Category Archives: Lifestyle

Jeonju: ที่สุดของเมืองเกาหลี

Logo

รสนิยม Jeonju’

JEONJU, South Korea–(BUSINESS WIRE)–30 พฤศจิกายน 2023

Jeonju City เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่โดดเด่นในเกาหลี ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนมากกว่า 10 ล้านคนต่อปี เป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมเกาหลีที่สามารถรักษาความเป็นเกาหลีดั้งเดิมไว้ได้อย่างดีเยี่ยม

Jeonju is rich in cultural treasures and historic landmarks steeped in history and culture. (Photo: Jeonju City)

Jeonju เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยสมบัติล้ำค่าทางวัฒนธรรมและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม (ภาพถ่าย: Jeonju City))

Jeonju มีชื่ออย่างเป็นทางการในปี 757 เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีรากฐานในประวัติศาสตร์เกาหลี เมืองนี้ยังคงรักษาประวัติศาสตร์อันยาวนานและวัฒนธรรมดั้งเดิมในฐานะเมืองประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ Joseon

Jeonju อุดมไปด้วยสมบัติทางวัฒนธรรมและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เด็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม Jeonju Hanok VillageGyeonggijeonPungnammun GatePungpaejigwan (Jeonju Guesthouse) และ Jeolla Gamyeong ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง และ Jeonju IC, Jeonju Station และ Honam Jeilmun Gate โดยแต่ละแห่งทำหน้าที่เป็นประตูหลักสู่ Jeonju City ซึ่งอยู่ในรูปแบบของฮันอก

Jeonju ได้รับเลือกให้เป็นเมืองแห่งความสร้างสรรค์ด้านอาหารของ UNESCO และเป็นเมืองแห่งอาหารรสเลิศ Jeonju เป็นแหล่งกำเนิดของอาหารขึ้นชื่อของเกาหลีอย่าง bibimbap และเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการท่องเที่ยวแบบเพลิดเพลินกับอาหารเอร็ดอร่อย โดยคุณสามารถลิ้มลองอาหารที่หลากหลายตั้งแต่ซุปถั่วงอกไปจนถึง Korean Table d'hôte

ใน Jeonju Hanok Village เป็นสถานที่ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมสวมชุดฮันบกอันเป็นเอกลักษณ์ของเกาหลีไปเดินเล่นตามถนน มีการแสดงดนตรีเกาหลีแบบดั้งเดิม เช่น แพนโซริ ดนตรีเกาหลีแบบฟิวชั่น และป็อบ Joseon ที่ผสมผสานความรู้สึกสมัยใหม่เข้ากับดนตรีแบบดั้งเดิม ซึ่งสามารถเข้าเยือนได้ตลอดทั้งปี

Jeonju เป็นเมืองที่มีสมบัติประจำชาติที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในเกาหลี คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์อันประณีตที่ผลิตโดยช่างฝีมือในเมืองมรดกระดับโลกแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ National Intangible Heritage Center และ ICHCAP ภายใต้การอุปถัมภ์ของ UNESCO Jeonju ยังเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของ “Hanji” ซึ่งเป็นกระดาษที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก

Jeonju เมืองซึ่งเป็นที่รู้จักด้านงานเทศกาลต่างๆ โดยจะมีการจัดงาน ‘Jeonju International Film Festival’ ในทุกฤดูใบไม้ผลิ เช่นเดียวกับกิจกรรมทางวัฒนธรรมและเทศกาลต่างๆ ที่รวบรวมเอกลักษณ์ของ Jeonju ตลอดทั้งปี เช่น  Jeonju Bibimbap FestivalJeonju Hanji Culture FestivalJeonju International Sori Festival และเทศกาลประจำ Jeonju City ที่เรียกว่า Jeonju Festa

Woo Beom-ki นายกเทศมนตรีเมือง Jeonju กล่าวว่า “Jeonju เป็นเมืองแห่งทรัพย์สินทางประวัติศาสตร์และความสามารถทางวัฒนธรรม มุ่งมั่นที่จะนำเสนอประวัติศาสตร์ที่แท้จริงดั้งเดิม และเสริมสร้างเอกลักษณ์ด้วยการอนุรักษ์ทรัพย์สินอันมีค่า ขณะเดียวกัน ก็สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อย่างแน่วแน่ เฉพาะในสิ่งที่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง ฉันหวังว่า นักท่องเที่ยวจะได้รับประสบการณ์และมีความทรงจำที่สวยงามเกี่ยวกับ Jeonju ซึ่งเป็นที่สุดของเมืองเกาหลี แหล่งผสมผสานประเพณีและความทันสมัยเข้าด้วยกัน”

– เว็บไซต์ส่งเสริมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของ Jeonju: https://tour.jeonju.go.kr/eng/index.jeonju

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53863442/en

ติดต่อ

JEONJU CITY
Ho-jin Park
+82-63-281-2226
mirano10@korea.kr

แหล่งข้อมูล: JEONJU CITY


การถ่ายทอดสดงาน Tokushima International Consumer’s Forum 2023 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม 2023

Logo

โทคุชิมะ ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–12 ตุลาคม 2023

จังหวัดโทคุชิมะจะเป็นเจ้าภาพจัดงาน “Tokushima International Consumer’s Forum 2023” ภายใต้หัวข้อ “การเสริมพลังผู้บริโภคในยุคดิจิทัล” เพื่อส่งเสริมการแบ่งปันข้อมูลและความร่วมมือระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายผู้บริโภคในประเทศและต่างประเทศ รวมไปถึงนักศึกษามหาวิทยาลัยจากภายในจังหวัดโทคุชิมะและภูมิภาคอาเซียนและอื่น ๆ เพื่อให้พวกเขาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงของผู้บริโภคและมาตรการรับมือที่เกิดจาก “ความก้าวหน้าของการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล”

The world famous Awa Dance has a 400 years’ history. The story of its origin varies. It is said that Awa Dance was performed often around the time Hachisuka Iemasa, a feudal load of Tokushima, entered Tokushima in 1586, and hoarded the wealth produced by the indigo and salt trades. Later, indigo traders played an active part and made the dance even more gorgeous year by year. Awa Dance was established in the civil society and flourished as a free-form of mass entertainment. Especially, after World War II, it developed rapidly as a symbol of reconstruction. Nowadays, Awa Dance is well-known around the world as a representative of Japan’s traditional arts. (Photo: Business Wire)

