonder ช่วยให้ HappyFresh จัดการการดำเนินการจัดการคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการจัดตารางและการรายงานแรงงานที่ดีขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานและการดำเนินงานสิ่งอำนวยความสะดวกให้สูงสุด ตลอดจนความสามารถในการวางแผนและดำเนินการตามกระบวนการจัดการคลังสินค้าขายปลีก ทำให้พนักงานคลังสินค้าสามารถมองเห็นสินค้าคงคลังได้ดีขึ้น

“WMS ของเราทำให้ HappyFresh ได้เปรียบในการแข่งขันเพื่อการขยายส่วนแบ่งการตลาดโดยตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งจะทำให้พวกเขามีกำลังซื้อที่ดีขึ้นกับซัพพลายเออร์เนื่องจากปริมาณการสั่งซื้อที่มากขึ้นจะทำให้ราคาดีขึ้น  นอกจากนี้ การปรับปรุงกระบวนการคัดเลือกพนักงานยังช่วยรักษาและดึงดูดผู้มีความสามารถที่ต้องการเพื่อให้เติบโต” Antonio Boccalandro ประธาน Blue Yonder ของ APAC กล่าว

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม:

Blue Yonder เกี่ยวกับ Blue Yonder

Blue Yonder เป็นผู้นำระดับโลกในห่วงโซ่อุปทานดิจิทัลและการปฏิบัติตามการค้าแบบ Omni-channel  แพลตฟอร์มอัจฉริยะแบบ end-to-end ของเราช่วยให้ผู้ค้าปลีก ผู้ผลิต และผู้ให้บริการด้านลอจิสติกส์สามารถคาดการณ์ เปลี่ยนแปลง และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างราบรื่น  ด้วย Blue Yonder คุณสามารถทำการตัดสินใจทางธุรกิจที่ทำกำไรได้โดยอัตโนมัติและให้ผลกำไรมากขึ้น ซึ่งให้การเติบโตที่มากขึ้นและประสบการณ์ของลูกค้า  Blue Yonder – เติมเต็มศักยภาพของคุณ blueyonder.com

“Blue Yonder” เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Blue Yonder Group, Inc. ชื่อการค้า ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใดๆ ที่อ้างถึงในเอกสารนี้โดยใช้ชื่อ “Blue Yonder” เป็นเครื่องหมายการค้าและ หรือทรัพย์สินของ Blue Yonder Group Inc. ชื่อบริษัทและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดอาจเป็นเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายการค้าจดทะเบียน หรือเครื่องหมายบริการของบริษัทที่เกี่ยวข้อง

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220515005030/en/

ติดต่อ:

Marina Renneke, APR, Corporate Communications Director (ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสาร)

Tel: +1 480-308-3037, marina.renneke@blueyonder.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Metap Inc.: Metaverse Project GensoKishi Online ประกาศการลุ้นโชคเข้าร่วมการทดสอบอัลฟ่าแบบปิด (Bronze)

Logo

ไทเป ใต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–12 พ.ค. 2565

GensoKishi Online -Meta World- ได้รับการพัฒนาภายใต้ลิขสิทธิ์ของเกมออนไลน์ผู้เล่นจำนวนมากแบบเล่นตามบทบาทแบบ 3 มิติ (3D  MMO) ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ชื่อ “Elemental Knights Online” ซึ่งเป็นเกมระดับไอคอนที่มีประวัติยาวนาน 14 ปีและมียอดดาวน์โหลดรวม 8 ล้านครั้งทั่วโลก โดยภายในเกม ยังมีเกม 3D MMO แนว RPG ที่มีผู้ใช้งานอยู่แล้วด้วยการใช้ metaverse 3 มิติที่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งเชื่อมต่อผู้ใช้จากทั่วโลกไปพร้อม ๆ กัน ไม่ว่าจะจากการเล่นผ่านสมาร์ทโฟน พีซี หรือคอนโซลวิดีโอเกม

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220510005812/en/

GensoKishi Closed Alpha test (Graphic: Business Wire)

GensoKishi Closed Alpha test (กราฟิก: Business Wire)

ทางเกมเพิ่งประกาศความร่วมมือกับ Yoshitaka Amano ผู้เป็นตำนานด้านเกม เพื่อออกแบบคอลเลกชัน NFT ให้กับพวกเขา

นับตั้งแต่เปิดตัวเว็บไซต์ GensoKishi และช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564 เป็นต้นมา GensoKishi ได้ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย จนถึงปัจจุบัน โทเค็นแบบ governance token ของ GensoKishi ราคาสูงกว่าราคาจดทะเบียนเริ่มต้นของ Bybit มากกว่า 50 เท่า นับจากการแลกเปลี่ยนครั้งแรกเพื่อนำโทเค็น​​ Metaverse ของ GensoKishi มาใช้

