Category Archives: Featured

Toyoda Gosei ได้พัฒนาเทคโนโลยีการพ่นสี “METEOCOAT” ที่ช่วยให้ยานยนต์ออฟโรดมีรูปลักษณ์อันทรงพลัง

Logo

คิโยสุ ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–26 สิงหาคม 2025

Toyoda Gosei Co., Ltd. (TOKYO:7282) ได้พัฒนา “METEOCOAT” ที่ช่วยเพิ่มพื้นผิวที่ไม่เรียบให้กับพื้นผิวสีของชิ้นส่วนภายนอกที่เป็นพลาสติกเพื่อใช้เป็นลวดลายตกแต่งเพื่อตอบสนองต่อรสนิยมที่หลากหลายของผู้ใช้รถยนต์

Racing vehicle to which METEOCOAT has been applied (Used on bumpers and fenders)

รถแข่งที่ใช้ METEOCOAT (ใช้กับกันชนและบังโคลน)

METEOCOAT โดดเด่นด้วยพื้นผิวขรุขระที่มีลวดลายจางๆ เหมาะสำหรับรถออฟโรด โดยเฉพาะรถที่ขับขี่บนถนนลูกรังบ่อยครั้ง พื้นผิวที่ยื่นออกมาเป็นเอกลักษณ์ของ METEOCOAT โดยเกิดจากการปรับความหนืดของสี นอกจากนี้ยังมีขนาดและสีของส่วนที่ยื่นออกมาให้เลือกในหลากหลายแบบ

บริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายยอดขาย METEOCOAT ให้เป็นสินค้าสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเปลี่ยนรูปลักษณ์ของรถยนต์ได้ในทันทีที่ซื้อ โดยเทคโนโลยี METEOCOAT จะถูกนำไปใช้กับรถยนต์จาก Toyota Customizing & Development Asia ที่เข้าร่วมการแข่งขัน Asia Cross Country Rally (AXCR) 2025 ที่ประเทศไทย ในเดือนสิงหาคม

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250825076790/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

Toyoda Gosei Co., Ltd.
ติดต่อ: ฝ่ายประชาสัมพันธ์
inquiry@mlist.toyoda-gosei.co.jp

ที่มา: Toyoda Gosei Co., Ltd.


มหาวิทยาลัยฮามัด บิน คาลิฟา เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเรื่องจริยธรรม AI

Logo

ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี AI ที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ นักจริยธรรม รวมถึงผู้กำหนดนโยบายจะเข้าร่วมงานนี้สองวันในโดฮา

โดฮา กาตาร์–(BUSINESS WIRE)–25 สิงหาคม 2025

มหาวิทยาลัยฮามัด บิน คาลิฟา (HBKU) จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งสำคัญ ณ กรุงโดฮาในหัวข้อจริยธรรม AI: การบรรจบกันของเทคโนโลยีและประเพณีทางศีลธรรมที่หลากหลาย ระหว่างวันที่ 28–29 กันยายน 2025

Hamad Bin Khalifa University to Host Conference on AI Ethics (Infographic: AETOSWire)

มหาวิทยาลัยฮามัด บิน คาลิฟา เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเรื่องจริยธรรม AI (อินโฟกราฟิก: AETOSWire)

งานสำคัญครั้งนี้จะเป็นจุดบรรจบที่สำคัญสำหรับนักวิชาการชั้นนำ ผู้กำหนดนโยบาย ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี นักจริยธรรม และบุคคลอื่นๆ เพื่อสำรวจว่า AI กำลังเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างไร และระบบคุณค่าที่หลากหลายทั่วโลกควรกำหนดกรอบการพัฒนาและการนำ AI ไปใช้อย่างมีความรับผิดชอบอย่างไร เทคโนโลยีที่ก่อกวนสังคมกำลังส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อยๆ และด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำกว่ากรอบการกำกับดูแลทั่วโลก จึงจำเป็นต้องมีการดำเนินการระดับนานาชาติที่เป็นรูปธรรมเพื่อกำหนดกฎเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติอย่างมีจริยธรรมเพื่อปกป้องบรรทัดฐานทางวัฒนธรรมและมนุษย์

การประชุมจะเน้นย้ำถึงความจำเป็นของความร่วมมือข้ามภาคส่วนเพื่อให้แน่ใจว่าการพัฒนาและมาตรฐานด้าน AI ถูกต้องตามจริยธรรมในหกหัวข้อหลัก ได้แก่ การดูแลสุขภาพ การออกแบบเมือง ความปลอดภัย การศึกษา การเงิน รวมถึงอนาคตของสถานที่ทำงาน

โดยการประชุมนี้มุ่งพัฒนาไปที่มาตรฐานสากลที่เชื่อมโยงกัน เพื่อลดความเสี่ยงที่สถาบันอาจเผชิญความรับผิด และปกป้องบุคคลรวมถึงชุมชนที่อาจได้รับผลกระทบเชิงลบจากการพัฒนาที่รวดเร็วเหล่านี้ ความจำเป็นในการพิจารณาความรับผิดชอบร่วมกันและความร่วมมือแบบข้ามสาขาวิชานั้นชัดเจนยิ่งกว่าที่เคย การประชุมครั้งนี้จะนำเสนอกรอบการทำงานเพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างมีสติและร่วมมือกัน โดยยึดถือค่านิยมและความต้องการที่หลากหลายของสังคมโลกของเราเป็นแนวทาง

สถานที่: ศูนย์การประชุมแห่งชาติกาตาร์ (QNCC), โดฮา, กาตาร์

ภารกิจ: เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบทางจริยธรรมของ AI อย่างมีวิจารณญาณ และส่งเสริมการสนทนาข้ามวัฒนธรรมและสาขาวิชาเพื่อให้แน่ใจว่าความก้าวหน้าของ AI นั้นสอดคล้องกับกรอบคุณธรรมระดับโลก

วิทยากรหลัก: Ibtihal Aboussad อดีตพนักงานของ Microsoft; Amr Awadallah จาก Vectara; Daniel González-Bootello จาก Smart City Cluster; Mark Coeckelbergh จากมหาวิทยาลัยเวียนนา; Yali Cong จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง; Munther Dahleh จาก MIT; Corey Gray จาก Smart Cities Council; David Gunkel จากมหาวิทยาลัยนอร์เทิร์นอิลลินอยส์; Jeroen van den Hoven จากสถาบัน Delft Design for Values; Nancy Jecker จากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน; David Leslie จากสถาบัน Alan Turing; Yuan Luo จากมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น; Beth McGinty จากวิทยาลัยการแพทย์ Weill Cornell

การเข้าถึงของสื่อ: นักข่าวที่ได้รับการรับรองจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมฟังเซสชันสำคัญ รับฟังการอภิปรายจากผู้เชี่ยวชาญ และสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวกับวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ โดยสามารถดูรายชื่อวิทยากรและวาระการประชุมโดยละเอียดได้ที่นี่

ข้อสงวนสิทธิ์ : การเข้าร่วมงานประชุมของแขกผู้มีเกียรติอาจมีการเปลี่ยนแปลงและอาจมีการอัปเดต

*แหล่งที่มา: AETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250825570906/en

Contacts

สำหรับการสอบถามสำหรับสื่อหรือเพื่อขอการรับรอง โปรดติดต่อ:
Ms. Taiba Saoud Al-Rodaini
media@hbku.edu.qa
โทร.: +974 44540934

ที่มา: Hamad Bin Khalifa University

Thoma Bravo เข้าซื้อกิจการ Verint เพื่อผนึกกำลังกับ Calabrio ในการสร้างพลังแห่งประสบการณ์ลูกค้าที่ขับเคลื่อนด้วย AI

Logo

มินนิอาโปลิสและซานฟรานซิสโก–(BUSINESS WIRE)–25 สิงหาคม 2025

Thoma Bravo เป็นบริษัทลงทุนด้านซอฟต์แวร์ชั้นนำ ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้บรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายในการเข้าซื้อกิจการ Verint Systems, Inc. (Nasdaq: VRNT) (“Verint”) ด้วยเงินสดทั้งหมด คิดเป็นมูลค่ากิจการ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ธุรกรรมนี้อยู่ภายใต้เงื่อนไขการปิดบัญชีตามปกติ รวมถึงการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล และคาดว่าจะเสร็จสิ้นก่อนสิ้นปีงบประมาณปัจจุบันของ Verint ในช่วงต้นปี 2026 โดยท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกรรมนี้ได้ที่หน้านักลงทุนสัมพันธ์ของ Verint และในเอกสารที่ยื่นต่อหน่วยงานกำกับดูแล

หลังจากธุรกรรมเสร็จสิ้น Calabrio และ Verint จะถูกรวมเข้าเป็นบริษัทเดียว และจะเป็นผู้ให้บริการโซลูชันระบบอัตโนมัติสำหรับประสบการณ์ของลูกค้า (CX) ชั้นนำในตลาดที่มีมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่พวกเขาให้บริการ ซึ่งเมื่อรวมกันแล้ว ทั้งสองบริษัทจะนำเสนอพอร์ตโฟลิโอที่ครอบคลุมเพื่อยกระดับความสำคัญขององค์กรที่ให้บริการด้าน CX ในทุกขนาดและทุกความซับซ้อน การควบรวมกิจการในครั้งนี้จะสร้างโอกาสที่มากขึ้นสำหรับบริษัทต่างๆ ในการบรรลุผลลัพธ์ทางธุรกิจอย่างรวดเร็วในการติดต่อกับลูกค้า โดย Calabrio มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการรักษาและลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่รองรับระบบที่มีการติดตั้งแล้วรวมถึงเวิร์กโฟลว์ของลูกค้า

“การร่วมมือกันระหว่าง Calabrio และ Verint จะนำเสนอชุดผลิตภัณฑ์อันทรงพลังเพื่อเร่งวิสัยทัศน์ร่วมกัน นั่นคือการส่งมอบแพลตฟอร์ม CX แบบเปิดที่ขับเคลื่อนด้วย AI ให้กับลูกค้าที่มุ่งเน้นการสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในการดำเนินงาน ในฐานะบริษัทที่ควบรวมกันแล้ว เรามีความพร้อมที่จะนำพาอุตสาหกรรมไปข้างหน้า” กล่าวโดย Dave Rhodes ซีอีโอของ Calabrio

Mike Hoffmann หุ้นส่วนของ Thoma Bravo กล่าวเสริมว่า “เราดำเนินธุรกิจด้าน CX มาอย่างยาวนานหลายปี และรู้สึกตื่นเต้นที่ได้นำทั้งสองบริษัทมาควบรวมกันเพื่อนำนวัตกรรมและการเติบโตมาสู่ตลาดมากขึ้น โดย Calabrio และ Verint ต่างก็มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทรงพลังและกลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดที่ครอบคลุมต่อความต้องการของตลาดในวงกว้าง เมื่อรวมกันแล้ว บริษัทที่ควบรวมกันนี้จะมีแพลตฟอร์ม CX ที่ครอบคลุมที่สุดในอุตสาหกรรม ช่วยให้แบรนด์ทุกขนาดสามารถขับเคลื่อนผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงไปและยังขับเคลื่อนด้วย AI อีกด้วย”

