All posts by Jasmine

Black & Veatch และ The Green Solutions ลงนาม MoU เพื่อพัฒนาการผลิตพลังงานสีเขียวในเวียดนาม

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–4 เมษายน 2565

Black & Veatch และ The Green Solutions (TGS) ได้ลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) เพื่อพัฒนาการผลิตและการจัดหาไฮโดรเจนสีเขียวและแอมโมเนียสีเขียวในเวียดนาม

TGS เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการผลิต และการบริการของโครงการพลังงานหมุนเวียน และเป็นผู้นำในการใช้ประโยชน์จากพลังงานสีเขียวในเวียดนามเพื่อนำไปผลิตไฮโดรเจนสีเขียวและแอมโมเนียสีเขียว Black & Veatch เป็นผู้นำระดับโลกด้านการพัฒนาพลังงานไฮโดรเจน ได้นำความรู้และความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีของพลังงานสะอาดและการแปรรูปแอมโมเนียมาสู่โครงการ

“The Green Solutions มีความมุ่งมั่นที่จะใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในด้านพลังงานหมุนเวียนในเวียดนาม และการเป็นพันธมิตรกับ Black & Veatch จะทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนแนวปฏิบัติให้ดีที่สุดในโลกพร้อมกับสอดคล้องกับข้อกำหนดของเอเชีย และมีส่วนสนับสนุนต่อโครงการที่ปลอดจากจากปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ของภูมิภาคในอนาคต” Winnie Huynh ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ TGS กล่าว

ไฮโดรเจนสามารถนำมาใช้ในการผลิตไฟฟ้า การจัดเก็บพลังงาน และโซลูชั่นการขนส่งขั้นสูง ในขณะที่แอมโมเนียสามารถทำให้เป็นของเหลวสำหรับการจัดเก็บและการขนส่งทั่วโลก ซึ่งสามารถนำมาใช้ในอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานจำนวนมากเพื่อผลิตไฟฟ้าหรือสารเคมีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ

ภายใต้ MoU โดย Black & Veatch และ TGS ตั้งเป้าที่จะผลิตแอมโมเนียสีเขียวจำนวน 180,000 ตันและไฮโดรเจนสีเขียวจำนวน 30,000 ตันต่อปี เพื่อสนับสนุนความพยายามในการกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับภูมิภาค

TGS ได้แต่งตั้ง Black & Veatch เพื่อศึกษาการผลิตและการเก็บรักษาไฮโดรเจนสีเขียวในเวียดนามโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานลมที่จ่ายผ่านระบบโครงข่ายไฟฟ้า การศึกษายังรวมถึงการพัฒนาโรงงานผลิตแอมโมเนียสีเขียว ตลอดจนการกำหนดค่าโรงงานและการทบทวนเทคโนโลยี ความเสี่ยงในการวิวัฒนาการของเทคโนโลยีและการบรรเทาผลกระทบเบื้องต้น การออกแบบแนวคิด การประเมินต้นทุนตามลำดับความสำคัญ และการคำนวณต้นทุนที่ปรับระดับได้ Augustus Global Investments จะจัดหาเงินทุนเพื่อการพัฒนาเบื้องต้นสำหรับโครงการนี้

“ด้วยประวัติศาสตร์ 80 ปีของเราในการทำงานกับการผลิตไฮโดรเจนและแอมโมเนียในอุตสาหกรรมปุ๋ย ความพร้อมที่จะนำความความรู้ความเชี่ยวชาญในทุกขั้นตอนของโครงการด้านไฮโดรเจน ตั้งแต่การให้บริการเป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิคและการออกแบบไปจนถึงการดำเนินงานของโครงการ ในฐานะที่เป็นบุกเบิกในการให้บริการลูกค้าแบบครบวงจรของไฮโดรเจนและแอมโมเนีย Black & Veatch เองก็มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรกับบริษัทที่จะมุ่งเน้นด้านความยั่งยืนอย่างเช่น The Green Solutions ในขณะที่เราเองก็ยังมีเป้าหมายที่จะช่วยในการลดการปล่อยคาร์บอนในเอเชียด้วยการเพิ่มการนำเอาไฮโดรเจนสีเขียวและแอมโมเนียสีเขียวมาใช้” Narsingh Chaudhary รองประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Black & Veatch กล่าว

“Augustus ผสมผสานปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (ESG) เข้ากับกระบวนการลงทุนและการจัดการที่หลากหลายของเรา เรายินดีที่จะสนับสนุนธุรกิจที่คิดถึงอนาคตอย่างเช่น The Green Solutions และ Black & Veatch ที่พวกเขาทำงานเพื่อตระหนักถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการกำจัดคาร์บอนของเอเชีย” Fadi Krikor ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Augustus Global Investments กล่าว

MoU ตอบสนองต่อการมองโลกในทางที่ดีของเอเชียสำหรับเชื้อเพลิงสีเขียวอย่างเช่น ไฮโดรเจนและแอมโมเนีย ตามผลรายงาน Black & Veatch’s 2022 Asia Electric Report ร้อยละ 73 ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่าไฮโดรเจนจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนภายใน 10 ปีนับจากนี้มากกว่าเทคโนโลยีอื่นใด นอกจากนี้ผลรายงานยังเผยว่าร้อยละ 46 คิดว่าจะเป็นทางเลือกที่สะอาดและราคาไม่แพงสำหรับการผลิตก๊าซภายในปี 2573

ในฐานะที่เป็นพันธมิตรด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ การให้คำปรึกษา และการก่อสร้างระดับโลก Black & Veatch มีประสบการณ์ที่แข็งแกร่งในการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนและวัตถุดิบตั้งต้นจากก๊าซธรรมชาติ การบำบัดน้ำสำหรับงานอุตสาหกรรม การสร้างและการทำให้บริสุทธิ์ของไฮโดรเจน การบีบอัดไฮโดรเจน การจัดการและการผลิตพลังงาน และการเลือกเทคโนโลยีการจัดเก็บที่คุ้มค่า

คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดภาพที่สนับสนุน

หมายเหตุของบรรณาธิการ:

  • Black & Veatch ได้รับเลือกให้เป็น Owner's Engineer โดย Intermountain Power Agency (IPA) สำหรับโครงการ Intermountain Power Project Renewal Project (IPPRP) ซึ่งเป็นหนึ่งในการติดตั้งของเทคโนโลยีกังหันแบบเผาไหม้ที่แรกซึ่งออกแบบมาเพื่อใช้ไฮโดรเจนสีเขียวในปริมาณสูง
  • Black & Veatch ได้จัดเตรียมการออกแบบแนวความคิดและดำเนินการประเมินต้นทุนสำหรับการรวมก๊าซไฮโดรเจนจากโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่ใกล้เคียงเป็นเชื้อเพลิงสำหรับการเผาไหม้ในโรงงานไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม Long Ridge Energy Terminal 485-MW GE 7HA.02
  • Black & Veatch ได้รับการคัดเลือกจาก Enegix Energy ให้ดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโรงงานไฮโดรเจนสีเขียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก world’s largest green hydrogen plant โรงงานแห่งนี้ตั้งเป้าหมายการผลิตไฮโดรเจนสีเขียวมากกว่า 600 ล้านกิโลกรัมต่อปี

เกี่ยวกับ Black & Veatch

Black & Veatch คือบริษัทออกแบบด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ การให้คำปรึกษา และการก่อสร้างระดับโลกที่มีพนักงาน 100 เปอร์เซ็นต์ร่วมเป็นเจ้าของ มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปีในด้านนวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน ตั้งแต่ปี 2458 เป็นต้นมา เราได้ช่วยลูกค้าของเราพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลกโดยการพัฒนาความยืดหยุ่น และคุณภาพของโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญท ในปี 2563 บริษัทมีรายได้รวมในการดำเนินงานกว่า 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดตามเราได้ที่ www.bv.com และทางสื่อสังคม

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220328005361/en/

ติดต่อ:

EMILY CHIA | +65 6335 6623 P | +65 9875 8907 M | Chialp@bv.com
24-HOUR MEDIA HOTLINE | +1 855-999-5991

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

งาน Women’s Entrepreneurship Accelerator ในการประชุมครั้งที่ 66 ของคณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรีเรียกร้องให้ลงทุนในผู้ประกอบการสตรีเพื่อจัดการแก้ปัญหากับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

Logo

ผู้ประกอบการสตรีคือโซลูชันผู้นำแบบตัวคูณในการสร้างอนาคตที่ครอบคลุมและยั่งยืน

นิวยอร์ก & เจนีวา–(BUSINESS WIRE)–31 มีนาคม 2565

การตระหนักถึงความสัมพันธ์ที่บรรจบกันระหว่างการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความไม่เท่าเทียมกันระหว่างเพศ โดยเมื่อวันที่ 18 มีนาคม Women's Entrepreneurship Accelerator (WEA) ได้รวบรวมผู้แทนอาวุโสของผู้ก่อตั้งที่เป็นพันธมิตรเพื่อหารือเกี่ยวกับบทบาทสำคัญของผู้ประกอบการสตรีในการเป็นผู้นำในการปรับตัว การบรรเทาและการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และวิธีที่ผู้ประกอบการสตรีมีส่วนร่วมในฐานะผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงในการสร้างสังคมที่ยั่งยืนและครอบคลุมมากขึ้นสำหรับทุกคน

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220331005276/en/

WEA Event at CSW66 “Investing in Women Entrepreneurs to Tackle Climate Change” (Photo: Mary Kay Inc.)

งาน WEA ที่ CSW66 “การลงทุนในผู้ประกอบการสตรีเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” (ภาพ: Mary Kay Inc.)

งาน CSW เน้นย้ำถึงความสำคัญที่เป็นพิเศษของผู้ประกอบการสตรีในฐานะตัวขับเคลื่อนหลักในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคด้านโครงสร้างและวัฒนธรรมต่อโอกาสทางเศรษฐกิจของสตรี และวิธีสนับสนุนผู้ประกอบการสตรีในฐานะผู้แก้ปัญหาในการขยายขนาดและลงทุนในความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังนำเสนอวิธีในการเร่งโอกาสทางเศรษฐกิจของผู้หญิงผ่านการจัดซื้อจัดจ้างที่ตอบสนองต่อบทบาทหญิงชาย และเรียกร้องให้มีผู้สร้างที่มีความมุ่งมั่นมากยิ่งขึ้นในการเริ่มต้นในการเปลี่ยนแปลงโดยเร็วสำหรับผู้หญิงทั่วโลกด้วยการเข้าร่วมโครงการ Accelerator

ในอดีตผู้ประกอบการสตรีต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย รวมถึงการขาดการเข้าถึงของเงินทุน เครือข่ายผู้ประกอบการในจำนวนที่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ชาย และนโยบายที่กีดกันการมีส่วนร่วมในตลาดแรงงานสตรี1 อุปสรรคเหล่านี้ประกอบขึ้นด้วยกฎหมายที่ไม่เท่าเทียมกัน ผลการศึกษาของธนาคารโลกปี 2565 พบว่าผู้หญิงวัยทำงานเกือบ 2.4 พันล้านคนยังไม่ได้รับสิทธิทางเศรษฐกิจเท่ากับผู้ชาย จาก 190 ภาวะเศรษฐกิจที่ตรวจสอบในการศึกษานี้ มี 178 แห่งยังคงมีอุปสรรคทางกฎหมายที่ขัดขวางการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบของผู้หญิง ในขณะที่ผู้หญิงยังคงเผชิญกับการจำกัดงานบางรูปแบบใน 86 ประเทศ โดยมี 95 ประเทศที่ผู้หญิงไม่ได้การรับประกันว่าจะได้รับค่าจ้างเท่ากันกับงานที่ทำเท่าเทียมกัน และมี 76 ประเทศมีกฎหมายที่จำกัดสิทธิสตรีในการถือครองที่ดิน ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญในการลดความยากจน2