การเต้นรำอาวะซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกนั้นมีประวัติยาวนานถึง 400 ปี ต้นกำเนิดของมันมีเรื่องราวที่มาแตกต่างกันไป กล่าวกันว่าการเต้นรำอาวะได้จัดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงยุคสมัยของ Hachisuka Iemasa ซึ่งเป็นกลุ่มศักดินาของโทคุชิมะได้เข้ามาสู่โทคุชิมะในปี 1586 และสะสมความมั่งคั่งที่เกิดจากการสีย้อมและเกลือ ต่อมาบรรดาผู้ค้าสีย้อมก็เข้ามามีส่วนร่วมและทำให้การเต้นรำนี้งดงามยิ่งขึ้นทุกปี การเต้นรำอาวะถือกำเนิดขึ้นในสังคมพลเมืองและเจริญรุ่งเรืองในฐานะความบันเทิงของมวลชนอันมีรูปแบบอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 การเต้นรำอาวะได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วจนเป็นสัญลักษณ์ของการบูรณะใหม่ ปัจจุบันกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะตัวแทนของศิลปะแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น (รูปภาพ: Business Wire)

ผู้บริโภคต้องเผชิญกับอันตรายอะไรบ้างในสังคมดิจิทัลที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วนี้ ผู้บริโภคจะป้องกันตัวเองได้อย่างไรในขณะที่ยังคงเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายของสังคมดิจิทัล อีกทั้งผู้บริโภคมีบทบาทอย่างไรในยุคใหม่นี้

เพื่อตอบคำถามเหล่านี้ ผู้นำผู้บริโภคและผู้นำรุ่นต่อไปจากทั่วโลกจะมารวมตัวกันที่โทคุชิมะ ซึ่งเป็นผู้นำของญี่ปุ่นในด้านนโยบายผู้บริโภคร่วมกับสำนักงานใหญ่เชิงกลยุทธ์ของหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคญี่ปุ่น (Consumer Affairs Agency: CCA) บัดนี้ เราเสนอแนวทางบริโภคนิยมรูปแบบใหม่ในยุคดิจิทัลจากโทคุชิมะสู่โลก

การประชุมแสดงความคิดเห็นจะมีการถ่ายทอดสดบนเว็บไซต์ด้านล่าง เราหวังว่าการประชุมที่กำลังจะมาถึงนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการอภิปรายอันมีความหมายซึ่งจะนำไปสู่ความก้าวหน้าของนโยบายผู้บริโภคระหว่างประเทศและพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีต่อสังคมอันยั่งยืนสำหรับทุกคนทั่วโลก

  1. หัวข้อหลัก
    การเสริมพลังผู้บริโภคในยุคดิจิทัล
  2. วันที่และเวลา (ตามเวลามาตรฐานญี่ปุ่น JST)
    วันที่ 31 ตุลาคม (วันอังคาร) 2023 เวลา 10.30–17.00 น. (ถ่ายทอดสด)
  3. กำหนดการ (ตามเวลามาตรฐานญี่ปุ่น JST)
  • 10.30–10.50 น. กล่าวเปิดงาน
  • 10.50–11.50 น. คำปราศัยสำคัญ
    [ 30 ปีแห่งผู้บริโภคดิจิทัล – ความดี ความเลวร้าย และอนาคต – ]
  • 13.00–14.30 น. การประชุมร่วมกับหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคญี่ปุ่น
    [ การคุ้มครองผู้บริโภคในยุคดิจิทัล – ปัจจุบันและอนาคต – ]
  • 15.00–16.40 น. การประชุมเพื่ออนาคตกับเยาวชนจากโทคุชิมะและกลุ่มประเทศอาเซียน

[ พฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัล – คำแนะนำของเรา – ]

  • 16.40–17.00 น. การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทั่วไป

* สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Tokushima International Consumer’s Forum 2023 ด้านล่างนี้

Tokushima International Consumer’s Forum 2023
https://www.pref.tokushima.lg.jp/en/world.consumer.forum/2023/

ข้อมูลการท่องเที่ยวจังหวัดโทคุชิมะ (ภาษาอังกฤษ จีน และเกาหลี)
https://discovertokushima.net/en/

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53584759/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

เพื่อสอบถามข้อมูล

กองนโยบายผู้บริโภค สำนักพัฒนาผู้บริโภคและความปลอดภัย

ฝ่ายบริหารจัดการวิกฤติและสิ่งแวดล้อม

สำนักงานจังหวัดโทคุชิมะ
โทร: +81-88-621-2499
อีเมล : shohishaseisakuka@pref.tokushima.jp

ที่มา: สำนักงานจังหวัดโทคุชิมะ

Soren Bjorn ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นซีอีโอของ Driscoll’s

Logo

J. Miles Reiter ประธานและซีอีโอคนปัจจุบันของ Driscoll's จะเกษียณอายุในเดือนมกราคม 2024 และดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร

วัตสันวิลล์ แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–10 ตุลาคม 2023

คณะกรรมการบริหารของ Driscoll’s ได้เลือก Soren Bjorn ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานของ Driscoll's อเมริกา ให้เป็นซีอีโอคนใหม่ของบริษัท เขาจะเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม 2024 และดูแลการดำเนินงานทั่วโลกของบริษัทในแต่ละวัน J. Miles Reiter ประธานและซีอีโอคนปัจจุบันของ Driscoll's ได้ประกาศแผนการของเขาที่จะเกษียณในสิ้นปีนี้และก้าวขึ้นเป็นประธานกรรมการบริหารของบริษัทครอบครัวแห่งนี้

Soren Bjorn, Driscoll's incoming CEO (Photo: Business Wire)

Soren Bjorn ซีอีโอคนใหม่ของ Driscoll's (ภาพ: Business Wire)

Bjorn เข้าร่วมกับ Driscoll's ซึ่งเป็นบริษัทขายผลเบอร์รี่ของโลกในปี 2006 และมีส่วนร่วมในธุรกิจเกือบทุกด้านในช่วง 17 ปีที่ผ่านมา ในฐานะอดีตรองประธานอาวุโสฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศและเทคโนโลยีระดับโลก เขาเป็นผู้นำการพัฒนาธุรกิจในยุโรป อเมริกาใต้ และออสเตรเลีย รวมถึงการวิจัยและพัฒนาและการปรับปรุงพันธุ์ระดับโลก เขากลายเป็นผู้นำหน่วยธุรกิจของ Driscoll’s ในอเมริกาเหนือในปี 2013 และได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นประธานของ Driscoll's อเมริกาในปี 2017 ที่เป็นตำแหน่งปัจจุบันของเขา

ผลเบอร์รี่ของ Driscoll’s เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคทั่วโลก ทำให้เป็นหนึ่งใน แบรนด์ร้านค้าปลีกชั้นนำ ในฐานะซีอีโอคนใหม่ Bjorn ให้ความสำคัญกับการรักษาวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองของบริษัท และเร่งการเติบโตทั่วโลกต่อไปเป็นลำดับแรก เขายังจะชี้นำความพยายามของบริษัทในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและรับประกันว่าธุรกิจยังคงมีความยืดหยุ่นต่อความท้าทายของอุตสาหกรรม เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยนำประสบการณ์ในการเป็นผู้นำงานวิจัยและพัฒนาและนวัตกรรมมาใช้

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ Miles คณะกรรมการ และสมาชิกในทีมของ Driscoll’s หลายพันคนทั่วโลกไว้วางใจให้ผมนำทางบริษัทไปสู่อนาคต” Bjorn กล่าว “มรดกของ Miles คือพลังและความชัดเจนของภารกิจ วิสัยทัศน์ และค่านิยมของ Driscoll’s Miles ได้ใช้สิ่งเหล่านี้เป็นแนวทางในการตัดสินใจและการดำเนินการทั้งหมดของบริษัท ในฐานะผู้ดูแลคนใหม่ของ Driscoll's ผมขอให้คำมั่นสัญญากับพนักงาน พันธมิตร และลูกค้าของเราอย่างเต็มที่ว่าผมจะต่อยอดมรดกของ Miles และรักษาหลักการเหล่านี้ไว้เช่นกัน”

มรดกอันยาวนาน

Miles Reiter มีส่วนร่วมในธุรกิจเบอร์รี่ในด้านใดด้านหนึ่งมาเป็นเวลาเกือบ 70 ปี หลังจากเรียนจบวิทยาลัย เขากลายเป็นคนปลูกเบอร์รี่ใน Pajaro Valley ของรัฐแคลิฟอร์เนียในช่วงทศวรรษ 1970 และได้รับเลือกเป็นประธานคณะกรรมการบริหารในปี 1988 Reiter ดำรงตำแหน่งซีอีโอของบริษัทถึงสองครั้ง ครั้งแรกระหว่างปี 2000-2015 และต่อมาตั้งแต่ปี 2018 ถึงปัจจุบัน

“ผมคิดว่าหลายชั่วอายุคนของครอบครัวผมก่อนหน้าผม และหลายชั่วอายุคนหลังจากนี้ได้เคยมีส่วนร่วมและจะมีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งในธุรกิจที่น่าสนใจนี้เสมอ” Reiter กล่าว “ผมยินดีอย่างยิ่งที่ได้รู้จักผู้คนที่ประกอบเป็นทีมงานระดับโลกของเราซึ่งประกอบด้วยพนักงาน เกษตรกรอิสระ พันธมิตรในอุตสาหกรรม และลูกค้ารายย่อย ไม่ว่าจะเป็นในไร่ ในสถานที่ทำงาน ในตลาด ขณะดื่มไวน์และรับประทานอาหาร ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น”

เขากล่าวเสริมว่า “ตอนนี้ถึงเวลาที่ผมจะต้องก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอแล้ว ผมร่วมกับคณะกรรมการบริหารได้ค้นหาผู้นำคนใหม่ที่มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งต่อค่านิยม ภารกิจของเรา และอนาคตที่ Driscoll's จะกลายเป็นบริษัทเบอร์รี่ของโลก ที่ช่วยยกระดับชีวิตของทุกคนที่เราสัมผัส เราแต่งตั้ง Soren เป็นซีอีโอคนใหม่ด้วยความกระตือรือร้นและความมั่นใจอย่างยิ่ง ความรู้อันลึกซึ้งของเขาในธุรกิจเบอร์รี่ระดับโลก สติปัญญาอันทรงพลัง การตัดสินอย่างมีเหตุผล และอารมณ์ขันที่ส่งต่อผู้อื่น ทำให้เขามีคุณสมบัติพิเศษสำหรับบทบาทนี้”

เกี่ยวกับ Driscoll's

Driscoll's เป็นผู้นำตลาดโลกด้านสตรอเบอร์รี่สด บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ และแบล็กเบอร์รี่ Driscoll's เป็นผู้บุกเบิกด้านนวัตกรรมรสชาติเบอร์รี่และแบรนด์ผู้บริโภคที่เชื่อถือได้ของ Only the Finest Berries™ ด้วยประสบการณ์การทำฟาร์มมากกว่า 100 ปี Driscoll’s พัฒนาพันธุ์เบอร์รี่ที่ได้รับสิทธิบัตรเฉพาะโดยใช้เพียงวิธีการปรับปรุงพันธุ์แบบดั้งเดิมที่มุ่งเน้นการปลูกผลเบอร์รี่รสชาติดี ด้วยผู้ปลูกอิสระมากกว่า 900 รายทั่วโลก ทีมนักวิทยาศาสตร์การเกษตร ผู้เพาะพันธุ์ นักวิเคราะห์ประสาทสัมผัส นักพืชวิทยา และนักกีฏวิทยาที่ทุ่มเทช่วยปลูกต้นกล้าอ่อน จากนั้นจะปลูกบนฟาร์มครอบครัวในท้องถิ่น ผลเบอร์รี่ของ Driscoll’s ปลูกในกว่า 20 ประเทศ และมีจำหน่ายสำหรับผู้บริโภคในกว่า 40 ประเทศทั่วอเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย ยุโรป และจีน

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53584740/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

Frances Dillard
press@driscolls.com

ที่มา: Driscoll's


12Go เปิดตัวสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับการเดินทางแบบครอบครัวในเอเชีย

Logo

กรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE)–11 ตุลาคม 2023

12Go ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวออนไลน์ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียและให้บริการด้านการท่องเที่ยวในเอเชียเป็นหลัก โดยขายตั๋วออนไลน์สำหรับรถบัส เรือเฟอร์รี่ และรถไฟ เผยรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของหมู่นักเดินทางแบบครอบครัวในช่วงฤดูร้อนปี 2023

รายชื่อสถานที่นี้อิงตามข้อมูลตั๋วที่ครอบคลุมและรวบรวมโดยบริษัท 12Go ระบุสถานที่ท่องเที่ยวที่โดนใจลูกค้ามากที่สุดจากการวิเคราะห์ตั๋วที่ขายได้ตลอดทั้งปี

การวิเคราะห์แสดงให้เห็นถึง 10 ประเทศในเอเชียที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเดินทางของ 12Go ประกอบไปด้วยข้อมูลเชิงลึกของสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมในประเทศไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา อินเดีย สิงคโปร์ และศรีลังกา

ไทยนำมาเป็นอันดับหนึ่ง โดยเชียงใหม่ กรุงเทพฯ และเกาะสมุยนับเป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศที่โดดเด่นสำหรับครอบครัว

อินโดนีเซียคว้าอันดับสองมาด้วยซานูร์ นูซาเปอนีดา และหมู่เกาะกีลี สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้มีชายหาดสวยงามและกิจกรรมทางน้ำต่างๆ ที่มอบประสบการณ์ตราตรึงใจในช่วงฤดูร้อน

เวียดนามอยู่ที่อันดับสามโดยมีฮานอย ดานัง และนิญบิ่ญเป็นที่น่าจับตามอง ครอบครัวนักเดินทางสามารถดื่มด่ำกับวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ สำรวจสถานที่ทางประวัติศาสตร์ และดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติ

ฟิลิปปินส์นำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับครอบครัวอย่าง โบโฮล เซบู และมะนิลา

อันดับที่ 5 เป็นของมาเลเซีย โดยมีสามเมืองที่ฮอตที่สุด นั่นคือกัวลาลัมเปอร์ มะละกา และปะหัง ซึ่งรวบรวมเมืองน่าสำรวจและการผจญภัยกลางแจ้งไว้ด้วยกัน เหมาะสำหรับครอบครัวนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์การเดินทางที่รอบด้าน

กัมพูชาคว้าอันดับที่ 6 ด้วยพนมเปญและเสียมราฐ ประวัติศาสตร์อันยาวนานของประเทศและความน่าทึ่งของโบราณสถานเหมาะสำหรับครอบครัวนักเดินทางที่อยากเจาะลึกถึงอดีต

อันดับที่ 7 เป็นของอินเดีย นำมาโดยเมืองที่โดดเด่นอย่างอัครา  ชัยปุระ และเดลี ครอบครัวนักเดินทางสามารถดื่มด่ำไปกับวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา สำรวจสถานที่ทางประวัติศาสตร์ และลิ้มลองอาหารเลิศรส

ศรีลังกาครองอันดับ 8 ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมช่วงฤดูร้อนมากมายรวมถึงแคนดี้ และนูวาราเอลิยา ครอบครัวนักเดินทางสามารถเดินทางไปทั่วศรีลังกาเพื่อเพลิดเพลินกับภูมิทัศน์เขียวขจีและไร่ชา

อันดับที่ 9 นั้นเป็นของญี่ปุ่น ผู้นำเสนอเมืองที่มีชีวิตชีวาอย่างโตเกียวและเกียวโต ครอบครัวนักเดินทางสามารถสัมผัสกับความผสมผสานที่ลงตัวกันของประเพณีและความทันสมัย รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่เหมาะสำหรับครอบครัว

ปิดท้ายด้วยนครรัฐที่มีชีวิตชีวาอย่างสิงคโปร์ การผสมผสานกันของเมืองที่ทันสมัยและเสน่ห์ทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับครอบครัวที่มองหาวันหยุดพักผ่อนสุดตื่นเต้น

สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับครอบครัวสิบอันดับแรกของ 12Go ล้วนเป็นสถานที่ที่น่าทึ่งสำหรับประสบการณ์ที่มีคุณค่า การผจญภัยที่น่าจดจำ และการใช้เวลากับครอบครัว

12Go  https://12go.asia/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

Tetiana But
tetiana.but@12go.asia

ที่มา: 12Go

OAG เปิดเผยข้อมูลว่า สนามบินกัวลาลัมเปอร์เป็นสนามบินที่มีการเชื่อมต่อมากที่สุดอันดับ 1 ในเอเชียแปซิฟิก

Logo

ข้อค้นพบที่สำคัญ:

  • สนามบินโตเกียวฮาเนดะ (HND) ขยับขึ้น 20 อันดับจากปี 2019 สู่อันดับที่ 2 ในกลุ่ม Megahubs ของเอเชียแปซิฟิก
  • สนามบินกัวลาลัมเปอร์ (KUL) และสนามบินนานาชาติอินชอน (ICN) อยู่ในอันดับที่ 1 และ 2 ตามลำดับในการจัดอันดับกลุ่มสายการบินต้นทุนต่ำ หรือ Top 25 Low-Cost Megahubs
  • สายการบิน AirAsia และ All Nippon Airways ครองส่วนแบ่งเที่ยวบินในสนามบินชั้นนำสองแห่งในเอเชียแปซิฟิก

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–20 กันยายน 2023

OAG เป็นแพลตฟอร์มข้อมูลชั้นนำของโลกสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับโลก ได้เปิดตัว Megahubs 2023 ในวันนี้ ซึ่งเป็นการจัดอันดับสนามบินที่มีการเชื่อมต่อระหว่างประเทศมากที่สุดในโลก 50 อันดับแรกอย่างชัดเจน

Megahubs 20 อันดับแรกของโลกประกอบด้วยสนามบิน 7 แห่งในเอเชียแปซิฟิก ในบรรดาสนามบินที่มีการเชื่อมต่อมากที่สุดนั้น สนามบินกัวลาลัมเปอร์ (KUL) ได้ขยับขึ้นสู่อันดับที่ 4 จากที่อยู่นอก 10 อันดับแรกในปี 2019 ตามมาด้วยสนามบินฮาเนดะ (HND) ของโตเกียวซึ่งอยู่ที่อันดับที่ 5

Megahubs ห้าแห่งจาก 10 อันดับแรกของภูมิภาคนั้นตั้งอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึง อินชอน (ICN) ในอันดับที่ #3, กรุงเทพ (BKK) ในอันดับที่ #4 และ สิงค์โปร์ชางงี (SIN) ในอันดับที่ #5 สายการบินแอร์เอเชียนั้นก็ได้ให้บริการเที่ยวบิน 34% ที่กัวลาลัมเปอร์ (KUL) ซึ่งเป็นศูนย์กลางชั้นนำของภูมิภาค

ในบรรดา Megahubs กลุ่มสายการบินต้นทุนต่ำ 25 อันดับแรก (Top 25 Low-Cost Megahubs) เอเชียแปซิฟิกครองอันดับด้วยสนามบิน 13 แห่ง เอเชียใต้มีส่วนแบ่งกำลังการผลิตสูงสุดที่ดำเนินการโดย LCC ในทุกภูมิภาคที่ 63% ตามมาด้วยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ 53% กัวลาลัมเปอร์ (KUL) อยู่ในอันดับที่ 1 ด้วยการเชื่อมต่อกับกลุ่มต้นทุนต่ำเท่าที่จะเป็นไปได้ 11,188 จุดเชื่อมต่อ เชื่อมโยงจุดหมายปลายทางกว่า 100 แห่ง

“การฟื้นตัวของสนามบินในเอเชียแปซิฟิกสะท้อนให้เห็นถึงตำแหน่งสำคัญของพวกเขาในฐานะศูนย์กลางของเส้นทางที่พลุกพล่านที่สุดในโลก เช่น ทางเดินทางทางอากาศระหว่างฟุกุโอกะและโตเกียว ฮาเนดะ ซึ่งกลายเป็นสนามบินที่มีผู้คนพลุกพล่านเป็นอันดับสามของโลก” Mayur Patel หัวหน้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ OAG กล่าว “การเพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งของสนามบินเหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”

หากต้องการข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมและระเบียบวิธีวิจัยทั้งหมด โปรดดูการวิเคราะห์ที่นี่

เกี่ยวกับ OAG
OAG เป็นแพลตฟอร์มข้อมูลชั้นนำสำหรับอุตสาหกรรมการเดินทางทั่วโลก ซึ่งขับเคลื่อนการเติบโตและนวัตกรรมของระบบนิเวศการเดินทางทางอากาศมาตั้งแต่ปี 1929 OAG มีเครือข่ายข้อมูลเที่ยวบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมการเดินทางทั้งหมดตั้งแต่การวางแผนไปจนถึงประสบการณ์ของลูกค้า มีลูกค้าได้แก่ สายการบิน สนามบิน ผู้ใช้เทคโนโลยีการเดินทาง ผู้ให้บริการด้านการบิน หน่วยงานราชการ สถาบันการเงิน และที่ปรึกษาต่างๆ OAG มีสำนักงานใหญ่ในสหราชอาณาจักร และดำเนินงานในสหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น จีน และลิทัวเนีย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม www.oag.com และติดตามเราได้ที่ Twitter @OAG Aviation

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Chrissy Azevedo ผู้ประสานงาน Corporate Ink สำหรับ OAG
pressoffice@oag.com

ที่มา: OAG

AI สามารถช่วยคุณจองทริปที่สมบูรณ์แบบได้แล้วในวันนี้

Logo

REYKJAVIK, Iceland–(BUSINESS WIRE)–14 กันยายน 2023

Guide to Europe ประกาศความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่ในการวางแผนการเดินทาง: Travis นักวางแผนการเดินทางด้วย AI ที่ดำเนินการโดย AI โดยนำเสนอแผนการเดินทางที่ปรับให้เหมาะสมแก่ผู้ใช้ โดยอิงจากความต้องการของลูกค้า สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง การผสมผสานข้อมูลรีวิว เวลาเปิดทำการ และตัวแปรสำคัญอื่นๆ

Helgi Páll Helgason is the visionary of Travis and the Head of AI at Travelshift, the maker of Guide to Europe (Photo: Business Wire)

Helgi Páll Helgason เป็นผู้มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของ Travis และหัวหน้าฝ่าย AI ของ Travelshift ผู้สร้างสรรค์ Guide to Europe (ภาพถ่าย: Business Wire)

การใช้อัลกอริธึม AI ที่ล้ำสมัยนี้ Travis มีการคัดสรรสถานที่ท่องเที่ยงที่ไม่มีใครเทียบและมีการปรับเส้นทางให้เหมาะสมเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่น

Chatbot ก้าวไปไกลกว่าการวางแผนแบบเดิมๆ ด้วยการนำเสนอบริการที่ดีที่สุดที่มีการปรับให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้าและรีวิว ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูและจองทริปทั้งหมดได้ด้วยขั้นตอนง่ายๆ เพียงขั้นตอนเดียว

Dr. Helgi Helgason หัวหน้าฝ่าย AI ของ Guide to Europe และผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลสำหรับ Travis กล่าว “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัว Chatbot ที่ปฏิวัติวิธีการวางแผนการเดินทางของผู้คนต่างๆ Travis ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโต้อตอบและค้นหาทริปที่สมบูรณ์แบบได้โดยใช้ภาษาธรรมชาติ คุณไม่จำเป็นแม้การระบุจุดหมายปลายทาง คุณยังสามารถระบุประสบการณ์ที่คุณต้องการ เช่น สภาพอากาศ ภูมิภาค หรือวัฒนธรรม Travis สามารถประหยัดเวลาและลดความเครียดของลูกค้าได้โดยลูกค้าสามารถจองทริปที่วางแผนไว้อย่างสมบูรณ์แบบได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจ”

Helgi กล่าวเสริมว่า “Travis ไม่ได้เป็นเพียงนักวางแผนการเดินทางเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้เปลี่ยนเกม โดยการใช้ข้อมูลจำนวนมหาศาล ช่วยในการวางแผนการเดินทางสำหรับคุณได้อย่างพิถีพิถัน พร้อมความมั่นใจว่า เราสามารถทำได้เกินขีดความสามารถของมนุษย์ทั้งในด้านความแม่นยำและความรวดเร็ว ไม่ใช่เพียงการจองทริปเท่านั้น แต่เป็นการทำให้ทริปนั้นสมบูรณ์แบบ”

พร้อมการเปิดตัวบริการที่เป็นนวัตกรรมนี้ Guide to Europe ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำด้านเทคโนโลยีการท่องเที่ยว โดยนำเสนอมิติใหม่ในการวางแผนการเดินทาง การค้นหา และการจองวันหยุดในยุโรป

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53554011/en

ติดต่อ

Dr. Helgi Páll Helgason, helgi@travelshift.com

แหล่งข้อมูล: Travelshift

Seoul Edition 23 เปิดตัวแคมเปญระดับโลก “Seoul, Make It Yours” โดย V วง BTS

Logo

โซล เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–4 กันยายน 2023

รัฐบาลกรุงโซลและองค์การการท่องเที่ยวกรุงโซลประกาศเปิดตัว Seoul Edition 23: New Tradition วิดีโอแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงโซลที่ร่วมกับ V ศิลปินวง BTS ทั่วโลกในวันที่ 1 กันยายน วิดีโอทีเซอร์ได้รับการตอบรับอย่างมีล้นหลาม โดยมียอดดูถึง 400,000 ครั้งในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์

Seoul Tourism Organization has released Seoul Edition 23: New Tradition, a Seoul tourism promotional campaign video featuring BTS member V on VisitSeoul TV, the official YouTube channel for Seoul tourism. (Graphic: Business Wire)

องค์การการท่องเที่ยวกรุงโซลได้เปิดตัว Seoul Edition 23: New Tradition ซึ่งเป็นวิดีโอแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงโซลที่มี V ศิลปินวง BTS บน VisitSeoul TV ซึ่งเป็นช่อง YouTube อย่างเป็นทางการสำหรับการท่องเที่ยวกรุงโซล (กราฟิก: Business Wire)

แคมเปญภาคที่สอง Seoul Edition 23: Nature in the City มีกำหนดปล่อยวันที่ 8 กันยายน

วิดีโอส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงโซลประจำปี 2023 ที่ร่วมกับ V ศิลปินวง BTS และทูตการท่องเที่ยวกิตติมศักดิ์ของกรุงโซลเผยแพร่ทาง VisitSeoul TV (https://www.youtube.com/VisitSeoulTV) ซึ่งเป็นช่อง YouTube อย่างเป็นทางการสำหรับการท่องเที่ยวกรุงโซลที่ดำเนินการโดยองค์การการท่องเที่ยวกรุงโซล

วิดีโอชุดแรก New Tradition เป็นการแนะนำกรุงโซลและความสามารถในการรวบรวมองค์ประกอบของอดีตเข้ากับในยุคปัจจุบัน วิดีโอเริ่มต้นด้วยชื่อ Seoul Edition โดยมี V อยู่ในฉากหลังของกรุงโซล จากนั้นจะดำเนินต่อไปเพื่อแสดงให้เห็นว่าเครื่องหมายและสัญลักษณ์แบบดั้งเดิมของเมืองยังคงรวมอยู่ในชีวิตประจำวันของเราในรูปแบบที่ทันสมัย เช่น แฟชั่น Y2K ที่พบในตลาดทงมโย ร้านกาแฟสมัยใหม่ในตลาดแบบดั้งเดิม และนิทรรศการสถาปัตยกรรมสื่อในจัตุรัสควางฮวามุน วิดีโอปิดท้ายด้วยข้อความว่า Seoul, Make It Yours เพื่อกระตุ้นให้ผู้ชมทั่วโลกอยากที่จะคว้าโอกาสเพื่อสัมผัสกับกรุงโซลในทันที

วิดีโอชุดที่สอง Nature in the City ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในวันที่ 8 กันยายน นำเสนอวิถีชีวิตของชาวโซลที่โอบกอดธรรมชาติในย่านใจกลางเมืองที่พลุกพล่าน

นอกจากนี้ กิจกรรม Seoul Edition Hashtag จะจัดขึ้นเป็นเวลาหนึ่งเดือนในเดือนกันยายนทางช่องทางโซเชียลมีเดียของ Visit Seoul ผู้ที่โพสต์แฮชแท็กที่กำหนดพร้อมรูปถ่ายสถานที่ที่ต้องการเยี่ยมชมหรือแนะนำ จะได้เข้าร่วมการจับรางวัลเพื่อรับสิทธิ์ลุ้นตั๋วเครื่องบินไป-กลับกรุงโซล รวมถึงบัตรกำนัลการเข้าพักที่โรงแรมระดับห้าดาวเป็นเวลาสองคืน สามารถดูรายละเอียดกิจกรรมได้ที่ช่องทาง Instagram อย่างเป็นทางการของ Visit Seoul (@visitseoul_official) และช่องทางโซเชียลมีเดีย Visit Seoul อื่น ๆ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน

แคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงโซลมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการจัดแสดงสโลแกนใหม่ของรัฐบาลกรุงโซลอย่าง Seoul, My Soul ไปทั่วโลก ภายใต้สโลแกนใหม่นี้ เนื้อหาแคมเปญจะถูกเผยแพร่สู่ผู้คนทั่วโลกโดยใช้ช่องทางสื่อกลางแจ้งที่มีอิทธิพลในหกเมืองใหญ่ รวมถึงไทม์สแควร์ในนิวยอร์กซิตี้ โตเกียว เซี่ยงไฮ้ กรุงเทพฯ และไทเป เนื้อหาที่แสดงทั้งหมดจะสอดคล้องกับธีมของการถ่ายเซลฟี่กับ V โดยหวังว่าจะสร้างกระแสในหมู่แฟน ๆ และผู้ชมที่สนใจในชุมชนทั่วโลก

แคมเปญนี้จะถูกเผยแพร่ทั่วโลกในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และภูมิภาคอื่น ๆ ของเอเชีย ผ่านทางเครือข่ายโทรทัศน์หลัก ๆ เช่น CNN และ NBC รวมถึงสื่อ New York Times

นอกเหนือจากการส่งเสริมโซลให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว องค์การการท่องเที่ยวกรุงโซลต้องการจะสื่อข้อความอันหนักแน่นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยการอธิบายว่ากรุงโซลที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนั้นเป็น “สิ่งที่หาไม่ได้จากที่ไหน” แคมเปญนี้ยังให้ความสำคัญกับการกำหนดโทนภาพลักษณ์ของกรุงโซลในฐานะเมืองที่โอบรับเทรนด์ “newtro” ควบคู่ไปกับความสามารถในการกลมกลืนกับธรรมชาติทั้งในและรอบ ๆ กรุงโซล

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53547150/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

Kwon Dayoung
kndy@sto.or.kr

ที่มา: องค์การการท่องเที่ยวกรุงโซล


สมาคมเจ-โฮตาเตะ (J-HOTATE) เตรียมจัดแสดงอาหารญี่ปุ่นสดใหม่คุณภาพสูงที่งานซีฟู้ดเอ็กซ์โปเอเชีย (Seafood Expo Asia)

Logo

ซัปโปโร, ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–1 กันยายน 2023

ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อขยายการส่งออกหอยเชลล์ญี่ปุ่น สมาคมส่งเสริมการส่งออกหอยเชลล์แห่งญี่ปุ่น (หรือที่เรียกว่า “สมาคมเจ-โฮตาเตะ [J-HOTATE]” ประธาน Ichiro Nomura ซัปโปโร ฮอกไกโด) จะจัดแสดงสินค้าที่งาน Seafood Expo Asia ระหว่างวันที่ 11 กันยายนถึง 13 กันยายนที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อจัดแสดงหอยเชลล์ญี่ปุ่นให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางสู่ตลาดเอเชีย หอยเชลล์ญี่ปุ่น (หรือเรียกว่าโฮตาเตะ) ได้รับการรับรองถึงเรื่องรสชาติ ขนาด และคุณภาพที่ยอดเยี่ยม คุณสามารถเพลิดเพลินกับหอยเชลล์สดๆ ได้ตลอดทั้งปี โดยอาศัยวิธีการเพาะเลี้ยง/การเก็บเกี่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีขั้นสูงในการรักษาความสด ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งแหล่งผลิตหอยเชลล์ ในฮอกไกโด อาโอโมริ อิวาเตะ และมิยางิ กระแสน้ำในมหาสมุทรในท้องถิ่นมีสารอาหารที่อุดมสมบูรณ์มาก ถือเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงหอยเชลล์ริมฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง

Japanese Scallop - A Sustainable Gastronomic Delight (Photo: Business Wire)

หอยเชลล์ญี่ปุ่น – ความสุขด้านอาหารอย่างยั่งยืน (ภาพ: Business Wire)

หอยเชลล์ยังเป็นที่รู้จักว่าเป็นอาหารทะเลที่ดีต่อสุขภาพ อุดมไปด้วยสารอาหาร เช่น วิตามินบี 1 ซึ่งมีประสิทธิภาพในการบรรเทาความเหนื่อยล้าและเพิ่มสมาธิ และยังมีทอรีนซึ่งช่วยในการทำงานของหัวใจและตับ และช่วยป้องกันโรคเบาหวาน นอกจากนี้ หอยเชลล์ยังมีโปรตีนสูงและแคลอรี่ต่ำ จึงเหมาะที่จะเป็นซุปเปอร์ฟู้ด

ญี่ปุ่นมีเอกลักษณ์เฉพาะที่แตกต่างจากที่อื่นๆ ของโลก ตรงที่พื้นที่การจับปลาและท่าเรืออยู่ใกล้กัน ทำให้สามารถแปรรูปและจำหน่ายหอยเชลล์ได้ทันทีหลังจากจับได้ และกลายเป็นเรื่องปกติในญี่ปุ่นที่หอยเชลล์จะต้องรับประทานดิบๆ ในปัจจุบัน หอยเชลล์จะถูกแช่แข็งอย่างรวดเร็วทันทีหลังจากขึ้นฝั่ง ทำให้สามารถจำหน่ายไปต่างประเทศโดยยังคงรักษาคุณภาพไว้ได้

การส่งออก “ผลิตภัณฑ์หอยเชลล์ญี่ปุ่น” จากญี่ปุ่นไปยังประเทศอื่นๆ มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 94.5 พันล้านเยน (น้ำหนักประมาณ 128,000 ตัน) ในปี 2022 ซึ่งเกินกว่ามูลค่าสองเท่า (มากกว่า 1.6 เท่าของน้ำหนัก) จากปี 2020 เมื่อตลาดหยุดชะงักเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19

ข้อมูลการส่งออกหอยเชลล์ญี่ปุ่น (ทั่วโลก)

(หน่วย:ตัน/ล้านเยน/กิโล)

2020

2021

2022

น้ำหนัก

จำนวน

PPU

น้ำหนัก

จำนวน

PPU

น้ำหนัก

จำนวน

PPU

แบบดิบ

13,990

5,090

364

19,597

8,173

417

16,356

9,512

582

แห้ง

1,167

7,154

6,128

994

5,967

6,001

454

3,914

8,628

แช่แข็ง

63,556

26,216

412

96,392

55,877

580

111,392

81,099

728

รวม

78,713

38,460

489

116,983

70,018

599

128,203

94,526

737

ที่มา:สมาคมเจ-โฮตาเตะ

ในการจัดแสดงสินค้านี้ เรามุ่งหวังที่จะขยายการส่งออกหอยเชลล์ญี่ปุ่นให้มากขึ้น และเผยแพร่รูปแบบการ 'รับประทานดิบ' แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น เพื่อลิ้มรสหอยเชลล์ที่อุดมไปด้วยสารอาหารอย่างเต็มที่ ที่บูธของเรา มีพื้นที่จัดประชุม ข้อมูลผลิตภัณฑ์ และพื้นที่การผลิต ตลอดจนการจัดแสดงผลิตภัณฑ์แช่แข็ง/อุณหภูมิห้อง และตัวอย่างหอยเชลล์ญี่ปุ่น

ข้อมูลการจัดแสดง

ชื่องาน: ซีฟู้ดเอ็กซ์โปเอเชีย (Seafood Expo Asia)

(https://www.seafoodexpo.com/asia/)

บูธเลขที่: K01

วันที่: วันจันทร์ที่ 11 กันยายน 2023 ถึงวันพุธที่ 13 กันยายน 2023

สถานที่: ศูนย์นิทรรศการและการประชุมแซนด์ส (SANDS EXPO AND CONVENTION CENTRE)

เกี่ยวกับสมาคมส่งเสริมการส่งออกหอยเชลล์แห่งญี่ปุ่น (“สมาคมเจ-โฮตาเตะ [J-HOTATE]”)

สมาคมส่งเสริมการส่งออกหอยเชลล์แห่งญี่ปุ่น (หรือที่เรียกว่า “สมาคมเจ-โฮตาเตะ [J-HOTATE]”)

ก่อตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2021 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายการส่งออกหอยเชลล์ญี่ปุ่นซึ่งขึ้นชื่อในด้านคุณภาพและความอร่อยที่ดีต่อสุขภาพด้วยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแบบยั่งยืน ปัจจุบันสมาคมเจ-โฮตาเตะ (J-HOTATE) ประกอบด้วยสมาชิก 72 ราย รวมถึงผู้ผลิต (สมาคมสหกรณ์ประมง) และผู้แปรรูปที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกหอยเชลล์ นอกเหนือจากผู้จัดจำหน่ายที่เกี่ยวข้องกับการประมงของญี่ปุ่นและผู้ค้า https://j-hotate.com/

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53545494/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

การติดต่อ

สำหรับสื่อมวลชนสอบถามข้อมูล:

สำนักงานประชาสัมพันธ์สมาคมเจ-โฮตาเตะ (J-HOTATE) (หน่วยงานอาซาฮี)

j-hotate@asahi-ag.co.jp

ที่มา: สมาคมเจ-โฮตาเตะ (J-HOTATE)


ศาลาว่าการกรุงโตเกียวเปิดไซต์ประชาสัมพันธ์ “#Tokyo Tokyo BASE” ในอาคารผู้โดยสาร 3 ของสนามบินนานาชาติฮาเนดะ

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–1 กันยายน 2023

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2023 ศาลาว่าการกรุงโตเกียวได้เปิดไซต์ประชาสัมพันธ์ของโตเกียว “#Tokyo Tokyo BASE” ในอาคารผู้โดยสาร 3 ของสนามบินนานาชาติฮาเนดะ โตเกียว และประตูสู่ท้องฟ้าของญี่ปุ่น

Opening ceremony (Photo: Business Wire)

พิธีเปิด (ภาพ: Business Wire)

“#Tokyo Tokyo BASE” จัดตั้งขึ้นเพื่อสื่อสารกับนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติเกี่ยวกับเสน่ห์ของโตเกียว ที่ซึ่งประเพณีและวัฒนธรรมล้ำสมัยอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่สมัยเอโดะ เราจะจำหน่าย “Tokyo Omiyage (ของที่ระลึกของโตเกียว)” ที่พัฒนาร่วมกัน โดยศาลาว่าการกรุงโตเกียวกับธุรกิจเอกชน เช่น งานหัตถกรรมแบบดั้งเดิม เครื่องเขียน และอาหาร นอกจากการขายของที่ระลึกแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมเวิร์คช็อปและประสบการณ์วัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบลงมือปฏิบัติจริงในร้านอีกด้วย เพื่อเผยแพร่เสน่ห์ดึงดูดใจของโตเกียว

Hello Kitty และ Hakken ร่วมงานประชาสัมพันธ์ “Tokyo Omiyage (ของที่ระลึกของโตเกียว)”

Hello Kitty ตัวละครจาก Sanrio ที่มีชื่อเสียงระดับโลกและคอสเพลย์เยอร์ Hakken ซึ่งเป็นทูตการท่องเที่ยวกรุงโตเกียว ได้ปรากฏตัวเป็นแขกรับเชิญพิเศษในพิธีเปิดเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเปิดร้านและกิจกรรมภายในร้าน ซึ่งได้สร้างสีสันในการเปิดร้านครั้งนี้

Hakken ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปิดร้านว่า “ฉันตั้งตารอคอยมากว่าที่ร้านจะมีจำหน่ายอะไรบ้าง” ซึ่งเขาได้ลองเสี่ยงโชคหยิบโอมิคุจิ (แผ่นทำนายดวงชะตา) ที่ร้านและดูเหมือนเขาจะชอบพัดไม้ไซเปรสที่โอมิคุจิแนะนำ และยังกล่าวถึงพัดว่ามี “กลิ่นที่ดมแล้วผ่อนคลาย”

ในคำกล่าวเปิดงาน Akiko Matsumoto รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการอุตสาหกรรมและแรงงาน ศาลาว่าการกรุงโตเกียว กล่าวว่า “ฉันอยากให้คุณสัมผัสเสน่ห์อันหลากหลายของโตเกียวด้วยร้านนี้”

ภาพรวมร้านค้า

ที่อยู่:

อาคารผู้โดยสาร 3 ของสนามบินนานาชาติฮาเนดะ ชั้น 4  EDO MARKET PLACE (2-6-5, สนามบินนานาชาติฮาเนดะ, เขตโอตะ, โตเกียว)

เวลาทำการ:

8.00 น. ถึง 21.00 น.

เนื้อหาการใช้งาน:

  • จำหน่าย “Tokyo Omiyage (ของที่ระลึกของโตเกียว)”
    โปรดดูผลิตภัณฑ์ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
    https://tokyotokyo.jp/article/omiyage/
  • จัดแสดงเวิร์คช็อปและประสบการณ์ด้านวัฒนธรรมของญี่ปุ่น
  • ป้าย มุมประชาสัมพันธ์ ฯลฯ ที่สื่อถึง “ยุคปัจจุบัน” ของโตเกียว

©'23 SANRIO CO., LTD. APPR.NO L642720

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53527558/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

สำหรับนักข่าวที่ต้องการติดต่อเกี่ยวกับเรื่องนี้
Shigeki Yamaguchi
ผู้อำนวยการฝ่ายขายเมือง แผนกการท่องเที่ยว สำนักอุตสาหกรรมและแรงงาน ศาลาว่าการกรุงโตเกียว
Shigeki_Yamaguchi@member.metro.tokyo.jp

ที่มา: Tokyo Metropolitan Government