เกี่ยวกับ Thoma Bravo

Thoma Bravo เป็นหนึ่งในนักลงทุนที่มุ่งเน้นธุรกิจซอฟต์แวร์รายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารประมาณ 184,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2025 โดยบริษัทลงทุนในบริษัทที่มุ่งเน้นการเติบโตและมีนวัตกรรม ที่มีการดำเนินธุรกิจในภาคซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีผ่านกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นเอกชน การลงทุนในหุ้นเติบโต และกลยุทธ์สินเชื่อ ด้วยความรู้ความเชี่ยวชาญเชิงลึกในภาคส่วน รวมถึงความเชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์และการดำเนินงานของ Thoma Bravo โดยบริษัทได้ร่วมมือกับบริษัทในพอร์ตโฟลิโอเพื่อนำแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการดำเนินงานมาใช้และผลักดันการริเริ่มในการเติบโต ในช่วงกว่า 20 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าซื้อกิจการหรือลงทุนในบริษัทประมาณ 535 แห่ง คิดเป็นมูลค่าองค์กรประมาณ 275,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (รวมถึงการลงทุนที่ควบคุมและการลงทุนที่ไม่ได้อยู่ในการควบคุม) บริษัทมีสำนักงานอยู่ในชิคาโก ดัลลัส ลอนดอน ไมอามี นิวยอร์ก และซานฟรานซิสโก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Thoma Bravo ที่ thomabravo.com

เกี่ยวกับ Calabrio

Calabrio เป็นพันธมิตรที่แบรนด์ชั้นนำไว้วางใจ โดยชุดโปรแกรม Calabrio ONE Workforce Performance Suite นั้นเป็นรากฐานดิจิทัลของศูนย์ติดต่อที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ช่วยเสริมสร้างและทำความเข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล มอบผลลัพธ์ทางธุรกิจด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าทุกครั้ง เราเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้สูงสุดเหนือความคาดหมายของลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานด้วยข้อมูลที่เชื่อมต่อกัน การวิเคราะห์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI การจัดการพนักงานแบบอัตโนมัติ และการฝึกสอนเฉพาะบุคคล โดยมีเพียง Calabrio ONE เท่านั้นที่ผสานรวมโซลูชันการเพิ่มประสิทธิภาพพนักงาน (WFO) การมีส่วนร่วมของเจ้าหน้าที่ และ Business Intelligence เข้าไว้ด้วยกันในชุดโปรแกรมที่ผสานรวมอย่างสมบูรณ์แบบบนคลาวด์เนทีฟ ซึ่งปรับให้เข้ากับธุรกิจของคุณ โดย Calabrio, Calabrio ONE และโลโก้ Calabrio เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนหรือเครื่องหมายการค้าของ Calabrio, Inc. เครื่องหมายการค้าอื่นๆ ทั้งหมดที่กล่าวถึงในเอกสารนี้เป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ Calabrio ดำเนินงานในประเทศแคนาดาภายใต้บริษัท Calabrio Canada, Ltd. ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐบริติชโคลัมเบีย

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ ดังนี้

สำหรับ Thoma Bravo

Megan Frank
+1.212.731.4778
mfrank@thomabravo.com

หรือ

FGS Global
Liz Micci/Abby Farr
ThomaBravo-US@fgsglobal.com

สำหรับ Calabrio

Dillon Nugent
dillon.nugent@calabrio.com

 หรือ

TouchDown PR
Lauren Curley
+1. 617.529.6463
lauren.curley@touchdownpr.com

ที่มา: Calabrio, Inc.

Toshiba เปิดตัวโฟโตรีเลย์สำหรับยานยนต์ในแพ็กเกจขนาดเล็กที่ทนแรงดันไฟฟ้าเอาต์พุตสูงถึง 1500 โวลต์ สำหรับระบบแบตเตอรี่รถยนต์

Logo

คาวาซากิ ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–21 สิงหาคม 2025

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) ได้เปิดตัวโฟโตรีเลย์สำหรับยานยนต์[1]TLX9161T” ในแพ็กเกจ SO12L-T ขนาดเล็กที่สามารถทนแรงดันไฟฟ้าเอาต์พุตสูงถึง 1500 โวลต์ (ขั้นต่ำ) ซึ่งเป็นระดับที่จำเป็นสำหรับการรองรับแบตเตอรี่รถยนต์แรงดันสูง โดยจะเริ่มจัดส่งในปริมาณมากได้แล้วในวันนี้

Toshiba:

Toshiba: “TLX9161T” โฟโตรีเลย์รุ่นใหม่ที่มีแรงดันไฟฟ้าทนต่อเอาต์พุต 1500 โวลต์ซึ่งบรรจุอยู่ในแพ็กเกจขนาดเล็ก

ความท้าทายที่สำคัญในการทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นที่นิยม คือ การลดเวลาในการชาร์จ และการเพิ่มระยะการเดินทาง การแก้ไขปัญหาเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยการทำงานของระบบแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งระบบการจัดการแบตเตอรี่ (BMS) จะทำหน้าที่ตรวจสอบสถานะการชาร์จแบตเตอรี่เพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง และยังตรวจสอบการแยกส่วนระหว่างแบตเตอรี่และตัวถังรถเพื่อให้มั่นใจว่าแบตเตอรี่แรงดันสูงสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย โดยโฟโตรีเลย์แบบแยกไฟฟ้าจะถูกนำมาใช้ใน BMS ที่รองรับแรงดันไฟฟ้าสูง

 ผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Toshiba คือ โฟโตรีเลย์แรงดันสูงที่ทนแรงดันไฟฟ้าเอาต์พุตสูงถึง 1500 โวลต์ (ขั้นต่ำ) ที่เป็นโฟโตรีเลย์ TLX9160T ที่ย่อส่วนลงของ Toshiba การย่อขนาดชิป MOSFET ในตัวของ TLX9160T ทำให้สามารถรวมเข้ากับแพ็กเกจ SO12L-T ที่มีพื้นที่ติดตั้งประมาณ 25%[2] ซึ่งน้อยกว่าแพ็กเกจ SO16L-T ของ TLX9160T โดยการลดขนาดนี้ยังช่วยลดขนาดและลดต้นทุนของ BMS อีกด้วย ระยะพิทช์และรูปแบบพินเหมือนกับของ SO16L-T ทำให้สามารถใช้รูปแบบแผงวงจรแบบเดียวกันได้

 โฟโตรีเลย์รุ่นใหม่นี้ใช้เรซินที่มีค่าดัชนีการติดตามเชิงเปรียบเทียบ (CTI[3] ) เกิน 600 ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มวัสดุ I[4] ของมาตรฐานสากล IEC 60664-1[5] การกำหนดค่าพินทำให้ระยะห่างตามผิวฉนวนมากกว่า 5 มม.[6] ที่ด้านตัวตรวจจับ เป็นไปตามมาตรฐาน IEC 60664-1 และรองรับแรงดันไฟฟ้าใช้งานที่ 1000 โวลต์

Toshiba จะยังคงขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์โฟโตรีเลย์ยานยนต์และนำเสนอโซลูชันที่ช่วยตอบโจทย์ความท้าทายในการเผยแพร่รถยนต์ไฟฟ้า โดยมุ่งหวังที่จะมีส่วนในการสนับสนุนให้เกิดสังคมปลอดคาร์บอน

 หมายเหตุ:
[1] โฟโตรีเลย์: ด้านหลัก (ด้านควบคุม) และด้านรอง (ด้านสวิตช์) ถูกแยกออกทางไฟฟ้า สวิตช์จะเชื่อมต่อโดยตรงกับสายไฟ AC และสวิตช์ระหว่างอุปกรณ์ที่มีค่าศักย์ไฟฟ้าดินต่างกันสามารถควบคุมได้ผ่านแผงกั้นฉนวน
[2] การเปรียบเทียบขนาดแพ็กเกจของ SO16L-T (10.3×10.0×2.45 มม.) กับขนาดแพ็กเกจของ SO12L-T (7.76×10.0×2.45 มม.)
[3] ดัชนีการติดตามเชิงเปรียบเทียบ (CTI): ดัชนีที่ระบุความสามารถในการทนต่อแรงดันไฟฟ้าของวัสดุฉนวนก่อนที่เส้นทางไฟฟ้า (เส้นทางนำไฟฟ้า) จะก่อตัวขึ้นบนพื้นผิว
[4] กลุ่มวัสดุ I: การจำแนกประเภทของวัสดุขึ้นรูปตามมาตรฐาน IEC 60664-1 ซึ่งหมายถึงวัสดุที่มีดัชนีการติดตามเชิงเปรียบเทียบ (CTI)[3] ) ที่ 600 หรือมากกว่า
[5] IEC 60664-1: มาตรฐานที่ระบุหลักการ ข้อกำหนด และวิธีการทดสอบสำหรับการประสานงานฉนวนสำหรับระบบไฟฟ้ากระแสสลับสูงสุด 1000 โวลต์ หรือกระแสตรง 1500 โวลต์
[6] มากกว่า 5 มม.: ระยะห่างตามผิวฉนวนที่กำหนดสำหรับแรงดันไฟฟ้าใช้งาน 1000 โวลต์, วัสดุกลุ่ม I, ระดับมลพิษ 2 (ระดับมลพิษของสภาพแวดล้อมการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้า สารมลพิษไม่นำไฟฟ้าเลย แต่อาจกลายเป็นสารนำไฟฟ้าได้จากการควบแน่น)

การใช้งาน

  • อุปกรณ์ยานยนต์: BMS (การตรวจสอบแรงดันแบตเตอรี่, การตรวจจับการติดขัดของรีเลย์เชิงกล, การตรวจจับไฟรั่วลงกราวด์ เป็นต้น)
  • การเปลี่ยนรีเลย์เชิงกล

คุณสมบัติ

  • แพ็กเกจขนาดเล็ก: SO12L-T (7.76×10.0×2.45 (มม.) (ทั่วไป))
  •  แรงดันไฟฟ้าขั้วเอาต์พุตสถานะปิด: VOFF =1500 โวลต์ (ขั้นต่ำ)
  • อุปกรณ์แบบเปิดปกติ (1-Form-A)
  •  พิกัดกระแสอะวาลานซ์: IAV =0.6mA
  • แรงดันไฟฟ้าการเป็นฉนวนสูง: 5000Vrms (ขั้นต่ำ)
  • ผ่านการรับรองมาตรฐาน AEC-Q101
  • เป็นไปตามมาตรฐานสากล IEC 60664-1

ข้อมูลจำเพาะหลัก

 (เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น Ta =25℃)

หมายเลขชิ้นส่วน

 TLX9161T

หน้าสัมผัส

1-Form-A

อัตราสูงสุดสัมบูรณ์

 กระแสไฟขาเข้า IF (mA)

30

 กระแสไฟสถานะเปิด ION (mA)

30

 อุณหภูมิในการทำงาน Topr (°C)

-40 ถึง 125

กระแสอะวาลานซ์ IAV (mA)

0.6

ลักษณะ
ทางไฟฟ้า

 กระแสไฟสถานะปิด IOFF (nA)

 VOFF =1000V

สูงสุด

100

 แรงดันไฟฟ้าขั้วเอาต์พุตสถานะปิด VOFF (V)

 IOFF =10μA

ต่ำสุด

1500

 สภาพทำงาน
ที่แนะนำ

 แรงดันไฟฟ้าจ่าย VDD (V)

สูงสุด

1000

 ลักษณะ
 ไฟฟ้าคู่

 กระแสไฟทริกเกอร์ LED IFT (mA)

 ION =30mA, t=10ms

สูงสุด

3

 กระแสไฟ LED ย้อนกลับFC (mA)

 IOFF =100μA,

 Ta =-40 ถึง 125°C, t=40ms

ต่ำสุด

0.05

 ความต้านทานสถานะเปิด RON (Ω)

 ION =30mA, IF =10mA, t<1s

สูงสุด

500

 ลักษณะ
การสวิชชิง

 เวลาเปิด tON (ms)

 IF =10mA, RL =20kΩ, VDD =40V

สูงสุด

1

 เวลาปิด tOFF (ms)

สูงสุด

1

 ลักษณะ
 ไอโซเลชัน

 แรงดันไฟฟ้าฉนวน BVSS (Vrms)

AC, 60s

ต่ำสุด

5000

ระยะห่าง (มม.)

ต่ำสุด

8

ระยะห่างตามผิวฉนวน (มม.)

ต่ำสุด

8

แพ็กเกจ

ชื่อ

SO12L-T

ขนาด (มม.)

ทั่วไป

7.76×10.0×2.45

การตรวจสอบตัวอย่างและความพร้อมใช้งาน

 ซื้อออนไลน์

ติดตามลิงก์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่
TLX9161T

ติดตามลิงก์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไอโซเลเตอร์/โซลิดสเตทรีเลย์ของ Toshiba
ไอโซเลเตอร์/โซลิดสเตทรีเลย์

ติดตามลิงก์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปกรณ์ยานยนต์ของ Toshiba
อุปกรณ์ยานยนต์

หากต้องการตรวจสอบการวางจำหน่ายของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ผู้จัดจำหน่ายออนไลน์ โปรดไปที่:
TLX9161T
ซื้อออนไลน์

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้นๆ
* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาบริการ และข้อมูลติดต่อ เป็นปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และการจัดเก็บข้อมูลขั้นสูง ใช้ประสบการณ์และนวัตกรรมมากกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์แบบแยกส่วน ระบบ LSI และผลิตภัณฑ์ HDD ที่โดดเด่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ

โดยมีพนักงานกว่า 19,400 คนทั่วโลกที่มีความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุด และส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในการสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ๆ ร่วมกัน บริษัทมุ่งหวังที่จะสร้างและมีส่วนสนับสนุนเพื่ออนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนโดยทั่วไป

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย    

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250820514873/en

Contacts

ช่องทางสอบถามสำหรับลูกค้า:
ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์ออปโตอิเล็กทรอนิกส์
โทร.: +81-44-548-2218
ติดต่อเรา

ช่องทางสอบถามสำหรับสื่อ:
C. Nagasawa
ฝ่ายสื่อสารและข่าวกรองการตลาด
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

ที่มา: Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

แจ้งเตือนสื่อ | Masdar ได้รับการจัดอันดับเครดิต ‘AA-’ พร้อมแนวโน้มคงที่จาก S&P Global Ratings เพื่อเป็นการยอมรับความแข็งแกร่งทางการเงินของธุรกิจ

Logo

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–21 สิงหาคม 2025

Masdar ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ 'AA-' พร้อมแนวโน้มคงที่จาก S&P Global Ratings ที่ช่วยตอกย้ำถึงสถานะผู้นำด้านพลังงานสะอาดระดับโลกของบริษัท

อันดับเครดิตใหม่นี้สะท้อนถึงสถานะที่หลากหลายของ Masdar ในระดับโลก โดยมีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง และนโยบายการเงินที่มีวินัย รวมถึงการจัดสรรรายได้จากตราสารหนี้สีเขียวเพื่อระดมทุนสำหรับการก่อสร้างโครงการใหม่ๆ

ด้วยอันดับเครดิตชั้นนำที่ได้รับการจัดอันดับจาก Moody’s (A1), Fitch (AA-) และ S&P (AA-) ทำให้ Masdar ยังคงได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานหมุนเวียนที่มีความแข็งแกร่งทางการเงินมากที่สุดในโลก ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถขับเคลื่อนการขยายตัวอย่างมีความรับผิดชอบและสร้างความก้าวหน้าอย่างครอบคลุมในตลาดสำคัญๆ ทั่วโลก

อันดับเครดิตดังกล่าวได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากผู้ถือหุ้นทั้งสามรายของบริษัท ได้แก่ บริษัทน้ำมันแห่งชาติอาบูดาบี (ADNOC), บริษัท Mubadala Investment และบริษัทพลังงานแห่งชาติอาบูดาบี PJSC (TAQA) รวมทั้งรัฐบาลอาบูดาบีอีกด้วย

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

press@masdar.ae

ที่มา: Masdar

L&T Technology Services เปิดตัว PLxAI กรอบการทำงาน GenAI ที่เป็นกรรมสิทธิ์ เพื่อเร่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์

Logo

PLxAI ช่วยเร่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในทุกช่วงวงจรชีวิต ด้วยสถาปัตยกรรมที่ยืดหยุ่นทำให้สามารถปรับใช้กับระบบฝังตัวและซอฟต์แวร์ PDLC ได้

บังคาลอร์ ประเทศอินเดีย–(BUSINESS WIRE)–21 สิงหาคม 2025

 L&T Technology Services (BSE: 540115, NSE: LTTS), ประกาศเปิดตัว PLxAI กรอบการทำงาน GenAI ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท เพื่อเร่งวงจรการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าทั่วโลก ทั้งในด้านโมบิลิตี้ ความยั่งยืน และเทคโนโลยี กรอบการทำงานนี้พัฒนาโดย PDLC SMEs ที่มีประสบการณ์ยาวนาน โดยใช้การผสมผสานระหว่าง Generative AI และ Conventional AI เพื่อให้บริการครบวงจรในการพัฒนาโซลูชันที่ปรับขนาดได้และนำกลับมาใช้ใหม่ได้ในทุกขั้นตอนของ PDLC ตั้งแต่การออกแบบแนวคิดไปจนถึงการสนับสนุนบริการหลังการขาย

By accelerating the rate of innovation and optimizing costs across product development, PLxAI is poised to redefine how businesses approach product development.

ด้วยการเร่งอัตราการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ PLxAI พร้อมแล้วที่จะกำหนดนิยามใหม่สำหรับแนวทางที่ธุรกิจต่างๆ ดำเนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์

กรอบการทำงานนี้ผสานรวมคุณสมบัติขั้นสูง เช่น การรวบรวมและใช้ประโยชน์จากความรู้ที่มีอยู่ รวมถึงความรู้เกี่ยวกับองค์กรและความรู้เกี่ยวกับชุมชน เพื่อนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่เข้าใจบริบท ซึ่งจะช่วยยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพวิศวกรรมผลิตภัณฑ์

PLxAI ผสานรวมระบบแจ้งเตือนอัจฉริยะและระบบวิเคราะห์บริบท เพื่อยกระดับวิศวกรรมผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่แนวคิดและการออกแบบ ไปจนถึงการตรวจสอบความถูกต้องและการสนับสนุนหลังการขาย จนถึงปัจจุบัน ทีม LTTS ได้กระจายงานไปแล้วกว่า 36 กรณีที่ครอบคลุมทุกช่วงวงจรชีวิต (อยู่ในขั้นตอนการปรับใช้ต่างๆ) และมีกรณีการใช้งานเพิ่มเติมอีก 35 กรณีที่อยู่ในขั้นตอนการออกแบบ ได้แก่

  • การออกแบบแนวคิด: ผู้ช่วยด้านนวัตกรรมสำหรับการเปรียบเทียบประสิทธิภาพการแข่งขันและการค้นหาเทคโนโลยี
  • การออกแบบส่วนประกอบ : ผู้ช่วยด้านการออกแบบสำหรับการสร้างข้อมูลจำเพาะ ไดอะแกรม และการคำนวณ
  • การวางแผนการตรวจสอบความถูกต้อง : การสร้างแผนการตรวจสอบความถูกต้องของการออกแบบและเทมเพลต DFMEA โดยอัตโนมัติ
  • การวิเคราะห์โหมดความล้มเหลว : การสร้าง FMEA ที่ปรับแต่งได้โดยใช้เทมเพลตขององค์กร
  • การผสานรวมของฝาแฝดดิจิทัล : รองรับเวิร์กโฟลว์การทดสอบทั้งแบบกายภาพและแบบเสมือน และ
  • เวิร์กโฟลว์แบบ Agentic : ตัวแทนเชิงรุกที่ช่วยทำให้งานวิศวกรรมหลายขั้นตอนเป็นแบบอัตโนมัติ

ในโอกาสนี้ Alind Saxena, ประธานและผู้อำนวยการบริหาร – Mobility & Tech ของ L&T Technology Services Limited ได้กล่าวสุนทรพจน์ว่า นี่คือก้าวสำคัญอันน่าภาคภูมิใจของทีม LTTS การพัฒนา PLxAI โดยผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ภายในองค์กรของเราเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงศักยภาพในด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีของ LTTS ซึ่งนับเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าของเราในการขับเคลื่อนความสำเร็จของลูกค้าทั่วโลก ทั้งในด้านโมบิลิตี้ ความยั่งยืน และเทคโนโลยี โดยใช้ประโยชน์จากพลังของ AI และ Gen-AI ซึ่งความกระตือรือร้นจากลูกค้าทั่วโลกของเรานั้นน่าทึ่งมาก โดยขณะนี้ได้มีการเริ่มนำไปปรับใช้ในหลายๆ ด้านแล้ว

ด้วยการเร่งอัตราการสร้างสรรค์นวัตกรรมและปรับต้นทุนให้เหมาะสมที่สุดในการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ PLxAI จะเป็นข้อเสนอที่สร้างความเปลี่ยนแปลงและพร้อมที่จะกำหนดนิยามใหม่ให้กับวิธีที่ธุรกิจต่างๆ เข้าถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ อีกทั้งยังเปิดเส้นทางใหม่ๆ สำหรับการเติบโตและประสิทธิภาพ

เกี่ยวกับ L&T Technology Services Ltd

L&T Technology Services (LTTS) เป็นผู้นำระดับโลกด้านบริการด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี เป็นบริษัทในเครือที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของ Larsen & Toubro (L&T) เราให้บริการออกแบบ พัฒนา ทดสอบ และบำรุงรักษาผลิตภัณฑ์และกระบวนการต่างๆ

มุ่งมั่น คล่องตัว นวัตกรรม คือวิธีที่เราขับเคลื่อนการเติบโตในกลุ่มธุรกิจโมบิลิตี้ ความยั่งยืน และเทคโนโลยี ฐานลูกค้าของเราประกอบด้วยบริษัทใน Fortune 500 จำนวน 69 บริษัท และบริษัทชั้นนำด้าน ER&D จำนวน 57 บริษัท ครอบคลุมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ การขนส่ง โทรคมนาคมและเทคโนโลยีขั้นสูง และอุตสาหกรรมกระบวนการต่างๆ เรามีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศอินเดีย มีพนักงานมากกว่า 23,600 คนในศูนย์ออกแบบ 23 แห่งทั่วโลก สำนักงานขาย 30 แห่งทั่วโลก และห้องปฏิบัติการนวัตกรรม 105 แห่ง ซึ่งเป็นข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2025

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.LTTS.com/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250820777125/en

Contacts

ช่องทางสอบถามสำหรับสื่อ:
Aniruddha Basu
L&T Technology Services Limited
อีเมล: Aniruddha.Basu@LTTS.com

ที่มา: L&T Technology Services

NIPPON KINZOKU: เปิดตัวผลิตภัณฑ์สเตนเลสสตีล “STA Finish” ใหม่ สำหรับงานกัดกรดความแม่นยำสูงในฐานะ “ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

Logo

บรรลุกระบวนการที่แม่นยำด้วยการกำจัดความบิดเบี้ยวจากการกัดกรดและปรับขนาดเกรนให้ละเอียด

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–21 สิงหาคม 2025

NIPPON KINZOKU CO., LTD. (สำนักงานใหญ่: มินาโตะ โตเกียว) มีความยินดีที่จะประกาศเปิดตัว “ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” ซีรีส์ที่ 4 ซึ่งก็คือ สเตนเลสสตีลเคลือบ STA (การอบด้วยแรงดึงพิเศษ) ซึ่งช่วยลดความบิดเบี้ยวและปรับขนาดเกรนผลึกให้ละเอียดยิ่งขึ้นเพื่อการกัดกรดที่มีความละเอียดสูง

Conventional TA (Tension Annealing) finish has been highly evaluated as a stainless spring material with excellent flatness, low residual stress, and dimensional stability after processing. STA finish, which is a further evolution of this finish, minimizes residual stress and is optimized for etching processing.

การเคลือบผิวแบบ TA (การอบด้วยแรงดึง) แบบดั้งเดิมได้รับการยกย่องอย่างสูงว่าเป็นวัสดุสปริงสเตนเลสที่มีความเรียบที่ดีเยี่ยม ความเค้นตกค้างต่ำ และมีเสถียรภาพเชิงมิติหลังการแปรรูป การเคลือบผิวแบบ STA ซึ่งเป็นวิวัฒนาการอีกขั้นของการเคลือบผิวแบบนี้ ช่วยลดความเค้นตกค้างและปรับให้เหมาะสมที่สุดสำหรับการกัด

ในกระบวนการกัดกรด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระบวนการกัดกรดแบบครึ่งเดียว ปัญหาการบิดเบี้ยวของวัสดุสปริงเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย การเคลือบ STA ช่วยลดความบิดเบี้ยวนี้ได้อย่างมาก รวมถึงช่วยเพิ่มเสถียรภาพในด้านของมิติได้เป็นอย่างยิ่ง

ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อตอบสนองความต้องการพื้นผิวที่เรียบเนียนยิ่งขึ้น เราสามารถผลิตเกรนผลึกที่มีขนาดเล็กมากขึ้น ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะสำหรับการใช้งานในด้านไมโครแฟบริเคชั่นที่มีความแม่นยำสูง

คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยลดขั้นตอนและลดความซับซ้อนของกระบวนการ ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีขึ้นและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดกระบวนการผลิต นอกจากนี้ ความยืดหยุ่นในการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มากขึ้นยังช่วยให้สามารถปรับรูปทรงและรายละเอียดต่างๆ ให้เหมาะสมที่สุดได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิตของกระบวนการผลิต

ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ ผลิตภัณฑ์ของเราจึงได้รับการนำไปใช้อย่างแพร่หลายในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนสมาร์ทโฟน หน้ากากโลหะ และตัวห่อหุ้ม

ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้รับการรับรอง STA Finish ในฐานะ “ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” จากมุมมองเหล่านี้ เรากำลังดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์2 ภายในปี 2050 และมุ่งมั่นในการผลิตอย่างยั่งยืนผ่านการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแพร่หลาย

นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์นี้ยังสอดคล้องกับแผนบริหารฉบับที่ 11 ของเรา “NIPPON KINZOKU 2030” และเป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าโดยยึดหลัก “ประสิทธิภาพเกือบสุทธิ” (บรรลุประสิทธิภาพที่ต้องการของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายด้วยวัสดุ) โดยเราตั้งเป้าที่จะขยายยอดขายให้ครอบคลุมมากขึ้นในสาขาต่างๆ เช่น การสื่อสาร 5G, อุปกรณ์เคลื่อนที่ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเซมิคอนดักเตอร์

คุณสมบัติ

  1. วัสดุผ่านกระบวนการอบด้วยความร้อนและการแก้ไขรูปทรงไปพร้อมๆ กัน ส่งผลให้มีความเรียบดีเยี่ยม
  2. ความเค้นภายใน (ความบิดเบี้ยว) ที่สะสมระหว่างการแปรรูปลดลงอย่างมาก ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานที่ต้องการความแม่นยำสูง
  3. ผลิตภัณฑ์ที่มีขนาดเกรนที่ละเอียดจะช่วยให้พื้นผิวการกัดมีความเรียบเนียนยิ่งขึ้นก็มีจำหน่ายเป็นทางเลือกเช่นกัน
    https://www.nipponkinzoku.co.jp/assets/images/2025/08/Examples-of-Cross-Sectional-Photographs-after-Etching.png

ข้อมูลจำเพาะ
1) เกรดเหล็ก: SUS304, SUS301, SUS430 เป็นต้น
2) ความหนา: 0.1–0.5 มม.
3) ความกว้าง: สูงสุด 600 มม.
* เกรนละเอียดมีให้เลือกเฉพาะ SUS304 เท่านั้น

คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.nipponkinzoku.co.jp/assets/images/2025/08/New-Launch-of-STA-Finish-Stainless-Steel-for-High-Precision-Etching-as-an-Eco-Product.pdf

เกี่ยวกับ NIPPON KINZOKU Group
มีการนำผลิตภัณฑ์ของเราไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่อุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำสูงไปจนถึงอุตสาหกรรมก่อสร้าง https://www.nipponkinzoku.co.jp/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20250820626946/en

Contacts

ฝ่ายกระบวนการผลิตและสนับสนุน
NIPPON KINZOKU CO., LTD.
อีเมล: sisaku-sc@nipponkinzoku.co.jp
https://www.nipponkinzoku.co.jp/en/inquiry

ที่มา: NIPPON KINZOKU CO., LTD.

ราสอัลไคมาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นหนึ่งในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตเร็วที่สุดในตะวันออกกลางอย่างปฏิเสธไม่ได้ และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม

Logo

ราสอัลไคมาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–19 สิงหาคม 2025

ราสอัลไคมาห์กำลังเผชิญกับภาวะเฟื่องฟูของตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่สุดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยได้รับคำแนะนำจากวิสัยทัศน์อันก้าวไกลของ His Highness Sheikh Saud bin Saqr Al Qasimi สมาชิกสภาสูงสุดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และผู้ปกครองเมืองราสอัลไคมาห์

Guided by a bold strategic vision and a comprehensive master plan, Ras Al Khaimah’s real estate sector is experiencing unprecedented growth, attracting global investors eager to be part of the Emirate’s journey towards sustainable development. (Photo: AETOSWire)

ด้วยวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์อันโดดเด่นและแผนแม่บทที่ครอบคลุม ภาคอสังหาริมทรัพย์ของราสอัลไคมาห์กำลังเผชิญกับการเติบโตอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนของเอมิเรตส์ (ภาพ: AETOSWire)

เอมิเรตส์กำลังปรับเปลี่ยนเส้นขอบฟ้าของตน ขณะเดียวกันก็สร้างเศรษฐกิจที่ยืดหยุ่นและหลากหลาย ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการวางแผนที่ดี ความยั่งยืน การยกระดับคุณภาพชีวิต และการพัฒนาระดับโลก

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยอดขายและราคาอสังหาริมทรัพย์ในราสอัลไคมาห์พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก โดยได้รับแรงหนุนจากโครงการด้านการบริการ พาณิชย์ และที่อยู่อาศัยจำนวนมาก โดยมีการคาดการณ์ว่าจำนวนประชากรจะเพิ่มสูงขึ้นจาก 0.4 ล้านคนเป็น 0.65 ล้านคนภายในปี 2030 ซึ่งคาดว่าจะสร้างความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นประมาณ 45,000 ยูนิต การเติบโตอย่างยั่งยืนนี้เกิดจากเศรษฐกิจที่มีความหลากหลาย กฎระเบียบที่เอื้อต่อนักลงทุน รวมถึงการเข้ามาของนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกในตลาด เช่น Emaar, Aldar และ Ellington ควบคู่ไปกับบริษัทชั้นนำในท้องถิ่นอย่าง Marjan, Al Hamra และ RAK Properties

สิ่งสำคัญที่สุดในการปฏิรูปเมืองราสอัลไคมาห์คือเกาะอัลมาร์จาน ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางริมน้ำชั้นนำที่กำลังก้าวหน้าในอุตสาหกรรมนี้ ภายใต้การนำของซีอีโอ Eng. Abdullah Al Abdooli และเป็นที่ตั้งของแบรนด์สุดหรูมากมาย อาทิ Wynn, JW Marriott, Nobu, Missoni และ The Address โดยมาร์จานกำลังขยายธุรกิจด้วยการพัฒนาย่านการค้า RAK Central ซึ่งเป็นศูนย์กลางอเนกประสงค์ที่ผสมผสานธุรกิจ ไลฟ์สไตล์ และนวัตกรรมเข้าไว้ด้วยกัน

Al Hamra ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งนำโดยซีอีโอ Benoy Kurien ยังคงสร้างมาตรฐานการใช้ชีวิตแบบบูรณาการอย่างต่อเนื่องด้วยบ้านกว่า 4,000 หลังใน Al Hamra Village รวมถึงสนามกอล์ฟ และชุมชนที่มีชีวิตชีวาที่มีผู้อยู่อาศัยกว่า 10,000 คน พร้อมด้วยโครงการใหญ่ต่างๆ เช่น Waldorf Astoria Residences, Falcon Island และ Al Hamra Waterfront

นอกจากนี้ตามแนวชายฝั่ง RAK Properties กำลังพัฒนาโครงการ Mina ซึ่งเป็นโครงการหลักเพื่อยกระดับชายฝั่งของเอมิเรตส์ โดยเป็นที่ตั้งของรีสอร์ตระดับรางวัลอย่าง Anantara และ InterContinental นอกจากนี้ยังมีโครงการอื่นๆ อีก เช่น Nikki Beach และ Four Seasons ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา

“วิสัยทัศน์สำหรับราสอัลไคมาห์กำลังกลายเป็นความจริง” กล่าวโดย Abdulaziz Abdullah Al Zaabi ประธานบริษัท RAK Properties “เรากำลังสร้างสภาพแวดล้อมที่มีชีวิตชีวาและยั่งยืน ซึ่งดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก”

Sameh Muhtadi ซีอีโอของบริษัท กล่าวว่า “เราได้เห็นความสนใจทั่วโลกในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และโมเมนตัมนี้จะยังคงดำเนินต่อไป”

ดาวน์โหลด:
วิดีโอยาว: RAK Real Estate.mp4
วิดีโอสั้น: RAK Real Estate short.mp4
รูปภาพ: อสังหาริมทรัพย์

*ที่มา: AETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/20250819507313/en

Contacts

Steven McCombe
media@rakmediaoffice.ae

ที่มา: Ras Al Khaimah Government Media Office

SBC Medical Group Holdings ประกาศผลประกอบการทางการเงินไตรมาสที่สองปี 2025

Logo

เมืองเออร์ไวน์ รัฐแคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–13 สิงหาคม 2025

SBC Medical Group Holdings Incorporated (NASDAQ: SBC, “SBC Medical” หรือ “บริษัท”) เป็นเจ้าของ ผู้ดำเนินงาน และผู้ให้บริการด้านการบริหารจัดการและผลิตภัณฑ์แก่ศูนย์รักษาความงามระดับโลก ประกาศผลประกอบการทางการเงินสำหรับไตรมาสที่สองของปีงบประมาณ 2025 (งวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2025) และครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2025 (งวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2025) ในวันนี้

ไฮไลท์ไตรมาสที่สองของปี 2025

  •  รายได้รวม อยู่ที่ 43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 18% เมื่อเทียบกับปีก่อน
  •  รายได้จากการดำเนินงาน อยู่ที่ 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 47% เมื่อเทียบกับปีก่อน
  •  กำไรสุทธิที่เป็นของ SBC Medical Group อยู่ที่ 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 87% เมื่อเทียบกับปีก่อน
  •  กำไรต่อหุ้น ซึ่งหมายถึงกำไรสุทธิของบริษัทหารด้วยจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก โดยอยู่ที่ 0.02 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2025 เทียบกับ 0.20 ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2024
  •  EBITDA1 ซึ่งคำนวณโดยการนำค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายและผลขาดทุนจากการด้อยค่ามาบวกกับรายได้จากการดำเนินงาน โดยอยู่ที่ 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 46% เมื่อเทียบกับปีก่อน อัตรากำไร EBITDA1 อยู่ที่ 35% ในไตรมาสที่สองของปี 2025 เทียบกับ 53% ในไตรมาสที่สองของปี 2024
  •  ผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น ซึ่งหมายถึงรายได้สุทธิที่เป็นของบริษัทหารด้วยค่าเฉลี่ยของส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2025 โดยอยู่ที่ 4% ซึ่งแสดงถึงการลดลง 44 จุดเปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อน
  •  จำนวนสาขาแฟรนไชส์ 2 มีจำนวน 259 สาขา ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2025 ซึ่งเพิ่มขึ้น 36 สาขาจากวันที่ 30 มิถุนายน 2024
  •  จำนวนลูกค้า3 ในช่วงสิบสองเดือนล่าสุดสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2025 อยู่ที่ 6.31 ล้านราย ซึ่งเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับปีก่อน
  •  อัตราการกลับมาใช้บริการซ้ำของลูกค้า4 ที่เข้าใช้บริการคลินิกของแฟรนไชส์ซีอย่างน้อยสองครั้งอยู่ที่ 72%

ไฮไลท์ครึ่งปีแรกของปี 2025

  •  รายได้รวม อยู่ที่ 91 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 16% เมื่อเทียบกับปีก่อน
  •  รายได้จากการดำเนินงาน อยู่ที่ 39 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน
  •  รายได้สุทธิที่เป็นของ SBC Medical Group อยู่ที่ 24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 36% เทียบกับปีก่อน
  •  กำไรต่อหุ้น ซึ่งหมายถึงกำไรสุทธิของบริษัทหารด้วยจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก โดยอยู่ที่ 0.23 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2025 เทียบกับ 0.40 ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2024
  •  EBITDA1 ซึ่งคำนวณโดยการนำค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายและผลขาดทุนจากการด้อยค่ามาบวกกับรายได้จากการดำเนินงาน โดยอยู่ที่ 40 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลง 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน อัตรากำไร EBITDA 1 อยู่ที่ 44% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 เทียบกับ 50% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024

Yoshiyuki Aikawa ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ SBC Medical กล่าวว่า “ตามที่คาดการณ์และส่งสัญญาณไว้ในคำแนะนำก่อนหน้าของเรา ไตรมาสที่ 2 ปี 2025 สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งเป้าไปที่การวางตำแหน่งของ SBC Medical ให้มีความสามารถในการแข่งขันและความสามารถในการขยายธุรกิจในระยะยาว โดยมีรายได้รวมลดลง 18% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เหลือ 43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการยุติธุรกิจจัดหาพนักงาน การขายกิจการแบบมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงการดำเนินงาน และการปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียม เรากำลังดำเนินแผนกลยุทธ์อย่างแม่นยำ ดังจะเห็นได้จากเครือข่ายแฟรนไชส์ 259 แห่ง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2025 และจำนวนผู้เข้ารับบริการ 6.31 ล้านคนในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงขนาดที่ไม่มีใครเทียบได้ในญี่ปุ่น อัตราการกลับมาใช้บริการซ้ำที่สูงของเราช่วยตอกย้ำให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ Shonan Beauty Clinic ของเรา โดยตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยของผู้บริโภคในญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับความท้าทายต่างๆ รวมถึงการเติบโตที่ชะลอตัวเนื่องจากข้อจำกัดทางการค้าและการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่มีความระมัดระวัง แม้จะมีอุปสรรคเหล่านี้ เราก็ประสบความสำเร็จในการผลักดันโครงการสำคัญๆ ซึ่งรวมถึงการเข้าซื้อกิจการ MB Career Lounge ที่จะช่วยยกระดับบริการสนับสนุนด้านการจัดการของเรา และการควบรวม JUN CLINIC เข้ากับเครือข่ายของเรา ซึ่งมียอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อลูกค้าที่สูง ในอนาคต เรายังคงมั่นใจในแผนงานเชิงกลยุทธ์ของเรา ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงรูปแบบแฟรนไชส์ให้เหมาะสมที่สุด คว้าโอกาสในการเติบโต เปลี่ยนไปใช้รูปแบบที่มีอัตรากำไรสูงขึ้น รวมถึงมอบคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้นของเรา”

 ผลประกอบการทางการเงินไตรมาสที่สองปี 2025

รายได้รวมอยู่ที่ 43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 18% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่ปรับปรุงใหม่สำหรับบริการแฟรนไชส์ที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 รวมถึงการยกเลิกธุรกิจบริการจัดหาพนักงาน และการขายกิจการของ SNA และ Kijimadaira ที่จะถูกชดเชยบางส่วนจากการเติบโตในด้านการจัดซื้อจัดจ้าง บริการเช่า และแหล่งรายได้อื่นๆ

กำไรสุทธิที่เป็นของ SBC Medical Group สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2025 อยู่ที่ 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับ 18.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2024 การลดลงนี้ส่วนใหญ่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่ไม่พึงประสงค์ในรายได้และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่สูงขึ้น

EBITDA1 อยู่ที่ 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 46% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งสาเหตุหลักมาจากรายได้ที่ลดลงหลังจากการยุติธุรกิจบริการจัดหาพนักงาน การแยกส่วนธุรกิจของ SNA และ Kijimadaira รวมถึงการแก้ไขโครงสร้างค่าธรรมเนียม

การประชุมทางโทรศัพท์

บริษัทจะจัดการประชุมทางโทรศัพท์ในวันพุธที่ 13 สิงหาคม 2025 เวลา 8.30 น. ตามเวลาตะวันออก (หรือวันพุธที่ 13 สิงหาคม 2025 เวลา 21.30 น. ตามเวลาประเทศญี่ปุ่น) เพื่อหารือเกี่ยวกับผลประกอบการทางการเงินและตอบคำถามแบบสด

โปรดลงทะเบียนล่วงหน้าก่อนการประชุมโดยใช้ลิงก์ด้านล่าง
https://edge.media-server.com/mmc/p/ukc9sp9j/lan/en/

ระบบจะนำคุณไปที่หน้าลงทะเบียนของ “การนำเสนอผลประกอบการทางการเงิน SBC ไตรมาสที่ 2 ปี 2025” โดยอัตโนมัติ โปรดทำตามขั้นตอนเพื่อป้อนรายละเอียดการลงทะเบียนของคุณ จากนั้นคลิก “ส่ง” เมื่อลงทะเบียนแล้ว คุณจะสามารถเข้าถึงเว็บไซต์สำหรับรับชมการประชุมทางโทรศัพท์โดยเฉพาะได้ นอกจากการรับชมการประชุมทางโทรศัพท์แล้ว เว็บไซต์นี้ยังให้เข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับวิทยากร รวมถึงเอกสารที่เกี่ยวข้องกับนักลงทุนในอดีตได้อีกด้วย

คุณสามารถรับชมเอกสารการนำเสนอผลประกอบการประจำปีบนเว็บไซต์ได้ก่อนการประชุมทางโทรศัพท์เริ่มต้น 10 นาที เอกสารดังกล่าวจะพร้อมให้ดาวน์โหลดด้วยเช่นกัน

การประชุมทางโทรศัพท์สามารถรดูซ้ำได้จนถึงวันที่ 13 สิงหาคม 2026

นอกจากนี้ การรายงานผลประกอบการ สไลด์ประกอบ และเว็บคาสต์ที่เก็บถาวรของการประชุมทางโทรศัพท์ครั้งนี้ จะมีให้บริการที่เว็บไซต์ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ของบริษัท https://ir.sbc-holdings.com/

เกี่ยวกับ SBC Medical

SBC Medical ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมืองเออร์ไวน์ รัฐแคลิฟอร์เนีย และกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นเจ้าของและให้บริการจัดการและผลิตภัณฑ์แก่ศูนย์รักษาความงาม บริษัทมุ่งเน้นในการให้บริการจัดการที่ครอบคลุมแก่คลินิกแฟรนไชส์เป็นหลัก ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงความต้องการด้านการโฆษณาและการตลาดบนแพลตฟอร์มต่างๆ (เช่น เครือข่ายโซเชียลมีเดีย) การจัดการพนักงาน (เช่น การสรรหาและการฝึกอบรม) การจองสำหรับลูกค้าของคลินิกแฟรนไชส์ ​​ความช่วยเหลือในการเช่าที่พักและการเช่าสถานที่สำหรับพนักงานแฟรนไชส์ ​​การก่อสร้างและการออกแบบคลินิกแฟรนไชส์ ​​การจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์และวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ (การขายต่อ) การจัดหาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางให้กับคลินิกแฟรนไชส์เพื่อขายต่อให้กับลูกค้าของคลินิก ใบอนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่อยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตรและยังไม่ได้จดสิทธิบัตร การใช้เครื่องหมายการค้าและตราสินค้า โซลูชันซอฟต์แวร์ไอที (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการปรึกษาทางการแพทย์ทางไกล) การจัดการโปรแกรมสะสมคะแนนสำหรับลูกค้าของคลินิกแฟรนไชส์ ​​(โปรแกรมสะสมคะแนนสำหรับลูกค้า) และเครื่องมือการชำระเงินสำหรับคลินิกแฟรนไชส์

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://sbc-holdings.com/

การใช้มาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP

บริษัทใช้มาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP เช่น EBITDA ในการประเมินผลการดำเนินงานและเพื่อวัตถุประสงค์ในการตัดสินใจทางการเงินและการดำเนินงาน บริษัทเชื่อว่ามาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP ช่วยระบุแนวโน้มพื้นฐานในธุรกิจ บริษัทเชื่อว่ามาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับผลการดำเนินงานของบริษัท ช่วยเพิ่มความเข้าใจโดยรวมเกี่ยวกับประสิทธิภาพในอดีตและแนวโน้มในอนาคตของบริษัท และทำให้มองเห็นตัวชี้วัดหลักที่ฝ่ายบริหารของบริษัทใช้ในการตัดสินใจทางการเงินและการดำเนินงานได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

มาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP ไม่ได้ถูกกำหนดไว้ภายใต้ U.S. GAAP และไม่ได้ถูกนำเสนอตาม U.S. GAAP มาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP มีข้อจำกัดในการใช้เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ และเมื่อประเมินผลการดำเนินงาน กระแสเงินสด หรือสภาพคล่องของบริษัท นักลงทุนไม่ควรพิจารณามาตรการเหล่านี้โดยแยกส่วนหรือใช้แทนการขาดทุนสุทธิ กระแสเงินสดที่ได้จากกิจกรรมการดำเนินงาน หรืองบกำไรขาดทุนรวมและข้อมูลกระแสเงินสดอื่นๆ ที่จัดทำตาม U.S. GAAP

บริษัทบรรเทาข้อจำกัดเหล่านี้โดยการปรับมาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP ให้สอดคล้องกับมาตรการประสิทธิภาพตาม U.S. GAAP ที่สามารถเปรียบเทียบได้มากที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้ควรนำมาพิจารณาเมื่อประเมินประสิทธิภาพของบริษัท

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP โปรดดูตารางที่หัวข้อ “การปรับปรุงผลการดำเนินงานที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบตาม GAAP และผลการดำเนินงานที่ไม่ใช่ GAAP”

คำชี้แจงเชิงคาดการณ์

ข่าวเผยแพร่ฉบับนี้มีคำกล่าวที่มองไปข้างหน้า คำกล่าวที่มองไปข้างหน้าไม่ใช่ข้อเท็จจริงในอดีตหรือคำกล่าวที่แสดงถึงสภาพปัจจุบัน แต่เป็นเพียงความเชื่อของบริษัทเกี่ยวกับเหตุการณ์และผลการดำเนินงานในอนาคต ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วหลายกรณีมีความไม่แน่นอนโดยเนื้อแท้และอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท คำกล่าวที่มองไปข้างหน้าเหล่านี้สะท้อนมุมมองปัจจุบันของบริษัทเกี่ยวกับประสิทธิภาพทางการเงินของบริษัท การเติบโตของรายได้และกำไร แนวโน้มและโอกาสทางธุรกิจ แผนการจัดสรรเงินทุนและสภาพคล่อง ในบางกรณี คำกล่าวที่มองไปข้างหน้าสามารถระบุได้โดยการใช้คำ เช่น “อาจ” “ควร” “คาดหวัง” “คาดการณ์ล่วงหน้า” “พิจารณา” “ประมาณการ” “เชื่อว่า” “วางแผน” “คาดการณ์” “ทำนาย” “ศักยภาพ” หรือ “หวัง” หรือคำเชิงลบของคำเหล่านี้หรือคำที่คล้ายคลึงกัน บริษัทขอเตือนผู้อ่านอย่าพึ่งพาคำกล่าวที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าอย่างมากเกินไป ซึ่งเป็นข้อมูลล่าสุดในวันที่เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เท่านั้น และอาจมีความเสี่ยง ความไม่แน่นอน สมมติฐาน หรือการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ต่างๆ ที่ยากต่อการคาดเดาหรือวัดผลได้ คำกล่าวที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้มีพื้นฐานมาจากการคาดการณ์ปัจจุบันของฝ่ายบริหาร และไม่รับประกันผลการดำเนินงานในอนาคต บริษัทไม่ดำเนินการหรือยอมรับภาระผูกพันใดๆ ที่จะเผยแพร่ข้อมูลอัปเดตหรือแก้ไขคำกล่าวที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าต่อสาธารณะเพื่อสะท้อนการเปลี่ยนแปลงในการคาดการณ์ของบริษัทหรือการเปลี่ยนแปลงในเหตุการณ์ เงื่อนไข หรือสถานการณ์ที่คำกล่าวดังกล่าวอ้างอิง ยกเว้นในกรณีที่กฎหมายกำหนด ปัจจัยที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างไปจากการคาดการณ์ปัจจุบันอย่างมากอาจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว และบริษัทไม่สามารถคาดการณ์ปัจจัยทั้งหมดได้ ปัจจัยดังกล่าวรวมถึงการเปลี่ยนแปลงในระดับโลก ระดับภูมิภาค หรือระดับท้องถิ่น สภาวะเศรษฐกิจ ธุรกิจ การแข่งขัน การตลาด และกฎระเบียบ และปัจจัยต่างๆ ที่ระบุไว้ภายใต้หัวข้อ “ปัจจัยเสี่ยง” และในที่อื่นๆ ในเอกสารที่บริษัทยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (the “SEC”) ซึ่งสามารถเข้าถึงได้บนเว็บไซต์ของ SEC ที่ www.sec.gov.

1 EBITDA และอัตรากำไร EBITDA เป็นมาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP โปรดดูหัวข้อ “การใช้มาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP” และตารางที่มีชื่อว่า “การปรับยอดผลการดำเนินงานที่ไม่ได้ตรวจสอบตาม GAAP และที่ไม่ใช่ GAAP”

2 ตัวเลขรวมแฟรนไชส์คลินิกแบรนด์ SBC, Rize Clinic, Gorilla Clinic, AHH Clinic และ JUN CLINIC

3 จำนวนลูกค้าซึ่งนับรวมลูกค้าคลินิกแบรนด์ SBC, Rize Clinic, Gorilla Clinic และ AHH Clinic แต่ไม่นับรวมลูกค้าของ JUN CLINIC และไม่รวมการให้คำปรึกษาฟรี ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2024 ถึง 30 มิถุนายน 2025

4 ตัวเลขรวมแฟรนไชส์คลินิกแบรนด์ SBC, Rize Clinic และ Gorilla Clinic แต่ไม่นับรวมลูกค้าของ AHH Clinic และ JUN CLINIC และไม่รวมการให้คำปรึกษาฟรี เปอร์เซ็นต์ของลูกค้าที่กลับมาใช้บริการซ้ำอย่างน้อยสองครั้ง

SBC MEDICAL GROUP HOLDINGS INCORPORATED
งบดุลรวมที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ

 30 มิถุนายน

 2025

 31 ธันวาคม

 2024

 สินทรัพย์

 สินทรัพย์หมุนเวียน:

เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด

$

152,740,882

$

125,044,092

บัญชีลูกหนี้

2,350,368

1,413,433

บัญชีลูกหนี้– กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

48,920,843

28,846,680

สินค้าคงเหลือ

1,705,237

1,494,891

ลูกหนี้สัญญาเช่าเงินทุน หมุนเวียน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

9,128,931

5,992,585

ลูกหนี้เงินให้กู้ยืมลูกค้า หมุนเวียน

10,552,623

10,382,537

ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าและสินทรัพย์หมุนเวียนอื่น

14,051,746

11,276,802

บัญชีลูกหนี้อื่น– กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

1,891,408

 รวมสินทรัพย์หมุนเวียน

 241,342,038

 184,451,020

 สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน:

ทรัพย์สินและอุปกรณ์สุทธิ

8,058,016

8,771,902

สินทรัพย์ไม่มีตัวตนสุทธิ

1,584,543

1,590,052

การลงทุนระยะยาวสุทธิ

3,593,087

3,049,972

ค่าความนิยมสุทธิ

5,011,511

4,613,784

สกุลเงินดิจิทัล (คริปโต)

535,882

ลูกหนี้สัญญาเช่าเงินทุน ไม่หมุนเวียน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

13,197,979

8,397,582

สินทรัพย์สิทธิการใช้สัญญาเช่าดําเนินงาน

4,583,393

5,267,056

สินทรัพย์สิทธิการใช้สัญญาเช่าทางการเงิน

516,932

สินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี

2,343,302

9,798,071

ลูกหนี้เงินให้กู้ยืมลูกค้า ไม่หมุนเวียน

5,934,636

5,023,551

การชําระคืนเงินต้นล่วงหน้าระยะยาว

1,755,292

1,745,801

การลงทุนระยะยาวใน MCs – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

19,381,422

17,820,910

สินทรัพย์อื่น

7,461,224

15,553,453

 รวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน

 73,957,219

 81,632,134

 รวมสินทรัพย์

 $

 315,299,257

 $

 266,083,154

 หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น

 หนี้สินหมุนเวียน:

บัญชีเจ้าหนี้

$

16,290,206

$

13,875,179

บัญชีเจ้าหนี้ – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

3,245,989

659,044

ส่วนของเงินกู้ยืมระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายใน 1 ปี

69,420

96,824

ตั๋วเงินและเจ้าหนี้อื่นหมุนเวียน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

3,272,048

26,255

รายได้รับล่วงหน้าจากลูกค้า

512,123

820,898

รายได้รับล่วงหน้าจากลูกค้า – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

10,333,007

11,739,533

ภาษีเงินได้ค้างจ่าย

14,133,163

18,705,851

หนี้สินตามสัญญาเช่าดําเนินงาน หมุนเวียน

3,623,871

4,341,522

หนี้สินตามสัญญาเช่าทางการเงิน หมุนเวียน

161,340

หนี้สินค้างจ่ายและหนี้สินหมุนเวียนอื่น

6,229,797

8,103,194

เจ้าหนี้จากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน

2,810,647

2,823,590

 รวมหนี้สินหมุนเวียน

 60,681,611

 61,191,890  

 
 
 
SBC MEDICAL GROUP HOLDINGS INCORPORATED
งบดุลรวมที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ — (ต่อ)

 30 มิถุนายน

 2025

 31 ธันวาคม

 2024

 31 มีนาคม 2025 31 ธันวาคม 2024 หนี้สินไม่หมุนเวียน:

เงินให้กู้ยืมระยะยาว

7,031,506

6,502,682

ตั๋วเงินและเจ้าหนี้อื่นไม่หมุนเวียน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

5,334

หนี้สินภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี

353,517

926,023

หนี้สินตามสัญญาเช่าดําเนินงาน ไม่หมุนเวียน

1,208,516

1,241,526

หนี้สินตามสัญญาเช่าทางการเงิน ไม่หมุนเวียน

164,721

หนี้สินอื่น

1,206,815

1,193,541

 รวมหนี้สินไม่หมุนเวียน

 9,965,075

 9,869,106

 รวมหนี้สิน

 70,646,686

 71,060,996

 ส่วนของผู้ถือหุ้น:

หุ้นบุริมสิทธิ (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.0001 ดอลลาร์สหรัฐ จำนวนหุ้นที่ได้รับอนุญาต 20,000,000 หุ้น ไม่มีหุ้นที่ออกและชำระแล้ว ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2025 และ 31 ธันวาคม 2024)

หุ้นสามัญ (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.0001 ดอลลาร์สหรัฐ จำนวนหุ้นที่ได้รับอนุญาต 400,000,000 หุ้น หุ้นที่ออกและชำระแล้ว 103,881,251 และ 103,020,816 หุ้น, 103,098,442 และ 102,750,816 หุ้น ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2025 และ 31 ธันวาคม 2024 ตามลำดับ)

10,388

10,302

ส่วนเกิน (ต่ำกว่า) มูลค่าหุ้น

72,196,114

62,513,923

หุ้นทุนซื้อคืน (ราคาทุน 782,809 และ 270,000 หุ้น ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2025 และ 31 ธันวาคม 2024 ตามลำดับ)

(5,115,262

)

(2,700,000

)

กำไรสะสม

213,423,693

189,463,007

ขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่นสะสม

(35,922,942

)

(54,178,075

)

 รวมส่วนของผู้ถือหุ้นของ SBC Medical Group Holdings Incorporated

 244,591,991

 195,109,157

ส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม

60,580

(86,999

)

 รวมส่วนของผู้ถือหุ้น

 244,652,571

 195,022,158

 รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น

 $

 315,299,257

 $

 266,083,154

หมายเหตุประกอบเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินรวมที่ไม่ได้รับการตรวจสอบเหล่านี้
 
 
 
SBC MEDICAL GROUP HOLDINGS INCORPORATED
งบกำไรขาดทุนรวมที่ยังไม่ได้ตรวจสอบและ
งบกำไรขาดทุนรวม

 สําหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่
30 มิถุนายน

 สําหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่
 30 มิถุนายน

 2025

 2024

 2025

 2024

รายได้สุทธิ – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

$

38,944,898

$

51,039,038

$

84,202,043

$

101,509,245

รายได้สุทธิ

4,413,949

2,063,042

6,485,505

6,400,877

รวมรายได้สุทธิ

 43,358,847

 53,102,080

 90,687,548

 107,910,122

ต้นทุนรายได้ (รวมต้นทุนรายได้จากกิจการที่เกี่ยวข้องกันจำนวน 4,669,602 ดอลลาร์สหรัฐและ 3,616,103 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับงวดสามเดือนที่สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2025 และ 2024, และ 8,126,530 ดอลลาร์สหรัฐและ 5,413,462 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับงวดหกเดือนที่สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2025 และ 2024 ตามลำดับ)

13,348,270

13,682,405

22,943,887

28,971,072

กําไรขั้นต้น

 30,010,577

 39,419,675

 67,743,661

 78,939,050

ค่าใช้จ่ายในการดําเนินงาน:

ค่าใช้จ่ายในการขาย ค่าใช้จ่ายทั่วไปและค่าใช้จ่ายในการบริหาร (รวมค่าใช้จ่ายในการขาย ค่าใช้จ่ายทั่วไป และค่าใช้จ่ายในการบริหารจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน 415,767 ดอลลาร์สหรัฐและ 0 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2025 และ 2024, และ 415,767 ดอลลาร์สหรัฐและ 0 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2025 และ 2024 ตามลำดับ)

15,456,385

12,129,115

28,987,395

27,187,605

รวมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

 15,456,385

 12,129,115

 28,987,395

 27,187,605

รายได้จากการดำเนินงาน

 14,554,192

 27,290,560

 38,756,266

 51,751,445

รายได้อื่น (ค่าใช้จ่าย):

รายได้จากดอกเบี้ย

22,882

11,644

78,215

29,333

ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย

(49,651

)

(7,424

)

(55,858

)

(10,432

)

รายได้อื่น

33,771

306,291

185,099

655,972

ค่าใช้จ่ายอื่น

(1,132,465

)

(514,636

)

(2,829,724

)

(1,951,292

)

กำไรจากการไถ่ถอนกรมธรรม์ประกันชีวิต

8,746,138

การเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของสกุลเงินดิจิทัล (คริปโต)

111,632

111,632

กําไรจากการจําหน่ายของบริษัทย่อย

3,813,609

รวมรายได้อื่น (ค่าใช้จ่าย)

 (1,013,831

 )

 (204,125

 )

 6,235,502

 2,537,190

กำไรก่อนภาษีเงินได้

 13,540,361

 27,086,435

 44,991,768

 54,288,635

ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้

11,100,509

8,529,110

21,059,966

16,981,094

กำไรสุทธิ

 2,439,852

 18,557,325

 23,931,802

 37,307,541

หัก: กำไร (ขาดทุน) สุทธิที่เกิดจากส่วนได้เสียที่ไม่มีอํานาจควบคุม

(18,388

)

72,917

(28,884

)

65,381

กําไรสุทธิที่เป็นของ SBC Medical Group Holdings Incorporated

 $

 2,458,240

 $

 18,484,408

 $

 23,960,686

 $

 37,242,160

กําไร (ขาดทุน) เบ็ดเสร็จอื่น:

ส่วนปรับปรุงจากการแปลงค่าสกุลเงินต่างประเทศ

$

8,623,269

$

(9,046,549

)

$

18,431,596

$

(19,240,401

)

รวมกําไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ

 11,063,121

 9,510,776

 42,363,398

 18,067,140

หัก: กำไร (ขาดทุน) เบ็ดเสร็จที่เกิดจากส่วนได้เสียที่ไม่มีอํานาจควบคุม

184,411

22,000

147,579

(70,000

)

กําไรขาดทุนเบ็ดเสร็จที่เป็นของ SBC Medical Group Holdings Incorporated

 $

 10,878,710

 $

 9,488,776

 $

 42,215,819

 $

 18,137,140

กําไรสุทธิต่อหุ้นที่เป็นของ SBC Medical Group Holdings Incorporated*

กำไรต่อหุ้นพื้นฐานและปรับลดแล้ว

$

0.02

$

0.20

$

0.23

$

0.40

จำนวนหุ้นเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักที่ชำระแล้ว*

จำนวนหุ้นพื้นฐานและปรับลดแล้ว

103,507,249

94,192,433

103,392,580

94,192,433

*

ปรับปรุงย้อนหลังสําหรับผลกระทบของการเพิ่มทุนแบบย้อนกลับในวันที่ 17 กันยายน 2024

หมายเหตุประกอบเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินรวมที่ไม่ได้รับการตรวจสอบเหล่านี้
 
 
 
SBC MEDICAL GROUP HOLDINGS INCORPORATED
งบกระแสเงินสดรวมที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ

 สําหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่

 30 มิถุนายน

 2025

 2024

กระแสเงินสดจากกิจกรรมดําเนินงาน

กำไรสุทธิ

$

23,931,802

$

37,307,541

 การปรับปรุงเพื่อกระทบยอดกำไรสุทธิกับเงินสดสุทธิที่ได้จาก (ใช้ใน) กิจกรรมดำเนินงาน:

ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจําหน่าย

1,264,405

1,849,422

ค่าใช้จ่ายการเช่าที่ไม่ใช่เงินสด

2,185,744

1,923,890

สํารองเผื่อขาดทุนสินเชื่อ

283,752

62,804

การเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนระยะยาว

384,523

1,045,557

กําไรจากการจําหน่ายของบริษัทย่อย

(3,813,609

)

กำไรจากการไถ่ถอนกรมธรรม์ประกันชีวิต

(8,746,138

)

กำไรจากการจำหน่ายทรัพย์สินและอุปกรณ์

(10,804

)

(902

)

การเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของสกุลเงินดิจิทัล (คริปโต)

(111,632

)

ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้รอตัดบัญชี

7,452,983

(3,322,728

)

การเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์และหนี้สินจากการดําเนินงาน:

บัญชีลูกหนี้

(789,577

)

(1,423,412

)

บัญชีลูกหนี้ – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

(17,039,113

)

5,843,499

สินค้าคงเหลือ

(717,972

)

561,921

ลูกหนี้สัญญาเช่าทางการเงิน – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

(6,482,967

)

(1,759,556

)

ลูกหนี้สินเชื่อของลูกค้า

8,081,703

7,521,267

ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าและสินทรัพย์หมุนเวียนอื่น

(1,349,225

)

(1,488,347

)

การชําระคืนเงินต้นล่วงหน้าระยะยาว

211,988

(41,412

)

สินทรัพย์อื่น

85,907

(1,007,431

)

บัญชีเจ้าหนี้

1,165,217

(8,960,556

)

บัญชีเจ้าหนี้ – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

2,455,865

ตั๋วเงินจ่ายและเจ้าหนี้อื่น – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

(5,031,570

)

(5,101,368

)

รายได้รับล่วงหน้าจากลูกค้า

(369,616

)

(755,977

)

รายได้รับล่วงหน้าจากลูกค้า – กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

(2,363,891

)

(4,663,233

)

ภาษีเงินได้ค้างจ่าย

(6,030,526

)

5,462,133

หนี้สินตามสัญญาเช่าดําเนินงาน

(2,275,398

)

(1,998,196

)

หนี้สินค้างจ่ายและหนี้สินหมุนเวียนอื่น

(2,508,035

)

(4,444,172

)

หนี้สินค้างจ่ายและหนี้สินหมุนเวียนอื่น

(88,593

)

77,625

 เงินสดสุทธิที่ได้รับจาก (ใช้ใน) กิจกรรมดำเนินงาน

 (6,411,168

 )

 22,874,760

 กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุน

การซื้อทรัพย์สินและอุปกรณ์

(560,431

)

(1,565,333

)

การซื้อหุ้นกู้แปลงสภาพ

(1,700,000

)

การชําระคืนเงินต้นล่วงหน้าสําหรับทรัพย์สินและอุปกรณ์

(705,351

)

รายได้รับล่วงหน้าจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน

(617,804

)

การชำระเงินในนามของกิจการที่เกี่ยวข้องกัน

(1,836,541

)

(5,245,990

)

การซื้อเงินลงทุนระยะยาว

(652,555

)

การซื้อสกุลเงินดิจิทัล (คริปโต)

(424,250

)

เงินกู้ยืมระยะยาวแก่ผู้อื่น

(13,134

)

(62,489

)

การชําระคืนจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน

70,000

555,000

การชําระคืนจากผู้อื่น

56,307

44,748

รายได้จากการไถ่ถอนกรมธรรม์ประกันชีวิต

17,735,717

การจําหน่ายบริษัทย่อย สุทธิจากเงินสดที่จําหน่ายไป

(815,819

)

รายได้จากการจําหน่ายทรัพย์สินและอุปกรณ์

1,728,236

1,971

 เงินสดสุทธิที่ได้รับจาก (ใช้ใน) กิจกรรมการลงทุน

 15,397,998

 (9,405,716

   )

 
 
 
SBC MEDICAL GROUP HOLDINGS INCORPORATED
งบกระแสเงินสดรวมที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ — (ต่อ)

 สําหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่
30 มิถุนายน

 2025

 2024

 กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน

การกู้ยืมจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน

15,000

การชําระคืนเงินกู้ยืมระยะยาว

(74,256

)

(59,217

)

การชำระคืนหนี้สินเช่าซื้อทางการเงิน

(278,097

)

การชําระคืนให้แก่กิจการที่เกี่ยวข้องกัน

(27,943

)

(50,124

)

การซื้อคืนหุ้นสามัญ

(2,415,262

)

เงินสมทบที่ถือว่าเกี่ยวข้องกับการปรับเปลี่ยนราคาจากการจำหน่ายทรัพย์สินและอุปกรณ์

9,682,277

 เงินสดสุทธิที่ได้รับจาก (ใช้ใน) กิจกรรมจัดหาเงิน

 6,901,719

 (109,341

 )

ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

11,808,241

(12,679,865

)

 การเปลี่ยนแปลงสุทธิในเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด

 27,696,790

 679,838

 เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ต้นงวด

 125,044,092

 103,022,932

 เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด สิ้นงวด

 $

 152,740,882

 $

 103,702,770

 การเปิดเผยข้อมูลกระแสเงินสดเพิ่มเติม

เงินสดที่จ่ายดอกเบี้ยจ่าย

$

55,858

$

10,432

เงินสดที่จ่ายภาษีเงินได้สุทธิ

$

19,637,454

$

16,191,178

 กิจกรรมจัดหาเงินและกิจกรรมลงทุนที่ไม่ใช่เงินสด

ทรัพย์สินและอุปกรณ์ที่โอนจากการชําระคืนเงินต้นล่วงหน้าระยะยาว

$

246,188

$

สินทรัพย์สิทธิการเช่าดําเนินงานที่ได้รับจากการแลกเปลี่ยนกับหนี้สินตามสัญญาเช่าดําเนินงาน

$

104,437

$

สินทรัพย์สิทธิการเช่าทางการเงินที่ได้รับจากการแลกเปลี่ยนกับหนี้สินตามสัญญาเช่าทางการเงิน

$

612,466

$

การวัดค่ามูลค่าใหม่ของหนี้สินตามสัญญาเช่าดำเนินงานและสินทรัพย์สิทธิการใช้อันเนื่องมาจากการแก้ไขสัญญาเช่า

$

1,160,680

$

1,376,034

การออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกันที่เกี่ยวข้องในการให้บริการสินเชื่อ

$

8,175,342

$

16,085,387

การออกหุ้นสามัญเป็นหุ้นจูงใจ

$

86

$

หมายเหตุประกอบเป็นส่วนสำคัญของงบการเงินรวมที่ไม่ได้รับการตรวจสอบนี้
 
 
 
 การกระทบยอดระหว่าง GAAP กับมาตรการทางการเงินที่ไม่ใช่ GAAP

 SBC MEDICAL GROUP HOLDINGS INCORPORATED
 การกระทบยอดผลลัพธ์ของ GAAP และ Non-GAAP ที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ

 สําหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่
 30 มิถุนายน

 สําหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่

 30 มิถุนายน

 2025

 2024

 2025

 2024

รายได้รวมสุทธิ

$

43,358,847

$

53,102,080

$

90,687,548

107,910,122

รายได้จากการดำเนินงาน

14,554,192

27,290,560

38,756,266

51,751,445

ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจําหน่าย

636,101

830,945

1,264,405

1,849,422

 EBITDA

15,190,293

28,121,505

40,020,671

53,600,867

 อัตรากำไร EBITDA

35

%

53

%

44

%

50

%

หมายเหตุประกอบเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินรวมที่ไม่ได้รับการตรวจสอบเหล่านี้

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ในเอเชีย:
SBC Medical Group Holdings Incorporated
Hikaru Fukui / หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์
อีเมล: ir@sbc-holdings.com

ในสหรัฐอเมริกา:
ICR LLC
Bill Zima / หุ้นส่วนผู้จัดการ
อีเมล: bill.zima@icrinc.com

ที่มา: SBC Medical Group Holdings Incorporated

Xsolla ได้ขยายระบบการชำระเงินในเอเชียเพื่อรองรับ FPX, K PLUS, AIS, Indosat และ MerPay

Logo

Xsolla เร่งขยายขอบเขตการชำระเงินในเอเชีย พร้อมมอบประสบการณ์การชำระเงินที่เน้นการใช้งานบนมือถือเป็นอันดับแรกในแต่ละพื้นที่ และขับเคลื่อนด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล

ลอสแอนเจลิส–(BUSINESS WIRE)–14 สิงหาคม 2025

Xsolla ซึ่งเป็นบริษัทการค้าระดับโลกที่ให้ความช่วยเหลือนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในการเปิดตัว ขยายธุรกิจและสร้างรายได้จากเกม ประกาศขยายบริการโซลูชันการชำระเงินครั้งสำคัญทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในวันนี้ เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์การชำระเงินที่เน้นการใช้งานบนมือถือเป็นอันดับแรกในแต่ละพื้นที่ ในตลาดเกมที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ด้วยการเปิดตัว ShopeePay ในมาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย, FPX ในมาเลเซีย, K PLUS และ AIS ในประเทศไทย, Indosat ในอินโดนีเซีย และ MerPay ในญี่ปุ่น ผ่าน Xsolla Pay Station โดยนักพัฒนาซอฟต์แวร์และผู้เผยแพร่สามารถนำเสนอช่องทางการชำระเงินระดับภูมิภาคที่เชื่อถือได้มากขึ้นแก่ผู้เล่นทั่วเอเชีย ซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการเปลี่ยนผู้เล่นให้เป็นผู้ชำระเงิน และช่วยขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมในระยะยาว

(Graphic: Xsolla)

(กราฟิก: Xsolla)

 ตลาดเกมในเอเชียยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการคาดการณ์ว่าตลาดคอนเทนต์เกมบนมือถือในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะเติบโตทะลุ 7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2025โดยคาดว่ารายได้จากเกมบนมือถือจะคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 60% ของรายได้จากเกมทั้งหมดในภูมิภาค ซึ่งตอกย้ำให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและบทบาทสำคัญของเกมบนมือถือในแวดวงเกมของเอเชีย ความสำเร็จในตลาดที่ให้ความสำคัญกับมือถือเป็นอันดับแรกและมีความเฉพาะเจาะจงในระดับท้องถิ่นนี้ จำเป็นต้องอาศัยความสอดคล้องทางวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขั้นตอนการชำระเงิน ผู้เล่นคาดหวังการเข้าถึงเกมได้อย่างราบรื่น และต้องการชำระเงินด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลยอดนิยม การโอนเงินผ่านธนาคาร หรือการเรียกเก็บเงินผ่านผู้ให้บริการมือถือ มากกว่าการใช้บัตรเครดิตทั่วโลก

 ประโยชน์หลักของการขยายระบบการชำระเงินในเอเชีย ได้แก่:

  • วิธีการชำระเงินท้องถิ่นที่เชื่อถือได้ พร้อมการเข้าถึงที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว : ปัจจุบัน Xsolla Pay Station รองรับ ShopeePay (ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ในมาเลเซียและสิงคโปร์), FPX (ผู้บริโภคชาวมาเลเซียใช้ถึง 90%), K PLUS (แอปพลิเคชันธนาคารบนมือถืออันดับหนึ่งของไทย มีผู้ใช้งาน 22.8 ล้านคน), AIS (ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถืออันดับ 2 ของไทย มีผู้ใช้งาน 44 ล้านคน), Indosat (ผู้ให้บริการเรียกเก็บเงินผ่านเครือข่ายหลักของอินโดนีเซีย) และ MerPay (หนึ่งในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่นที่มีผู้ใช้งาน 16.8 ล้านคน) การผสานการทำงานรวมเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในภูมิภาคและความไว้วางใจของผู้ใช้ในตลาดเอเชีย
  • การชำระเงินในภาษาท้องถิ่น : ขั้นตอนการชำระเงินที่ได้รับการแปลเป็นภาษาท้องถิ่นอย่างสมบูรณ์ มอบการรองรับทางด้านภาษาที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละภูมิภาคให้กับผู้เล่นเพื่อประสบการณ์การชำระเงินที่ใช้งานง่ายและราบรื่นยิ่งขึ้น
  • เน้นการใช้งานบนมือถือเป็นอันดับแรก โฟลว์ที่ปรับให้เหมาะกับกระเป๋าเงิน : เส้นทางการชำระเงินได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้งานบนมือถือ รองรับคิวอาร์โค้ด แอปพลิเคชันธนาคาร และการเรียกเก็บเงินผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย โดยไม่ต้องเปลี่ยนเส้นทางหรือต้องยุ่งยากโดยไม่จำเป็น
  • เข้าถึงผู้เล่นเกมระดับ B+ 1.5 ในตลาดที่มีการเติบโตสูง : มีการคาดการณ์ว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเข้าถึงผู้เล่นเกมมากกว่า 332 ล้านคนภายในปี 2028 โดยรายได้จากเกมบนมือถือคิดเป็น 60% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งทำให้การปรับรูปแบบการชำระเงินให้เข้ากับท้องถิ่นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเข้าถึงและสร้างรายได้
  • เพิ่มอัตราการเปลี่ยนผู้เล่นให้เป็นผู้ชำระเงินและลดการละทิ้งกลางคัน : ตัวเลือกการชำระเงินที่คุ้นเคยและการชำระเงินด้วยภาษาท้องถิ่นจะช่วยลดการละทิ้งตะกร้าสินค้าและเพิ่มความสำเร็จในการทำธุรกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ใช้ที่ไม่มีบัญชีธนาคารซึ่งต้องพึ่งพากระเป๋าเงินและการเรียกเก็บเงินผ่านค่าโทรคมนาคม

“เอเชียยังคงเป็นผู้นำเศรษฐกิจเกมระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงมือถือ” Chris Hewish ประธานบริษัท Xsolla กล่าว “เพื่อความสำเร็จในภูมิภาคนี้ นักพัฒนาจำเป็นต้องพบกับผู้เล่นได้ทุกที่ ทุกเวลา ทั้งบนอุปกรณ์มือถือ ในภาษาของพวกเขา และผ่านช่องทางการชำระเงินที่ผู้เล่นต้องการ ยิ่งไปกว่านั้น กระเป๋าเงินดิจิทัลยังเป็นวิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่เกมเมอร์ในภูมิภาคเอเชีย โดยมากกว่า 75% ใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลเพื่อชำระค่าเกม การขยายธุรกิจครั้งนี้จะช่วยให้นักพัฒนาเปลี่ยนความสนใจเป็นธุรกรรมทางการเงิน และสร้างประสบการณ์ที่ทรงคุณค่าและตรงกับความต้องการของแต่ละท้องถิ่นทั่วเอเชีย”

การเพิ่มบริการเหล่านี้จะช่วยต่อยอดจากความครอบคลุมและโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ของ Xsolla โดยช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับพันธมิตรหลักสำหรับนักพัฒนาที่กำลังขยายธุรกิจสู่เอเชีย ด้วยวิธีการใหม่ที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละพื้นที่ของ Pay Station ทำให้นักพัฒนาสามารถมอบประสบการณ์การชำระเงินที่ราบรื่น รวดเร็ว และน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้เล่นในตลาดที่ดุดัน

นักพัฒนาและผู้เผยแพร่ที่สนใจในการขยายการเข้าถึงและปรับปรุงอัตราการเปลี่ยนผู้เล่นให้เป็นผู้ชำระเงินในเอเชีย สามารถเปิดใช้งานวิธีการชำระเงินเหล่านี้ได้โดยตรงผ่าน Xsolla Pay Station

หากต้องการเริ่มต้นใช้งานหรือผสานการชำระเงินในเอเชีย ให้ไปที่ https://publisher.xsolla.com/

สำหรับรายการการปรับปรุงและเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาทั้งหมด ให้ไปที่ xsolla.pro/rws25paymentsinasia

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทพาณิชย์ระดับโลกที่มีเครื่องมือและบริการอันแข็งแกร่งเพื่อช่วยนักพัฒนาแก้ไขปัญหาสำคัญต่างๆ ของอุตสาหกรรมวิดีโอเกม ตั้งแต่เกมอินดี้ไปจนถึงเกมระดับ AAA บริษัทต่างๆ ร่วมมือกับ Xsolla เพื่อช่วยระดมทุน จัดจำหน่าย ทำการตลาด และสร้างรายได้ให้กับเกมของพวกเขา ด้วยความเชื่อมั่นในอนาคตของวิดีโอเกม Xsolla มุ่งมั่นในพันธกิจที่จะเชื่อมโยงโอกาสต่างๆ เข้าด้วยกัน และจัดหาทรัพยากรใหม่ๆ ให้กับเหล่าครีเอเตอร์อย่างต่อเนื่อง โดย Xsolla มีสำนักงานใหญ่และจดทะเบียนในลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย โดยดำเนินงานในฐานะผู้ค้าเกม และได้ช่วยเหลือนักพัฒนาเกมมากกว่า 1,500 คน ให้เข้าถึงผู้เล่นได้มากขึ้นและขยายธุรกิจไปทั่วโลก ด้วยเส้นทางสู่ผลกำไรและหนทางสู่ชัยชนะที่มากขึ้น นักพัฒนาเกมจึงมีทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเพลิดเพลินไปกับเกม

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ xsolla.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/20250814644507/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ
Derrick Stembridge
รองประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ระดับโลกของ Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

ที่มา: Xsolla