เพื่อจัดการกับอุปสรรคด้านโครงสร้างและวัฒนธรรมที่ผู้ประกอบการสตรีต้องเผชิญ Women's Entrepreneurship Accelerator ได้เปิดตัวในระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในปี 2562 โดยร่วมมือกับหน่วยงานของ UN จำนวน 6 แห่งโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้ประกอบการสตรีในขณะที่เพิ่มผลกระทบต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนให้สูงสุด

เฉพาะหัวข้อของงานในข้อมูลเผยให้เห็นว่าผู้ประกอบการสตรีสามารถมองการลงทุนทางธุรกิจที่นอกเหนือไปจากผลตอบแทนทางการเงิน และตระหนักว่าการได้รับผลตอบแทนทางการเงินและผลตอบแทนทางสังคมไม่ได้เกิดพร้อมกัน ตัวอย่างเช่น ตามรายงานของ Global Entrepreneur Report ประจำปี 2563 โดย BNP Paribas ร้อยละ 54 ของผู้ประกอบการสตรีกล่าวว่านอกเหนือจากรายได้ การลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในการลงทุนสูงสุด เมื่อเทียบกับผู้ชายเพียงแค่ 41 เปอร์เซ็นต์3

Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าวเปิดงาน เรียกร้องให้มีการรื้อปรับปรุงปัญหาและอุปสรรคที่ผู้หญิงต้องเผชิญ และอธิบายว่า “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ใช่การระบุเพศ ผู้หญิงและเด็กผู้หญิงกำลังมีผลกระทบอย่างหนัก ช่องโหว่ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลโดยตรงของความไม่เท่าเทียมกันทางเพศในโครงสร้างทางการเมือง สังคม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจของสังคมที่พวกเขาอาศัยอยู่” Ms. Gibbins กล่าวเสริมว่าผู้หญิงอยู่ในแนวหน้าของการตอบสนองต่อสภาพภูมิอากาศและมีมาหลายชั่วอายุคน “ใช้กลยุทธ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ในการบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ สิ่งที่พวกเขาต้องการในตอนนี้คือการยอมรับความเป็นผู้นำและระบบนิเวศที่เหมาะกับพวกเขา”

Vic Van Vuuren กรรมการฝ่ายบริหารองค์กร องค์การแรงงานระหว่างประเทศ สังเกตว่าการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ได้ย้อนความคืบหน้าในเรื่องความเท่าเทียมทางเพศได้อย่างไร ได้สรุปว่า “ผู้หญิงมีบทบาทในเศรษฐกิจสีเขียวอยู่แล้วในฐานะผู้ประกอบการ ผู้จัดการ เกษตรกร คนทำงานในการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การจัดการของเสีย และพลังงานหมุนเวียน อย่างไรก็ตาม เราต้องยอมรับว่าการเข้าถึงของเราไม่เพียงพอ เราต้องการบูรณาการมิติหญิงชายและความเท่าเทียมทางเพศในนโยบายระดับโลก นโยบายธุรกิจ และนโยบายระดับชาติทั้งหมด”

Pamela Coke-Hamilton กรรมการบริหารของ International Trade Centre ตั้งข้อสังเกตว่า “วิสาหกิจขนาดเล็ก ขนาดย่อม และขนาดกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นเจ้าของโดยผู้หญิง เผชิญกับปัญหาและอุปสรรคในการทำให้การดำเนินธุรกิจของพวกเขายั่งยืนมากขึ้น เราที่ International Trade Center ใช้แนวทางแบบองค์รวมเพื่อสนับสนุนการเป็นผู้ประกอบการของผู้หญิงเพื่อให้แน่ใจว่าผู้หญิงเหล่านั้นมีส่วนทำให้เกิดเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและเป็นเศรษฐกิจสีเขียว การสนับสนุนธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของไม่เพียงแต่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังช่วยเร่งการเปลี่ยนแปลงของเราไปสู่ความยั่งยืนอีกด้วย”

Stephen Bereaux รองกรรมการ International Telecommunication เรียกร้องให้มีโอกาสที่เท่าเทียมกันในเศรษฐกิจสีเขียวเพื่อสร้างผลกระทบที่มากขึ้น เน้นย้ำความสัมพันธ์ระหว่างการเป็นผู้ประกอบการของผู้หญิงในการสร้างโซลูชันที่เป็นนวัตกรรม ยุติธรรม และครอบคลุมสำหรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความยั่งยืน “ถ้าผู้หญิงสามารถมีส่วนร่วมได้ แนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนและรูปแบบธุรกิจจะขยายตัวได้รวดเร็วยิ่งขึ้น” Mr. Bereaux กล่าวสรุป

Haoliang Xu ผู้ช่วยเลขาธิการและกรรมการ Bureau for Policy and Programme Support ของ United Nations Development Programme ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการฟื้นฟูสู่โลกสีเขียวอย่างทั่วถึง กล่าวถึงว่า “UNDP เชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าเรากำลังเผชิญกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรุ่นของเรา และเราต้องสร้างมันกลับมาให้ดียิ่งขึ้น เราต้องทำมันให้ถูกต้องสำหรับผู้หญิงในรุ่นต่อ ๆ ไปที่จะมาถึง”

Sanda Ojiambo กรรมการบริหารและซีอีโอของ United Nations Global Compact กล่าวถึงพลังของภาคส่วนเอกชนในความท้าทายความเชื่อหรือหลักปฏิบัติที่มาแต่ดั้งเดิม และนั่น “สำหรับการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนและความเป็นธรรมของสภาพอากาศที่จะกลายเป็นความจริง ผู้ประกอบการสตรีควรได้รับความเท่าเทียมและรวมตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า”

ในแง่ของโซลูชันที่มีประสิทธิภาพ Anita Bhatia ผู้ช่วยเลขาธิการและรองผู้อำนวยการบริหารของ UN Women เรียกร้องให้มีการจัดซื้อจัดจ้างที่ตอบสนองต่อบทบาทหญิงชายให้มากขึ้นซึ่ง “กำหนดมาตรฐานระดับสูงสำหรับผู้จัดหาสินค้าและบริการเพื่อที่จะบอกว่าเราต้องการซื้อเท่านั้นหรือส่วนใหญ่มาจากธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของ นี่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับผู้หญิงเพราะช่วยให้พวกเขาได้ยืนหยัดและช่วยให้ธุรกิจของพวกเขาเติบโตในห่วงโซ่อุปทาน”

เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการดำเนินการที่มากขึ้นและการเป็นพันธมิตรแบบข้ามภาคส่วนที่มากขึ้น Aldijana Šišić ประธานเจ้าหน้าที่ Multi-Stakeholder Partnerships and Engagement ที่ UN Women กล่าวถึงการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกันซึ่งจำเป็นในการตอบสนองและจัดการกับความเสี่ยงและโอกาสที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความไม่เท่าเทียมกันทางเพศ “การจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้เป็นเพียงแค่การปกป้องโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นการกำจัดอุปสรรคเพื่อความก้าวหน้าอีกด้วย รัฐวิสาหกิจขนาดเล็ก ขนาดย่อมและขนาดกลางที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของและเป็นผู้นำได้รับการยอมรับเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นกุญแจสำคัญในการจัดหาโซลูชั่นด้านสภาพอากาศ เราต้องเร่งดำเนินการและต้องลงทุนเพิ่มมากขึ้น”

การดูแลงานประชุม Elizabeth Vazquez ประธาน ซีอีโอ และผู้ร่วมก่อตั้ง WEConnect International เรียกร้องว่า “ผู้หญิงคิดเป็น 51 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลก เป็นเจ้าของจำนวน 33 เปอร์เซ็นต์ของธุรกิจส่วนตัวทั้งหมด แต่มีรายได้เพียง 1 เปอร์เซ็นต์ของการใช้จ่ายทั่วโลกสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการจากองค์กรขนาดใหญ่” หากจะบรรลุเป้าหมายระดับโลกภายในปี 2573 Ms. Vazquez ได้กระตุ้นให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียว่า “ต้องดำเนินการด้วยความตั้งใจ ด้วยความเร่งด่วน และเป็นพันธมิตรซึ่งกันและกัน และให้ดำเนินการในเชิงรุกมากขึ้น”

สามารถดูบันทึกของงานประชุมได้ที่นี่

เกี่ยวกับ Women’s Entrepreneurship Accelerator

Women's Entrepreneurship Accelerator (WEA) เป็นโครงการริเริ่มแบบหุ้นส่วนความร่วมมือจากภาคส่วนที่หลากหลายเกี่ยวกับผู้ประกอบการสตรีที่ตั้งขึ้นในช่วง UNGA 74 โดยมีหน่วยงานขององค์กรสหประชาชาติหกแห่ง ได้แก่ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (ITC) สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ข้อตกลงแห่งสหประชาชาติ (UNGC) องค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) และ Mary Kay Inc. จะเพิ่มพลังให้ผู้ประกอบการสตรี 5 ล้านคนภายในปี 2573

เป้าหมายสูงสุดของโครงการนี้คือการเพิ่มผลกระทบด้านการพัฒนาของผู้ประกอบการสตรีให้มากที่สุดในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยการสร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้ประกอบการสตรีทั่วโลก โครงการ Accelerator เป็นตัวอย่างของพลังในการเปลี่ยนแปลงของการเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือจากภาคส่วนที่หลากหลายที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร เพื่อควบคุมศักยภาพของผู้ประกอบการสตรี เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ we-accelerate ติดตามเราได้ที่: Twitter (We_Accelerator), Instagram (@we_accelerator), Facebook (@womensentrepreneurshipaccelerator), LinkedIn (@womensentrepreneurshipaccelerator)

_____________________________
1 https://www.oecd.org/cfe/smes/Policy-Brief-on-Women-s-Entrepreneurship.pdf
2 World Bank Group. 2022.Women, Business and the Law 2022. Washington, DC: World Bank.
3 BNP Paribas Global Entrepreneur & Family Report 2021.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220331005276/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


ฟีเจอร์ใหม่ของ NFT Gallery จากลิงก์ “aboutme” ใน Bio Tool ตอบสนองความต้องการของนักสะสม NFT ที่จะแสดงคอลเล็กชันของตนด้วยการผสานรวมกับ OpenSea API ทำให้จัดแสดงคอลเลคชัน NFT ของคุณได้ง่ายขึ้น

Logo

https://aboutme.style/

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–31 มีนาคม 2565

วันที่ 31 มีนาคม 2565 Bloom&Co. Corporation (สำนักงานใหญ่: ชิบูยะ โตเกียว ญี่ปุ่น) ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “NFT Gallery*” จาก “aboutme” ซึ่งเป็นลิงก์ในผลิตภัณฑ์ไบโอสำหรับอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์ ทั้งนี้ “aboutme” ได้รับการพัฒนาและเปิดตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้เพื่อเฉลิมฉลองความสามารถที่สร้างสรรค์และขยายความเป็นไปได้สำหรับบุคคลในการแสดงออกในยุคใหม่ของความเป็นปัจเจกเอกลักษณ์ ฟีเจอร์ใหม่นี้จะทำให้ครีเอเตอร์มีวิธีเพิ่มเติมในการแสดงผลงานและสื่อสารกับผู้ชมได้อย่างแท้จริง

*โดยขณะนี้สามารถทำงานร่วมกันได้กับเว็บเบราว์เซอร์และระบบแอนดรอยด์

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220328005951/en/

aboutme-NFT Gallery

aboutme-NFT Gallery

การแสดงคอลเล็กชัน NFT ของคุณใน NFT Gallery สามารถทำได้ผ่านการผสานรวมอย่างราบรื่นกับตลาดซื้อขาย NFT ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง OpenSea

NFT ได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และด้วยอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์จำนวนมากที่ขยายเข้าสู่พื้นที่อย่างรวดเร็ว แต่พวกเขายังคงสำรวจวิธีที่ดีที่สุดในการใช้ประโยชน์จาก NFT ของตน

“aboutme” ช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จาก NFT Gallery นี้เพื่อแสดงกิจกรรม NFT ของคุณโดยผสมผสานและรักษาความสอดคล้องกับคุณค่าของแบรนด์ ตัวละคร และบุคลิกภาพของคุณบนโซเชียลมีเดีย

ด้วยการเชื่อมโยงกับ OpenSea ผ่าน API ซึ่งเป็นตลาดซื้อขาย NFT ที่ใหญ่ที่สุดในโลก คุณสามารถแสดงคอลเลกชัน NFT ของคุณจาก OpenSea ได้บนหน้าเพจ 'aboutme' ของคุณ และทำให้ผู้ติดตามของคุณทุกคนสามารถเข้าดูโดยทันที การเข้าถึง NFTs ของคุณทำได้ง่าย ๆ เพียงคลิกเดียวสำหรับผู้ติดตามของคุณ

ฟีเจอร์ของฟังก์ชัน “NFT Gallery” ใหม่

#1 ทันทีที่เห็นคอลเล็กชัน NFT ของคุณ

คุณสามารถแสดงคอลเล็กชัน NFT ในโปรไฟล์ของคุณได้ตามที่คุณต้องการโดยเลือกและเปลี่ยนลำดับการแสดงผล ชิ้นงานศิลปะ NFT จะถูกนำเข้าโดยอัตโนมัติจาก OpenSea และแสดงด้วยสัญลักษณ์ NFT

#2 การผสานรวม API กับ OpenSea ซึ่งเป็นตลาดซื้อขาย NFT ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

การแสดง NFT ของคุณนั้นง่ายสุด ๆ และรวดเร็ว การใช้ประโยชน์จากกระเป๋าเงินของคุณเพื่อดำเนินการนำเข้าให้เสร็จสิ้นในคราวเดียวโดยไม่ต้องยุ่งยาก

#3 การรวมพลังร่วมกันกับกิจกรรมและลิงก์อื่น ๆ ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับคอลเล็กชัน NFT ของคุณ

เพิ่มความน่าดึงดูดใจให้กับงานของคุณโดยเชื่อมโยงกิจกรรมทั้งหมดของคุณแบบองค์รวมในโซเชียลมีเดีย พื้นที่เสมือนจริง และการโฆษณาที่ผ่านมา ฯลฯ

“aboutme” คืออะไร

ลิงก์ที่ง่ายและสะดวกในหน้าเพจไบโอที่คุณสามารถสร้างบนโทรศัพท์ของคุณ พร้อมแบ่งปันในไม่กี่นาที

เรียบง่ายและใช้งานง่าย สิ่งที่คุณต้องทำคือเพียงแค่เลือกหรือออกแบบธีมสีที่คุณเลือก แล้ววางลิงก์และรูปภาพที่คุณต้องการแชร์

แสดงตัวตนของคุณและแบ่งปันความประทับใจที่คุณต้องการมอบให้ โอกาสใหม่ ๆ ในการแสดงออกจะเริ่มเปิดเผยได้โดยทันทีด้วยคำว่า “aboutme”

ออกแบบหน้า “aboutme” ของคุณเพื่อสื่อสารอย่างกล้าหาญและอย่างจริงใจ ปล่อยให้ผู้ติดตามของคุณค้นพบข้อเสนอของคุณด้วยลิงก์ที่ไม่ซ้ำใครที่หลากหลาย รูปภาพและไอคอนที่มีอยู่ถัดจากลิงก์ของคุณเป็นตัวเปิดใช้งานที่ยอดเยี่ยมในการกำหนดโทนเสียงที่แท้จริงและการแสดงออกถึงความเป็นตัวคุณบน “aboutme” การแสดงคอลเล็กชัน NFT นั้นทำได้ง่ายและไม่เหมือนใครด้วย 'aboutme' ผ่านการผสานรวม OpenSea API

วิธีปรับแต่งรูปลักษณ์และความรู้สึกของหน้าเพจ “aboutme” ของคุณแบบไม่จำกัด!

คุณต้องการเลือกธีมสีที่สวยงามจากชุดที่มีอยู่ หรือปรับแต่ง “aboutme” ของคุณตามที่คุณรู้สึกหรือไม่? เลือกธีมที่ตรงกับอารมณ์หรือความประทับใจและการออกแบบที่ต้องการ มีตัวเลือกให้แบบไม่จำกัด

ดาวน์โหลด URLs

Browser version: https://aboutme.style/
App Store : https://apps.apple.com/app/id1573524704
Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=jp.fctry.aboutme

ข้อมูลภาพอ้างอิง

คุณสามารถดาวน์โหลดได้จากลิงก์ต่อไปนี้
Google Drive: https://l.aboutme.style/PesiMv   

[ข้อมูลบริษัท Bloom&Co. Company]

ชื่อบริษัท : Bloom&Co.
ที่อยู่ : F-201 Hillside Terrace, 18-8 Sarugaku-cho, Shibuya-ku, Tokyo, Japan

Official site : https://aboutme.style/
Instagram : https://www.instagram.com/aboutme.style_official/
Official aboutme : aboutme.style/aboutme

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220328005951/en/

กรุณาติดต่อสอบถามสำหรับข้อมูลนี้ได้ที่
Bloom&Co. Public Relations: Yuriko Shimizu
อีเมล์ : pr@bloom-and-co.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Texas Chicken™ Malaysia ได้รับรางวัล Silver Putra Brand Award เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

Logo

แบรนด์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วภาคภูมิใจในการยอมรับจากผู้บริโภคด้านบริการคุณภาพสูงที่ไม่สิ้นสุด

แอตแลนตา–(บิสิเนสไวร์)–30 มี.ค. 2565

Texas Chicken™ หนึ่งในเครือข่ายร้านอาหารขายไก่จานด่วนที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความภูมิใจที่จะประกาศว่า Texas Chicken (Malaysia) SDN BHD ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Envictus International Holdings Limited ได้รับรางวัล Silver Award ในมาเลเซีย ในหมวด “ร้านอาหารและฟาสต์ฟู้ด” ในงาน ประกาศรางวัล Putra Brand Awards ซึ่งเป็นองค์กรอุตสาหกรรมที่ยกย่องแบรนด์สำหรับความมุ่งมั่นอันยอดเยี่ยมของลูกค้า เป็นปีที่สองติดต่อกัน หรือที่เรียกว่า “รางวัล People's Choice”  ผู้ชนะจะถูกกำหนดโดยผู้บริโภคชาวมาเลเซียที่โหวตให้แบรนด์ที่พวกเขาชื่นชอบผ่านการสำรวจออนไลน์  การได้รับการยอมรับอันทรงเกียรตินี้เป็นแรงผลักดันที่ดีให้กับแบรนด์ในขณะที่พยายามยกระดับประสบการณ์ร้านอาหารที่ให้บริการรวดเร็วและเฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งสำคัญที่ 100 ของ Texas Chicken™ ก่อนสิ้นปี 2022 และวันครบรอบ 10 ปีในมาเลเซียที่จะมีขึ้นในเดือนมกราคมปีหน้า

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220323005007/en/

โดยก้าวไปข้างหน้าในช่วงการฟื้นตัวทั่วโลก Texas Chicken™ ได้รับคำชมอย่างกระตือรือร้นจากผู้บริโภคสำหรับบริการที่สม่ำเสมอและไม่มีใครเทียบได้  อาหารคุณภาพเสิร์ฟในร้านอาหาร 85 แห่งทั่วมาเลเซีย ความมุ่งมั่นที่ไม่มีวันสิ้นสุดในการจัดหาอาหารรสชาติเยี่ยมและประสบการณ์การรับประทานอาหารอย่างรวดเร็วในบรรยากาศสบาย ๆ และเพื่อได้รับการชื่นชมจากแขกที่มาใช้บริการบ่อยๆ เช่น Tender Strips®  ปิ้งมือและห่อขนมปัง  ไก่ดั้งเดิมและรสเผ็ดที่สดและกรอบ Mexicana Burger and Wrap บิสกิตเนยน้ำผึ้งที่ทำจากมือและเครื่องเคียงที่อร่อยมากมาย

“ถือเป็นเกียรติอย่างเหลือเชื่อสำหรับ Texas Chicken™ ที่จะได้รับรางวัล Silver Putra Brand Award และเราขอยกย่อง Envictus ในความมุ่งมั่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา” Russ Sumrall รองประธานอาวุโสฝ่ายการพัฒนายุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ กล่าว “ในขณะที่เราขยายธุรกิจไปทั่วโลก เราจะยังคงรับฟังลูกค้าของเราและมุ่งมั่นที่จะให้บริการที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ทั้งที่นี่และทั่วโลก”

ในฐานะส่วนหนึ่งของแผนการเติบโตและเพื่อให้เป็นไปตามความคาดหวังของผู้บริโภคต่อไป แบรนด์จึงได้ริเริ่มโครงการริเริ่มหลายอย่าง เช่น การเพิ่มจำนวนร้านอาหารที่ขับรถรับออเดอร์ได้ ขยายบริการจัดส่งอาหาร และเสนอข้อเสนอพิเศษตลอดจนการเพิ่มนวัตกรรมในเมนู เช่น Fire Dragon Burger ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากและรวบรวมกระแสโซเชียลและทำลายประมาณการยอดขายเบื้องต้น

“ในฐานะแบรนด์ที่ค่อนข้างใหม่ในกลุ่มร้านอาหารที่มีการแข่งขันสูงในมาเลเซีย การได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในร้านอาหารชั้นนำในประเทศถือเป็นความสำเร็จที่เหลือเชื่ออย่างแท้จริง สิ่งนี้พิสูจน์ได้ว่ารสชาติเท็กซัสในตำนานนั้นโดนใจผู้บริโภคในท้องถิ่น เนื่องจากพวกเขาได้ให้คะแนนความเชื่อมั่นแก่เรา” Dato' Jaya Tan ประธานกรรมการบริหารของ Envictus กล่าว “เราน้อมรับความท้าทายในการสร้างความตื่นเต้นสำหรับแขกที่กระหายความหลากหลายและประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสที่ไม่เหมือนใคร ในขณะที่พึ่งพามรดกอันล้ำลึกของแบรนด์ Texas Chicken ซึ่งบ่งบอกถึงบริการแท้จริงและรสชาติที่เข้มข้น”

Texas Chicken™ แห่งแรกของมาเลเซีย เปิดตัวในปี 2013 และแบรนด์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่จะนำรสชาติเท็กซัสในตำนานมาสู่สถานที่ใหม่ๆ มากขึ้น ขณะเดียวกันก็มอบโอกาสในการเติบโตในสายงานและอาชีพ Sumrall กล่าวเสริมว่า “ธุรกิจ Texas Chicken ของเราในมาเลเซียเป็นตัวแทนที่ยอดเยี่ยมสำหรับแบรนด์ของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจะทำหน้าที่เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการขยาย Texas Chicken ไปยังจีน ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ และอีกมากมาย!”

เกี่ยวกับ Church's Texas Chicken® / Texas Chicken™

ก่อตั้งขึ้นใน San Antonio, TX ในปี 1952 โดย George W. Church, Church's Chicken พร้อมด้วยแบรนด์ในเครือของ Texas Chicken และ Church’s Texas Chicken นอกสหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งในเครือข่ายร้านอาหารไก่จานด่วนที่ใหญ่ที่สุดในโลก  แบรนด์ที่เชี่ยวชาญด้านไก่ออริจินัลและสไปซี่ที่ปรุงสดใหม่ตลอดทั้งวันและขนมปังสองชั้น Tender Strips® แซนวิช บิสกิตเนยน้ำผึ้งที่ทำขึ้นเองและอบสดใหม่ และสไตล์โฮมเมดคลาสสิก ทั้งหมดในราคาที่คุ้มค่า  Church’s Chicken, Texas Chicken และ Church’s Texas Chicken มีสถานที่ตั้งมากกว่า 1,500 แห่งใน 26 ประเทศและตลาดทั่วโลกและยอดขายทั้งระบบมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์  สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ  Texas Chicken® หรือ Church’s Texas Chicken โปรดไปที่ churchstexaschicken.com และ texaschicken.com

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220323005007/en/

สื่อ:
Marie Espinel
+1 917-846-9456
mespinel@lakpr.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Kioxia เปิดตัว UFS Ver. 3.1 อุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชแบบฝังสำหรับการใช้งานในยานยนต์

Logo

การปรับปรุงประสิทธิภาพยังคงพัฒนาแอพพลิเคชั่นยานยนต์ต่อไป ยกระดับประสบการณ์ให้กับคนขับ

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–30 มี.ค. 2565

Kioxia Corporation ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นหน่วยความจำ ประกาศว่า บริษัทได้เริ่มปล่อยผลิตภัณฑ์[1]  Automotive Universal Flash Storage ตัวใหม่[2] (UFS) Ver. 3.1 อุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชในตัว  โดยรุ่นผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ใช้หน่วยความจำแฟลช BiCS FLASH™ 3D ของบริษัท และมีจำหน่ายในขนาดความจุตั้งแต่ 64 กิกะไบต์ (GB) ถึง 512GB เพื่อรองรับข้อกำหนดต่าง ๆ ของแอพพลิเคชั่นยานยนต์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้ขับขี่

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหาเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220329005491/en/

Kioxia Corporation: UFS Ver. 3.1 Embedded Flash Memory Devices for Automotive Applications (Photo: Business Wire)

บริษัท Kioxia: UFS เวอร์ชัน 3.1 อุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชแบบฝังสำหรับการใช้งานในยานยนต์ (รูปภาพ: Business Wire)

ความต้องการในการจัดเก็บข้อมูลสำหรับการใช้งานในยานยนต์ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากระบบสาระบันเทิง (infotainment) และ ADAS[3] ในรถยนต์มีความซับซ้อนมากขึ้น ระบบ UFS เหมาะสมอย่างยิ่งเพื่อรองรับความต้องการด้านประสิทธิภาพและความจุที่เพิ่มขึ้นของแอปพลิเคชันเหล่านี้ อุปกรณ์ใหม่นี้รองรับช่วงอุณหภูมิที่กว้าง (-40°C ถึง +105°C) ตรงตามข้อกำหนด AEC[4]-Q100 Grade2 และนำเสนอความสามารถด้านความน่าเชื่อถือที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นที่ต้องการสำหรับการใช้งานยานยนต์ที่ซับซ้อนมากขึ้น

ประสิทธิภาพการอ่านและเขียนตามลำดับของอุปกรณ์ Automotive UFS Ver. 3.1 ได้รับการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญประมาณ 2.2 เท่าสำหรับการอ่าน และ 6 เท่าสำหรับการเขียน  เมื่อเทียบกับอุปกรณ์รุ่นก่อน[5] ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ส่งผลให้ระบบเริ่มทำงานได้เร็วขึ้นและอัปเดต OTA (Over-the-Air) ได้เร็วขึ้น

หมายเหตุ

[1] การจัดส่งอุปกรณ์ตัวอย่างขนาด 256GB, 128GB และ 64GB จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม โดยอุปกรณ์ขนาด 512GB จะตามมาในเดือนเมษายน

[2] Universal Flash Storage (UFS) เป็นหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์หน่วยความจำแบบฝังที่สร้างตามข้อกำหนดมาตรฐาน JEDEC UFS เนื่องจากอินเทอร์เฟซแบบอนุกรม UFS จึงสนับสนุนการดูเพล็กซ์เต็มรูปแบบ ซึ่งช่วยให้อ่านและเขียนพร้อมกันระหว่างโปรเซสเซอร์โฮสต์และอุปกรณ์ UFS ได้

[3] ระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง (Advanced Driving Assistant System)

[4] ข้อกำหนดคุณสมบัติส่วนประกอบไฟฟ้าที่กำหนดโดย AEC (สภาอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ หรือ Automotive Electronics Council)

[5] อุปกรณ์ 512GB รุ่นก่อนหน้าของ Kioxia Corporation “THGAFBT2T83BABI”

ความเร็วในการอ่านและเขียนเป็นค่าที่ดีที่สุดที่เกิดในสภาพแวดล้อมการทดสอบเฉพาะที่ Kioxia Corporation และ Kioxia Corporation ไม่รับประกันความเร็วในการอ่านหรือเขียนในอุปกรณ์แต่ละเครื่อง ความเร็วในการอ่านและเขียนอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่ใช้และขนาดไฟล์ที่อ่านหรือเขียน

ในการกล่าวถึงผลิตภัณฑ์ Kioxia ทุกครั้ง: ความจุ(density) ของผลิตภัณฑ์จะระบุตามความจุของชิปหน่วยความจำภายในผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่จำนวนความจุหน่วยความจำที่ผู้ใช้ปลายทางสามารถใช้ได้ ความจุที่ผู้บริโภคใช้งานได้จะลดลงเนื่องจากพื้นที่ข้อมูลโอเวอร์เฮด การจัดรูปแบบ แบดบล็อกและข้อจำกัดอื่น ๆ และอาจมีความแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์โฮสต์และแอปพลิเคชัน สำหรับรายละเอียด โปรดดูข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง คำจำกัดความของ 1KB = 2^10 ไบต์ = 1,024 ไบต์ คำจำกัดความของ 1Gb = 2^30 บิต = 1,073,741,824 บิต คำจำกัดความของ 1GB = 2^30 ไบต์ = 1,073,741,824 ไบต์ 1Tb = 2^40 บิต = 1,099,511,627,776 บิต

ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการทั้งหมดอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ

เกี่ยวกับ Kioxia

Kioxia เป็นผู้นำระดับโลกในด้านโซลูชันหน่วยความจำ ซึ่งทุ่มเทให้กับการพัฒนา การผลิต และการขายหน่วยความจำแฟลชและโซลิดสเตตไดรฟ์ (SSD) ในเดือนเมษายน 2560 Toshiba Memory ซึ่งเป็นบริษัทเดิมได้แยกตัวออกจาก Toshiba Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่คิดค้นหน่วยความจำแฟลช NAND ขึ้นในปี 2530 ทั้งนี้ Kioxia มุ่งมั่นที่จะยกระดับโลกด้วย “หน่วยความจำ” โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบที่สร้างทางเลือกให้กับลูกค้าและหน่วยความจำ – ค่านิยมพื้นฐานสำหรับสังคม BiCS FLASH™ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช 3 มิติที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของ Kioxia กำลังกำหนดอนาคตของการจัดเก็บข้อมูลในแอปพลิเคชันที่มีความจุสูง ซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟนขั้นสูง พีซี SSD ยานยนต์ และศูนย์ข้อมูลดาต้าเซ็นเตอร์ต่าง ๆ

สอบถามข้อมูลสำหรับลูกค้า:

Kioxia Corporation

ฝ่ายขายและการตลาดหน่วยความจำ

https://business.kioxia.com/en-jp/buy/global-sales.html

*ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลติดต่อ ถูกต้องในวันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220329005491/en/

ติดต่อสอบถามสำหรับสื่อ:

Kioxia Corporation

ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์การขาย

Koji Takahata

โทร: +81-3-6478-2404

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ผู้พัฒนาเกม RisingWings เข้าสู่ตลาดเกมบล็อกเชนระดับโลกด้วย COMPETZ

Logo

ตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป ผู้ใช้จะสามารถซื้อโปรไฟล์ที่เป็น NFT ของ COMPETZ ได้บนแพลตฟอร์ม BORA

โซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)—30 มีนาคม 2565

RisingWings ในเครือของ KRAFTON, Inc. (KRX: 259960) ได้ประกาศแผนที่จะเข้าสู่ตลาดเกมบล็อกเชนระดับโลกด้วย COMPETZ โดย COMPETZ เป็นบริการด้านอีสปอร์ตที่ทำงานด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งผู้เล่นสามารถแข่งขันและรับรางวัลได้ตามทักษะและประสบการณ์ของตน

ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการสร้างประสบการณ์เกมมือถือระดับพรีเมียม (เช่น Archery King, Bowling King, Mini Golf King และ Golf King: World Tour), RisingWings เตรียมพัฒนาเกมอีกหลายเกมให้กับบริการดังกล่าวซึ่งจะมีการปล่อยออกมาให้เล่นภายในปีนี้ อีกไม่นาน ผู้เล่นจะสามารถแข่งขันกับผู้เล่นคนอื่น ๆ ได้เมื่อเล่นเกมที่สามารถเรียนรู้ได้ง่ายแต่ไม่ง่ายที่จะเป็นเซียนอย่างเกม Solitaire, Bingo, Pool, Mini Golf และ Hunting ผู้ชนะเกมการแข่งขันเกมเหล่านี้จะได้รับเงินรางวัลในส่วนของตัวเอง (ในสกุลเงินที่ใช้ในเกม) ซึ่งจะสามารถนำมาแลกเป็นเงินสกุลคริปโตได้

COMPETZ จะผสานรวมเข้ากับ BORA ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่เน้นเรื่องการกระจายคอนเทนต์เพื่อความบันเทิงแบบดิจิทัล โดยผู้เล่นสามารถใช้แพลตฟอร์ม BORA เพื่อรับสกุลเงินในเกมที่จำเป็นสำหรับการเล่นเกมใน COMPETZ รวมถึงแลกเปลี่ยนสกุลเงินในเกมนั้นเป็นโทเค็นสกุลเงินคริปโตของ BORA

นอกจากนั้น ในเดือนเมษายน รูปโปรไฟล์ที่เป็น NFT หรือ PFP ของ COMPETZ ทั้งหมด 1,000 ชิ้น จะถูกทำให้สามารถซื้อขายได้บนแพลตฟอร์ม BORA ผู้ใช้ที่ซื้อรูปโปรไฟล์ NFT ของ COMPETZ จะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม โดยรายละเอียดจะมีการประกาศให้ทราบภายหลัง

Moon-chul Kang รองประธานของ RisingWings กล่าวว่า “COMPETZ ถูกพัฒนาขึ้นจากประสบการณ์และเทคโนโลยีของ RisingWings ที่ได้รับจากความสำเร็จในการเปิดตัวเกมประเภทกีฬาหลาย ๆ เกมในตลาดระดับโลก COMPETZ จะกลายเป็นบริการสำหรับทุก ๆ คนด้วยการจัดให้มีสภาพแวดล้อมในการแข่งขันที่มีความยุติธรรม ซึ่งไม่ว่าใครก็สามารถลงแข่งได้ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน COMPETZ ซึ่งเกิดขึ้นจากความร่วมมือ BORA จะยังคงไว้ซึ่งระบบนิเวศทางเศรษฐกิจที่ดี พร้อมแผนที่จะเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ใช้ผ่านการเพิ่มและขยายไปยังแพลตฟอร์มบล็อกเชนอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ COMPETZ โปรดดูที่ https://www.competz.io และติดตามแพลตฟอร์ทบริการได้ทาง Twitter และ Discord

เกี่ยวกับ KRAFTON, Inc.

KRAFTON, Inc. เป็นกลุ่มสตูดิโอพัฒนาเกมอิสระที่มารวมตัวกันเพื่อสร้างประสบการณ์ความบันเทิงที่ล้ำสมัยและมีส่วนร่วมได้ให้กับนักเล่นเกมทั่วโลก บริษัทเหล่านั้นประกอบด้วย PUBG Studios, Bluehole Studio, Striking Distance Studios, RisingWings, Dreamotion, Unknown Worlds และ 5minlab ซึ่งแต่ละแห่งต่างมีความเชี่ยวชาญเฉพาะของตน

KRAFTON เป็นผู้รับผิดชอบสื่อความบันเทิงชั้นยอดอย่าง PUBG: BATTLEGROUNDS, NEW STATE MOBILE, The Callisto Protocol, TERA และ ELYON และในฐานะบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพระดับโลก KRAFTON มุ่งขยายธุรกิจสู่ด้านอื่น ๆ ไม่เฉพาะด้านเกม โดยเตรียมขยายสู่ด้านความบันเทิงแบบมัลติมีเดียและการเรียนรู้เชิงลึก หรือ deep learning สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ KRAFTON โปรดดูที่ https://www.krafton.com

เกี่ยวกับ RisingWings

RisingWings เป็นสตูดิโอพัฒนาเกมจากเกาหลีใต้ที่มุ่งเน้นด้านการพัฒนาเกมมือถือที่เป็นที่ชื่นชอบและสร้างความสนุกให้กับทุก ๆ คน RisingWings ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้ให้บริการเกมมือถือที่ได้รับความนิยมสูงสุด และจะเดินหน้าต่อยอดเกมมือถือที่ประสบความสำเร็จมากมาย ตั้งแต่เกมกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ไปจนถึงเกมทั่วไป เช่น Castle Craft, Castle Burn, Archery King, Bowling King, Mini Golf King และ Golf King: World Tour สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ RisingWings โปรดดูที่ https://en.risingwings.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220329006068/en/

ติดต่อ:

RisingWings
Jihyun Park
jihyun.park@krafton.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Celonis ประกาศการเข้าซื้อกิจการ Process Analytics Factory (PAF) เพื่อเปิดใช้งานการจัดการการดำเนินการในทุกที่

Logo

เตรียมเปิตัว PAFnow ความสามารถใน Celonis Experiences ที่ Celonis World Tour 2022

นิวยอร์กและดาร์มสตัดท์ เยอรมนี–(บิสิเนส ไวร์)–29 มี.ค. 2022

Celonis ผู้นำระดับโลกด้านการจัดการการดำเนินการ ประกาศซื้อกิจการ Process Analytics Factory GmbH (PAF) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการทำเหมืองข้อมูลสำหรับ Microsoft Power BI  การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะทำให้ผู้ใช้ Microsoft Power Platform หลายล้านรายสามารถใช้ประโยชน์จากระบบการจัดการการดำเนินการ (EMS) ชั้นนำของตลาดของ Celonis สำหรับการขุดกระบวนการ ระบบอัตโนมัติ และการทำงานร่วมกัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220329005245/en/

Celonis acquires PAF to support Execution Management Everywhere. (Graphic: Business Wire)

Celonis เข้าซื้อกิจการ PAF เพื่อรองรับการจัดการการดำเนินการได้ทุกที่ (กราฟิก: Business Wire)

การเข้าซื้อกิจการ PAF เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของ Celonis เพื่อให้บริษัททุกแห่งและในทุกอุตสาหกรรมสามารถใช้กระบวนการขุดภายใน Celonis EMS เพื่อเปิดเผยและแก้ไขประสิทธิภาพของกระบวนการ  Celonis มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมผู้ใช้แพลตฟอร์มการทำงานอัตโนมัติ การทำงานร่วมกัน และเวิร์กโฟลว์ระดับแนวหน้าในการดำเนินธุรกิจโดยใช้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกระบวนการที่เป็นเอกลักษณ์ของ Celonis และการดำเนินการที่ตรงเป้าหมายและชาญฉลาด

ผลิตภัณฑ์การขุดกระบวนการของ PAFnow ถูกรวมเข้ากับ Microsoft Power BI และ Microsoft Office 365 อย่างสมบูรณ์สำหรับการวิเคราะห์ การแสดงภาพ และการปรับเปลี่ยนทุกกระบวนการ  97% ของ Fortune 500 และบริษัทกว่า 260,000 แห่งทั่วโลก ใช้ Microsoft Power BI

Celonis EMS ผสานรวมในแพลตฟอร์มคลาวด์แบบบูรณาการ ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ระบบประมวลผลอัจฉริยะ และการดำเนินการตามเป้าหมาย เพื่อส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพธุรกิจระดับบน ล่างสุด และ Greenline อย่างรวดเร็ว ลูกค้าที่ต้องการความกระจ่างอย่างครบถ้วนเกี่ยวกับวิธีการทำงานของกระบวนการทางธุรกิจ – ไม่ว่าจะข้ามห่วงโซ่อุปทาน ศูนย์บริการที่ใช้ร่วมกัน หรือภูมิทัศน์ของระบบ – สามารถได้รับประโยชน์จากความสามารถเฉพาะตัวและขั้นสูงของ Celonis EMS ภายในสภาพแวดล้อม Microsoft ที่คุ้นเคย

Maximilian Gerbert หัวหน้าโครงการที่ Mercedes-Benz Management Consulting กล่าวว่า “เราในฐานะผู้เร่งการพัฒนาทางดิจิทัลของ Mercedes-Benz – เป็นแผนกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลด้วยกลยุทธ์ทางธุรกิจอัจฉริยะที่สร้างขึ้นมาหลายปี แต่เมื่อเรานำการขุดกระบวนการมาสู่โครงสร้างพื้นฐาน BI ของเรา เราสามารถเห็นภาพรวมและระบุประสิทธิภาพของกระบวนการทั่วทั้งบริษัทของเราอย่างที่เราไม่เคยทำได้มาก่อน เมื่อเกิดปัญหาในห่วงโซ่อุปทาน เราใช้ข้อมูลเชิงลึกจากการขุดกระบวนการภายใน BI เพื่อระบุปัญหาคอขวดและดำเนินการแก้ไข ก่อนที่ปัญหาเหล่านี้จะส่งผลต่อกระแสเงินสดและประสบการณ์ของลูกค้า เรารู้สึกตื่นเต้นกับข่าวการเข้าซื้อกิจการ Celonis และความสามารถในการยกระดับความสามารถอันทรงพลังของ Celonis EMS ภายในสภาพแวดล้อมของ Microsoft”

Linus Linder หัวหน้าฝ่ายไอทีของ Muller – Die lila Logistik Service GmbH กล่าวว่า “เป็นเรื่องดีที่ Celonis และ PAF ร่วมมือกัน  ตอนนี้เราสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลแบบเรียลไทม์ ความชาญฉลาดของกระบวนการ และการดำเนินการที่เป็นเป้าหมายใน Celonis EMS ภายในสภาพแวดล้อม Microsoft Power BI ที่เราคุ้นเคย”

การนำ Celonis EMS ไปใช้อย่างรวดเร็วนั้นเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงเพื่อใช้ข้อมูลเชิงลึกของกระบวนการและความชาญฉลาดในการเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินธุรกิจ

จากข้อมูลของ Gartner® มูลค่าตลาดซอฟต์แวร์ไฮเปอร์ออโตเมชั่นจะสูงถึงเกือบ 860 พันล้านดอลลาร์ในปี1 2025 แต่ธุรกิจจำนวนมากไม่ได้เพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กับการลงทุนทางดิจิทัลเนื่องจากขาดข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกระบวนการที่ล้าสมัยซึ่งขัดขวางการดำเนินธุรกิจ ตามรายงานของ Forrester ที่ทำโดย Celonis กระบวนการขุดขึ้นมาถึงจุดเปลี่ยนในปี 2022 เนื่องจากผู้มีอำนาจตัดสินใจต้องการการดำเนินการที่ดีขึ้นโดยการค้นหาและแก้ไขความไร้ประสิทธิภาพของกระบวนการ

“ตั้งแต่เราเริ่มต้นเมื่อ 11 ปีที่แล้ว พันธกิจของ Celonis ยังคงเหมือนเดิมเสมอ เพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราบรรลุศักยภาพสูงสุดในการดำเนินธุรกิจโดยการขจัดความไร้ประสิทธิภาพของกระบวนการ – และนั่นทำให้ Celonis ต้องไปทุกที่” Alex Rinke ซีอีโอร่วมและผู้ร่วมก่อตั้ง Celonis กล่าว  “การเข้าซื้อกิจการของ PAF ช่วยให้ผู้ใช้หลายล้านรายของ Microsoft Power Platform ใช้ข้อมูลเฉพาะของ Celonis และข้อมูลเชิงลึกอันชาญฉลาดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ ระบบอัตโนมัติ และการทำงานร่วมกัน”

“การรวมกันนี้ใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของการเป็นผู้นำตลาดของ Celonis ด้วยรากฐานที่ PAF ได้สร้างขึ้นใน Microsoft Power Platform ซึ่งช่วยให้บริษัทของเราสร้างสะพานเชื่อมระหว่าง Microsoft Power Platform กับ Celonis Execution Management System” Tobias Rother ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง PAF กล่าว “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ช่วยให้ Celonis อยู่ในมือของชุมชนผู้นำธุรกิจขนาดใหญ่และเติบโตอย่างรวดเร็วเช่นนี้”

“ในรายงาน HFS SaaS XXV 2022 เราจัดอันดับ Celonis ให้เป็นบริษัท SaaS ส่วนตัวชั้นนำในอันดับโดยรวม การสร้างมูลค่าธุรกิจ การมีส่วนร่วมของพันธมิตร และการจัดตำแหน่ง OneOffice” Phil Fersht ซีอีโอและหัวหน้านักวิเคราะห์ของ HFS Research กล่าว “การเข้าซื้อกิจการ PAF แสดงให้เห็นถ้งสาเหตุที่ Celonis ได้รับการจัดอันดับร่วมกับ Microsoft, Salesforce, Amazon, Adobe และ Google สำหรับการกำหนดอนาคตของระบบอัตโนมัติ ข้อมูล และการออกแบบกระบวนการ  Celonis กำลังย้ายข้อมูลกระบวนการที่เป็นเอกลักษณ์และข้อมูลเชิงลึกอันชาญฉลาดไปยังแพลตฟอร์มการทำงาน ระบบอัตโนมัติ และการวิเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างมีกลยุทธ์”

“วัตถุประสงค์ของการขุดกระบวนการคือการได้รับความเข้าใจตามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความแปรปรวนของกระบวนการทางธุรกิจและความไร้ประสิทธิภาพในการปรับปรุงกระบวนการอย่างเป็นระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในขณะที่สอดคล้องกับเป้าหมายโดยรวมของธุรกิจ การฝังกระบวนการขุดลงในแพลตฟอร์มการวิเคราะห์ทั่วไปทำให้ทีมสามารถทำงานร่วมกันโดยใช้เครื่องมือที่คุ้นเคยได้ง่ายขึ้น” Maureen Fleming รองประธานโครงการ IDC Intelligent Process Automation Market Research and Advisory Service กล่าว

ความสามารถของซอฟต์แวร์ PAFnow จะเปิดตัวใน Celonis Experiences ที่ Celonis World Tour 2022 โดย Celonis Experiences จะแสดงให้เห็นว่าลูกค้าสามารถผสานรวมได้อย่างราบรื่นได้อย่างไร  Celonis EMS พร้อมการรายงานของ Microsoft Power BI ทำงานร่วมกับ Microsoft Teams และทริกเกอร์โฟลว์ใน Microsoft Power Automate

เกี่ยวกับ Celonis

Celonis ช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินการกับข้อมูลได้ Celonis Execution Management System ขับเคลื่อนโดยแกนประมวลผลชั้นนำของตลาด ของแอปพลิเคชัน สตูดิโอสำหรับนักพัฒนา และฝาครอบแพลตฟอร์ม ความสามารถสำหรับผู้บริหารธุรกิจและผู้ใช้ในการกำจัดความไร้ประสิทธิภาพขององค์กรนับพันล้าน มอบประสบการณ์ลูกค้าที่ดีขึ้น และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน  Celonis มีลูกค้าทั่วโลกหลายพันรายและมีสำนักงานใหญ่ในเมืองมิวนิก เยอรมนี และนิวยอร์กซิตี้ สหรัฐอเมริกา โดยมีสำนักงาน 20 แห่งทั่วโลก

© 2022 Celonis SE. สงวนลิขสิทธิ์. Celonis, Execution Management System, EMS และโลโก้ “droplet” ของ Celonis เป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Celonis SE ในเยอรมนีและเขตอำนาจศาลอื่นๆ ชื่อผลิตภัณฑ์และบริษัทอื่นๆ ทั้งหมดเป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

1 Gartner, Forecast Analysis: Hyperautomation of Enablement Software, Worldwide, Cathy Tornbohm, Fabrizio Biscotti, Rachel Chippendale, March 22, 2021.

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220329005245 /th/

ติดต่อ:

Isabell Horvath, VP, Comms
press@celonis.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


TransPod เปิดตัวขั้นต่อไปของการพัฒนาการขนส่งผ่าน UltraSpeed Tube ในอัลเบอร์ตาแคนาดาด้วยเงิน 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Logo

TransPod ประสบความสำเร็จในก้าวสำคัญของอุตสาหกรรม กลายเป็นบริษัทขนส่งทางท่อแห่งแรกที่ยืนยันด้านการเงินสำหรับโครงการโครงสร้างพื้นฐานมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์

Broughton Capital Group ร่วมกับ CERIECO ได้ออกเงื่อนไขในการจัดหาเงินทุนรวม 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐและการจัดการ Master EPC ซึ่งรวมถึงการมีส่วนร่วมที่สำคัญจากผู้รับเหมาในแคนาดาเพื่อเร่งการพัฒนา TransPod Line ระหว่างเอดมันตันและคาลการี และขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจในส่วนภูมิภาค

เอดมันตัน อัลเบอร์ตา–(BUSINESS WIRE)–29 มีนาคม 2565

TransPod บริษัทเพื่อการสร้างสตาร์ทอัพใน TransPod Line ซึ่งเป็นระบบขนส่งความเร็วสูงพิเศษรูปแบบใหม่ เพื่อเปลี่ยนแปลงและกำหนดนิยามใหม่ของการขนส่งเชิงพาณิชย์ วันนี้ได้ประกาศว่าขั้นตอนต่อไปของโครงการโครงสร้างพื้นฐานมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในอัลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา ทั้งนี้ Broughton Capital Group (“BCG”) โดยความร่วมมือกับ China-East Resources Import & Export Co. (“CERIECO”) ได้ตกลงในหลักการที่จะจัดหาเงินทุนรวมกันจำนวน 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐและการจัดการ Master EPC ตามลำดับเพื่อเร่งการพัฒนา TransPod Line ระหว่างเอดมันตันและคาลการี และขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจในส่วนภูมิภาค การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการที่เผยแพร่ไปแล้วต่อ TransPod Line ยืนยันว่าโครงการขนส่งความเร็วสูงพิเศษนี้จะสร้างงานได้มากถึง 140,000 ตำแหน่ง และเพิ่ม 19.2 พันล้านดอลลาร์แก่ GDP ของส่วนภูมิภาคตลอดการก่อสร้าง และการจัดการ Master EPC ที่คาดว่าจะมีส่วนร่วมอย่างมีนัยสำคัญจากผู้รับเหมาชาวแคนาดา

“ในฐานะบริษัทแรกและแห่งเดียวที่ยืนยันการเงินดังกล่าวสำหรับโครงการโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งผ่านท่อมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ TransPod ภูมิใจในความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการเติบโตในอัลเบอร์ตาผ่านนวัตกรรมและการเป็นพันธมิตรที่แท้จริง” Sebastien Gendron ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ TransPod กล่าว “การก่อสร้างและการดำเนินงานของ TransPod Line จะช่วยให้ชาวอัลเบอร์ตันสามารถเคลื่อนย้ายไปมาได้อย่างง่ายดาย ช่วยสร้างงานใหม่ และอำนวยความสะดวกในการลงทุนในส่วนภูมิภาค ด้วยความเชื่อมั่นของนักลงทุนของเราและรัฐบาลอัลเบอร์ตา เราจะนำเสนอวิสัยทัศน์ร่วมกันของเศรษฐกิจที่ก้าวหน้า ยั่งยืน และเติบโต”

เหตุการณ์สำคัญจากการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ Alberta TransPod ได้แก่:

  • การเติบโตทางเศรษฐกิจที่สำคัญ: Alberta TransPod Line จะเพิ่ม 19.2 พันล้านดอลลาร์ (หรือร้อยละ 6.25) ให้กับ GDP ของภูมิภาคภายในปี 2573
  • การเติบโตของการจ้างงานที่สำคัญ: โครงการโครงสร้างพื้นฐาน Alberta TransPod จะสร้างงาน 15,600 ตำแหน่งต่อปี รวมทั้งหมด 140,000 ตำแหน่งในระยะเวลา 9 ปี
  • ความสามารถในการจ่ายที่ดีขึ้นสำหรับนักเดินทาง: Riding TransPod จะใช้เวลา 45 นาทีจากคาลการีไปยังเอดมันตัน โดยมีค่าตั๋วประมาณ 90 ดอลลาร์แคนาดา เมื่อเทียบกับการขับรถมากกว่าสามชั่วโมงหรือตั๋วเครื่องบินในราคาประมาณ 162 ดอลลาร์
  • การลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์: ในช่วงระยะเวลาหนึ่งปีคาดว่าจำนวนผู้โดยสารระหว่างคาลการีและเอดมันตันจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงจำนวน 636,000 ตันต่อปี หรือเทียบเท่ากับการปลูกป่าที่ใหญ่กว่าคาลการีถึงสี่เท่า

“เป้าหมายเชิงกลยุทธ์อย่างหนึ่งของ BCG คือการลงทุนในโครงการที่เป็นนวัตกรรมและความสอดคล้องของเรากับ CERIECO สำหรับโครงการ TransPod นั้นเหมาะสมกับวัตถุประสงค์อย่างยิ่งและเป็นลางที่ดีสำหรับโครงการในอนาคต เรากำลังรอคอยที่จะก้าวไปข้างหน้า” Broughton Capital Group กล่าว

ขั้นตอนต่อไปของโครงการ Alberta TransPod มีดังต่อไปนี้:

  • ระยะสั้น: การวิจัยและพัฒนา; ใบอนุญาตก่อสร้าง การประเมินสภาพสิ่งแวดล้อม การได้มาซึ่งที่ดิน (ปีปัจจุบัน-2567)
  • ระยะกลาง: การสร้างสนามทดสอบ การทดสอบความเร็วสูง และการรับรอง (ปี 2566-2570)
  • ระยะยาว: การก่อสร้าง inter-city line เต็มรูปแบบระหว่างเอดมันตันและคาลการี (เริ่มในปี 2570)

CERIECO กล่าวว่า “การเป็นพันธมิตรของเรากับ BCG และ TransPod นำเสนอการวางแนวเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นแนวทางที่น่ายกย่องชื่นชมสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เราเชื่อว่าจะเพิ่มมูลค่าอย่างมีนัยสำคัญทั่วทั้งโครงการอันเป็นนวัตกรรมในแคนาดา”

เพื่อสนับสนุนการพัฒนางานระดับภูมิภาคและให้การฝึกอบรมพนักงานสำหรับ TransPod Line ในอัลเบอร์ตา ทั้งนี้ TransPod ได้ร่วมมือกับ Building Trades of Alberta เพื่อยกระดับความเชี่ยวชาญระดับภูมิภาคและเครือข่ายพันธมิตร

“TransPod เป็นผู้นำที่น่าตื่นเต้นและเปลี่ยนเกมสำหรับอนาคตของโครงสร้างพื้นฐานสีเขียวและการขนส่งในแคนาดาและที่อื่น ๆ” Terry Parker กรรมการบริหาร Building Trades of Alberta กล่าว “ไม่เพียงแต่จะช่วยให้แคนาดาจัดการกับเป้าหมายคาร์บอนเท่านั้น แต่โครงการ Alberta TransPod จะสร้างงานที่มีรายได้ดีและสนับสนุนชุมชนสำหรับคนงานการค้าที่มีทักษะของอัลเบอร์ตา รวมถึงงานจากชุมชนพื้นเมือง ผู้หญิง ชาวแคนาดาใหม่ และผู้ฝึกงาน ทั้งนี้ Building Trades of Alberta — และสมาชิกมากกว่า 60,000 คน — พร้อมและตื่นเต้นที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้”

Colliers Capital Markets ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Colliers International ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ TransPod

เกี่ยวกับ TransPod Inc.

เป้าหมายของ TransPod คือการเปลี่ยนแปลงและกำหนดนิยามใหม่ของการขนส่งเชิงพาณิชย์ระหว่างเมืองใหญ่ในตลาดที่พัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ สตาร์ทอัพก่อตั้งขึ้นในปี 2558 เพื่อสร้างระบบขนส่งผ่านท่อชั้นนำของโลก (TransPod Line) เพื่อเชื่อมโยงผู้คน เมือง และธุรกิจเข้าด้วยกันด้วยการขนส่งความเร็วสูงในราคาประหยัดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม TransPod Inc. มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.transpod.com 

เกี่ยวกับ Broughton Capital Group

Broughton Capital Group (BCG) เป็นผู้ให้เงินทุนสนับสนุนโครงการในอังกฤษ โดยผู้เชี่ยวชาญของเราในฐานะผู้จัดเตรียมและผู้ให้บริการด้านตราสารหนี้ในฐานะผู้ให้กู้อาวุโส มุ่งเน้นไปที่ภาคส่วนของโครงการต่าง ๆ ทั่วโลกทั้งในภาครัฐและเอกชน เรามีประสบการณ์สูงกับทีมงานระดับเฟิร์สคลาสทั้งภายในและภายนอก ในฐานะผู้ให้บริการทางการเงินทางเลือก เรามุ่งหวังที่จะให้บริการโซลูชั่นทางการเงินที่ไม่ได้มีอยู่ในตลาดการเงินของโครงการทั่วไป ดังนั้นเราจึงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ มีความยืดหยุ่น และสามารถแข่งขันได้ในเงื่อนไขทางการเงินที่เรานำเสนอในฐานะผู้ให้กู้

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.broughton-capital.com 

เกี่ยวกับ CERIECO

CERIECO ก่อตั้งขึ้นในปี 2536 เป็นรัฐวิสาหกิจของจีนที่มีโครงการต่าง ๆ ในกว่า 30 ประเทศ CERIECO เป็นผู้รับเหมา EPC ทั่วไปที่มีความเชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานและการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ และสินเชื่อเพื่อการส่งออก CERIECO ดำเนินงานในแคนาดาภายใต้ CERIECO Canada Corp.

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.cerieco.com 

ติดต่อ:

Dianna Lai Read
Director, Communications
TransPod Inc.
dianna.lai@transpod.com

Richard Yu
Colliers Capital Markets
richard.yu@colliers.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

โครงการ Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ครั้งที่ 4 เรียกร้องให้ผู้ประกอบการทางสังคมเร่งสร้างการยอมรับความแตกต่างในวงการแฟชัน

Logo

โครงการนี้เชิญชวนผู้ประกอบการทางสังคมจากชุมชนที่ถูกมองข้ามในอดีตมาแบ่งปันความคิดสร้างสรรค์เพื่อรับโอกาสการสนับสนุนด้านเงินทุนและคำปรึกษา

อัมสเตอร์ดัม–(BUSINESS WIRE)–28 มีนาคม 2565

Tommy Hilfiger ซึ่งเป็นเจ้าของโดย PVH Corp. [NYSE: PVH] มีความยินดีที่จะประกาศเปิดรับสมัครผู้เข้าแข่งขันใน โครงการ Tommy HilfigerFashion Frontier Challenge ครั้งที่ 4 โครงการระดับโลกนี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนของ Tommy Hilfiger ในเรื่องการไม่สูญเสียโดยเปล่าประโยชน์และการเปิดรับทุกคน หรือ Waste Nothing and Welcome All โดยขยายและสนับสนุนเสียงจากผู้คนใหม่ ๆ ในวงการผู้ประกอบการทางสังคมที่กำลังสร้างนวัตกรรมเปลี่ยนชีวิตและปรับใช้งานได้เพื่อสร้างอนาคตของแฟชันที่ยอมรับความแตกต่างมากขึ้น

เอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220328005210/en/

Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge 3rd Edition Finale Event (Photo: Business Wire)

งานรอบสุดท้ายของโครงการ Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ครั้งที่ 3 (ภาพ: Business Wire)

เพื่อให้สอดคล้องกับพันธะสัญญาของ Tommy Hilfiger ที่มีต่อความแตกต่าง ความหลากหลาย และการรับรู้ถึงช่องว่างด้านความเสมอภาคและโอกาสที่เท่าเทียมกัน ผู้คนจากชุมชนที่ถูกมองข้ามในอดีต ได้แก่ คนผิวสี ชนพื้นเมือง ผู้คนผิวหลากสี (BIPOC) ผู้ทุพพลภาพ และผู้หญิง จึงได้รับการแนะนำให้สมัครโครงการในปีนี้ โดยสามารถส่งใบสมัครได้ภายในวันที่ 29 เมษายน 2565 ผ่านเว็บไซต์ https://platform.younoodle.com/competition/th_fashion_frontier_challenge_2022

Tommy Hilfiger กล่าวว่า “โครงการ Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge มีเป้าหมายเพื่อรวบรวมผู้ประกอบการจากทุกสาขาอาชีพ ความรู้ด้านการลงทุน และทรัพยากรเพื่อให้พวกเขาได้ปลดล็อกพลังพิเศษด้านนวัตกรรม ในฐานะผู้ประกอบการ ผมต้องการสร้างแบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับโลกที่รวมความแตกต่างของทุกคนไว้เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งเป็นปรัชญาที่จะถ่ายทอดสดผ่านโครงการนี้ ผมเชื่อจริง ๆ ว่าการร่วมมือกันจะทำให้เราสามารถขับเคลื่อนอนาคตของการเปลี่ยนแปลงที่มีคุณค่าและยั่งยืนได้”

รางวัลต่อไปนี้จะมอบให้กับผู้ชนะเพื่อสนับสนุนแนวคิดทางธุรกิจของพวกเขา:

  • เงินรางวัลรวม 200,000 ยูโร โดยแบ่งระหว่างผู้ชนะสองคน
  • เงินรางวัลเพิ่มเติม 15,000 ยูโรสำหรับผู้ที่ได้รับเลือกจากการโหวตของผู้ชม หรือ Audience's Favorite Vote
  • คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกของ Tommy Hilfiger
  • คำปรึกษาและหลักสูตร INSEAD ตลอดทั้งปี

Tommy Hilfiger กำลังเชิญชวนแฟน ๆ ของแบรนด์ให้เข้าร่วมโครงการในช่วงแรกในฐานะผู้ตัดสินผ่านทางดิจิทัล โดยพวกเขาจะช่วยคัดเลือกใบสมัครให้เหลือเพียง 50 อันดับแรก ผู้สมัครที่สนใจสามารถสมัครได้จนถึงวันที่ 20 เมษายน 2565 ผ่านเว็บไซต์ https://platform.younoodle.com/competition/consumer_vote_tommy_hilfiger_fashion_frontier_challenge_2022.

ผู้สมัคร 50 อันดับแรกจะถูกคัดเลือกให้เหลือผู้เข้ารอบ 6 คนผ่านขั้นตอนภายใน ผู้เข้ารอบสุดท้ายแต่ละคนจะได้รับเชิญให้พัฒนาแผนธุรกิจของตนต่อไปด้วยการสนับสนุนจาก Tommy Hilfiger และผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกก่อนการแข่งขันรอบสุดท้าย ด้วยการฝึกอบรมจากโค้ชสนามที่มีประสบการณ์ ผู้เข้ารอบสุดท้ายแต่ละคนจะนำเสนอแนวคิดต่อคณะกรรมการตัดสินและผู้ชมที่เป็นพนักงานของ Tommy Hilfiger ที่งาน Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge รอบสุดท้ายทั่วโลกในช่วงต้นปี 2566

Martijn Hagman ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Tommy Hilfiger Global และ PVH Europe กล่าวว่า “ที่ Tommy Hilfiger เราต้องการทำงานร่วมกับชุมชนต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรม การยอมรับความแตกต่าง และความหลากหลายเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว ในการจัดการแข่งขัน Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ครั้งที่ 4 นี้ เราตั้งตารอที่จะได้เห็นแนวคิดที่จะออกมาสนับสนุนชุมชนและช่วยสร้างอนาคตของแฟชัน”

นับตั้งแต่การริเริ่มโครงการในปี 2018, Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ได้มอบรางวัลมูลค่า 550,000 ยูโร เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการทั่วโลกในการนำความคิดสร้างสรรค์มาสู่ชีวิต เพื่อให้พวกเขาสามารถเปลี่ยนแปลงชุมชนได้อย่างแท้จริง ผู้ชนะรุ่นที่ 3 ได้แก่ Lalaland ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจากประเทศเนเธอร์แลนด์ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสร้างแบบจำลองสังเคราะห์ที่ปรับแต่งและรวบรวมความแตกต่างของชาติพันธุ์ต่าง ๆ และ UZURI K&Y ซึ่งเป็นแบรนด์รองเท้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจากประเทศรวันดาซึ่งใช้ยางรถยนต์รีไซเคิลจากภูมิภาคในทวีปแอฟริกาทางตอนใต้ของทะเลทรายสะฮารา และจ้างงานเยาวชนในท้องถิ่น Clothes to Good ซึ่งเป็นกิจการเพื่อสังคมในแอฟริกาใต้ที่สร้างงานและโอกาสทางธุรกิจขนาดเล็กสำหรับคนพิการผ่านการรีไซเคิลเสื้อผ้าสิ่งทอได้รับการโหวตจากผู้ชม หรือ Audience Favorite ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางความยั่งยืนของ Tommy Hilfiger ซึ่งขับเคลื่อนผ่านกลยุทธ์ Forward Fashion ของ PVH สามารถดูได้ที่ https://global.tommy.com/en_int/about-us-corporate-sustainability.

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge รวมถึงวิธีการสมัครได้ที่นี่: https://responsibility.pvh.com/tommy/fashion-frontier-challenge/

เชิญเพื่อนและผู้ติดตามของแบรนด์เข้าร่วมการสนทนาบนโซเชียลมีเดียโดยใช้ #TommyHilfiger และ @TommyHilfiger

เกี่ยวกับ Tommy Hilfiger 

TOMMY HILFIGER เป็นหนึ่งในแบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก โดยยกระดับจิตใจและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้บริโภคมาตั้งแต่ปี 2528 โดยผสมผสานความคลาสสิกเข้ากับสิ่งใหม่เพื่อสร้างความสดใสให้กับอนาคต แบรนด์ได้ผสมผสานการแต่งตัวสไตล์เพรพพี้กับอเมริกานาเฮอริเทจด้วยมุมมองที่สดใหม่จากวัฒนธรรมป๊อปเพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์และคอลเลกชันที่น่าจดจำ ภายใต้วิสัยทัศน์ของ Mr. Hilfiger นั้น TOMMY HILFIGER ได้รวบรวมการเปลี่ยนแปลงที่สนุกสนานและจำเป็นในการขับเคลื่อนประสบการณ์ผู้บริโภคที่ดื่มด่ำและสร้างสรรค์ หัวใจของแบรนด์คือวิสัยทัศน์ Waste Nothing และ Welcome All ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ต่อความยั่งยืน การยอมรับความแตกต่าง ความหลากหลาย และวงจรที่ขับเคลื่อนทีมเพื่อสร้างอุตสาหกรรมแฟชันที่ดีขึ้น

ยอดขายปลีกผลิตภัณฑ์ TOMMY HILFIGER ทั่วโลกอยู่ที่เกือบ 7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2563 ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ของ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS ประกอบด้วยคอลเลกชั่นของสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี และเด็ก รองเท้าและเครื่องประดับ เครื่องสำอาง และกลุ่มผลิตภัณฑ์ลิขสิทธิ์ต่าง ๆ เช่น แว่นตา นาฬิกา และน้ำหอม Tommy Hilfiger Group ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ PVH Corp. ขับเคลื่อนจากพนักงานกว่า 16,000 คนทั่วโลก โดยมีเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่กว้างขวางครอบคลุม 100 ประเทศและร้านค้าปลีกมากกว่า 2,000 แห่ง รวมถึงร้านเรือธงระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดที่ tommy.com

เกี่ยวกับ PVH Corp

PVH เป็นหนึ่งในบริษัทแฟชันที่ใหญ่ที่สุดและได้รับการยกย่องมากที่สุดในโลก โดยเชื่อมต่อกับผู้บริโภคในกว่า 40 ประเทศ แบรนด์ระดับโลกที่โดดเด่นของเรา ได้แก่ Calvin Klein และ TOMMY HILFIGER ประวัติ 140 ปีของเราสร้างขึ้นจากความแข็งแกร่งของแบรนด์ ทีมงาน และความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนแฟชันไปข้างหน้าให้ดี นั่นคือพลังของเรา นั่นคือพลังของ PVH

ติดตามเราได้ทาง FacebookInstagramTwitter และ Linkedin

ดูเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220328005210/en/

ติดต่อ:

Tommy Hilfiger 
Virginia Ritchie 
รองประธานฝ่ายสื่อสารทั่วโลก
อีเมล: virginia.ritchie@tommy.com 
โทร: +31 6 4318 4870

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย



EIG และ Fluxys จับมือเป็นพันธมิตรในโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของ LNG ที่สนับสนุนการใช้พลังงานที่ไม่ทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ในชิลี

Logo

วอชิงตัน และ บรัสเซลส์–(BUSINESS WIRE)–28 มีนาคม 2565

EIG นักลงทุนสถาบันชั้นนำในภาคพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก และ Fluxys บริษัทโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานชั้นนำ ประกาศในวันนี้ว่าพวกเขาร่วมกันจะเข้าซื้อหุ้นร้อยละ 80 ใน GNL Quintero SA (“Quintero”) ซึ่งเป็นคลังจัดเก็บก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่รอเปลี่ยนสถานะของเหลวให้กลับเป็นก๊าซที่ใหญ่ที่สุดในชิลี จาก Enagas Chile SpA และบริษัทในเครือของ OMERS Infrastructure เงื่อนไขของการทำธุรกรรมไม่ได้รับการเปิดเผย

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220327005104/en/

Quintero เป็นธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่สำคัญซึ่งสนับสนุนกลยุทธ์การใช้พลังงานที่ไม่ทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ของชิลีด้วยพลังงานทางเชื่อมที่ช่วยทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจกับการใช้ประโยชน์จากพลังงานหมุนเวียนและการเลิกใช้ถ่านหินที่สอดคล้องกัน ทั้งนี้ Quintero เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2552 เป็นสถานีรับและขนถ่าย LNG ที่ใหญ่ที่สุดในชิลี รวมถึงมีความสามารถในการเก็บรักษาและเปลี่ยนสถานะของเหลวให้กลับเป็นก๊าซ คลังจัดเก็บได้รับประโยชน์จากสถานที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ในอ่าวควินเทโร โดยจัดหาฐานลูกค้าที่หลากหลายในชิลีตอนกลางทั่วทั้งภาคส่วนที่อยู่อาศัย การพาณิชย์ การอุตสาหกรรม การขนส่ง และการผลิตไฟฟ้า คลังจัดเก็บร้อยละ 75 เป็นกำลังการผลิตก๊าซ LNG ของประเทศ และในปี 2564 การนำเข้าก๊าซธรรมชาติทั้งหมดร้อยละ 67 (ทั้ง LNG และท่อส่งก๊าซ) มาถึงชิลีผ่านสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์นี้ ด้วยกำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติ 15 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ความสามารถในการจัดเก็บ LNG อยู่ที่ 334,000 ลูกบาศก์เมตร และ 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวันของความสามารถในการบรรทุกของรถบรรทุก ทำให้สถานีเป็นซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้สำหรับก๊าซธรรมชาติซึ่งมีส่วนช่วยในการกระจายพลังงานและความปลอดภัยของชิลี

ชิลีมีแหล่งพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ระดับโลก และความสามารถ RES เทียบเท่าร้อยละ 4 ของความต้องการพลังงานทั่วโลกทั้งหมด ประเทศกำลังตั้งเป้าที่จะเป็นหนึ่งในสามผู้ผลิตไฮโดรเจนสีเขียวรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีแผนจะติดตั้งพลังงานหมุนเวียน 200 GW ภายในปี 2583 เพื่อผลิตไฮโดรเจนสีเขียว ชิลีได้ลงนามในข้อตกลงหลายฉบับเพื่อส่งเสริมการส่งออกไฮโดรเจนสีเขียว รวมถึงท่าเรือ Antwerp/Zeebrugge ของเบลเยียม เยอรมนี, ท่าเรือรอตเตอร์ดัม และเกาหลีใต้

การเข้าซื้อกิจการอยู่บนพื้นฐานการมีอยู่ของ EIG ในตลาดชิลี ที่บริษัทเป็นเจ้าของ Cerro Dominador ซึ่งเป็นศูนย์รวมพลังงานแสงอาทิตย์ที่ก้าวล้ำโดยรวมโรงไฟฟ้าโฟโตโวลเทอิก (PV) ขนาด 100 เมกกะวัตต์เข้ากับโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ (CSP) ขนาด 110 เมกะวัตต์ ทั้งนี้โรงงานไฟฟ้า PV เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560 และโรงงานไฟฟ้า CSP ประสบความสำเร็จในการประสานกับโครงข่ายไฟฟ้าของชิลีในเดือนเมษายน 2564 โดย EIG ยังเป็นพันธมิตรใน AME S.p.A ผู้พัฒนาโครงการในชิลีและผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ ซึ่ง AME เป็นเจ้าของร่วมกับ Generadora Metropolitana ซึ่งเป็นบริษัทผลิตไฟฟ้ารายใหญ่อันดับห้าในชิลี รวมทั้ง HIF Global ซึ่งเป็นผู้นำในภาคส่วนไฮโดรเจนและเชื้อเพลิงสังเคราะห์ โดยมีชุดโครงการเชิงพาณิชย์ขนาดต่าง ๆ อยู่ระหว่างการพัฒนา และคาดว่าจะมีการก่อสร้างในช่วงอีกหลายปีข้างหน้า

สำหรับ Fluxys การเป็นพันธมิตรนี้ถือเป็นการลงทุนที่มองไปข้างหน้าเพื่อสร้างฐานที่มั่นคงในประเทศอื่นในละตินอเมริกา ที่มีการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานถือเป็นวาระสำคัญของรัฐบาล ด้วยทรัพยากรพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมที่มีอยู่มากมาย ชิลีตั้งเป้าที่จะผลิตไฮโดรเจนสีเขียวที่มีราคาถูกที่สุดในโลก โดย Belgian Hydrogen Import Coalition กับ Fluxys ในฐานะพันธมิตรได้ยืนยันความสามารถในการแข่งขันและความเป็นไปได้ของห่วงโซ่อุปทานโมเลกุลสีเขียวจากชิลีไปยังยุโรปและเบลเยียม

“เรารู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสในการลงทุนใน Quintero ซึ่งเป็นบริษัทที่สอดคล้องกับการมุ่งเน้นด้านโครงสร้างพื้นฐานเชิงกลยุทธ์คุณภาพสูงของเราอย่างสมบูรณ์ ซึ่งมีความสำคัญต่อภูมิภาคที่ทำหน้าที่และให้ผลตอบแทนที่น่าดึงดูดใจ” R. Blair Thomas ประธานและซีอีโอของ EIG กล่าว “เรายินดีที่ได้เป็นพันธมิตรอีกครั้งกับ Fluxys ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านปฏิบัติการระดับโลก เพื่อช่วยให้ Quintero รองรับความต้องการด้านพลังงานของชิลีและเป้าหมายการเปลี่ยนผ่านด้วยพลังงานที่เชื่อถือได้ สถานะที่แข็งแกร่งของ Quintero ที่ปรากฎอยู่ในโครงสร้างพื้นฐานด้านก๊าซธรรมชาติทำหน้าที่เป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจในการขยายธุรกิจในภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและใกล้เคียง ซึ่งรวมถึงการจัดเก็บ การโหลดของรถบรรทุก และการเปลี่ยนสถานะของเหลวให้กลับเป็นก๊าซ ตลอดจนการพัฒนากำลังการผลิตสำหรับไฮโดรเจนสีเขียว โดยที่ Quintero มีศักยภาพที่สำคัญในการเป็นผู้นำในประเทศในอุตสาหกรรมตั้งไข่”

Pascal De Buck กรรมการผู้จัดการและซีอีโอของ Fluxys กล่าวว่า “ด้วยคลังจัดเก็บก๊าซ LNG 3 แห่งในยุโรป ความทะเยอทะยานของเราในการลงทุนนอกยุโรปและเพื่อมาเป็นผู้ขนส่งพลังงานรายใหม่ ซึ่ง Quintero เหมาะสมอย่างยิ่งกับกลยุทธ์ของเราในการเติบโตในแง่ของอนาคตแบบคาร์บอนต่ำ” “เราต้องการปรับใช้และขยายความเชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมของเราไปทั่วโลก และรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ EIG ในฐานะนักลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานชั้นนำระดับโลกซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างจริงจังในโครงการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในชิลี ความร่วมมือของเราใน Quintero ทำให้ Fluxys เข้าใกล้การพัฒนาไฮโดรเจนในชิลีมากขึ้น และสนับสนุนการนำเข้าไฮโดรเจนในเบลเยียม เรากำลังรอคอยที่จะร่วมมือและพัฒนาโอกาสใหม่กับผู้บริหารและพนักงานของ Quintero”

ธุรกรรมดังกล่าวคาดว่าจะปิดได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการปิดตามธรรมเนียม ซึ่งรวมถึงการควบคุมการควบรวมกิจการที่จำเป็นและการอนุมัติด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

Citigroup Global Markets Inc. ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของ EIG และ Fluxys ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม White & Case LLP ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมายของ EIG และ Linklaters LLP ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมายของ Fluxys

เกี่ยวกับ EIG

EIG เป็นผู้ลงทุนสถาบันชั้นนำในภาคพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกด้วยจำนวนเงิน 23 พันล้านดอลลาร์ภายใต้การบริหาร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 โดย EIG ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนภาคเอกชนในโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและพลังงานทั่วโลก ในช่วง 40 ปีแห่งประวัติศาสตร์ EIG ได้ให้คำมั่นสัญญามูลค่ากว่า 39.7 พันล้านดอลลาร์แก่ภาคพลังงานผ่านโครงการหรือบริษัทมากกว่า 379 โครงการใน 38 ประเทศในหกทวีป ลูกค้าของ EIG ประกอบด้วยแผนบำเหน็จบำนาญชั้นนำมากมาย บริษัทประกันภัย เงินบริจาค มูลนิธิ และกองทุนความมั่งคั่งอธิปไตยในสหรัฐอเมริกา เอเชีย และยุโรป ซึ่ง EIG มีสำนักงานใหญ่ในกรุงวอชิงตัน ดีซี และมีสำนักงานในฮูสตัน ลอนดอน ซิดนีย์ ริโอเดจาเนโร ฮ่องกง และกรุงโซล สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ EIG ได้ที่ www.eigpartners.com

เกี่ยวกับ Fluxys

Fluxys มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเบลเยียม เป็นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่เป็นอิสระเต็มรูปแบบ โดยมีพนักงาน 1,300 คนที่ทำงานด้านการส่งและจัดเก็บก๊าซ และคลังจัดเก็บก๊าซธรรมชาติเหลว Fluxys ดำเนินการทางท่อส่งน้ำมันและคลังก๊าซธรรมชาติเหลวเป็นระยะทาง 12,000 กิโลเมตรผ่านบริษัทในเครือทั่วโลก ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 29 พันล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี บริษัทในเครือของ Fluxys ได้แก่ Fluxys Belgium ที่จดทะเบียนใน Euronext ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้ดำเนินการโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการส่งและจัดเก็บก๊าซ และคลังจัดเก็บก๊าซธรรมชาติเหลวในเบลเยียม

ในฐานะบริษัทที่มีจุดมุ่งหมาย Fluxys ร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีส่วนทำให้สังคมดีขึ้นด้วยการกำหนดอนาคตของพลังงานที่สดใส Fluxys สร้างขึ้นบนทรัพย์สินอันเป็นเอกลักษณ์ของโครงสร้างพื้นฐานด้านก๊าซและความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคและเชิงพาณิชย์ของบริษัท Fluxys มุ่งมั่นที่จะขนส่งไฮโดรเจน ไบโอมีเทน หรือตัวนำพาพลังงานคาร์บอนเป็นกลางอื่น ๆ รวมทั้ง CO2 เพื่อรองรับการดักจับ การใช้งาน และการเก็บรักษา www.fluxys.com

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220327005104/en/

ติดต่อสื่อ

EIG
Sard Verbinnen & Co.
Kelly Kimberly / Brandon Messina
+1 212-687-8080
EIG-SVC@sardverb.com

ติดต่อสื่อ Fluxys
Laurent Remy
+32 2 282 74 50
laurent.remy@fluxys.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย