Category Archives: Lifestyle

ศาลาว่าการกรุงโตเกียวเปิดไซต์ประชาสัมพันธ์ “#Tokyo Tokyo BASE” ในอาคารผู้โดยสาร 3 ของสนามบินนานาชาติฮาเนดะ

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–1 กันยายน 2023

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2023 ศาลาว่าการกรุงโตเกียวได้เปิดไซต์ประชาสัมพันธ์ของโตเกียว “#Tokyo Tokyo BASE” ในอาคารผู้โดยสาร 3 ของสนามบินนานาชาติฮาเนดะ โตเกียว และประตูสู่ท้องฟ้าของญี่ปุ่น

Opening ceremony (Photo: Business Wire)

พิธีเปิด (ภาพ: Business Wire)

“#Tokyo Tokyo BASE” จัดตั้งขึ้นเพื่อสื่อสารกับนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติเกี่ยวกับเสน่ห์ของโตเกียว ที่ซึ่งประเพณีและวัฒนธรรมล้ำสมัยอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่สมัยเอโดะ เราจะจำหน่าย “Tokyo Omiyage (ของที่ระลึกของโตเกียว)” ที่พัฒนาร่วมกัน โดยศาลาว่าการกรุงโตเกียวกับธุรกิจเอกชน เช่น งานหัตถกรรมแบบดั้งเดิม เครื่องเขียน และอาหาร นอกจากการขายของที่ระลึกแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมเวิร์คช็อปและประสบการณ์วัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบลงมือปฏิบัติจริงในร้านอีกด้วย เพื่อเผยแพร่เสน่ห์ดึงดูดใจของโตเกียว

Hello Kitty และ Hakken ร่วมงานประชาสัมพันธ์ “Tokyo Omiyage (ของที่ระลึกของโตเกียว)”

Hello Kitty ตัวละครจาก Sanrio ที่มีชื่อเสียงระดับโลกและคอสเพลย์เยอร์ Hakken ซึ่งเป็นทูตการท่องเที่ยวกรุงโตเกียว ได้ปรากฏตัวเป็นแขกรับเชิญพิเศษในพิธีเปิดเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเปิดร้านและกิจกรรมภายในร้าน ซึ่งได้สร้างสีสันในการเปิดร้านครั้งนี้

Hakken ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปิดร้านว่า “ฉันตั้งตารอคอยมากว่าที่ร้านจะมีจำหน่ายอะไรบ้าง” ซึ่งเขาได้ลองเสี่ยงโชคหยิบโอมิคุจิ (แผ่นทำนายดวงชะตา) ที่ร้านและดูเหมือนเขาจะชอบพัดไม้ไซเปรสที่โอมิคุจิแนะนำ และยังกล่าวถึงพัดว่ามี “กลิ่นที่ดมแล้วผ่อนคลาย”

ในคำกล่าวเปิดงาน Akiko Matsumoto รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการอุตสาหกรรมและแรงงาน ศาลาว่าการกรุงโตเกียว กล่าวว่า “ฉันอยากให้คุณสัมผัสเสน่ห์อันหลากหลายของโตเกียวด้วยร้านนี้”

ภาพรวมร้านค้า

ที่อยู่:

อาคารผู้โดยสาร 3 ของสนามบินนานาชาติฮาเนดะ ชั้น 4  EDO MARKET PLACE (2-6-5, สนามบินนานาชาติฮาเนดะ, เขตโอตะ, โตเกียว)

เวลาทำการ:

8.00 น. ถึง 21.00 น.

เนื้อหาการใช้งาน:

  • จำหน่าย “Tokyo Omiyage (ของที่ระลึกของโตเกียว)”
    โปรดดูผลิตภัณฑ์ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
    https://tokyotokyo.jp/article/omiyage/
  • จัดแสดงเวิร์คช็อปและประสบการณ์ด้านวัฒนธรรมของญี่ปุ่น
  • ป้าย มุมประชาสัมพันธ์ ฯลฯ ที่สื่อถึง “ยุคปัจจุบัน” ของโตเกียว

©'23 SANRIO CO., LTD. APPR.NO L642720

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53527558/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

สำหรับนักข่าวที่ต้องการติดต่อเกี่ยวกับเรื่องนี้
Shigeki Yamaguchi
ผู้อำนวยการฝ่ายขายเมือง แผนกการท่องเที่ยว สำนักอุตสาหกรรมและแรงงาน ศาลาว่าการกรุงโตเกียว
Shigeki_Yamaguchi@member.metro.tokyo.jp

ที่มา: Tokyo Metropolitan Government




เนื่องจาก teamLab Planets ในโตเกียวได้ต้อนรับผู้เยี่ยมชมจากต่างประเทศกว่า 1 ล้านคนในช่วง 6 เดือน Immersive Museum จึงได้เปิดตัวพื้นที่สำหรับงานศิลปะใหม่อีกครั้ง

Logo

ด้วยรายงานว่าประมาณ 1 ใน 10 ของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่มาเยือนญี่ปุ่นนั้นเข้าเยี่ยมชม teamLab Planets พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเปิดให้บริการจนถึงปี 2027

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–31 สิงหาคม 2023

teamLab Planets TOKYO DMM (“teamLab Planets”) ซึ่งพิพิธภัณฑ์แบบให้ร่างกายของผู้ชมเข้าไปมีส่วนร่วมกับชิ้นงาน (body-immersive museum)โดยกลุ่มศิลปะ teamLab ในโทโยสุ กรุงโตเกียว ได้เฉลิมฉลองการครบรอบปีที่ห้าด้วยการปรับปรุงพื้นที่งานศิลปะใหม่ เพื่อทำให้มันเป็นประสบการณ์ที่ดื่มด่ำยิ่งขึ้น

As visitors touch the countless crystals of light floating in the air, the work transforms interactively. On view at teamLab Planets, a body immersive museum in Toyosu, Tokyo. (teamLab, Ephemeral Solidified Light / Photo: teamLab)

เมื่อผู้เข้าชมสัมผัสคริสตัลไฟนับไม่ถ้วนที่ลอยอยู่ในอากาศ ผลงานศิลปะดังกล่าวจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในแบบที่ผู้เข้าชมมีปฏิสัมพันธ์ด้วย ภาพที่ teamLab Planets ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ผู้เข้าชมมีโอกาสคลุกคลีกับงานศิลปะที่ย่านโทะโยะซุในกรุงโตเกียว (teamLab, โซน Ephemeral Solidified Light / รูปถ่าย: teamLab)

ในช่วงหกเดือนตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงสิงหาคม 2023 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้ต้อนรับผู้เข้าชมประมาณหนึ่งล้านคนจาก 182 ประเทศและภูมิภาคนอกประเทศญี่ปุ่น คิดเป็น 70% ของจำนวนผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ทั้งหมด (*1) ทั้งยังมีรายงานด้วยว่าประมาณ 1 ใน 10 ของผู้มาเยือนญี่ปุ่นจากต่างประเทศมาเยี่ยมชม teamLab Planets (*2)

การติดตั้งที่เพิ่งเปิดตัวใหม่EPHEMERAL SOLIDIFIED LIGHT

ภายในงานศิลปะอันน่าตื่นตาซึ่งผู้มาเยือนสัมผัสได้ด้วยการลงไปในน้ำ และยังมีมวลแสงจำนวนนับไม่ถ้วนลอยอยู่ในอากาศ โดยแต่ละดวงประกอบด้วยสีสันหลากหลาย ขอบของแต่ละสีนั้นแยกออกจากกันอย่างชัดเจนราวกับเป็นของแข็ง การแยกมวลแสงที่ดูเหมือนสีทึบนั้นไม่พบในโลกธรรมชาติ และเกิดจากการประสานกันอย่างรุนแรง ปรากฏการณ์การประสานกันนี้สร้างโครงสร้างที่มีลำดับขนาดใหญ่ผ่านการจัดระเบียบตนเองเมื่อเวลาผ่านไป

การปรับปรุงพื้นที่งานศิลปะใหม่

ใน The Infinite Crystal Universe งานศิลปะนั้นสร้างประติมากรรมสามมิติจากกลุ่มของจุดแสง ผู้เข้าชมสามารถมีส่วนร่วมในชิ้นงานได้โดยใช้แอป teamLab และสร้างสรรค์งานศิลปะร่วมกับคนอื่นๆ ในพื้นที่ ด้วยการขว้างดาวที่คุณเลือกจากแอป ประติมากรรมแสงจะถูกสร้างขึ้นต่อหน้าคุณรวมทั้งพื้นที่ของชิ้นงานนี้ก็ถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มประติมากรรมแสงเหล่านี้ด้วย ด้วยการปรับปรุงใหม่ ประติมากรรมแสงใหม่ห้าชิ้นได้ถูกเพิ่มเข้ามาในสถานที่จัดวาง

การแสดงผลงานศิลปะประกอบไปด้วยวงกลมของแสงที่จะเปลี่ยนเป็นสีคลุมเครือตามปฏิกิริยาตอบโต้ของผู้คน Expanding Three-dimensional Existence in Transforming Space และพื้นที่งานศิลปะอื่นๆ หลายแห่งที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ เพื่อเพิ่มประสบการณ์การดื่มด่ำด้วยร่างกายทั้งหมดได้

นอกจากนี้ teamLab Planets ซึ่งเดิมมีกำหนดปิดในปลายปี 2023 ได้ถูกขยายออกไปจนถึงสิ้นปี 2027 เนื่องจากความนิยมของพิพิธภัณฑ์อีกด้วย

แนวคิดเบื้องหลัง TEAMLAB PLANETS

เชื่อมโยงกับผู้อื่น  พาร่างกายทั้งหมดเข้าไป รับรู้ด้วยร่างกายของคุณ และหลอมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันกับโลก

teamLab Planets เป็นพิพิธภัณฑ์ที่คุณจะได้เดินผ่านน้ำ และสวนซึ่งทำให้คุณเป็นหนึ่งเดียวกับดอกไม้ ที่นั่นประกอบด้วยพื้นที่แสดงผลงานศิลปะขนาดใหญ่ 4 แห่ง และสวน 2 แห่งซึ่งสร้างโดยกลุ่มงานศิลปะ teamLab

ผู้คนจะเดินเท้าเปล่าและดื่มด่ำกับงานศิลปะอันกว้างใหญ่ร่วมกับคนอื่นๆ โดยงานศิลปะนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปตามการปรากฏตัวของผู้คน ทำให้การรับรู้ขอบเขตระหว่างตนเองกับผลงานพร่ามัว เมื่อบุคคลอื่นๆ ก็มีส่วนในการเปลี่ยนแปลงของงานศิลปะ ทำให้ขอบเขตระหว่างตนเองกับผลงานนั้นไม่ชัดเจน และสร้างความต่อเนื่องกันระหว่างตนเอง ศิลปะ และผู้อื่น

*1 เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ teamLab Planets ข้อมูลการซื้อตั๋ว (ข้อมูลได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 31 สิงหาคม 2023)
*2 “Amazing Nippon / Digital Art Museum in Tokyo Enchants Overseas Tourists – The Japan News” The Japan News โดย the Yomiuri Shimbun 5 สิงหาคม 2023.

เกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์

teamLab Planets TOKYO DMM
6-1-16 Toyosu, Koto-ku, Tokyo
https://www.teamlab.art/e/planets/

เวลาทำการ
กันยายน – พฤศจิกายน: 09:00 – 22:00
*เข้าได้รอบสุดท้าย 1 ชั่วโมงก่อนปิด

*เวลาทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบเว็บไซต์อย่างเป็นทางการเพื่อดูข้อมูลล่าสุด
วันหยุด: 6 กันยายน (พุธ), 4 ตุลาคม (พุธ), 8 พฤศจิกายน (พุธ)

ค่าเข้าชม

ผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป): 3,800 เยน

นักเรียน (อายุ 13 – 17 ปี): 2,300 เยน

เด็ก (4 – 12 ปี): 1,300 เยน

3 ปีและต่ำกว่า: ฟรี

ส่วนลดสำหรับผู้ทุพพลภาพ: 1,900 เยน

ร้านจำหน่ายตั๋วอย่างเป็นทางการ
https://teamlabplanets.dmm.com

ร้านอาหารและร้านค้า
Vegan Ramen UZU Tokyo: https://vegan-uzu.com/pages/uzu-tokyo-en
teamLab Flower Shop: https://www.teamlab.art/e/flowershop/

สำหรับสื่อ
ชุดข่าวประชาสัมพันธ์: https://goo.gl/tQXMLm
วิดีโอไฮไลท์: https://youtu.be/KAQMAzRjoH0

เกี่ยวกับ PLANETS Co., Ltd.

ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 ดำเนินการและจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกของ teamLab Planets TOKYO

ที่ตั้ง: โตเกียวนิฮอนบาชิทาวเวอร์ ชั้น 10, 2-7-1 นิฮงบาชิ, ชูโอ-คุ, โตเกียว

ตัวแทน: ทาคูมิ โนโมโตะ

เกี่ยวกับ teamLab

teamLab (f. 2001) คือกลุ่มศิลปะระดับนานาชาติ แนวทางปฏิบัติร่วมกันของพวกเขาคือการมุ่งหวังที่จะนำทางการบรรจบกันของศิลปะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และโลกธรรมชาติ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญแบบสหวิทยาการ รวมถึงศิลปิน โปรแกรมเมอร์ วิศวกร นักสร้างแอนิเมชัน CG นักคณิตศาสตร์ และสถาปนิก มีเป้าหมายที่จะสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับโลก ตลอดจนการรับรู้รูปแบบใหม่ผ่านงานศิลปะ

เพื่อทำความเข้าใจโลกรอบตัวพวกเขา ผู้คนจึงแบ่งโลกออกเป็นอัตลักษณ์อิสระโดยมีขอบเขตการรับรู้ระหว่างพวกเขา teamLab พยายามที่จะก้าวข้ามขอบเขตเหล่านี้ในการรับรู้โลกของเรา ความสัมพันธ์ระหว่างตัวตนกับโลก และความต่อเนื่องของเวลา ทุกสิ่งดำรงอยู่ในความต่อเนื่องที่ยาวนาน เปราะบาง แต่อัศจรรย์ และไร้ขอบเขต

นิทรรศการ teamLab จัดขึ้นในเมืองต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงนิวยอร์ก ลอนดอน ปารีส สิงคโปร์ ซิลิคอนแวลลีย์ ปักกิ่ง และเมลเบิร์น และอื่นๆ อีกมากมาย พิพิธภัณฑ์ teamLab และนิทรรศการถาวรขนาดใหญ่ ได้แก่ teamLab Borderless และ teamLab Planets ในโตเกียว, teamLab Borderless Shanghai, teamLab SuperNature Macao และ teamLab Massless Beijing และอื่นๆ อีกมากมายที่จะเปิดตัวในเมืองต่างๆ เช่น อาบูดาบี ฮัมบูร์ก เจดดาห์ และอูเทรคต์

ผลงานของ teamLab อยู่ในคอลเลกชันถาวรของพิพิธภัณฑ์Museum of Contemporary Art ที่ลอสแอนเจลิส หอศิลป์แห่งนิวเซาธ์เวลส์ ซิดนีย์; หอศิลป์แห่งเซาท์ออสเตรเลีย แอดิเลด; พิพิธภัณฑ์ศิลปะAsian Art Museum ซานฟรานซิสโก; พิพิธภัณฑ์สมาคมเอเชีย นิวยอร์ก; Borusan Contemporary Art Collection ในอิสตันบูล; หอศิลป์แห่งชาติวิกตอเรีย เมลเบิร์น; และเอมอส เร็กซ์, เฮลซิงกิ และอื่นๆ อีกมากมาย

teamLab นำเสนอโดย Pace GalleryMartin Browne Contemporary และ Ikkan Art

teamLab: https://www.teamlab.art/
Instagram: https://instagram.com/teamlab/
Facebook: https://www.facebook.com/teamLab.inc
Twitter: https://twitter.com/teamLab_net
YouTube: https://www.youtube.com/c/teamLabART

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53546601/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

PLANETS Co., Ltd. Public Relations Department
E-mail: pr-info@planets.art
การสัมภาษณ์: https://forms.gle/fAtnDKLpQKFME6XR9

ที่มา: PLANETS Co., Ltd.



Al Marjan Island เตรียมนำเสนอ W Al Marjan Island โรงแรมแห่งที่สองของ Marriott International บนชายฝั่งของเกาะ

Logo

ราสอัลไคมาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE )–31 สิงหาคม 2023

Marjan ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในราสอัลไคมาห์ ได้ประกาศเปิดตัวโรงแรม W Hotel บน Al Marjan Island ด้วยความร่วมมือระหว่าง Marriott International, Inc. และ Dalands Holding

Al Marjan Island to feature Marriott International's second hospitality offering on its shores: W Al Marjan Island (Photo: AETOSWire)

Al Marjan Island เตรียมนำเสนอ W Al Marjan Island โรงแรมแห่งที่สองของ Marriott International บนชายฝั่งของเกาะ (ภาพ: AETOSWire)

Al Marjan Island มีกำหนดเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงต้นปี 2027 และพร้อมที่จะเดินหน้าบรรลุความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใคร 2 ประการ คือการเป็นธุรกิจโรงแรมแห่งที่สองบนเกาะนี้ของ Marriott International และเป็นโรงแรมแห่งแรกในราสอัลไคมาห์ของ W Hotel โดยนำการออกแบบที่โดดเด่นของแบรนด์ บริการที่โดดเด่นและโปรแกรมที่พร้อมใช้งานเสมอไปอยู่ที่เอมิเรตตอนเหนือ

จุดหมายปลายทางแห่งนี้ตั้งอยู่บนหมู่เกาะหลักของ Marjan โดยมีฉากหลังที่งดงามของคาบสมุทรอาหรับ และล้อมรอบด้วยเทือกเขา Yanas และ Jais โรงแรมจะช่วยยกระดับจุดหมายปลายทางเพื่อการพักผ่อนที่เจริญรุ่งเรืองนี้ให้มีความน่าดึงดูดไปอีกระดับ

ด้วยห้องพักและห้องสวีทในโรงแรมจำนวน 300 ห้องพร้อมวิวทะเลอันกว้างไกล ที่พักอันงดงามแห่งนี้คาดว่าจะมีพื้นที่อันเป็นเอกลักษณ์ เช่น ห้องนั่งเล่น, ดาดฟ้า WET, W Lounge, AWAY Spa และฟิตเนสเซ็นเตอร์ FIT พร้อมด้วยร้านอาหาร 3 แห่งและพื้นที่ค้าปลีก

Abdulla Al Abdouli ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Marjan กล่าวว่า “เนื่องจากราสอัลไคมาห์มีจุดยืนที่แข็งแกร่งในด้านภูมิทัศน์การท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างเป็นที่ยอมรับ เราจึงภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมสำคัญในการเพิ่มความน่าเชื่อถือและความน่าดึงดูดให้กับที่แห่งนี้ในสายตานักลงทุนทั่วโลก ความมุ่งมั่นนี้ได้นำไปสู่โครงการอันทรงเกียรติมากมาย ดังตัวอย่างจากการเปิดตัวเกาะ W Al Marjan Island”

“เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับ Dalands Holding เพื่อนำความมีชีวิตชีวาและการออกแบบแบบไดนามิกของ W มาสู่ Al Marjan Island” Saahil Lalit รองประธานฝ่ายพัฒนา ตะวันออกกลาง บริษัท Marriott International กล่าว “ราสอัลไคมาห์จะยังคงเป็นจุดหมายปลายทางเพื่อการพักผ่อนที่เป็นที่ต้องการซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมชมชายหาดและสถานที่ท่องเที่ยวอันงดงามต่อไป”

Saurabh Gupta ซีอีโอของ Dalands Holding กล่าวว่า “เราเชื่อว่าการพัฒนาที่ไม่ซ้ำใครนี้จะได้รับความนิยมอย่างมากจากการออกแบบที่โดดเด่น ที่พักหรูหรา และตัวเลือกอาหารที่ทันสมัย เช่นเดียวกับโรงแรมหรูอื่นๆ ในผลงานของเรา เรากำลังพัฒนา W Al Marjan Island เพื่อตอบสนองความต้องการของแขกในอนาคต โดยคัดสรรข้อเสนอสุดพิเศษและประสบการณ์อันน่าจดจำ”

ด้วยหาดทรายขาวที่ทอดยาวกว่า 7.8 กม. และพื้นที่ริมน้ำยาว 23 กม. Al Marjan Island ได้สร้างจินตนาการใหม่ให้กับการใช้ชีวิตริมน้ำที่หรูหราในราสอัลไคมาห์ด้วยกิจกรรมและกีฬาทางน้ำต่างๆ

*ที่มาAETOSWire

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:

https://www.businesswire.com/news/home/53547343/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

Nivine William 
nivine.william@bcw-global.com

ที่มา: Marjan



National Forestry and Grassland Administration: หมู่บ้านเล็กๆ ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกทึ่งอย่างไร ดู Yucun เพื่อหาคำตอบ

Logo

หูโจว ประเทศจีน–(BUSINESS WIRE)–21 สิงหาคม 2023

Anji Yucun อยู่ในเมืองหูโจว มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งตั้งชื่อตาม Yuling ตั้งอยู่ในเส้นทางของภูเขา Tianmu มีพื้นที่ 4.86 ตารางกิโลเมตร ถึงจะเล็กแต่ก็มีชื่อเสียง เนื่องจากเป็นแหล่งกำเนิดของ “น้ำใสสะอาดและภูเขาเขียวขจีที่เป็นสินทรัพย์อันประเมินค่าไม่ได้” Yucun มุ่งมั่นที่จะพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยมีความงดงามทางนิเวศวิทยา ความเจริญรุ่งเรืองทางอุตสาหกรรม และความร่ำรวยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เป็นตัวอย่างอันมีค่าสำหรับการสร้างอารยธรรมทางนิเวศวิทยาของจีน

Aerial view of Yucun (Photo: Business Wire)

ภาพถ่ายจากมุมสูงของ Yucun (ภาพ: Business Wire)

Yucun ผสมผสานการเกษตรเชิงนิเวศเข้ากับการท่องเที่ยว เปลี่ยนเหมืองร้างและโรงงานซีเมนต์ให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว แทนที่ไม้ไผ่ ชาขาวและการท่องเที่ยวเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่มีลักษณะเฉพาะ และเปลี่ยนฟาร์มให้เป็นบ้านไร่และโฮมสเตย์ที่มีลักษณะเฉพาะ ในฐานะที่เป็นหมู่บ้านแรกที่ได้รับเลือกให้เป็น “หมู่บ้านท่องเที่ยวที่ดีที่สุด” โดยองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ หมู่บ้านแห่งนี้รับนักท่องเที่ยวกว่า 700,000 คนในปี 2022

Yucun ก่อตั้ง “หมู่บ้านปลอดคาร์บอน” แห่งแรกของจีน และเพิ่มสร้างอาคารที่ทันสมัย ​​”Yucun Impression” ที่เปลี่ยนจากโรงงานเคมีเสร็จสมบูรณ์ เนื่องจากเป็นอาคารปลอดคาร์บอนอย่างแท้จริง จึงอาศัยระบบผลิตไฟฟ้าโซลาร์เซลล์จากพลังงานหมุนเวียนเพื่อชดเชยคาร์บอน

ความสำคัญเชิงนิเวศน์และการพัฒนาสีเขียวได้เปลี่ยนแปลงการผลิตและชีวิตของผู้คนในหมู่บ้านแห่งนี้ไป ในเดือนกรกฎาคม 2022 ได้มีการเปิดตัว “Yucun Global Partner Program” โดยเชิญผู้มีความสามารถระดับโลกมาร่วมกันสร้าง Yucun และขยายการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เพื่อขยายช่องทางการเปลี่ยนแปลงจาก “น้ำใสและภูเขาเขียวขจี” เป็น “ทรัพย์สินที่ประเมินค่าไม่ได้” Yucun ร่วมมือกับหมู่บ้าน 24 แห่งในสามเมืองโดยรอบเพื่อสร้าง “Great Yucun” โดยสร้างพิมพ์เขียวสำหรับพื้นที่ผู้ประกอบการ 100,000 ตร.ม. พื้นที่โรงงานกว่า 20,000 ตร.ม. ป่าไผ่และพื้นที่เพาะปลูกเกือบ 60,000 mu

Yucun ดำเนินบนเส้นทางการพัฒนาสีเขียวอย่างถูกต้อง และมีรายได้รวมทางเศรษฐกิจ 13.05 ล้านหยวนในปี 2022 โดยมีรายได้สุทธิต่อหัว 64,000 หยวน และรายได้จากการดำเนินงานมากกว่า 8 ล้านหยวน

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: www.businesswire.com/news/home/20230818921835/en/

ติดต่อ

Leiying
937449597@qq.com
http://www.forestry.gov.cn/lyj/1/lcdt/20230818/517777.html

แหล่งที่มา: National Forestry and Grassland Administration

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

OAG เข้าซื้อกิจการของ Infare และร่วมลงทุนใหม่กับ Vitruvian Partners

Logo

การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มข้อมูลตั๋วเดินทางสายการบินเข้าในแพลตฟอร์มข่าวกรองชั้นนำอัจฉริยะสำหรับตลาดของ OAG

LONDON–(BUSINESS WIRE)–28 กรกฎาคม 2023

OAG แพลตฟอร์มข้อมูลชั้นนำสำหรับอุตสาหกรรมการเดินทางทั่วโลกได้เข้าซื้อกิจการของ Infare ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านข้อมูลการเดินทางทางอากาศจาก Ventiga Capital ตามข้อตกลงที่มีมูลค่ากิจการที่ร่วมกันกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ OAG และ Infare จะมีก้าวต่อไปที่น่าตื่นเต้นในอนาคตจากการใช้ประโยชน์ของแพลตฟอร์มข้อมูลแบบ end-to-end เพื่อตอบสนองความต้องการทั่วโลกด้านข่าวกรองการเดินทางทางอากาศที่สำคัญ

ด้วยมรดกทางอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียง ทั้งสองธุรกิจนี้มีแนวคิดเดียวกันด้านคุณภาพ ความแม่นยำ และการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง จึงทำให้การจับมือในครั้งนี้จะทำให้ OAG และ Infare มีโอกาสสำคัญในการขยายบริการพันธมิตรสายการบินและระบบนิเวศการเดินทางให้กว้างขึ้น พร้อมข้อมูลและโซลูชันเชิงนวัตกรรมที่มีคุณภาพสูง

Infare เป็นพันธมิตรทางเลือกสำหรับสายการบินที่ต้องการแหล่งข้อมูลการเดินทางทางอากาศที่มีคุณภาพดีเยี่ยม เพื่อรองรับการเติบโตของสายการบิน การรวมโซลูชันข้อมูลที่มีอยู่ของ OAG เข้ากับระบบข้อมูลตั๋วเดินทางของสายการบินจะสร้างข้อเสนอที่น่าสนใจสำหรับลูกค้า เพื่อให้สามารถมองเห็นภาพรวมของอุปสงค์และอุปทานได้กว้างขึ้น ระบบนี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถคาดการณ์ทรัพยากร ประเมินความต้องการในการเดินทางและการแข่งขัน และสร้างโมเดลที่ซับซ้อนและเป็นนวัตกรรมมากขึ้น เพื่อเสริมรายได้และการเติบโตของผลกำไร

โดยการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ ทำให้ OAG เติบโตมากขึ้นและมีพนักงานกว่า 300 คนทั่วโลกในสำนักงาน 10 แห่ง

Phil Callow, CEO ของ OAG กล่าว

ไดนามิกที่เพิ่มขึ้นในการเดินทางและเทคโนโลยีทั่วโลกกระตุ้นให้มีความต้องการข้อมูลที่ละเอียดและซับซ้อนมากขึ้น เพื่อทำความเข้าใจ จัดการ และเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตในการเดินทางทางอากาศ การเข้าซื้อกิจการของ Infare จะช่วยเสริมความสามารถของเราในการนำเสนอข้อมูลที่สอดคล้องกับแม่นยำทั่วทั้งห่วงโซ่อุปทานและอุปสงค์ที่กว้างขึ้น และช่วยให้ทั้งลูกค้าเก่าและใหม่สามารถเติบโตและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ฉันรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากจะได้ต้อนรับเพื่อนร่วมงานจาก Infare เข้าสู่ครอบครัวของ OAG”

Nils Gelbjerg-Hansen, CEO ของ Infare กล่าว

การเข้าถึงข้อมูลที่ครอบคลุมและแม่นยำเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับการตัดสินใจทางธุรกิจที่ข้อมูลมีความสำคัญ สายการบินใช้ข้อมูลต่างๆ เพื่อวิเคราะห์เชิงลึกในพฤติกรรมการเดินทางของลูกค้า แนวโน้มของตลาด และประสิทธิภาพในการดำเนินงาน แพลตฟอร์มเทคโนโลยีของเรา ชุดข้อมูล และซอฟต์แวร์อัจฉริยะ จะช่วยเสริมการทำงานของ OAG และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับลูกค้าของเราทั่วโลก เรามองว่า นี่เป็นโอกาสพิเศษที่จะได้ขยายฐานบริการของเรา และแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าของเรา เรารู้สึกตื่นเต้นในก้าวใหม่นี้ไปด้วยกัน

ทีมฝ่ายบริหารทั้งสองทีมจะยังคงอยู่ในกลุ่มบริษัทและถือหุ้นอยู่ตามเดิม โดยได้รับการสนับสนุนจาก Vitruvian

Ben Johnson พันธมิตรของ Vitruvian กล่าว

“OAG และ Infare ต่างเป็นผู้นำในตลาดระดับโลกภาคส่วนเฉพาะอย่างเห็นได้ชัด การร่วมมือกันจะสร้างโอกาสในการเติบโตให้กับทั้งสองทีม Vitruvian มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนบริษัทเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ และผสานความสัมพันธ์ของเราให้ก้าวไกลในอนาคต

Niclas Gabrán พันธมิตรฝ่ายบริหารจัดการ ของ Ventiga Capital Partners กล่าว

เป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้ร่วมงานกับ Nils และทีมงาน ในการสร้าง Infare ให้เป็นผู้ให้บริการข้อมูลด้านการเดินทางชั้นนำผ่านการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญและการเข้าซื้อกิจการ ก้าวต่อไปของ Infare ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว OAG จะสร้างโอกาสในการเติบโตทั้งภายในและภายนอกภาคส่วนการเดินทางทางอากาศอย่างไม่มีข้อสงสัย

เกี่ยวกับ OAG

OAG เป็นแพลตฟอร์มข้อมูลชั้นนำสหรับอุตสาหกรรมการเดินทางทั่วโลก ซึ่งขับเคลื่อนการเติบโตและนวัตกรรมของระบบนิเวศการเดินทางทางอากาศมาตั้งแต่ปี 1929 โดยมีเครือข่ายข้อมูลเที่ยวบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมการเดินทางทุกส่วน ตั้งแต่การวางแผนจนถึงประสบการณ์การเดินทางของลูกค้า ลูกค้าประกอบด้วยสายการบิน ท่าอากาศยาน ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีการเดินทาง ผู้ให้บริการด้านการบิน หน่วยงานราชการ สถาบันการเงิน และที่ปรึกษา OAG มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สหราชอาณาจักร และมีหน่วยดำเนินงานอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น จีน และลิทัวเนีย สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.oag.com และติดตามเราได้ที่ Twitter @OAG Aviation

เกี่ยวกับ Infare

Infare เป็นผู้นำด้านการให้บริการข้อมูลการเดินทางทางอากาศ ช่วยให้สายการบินสามารถตัดสินใจและกำหนดราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภารกิจของ Infare คือ การบริการข้อมูลการเดินทางทางอากาศของแต่ละสายการบินที่แม่นยำให้กับระบบของสายการบินต่างๆ อาจเป็นการส่งข้อมูลให้หลายครั้งในแต่ละวันหรือเป็นข้อมูลแบบเรียลไทม์ โดยบริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2000 และมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Copenhagen, Denmark และมีสาขาอยู่ทั่วโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.infare.com และติดตามเราได้ที่ LinkedIn

เกี่ยวกับ Vitruvian Partners

Vitruvian เป็นบริษัทลงทุนอิสระที่มีการเติบโต และมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ลอนดอน และมีสาขาอยู่ทั่วโลก Vitruvian มุ่งเน้นสถานการณ์ที่โดดเด่นด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีการเปลี่ยนแปลงทั้วทั้งอุตสาหกรรม โดยครอบคลุมเทคโนโลยี บริการทางการเงิน การดูแลสุขภาพ และบริการทางธุรกิจและผู้บริโภค Vitruvian เป็นหนึ่งในกลุ่มทุนที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปที่มีการสนับสนุนบริษัทที่มีนวัตกรรมและการเติบโตที่สูงขึ้น Vitruvian Funds ให้การสนับสนุนบริษัทกว่า 90 แห่ง และมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการกว่า 1.5 หมื่นล้านยูโร การลงทุนที่โดดเด่นจนถึงปัจจุบันนี้ประกอบด้วยผู้นำตลาดระดับโลกและนักประดิษฐ์ในแต่ละสาขา เช่น Skyscanner, Sykes Holiday Cottages, CFC Underwriting, CallCredit, Travel Counsellors, Trustpilot, Farfetch, Just Eat, Wise และ Global-e

เกี่ยวกับ Ventiga Capital Partners

Ventiga เป็นผู้ประกอบการและนักลงทุนที่มุ่งเน้นการเติบโต โดยมีการร่วมมือกับผู้ประกอบการและทีมนักบริหารที่ยอดเยี่ยม เพื่อให้บรรลุการเติบโตแบบยั่งยืน มีผลกำไร และสร้างมูลค่า ด้วยความรับผิดชอบ มีส่วนร่วม และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง Ventiga มีการลงทุนในบริษัทที่มีการเติบโตพร้อมกำไร และมีศักยภาพในการขยายธุรกิจที่เหนือกว่า โดยจะเป็นธุรกิจแบบ B2B เป็นหลัก

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Media Enquiries
pressoffice@oag.com

UK/EMEA /ASPAC
Dom Conolly/ Harvard PR

North America
Chrissy Azevedo
Corporate Ink for OAG

แหล่งที่มา: OAG

HEINZ® เปิดตัวแพลตฟอร์มแบรนด์ที่มีความคิดสร้างสรรค์ระดับโลกเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 150 ปี

Logo

การวางตำแหน่งสินค้าใหม่ เฉลิมฉลองและแสดงถึงความรักที่ไร้เหตุผลของแฟน ๆ ตัวจริงที่มีต่อแบรนด์

ชิคาโก พิตส์เบิร์ก และลอนดอน–(BUSINESS WIRE)–1 มิถุนายน 2023

วันนี้ HEINZ ประกาศ “It Has to be HEINZ” แพลตฟอร์มระดับโลกใหม่ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 150 ปี ที่แบรนด์ถูกรวมเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้กลยุทธ์ความคิดสร้างสรรค์เดียว แคมเปญนี้แสดงความเคารพต่อแบรนด์ด้วยการเฉลิมฉลองความรักที่ไร้เหตุผลที่ผู้คนมีให้ HEINZ – ตั้งแต่ความรักใคร่ส่วนตัวของแฟน ๆ ตัวจริงที่มีต่อแบรนด์ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นด้วยความรักและห่วงใย

HEINZ announces its first new global platform in its 150-year history “It Has to be HEINZ,” inspired by real-life stories of fans’ undeniable love of HEINZ (Graphic: Business Wire)

HEINZ ประกาศแพลตฟอร์มใหม่ระดับโลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 150 ปี “It Has to be HEINZ” ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงเกี่ยวกับความรักที่ไม่อาจปฏิเสธได้ของแฟน ๆ ที่มีต่อ HEINZ (กราฟิก: Business Wire)

สนับสนุนโดยการลงทุนด้านสื่อที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาจนถึงปัจจุบันของ Kraft HEINZ แพลตฟอร์มความคิดสร้างสรรค์ระดับโลกนี้แสดงให้เห็นถึงความรักที่ไม่มีใครเทียบของผู้คนทั่วโลกหลายยุคสมัยที่มีต่อ HEINZ ตั้งแต่ซอสมะเขือเทศ ไปจนถึง ถึง Beanz และทุกสิ่งที่อยู่ระหว่างกลาง เรื่องราวของแฟน ๆ ที่ถูกแสดงให้เห็นในความคิดสร้างสรรค์ เช่น รอยสัก HEINZ การพกซองเครื่องปรุงในกระเป๋าถือ และการลักลอบนำเข้ากระป๋อง Beanz ผ่านการรักษาความปลอดภัยสนามบิน มีที่มาจากโซเชียลมีเดีย บทความข่าว และผ่านการบอกเล่าปากต่อปาก

“ในขณะที่เรามองเพื่อที่จะรวมแบรนด์ให้เป็นหนึ่งภายใต้แพลตฟอร์มแบรนด์ระดับโลกเดียว เราดำดิ่งสู่โลกของผู้บริโภคของเราและพบว่าพวกเขาทั้งหมดมีสิ่งที่เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ พวกเขาจะไปไกลอย่างไร้เหตุผลเพื่อผลิตภัณฑ์ HEINZ” Diana Frost ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเติบโต โซนอเมริกาเหนือที่ Kraft HEINZ Company กล่าว “ในฐานะแบรนด์ที่หมกมุ่นอยู่กับผู้บริโภคของเรา เราสร้าง 'It Has to be HEINZ' ให้เป็นเพลงรักของเรา ส่งกลับไปหาพวกเขา แฟน ๆ คือแรงบันดาลใจของเรา”

เป็นเวลากว่า 150 ปี ที่ HEINZ มุ่งมั่นทำสิ่งธรรมดาให้ได้ดีเป็นพิเศษ ทุกวันนี้ คุณภาพที่ไม่มีใครเทียบยังคงเป็นแก่นแท้ของความเชื่อและการปฏิบัติของแบรนด์ ตั้งแต่การคัดสรรอย่างพิถีพิถันเฉพาะส่วนผสมที่มีคุณภาพสูงสุดโดย “ผู้เชี่ยวชาญมะเขือเทศ” 7 คน ไปจนถึงเป้าหมายในการจัดหาซอสมะเขือเทศที่ยั่งยืน 100% ภายในปี 2025 แต่ละขั้นตอนได้รับการพิจารณาอย่างพิถีพิถันเพื่อให้แน่ใจว่าได้ส่งมอบรสชาติที่ไม่ผิดเพี้ยนของ HEINZ ทุกครั้ง

“แฟน ๆ ของเราอาจไปได้ไกลมากอย่างไร้เหตุผล สำหรับ HEINZ แต่ความรู้สึกนั้นมีร่วมกัน – เราหมกมุ่นกับผลิตภัณฑ์ของเราพอ ๆ กับพวกเขา และไม่อาจรอที่จะแบ่งปันกับโลก” Cristina Kenz ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเติบโตโซนนานาชาติที่ Kraft HEINZ Company กล่าว “ความรักที่ไร้เหตุผลนี้ยังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่กว่าที่ Kraft HEINZ ซึ่งเรากำลังเคลื่อนไปด้วยความเร็วของวัฒนธรรมเพื่อสร้างความประหลาดใจและความปิติยินดีให้กับผู้บริโภคด้วยนวัตกรรมที่นำโดยความเข้าใจอย่างถ่องแท้และประสบการณ์แท้จริงที่มีต่อแบรนด์”

แคมเปญนี้พัฒนาโดยความร่วมมือกับ Wieden+Kennedy แสดงให้เห็น 5 สปอตเรื่องจริงและอาจเป็นจริง ในสไตล์วีนแยทท์ เพื่อเฉลิมฉลองให้กับความรักที่ไม่มีใครเทียบที่ผู้คนมีให้ซอสมะเขือเทศ HEINZ และ Beanz แพลตฟอร์มใหม่นี้จะถูกแสดงในช่องทางต่าง ๆ โดยกำหนดเป้าหมายการเข้าถึงจำนวนมากและการวางตำแหน่งที่มีผลกระทบสูงผ่านทีวี วิดีโอออนไลน์ โรงภาพยนตร์ โซเชียล และสื่อโฆษณานอกบ้าน “It Has to be HEINZ” จะเปิดตัวในสหรัฐอเมริกา แคนาดา สหราชอาณาจักร และเยอรมนี และจะเปิดตัวสู่ตลาดอื่น ๆ ในอีก 6 เดือนข้างหน้า

ติดตามชมได้ที่ @Heinz, @Heinz_ca และ @heinz_uk บน Instagram และ @Heinz_us, @heinz_ca และ @heinzuk บน TikTok

เกี่ยวกับ Kraft HEINZ Company

เรากำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่ Kraft HEINZ Company (Nasdaq: KHC) ได้รับแรงบันดาลใจจากวัตถุประสงค์ของเรา มาทำให้ชีวิตอร่อยกันเถอะ ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งที่เราทำ ด้วยยอดขายสุทธิในปี 2022 ที่ประมาณ 26 พันล้านเหรียญสหรัฐ เรามีความมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตของแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มที่โดดเด่นและเกิดใหม่ของเราในระดับโลก เราใช้ประโยชน์จากขนาดและความคล่องตัวของเราเพื่อปลดปล่อยพลังของ Kraft HEINZ อย่างเต็มที่ทั่วทั้งพอร์ตโฟลิโอของหกแพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์ที่ขับเคลื่อนโดยผู้บริโภค ในฐานะพลเมืองโลก เราอุทิศตนเพื่อสร้างผลกระทบที่ยั่งยืนและมีจริยธรรม ในขณะที่ช่วยให้อาหารโลกด้วยในลักษณะที่ดีต่อสุขภาพและมีความรับผิดชอบ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทางของเราโดยการเยี่ยมชม www.kraftheinzcompany.com หรือติดตามเราทาง LinkedIn และ Twitter

ติดต่อ

Jenna Thornton
Kraft HEINZ Company (สอบถามโซนอเมริกาเหนือ)
Jenna.Thornton@kraftheinz.com

Marissa Munnings
Kraft HEINZ Company (สอบถามระหว่างประเทศ)
Marissa.Munnings@kraftheinz.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53410607en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

แหล่งที่มา: Kraft HEINZ Company

EGGDROP ร้านค้าในสนามบินอินชอนมีลูกค้าทะลุ 100,000 รายในช่วงสี่เดือนแรกนับตั้งแต่เปิดตัว

Logo

การเติบโตที่มั่นคงได้รับแรงหนุนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นและรับรู้ถึงแบรนด์ที่แข็งแกร่งในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ

โซล เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–30 พฤษภาคม 2023

EGGDROP แบรนด์แซนด์วิชระดับพรีเมียมชื่อดังของ Golden Hind (CEO Noh Young-woo) ประสบความสำเร็จอย่างน่าประทับใจโดยมีลูกค้ามากกว่า 100,000 รายในสี่เดือนนับตั้งแต่ EGGDROP เปิดสนามบินอินชอน

American Ham Cheese sandwich, the signature menu of EGGDROP, combines scrambled eggs, light ham, and cheese between thick bread, all enhanced by EGGDROP’s special sauce. (Photo: Golden Hind)

แซนวิชแฮมชีสอเมริกัน เมนูซิกเนเจอร์ของ EGGDROP ผสมผสานระหว่างไข่คน แฮมไขมันต่ำ และชีสระหว่างขนมปังแผ่นหนา เติมด้วยซอสสูตรพิเศษของ EGGDROP (ภาพ: Golden Hind)

เพื่อรำลึกถึงความสำเร็จนี้ EGGDROP ได้เปิดตัววิดีโอสั้นที่น่าสนใจซึ่งแสดงประสบการณ์การรับประทานอาหารที่อร่อย และมีประโยชน์ที่สาขาสนามบินอินชอน โดยเน้นที่ความอร่อย และอาหารเพื่อสุขภาพก่อนออกเดินทาง

EGGDROP สนามบินอินชอนตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ของพื้นที่ปลอดภาษีทางฝั่งตะวันตกของอาคารผู้โดยสาร 1 ที่สนามบินนานาชาติอินชอน จำนวนลูกค้าสูงสุดรายวันเพิ่มขึ้นกว่า 70% จาก 700 รายในเดือนมกราคม 2023 ซึ่งเป็นเดือนแรกหลังจากเปิดตัว เป็นมากกว่า 1,200 รายในเดือนพฤษภาคม 2023 และจำนวนลูกค้าสะสมทะลุ 100,000 รายในวันที่ 13 พฤษภาคม 2023 นอกจากนี้ยอดขายก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่ยั่งยืนของแซนวิชระดับพรีเมียมชั้นนำของเกาหลี และบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเทรนด์อาหารเค

แซนวิช 'อเมริกันแฮมชีส' โดดเด่นในฐานะรายการที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในหมู่ผู้เข้าชม การสร้างสรรค์ที่เย้ายวนใจนี้ดึงดูดใจทั้งชาวเกาหลีและชาวต่างชาติ ได้รับความนิยมจากรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์

“สำหรับผู้โดยสารที่กำลังจะขึ้นเครื่อง แซนวิช EGGDROP นำเสนออาหารที่ 'เรียบง่ายแต่น่าพึงพอใจ'” Lee Ah-rim สมาชิกทีมการตลาดของ Golden Hind กล่าว

ก่อนเปิดร้านในสนามบินอินชอนในเดือนธันวาคม 2022 EGGDROP ได้เปิดตัวในระดับสากลด้วยการเปิดสาขาระดับโลกแห่งแรกในกรุงเทพฯ ประเทศไทย ขณะนี้บริษัทกำลังเตรียมเปิดสาขาที่ 2 และ 3 ในกรุงเทพฯ

Noh Young-woo ซีอีโอของ โกลเด้นฮินด์กล่าวว่า “การเปิดร้านในสนามบินอินชอนเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ของ EGGDROP ในการเสริมสร้างอิทธิพลของแบรนด์ผ่านการร่วมมือกับเนื้อหา K ต่างๆ อีกทั้งเพิ่มการรับรู้และขยายฐานลูกค้าทั่วโลก”

ภาพรวม EGGDROP

เป็นมากกว่าไข่, EGGDROP
EGGDROP เป็นแบรนด์แซนด์วิชไข่ระดับพรีเมียมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไข่ “อาหารสมบูรณ์” ซึ่งปรุงอาหารเพื่อสุขภาพด้วยไข่คนที่ทำจากไข่เกรด A+ และวัตถุดิบสดใหม่

ภาพรวมของ Golden Hind

Golden Hind เป็นบริษัทใหม่และสร้างสรรค์ที่สนับสนุน “ธุรกิจอาหาร” ในฐานะบริษัทแฟรนไชส์ร้านอาหารที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 ในกรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ปัจจุบัน EGGDROP เป็นธุรกิจชั้นนำและบ่มเพาะแบรนด์อื่นๆ มากมาย

สอบถามแฟรนไชส์ EGGDROP: https://eggdrop.co.kr/th/franchise/inquiry.php

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53407908/en

รายชื่อติดต่อ

Golden Hind
Ahrim Lee
+82-1670-4809
ahrim.lee@goldenhind.co.kr

ที่มา: Golden Hind

Cvent ประกาศจุดหมายปลายทางการประชุมยอดนิยมและโรงแรมจัดการประชุมยอดนิยมในเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2023

Logo

รายชื่อยอดนิยมประจำปีที่มีการรอคอยอย่างสูงซึ่งเผยแพร่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดโรคระบาด นำเสนอโรงแรม MICE ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและจุดหมายปลายทางการประชุมที่เป็นที่ต้องการ

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–23 พฤษภาคม 2023

Cvent ผู้ให้บริการเทคโนโลยีการประชุม กิจกรรม และการบริการระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม เปิดเผยรายชื่อ จุดหมายปลายทางการประชุมยอดนิยม และ โรงแรมจัดการประชุมยอดนิยม สำหรับเอเชียแปซิฟิก รายชื่อเหล่านี้ ซึ่งรวมถึงการจัดอันดับภูมิภาคสำหรับอเมริกาเหนือ ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ได้รับการรวบรวมโดยอิงจากกิจกรรมการจัดหาผ่าน Cvent Supplier Network ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการจัดหาสถานที่จัดงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก นี่เป็นครั้งแรกที่ Cvent เผยแพร่รายชื่อประจำปี นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้อุตสาหกรรมการประชุมและงานอีเวนต์หยุดชะงักในช่วงต้นปี 2020

Graham Pope รองประธานฝ่ายขายระหว่างประเทศของ Cvent กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลได้ปฏิวัติวิธีการที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อดึงดูดนักวางแผน และเพิ่มความพยายามด้านการขายและการตลาดเพื่อดึงดูดการประชุมและกิจกรรมมายังที่พักหรือสถานที่ของตน การระบาดใหญ่ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการประชุมและงานอีเวนต์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งนั้นช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจในท้องถิ่นได้อย่างไร และรายการ Cvent Top Lists ของเราได้เน้นย้ำถึงโรงแรม สถานที่ และจุดหมายปลายทางที่ทำให้เกิดการกลับมาอย่างน่าทึ่งโดยใช้ประโยชน์จากการกลับมาอย่างรวดเร็วในการจัดงานแบบตัวต่อตัว หลังจาก 4 ปีที่ยาวนาน เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้อีกครั้งและจัดหาทรัพยากรที่ผู้จัดงานใช้เพื่อค้นหาโรงแรมและจุดหมายปลายทางที่ยอดเยี่ยม และใช้โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการที่ต้องการสร้างความแตกต่างเพื่อเพิ่มรายได้ MICE”

จุดหมายปลายทางการประชุมยอดนิยมของ Cvent

เมื่อข้อจำกัดการแพร่ระบาดผ่อนคลายลงและการเดินทางท่องเที่ยวกลับมาดำเนินต่อ จุดหมายปลายทางหลายแห่งทั่วเอเชียแปซิฟิกได้เห็นการหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศและคณะกรรมการการท่องเที่ยวระดับภูมิภาคทำงานอย่างขยันขันแข็งเพื่อโปรโมทเมืองของตนและดึงดูดนักท่องเที่ยวเหล่านี้ไปยังสถานที่ของตน ด้วยการท่องเที่ยวในภูมิภาคที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง การแสวงหาพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ การเปิดตัวสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ และการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเข้าถึงผู้ชมที่กว้างขึ้นได้กลายมาเป็นวาระสำคัญสำหรับคณะกรรมการการท่องเที่ยวในเอเชียแปซิฟิก

จุดหมายปลายทางการประชุม 10 อันดับแรกในเอเชียแปซิฟิก

1. สิงคโปร์

2. ซิดนีย์ ออสเตรเลีย

3. กรุงเทพฯ ไทย

4. กรุงโซล เกาหลีใต้

5. เมลเบิร์น ออสเตรเลีย

6. โตเกียว ญี่ปุ่น

7. บาหลี อินโดนีเซีย

8. กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย

9. โกลด์โคสต์ ออสเตรเลีย

10. ภูเก็ต ไทย

โรงแรมจัดการประชุมยอดนิยมของ Cvent

การฟื้นตัวของตลาดที่แข็งแกร่งใน APAC กระตุ้นให้โรงแรมเปิดตัวอสังหาริมทรัพย์ใหม่ ลงทุนในการปรับปรุงใหม่ และดำเนินการขยายขอบเขตเพื่อรองรับนักเดินทางและหมู่คณะให้ดียิ่งขึ้น เมื่อเปรียบเทียบอันดับในปีนี้กับปี 2019 ผู้มาใหม่ใน 10 อันดับแรก ได้แก่ Fairmont Singapore (#1), Conrad Centennial Singapore (#4), Swissôtel The Stamford Singapore (#5) และ InterContinental Singapore (#6) โรงแรมที่ให้ความสำคัญกับสิ่งอำนวยความสะดวกในการประชุมล้ำสมัยยังโดดเด่นอยู่ใน 10 อันดับแรก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความคุ้มค่าที่ยั่งยืนของการลงทุนเพื่อดึงดูดธุรกิจ MICE

10 สุดยอดโรงแรมสำหรับการประชุมในเอเชียแปซิฟิก

1. Fairmont Singapore

2. Hyatt Regency Sydney

3. Shangri-La Singapore

4. Conrad Centennial Singapore

5. Swissôtel The Stamford Singapore

6. InterContinental Singapore

7. Pan Pacific Singapore

8. Hilton Singapore Orchard

9. PARKROYAL COLLECTION, Singapore

10. JW Marriott Hotel Singapore South Beach

“เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการจัดอันดับที่สองในรายชื่อโรงแรมยอดนิยมของ Cvent และเราประสบความสำเร็จอย่างมากเนื่องจากแพลตฟอร์ม Cvent Supplier Network” กล่าวโดย Rachela Virgara ผู้อำนวยการฝ่ายขาย – MICE ของ Hyatt Regency Sydney “แพลตฟอร์มนี้ทำให้การเชื่อมต่อลูกค้ากับโรงแรมและผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวทั่วโลกเป็นเรื่องง่าย การมีแพลตฟอร์มเดียวที่สอดคล้องกันทำให้การสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว และช่วยให้สามารถสร้างความสัมพันธ์และการเชื่อมต่อที่อย่างอื่นอาจไม่เคยมีมาก่อน การได้รับการยอมรับนี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงพลังของเทคโนโลยีและความร่วมมือในอุตสาหกรรมการบริการ และเราหวังว่าจะได้ร่วมมือกับ Cvent ต่อไปเพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับแขกของเรา”

หากต้องการดูจุดหมายปลายทางการประชุมยอดนิยมของ Cvent และโรงแรมจัดการประชุมยอดนิยมของ Cvent ทั่วโลก คลิกที่นี่

ระเบียบวิธี

สำหรับโรงแรมจัดการประชุมยอดนิยมของ Cvent นั้น Cvent ประเมินคุณสมบัติโรงแรมที่สร้างธุรกิจผ่าน Cvent Supplier Network ระหว่างเดือนมกราคม 2022 ถึงธันวาคม 2022 ที่พักได้รับการจัดอันดับตามเกณฑ์ต่าง ๆ รวมถึงคำขอทั้งหมดสำหรับข้อเสนอ (RFP), RFP ที่ได้รับรางวัล, จำนวนคืนห้องพักทั้งหมด, คืนห้องพักที่ได้รับรางวัล, ส่วนแบ่งการตลาดในเขตเมืองใหญ่, อัตราการแปลง และอัตราการตอบกลับ เกณฑ์นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผลสะท้อนที่ถูกต้องที่สุดของโรงแรมชั้นนำสำหรับการประชุมในอเมริกาเหนือ ยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

สำหรับจุดหมายปลายทางการประชุมยอดนิยมของ Cvent นั้น Cvent ได้ประเมินเมืองต่าง ๆ กว่า 12,500 เมืองทั่วโลกที่มีรายชื่ออยู่ใน Cvent Supplier Network มีการติดตามกิจกรรมระหว่างเดือนมกราคม 2022 ถึงธันวาคม 2022 การจัดอันดับพิจารณาจากชุดเกณฑ์ที่มีคุณสมบัติ ได้แก่ จำนวนคืนห้องพักทั้งหมดที่จองผ่าน Cvent Supplier Network; จำนวนคำขอเสนอทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ซ้ำกัน (RFPs) ที่ส่งผ่านตลาดไปยังสถานที่ต่าง ๆ ภายในเมือง; มูลค่ารวมของ RFPs ที่ส่ง; และมูลค่าที่ได้รับจริงสำหรับการประชุมที่จองไว้

เกี่ยวกับ Cvent Supplier Network

Cvent Supplier Network (CSN) มีโรงแรม รีสอร์ท และสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษมากกว่า 300,000 แห่ง ซึ่งทำหน้าที่เป็นฐานข้อมูลรายละเอียดสถานที่ที่ใหญ่ที่สุดและแม่นยำที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เงินมากกว่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์มาจากเครือข่ายการจัดหาของ Cvent ในปี 2022 CSN มีรายชื่อโรงแรมและสถานที่อื่น ๆ ใน 18 ภาษาที่สามารถค้นหาและกรองตามลักษณะและเกณฑ์ต่าง ๆ กว่า 200 รายการ เครือข่ายเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม Cvent ที่ครอบคลุม ซึ่งนำเสนอโซลูชันที่โรงแรมและสถานที่ต่าง ๆ ใช้ประโยชน์โดยตรงจากเครือข่ายทั่วโลกที่มีนักวางแผนกว่า 109,000 ราย จัดการ MICE และธุรกิจท่องเที่ยวขององค์กร และขับเคลื่อนผลลัพธ์ที่สร้างผลกำไร

เกี่ยวกับ Cvent

Cvent Holding Corp. (Nasdaq: CVT) เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีการประชุม กิจกรรม และการบริการชั้นนำ โดยมีพนักงานกว่า 4,800 คนและลูกค้ากว่า 21,000 รายทั่วโลก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2023 บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 1999 โดยให้บริการแพลตฟอร์มการตลาดและการจัดการงานอีเวนต์ที่ครอบคลุม และนำเสนอตลาดระดับโลกที่ผู้เชี่ยวชาญด้านอีเวนต์ร่วมมือกับสถานที่ต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าดึงดูดและส่งผลกระทบ Cvent มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองไทสันส์ รัฐเวอร์จิเนีย นอกกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และมีสำนักงานเพิ่มเติมทั่วโลกเพื่อรองรับฐานลูกค้าทั่วโลกที่กำลังเติบโต แพลตฟอร์มการตลาดและการจัดการอีเวนต์ของ Cvent ที่ครอบคลุมนำเสนอโซลูชันซอฟต์แวร์สำหรับผู้จัดงานและนักการตลาดสำหรับการลงทะเบียนกิจกรรมออนไลน์ การเลือกสถานที่ การตลาดและการจัดการอีเวนต์ โซลูชันเสมือนจริงและนอกสถานที่ และการมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วม ชุดผลิตภัณฑ์ของ Cvent ทำให้วงจรการจัดการอีเวนต์เป็นไปอย่างอัตโนมัติและลดความซับซ้อน และเพิ่มผลกระทบสูงสุดจากเหตุการณ์แบบเผชิญหน้า เสมือนจริง และแบบผสมผสาน โรงแรมและสถานที่ต่าง ๆ ใช้โซลูชันซัพพลายเออร์และสถานที่ของ Cvent เพื่อคว้ารางวัลธุรกิจ MICE และธุรกิจท่องเที่ยวสำหรับองค์กรมากขึ้นผ่านแพลตฟอร์มการจัดหาของ Cvent โซลูชัน Cvent เพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่คุณค่าการจัดการอีเวนต์และช่วยให้ลูกค้าทั่วโลกสามารถจัดการการประชุมและกิจกรรมหลายล้านรายการ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ Cvent.com/in

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Sucharita Das
Cvent
Sucharita.das@cvent.com
+91 9899128886

แหล่งที่มา: Cvent Holding Corp.

Transformers: The Ark ร้านอาหารเรือธงในธีม Transformers แห่งแรกของโลกที่ดื่มด่ำกับเทคโนโลยี 3 มิติ การออกแบบยานอวกาศพร้อมประสบการณ์การรับประทานอาหารท่ามกลางดวงดาว

Logo

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–15 พฤษภาคม 2023

Transformers เป็นที่ชื่นชอบในวัยเด็กของชาวฮ่องกงหลายคน ร้านอาหารธีม Transformers แห่งแรกของโลกเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2023 ที่ Russell Street ใน Causeway Bay สร้างสรรค์โดย A La Carte Hong Kong Limited โดยร่วมมือกับ Hasbro ผู้นำด้านความบันเทิงแบรนด์ระดับโลก ร้านอาหารได้รับการออกแบบตามแนวคิดของ The Ark ซึ่งเป็นยานอวกาศขนาดใหญ่ที่ Autobots ใช้ในซีรีส์ Transformers ขณะเข้าใกล้โลก ยานของพวกเขาสูญเสียพลังงานเนื่องจากพลังงานหมดลงและลงจอดฉุกเฉินในย่าน Causeway Bay ที่พลุกพล่านของฮ่องกง จึงเข้าสู่โลกของมนุษย์

(Photo: Business Wire)

(Photo: Business Wire)

ร้านอาหาร Transformers: The Ark เป็นร้านอาหารแห่งแรกในฮ่องกงที่รวมคอนเทนต์สื่อ 3 มิติที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเข้ากับสถาปัตยกรรมทางกายภาพ ส่วนหน้าอาคารมีเครื่องยนต์ยานอวกาศสามมิติที่โดดเด่นที่ทางเข้า พร้อมด้วยจอ LED ขนาดใหญ่พร้อมแอนิเมชัน 3 มิติที่ออกแบบโดยเฉพาะซึ่งจะทำให้แขกได้ดื่มด่ำในโลกของ Transformers เครื่องยนต์ยานอวกาศสร้างเอฟเฟกต์แสงและเสียงที่น่าทึ่งซึ่งซิงก์กับแอนิเมชัน 3 มิติ ให้ความรู้สึกเหมือนยานอวกาศบินอยู่ในอวกาศด้วยเอฟเฟกต์ภาพที่สมจริง

เหล่า Autobots เชิญชวนให้มนุษย์เพลิดเพลินกับอาหารพิเศษจาก Cybertron บน The Ark เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือจากมนุษยชาติในการค้นหา Energon ที่เหลืออยู่บนโลก อาหารแต่ละจานได้รับการรังสรรค์อย่างพิถีพิถันโดยเชฟ นักวิทยาศาสตร์การอาหาร และผู้เชี่ยวชาญด้านการทำอาหารของ A La Carte ด้วยความช่วยเหลือจาก Bumblebee และ Optimus Prime ใน “Food Lab” ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้นบนของร้านอาหารดังที่เห็นในหน้าจอ 3 มิติด้วยตาเปล่า จะมีการเสิร์ฟอาหารไปยังลูกค้าผ่านสายพานเสมือนจริงที่วิ่งผ่านร้านอาหาร ทำให้ลูกค้าสามารถดื่มด่ำกับภาพงานเลี้ยงที่นำเสนอโดย Autobots ได้อย่างเต็มที่

Bumblebee, Optimus Prime และเชฟชื่อดังจะพาคุณท่องไปในโลกแห่งอาหารแบบ Cybertronian Cuisine

อาหารจานเด่นของร้านอาหารคือเบอร์เกอร์ธีม Transformers ที่สร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษโดยเชฟของเราด้วยวัตถุดิบระดับพรีเมียมสำหรับเนื้อบด ซอส และสูตรอาหาร โดยสร้างสรรค์เมนูที่อัดแน่นไปด้วยพลังงานที่ไม่เหมือนใครสำหรับร้านอาหารเรือธงธีม Transformers แห่งแรกของโลก ขนมปังเบอร์เกอร์ทั้งหมดทำขึ้นเองโดยใช้แป้งโฮลวีตที่กรอบนอกนุ่มใน สอดไส้ด้วยผักไฮโดรโปนิกส์ออร์แกนิคสด 4 ชนิดและไส้แสนอร่อย ปรุงและเตรียมโดยทีมงานบริการอาหารที่ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดี อาหารทุกจานมีการผสมผสานที่ลงตัวของรสชาติที่ไม่มีใครเทียบและการนำเสนอที่น่าดึงดูด สร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าจดจำสำหรับแฟน Transformers และผู้ที่ชื่นชอบอาหารเหมือนกัน

ไพรม์เบอร์เกอร์และจานซิกเนเจอร์

แบล็กทรัฟเฟิลแองกัสเบอร์เกอร์ (Black Truffle Angus Burger)

กุญแจสำคัญของเบอร์เกอร์กูร์เมต์นี้คือเนื้อวัวแองกัสนำเข้าเกรดพรีเมียมที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี ซึ่งภูมิใจนำเสนอเนื้อที่นุ่มและชุ่มฉ่ำ เบอร์เกอร์เนื้อของเราไม่เพียงแต่เข้มข้นด้วยรสชาติของเนื้อแท้เท่านั้น แต่ยังราดด้วยซอสเห็ดทรัฟเฟิลสูตรลับของเรา ทำให้ได้ลิ้มรสชาติที่ยากจะลืมเลือน

เบอร์เกอร์อโวคาโดเนื้อปู (Crab Meat Avocado Burger)

ปรุงด้วยเนื้อปูสด เนื้อปูที่มีเอกลักษณ์และอร่อยของเราผสมกับซอสอะโวคาโดโฮมเมดของเราทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่เข้มข้นและน่าพึงพอใจ เราใช้ขนมปังเบอร์เกอร์ที่ทำจากบีทรูทที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติเพื่อเพิ่มรสชาติและโภชนาการ

ไก่ทอด (Fried Chicken)

ทำจากไก่ปลอดฮอร์โมนระดับพรีเมียม เนื้อไก่ของเราหมักด้วยส่วนผสมลับของเครื่องเทศแล้วทอดด้วยอุณหภูมิสูงเพื่อให้ได้กลิ่นหอมยั่วยวน การเคลือบแบบกรอบทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่นุ่มและเรียบเนียน เนื้อไก่ชุ่มฉ่ำทำให้คุณอยากทานมากขึ้นเมื่อกัดแต่ละครั้ง

บลูสเปซ (Blue Space)

เราได้สร้างเครื่องดื่มให้พลังงานที่เป็นมิตรต่อมนุษย์โดยใช้พลังของ Energon น้ำโซดาแสนสดชื่นผสมแอนโทไซยานินจากดอกอัญชันโดยใช้เม็ดสีธรรมชาติเพื่อสร้างสีฟ้าชวนฝัน เมื่อจับคู่กับมะนาว สะระแหน่ และวุ้นบุก เครื่องดื่มนี้จะเต็มไปด้วยพลังงาน ที่เติมพลังและความสดชื่นให้กับคุณ!

ชาอู่หลงพร้อมบุก (Konjac Oolong Tea)

ใบชา Four Seasons จากไต้หวันผสมผสานอย่างลงตัวเพื่อให้ได้รสชาติที่นุ่มนวลและไม่ขม เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและสดชื่นนี้จะช่วยล้างปากและสามารถดื่มด่ำกับรสชาติได้อย่างเต็มที่ การใส่วุ้นบุกจะให้เนื้อสัมผัสที่เข้มข้นขึ้น ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและน่าพึงพอใจมากยิ่งขึ้น

เพื่อสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ดื่มด่ำให้กับลูกค้า การตกแต่งภายในและภายนอกของ Transformers: The Ark ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันให้คล้ายกับยานอวกาศ พร้อมด้วยอุปกรณ์มัลติมีเดียและคอนเทนต์ต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถก้าวเข้าสู่โลกของ Transformers และดื่มด่ำกับงานฉลองที่สามารถมองเห็นองค์ประกอบแห่งอนาคตทั่วทั้งร้านอาหาร เหมาะอย่างยิ่งสำหรับโอกาสในการถ่ายรูปในทุกมุม

ที่ชั้นล่างมีรูปปั้นหุ่นยนต์ Optimus Prime สูง 3 เมตรแห่งแรกในเอเชีย ซึ่งใช้เวลาสร้างนานกว่าเก้าเดือน การถ่ายภาพเซลฟี่และถ่ายภาพกับรูปปั้น Optimus Prime ของแท้คุณภาพสูงเป็นสิ่งที่แฟน ๆ Transformers ทุกคนไม่ควรพลาด!

เมื่อลูกค้าขึ้นบันไดไปยังชั้นบน พวกเขาจะได้เข้าไปในห้องควบคุมของยานอวกาศ ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังเดินทางผ่านอวกาศ จอ LED แบบกำหนดเองบนผนังและเพดานเล่นฟุตเทจ “สด” ของพื้นที่รอบนอก สร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจและน่าดึงดูดใจแก่ผู้เข้าพัก ตัวละคร Transformers จะปรากฏตัวและโต้ตอบเพื่อยกระดับประสบการณ์การรับประทานอาหารให้สนุกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีเซอร์ไพรส์ที่ซ่อนอยู่ทั่วทั้งร้านเพื่อประสบการณ์การรับประทานอาหารที่มากกว่าที่เห็น

สินค้าลิมิเต็ดเอดิชันสุดพิเศษและของที่ระลึกเพื่อความสุขในการชอปปิง

The Ark มีร้านขายสินค้า Transformers ซึ่งเป็นร้าน Transformers อย่างเป็นทางการแห่งแรกในฮ่องกง โดยนำเสนอฟิกเกอร์ Transformers และสินค้าไลฟ์สไตล์มากมาย นอกจากนี้ ร้านอาหารยังมีการนำเสนอของสะสมที่ทำขึ้นเอง เช่น เสื้อผ้าลิมิเต็ดเอดิชันและสินค้าแบรนด์ร่วม ด้วยเข่นกัน

เพื่อเป็นการฉลองการเปิดร้านอาหารเรือธง Transformers: The Ark แห่งแรกของโลก ทางร้านจะจำหน่ายฟิกเกอร์ Transformers สุดพิเศษ โดยมีเพียง 100 ชุดทั่วโลก จำหน่ายเฉพาะที่ Transformers: The Ark ในฮ่องกงเท่านั้น ตัวเลขพิเศษเหล่านี้มาพร้อมกับใบรับรองที่มีหมายเลขเฉพาะ ทำให้เป็นที่ต้องการสำหรับนักสะสมที่มีวิสัยทัศน์ แฟน ๆ ควรติดตามหน้าโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการของ Transformers: The Ark สำหรับวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เกี่ยวกับ Transformers: The Ark

Transformers: The Ark เป็นร้านอาหารธีม Transformers แห่งแรกของโลก สร้างสรรค์โดย A La Carte Hong Kong Limited ภายใต้ลิขสิทธิ์จาก Hasbro ร้านอาหารมีศูนย์กลางอยู่ที่แบรนด์ Transformers และให้บริการอาหารฟาสต์ฟู้ดระดับพรีเมียม พร้อมร้านค้าของที่ระลึกที่จำหน่ายฟิกเกอร์ Transformers และสินค้าไลฟ์สไตล์รุ่นลิมิเต็ดเอดิชัน การออกแบบร้านอาหารได้รับแรงบันดาลใจจากยานอวกาศ The Ark และรวมเอาสื่อดิจิตอลไฮเทคที่สมจริง ทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ไม่เหมือนใครอย่างแท้จริงในจักรวาลของ Transformers

ที่อยู่: G/F, 38 Russell Street, Causeway Bay, Hong Kong
เวลาทำการ: 11:00 น. – 23:00 น.
Facebook: @Transformers: The ARK
Instagram: @transformers_the_ark_hkg

เกี่ยวกับ A La Carte

การใช้ความก้าวหน้าล่าสุดในการแปรรูปและการเตรียมอาหารรวมกับส่วนผสมคุณภาพสูง เรากำลังสำรวจระบบบริการอัตโนมัติด้วยวิทยาศาสตร์การอาหารเพื่อให้แน่ใจว่าอาหารทุกจานที่เตรียมในครัวและร้านอาหารของเราตรงตามมาตรฐานการทำอาหารสูงสุด นอกจากนี้ เรายังตั้งเป้าที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ การใช้พลังงาน และการสูญเสียอาหารโดยไม่กระทบต่อการนำเสนอตัวเลือกเมนูที่เป็นแบบอย่างและดีต่อสุขภาพ

A La Carte มีโปรแกรมการฝึกอบรมที่ดูแลและเอาใจใส่โดยเฉพาะซึ่งนำโดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเพื่อให้ความรู้และเตรียมความพร้อมให้กับผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและเครื่องดื่มรุ่นต่อไป

เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา: www.alacarte.global และ www.ifreegroup.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53399302/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ 360 Creative Production Limited:
Christine Tse | 6446 1775 |christinetse@360creativesolution.com

แหล่งที่มา: A La Carte (HK) Limited








Tommy Hilfiger, Mercedes-AMG PETRONAS Formula One Team และ Awake NY เปิดตัวความร่วมมือที่ Miami Grand Prix

Logo

ความร่วมมือนี้ช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างโลกแห่งการแข่งรถและแฟชั่น ขณะเดียวกันก็เป็นเวทีสำหรับชุมชนที่ด้อยโอกาส

อัมสเตอร์ดัม –(BUSINESS WIRE)–4 พฤษภาคม 2023

Tommy Hilfiger ซึ่งมี PVH Corp. เป็นเจ้าของ [NYSE: PVH] ประกาศร่วมกับทีม Mercedes-AMG PETRONAS Formula One ว่าแบรนด์สตรีทแวร์ในนิวยอร์ก Awake NY ได้ร่วมกันสร้างคอลเลกชันและแคมเปญ Tommy x Mercedes-AMG F1 x Awake NY ใหม่ เปิดตัวในวันที่ 4 พฤษภาคม ก่อนการแข่งขัน Miami Grand Prix คอลเลกชันนี้ผสมผสานความรู้สึกสไตล์สตรีทของผู้ก่อตั้ง Awake NY Angelo Baque เข้ากับ TOMMY HILFIGER เพื่อสร้างสรรค์สุนทรียะ กลุ่มไอคอนไลฟ์สไตล์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมอเตอร์สปอร์ตที่กล้าที่จะแตกต่าง

Tommy Hilfiger, Mercedes-AMG PETRONAS Formula One Team and Awake NY Launch Collaboration at Miami Grand Prix

Tommy Hilfiger, Mercedes-AMG PETRONAS Formula One Team และ Awake NY เปิดตัวความร่วมมือที่ Miami Grand Prix

“ฉันเป็นแฟน F1 มาตั้งแต่เด็ก และเราได้ทำลายข้อตกลงในการเป็นหุ้นส่วนกับกีฬานี้มาตั้งแต่ยุค 90” Tommy Hilfiger กล่าว “ด้วยความร่วมมือนี้ เราต้องการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ต่อไปด้วยทั้งการออกแบบและจิตวิญญาณที่ไม่แบ่งแยก เพื่อสร้างมุมมองใหม่ที่กล้าหาญสำหรับผู้ชื่นชอบการแข่งขันรุ่นต่อไป”

Angelo Baque ผู้ชื่นชอบ Lewis Hamilton อย่างมากและเป็นแฟนของ Formula 1 สามารถมอบคุณค่าการออกแบบและรสนิยมของเขาให้กับชุมชน วัฒนธรรม และเมืองไมอามีเพื่อเฉลิมฉลองการแข่งขันกรังด์ปรีซ์สุดสัปดาห์ คอลเลกชันนี้นำเสนอวิสัยทัศน์ใหม่ของ Formula 1 ซึ่งมุมมองต่างๆ ปะทะกัน แรงบันดาลใจได้รับการจุดประกาย และยินดีต้อนรับทุกคนเข้าร่วมการแข่งขัน

“การเข้าชมคลังเอกสาร Tommy ของฉันจุดประกายความคิดถึงในวัยเยาว์ของฉันและเป็นแรงบันดาลใจมากมายในแนวทางของฉันในการรวบรวมคอลเลกชันนี้” Angelo Baque กล่าว “ความปรารถนาของฉันคือการตีความสตรีทแวร์และอเมริกาน่าอย่างแท้จริง ไม่เคยคิดเลยว่าเด็กชาวเอกวาดอร์คนนี้จากควีนส์ รัฐนิวยอร์ก ในหนึ่งล้านปีจะออกแบบชิ้นส่วนที่ Lewis Hamilton, George Russell และ Mercedes-AMG F1 สวมใส่อย่างภาคภูมิ การได้เห็น Tommy, Lewis และตัวฉันทำงานร่วมกันในโปรเจ็กต์นี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเรารุ่นเยาว์ในการทำความเข้าใจเรื่องการเป็นตัวแทน”

แคมเปญนี้ติดตามเรื่องราวของความมุ่งมั่น ความมุ่งมั่น และจิตวิญญาณที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับแชมป์เจ็ดสมัยและตำนาน F1 อย่าง Lewis Hamilton, George Russell ผู้ชนะ Grand-Prix และ Angelo Baque จาก Awake NY รวมถึง Mr. Tommy Hilfiger ในการเดินทางของแต่ละคน และคุณสมบัติของนักขับ Mercedes-AMG Petronas F1 Reserved, Mick Schumacher แคมเปญนี้ถ่ายโดย Adrienne Raquel และเนื้อหาวิดีโอถ่ายโดย Anthony Prince Leslie

สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของโครงการ People's Place ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มของ Tommy Hilfiger ที่มุ่งมอบโอกาสให้กับชุมชนที่ด้อยโอกาสในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ความร่วมมือนี้จะทำงานร่วมกับ Creatives Want Change (CWC) โดยเชิญผู้เข้าร่วม BIPOC เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันในไมอามีในวันที่ 7 พฤษภาคม Danae Harrison, Dayne Thompson และ Donald Whorley จาก CWC จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Angelo Baque บนกริดก่อนการแข่งขัน เพื่อสำรวจว่าการทำงานร่วมกันมีวิวัฒนาการอย่างไร ตั้งแต่แนวคิดไปจนถึงการผลิต

“การเปลี่ยนแปลงเป็นส่วนหนึ่งของทั้งกีฬาและชีวิตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในฐานะทีม เราเข้าใจถึงความสำคัญของการยอมรับสิ่งนี้ทั้งในและนอกเส้นทางเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม สร้างแรงบันดาลใจ และรับมือกับความท้าทายที่นำเสนอต่อเราอย่างต่อเนื่อง” Toto Wolff ซีอีโอและหัวหน้าทีมของทีม Mercedes-AMG PETRONAS F1 กล่าว “เราภูมิใจที่ได้เฉลิมฉลองคุณค่าที่มีร่วมกันผ่านความร่วมมือนี้ ไม่เพียงแค่สร้างคอลเลกชันที่โดดเด่นเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนและเน้นย้ำผู้สร้างจากชุมชนที่ด้อยโอกาสอีกด้วย”

คอลเลคชัน Tommy x Mercedes-AMG F1 x Awake NY ของสไตล์ที่รวมเพศทั้ง 7 แบบได้นำเสนอเนื้อหาหลักในเอกสารสำคัญอีกครั้งด้วยแรงบันดาลใจจากการแข่งรถและสุนทรียภาพบนท้องถนนของนิวยอร์ค แก่นแท้ของ Americana นำมาสู่การแข่งขัน Formula 1 ด้วยเสื้อแข่งเบสบอลสุดคลาสสิก ในขณะที่เสื้อยืดสำหรับการแข่งขัน Miami Grand Prix นั้นมีให้เลือกในสีชมพู diva น้ำมะนาวสีน้ำเงินไฟฟ้า และสีดำ โลโก้ของทีม Tommy, Awake NY และ Mercedes-AMG PETRONAS F1 อยู่บนเสื้อแขนยาว เสื้อโปโล เสื้อเบสบอล และเสื้อรักบี้ เสื้อยืดและเสื้อเบสบอลแสดงหมายเลขการแข่งของนักแข่ง โดยมี 44 ของ Lewis Hamilton และ 63 ของ George Russell ในขณะที่ Awake NY ยกย่องเป็นพิเศษโดยอ้างอิงถึงปี ’85 ซึ่งเป็นปีที่เปิดตัว Tommy Hilfiger Colorways ได้แก่ ซิกเนเจอร์ของ Tommy สีแดง ขาว และน้ำเงิน ในขณะที่ชิ้นส่วนของ Mercedes-AMG F1 แสดงจานสีหลักของทีมที่เป็นสีขาวดำและเน้นด้วยสีเขียว volt

“ตั้งแต่เริ่มต้นการเป็นหุ้นส่วนในปี 2018 เราได้ผลักดันขอบเขตของสิ่งที่เป็นไปได้อย่างต่อเนื่องโดยการสร้างช่วงที่โดดเด่น เน้นประเด็นสำคัญต่อทั้งสององค์กร และแบ่งปันเรื่องราวที่น่าทึ่ง” Richard Sanders ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของ ทีม Mercedes-AMG PETRONAS F1 “แคมเปญที่สร้างสรรค์นี้เป็นก้าวต่อไป ซึ่งสะท้อนถึงการทำงานของความคิดริเริ่มที่สำคัญ เช่น โครงการ People’s Place และ Accelerate 25ในขณะที่สร้างคอลเลกชันที่สะดุดตา”

คอลเลกชันจะวางจำหน่ายที่ Tommy.com, shop.mercedesamgf1.com, เลือกร้านค้า TOMMY HILFIGER  และแทร็กที่กำหนดในช่วงสุดสัปดาห์ Grand Prix ซึ่งกำลังจะมาถึง

เพื่อนของแบรนด์ได้รับเชิญให้เข้าร่วมชุมชนและสนทนาบนโซเชียลมีเดียโดยใช้แท็ก #TommyHilfiger, #TommyxMercedes-AMGF1xAwakeNY และ @TommyHilfiger

เกี่ยวกับ TOMMY HILFIGER

TOMMY HILFIGER คือหนึ่งในแบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก โดยยกระดับและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริโภคมาตั้งแต่ปี 1985 แบรนด์นี้สร้างสไตล์ที่โดดเด่นซึ่งมีชีวิตชีวาที่จุดตัดระหว่างความคลาสสิกและความใหม่ สร้างสรรค์ร่วมกับผู้คนที่หล่อหลอมวัฒนธรรมทั่วโลก TOMMY HILFIGER เฉลิมฉลองแก่นแท้ของสไตล์อเมริกันคลาสสิกพร้อมความทันสมัย Tommy Hilfiger นำเสนอคุณภาพและคุณค่าระดับพรีเมียมแก่ผู้บริโภคทั่วโลกภายใต้ไลฟ์สไตล์ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS โดยมีคอลเลกชันมากมาย เช่น ชุดกีฬาบุรุษ สตรีและเด็ก เดนิม เครื่องประดับ และรองเท้า Tommy Hilfiger มีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ต่อความยั่งยืนและการไม่แบ่งแยก

ยอดขายปลีกทั่วโลกของผลิตภัณฑ์ TOMMY HILFIGER มีมูลค่าประมาณ 9.3 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2021 และแบรนด์นี้ขับเคลื่อนโดยผู้ร่วมงานมากกว่า 16,000 รายทั่วโลก ซึ่งมีอยู่ใน 100 ประเทศและร้านค้าปลีกมากกว่า 2,000 แห่ง รวมถึงร้านค้าระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดเก็บที่ tommy.com PVH เข้าซื้อกิจการของ Tommy Hilfiger ในปี 2010 และยังคงดูแลแนวทางที่มุ่งเน้นในการขยายความเกี่ยวข้อง การมีอยู่ของแบรนด์ และการเติบโตในระยะยาวของแบรนด์ทั่วโลก

เกี่ยวกับ PVH Corp.

PVH เป็นหนึ่งในบริษัทแฟชั่นที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความชื่นชมมากที่สุดในโลก โดยเชื่อมต่อกับผู้บริโภคในกว่า 40 ประเทศ แบรนด์ที่โดดเด่นระดับโลกของเรา ได้แก่ Calvin Klein และ TOMMY HILFIGER ประวัติศาสตร์กว่า 140 ปีของเราสร้างขึ้นจากความแข็งแกร่งของแบรนด์ ทีมของเรา และความมุ่งมั่นของเราที่จะขับเคลื่อนแฟชั่นไปข้างหน้าเพื่อสิ่งที่ดี นั่นคือพลังของเรา นั่นคือพลังของ PVH

ติดตามเราบน Facebook, Instagram, Twitter และ LinkedIn

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53390947/en

รายชื่อติดต่อ

สื่อสัมพันธ์:
Tommy Hilfiger
Lyndsey Anderson
ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์ระดับโลก
Lyndsey.anderson@tommy.com

ที่มา: PVH Corp.