GensoKishi Online ได้เปิดรับสมัครเพื่อเข้าสู่การจับสลากชิงโชคตั๋วการทดสอบอัลฟ่าแบบปิด หรือ Closed Alpha Bronze ผู้โชคดีจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าถึงการทดสอบอัลฟ่าแบบปิดของ GensoKishi

กด ที่นี่ เพื่ออ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ การทดสอบอัลฟ่า แบบปิด

กด ที่นี่ เพื่อเยี่ยมชมเว็บไซต์ทางการของ GensoKishi Online Metaworld

รายละเอียดแคมเปญเกี่ยวกับช่วงการทดสอบอัลฟ่าแบบปิด

ผู้เข้าร่วมที่แปลว่า แบบปิด ทุกคนจะได้รับ NFT รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่นเพื่อเป็นการระลึกถึงการเข้าร่วมในช่วงการทดสอบ

ในระหว่างช่วงการทดสอบอัลฟ่าแบบปิด มีไอเทมที่เรียกว่า “Alpha Hunter's Certificate” จะถูกมอบให้กับผู้เล่นเมื่อสามารถเอาชนะมอนสเตอร์ระหว่างการเล่นเกม โดยจะมอบให้ในอัตราความน่าจะเป็นที่แน่นอน

“ใบรับรองของนักล่าอัลฟ่า หรือ Alpha Hunter's Certificate” แต่ละรายการจะถือเป็น 1 คะแนน และเมื่อสิ้นสุดครึ่งแรกและครึ่งหลังของช่วงการทดสอบอัลฟ่าแบบปิด การจัดอันดับจะถูกสร้างขึ้นโดยอิงจากจำนวน “ใบรับรองของนักล่าอัลฟ่า” ที่รวบรวมได้ โดย ผู้เล่น 10 อันดับแรก จะได้รับ NFT รุ่นจำกัด (ระดับที่เทียบเท่า SR) และผู้เล่นอันดับ 11 ถึง 100 อันดับแรกจะได้รับ NFT รุ่นจำกัด (ระดับที่เทียบเท่า SR)

คุณจะสามารถสมัครชิงโชคตั๋วการทดสอบอัลฟ่าแบบปิดได้อย่างไร

กรุณากรอกข้อมูล ที่นี่ และส่งใบสมัครของคุณผ่านทางแบบฟอร์มใบสมัคร

ระยะเวลาการสมัครตั๋วอัลฟ่าบรอนซ์แบบปิด

  • วันที่เริ่มต้น: 3 พฤษภาคม 2565 12:00 (GMT+8)
  • วันที่สิ้นสุด: 17 พฤษภาคม 2565 23:59 (GMT+8)
  • กำหนดวันจำหน่ายบัตรให้กับผู้ชนะ: 27 พฤษภาคม 2022

*โปรดทราบว่าเราจะไม่รับใบสมัครหลังจากวันที่สิ้นสุดระยะเวลาการสมัคร

*โปรดทราบว่าวันที่จำหน่ายตั๋วอาจมีการเปลี่ยนแปลง

 ระยะเวลาทดสอบอัลฟ่าแบบปิด

กำหนดการเฉพาะจะประกาศในภายหลัง

สมัครตอนนี้ ที่นี่

*ดูเอกสารรายงาน GensoKishi:

https://genso.game/pdf/WhitePaper_genso_EN.pdf

ชุมชนGensoKishi Online -META WORLD- Community

เว็บอย่างเป็นทางการ : https://genso.game/

Twitter: https://twitter.com/genso_meta

Discord: https://discord.gg/gensometa

Telegram: https://t.me/gensometamain

YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCMi4wGMEWgC9VVps8d_NLDA

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220510005812/en/

ติดต่อ:

Metap Inc.

Maxi Kuan

โทร: +886935312638

อีเมล: info@genso.game

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


Hytera เปิดตัววิทยุ PDC680 แบบ Dual-mode รุ่นใหม่ที่ทนทานเพื่อเร่งให้เกิดประสบการณ์อัจฉริยะด้านความปลอดภัยสาธารณะ

Logo

เซินเจิ้น จีน–(BUSINESS WIRE)–12 พฤษภาคม 2565

Hytera ประกาศเปิดตัววิทยุ PDC680 แบบ Dual-mode รุ่นใหม่ที่ทนทาน ซึ่ง PDC680 รวมวิทยุสื่อสาร DMR ที่สำคัญต่อภารกิจเข้าด้วยกันกับสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบแอนดรอยด์ไว้ในอุปกรณ์เครื่องเดียว โดยใช้ประโยชน์จากพลังของเทคโนโลยีแนร์โรว์แบนด์และบรอดแบนด์เพื่อให้บริการการโทรด้วยเสียง การส่งวิดีโอ และการกำหนดตำแหน่งที่สำคัญต่อภารกิจ ชุดวิทยุที่ทนทานแบบ dual-mode นี้มีระบบแอนดรอยด์ 10 และประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ขั้นสูงเพื่อปรับประสบการณ์ผู้ใช้ให้เหมาะสมที่สุด

เอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220502005534/en/

Hytera Launches the New Dual-mode Rugged Radio PDC680 to Accelerate the Public Safety Intelligent Experience (Graphic: Business Wire)

Hytera เปิดตัววิทยุ PDC680 แบบ Dual-mode ที่ทนทานเพื่อเร่งให้เกิดประสบการณ์อัจฉริยะด้านความปลอดภัยสาธารณะ (กราฟิก: Business Wire)

PDC680 เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์วิทยุที่ทนทานแบบ dual-mode ของ Hytera ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้ง่าย การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์บนปุ่มกดและปุ่มอัจฉริยะ และการออกแบบโมดูลาร์บน Ul ทำให้ผู้เผชิญเหตุคนแรกทำงานด้วยมือเดียวได้ง่ายขึ้น อัตรา IP68 ของวิทยุ (จมอยู่ใต้น้ำลึก 2 เมตรเป็นเวลา 4 ชั่วโมง) และการรับรอง ESD IEC Level 4 ทำให้มั่นใจได้ว่าเครื่องจะทำงานได้อย่างน่าเชื่อถือในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง

วิทยุมืออาชีพที่ทนทานนี้ถูกสร้างมาเพื่อให้การสื่อสารทางวิทยุแบบ push-to-talk ที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายและคาดเดาไม่ได้ ทั้งยังให้เสียงที่คมชัดอย่างไม่เคยมีมาก่อนด้วยการตัดเสียงรบกวนแบบ Al-based แม้อยู่ในตัวเมืองที่มีเสียงดังที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถสลับระหว่างเครือข่าย DMR และเครือข่าย LTE ได้โดยอัตโนมัติ การลงทะเบียนกับทั้งสองเครือข่ายโดยใช้ ID เดียวกัน PDC680 สามารถสลับไปยังเครือข่ายที่เหมาะสมที่สุดได้โดยอัตโนมัติ เพื่อมอบการสื่อสารด้วยเสียงที่ราบรื่นและเชื่อถือได้ทุกที่ทั้งในสถานที่ร่มและกลางแจ้ง

PDC680 รวมการสื่อสารที่สำคัญต่อภารกิจที่เชื่อถือได้เข้าด้วยกันกับความสามารถบรอดแบนด์สำหรับแอปพลิเคชันที่ให้ข้อมูลที่จำเป็นเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ในด้านความปลอดภัยสาธารณะตอบสนองต่อสถานการณ์ใด ๆ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถจับภาพและวิดีโอในสถานที่แล้วส่งไปยังวิทยุหรือศูนย์บัญชาการอื่นในแบบเรียลไทม์เพื่อปรับปรุงแก้ไขการรับรู้สถานการณ์ อุปกรณ์นี้ยังมีคุณสมบัติ Smart MDM ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถจัดการวิทยุเป็นกลุ่มหมู่ได้

PDC680 เป็นวิทยุอัจฉริยะ ใช้งานง่าย และทนทาน ทำงานได้อย่างน่าเชื่อถือ แม้ในสภาวะที่ท้าทายที่สุด โดยช่วยให้ผู้เผชิญเหตุคนแรกทำงานอย่างปลอดภัยและปกป้องชีวิต

ด้วยการเปิดตัว PDC680 สู่ตลาดโลก Hytera มุ่งมั่นที่จะเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการหลอมรวมของตลาดด้านวิทยุสื่อสาร

กลุ่มผลิตภัณฑ์วิทยุที่ทนทานแบบ dual-mode ของ Hytera ขณะนี้รวมถึงวิทยุแบบ hand-held รุ่น PDC680, PTC680, PTC760 และ PDM680 วิทยุที่ทนทานแบบ dual-mode ทั้งหมดได้รับการอัปเดตเป็นแอนดรอยด์ 10 แล้ว ช่วยให้ผู้ใช้มีวิธีใหม่ในการควบคุมความเป็นส่วนตัว ปรับแต่งวิทยุ และทำงานให้เสร็จลุล่วงได้

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิทยุที่ทนทานแบบ dual-mode ของ Hytera สามารถเยี่ยมชมได้ที่: https://bit.ly/3vUNvuw

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220502005534/en/

ติดต่อ:

Lingran Tao
Lingran.Tao@hytera.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Onapsis ประกาศข้อเสนอใหม่เพื่อเริ่มต้นการรักษาความปลอดภัยอย่างรวดเร็วสำหรับลูกค้า SAP

Logo

บริษัทมอบข้อเสนอการจัดการช่องโหว่ใหม่เพื่อช่วยให้องค์กรที่มีข้อจำกัดด้านทรัพยากรต่อสู้กับการโจมตีที่กำลังเพิ่มขึ้นในแอปพลิเคชัน SAP ที่มีความสำคัญต่อภารกิจ

บอสตัน–(BUSINESS WIRE)–10 พ.ค. 2565

Onapsis, ผู้นำด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของแอปพลิเคชันที่มีความสำคัญต่อธุรกิจและการปฏิบัติตามข้อกำหนด ประกาศเปิดตัว Onapsis Assess Baseline  โดยในโลกที่แอปพลิเคชันที่มีความสำคัญต่อธุรกิจถูกโจมตีทุกวัน ๆ ข้อเสนอใหม่นี้จะช่วยเร่งความสามารถขององค์กรในการเริ่มต้นโปรแกรมการจัดการช่องโหว่ SAP โดยปรับให้สอดคล้องกับ SAP Security Baseline

การเติบโตแบบทวีคูณของแรนซัมแวร์แบบกำหนดเป้าหมายและการคุกคามที่เพิ่มขึ้นของสงครามไซเบอร์ อันเนื่องมาจากความขัดแย้งระดับโลกหมายความว่า องค์กรต่าง ๆ ต้องประเมินอีกครั้งว่าพวกเขาสามารถรักษาความปลอดภัยให้กับระบบที่สำคัญที่สุดของพวกเขาได้อย่างไร ท่ามกลางแนวโน้มของภัยคุกคามที่มีการพัฒนาต่อเนื่องและที่รุนแรงมากขึ้น บริษัทต่าง ๆ ต่างพยายามตามให้ทันกับการแก้ไขช่องโหว่จำนวนที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ที่ผู้คุกคามใช้เพื่อเข้าถึงแอปพลิเคชันที่มีความสำคัญต่อธุรกิจ  การใช้ Onapsis Assess Baseline ช่วยให้บริษัททุกขนาดสามารถเร่งให้เกิดมูลค่าที่คุ้มค่ากับเวลา โดยการปรับใช้งานง่ายขึ้นด้วยโมเดล SaaS ใหม่แบบ zero-footprint และมุ่งเน้นไปที่ชุดช่องโหว่ที่สำคัญที่เป็นเป้าหมายหลักเป็นอันดับแรกในความพยายามที่จะให้การรับรองด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ตลอดจนถึงด้านความสอดคล้องและความพร้อมใช้งานของแอปพลิเคชัน SAP เมื่อใดที่องค์กรพร้อมที่จะดำเนินการมากกว่านี้ Onapsis Assess Baseline สามารถเสนอการขยายขอบเขตเพิ่มเติมสำหรับการจัดการช่องโหว่ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งรวมไปถึงการขยายความสามารถในการตรวจสอบภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องและการทดสอบความปลอดภัยของแอปพลิเคชัน อีกด้วย

ประโยชน์ที่สำคัญขององค์กรจากการใช้ Onapsis Assess Baseline

  • ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการด้วยการปรับใช้แบบเร่งรัด: ไม่ว่าจะในระบบคลาวด์  ณ สถานที่ หรือผ่านแพลตฟอร์ม SaaS ของ Onapsis ก็ตาม Assess Baseline นำเสนอการปรับใช้และการใช้งานที่รวดเร็วด้วยการสแกนแบบไม่ทิ้งร่องรอย zero footprint scanning
  • ร่นระยะเวลาในการจัดการช่องโหว่ของ SAP: ผู้ใช้ Onapsis SaaS สามารถสแกนด้วย Assess Baseline เทียบกับข้อกำหนดพื้นฐานด้านความปลอดภัยที่ SAP แนะนำสำหรับระบบ SAP ขององค์กรภายไม่กี่ชั่วโมง การสแกนนำเสนอบริบทที่มีประสิทธิภาพเกี่ยวกับจุดอ่อนที่สำคัญ คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการบรรเทาจุดอ่อน และได้รับความมั่นใจว่าจะมีการอุดช่องโหว่ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาอันมีค่าของทรัพยากร.
  • เทคโนโลยีที่ขยายและเติบโตได้เรื่อย ๆ พร้อมไปกับคุณ: ปรับใช้ในที่ที่คุณต้องการ สแกนทั่วทั้งแนว SAP เริ่มต้นจากขนาดเล็กและกำหนดเป้าหมายระบบที่สำคัญที่สุดก่อน จากนั้นจึงขยายขอบเขตการรักษาความปลอดภัยทั่วทั้งองค์กรตามเงื่อนไขของคุณ

Mariano Nunez ซีอีโอของ Onapsis กล่าวว่า “การรักษาความปลอดภัยให้กับแอปพลิเคชันที่มีความสำคัญทางธุรกิจต่อองค์กรนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายอยู่เสมอ แต่ปัจจุบันองค์กรเหล่านี้ยิ่งเผชิญกับภัยมากขึ้นไปอีก มากกว่าที่เคยเป็นมาในอดีต เนื่องจากภัยคุกคามที่ซับซ้อนมุ่งเป้าไปที่ระบบ Enterprise Resource Planning (ERP)  เราประสบความสำเร็จในการช่วยเหลือองค์กรที่ใหญ่ที่สุดและซับซ้อนที่สุดในโลกในการรวมแอพพลิเคชั่นทางธุรกิจเข้ากับโปรแกรมการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และการปฏิบัติตามข้อกำหนด ตอนนี้ Assess Baseline ช่วยให้ลูกค้าที่เริ่มต้นใช้งานโปรแกรมรักษาความปลอดภัยแอปพลิเคชัน SAP สามารถเริ่มต้นการปกป้องแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ”

แพลตฟอร์ม Onapsis ช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับแอปพลิเคชัน SAP ที่สำคัญ ๆ ที่ช่วยให้เศรษฐกิจโลกดำเนินต่อไป แพลตฟอร์มนี้สร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อมอบการจัดการช่องโหว่ให้ได้ผล การตรวจจับภัยคุกคามขั้นสูง การตรวจสอบโค้ดที่กำหนดเอง และการปฏิบัติตามข้อกำหนดอัตโนมัติที่ช่วยให้องค์กรระดับโลกสามารถเร่งการริเริ่มทางธุรกิจและการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลได้ แพลตฟอร์ม Onapsis ได้รับการออกแบบอย่างลึกซึ้งจากการใช้ข้อมูลข่าวกรองภัยคุกคามและคำแนะนำด้านความปลอดภัยล่าสุดจาก Onapsis Research Labs ซึ่งเป็นทีมชั้นนำในตลาดนี้ ซึ่งได้ค้นพบช่องโหว่สำหรับการโจมตีแบบซีโร่เดย์มากกว่า 800 รายการ และมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งเตือน CERT ที่สำคัญทั่วโลกหลายรายการ

Steve Biskie ผู้นำด้านความเสี่ยงด้าน ERP และระบบอัตโนมัติของ RSM US LLP กล่าวว่า “ภูมิทัศน์ภัยคุกคามในปัจจุบันต้องใช้แนวทางแบบองค์รวมในการรักษาความปลอดภัยแอปพลิเคชัน SAP ที่มีความสำคัญต่อธุรกิจ อย่างเช่น ซอฟต์แวร์ ERP เป็นต้น เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่ได้เห็น Onapsis เดินหน้าสร้างสรรค์โซลูชั่นอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือบริษัทต่าง ๆ ในเส้นทางแห่งการเติบโตด้านการรักษาความปลอดภัย การใช้ Baseline ใหม่สามารถช่วยปูทางให้องค์กรจำนวนมากขึ้นมีจุดเริ่มต้นในการจัดการช่องโหว่สำหรับแอปพลิเคชัน SAP ที่สามารถช่วยรักษาข้อมูลที่สำคัญและรักษาแอปพลิเคชันของพวกเขาให้ปลอดภัยและเป็นไปตามข้อกำหนด”

ท่านจะเข้าร่วมการประชุม SAP Sapphire หรือเปล่า โปรดเยี่ยมชมบูธ Onapsis เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม: #PA219

หากต้องการนัดเวลาพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ Onapsis ขณะอยู่ที่งาน Sapphire โปรดไปที่: https://onapsis.com/sapphire-22

เกี่ยวกับ Onapsis

Onapsis ปกป้องแอปพลิเคชันที่มีความสำคัญต่อธุรกิจซึ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ตั้งแต่คอร์ไปจนถึงคลาวด์ โซลูชันการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และการปฏิบัติตามข้อกำหนดของบริษัท The Onapsis Platform นำเสนอการจัดการช่องโหว่ การตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคาม การรับประกันการเปลี่ยนแปลง และการปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างต่อเนื่องสำหรับแอปพลิเคชันที่มีความสำคัญต่อธุรกิจจากผู้ขายชั้นนำ เช่น SAP, Oracle, Salesforce และแพลตฟอร์ม SaaS อื่น ๆ

Onapsis มีสำนักงานใหญ่ในเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ โดยมีสำนักงานสาขาอยู่ที่ ไฮเดลเบิร์ก เยอรมนี และบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา บริษัทภูมิใจให้บริการแบรนด์ชั้นนำของโลกมากกว่า 300 แบรนด์ รวมถึงบริษัทร้อยละ 20 ของ Fortune 100, บริษัท 6 ใน 10 บริษัทยานยนต์ชั้นนำ,บริษัทเคมี  5 จาก 10 อันดับแรก, บริษัทเทคโนโลยี 10 อันดับแรก 4 แห่ง และบริษัทน้ำมันและก๊าซ 3 บริษัทจาก 10 อันดับแรก

แพลตฟอร์ม Onapsis ขับเคลื่อนโดย Onapsis Research Labs ซึ่งเป็นทีมที่รับผิดชอบในการค้นพบและบรรเทาช่องโหว่การโจมตีจากซีโร่เดย์มากกว่า 800 รายการในแอปพลิเคชันที่มีความสำคัญต่อธุรกิจ การวิจัยและแพลตฟอร์มภัยคุกคามของเราขยายวงกว้างผ่านบริษัทที่ปรึกษาและตรวจสอบชั้นนำ เช่น Accenture, Deloitte, IBM, PwC และ KPMG จึงทำให้โซลูชัน Onapsis เป็นมาตรฐานในการช่วยให้องค์กรปกป้องคลาวด์ ไฮบริด และข้อมูลภายในองค์กรที่มีความสำคัญต่อธุรกิจ ตลอดจนถึงข้อมูลและกระบวนการต่าง ๆ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม เชื่อมต่อกับเราได้ที่ Twitter หรือ LinkedIn, หรือเยี่ยมชมเราได้ที่ https://onapsis.com/.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220510005214/en/

ติดต่อ:

ฝ่ายสื่อสาร 10Fold สำหรับ Onapsis

Mariah Simank, 512-971-3702

Onapsis@10fold.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mawi DNA Technologies เปิดตัว NextSWAB™ เพื่อผลการทดสอบโควิด-19 ที่แม่นยำและน่าเชื่อถือมากขึ้น

Logo

เฮย์เวิร์ด แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–10 พฤษภาคม 2565

Mawi DNA Technologies (Mawi) บริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มุ่งเน้นการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมสำหรับการเก็บตัวอย่างทางชีวภาพ ได้เปิดตัว NextSWAB™ ซึ่งเป็นไม้สวอปพลาสติกใช้สำหรับทางการแพทย์ 100% ที่ออกแบบและผลิตในสหรัฐอเมริกา Mawi เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่นี้เพื่อตอบสนองต่อปัญหาการขาดแคลนไม้สวอปสำหรับตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้รับการออกแบบสำหรับการเก็บรวบรวมที่มีประสิทธิภาพสูงโดยไม่มีโอกาสในการปนเปื้อนจากกาวหรือเส้นใยที่ใช้ในไม้สวอปพันสำลีและไนลอนที่อาจยับยั้งการตรวจด้วย PCR ปัจจุบัน NextSWAB™ ได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับการเก็บตัวอย่างทางจมูกด้วยการตรวจสอบสำหรับตัวอย่างประเภทอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง

“อุปกรณ์เก็บตัวอย่างปลอดเชื้อ NextSWAB™ มีความยาวถึงหกนิ้วโดยมีการออกแบบส่วนหัวที่ไม่เหมือนใครอยู่ที่ปลายสุด” Dr. Bassam El-Fahmawi ซีอีโอของ Mawi กล่าว “หัวไม้สวอปมีสองช่องคั่นด้วยผนังกั้นที่เก็บรวบรวมในจมูกซึ่งสามารถใส่ลงใน transport media ที่ใช้เก็บตัวอย่างชั่วคราวด้วยการเขย่าเบา ๆ หัวที่ยืดหยุ่นได้พอดีเข้ากับช่องได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เก็บตัวอย่างจากจมูกส่วนหน้าโดยผู้ใช้รู้สึกไม่สบายน้อยที่สุดที่เพียงพอสำหรับผลลัพธ์ที่มีความหมาย” Dr. El-Fahmawi กล่าวเสริม

NextSWAB™ สามารถใช้ได้กับหลอดเก็บตัวอย่างจำนวนมาก ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเก็บรวบรวมตัวอย่างสวอปหลายชิ้นในหลอดเดียว อย่างไรก็ตามเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ทั้งนี้จะมีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อใช้ร่วมกับเทคโนโลยีการเก็บตัวอย่าง iSWAB-Microbiome-EL ของ Mawi ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถข้ามขั้นตอนการสกัด RNA ในการทดสอบระดับโมเลกุลของโควิด-19 ได้ คุณสามารถเพิ่มการเก็บตัวอย่างทางจมูกที่สองลงในหลอดเดียวกันเพื่อสร้างตัวอย่างที่มีความเข้มข้นมากขึ้นเพื่อปรับปรุงความน่าเชื่อถือโดยรวมของการทดสอบ ซึ่ง NextSWAB™ พร้อมใช้งานและไม่จำเป็นต้องมีการเตรียมการใด ๆ สำหรับการรวบรวมตัวอย่าง

“NextSWAB™ ของเราเก็บตัวอย่างครบถ้วนลงใน transport media ที่ใช้เก็บตัวอย่างโดยไม่จำเป็นต้องมีไม้สวอปส่งไปพร้อมกับตัวอย่าง” Dr. El-Fahmawi ชี้ให้เห็น “จากนั้นตัวอย่างของเหลวที่มีความเข้มข้นครบถ้วนสามารถนำไปประมวลผลได้อย่างรวดเร็วด้วยระบบเตรียมตัวอย่างแบบหุ่นยนต์หรือขั้นตอนการทำงานในห้องปฏิบัติการใด ๆ ในระหว่างการทดสอบ R&D เบื้องต้น การออกแบบส่วนหัวที่อยู่ระหว่างรอการจดสิทธิบัตรและเป็นเอกลักษณ์ได้แสดงให้เห็นประสิทธิภาพในการเก็บรวบรวมตัวอย่างทางจมูก (mid-turbinate และ anterior nares) ที่สูงกว่าการเก็บตัวอย่างสวอปแบบ flocked swabs” เขากล่าว

ด้วยความต้องการไม้สวอบสำหรับเก็บรวบรวมตัวอย่างของโควิด-19 แนวทางห่วงโซ่อุปทานสำหรับ NextSWAB™ จึงมีความน่าเชื่อถือและมีเสถียรภาพด้วยโครงสร้างขึ้นรูปพลาสติกและการผลิตในสหรัฐอเมริกา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ NextSWAB™ สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.mawidna.com

เกี่ยวกับ Mawi DNA Technologies

Mawi DNA Technologies ก่อตั้งขึ้นในปี 2556 เป็นผู้พัฒนาและให้บริการเชิงพาณิชย์ด้านเทคโนโลยี iSWAB ซึ่งเป็นระบบที่มีความล้ำสมัยสำหรับการเก็บตัวอย่างทางชีวภาพ พันธกิจของ Mawi คือการรักษาความสมบูรณ์ของตัวอย่างไม่ว่าจะมาจากส่วนไหนของโลกที่อุณหภูมิห้องปกติ เพื่อให้เห็นความหลากหลายที่แท้จริงของตัวอย่างจากต่างพื้นที่ทางภูมิศาสตร์และกลุ่มประชากร ภายใต้เครื่องหมายการค้า At Mawi, The Future of Biosampling is Here™ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่ http://www.mawidna.com

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220510005587/en/

ติดต่อ:

นักลงทุน:
Jerome David, VP of Sales and Marketing
510-256-5186, j.david@mawidna.com

ติดต่อสื่อ:
Susan Tellem, APR, RN, BSN
310-313-3444, text or call 310-613-3504 susan@tellemgrodypr.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Sangfor Newsletter นำเสนองานวิจัยของ Gartner® ชื่อ The Cloud Strategy Cookbook 2564

Logo

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–11 พ.ค. 2565

Sangfor Technologies ผู้จำหน่าย IT Infrastructure และโซลูชั่นด้านความปลอดภัยชั้นนำระดับโลกที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่เชี่ยวชาญในด้าน Cybersecurity และ Cloud Computing Sangfor ได้ทำงานกับลูกค้าอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ รวมทั้งพัฒนาข้อเสนอที่ดีอยู่แล้ว ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราทั่วโลกสามารถทำให้การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลเป็นไปอย่างปลอดภัยและง่ายขึ้น

Cloud Strategy Cookbook 2021 โดย Gartner เป็นการจัดเตรียม “Virtual Template” ให้กับ Infrastructure พื้นฐานและ Operation manager สำหรับการจัดทำเอกสารการวางกลยุทธ์ระบบคลาวด์ที่ดี ซึ่งจะตอบคำถาม “อะไร” และ “ทำไม” ที่เกี่ยวข้องกับการ Implement และ การนำระบบคลาวด์ไปใช้

งานวิจัยของ Gartner พบข้อมูลที่น่าสนใจหลายประการ ดังนี้

  • องค์กรที่ไม่มีการวางกลยุทธ์ระบบคลาวด์ (Cloud Strategy) จะมีแนวโน้มในการประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจน้อยกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับองค์กรที่มี Cloud Stategy
  • มีการวางกลยุทธ์ระบบคลาวด์  (Cloud Strategy) ที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับหลักการและการจัดลำดับความสำคัญในการวางกลยุทธ์อื่น ๆ ได้ เช่น การวาง Data center, การจัดการระบบ Security รวมไปถึงออกแบบสถาปัตยกรรมของ Cloud
  • องค์กรมักไม่มีการวาง Exit strategy แม้ว่าจะเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของ Cloud Strategy

Cloud Strategy Cookbook ให้คำแนะนำและ Guidelines สำหรับผู้นำด้าน Infrastructure and Operation (I&O) ในการสร้างแผนกลยุทธ์ระบบคลาวด์ “ที่เป็นปัจจุบัน” สำหรับการย้ายขึ้นระบบคลาวด์และแผนการ Implement ให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของธุรกิจหลัก (Core business strategy) อย่างมีประสิทธิภาพ แนวทางของ Cloud Strategy Cookbook แบ่งแผนกลยุทธ์ระบบคลาวด์ออกเป็น 5 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ บทสรุปสำหรับผู้บริหาร(Executive Summary), แนวทางพื้นฐาน(Baselines), การระดมสมอง(Brainstorming), หลักการ(Principles) และคลังทรัพยากร(Inventory) รวมถึงการปรับให้สอดคล้องกับกลยุทธ์และองค์ประกอบที่สนับสนุน

เพื่อให้ตอบโจทย์ The Cloud Strategy Cookbook  Sangfor Newsletter สามารถช่วยตอบคำถามเรื่องการ implement ระบบคลาวด์ “อย่างไร” ให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงเสนอวิธีการการเตรียมตัวก่อนย้ายไปยังระบบคลาวด์ เพื่อทำให้การดำเนินการเป็นไปได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

  • การระบุวัตถุประสงค์ในการนำระบบคลาวด์ไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ สำหรับผู้นำด้าน infrastructure and operation (I&O) เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายขององค์กร
  • เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล องค์กรควรเริ่มที่จะเปลี่ยนมาใช้ระบบคลาวด์ รวมไปถึงเริ่มที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกิจหลัก(Core business)
  • การเลือก Cloud partner ที่มีประสบการณ์และหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายส่วนเกิน(unexpected costs) ที่อาจเกิดขึ้นจากกระบวนการ implementation and operation (I&O)

ท่านสามารถศึกษาข้อมูลรายงานของ Gartner เพิ่มเติมได้ที่ Sangfor Newletter คลิก ที่นี่

แหล่งที่มา: Gartner Research Note

The Cloud Strategy Cookbook G00741474 เผยแพร่เมื่อ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 โดยนักวิเคราะห์: David Smith

GARTNER เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนและเครื่องหมายบริการของ Gartner, Inc. เท่านั้น

และ/หรือ สงวนลิขสิทธิ์ให้บริษัทในเครือที่สหรัฐอเมริกาหรือต่างประเทศใช้ได้เท่านั้น

Sangfor Managed Cloud Services

Sangfor Managed Cloud Services มอบความสะดวกสบายและความยืดหยุ่นในการใช้งานระบบ Public Cloud ด้วยความสามารถด้านการรักษาความปลอดภัย(security), การควบคุม(control) และ Professional service โดยผู้เชี่ยวชาญจาก Private Cloud ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นระบบคลาวด์ที่ดีที่สุดสำหรับองค์กรขนาดเล็ก(SME)

Sangfor ให้บริการ Distributed Data Centers ให้กับลูกค้าทั่วโลก ด้วย Infrastructure-as-a-Service (IaaS), Platform-as-a-Service (PaaS) รวมถึง Dedicated resource/Data security และการรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มรูปแบบกับด้วย security responsibilities model แบบใหม่ กล่าวได้ว่าเป็น Local Public Cloud ที่มีความปลอดภัยไม่ต่างจาก Private Cloud เลยทีเดียว

เปลี่ยนมาใช้ Sangfor Managed Cloud Services เพื่อทำให้องค์กรของท่านมุ่งไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสร้างมูลค่าทางธุรกิจให้มากยิ่งขึ้น

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Sangfor Managed Cloud Services

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ www.sangfor.com.

ดูเวอร์ชั่นต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220506005142/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ:

Sunny Sun

marketing@sangfor.com

+8675586560605

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย