Tag Archives: mary

Mary Kay Inc. มุ่งมั่นที่จะบริหารจัดการน้ำอย่างมีความรับผิดชอบและยั่งยืนเนื่องในวันน้ำโลก 2022

Logo

ดัลลาส–(บิสิเนสไวร์)–24 มี.ค. 2565

น้ำมีความจำเป็นต่อชีวิตในทุกรูปแบบและต่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่ออนาคตที่แข็งแรงและยั่งยืน จากข้อมูลของ World Economic Forum ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อระบบนิเวศและทรัพยากรธรรมชาติยังคงเป็นความเสี่ยงอันดับต้นๆ ของโลก

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220324005126/en/

Richard R. Rogers (R3) Manufacturing/R&D Center in Lewisville, Texas, U.S.A (Photo: Mary Kay Inc.)

Richard R. Rogers (R3) ศูนย์วิจัยและพัฒนาในเมืองลูอิสวิลล์ รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา (ภาพ: Mary Kay Inc.)

ในวันน้ำโลก Mary Kay Inc. มุ่งมั่นที่จะบริหารจัดการน้ำอย่างมีความรับผิดชอบและยั่งยืน เพื่อให้มั่นใจว่ามีน้ำเพียงพออย่างต่อเนื่องในฐานะทรัพยากรที่จำเป็นต่อการตอบสนองความต้องการของสิ่งแวดล้อมและชุมชนทั่วโลก

น้ำเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ความยั่งยืนของ Mary Kay และมีความสำคัญต่อกระบวนการผลิต การปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลน้ำที่ดีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ Mary Kay ในการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนของเรา เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นใจว่าการใช้น้ำสำหรับความต้องการของมนุษย์และเศรษฐกิจจะไม่รบกวนวัฏจักรของน้ำที่ยั่งยืนหรือก่อให้เกิดอันตรายต่อธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพอย่างต่อเนื่อง ความพยายามในการใช้น้ำครั้งล่าสุดที่โรงงานของ Mary Kay ได้แก่

  • การใช้น้ำในโรงงานของ Mary Kay ในสหรัฐอเมริกาลดลง 36% จากปี 2555-2560
  • ที่โรงงานผลิตของ Mary Kay ในเมืองหางโจว ประเทศจีน ความก้าวหน้าที่สำคัญในการอนุรักษ์น้ำ ได้แก่
    • ลดการใช้น้ำดื่มได้ถึง 34% ซึ่งช่วยประหยัดน้ำดื่มได้ประมาณ 913,480 แกลลอนต่อปี
    • ระบบ Reverse Osmosis (RO) การนำน้ำกลับมาใช้ใหม่: อุปกรณ์ทำน้ำให้บริสุทธิ์ทำให้เกิดการปล่อยน้ำเข้มข้นจำนวนมากในกระบวนการดำเนินการ โดยการรวบรวมน้ำเข้มข้นและส่งผ่านระบบหมุนเวียน น้ำเข้มข้นจะถูกนำมาใช้ซ้ำผ่านหอดับเพลิงและระบบหอระบายความร้อนด้วยอากาศเป็นแหล่งน้ำเสริม
    • การอัพเกรดระบบบำบัดน้ำเสีย: เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของน้ำเสียในกระบวนการผลิต Mary Kay China ได้ลงทุนในกระบวนการเครื่องปฏิกรณ์ชีวภาพแบบเมมเบรนขั้นสูง (MBR) โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่เพื่อปรับปรุงความสามารถในการบำบัดน้ำเสียและลดการปล่อยกากตะกอนลง 40%

“ในฐานะผู้สนับสนุนความยั่งยืนระดับโลก แมรี่ เคย์มุ่งมั่นที่จะมีบทบาทสำคัญในความพยายามร่วมกันที่จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม และเพื่อให้มั่นใจว่าชุมชนและเศรษฐกิจจะเจริญรุ่งเรือง” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของแมรี่ เคย์ อิงค์ กล่าว “Mary Kay” จะยังคงต่อยอดจากความก้าวหน้าและทำงานเพื่อมุ่งสู่ความมุ่งมั่นในการลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิตของเราลง 30% ภายในปี 2573 เทียบกับเส้นพื้นฐานในปี 2563 ต่อกิโลกรัมที่ผลิตในปริมาณมาก การได้รับใบรับรองหลักจาก Alliance for Water Stewardship (AWS) สำหรับโรงงานผลิตของ Mary Kay ในสหรัฐอเมริกาและจีน จะช่วยให้เราเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น”

องค์ประกอบสำคัญหลายประการของทศวรรษแห่งการดำเนินการของ Mary Kay ได้แก่

  • เป็นผู้ลงนามในหลักการมหาสมุทรแห่งสหประชาชาติและ CEO Water Mandate
  • สานต่อความร่วมมือ 32 ปีกับ The Nature Conservancy และสนับสนุนโครงการน้ำทั่วโลก 11 โครงการในปี 2565 โดยมุ่งเน้นที่:
    • การปกป้องมหาสมุทรทั่วโลกเพื่อปรับปรุงสุขภาพของมหาสมุทรสำหรับธรรมชาติและผู้คน
    • การฟื้นฟูแนวปะการังหอยเอเชียแปซิฟิกในออสเตรเลีย ฮ่องกง จีน สามเหลี่ยมคอรัล และแนวปะการัง Cakaulevu (เรียกอีกอย่างว่า Great Sea Reef);
    • การสนับสนุนผู้นำสตรีในมหาสมุทรแปซิฟิกในปาปัวนิวกินี (ป่าชายเลน ผู้หญิง และตลาด) และหมู่เกาะโซโลมอน (สุขภาพและความยืดหยุ่นของชุมชน);
    • การอนุรักษ์และฟื้นฟูชายฝั่งในกัลฟ์โคสต์ (การปกป้องพื้นที่ชุ่มน้ำชายฝั่งกัลฟ์โคสต์);
    • การปรับปรุงการประมงในเม็กซิโก (การปรับปรุงการประมงและการเพิ่มขีดความสามารถของชุมชน); และ
    • การร่วมมือกับพันธมิตรในยุโรปเพื่อสนับสนุนโครงการฟื้นฟูหอยนางรมในอังกฤษ สกอตแลนด์ ไอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี และสวีเดน
  • เข้าร่วม Alliance for Water Stewardship และทำงานเพื่อให้ได้รับการรับรองสำหรับโรงงานผลิตทั้งสองแห่งภายในปี 2025

หากต้องการอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของ Mary Kay ในด้านความยั่งยืน โปรดไปที่ marykayglobal.com/sustainability และดาวน์โหลดกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลกของ Mary Kay, Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow

เกี่ยวกับ Mary Kay Inc.

หนึ่งในผู้ทลายเพดานแก้วรายแรก Mary Kay Ash ก่อตั้งบริษัทความงามของเธอเมื่อเกือบ 60 ปีที่แล้วโดยมีเป้าหมาย 3 ประการคือ พัฒนาโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น  ความฝันนั้นเบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีสมาชิกฝ่ายขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ  Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวล้ำสมัย เครื่องสำอางสี อาหารเสริม และน้ำหอม และการร่วมมือกับองค์กรทั่วโลกเพื่อสร้างผลกระทบทางสังคมที่ดี  Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขาด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่างๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการถูกล่วงละเมิดในครอบครัว สร้างความสวยงามให้ชุมชนของเรา และสนับสนุนให้เด็กๆ ทำตามความฝัน  วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายในทุกลิปสติก   เรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com
ติดตามเราได้ที่ Facebook, Instagram, LinkedIn และ Twitter

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ดินแดนและน่านน้ำที่ทุกชีวิตขึ้นอยู่กับ ภายใต้การนำของวิทยาศาสตร์ เราสร้างสรรค์โซลูชั่นที่สร้างสรรค์และใช้งานได้จริงสำหรับความท้าทายที่ยากที่สุดในโลกของเรา เพื่อให้ธรรมชาติและผู้คนสามารถเติบโตไปด้วยกัน เรากำลังจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การอนุรักษ์ที่ดิน น้ำ และมหาสมุทรในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน จัดหาอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน และช่วยให้เมืองต่างๆ มีความยั่งยืนมากขึ้น ใน 79 ประเทศและดินแดน เราใช้แนวทางการทำงานร่วมกันที่มีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น รัฐบาล ภาคเอกชน และพันธมิตรอื่นๆ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ www.nature.org หรือติดตาม @nature_press บน Twitter

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/22020324005126/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. ฝ่ายสื่อสารองค์กร
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


Mary Kay Inc. เฉลิมฉลองวันป่าไม้สากลและวันต้นไม้โลก ด้วยรายงานที่ให้รายละเอียดความร่วมมืออันน่าประทับใจกับมูลนิธิ Arbor Day Foundation

Logo

จนถึงปัจจุบันแบรนด์ได้ปลูกต้นไม้มากกว่า 1.2 ล้านต้นทั่วโลก

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–23 มีนาคม 2565

สิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นในต้นไม้ หลังวันป่าไม้สากลและวันต้นไม้โลก Mary Kay Inc. ผู้นำระดับโลกด้านบริการดูแลและความยั่งยืนขององค์กร ได้เผยแพร่ผลรายงานที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับความร่วมมือที่มีมายาวนานกับมูลนิธิ Arbor Day Foundation ด้วยกันกับ Mary Kay Inc. และมูลนิธิ Arbor Day Foundation ร่วมกันปลูกต้นไม้กว่า 1.2 ล้านต้นทั่วโลก ทำให้เกิดผลกระทบที่ประเมินได้ต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การปล่อย CO2 และการปลูกป่า

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220321005134/en/

Mary Kay logo (Graphic: Mary Kay Inc.)

โลโก้ Mary Kay (กราฟิก: Mary Kay Inc.)

Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าวว่า “ทั่วโลกมีต้นไม้หายไปประมาณ 18 ล้านเอเคอร์ในแต่ละปี” “ไฟป่าที่โหมกระหน่ำ แมลงต่าง ๆ โรคภัย การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และอื่น ๆ ความจำเป็นในการปลูกป่าเป็นสิ่งที่เร่งด่วนอย่างยิ่ง Mary Kay มีพื้นที่ในตลาดทั่วโลก—ดังนั้นเราจึงต้องทำสุดความสามารถเพื่อปกป้องมัน ความร่วมมือกับมูลนิธิ Arbor Day Foundation ช่วยให้เราสามารถมอบอนาคตที่ยั่งยืนให้กับคนรุ่นต่อไปได้”

ผลรายงานต้นไม้ล่าสุดของ Mary Kay ซึ่งสามารถดูได้ที่ลิงก์ด้านล่างบน MaryKayGlobal.com ทั้งนี้ให้รายละเอียดประโยชน์สะสมเพิ่มพูนสามประการสำหรับการปลูกต้นไม้ผ่านงานที่ร่วมกันได้เสร็จสิ้นลงแล้ว

  • คาร์บอน: การปลูก การปกป้อง และการจัดการต้นไม้ที่ดูดซับคาร์บอน เมื่อต้นไม้โตขึ้น คาร์บอนจะถูกกำจัดออกจากชั้นบรรยากาศไปยังลำต้น ราก และกิ่งก้าน
    • หน่วยวัดเป็นเมตริกตันของ CO2 ที่ถูกเก็บจนถึงปัจจุบัน: 1,018,021
  • น้ำ: ต้นไม้และป่าไม้มีบทบาทสำคัญในคุณภาพและปริมาณน้ำ ต้นไม้และป่าไม้ที่แข็งแรงลดการพังทลายของดิน ช่วยกรองน้ำฝนและการชลประทานทางการเกษตร เพิ่มการซึมลงดินของน้ำฝน และการลดน้ำที่ไหลบนผิวดิน
    • หน่วยวัดเป็นแกลลอนที่หลีกเลี่ยงของน้ำบ่า: 81,902,445 (เท่ากับจำนวน 930,710 คนด้วยน้ำสะอาด)
  • อากาศ: ต้นไม้ผลิตออกซิเจนที่เราหายใจเข้าไป นอกจากนี้ ต้นไม้ยังกำจัดมลพิษทางอากาศด้วยการลดอุณหภูมิของอากาศ โดยการปล่อยน้ำสู่ชั้นบรรยากาศ และโดยการกรองอนุภาค
    • หน่วยวัดเป็นตันของการกำจัดมลพิษทางอากาศจำนวน: 4,236

ในปี 2564 Mary Kay Inc. ได้ทำโครงการปลูกพืชหลักจำนวน 6 โครงการร่วมกับมูลนิธิ Arbor Day Foundation สิ่งเหล่านี้รวมถึง:

  • ต้นไม้จำนวน 7,000 ต้นในโครงการฟื้นฟูอัคคีภัยของชนพื้นเมืองในบราซิล
  • ต้นไม้จำนวน 26,496 ต้นในหุบเขาแม่น้ำมิสซิสซิปปี้
  • ต้นไม้จำนวน 49,004 ต้นในฐานทัพอากาศทินดอลล์ในฟลอริดา
  • ต้นไม้จำนวน 7,500 ต้นในมณฑลกานซู่และป่ามองโกเลียในจีน
  • ต้นไม้จำนวน 5,000 ต้นในกาฆามาร์กา และป่าแอมะซอนในเปรู
  • ต้นไม้จำนวน 5,000 ต้นในป่าฟื้นฟูแมลงของเยอรมนี

ในปี 2565 Mary Kay วางแผนที่จะปลูกพืชในจีน บราซิล มาดากัสการ์ และฟลอริดา

นอกเหนือจากการเป็นพันธมิตรกับมูลนิธิ Arbor Day Foundation แล้ว Mary Kay ยังดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสร้างของ Forest of Hope ซึ่งเป็นสารคดีการเดินทางที่เน้นการต่อสู้เพื่อกอบกู้โลกของเราจากภัยคุกคามที่ใกล้จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและพฤติกรรมการทำลายล้างของมนุษย์ ในความร่วมมือกับ Media One และ The Nature Conversancy โดย Mary Kay ได้ไปเยือนเมืองมอนเตร์เรย์ ประเทศเม็กซิโก เพื่อให้ความกระจ่างแก่กลุ่มผู้ประกอบการสตรีที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูพันธุ์ไม้และระบบนิเวศในท้องถิ่น ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดตัวในปี 2564 และมีกำหนดฉายในเทศกาลภาพยนตร์ที่กำลังจะมาถึงนี้

หากต้องการดูผลรายงานฉบับเต็มของ Mary Kay Inc. / Arbor Day Foundation คลิกที่นี่

เกี่ยวกับ Mary Kay Inc.

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 2506 โดยมีเป้าหมายหนึ่งเดียวคือช่วยเติมเต็มชีวิตผู้หญิง ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางสู่อิสรภาพทางเศรษฐกิจผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอมมากมาย Mary Kay เชื่อมั่นในการทำชีวิตให้ดียิ่งขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนกับการวิจัยด้านมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบเราบน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามบน Twitter

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220321005134/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


Mary Kay Inc. ร่วมมือกับมูลนิธิ Arbor Day Foundation มุ่งมั่นที่จะปลูกป่าในประเทศจีนด้วยต้นไม้ 8,000 ต้นในปี 2565

Logo

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–11 มี.ค. 2565

ต้นไม้มีความสำคัญต่อการดำรงอยู่ของเรา และก็ทำหลายอย่างเพื่อหล่อเลี้ยงโลกของเราเอาไว้ ต้นไม้ทำให้น้ำและอากาศสะอาด ส่งเสริมสุขภาพของมนุษย์ แต่ต้นไม้กลับมักถูกมองข้าม ในวันนี้  Mary Kay ผู้สนับสนุนด้านความยั่งยืนระดับโลกได้ประกาศว่า พวกเขาจะสนับสนุนงานปลูกป่าของมูลนิธิ Arbor Day Foundation ในจังหวัดเหลียวหนิงทางใต้ของประเทศจีนต่อไป โดยมีแผนปลูกต้นไม้ 8,000 ต้นในปี 2565

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหาเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่ https://www.businesswire.com/news/home/20220310005962/en/

Logo for Arbor Day Foundation (Graphic: Mary Kay Inc.)

โลโก้ของ Arbor Day Foundation (ภาพ: Mary Kay Inc.)

ด้วยความพยายามในการทำงานร่วมกันของ Mary Kay และ Arbor Day Foundation ปัญหาเร่งด่วนที่โลกกำลังเผชิญกำลังได้รับการแก้ไขด้วยผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและวัดผลได้ จีนเป็นประเทศหนึ่งในโลกที่ได้รับผลกระทบจากการที่แผ่นดินกลายเป็นทะเลทรายมากที่สุด นับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา โครงการปลูกต้นไม้ของ Mary Kay ในภูมิภาคของมณฑลกานซูและทางตะวันตกของมณฑลเหลียวหนิงได้มุ่งเน้นไปที่การกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ การปรับปรุงคุณภาพของน้ำและเพิ่มปริมาณน้ำ พร้อม ๆ กับการดูดซับมลพิษทางอากาศ

ในเขต Minquin ในกานซู การแปรสภาพเป็นทะเลทรายมีสัดส่วนเกือบร้อยละ 95 ของพื้นที่ทั้งหมด ในขณะเดียวกัน ทางตะวันตกของมณฑลเหลียวหนิงก็เผชิญกับสภาพอากาศที่รุนแรง ปริมาณน้ำฝนที่ต่ำ และดินที่แห้งแล้ง การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพที่น่าตกใจในทั้งสองภูมิภาคนี้ไม่สามารถที่จะมองข้ามได้ อย่างไรก็ตาม การชะลออัตราการสูญพันธุ์และการปลูกพันธุ์พื้นเมืองสามารถช่วยปรับปรุงสถานการณ์นี้ให้ดีขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ

“การปลูกต้นไม้เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถจัดการกับปัญหาสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ของโลกได้” Wendy Wang ประธานของ Mary Kay เอเชียแปซิฟิกกล่าว “ด้วยการมุ่งเน้นความพยายามของเราในการปรับปรุงที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพของพื้นที่ที่ป่าถูกทำลาย เรากำลังปรับปรุงสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับเศรษฐกิจ เรากำลังลงทุนเพื่ออนาคตและเผยแพร่ความตระหนักรู้ว่าต้นไม้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชุมชนของเราเพื่อความเจริญรุ่งเรือง”

ไฮไลท์ผลกระทบระดับโลกและระดับท้องถิ่น:

  • Mary Kay ปลูกต้นไม้กว่า 1.2 ล้านต้นทั่วโลก โดยร่วมมือกับมูลนิธิ Arbor Day Foundation
  • ในประเทศจีน มีการปลูกต้นไม้ 22,500 ต้นในทั้งสองภูมิภาค: มณฑลกานซูกับป่ามองโกเลียส่วนใน และในมณฑลเหลียวหนิงตะวันตก
  • ผลประโยชน์สะสมสำหรับทั้งสองภูมิภาค:
    • คาร์บอน: กักเก็บ คาร์บอนไดออกไซด์ 22,602 เมตริกตัน – เท่ากับมีรถยนต์น้อยลง 4,913 คันบนท้องถนน*
    • น้ำ: หลีกเลี่ยงการเกิดน้ำไหลบ่าปริมาณ 421,830 แกลลอน หมายความว่า มีคนจำนวน 4,794 คน ที่ได้ใช้น้ำสะอาดเพิ่มขึ้น*
    • อากาศ: กำจัดมลพิษทางอากาศ 86 ตัน – เท่ากับออกซิเจนเพียงพอสำหรับ 5,625 คน*
  • มีการปลูกต้นไม้ 15,000 ต้นในจังหวัดกานซูและป่ามองโกเลียส่วนใน
  • มณฑลเหลียวหนิงตะวันตกปลูกต้นไม้แล้ว 7,500 ต้น

*คาดการณ์ในอีก 40 ปีข้างหน้า

เกี่ยวกับ Mary Kay Inc.

ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ฉีกกฎเกณฑ์รูปแบบเดิม ได้ก่อตั้งบริษัทด้านความงามของเธอเมื่อ 57 ปี ก่อน โดยมีเป้าหมายสามประการ คือ มอบโอกาสที่คุ้มค่าสำหรับผู้หญิง ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจต้านทานได้ และการทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น ความฝันดังกล่าวได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์โดยมีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ยังทุ่มเทให้กับการค้นคว้าวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัยเครื่องสำอางค์สี น้ำหอม และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงและครอบครัวด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกโดยมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงภายในครัวเรือน การทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และการส่งเสริมเด็ก ๆให้ทำตามความฝันของตน ดังนั้นวิสัยทัศน์อันดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ในคอนเซปท์ก้าวไปด้วยกันทีละลิปสติก ยังคงส่องสว่างนำทางต่อไป อ่านเพิ่มเติมที่  MaryKay.com

เกี่ยวกับ Arbor Day Foundation

มูลนิธิ Arbor Day Foundation ก่อตั้งขึ้นในปี 2515 และเติบโตขึ้นจนกลายเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ใหญ่ที่สุดที่อุทิศตนเพื่อการปลูกต้นไม้ โดยมีสมาชิก ผู้สนับสนุน และพันธมิตรที่มีคุณค่า มากกว่าหนึ่งล้านคน ตั้งแต่ปี 2515 เรื่อยมา มีการปลูกต้นไม้มากกว่า 350 ล้านต้นแล้ว ในละแวกบ้าน ชุมชน เมือง และป่าไม้ทั่วโลก วิสัยทัศน์ของเราคือการช่วยให้ผู้อื่นเข้าใจและใช้ต้นไม้เพื่อแก้ปัญหาทั่วโลกที่เราเผชิญอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงคุณภาพอากาศ คุณภาพน้ำ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การตัดไม้ทำลายป่า ความยากจน และความหิวโหย

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในมูลนิธิอนุรักษ์ที่ดำเนินงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก มูลนิธิ Arbor Day Foundation ให้ความรู้และมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและชุมชนทั่วโลกผ่านทางสมาชิก พันธมิตร และโครงการต่าง ๆ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ arborday.org.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220310005962/en/

ติดต่อ:

ฝ่ายสื่อสารองค์กร Mary Kay Inc.

marykay.com/newsroom

972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


A Thing of Beauty: Mary Kay Inc. คว้า 5 รางวัลนายจ้างดีเด่นในช่วงต้นปี 2565 ทั่วสหรัฐอเมริกา ยุโรปและมาเลเซีย

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–16 กุมภาพันธ์ 2565

คนทำงานด้านบริการทั่วโลกต่างกล่าวขาน: Mary Kay Inc. บริษัทด้านความงามและการพัฒนาผู้ประกอบการอันโด่งดัง ได้รับการโหวตให้เป็นสถานที่ทำงานอันดับต้น ๆ อีกครั้ง ในช่วงเวลา 60 วันแรกของปี 2565 แบรนด์ได้รับรางวัลนายจ้างอันทรงเกียรติถึงห้ารางวัลผ่านทาง Forbes และ Kincentric  ในสหรัฐอเมริกา ยุโรป สาธารณรัฐเช็ก สเปน และมาเลเซีย การได้รับเกียรตินี้มาจากความสำเร็จในการจ้างงานอื่น ๆ อีกหลายรางวัลที่ได้รับตลอดสามปีที่ผ่านมา

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220215005276/en/

Melinda Foster Sellers, Chief People Officer at Mary Kay Inc. (Photo: Mary Kay Inc.)

Melinda Foster Sellers ประธานเจ้าหน้าที่บริหารทรัพยากรบุคคลของ Mary Kay Inc. (ภาพ: Mary Kay Inc.)

สุดยอดนายจ้างแห่งปี 2565 ของนิตยสาร Forbes (Forbes Best Employers of 2022) ได้รับการระบุในแบบสำรวจอิสระซึ่งจัดทำโดยพนักงานชาวอเมริกันประมาณ 60,000 รายที่ทำงานให้กับบริษัทที่มีพนักงานมากกว่า 1,000 รายในสหรัฐอเมริกา โดยรวมแล้วนายจ้าง 1,000 รายได้รับการยอมรับจาก 25 ภาคอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันไป และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Mary Kay ได้รับรายชื่อให้เป็นนายจ้างที่เป็นที่ปรารถนาของนิตยสาร Forbes—เมื่อเร็ว ๆ นี้ Forbes ยังระบุให้ Mary Kay เป็นสุดยอดนายจ้างขนาดกลาง สุดยอดนายจ้างสำหรับความหลากหลาย และสุดยอดนายจ้างสำหรับผู้หญิง

รางวัลนายจ้าง Kincentric ของ Mary Kay ในยุโรป สาธารณรัฐเช็ก สเปน และมาเลเซีย เป็นผลจากการประเมินที่แข็งแกร่งซึ่งวัดผลและระบุองค์กรที่เปลี่ยนแนวปฏิบัติด้านบุคลากรเพื่อขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น จากข้อมูลของ Kincentric พนักงานของ Mary Kay ที่เข้าร่วมเกือบ 8 ใน 10 รายตอบว่า “ใช่” เมื่อถูกถามว่า: “Mary Kay เป็นแรงบันดาลใจให้ฉันทำงานให้ดีที่สุดในทุก ๆ วัน” และพนักงานร้อยละ 87 ตอบรับคำกล่าวยืนยันว่า: “ภารกิจขององค์กรนี้ให้ทิศทางที่มีความหมายมาสู่ฉัน” ทั้งนี้เป็น 19 คะแนนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกของ Kincentric

Melinda Foster Sellers ประธานเจ้าหน้าที่บริหารทรัพยากรบุคคลของ Mary Kay Inc. กล่าวว่า “Mary Kay รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการยอมรับอีกครั้งในด้านแนวปฏิบัติของพนักงานและคะแนนการมีส่วนร่วมในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม” “บุคลากรของเราเป็นรากฐานของงานอันน่าทึ่งที่เราทำทั่วโลกและเป็นเหตุผลที่ทำให้เรายังคงเป็นแบรนด์ความงามชั้นนำเกือบ 60 ปีหลังจากการก่อตั้งของเรา เรามีปรัชญาการจ้างงานที่เรียบง่ายที่ Mary Kay: หากพนักงานของเรามาทำงานในทุก ๆ วันโดยเชื่อว่าพวกเขากำลังช่วยทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นนั้นแสดงว่าเรามาถูกทางแล้ว”

ทั้งนี้ปรัชญาดังกล่าวได้แจ้งการตัดสินใจของพนักงานภายในทุกครั้งตลอดหกทศวรรษที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้พนักงานของ Mary Kay ร้อยละ 41 ทั่วโลกจึงร่วมงานกับบริษัทมาเป็นเวลานานกว่าสิบปี โดยร้อยละ 75 ของบทบาทใหม่ได้รับการส่งเสริมจากภายใน และแบรนด์นำเสนอหลายโปรแกรมที่มุ่งพัฒนาทางวิชาชีพ การคิดเชิงนวัตกรรม และสวัสดิภาพของพนักงาน Mary Kay นำเสนอรายการที่เอื้อประโยชน์ให้แก่พนักงานในด้านการรักษาพยาบาล ทันตกรรม และการมองเห็น การประกันชีวิต บัญชีออมทรัพย์สำหรับการรักษาพยาบาลและการดูแลที่ต้องพึ่งพาอาศัยกัน ความคุ้มครองการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุและการสูญเสียอวัยวะ และแผนการออมเพื่อการเกษียณที่มีทั้งแบบ 401k และโปรแกรมแบ่งปันผลกำไรที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความมุ่งมั่นในการแบ่งปันความสำเร็จนี้เป็นรากฐานที่สำคัญของความมุ่งมั่นของ Mary Kay ต่อผู้ที่ทำให้เป็นไปได้

“บางทีฉันภูมิใจกับความพยายามด้านความหลากหลายของเราอย่างมากที่สุด” Sellers กล่าวเสริม “ในฐานะส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเราต่อความหลากหลายและการไม่แบ่งแยก ผู้นำของเรามากกว่า 1,000 ราย ได้เข้ารับการฝึกอบรมเรื่องอคติโดยไม่รู้ตัวและกำลังมีการดำเนินการอย่างอื่นที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้เรายังขอความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการตรวจสอบธุรกิจบุคคลที่สามและผู้ขายข้อมูลความหลากหลายเพื่อประเมินห่วงโซ่อุปทานของเราเพื่อให้แน่ใจว่าเราเป็นตัวแทนของผู้หญิง ชนกลุ่มน้อย และธุรกิจที่เป็นเจ้าของโดยทหารผ่านศึกอย่างเหมาะสม”

พนักงานทั่วโลกของ Mary Kay ร้อยละ 61 เป็นผู้หญิง และร้อยละ 64 ของผู้นำตลาดเป็นผู้หญิง ณ เดือนมีนาคม 2564 

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเมื่อเกือบ 57 ปีที่ผ่านมาโดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ นอกจากการลงทุนทางด้านวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและผลิตภัณฑ์สุดล้ำ Mary Kay ยังทุ่มเทกับการให้ความช่วยเหลือผู้หญิงและครอบครัวของพวกเธอ บริษัทของเรายังสนับสนุนการวิจัยด้านมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน เพื่อให้วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายจนถึงทุกวันนี้ เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ MaryKay.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220215005276/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ถ้อยแถลงเนื่องในวันสากลเพื่อสตรีและเด็กหญิงในงานวิทยาศาสตร์ประจำปี 2565 โดย Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรมแห่ง Mary Kay Inc.

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–11 กุมภาพันธ์ 2565

ด้านล่างนี้คือถ้อยแถลงโดย Dr. Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าทที่ฝ่ายนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และวิทยาศาสตร์ของ Mary Kay Inc. เนื่องในโอกาสวันสากลเพื่อสตรีและเด็กหญิงในงานวิทยาศาสตร์ ประจำปี 2565

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220211005050/en/

Dr. Lucy Gildea, Chief Innovation Officer, Product and Science of Mary Kay Inc. (Photo: Mary Kay Inc.)

Dr. Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และวิทยาศาสตร์ แห่ง Mary Kay Inc. (รูปภาพ: Mary Kay Inc.)

ในการศึกษาที่เป็นการค้นพบครั้งสำคัญซึ่งจัดทำขึ้นระหว่างปี 2509 และ 2520 มีการขอให้เด็กเกือบ 5,000 คนวาดรูปนักวิทยาศาสตร์ขึ้นมาคนละ 1 ภาพ และในบรรดาภาพวาดทั้งหมด มีเพียง 0.6% ที่เป็นภาพวาดของนักวิทยาศาสตร์ผู้หญิง ในการศึกษาที่คล้ายกันเมื่อไม่นานมานี้พบว่าเรื่องนี้มีความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น โดย 28% ของเด็กยุคใหม่วาดภาพนักวิทยาศาสตร์ผู้หญิงเมื่อได้รับโจทย์แบบเดียวกัน

นับว่าเป็นความก้าวหน้า แต่เรายังมีเป้าหมายที่ต้องไปให้ถึง

Mary Kay Inc. จินตนาการถึงอนาคตที่นักวิทยาศาสตร์ผู้หญิงจำนวนมากขึ้นจะต้องมีตัวตนไม่เพียงบนหน้ากระดาษแต่ในโลกแห่งความเป็น นั่นคือเหตุผลที่ในวันสากลเพื่อสตรีและเด็กหญิงในงานวิทยาศาสตร์ปีนี้ เราจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล สถาบันการศึกษา และเพื่อน ๆ ของเราในภาคเอกชนมาลงทุน พร้อมส่งเสริมและสนับสนุนผู้หญิงและเด็กหญิงมากขึ้นในการศึกษาด้าน STEM (วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรม และคณิตศาสตร์) เมื่อมีเด็กผู้หญิงจำนวนมากขึ้นในการศึกษาด้าน STEM สตรีที่ก้าวสู่อาชีพในสาขานี้ก็จะมีจำนวนมากขึ้น ในทางกลับกัน สิ่งนี้ยังช่วยให้เกิดการเข้าถึงโอกาสอย่างเท่าเทียมสำหรับผู้หญิง ลดช่องว่างรายได้ที่ต่างกันเพราะเพศสภาพ กระตุ้นเศรษฐกิจ และกำจัดอคติในวงการวิทยาศาสตร์ด้วย

และนั่นคือเหตุผลที่ Mary Kay ให้การสนับสนุนนักเรียนในสาขา STEM ที่มีเพียงส่วนน้อยผ่านการลงทุนมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ในโครงการต่าง ๆ เช่น Academy of Marketing Science, Society of Investigative Dermatology และ Madam C.J. Walker Scholarship

นั่นคือเหตุผลที่ในแต่ละปี องค์กร Mary Kay Ash FoundationSM ได้สนับสนุนการพัฒนาของนักวิทยาศาสตร์ผ่านการมอบทุนวิจัยซึ่งช่วยให้ค้นพบวิธีรักษามะเร็งที่ส่งผลกระทบต่อผู้หญิงโดยเฉพาะ

ในแต่ละวัน ผ่านนวัตกรรมและวิทยาศาสตร์ มีผู้หญิงจากทั่วโลกที่กำลังหาทางออกให้กับปัญหาอันซับซ้อนของพวกเรา และเรายังทำได้มากกว่านี้เพื่อแสดงออกว่าพวกเรามองเห็นสิ่งที่พวกเธอทำ เพื่อให้พวกเธอได้ส่งเสียงและมีตัวตนมากขึ้นในสาขา STEM

ในอนาคต เมื่อเราขอให้เด็ก ๆ ผู้หญิงวาดรูปนักวิทยาศาสตร์ขึ้นมา 1 ภาพ ดิฉันหวังว่าจะได้เห็นรูปของพวกเธอเองในภาพวาดนั้น

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเมื่อเกือบ 60 ปีที่ผ่านมาโดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ

นอกจากการลงทุนทางด้านวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและผลิตภัณฑ์สุดล้ำ Mary Kay ยังทุ่มเทกับการให้ความช่วยเหลือผู้หญิงและครอบครัวของพวกเธอ บริษัทของเรายังสนับสนุนการวิจัยด้านมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน เพื่อให้วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายจนถึงทุกวันนี้ เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ MaryKayGlobal.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220211005050/en/

ติดต่อ:

ฝ่ายสื่อสารองค์กร Mary Kay Inc.
marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay Inc. มุ่งมั่นที่จะปกป้องชายฝั่งของเราในวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลกปี 2565

Logo

แดลลัส–(BUSINESS WIRE)–3 กุมภาพันธ์ 2565

มหาสมุทรให้ออกซิเจน 80% ที่เราหายใจเข้าไป และเป็นแหล่งอาหารและรายได้สำหรับผู้คนกว่าสามพันล้านคนทั่วโลก ในวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก (World Wetland Day) Mary Kay Inc. ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในด้านความยั่งยืนขององค์กรและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ได้ให้คำมั่นครั้งใหม่กับ The Nature Conservancy เพื่อรักษาพื้นที่ชุ่มน้ำอันล้ำค่าที่เรียงราย และปกป้องชายฝั่งของเรา

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220202005881/en/

The Nature Conservancy logo

โลโก้ของ The Nature Conservancy

การเป็นพันธมิตรของ Mary Kay กับ The Nature Conservancy (TNC) เริ่มขึ้นในปี 2533 ในทศวรรษที่ผ่านมา พวกเขาได้รวมพลังเพื่อมีส่วนร่วมกับชนเผ่าพื้นเมืองในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแบบยั่งยืนในนิวซีแลนด์ จัดหาน้ำจืดให้กับผู้คนในเม็กซิโก ทำความสะอาดมหาสมุทรของเรา สงวนพันธุ์และส่งเสริมสตรีในหมู่เกาะโซโลมอน โครงการล่าสุดของพวกเขากับ TNC ซึ่งเริ่มดำเนินการในปี 2562 ที่มุ่งเน้นในการอนุรักษ์และปรับปรุงพื้นที่ชุ่มน้ำ

“พื้นที่ชุ่มน้ำริมชายฝั่งทำให้เกิดการบรรลุความสำเร็จที่สำคัญสามประการของสภาพอากาศอันได้แก่: การดักจับคาร์บอน การปรับตัวให้เข้ากับการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล และความยืดหยุ่นที่เพิ่มขึ้นต่อพายุและน้ำท่วม โดยทั้งหมดนี้และในขณะเดียวกันก็สนับสนุนเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “น่าเสียดายที่รัฐเท็กซัสซึ่งเป็นบ้านเกิดของ Mary Kay ได้สูญเสียพื้นที่ชุ่มน้ำชายฝั่งมากกว่าครึ่งในช่วง 200 ปีที่ผ่านมาในการแปลงสภาพเป็นที่อยู่อาศัย พื้นที่รกร้างว่างเปล่า และความเจริญ ในวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก Mary Kay มุ่งมั่นที่จะปกป้องพื้นที่ชุ่มน้ำของเราอีกครั้งเพื่อเป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นต่อไป”

“ในทุกฤดูใบไม้ผลิ เนื่องจากมีนกหลายร้อยสายพันธุ์อพยพบินข้ามอ่าวจากละตินและอเมริกาใต้ ดังนั้นพื้นที่ชุ่มน้ำของชายฝั่งจึงเป็นจุดแวะพักที่สำคัญสำหรับพวกมันเพื่อพักผ่อนและเติมเชื้อเพลิงก่อนเดินทางต่อไป” Lauren Williams ผู้อำนวยการ Texas Resilient Coast Program ที่ The Nature Conservancy กล่าว “ในขณะที่จำนวนประชากรของรัฐเพิ่มขึ้น คาบสมุทรกัลฟ์ได้กลายเป็นอสังหาริมทรัพย์ชั้นเยี่ยมสำหรับผู้คนมากเท่า ๆ กับสำหรับสัตว์ป่า ด้วยการเป็นพันธมิตรกับ Mary Kay เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการเติบโตตามแนวชายฝั่งที่ยั่งยืนสำหรับเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสัตว์ป่าที่อาศัยพึ่งพา”

Mary Kay และ TNC ร่วมกันทำงานเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องพื้นที่ชุ่มน้ำของเราในปีหน้าดังต่อไปนี้:

  • ระบุพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญสำหรับการป้องกันและฟื้นฟูตามแนวชายฝั่งมากกว่า 27,000 กิโลเมตรตามแนวอ่าวเม็กซิโก
  • จัดทำแผนปฏิบัติการอนุรักษ์และฟื้นฟูชายฝั่งสำหรับระบบนิเวศบลูคาร์บอนสามแห่งของเท็กซัส ได้แก่ ป่าชายเลน บึงเกลือ และหญ้าทะเล รวมถึงพื้นที่ทำแผนที่ที่เราคาดว่าพื้นที่ชุ่มน้ำจะโยกย้ายในอนาคตอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  • ประเมินความเป็นไปได้ของตลาดบลูคาร์บอนเพื่อรองรับความต้องการการจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำในระยะยาวในเท็กซัส
  • ระบุพื้นที่ชุ่มน้ำชายฝั่งทะเลแบบไดนามิกที่สามารถกำหนดเป็น “ห้องปฏิบัติการที่มีชีวิต” เพื่อแบ่งปันเทคนิคการอนุรักษ์ สำรวจการชดเชยบลูคาร์บอน และเน้นความสำคัญของระบบนิเวศที่สำคัญเหล่านี้
  • สร้างแรงผลักดัน ความร่วมมือ และความสามารถในการฟื้นฟูชายฝั่งในเท็กซัสเพื่อดำเนินงานนี้ต่อไปในอนาคต

“กุญแจสำคัญคือการทำงานควบคู่กันไม่ใช่เพียงแค่ The Nature Conservancy เท่านั้น แต่กับธรรมชาติด้วย” Gibbins กล่าวเสริม “เราต้องปรับสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของระบบทั้งของมนุษย์และระบบธรรมชาติ Mary Kay มีความเชื่อพื้นฐานในการทำให้โลกนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้น และไม่มีที่ใดที่จะดีไปกว่าการเริ่มต้นที่บ้าน”

หากต้องการอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของ Mary Kay ในด้านความยั่งยืน สามารถเยี่ยมชมได้ที่ marykayglobal.com/sustainability และดาวน์โหลดกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลกของ Mary Kay ที่ชื่อว่า Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow

เกี่ยวกับ Mary Kay Inc.

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นมากกว่า 57 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอมมากมาย Mary Kay ยังทุ่มเทกับการช่วยให้ผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขามีพลังด้วยการร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญและสนับสนุนกับการวิจัยด้านมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายและพาเธอสู่ความสำเร็จไปทีละขั้น เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ MaryKay.com

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ดินแดนและน่านน้ำที่ทุกชีวิตต้องพึ่งพาอาศัย ภายใต้การนำด้วยวิทยาศาสตร์ เราสร้างสรรค์โซลูชั่นที่สร้างสรรค์และใช้งานได้จริงเพื่อรับมือกับความท้าทายที่ยากที่สุดในโลกของเรา เพื่อให้ธรรมชาติและผู้คนสามารถเติบโตไปด้วยกัน เรากำลังจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อนุรักษ์พื้นดิน น้ำ และมหาสมุทรในแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จัดหาอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน และช่วยให้เมืองมีความยั่งยืนมากขึ้น การทำงานใน 79 ประเทศและภูมิภาค เราใช้แนวทางการทำงานร่วมกันที่มีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น รัฐบาล ภาคเอกชน และพันธมิตรอื่น ๆ ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ www.nature.org หรือติดตาม @nature_press บน Twitter

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220202005881/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย





Mary Kay สานต่อความมุ่งมั่นทางด้านวิทยาศาสตร์เพื่อการดูแลผิว

Logo

Mary Kay นำเสนองานวิจัย ณ งานประชุมวิชาการที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ 2 แห่ง ได้แก่ งาน Aesthetic & Anti-Aging Medicine World Congress (AMWC) ครั้งที่ 19 และงานที่จัดโดยสมาคมยุโรปเพื่อการวิจัยโรคผิวหนัง (ESDR)

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–13 มกราคม 2565

Mary Kay Inc. หนึ่งในบริษัทผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัยของโลก ได้เข้าร่วมงานประชุมวิชาการที่มีชื่อเสียงของยุโรป 2 งานในช่วงปลายปี 2564 โดยในงาน Aesthetic & Anti-Aging Medicine World Congress ครั้งที่ 19 Mary Kay Inc. ได้ส่งโปสเตอร์วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการใช้และความทนต่อสูตรเรตินอลที่มีความเข้มข้นสูงสำหรับผิวของชาวเอเชีย และยังได้ร่วมกับสมาคมยุโรปเพื่อการวิจัยโรคผิวหนัง (ESDR) ให้การสนับสนุนการจัดการสัมมนาหัวข้อ Future Leaders in Dermatology ในงานประชุมวิชาการประจำปีครั้งที่ 50 ด้วย ซึ่งในงานดังกล่าว Mary Kay Inc. ได้เผยผลการศึกษาทางคลินิกล่าสุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของสูตรเครื่องสำอางในการบรรเทาอาการที่เกี่ยวข้องกับผิวแพ้ง่าย

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220113005071/en/

Dr. Lucy Gildea, Mary Kay Chief Innovation Officer, Product and Science (Photo: Mary Kay Inc.)

ดร. Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และวิทยาศาสตร์ของ Mary Kay (รูปภาพ: Mary Kay Inc.)

งานประชุมวิชาการ Aesthetic & Anti-Aging Medicine World Congress ครั้งที่ 19 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 ถึง 18 กันยายน 2564 ในเมืองมอนติคาร์โล ภายใต้การอุปถัมภ์ของเจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2 แห่งโมนาโก โดยผู้เข้าร่วมงานประชุมเป็นบุคลากรที่มาจากหลากหลายอาชีพ ทั้งแพทย์ผิวหนัง ศัลยแพทย์ตกแต่งและแพทย์ผ่าตัดเพื่อความงาม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการชะลอวัย และแพทย์เวชปฏิบัติเสริมสวยและแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 8,300 คนจาก 130 ประเทศที่ทั้งเดินทางมาด้วยตนเองและร่วมประชุมผ่านทางออนไลน์ แพลตฟอร์มดิจิทัลที่ใช้ยังมอบประสบการณ์ที่สมจริงซึ่งช่วยให้การจัดงาน ณ สถานที่จริงสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้ชมนิทรรศการในรูปแบบดิจิทัลและรับชมการประชุมเชิงปฏิบัติการต่าง ๆ ได้แม้จะอยู่ไกลหรือมีข้อจำกัดเรื่องการเดินทาง

นักวิทยาศาสตร์ของ Mary Kay มีความภาคภูมิใจที่ได้รายงานผลวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับการใช้และความทนต่อเรตินอลในการประชุมดังกล่าว ซึ่งจากการใช้เรตินอลอย่างต่อเนื่องกับชาวเอเชีย พบว่าลักษณะผิวโดยรวมดีขึ้น รวมถึงรอยดำจากการอับเสบลดลง ซึ่งปัญหาดังกล่าวพบได้บ่อยเมื่อใช้เรตินอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มชาวแอฟริกัน ฮิสแปนิก เอเชีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Skin of Color)

“เรตินอลเป็นส่วนผสมสำคัญของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและมากด้วยประโยชน์ที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้ว แต่ประสบการณ์และความทนต่อผลิตภัณฑ์เรตินอลในแต่ละคนนั้นต่างกัน สำหรับผู้ที่มีความกังวลว่าอาจเกิดอาการระคายเคืองหรือรอยดำ ผลจากการศึกษานี้ช่วยให้เราค้นพบกับสิ่งที่อาจเป็นทางออก ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นที่ได้นำผลการวิจัยนี้มาแจ้งให้กับชุมชนวิทยาศาสตร์ทั่วโลก ณ งาน World Congress ครั้งที่ 19 ของ AMWC ทราบ เพื่อแชร์งานวิจัยที่เป็นนวัตกรรมของเรากับบุคลากรในแวดวงวิทยาศาสตร์เพื่อการดูแลผิวและการชะลอวัย” ดร. Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านวิทยาศาสตร์ของ Mary Kay Inc. กล่าว

“งาน AMWC ประจำปี 2564 ประกอบด้วยโปรแกรมเกี่ยวกับเวชศาสตร์ด้านความงามและการชะลอวัยในหลากหลายแง่มุม โดยมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมการศึกษาต่อเนื่องระดับสูง และเรามีความยินดีที่ได้ Mary Kay มาร่วมงานในปีนี้ เราหวังว่าเราได้สร้างความสำเร็จในการช่วยให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะแลกเปลี่ยนความคิดใหม่ ๆ และแบ่งปัน ‘know-how’ ในสาขานี้ไปทั่วโลกให้เกิดขึ้น ดิฉันรู้สึกขอบคุณทีมงานของเรา พันธมิตรจากทั่วโลก ผู้เข้าร่วมงาน และชุมชนวิทยาศาสตร์สำหรับการมีส่วนร่วมของพวกเขา และสำหรับโอกาสที่จะได้รับใช้และตอบสนองความต้องการด้านเวชศาสตร์ความงามและเวชศาสตร์การชะลอวัยของพวกเขาต่อไป” Catherine Decuyper ผู้ก่อตั้งและประธาน EuroMediCom กล่าว

สืบเนื่องจากความสำเร็จของการจัดงาน AMWC ปี 2564 ที่ผ่านมา EuroMediCom จึงได้เตรียมจัดงาน AMWC ประจำปี 2565 ขึ้น ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม ถึง 2 เมษายน 2565 โดยจะจัดในรูปแบบผสมอีกครั้งเพื่อให้ตัวแทนจากทั่วโลกสามารถเข้าร่วมการประชุมระดับโลกด้านเวชศาสตร์ความงามและการชะลอวัย ครั้งที่ 20 ได้ ผู้ที่ลงทะเบียนสามารถเลือกเข้าร่วมงานด้วยตัวเองหรือจะรับชมการประชุมในช่วงต่าง ๆ ผ่านการสตรีมสดได้จากทุกที่ทั่วโลก

งานประชุมวิชาการประจำปีโดยสมาคมยุโรปเพื่อการวิจัยโรคผิวหนัง (ESDR) จะจัดขึ้นในยุโรปในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี สำหรับในปี 2564 ด้วยข้อจำกัดด้านการเดินทางและมาตรการป้องกันโควิด-19 การประชุมประจำปีนี้จึงจัดขึ้นในรูปแบบเสมือนจริง ระหว่างวันที่ 22 ถึง 25 กันยายน 2564 ESDR ให้การสนับสนุนการสืบค้นทางห้องปฏิบัติการทางโรคผิวหนัง (investigative dermatology) โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ป่วยที่ได้รับความทรมานจากโรคผิวหนังและโรคติดเชื้อต่าง ๆ และความผิดปกติของภูมิคุ้มกันมีสุขภาพที่ดีขึ้น และนอกจากนำเสนองานวิจัยแล้ว Mary Kay ยังได้ให้การสนับสนุนการจัดสัมมนาในหัวข้อ Future Leaders in Dermatology ซึ่งเป็นการเปิดงานประชุมอย่างเป็นทางการอีกด้วย

Geetha Kalahasti รองหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ที่ Mary Kay Inc. ได้เผยถึงผลจากการศึกษาทางคลินิกเมื่อไม่นานมานี้ที่ได้ทำการประเมินผลข้างเคียงของสูตรใหม่ซึ่งมีส่วนผสมของไขมันในอัตราส่วนตามธรรมชาติของผิวหนัง สารที่มีฤทธิ์ปิดกั้นตัวรับรู้ความรู้สึกเจ็บปวด (TRPV-1) และสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยลดการหลั่งของโปรอินเฟลมมาทอรีไซโตไคน์

“ที่ Mary Kay เราทุ่มเทกับการทำความเข้าใจในเรื่องชีววิทยาของผิว และการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผิว หัวข้อที่เราให้ความสนใจอยู่ตอนนี้คือความสัมพันธ์ระหว่างผิวที่แพ้ง่ายกับการทำหน้าที่ปกป้องสิ่งแปลกปลอมของผิวหนัง ส่วนผสมแต่ละชนิดจะพุ่งเป้าไปที่แต่ละวิถีทางชีวภาพ (biological pathway) ที่ทำให้ผิวเกิดรอยแดง ผลการศึกษาพบว่าการใช้วิธีการแบบหลายแง่มุมช่วยให้เกราะป้องกันผิวที่ถูกทำลายแข็งแรงขึ้น และยังช่วยลดอาการระคายเคืองที่เกี่ยวข้องกับผิวแพ้ง่ายด้วย” Kalahasti กล่าว

“ในฐานะตัวแทนของคณะกรรมการบริหารของ ESDR ผมอยากแสดงความขอบคุณไปยัง Mary Kay สำหรับการสนับสนุนที่มีต่อ ESDR และการเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมของ ESDR หนึ่งในกิจกรรมที่สำคัญของสมาคมของเราคือการส่งเสริมการนำเสนอข้อมูลวิจัยและแนวคิดใหม่ ๆ และเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ Mary Kay มาเป็นส่วนหนึ่งของงานครั้งนี้” Leopold Eckhart ประธานคณะกรรมการโครงการวิทยาศาสตร์ของ ESDR กล่าว

งานสัมมนาครั้งนี้ได้ช่วยให้นักวิจัยรุ่นใหม่ได้มาพบปะกับนักวิทยาศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับทางด้านโรคผิวหนังและส่งเสริมให้เกิดการทำงานร่วมกัน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ Mary Kay Inc. ให้ความสำคัญอย่างมาก

เกี่ยวกับ MARY KAY

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 2506 โดยมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือ การยกระดับชีวีตของผู้หญิงให้ดีขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นกับการสร้างพลังให้กับผู้หญิงบนเส้นทางสู่ความเป็นอิสระทางเศรษฐกิจของพวกเธอผ่านการให้ความรู้ การสอน การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ยังอุทิศตัวให้กับการลงทุนทางด้านวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสุดล้ำ รวมถึงเครื่องสำอางแต่งหน้า อาหารเสริมที่อุดมด้วยโภชนาการ และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการยกระดับการใช้ชีวิตในวันนี้เพื่อวันข้างหน้าที่ยั่งยืน โดยได้ร่วมกับองค์กรจากทั่วโลกที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยด้านมะเร็ง ผลักดันความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว สร้างชุมชนของเราให้สวยงาม และสร้างแรงบันดาลใจให้เด็ก ๆ เดินตามความฝัน เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราได้ทาง FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราที่ Twitter

เกี่ยวกับ EUROMEDICOM

EuroMediCom ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2542 โดยเป็นส่วนหนึ่งของการจัดงาน Informa Exhibitions มาตั้งแต่ปี 2553 มีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมทางด้านชีววิทยาศาสตร์และความรู้ผ่านการฝึกอบรมเพื่อสร้างความรู้ และการประชุมและการจัดนิทรรศการ สำหรับงาน AMWC ซึ่งเป็นงานหลัก มีการจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2546 และกลายมาเป็นงานประชุมระดับชั้นนำของโลกด้านเวชศาสตร์ความงามที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การจัดงาน AMWC เกิดขึ้นมาพร้อมความเชื่อมั่นอย่างมากว่าการรักษาเพื่อความงามภายนอกและการชะลอวัยจากภายในสามารถทำได้พร้อม ๆ กันจากการบูรณการสองสิ่งเข้าด้วยกัน นั่นคือ กลยุทธ์ด้านความงามจากวิทยาการด้านผิวหนังและขั้นตอนทางการผ่าตัดเพื่อรูปลักษณ์ภายนอก และศาสตร์การชะลอวัยสำหรับป้องกันการความชราและการยกระดับการรักษาเพื่อความงาม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AMWC คลิกที่นี่: https://www.euromedicom.com/en/home.html

เกี่ยวกับสมาคมยุโรปเพื่อการวิจัยโรค (ESDR)

สมาคมยุโรปเพื่อการวิจัยโรค (ESDR) ก่อตั้งขึ้นในปี 2513 และเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ต้องการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานและระดับคลินิกที่เกี่ยวกับโรคผิวหนัง ESDR เป็นสมาคมด้านการสืบค้นทางห้องปฏิบัติการทางโรคผิวหนังที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและมีสมาชิกราว 1100 คนในปัจจุบัน จากการสนับสนุนการสืบค้นทางห้องปฏิบัติการทางโรคผิวหนังและการวิจัยด้านผิวหนัง ESDR ได้เข้าไปมีส่วนในการสร้างความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการปรับดุลยภาพของผิว และต่อการยกระดับสุขภาพของผู้ป่วยที่ได้รับความทรมานจากโรคเกี่ยวกับผิวหนังและกามโรค โรคติดเชื้อต่าง ๆ และความผิดปกติเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันและการอักเสบ ESDR ช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการสืบค้นทางห้องปฏิบัติการทางโรคผิวหนังระหว่างแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก และยังเป็นผู้จัดงานเพื่อให้ความรู้ต่าง ๆ ตลอดทั้งปีเพื่อต่อยอดความรู้ในงานวิจัยด้านผิวหนังต่อไป สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่: https://esdr.org/

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220113005071/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. ฝ่ายสื่อสารองค์กร
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย



Mary Kay Inc. และมูลนิธิ Mary Kay Ash FoundationSM ฉลองเหตุการณ์สำคัญส่งท้ายปี 2564

Logo

แดลลัส–(BUSINESS WIRE)–8 มกราคม 2565

Mary Kay Inc. บริษัทพัฒนาผู้ประกอบการระดับโลกและผู้สนับสนุนด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและความยั่งยืนขององค์กร เปิดเผยเหตุการณ์ที่สำคัญส่งท้ายปี 2564 Mary Kay Inc. ได้สานต่อคำมั่นสัญญาที่ยาวนานหลายทศวรรษในการทำให้ชีวิตของผู้หญิงทั่วโลกให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และสร้างชุมชนให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220107005500/en/

Mary Kay was named a Silver Globee® Winner in 3 categories at the 13th Annual 2021 Golden Bridge Business and Innovation Awards. (Photo: Mary Kay Inc.)

Mary Kay ได้รับรางวัล Silver Globee® จาก 3 หมวดหมู่ในงาน Golden Bridge Business and Innovation Awards ประจำปี 2564 ครั้งที่ 13 (ภาพ: Mary Kay Inc.)

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความสำเร็จในปี 2564 ของ Mary Kay ในรายงานนี้

เหตุการณ์สำคัญส่งท้ายปี 2564

ความเป็นเลิศทางธุรกิจ

  • Mary Kay ได้รับ 58 รางวัลและเกียรติยศในปี 2564 ซึ่งรวมถึง: การรับมือกับโควิด (22 รางวัล) การยกย่องจากพันธมิตรในรายงานผลกระทบทางสังคม/รายงานประจำปี (4) ผู้บริหารของ Mary Kay ได้รับการยอมรับในด้านความเป็นผู้นำ (7) ความเป็นเลิศทางธุรกิจ (10) และสารคดีที่ได้รับรางวัล (4 รางวัล; 5 เรื่องคัดเลือก) นอกจากนี้ Mary Kay และ/หรือ Mary Kay Ash ผู้ก่อตั้งที่เป็นสัญลักษณ์ของบริษัท ยังได้แสดงไว้ในหนังสือ Harvard Business Case Studies 2 ฉบับ หนังสือเรียน 3 เล่ม และรายงานการวิจัย 1 ฉบับ
  • ประกาศแต่งตั้ง Wendy Wang เป็นประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยร้อยละ 54 ของทีมผู้บริหารทั่วโลกของ Mary Kay เป็นผู้หญิง
  • ฉลองครบรอบตลาดของ Mary Kay: Mary Kay ลิทัวเนีย (10 ปี) และ Mary Kay เยอรมนี (35 ปี)
  • ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งในนายจ้างขนาดกลางที่ดีที่สุดในอเมริกาประจำปี 2564 (America's Best Mid-Sized Employers 2021) โดยนิตยสาร Forbes

Mary Kay Global Design Studio & Digital Innovation เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า

  • Mary Kay Global Design Studio และ Glamhive ได้ประกาศในรายการเรียลลิตี้โชว์ของ TikTok ระดับโลกครั้งแรกตามสไตล์โดย Step & Repeat การประกวดแสดงความสามารถด้านห้องเสื้อผ้า การแต่งหน้า และทรงผมจากผู้ใช้ TikTok ทั่วโลก ผู้เข้าร่วมได้แสดงความสามารถของตนจากกว่า 30 ประเทศ และแคมเปญที่เป็นนวัตกรรมดังกล่าวได้นำเสนอใน UK Daily Mail, The Daily Front Row และ Vogue Business ซึ่งเน้นย้ำถึงแนวทางที่เป็นนวัตกรรมในการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ค่อนข้างใหม่
  • เปิดตัว Suite 13 ซึ่งเป็นประสบการณ์ด้านความงามที่ใช้ความเป็นจริงเสมือนเพื่อแปลงโฉมโชว์รูมเสมือนจริงแห่งแรกของบริษัทในรูปแบบดิจิทัล Mary Kay MirrorMe™ สำหรับการแต่งหน้าเสมือนจริง และแอป Mary Kay® Skin Analyzer เพื่อสแกนใบหน้าของคุณสำหรับกิจวัตรประจำวันในการดูแลผิวที่ปรับแต่งได้
  • เฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีในการร่วมมือกับ Luis Casco แอมบาสเดอร์ความงามระดับโลก

วิทยาศาสตร์เบื้องหลังแห่งความงาม

  • เปิดตัวผลิตภัณฑ์บำรุงผิว Clinical Solutions™ ซึ่งประกอบด้วย Mary Kay Clinical Solutions™ Retinol 0.5 และ Mary Kay Clinical Solutions™ Calm + Restore Facial Milk และได้รับการรับรองของสภาแพทย์ผิวหนัง
  • Dr. Michelle Hines, Ph.D. ผู้อำนวยการด้านการกำหนดสูตรผลิตภัณฑ์ของ Mary Kay ได้รับการประกาศให้เป็นประธานเลือกของสมาคมนักเคมีเครื่องสำอาง (SCC)
  • ในความร่วมมือกับ Society for Investigative Dermatology (SID) ได้ประกาศเงินช่วยเหลือด้านสุขภาพ/โรคผิวหนัง เงินช่วยเหลือจะมอบให้กับนักวิจัยที่ทำการศึกษานวัตกรรมด้านสุขภาพผิวหนังและโรคผิวหนังที่แปลกใหม่เพื่อค้นพบมุมมองใหม่และกลยุทธ์การหนุนเสริม
  • ประกาศรายชื่อผู้ได้รับทุนสนับสนุนการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์หลายทุน รวมถึง Society of Cosmetic Chemists และ Mary Kay Inc. – Madam CJ Walker Scholarships เพื่อสนับสนุนนักศึกษาชนกลุ่มน้อยที่ด้อยโอกาสซึ่งกำลังศึกษาระดับปริญญาตรีหรือบัณฑิตสาขาเคมี กายภาพ การแพทย์ เภสัชกรรม ชีวภาพ หรือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง และมอบทุน Girls in STEAM จำนวนห้าทุนให้กับเยาวชนหญิงที่กำลังมีส่วนร่วมในการวิจัยเชิงนวัตกรรม ผู้รับปี 2564 ได้แก่ Mylana Brodovska จากยูเครน; Selin Alara Ornek จากตุรกี; Jordan Reeves จากสหรัฐอเมริกา; Ivanna Hernandez จากโคลอมเบีย; และAllie Weber จากสหรัฐอเมริกา
  • เปิดตัวงานวิจัยในการประชุมด้านวิทยาศาสตร์เสมือนจริงหลายครั้ง งานวิจัยนี้รวมถึง: แบ่งปันงานวิจัยเกี่ยวกับกระบวนการปรับสภาพผิวแบบค่อยเป็นค่อยไปซึ่งช่วยเพิ่มความทนทานต่อเรตินอลที่บริสุทธิ์ที่มีความเข้มข้นสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ยังคงมอบคุณประโยชน์ต่อผิวที่สำคัญของเรตินอล นำเสนอข้อค้นพบสำหรับการใช้เฉพาะเรตินอลที่บริสุทธิ์เพื่อปรับปรุงจุดด่างดำที่เกิดจากการอักเสบของผิวในประชากรชาวเอเชีย และกลไกการปรับที่สัมพันธ์กับการทำงานของผิวชั้นนอกสุดที่ถือเป็นปราการปกป้องผิวในการช่วยบรรเทา 2 ความกังวลทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับผิวแพ้ง่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลกระทบทางสังคม/ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร (CSR)

  • ในปี 2564 Pink Changing LivesSM ทั่วโลกของ Mary Kay ได้ก่อให้เกิดโปรแกรมเสริมพลังสนับสนุนองค์กรนอกภาครัฐกว่า 15 แห่งทั่วโลก ตั้งแต่ปี 2551 โปรแกรมดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผู้หญิงมากกว่า 6 ล้านคนและครอบครัวโดยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ กว่า 3,000 แห่ง ด้วยเงินบริจาคกว่า 16 ล้านดอลลาร์
  • Mary Kay จีน: มณฑลเหอหนานของจีนได้รับผลกระทบจากอุทกภัยรุนแรงเนื่องจากน้ำท่วม ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 33 ราย สูญหายอีก 8 ราย อพยพผู้คน 200,000 ราย ผู้คนที่ได้รับผลกระทบ 3 ล้านคน และการสูญเสียทางเศรษฐกิจโดยตรงอยู่ที่ประมาณ 1.22 พันล้านหยวน Mary Kay จีน บริจาคผลิตภัณฑ์มูลค่า 1 ล้านหยวนให้กับสหพันธ์การกุศลมณฑลเหอหนาน
  • Mary Kay เยอรมนี: น้ำท่วมในยุโรปส่งผลกระทบต่อเยอรมนี ออสเตรีย เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์ และติดอันดับภัยอันตรายทางธรรมชาติที่ทำลายล้างมากที่สุดในยุโรปเหนือ Mary Kay เยอรมนีให้คำมั่นในการบริจาคเงิน 100,000 ยูโรเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ
  • Mary Kay สเปน: ในปี 2563-64 ร่วมมือกับ Fundación Vicente Ferrer เพื่อให้บริการดูแลสุขภาพแก่เด็กและครอบครัวในอินเดีย ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 (ในปี 2561) Mary Kay สเปนได้ให้เงินสนับสนุนในการสร้างโรงเรียนสำหรับเด็กในหมู่บ้านปากาดาลาวาริปัลลิ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตกาดิริ (อนันตปูร์) ของอินเดีย

การส่งเสริมพลังของผู้หญิง

  • ประกาศความมุ่งมั่นในการพัฒนาความเท่าเทียมทางเพศโดยเผยแพร่เอกสารแสดงจุดยืนต้อนรับกลยุทธ์ความเท่าเทียมทางเพศของคณะกรรมาธิการยุโรปสำหรับปี 2563 – 2568 และโดยการเข้าร่วมการประชุมยุคสมัยแห่งความเท่าเทียม (Generation Equality Forum) ในปารีสและ 5 แนวร่วมปฏิบัติการระดับโลกเพื่อเร่งความเท่าเทียมทางเพศภายในปี 2569
  • ในความร่วมมือกับองค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women), องค์การแรงงานระหว่างประเทศ(ILO) & WE Empower ได้มีการเผยแพร่เรื่อง “เสริมสร้างการสนับสนุนสำหรับผู้ประกอบการสตรีในการตอบสนองและการฟื้นตัวของโควิด-19 หรือ Strengthening Support for Women Entrepreneurs in COVID-19 Response and Recovery” ที่คณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรี (CSW65)
  • Mary Kay และมูลนิธิ Mary Kay Ash FoundationSM ได้รับการยอมรับในรายงานของหน่วยงานสหประชาชาติเพื่อความเท่าเทียมทางเพศและการส่งเสริมพลังของผู้หญิงในกิจกรรมของกองทุนแห่งสหประชาชาติเพื่อสนับสนุนการดำเนินการเพื่อยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงต่อคณะกรรมาธิการว่าด้วย สถานภาพสตรี (CSW65) และสภาสิทธิมนุษยชน

ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการยอมรับความแตกต่าง (DEI)

  • ประกาศร้อยละ 100 ตำแหน่งผู้อำนวยการขึ้นไปที่ประจำในสหรัฐฯ เสร็จสิ้นการฝึกอบรมอคติใต้สำนึกภาคบังคับ
  • เปิดเผยความหลากหลายทางเพศในข้อมูลสถานที่ทำงาน: ร้อยละ 54 ของทีมผู้บริหารทั่วโลกของ Mary Kay เป็นผู้หญิง; ร้อยละ 61 ของพนักงานทั่วโลกของ Mary Kay เป็นผู้หญิง และร้อยละ 54 ของตำแหน่งรองประธานขึ้นไปเป็นผู้หญิง; ร้อยละ 59 ของตำแหน่งผู้อำนวยการขึ้นไปเป็นผู้หญิง
  • ในความร่วมมือกับ Equal Rights Trust พันธมิตรระดับโลก ได้ประกาศเปิดตัวการวิจัยเชิงนวัตกรรมเกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมกันทางเพศในอัลกอริทึมและปัญญาประดิษฐ์ที่มีเป้าหมายเพื่อจัดการกับความเท่าเทียมและผลกระทบทางเพศของระบบอัลกอริทึมที่นำเสนอโดย Mary Kay

ความยั่งยืน

  • ประกาศกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลก: เติมเต็มชีวิตในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน แนวทางแบบองค์รวมของเราครอบคลุมเสาหลักสามประการของความยั่งยืน—เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม—ผ่านเสาหลัก 5 ประการ โดยกระตุ้นด้วยความมุ่งมั่น 15 ประการเพื่อส่งมอบทศวรรษแห่งการดำเนินการที่ยั่งยืน
  • เป็นผู้ลงนามในสาเหตุสำคัญสองประการในการปกป้องน่านน้ำของโลก: CEO Water Mandate และหลักการฟื้นฟูมหาสมุทรอย่างยั่งยืนภายใต้กรอบความร่วมมือการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ หรือ United Nations Global Compact’s Sustainable Ocean Principles
  • เข้าร่วมมูลนิธิ Ellen MacArthur Foundation ในฐานะสมาชิกของเครือข่าย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในการเป็นธุรกิจหมุนเวียนที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น
  • Mary Kay เปิดตัวสารคดีเรื่องที่สอง Forest of Hope ในเดือนตุลาคมระหว่างการประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติปี 2564 (COP26) สารคดีดังกล่าวเน้นย้ำถึงผลงานของ Angelica นักต่อสู้อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในวัย 70 ​​ปี และผู้นำกลุ่มผู้ประกอบการสตรีที่มุ่งมั่นในการรักษาป่าไม้ของเมืองมอนเตร์เรย์
  • ด้วยความร่วมมือกับมูลนิธิ Arbor Day Foundation ในการริเริ่ม Time for Trees® initiative ได้ประกาศบรรลุความมุ่งมั่นในการปลูกต้นไม้ 100 ล้านต้นและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ปลูกต้นไม้รายใหม่ 5 ล้านคนภายในเดือนเมษายน 2565 ซึ่งสำเร็จลุล่วงไปหนึ่งปีก่อนกำหนด
  • Mary Kay ร่วมมือกับ Nature Conservancy มาตั้งแต่ปี 2534 ทั้งนี้ในปี 2564 Mary Kay สนับสนุนเจ็ดโครงการในหมู่เกาะโซโลมอน ออสเตรเลียตอนเหนือ นิวซีแลนด์ เขตชนบทของจีน เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา และแคนาดา

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเกือบ 60 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay Inc. ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม  Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขาด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลก โดยมุ่งเน้นที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว สร้างความสวยงามให้กับชุมชน และสนับสนุนให้เด็ก ๆ ได้ทำตามความฝันของพวกเขา วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกาย – และนำพาสู่ความสำเร็จไปทีละขั้น เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Mary Kay ได้ที่ www.MaryKayGlobal.com

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220107005500/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc.
Global Communications
newsroom.marykay.com
+1 972.687.5332
media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย





Mary Kay Inc. และมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation มุ่งมั่นที่จะป้องกันและยุติความรุนแรงทางเพศทั่วโลก

Logo

ความมุ่งมั่นสู่แนวร่วมปฏิบัติยุคสมัยแห่งความเท่าเทียมต่อความรุนแรงทางเพศและความร่วมมือครั้งใหม่กับกองทุนแห่งสหประชาชาติเพื่อยุติความรุนแรงต่อสตรี (UN Trust Fund to End Violence against Women) และ CARE ตอกย้ำพันธกิจของแบรนด์ในการปกป้องสตรีและเด็กผู้หญิงทั่วโลก

แดลลัส–(BUSINESS WIRE)–24 พฤศจิกายน 2564

เนื่องในวันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากลที่กำลังจะมาถึงเพื่อรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงทางเพศเป็นเวลา 16 วัน Mary Kay Inc. และมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation ในวันนี้ประกาศคำมั่นสัญญาร่วมกันในการป้องกันและยุติความรุนแรงทางเพศโดยเข้าร่วมกลุ่มแนวร่วมปฏิบัติยุคสมัยแห่งความเท่าเทียมต่อความรุนแรงทางเพศ ความมุ่งมั่นที่องค์กรต่าง ๆ ได้เปิดเผยต่อสาธารณะในระหว่างการประชุมยุคสมัยแห่งความเท่าเทียมล่าสุดขององค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) ในกรุงปารีส เป็นเพียงแค่ขั้นตอนล่าสุดสตอรี่บิวตี้แบรนด์และกำลังด้านการกุศลที่ได้จัดทำขึ้นเพื่อพัฒนาชีวิตของผู้หญิงในทุก ๆ ที่

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211124005749/en/

Vesna Jaric, Officer-In- Charge, UN Trust Fund to End Violence against Women (Photo: Mary Kay Inc.)

Vesna Jaric เจ้าหน้าที่ดูแลกองทุน UN Trust Fund เพื่อยุติความรุนแรงต่อสตรี (ภาพ: Mary Kay Inc.)

แนวร่วมปฏิบัติยุคสมัยแห่งความเท่าเทียมต่อความรุนแรงทางเพศนำโดย UN Women และกองทุน UN Trust Fund to End Violence against Women (UN Trust Fund) ท่ามกลางผู้นำคนอื่น ๆ เป็นขบวนการระดับโลกที่ทรงพลังที่ระดมรัฐบาล องค์กรระหว่างประเทศ การกุศล และภาคเอกชนในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงไปสู่การยุติความรุนแรงทางเพศผ่านการกระทำที่เป็นรูปธรรมสี่ประการ:

  • การสร้างนโยบายที่เอื้ออำนวยสภาพแวดล้อมทางกฎหมายและทรัพยากร;
  • ขยายขนาดโปรแกรมป้องกันที่ขับเคลื่อนด้วยหลักฐาน;
  • ขยายบริการที่ครอบคลุม เข้าถึงได้ และมีคุณภาพสำหรับผู้รอดชีวิต
  • เปิดใช้งานและเพิ่มขีดความสามารถองค์กรอิสระที่นำโดยเด็กผู้หญิงและสิทธิสตรีเพื่อฝึกฝนความเชี่ยวชาญของพวกเขา

เป้าหมายของแนวร่วมปฏิบัติยุคสมัยแห่งความเท่าเทียมต่อความรุนแรงทางเพศ คือการมีผู้หญิงและเด็กผู้หญิงมากกว่า 550 ล้านคน อาศัยอยู่ในประเทศที่มีกฎหมายและนโยบายของการยุติการใช้ความรุนแรงทางเพศทุกรูปแบบต่อสตรีและเด็กผู้หญิงภายในปี 2569 รวมทั้งประเทศอื่น ๆ ในระหว่างการประชุม UN Women มุ่งมั่นที่จะขยายการสนับสนุนและให้เงินช่วยเหลือแก่องค์กรด้านสิทธิสตรีด้วยการทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อจัดหาเงินสนับสนุนขั้นต่ำที่ 100 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อจัดสรรผ่านกองทุน UN Trust Fund to End Violence against Women (UN Trust Fund) ในอีกห้าปีข้างหน้า

“มีวิกฤตการณ์ระดับโลกเกี่ยวกับความรุนแรงทางเพศ” Ryan Rogers ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Mary Kay Inc. และรองประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธิ Mary Kay Ash FoundationSM กล่าว “ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงและเด็กผู้หญิงนั้นไม่ได้รับการรายงานเป็นจำนวนมาก แต่คาดว่า 1 ใน 3 ของผู้หญิงและ 1 ใน 4 ของเด็กผู้หญิงวัยรุ่นเคยประสบกับความรุนแรงทางร่างกายหรือทางเพศจากคู่รักที่สนิทสนม เราต้องลงมือทำเดี๋ยวนี้ ตั้งแต่ปี 2543 มูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation ได้มอบเงินมากกว่า 58 ล้านดอลลาร์ให้กับที่พักพิงสำหรับความรุนแรงในครอบครัว ความมุ่งมั่นของเราต่อแนวร่วมปฏิบัติการว่าด้วยความรุนแรงทางเพศจะช่วยให้เราสามารถขยายความช่วยเหลือนั้นออกไปได้อีก”

“ตั้งแต่ปี 2506 Mary Kay ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะปรับปรุงชีวิตของเด็กผู้หญิงและผู้หญิงในทุกที่” Melinda Foster Sellers ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของ Mary Kay Inc. กล่าว “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เข้าร่วมกับรัฐบาล ภาคเอกชน และองค์กรพัฒนาเอกชนทั่วโลกที่มีความปรารถนาคล้ายคลึงกันในคำมั่นสัญญาที่จะป้องกันและยุติความรุนแรงทางเพศ การบรรลุถึงความเท่าเทียมที่แท้จริงจะเปลี่ยนแปลงโลกตามที่เรารู้กัน การลงทุนในสตรีคือความดีที่ทรงอานุภาพที่สุดที่เราสามารถทำได้เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย”

ปีที่แล้ว Mary Kay Inc. และมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation ได้ร่วมมือกับกองทุน United Nations Trust Fund to End Violence against Women (UN Trust Fund) และ CARE ซึ่งเป็นสองผู้สนับสนุนสิทธิสตรีเพื่อสานต่อภารกิจเพื่อบรรลุโลกที่ปราศจากความรุนแรงต่อผู้หญิง

ตั้งแต่ปี 2539 กองทุน UN Trust Fund ได้สนับสนุนองค์กร 609 แห่งมูลค่ารวม 198 ล้านดอลลาร์ใน 140 ประเทศและภูมิภาค โดยลงทุนในนวัตกรรมและแนวทางแก้ปัญหาที่นำโดยประชาสังคมตามหลักฐาน และการริเริ่มที่เปลี่ยนแปลงชีวิตในระดับชาติและระดับท้องถิ่นผ่านการเป็นพันธมิตรกับกองทุน UN Trust Fund ซึ่ง Mary Kayได้สนับสนุนการระดมทุนโครงการที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเพื่อปกป้องผู้หญิงและเด็กผู้หญิงใน 68 ประเทศและภูมิภาคในปี 2564

ในปี 2564 กองทุน UN Trust Fund ครบรอบ 25 ปีของการให้ทุน การสนับสนุน และความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรภาคประชาสังคมและองค์กรสิทธิสตรี ในวันครบรอบการก่อตั้ง กองทุนขอเชิญชวนทุกคนให้ลงมือทำและเข้าร่วมโครงการผ่านการระดมทุน crowdfunding challenge #Give25forUNTF25 เพื่อให้แน่ใจว่าองค์กรภาคประชาสังคมและองค์กรสิทธิสตรีจะได้รับเงินทุนระยะยาวและยืดหยุ่นได้

“กองทุน UN Trust Fund to End Violence against Women ซึ่ง Mary Kay Inc. และมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation ได้ร่วมมือกันเพื่อบรรลุความทะเยอทะยานของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนเป้าหมายที่ 5 และยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงด้วยการรับประกันเงินทุนระยะยาว เป็นแกนหลัก และยืดหยุ่นเพื่อองค์กรสิทธิสตรีต่าง ๆ ทั่วโลกที่ตอบสนองต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิงที่รอดชีวิตเป็นครั้งแรก” Vesna Jaric เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบกองทุน UN Trust Fund to End Violence against Women กล่าว “ในขณะที่โลกยังคงประสบกับวิกฤตหลายครั้งและเกิดขึ้นพร้อมกัน ซึ่งเกี่ยวข้องกับอัตราการใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิงที่เพิ่มมากขึ้น การคุกคามต่อสิทธิสตรี การเป็นหุ้นส่วนระหว่างภาครัฐและเอกชนมีความสำคัญเท่าที่เคยมีมาเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืนสำหรับผู้หญิงและเด็กผู้หญิงทั่วโลก”

CARE ก่อตั้งขึ้นในปี 2488 เป็นองค์กรด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศที่ทำงานทั่วโลกเพื่อช่วยชีวิต ขจัดความยากจน บรรลุความยุติธรรมทางสังคม และต่อสู้เพื่อสตรีและเด็กหญิง ผู้หญิงและเด็กผู้หญิงเป็นจุดสนใจหลักของ CARE เนื่องจากหลักฐานแสดงให้เห็นว่าการจัดการกับความไม่เท่าเทียมกันทางเพศเป็นกุญแจสำคัญในการตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ การเอาชนะความยากจน และทำให้มั่นใจว่าทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีและมั่นคง ในปี 2563 Mary Kay ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรระดับโลกกับ CARE เพื่อสนับสนุนแคมเปญ Crisis Response Campaign ขององค์กร และมุ่งมั่นที่จะขจัดความรุนแรงทางเพศในทุก ๆ ที่ ซึ่งรวมถึงเกณฑ์การตั้งค่าด้านมนุษยธรรม

“เป็นไปไม่ได้สำหรับผู้หญิงและเด็กผู้หญิงที่จะบรรลุความเท่าเทียมกัน เมื่อความรุนแรงและการล่วงละเมิดทางเพศคุกคามความปลอดภัยของพวกเขาทุกวัน” Michelle Nunn ประธานและซีอีโอของ CARE กล่าว “ทั่วทั้งโลกในกรณีของความรุนแรงทางเพศได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ด้วยมีการโทรเข้าสายด่วนเพิ่มขึ้น 5 เท่าในบางประเทศและผู้หญิงถูกกักขังอยู่กับผู้ล่วงละเมิด Mary Kay Inc. และมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation ร่วมมือกับ CARE เพื่อให้แน่ใจว่าเราสามารถลดความเสี่ยงของความรุนแรงทางเพศและให้การดูแลที่ครอบคลุมสำหรับผู้รอดชีวิต ในช่วง 16 วันของกิจกรรมเพื่อการเปลี่ยนแปลง เราขอร้องให้สาธารณชนเข้าร่วมกับเราในการตอบรับการโทรและสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและสังคมเพื่อยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงทั่วโลก”

Mary Kay Inc. และมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation ร่วมสนับสนุนสิทธิสตรีทั่วโลกในการเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีของกองทุน UN Trust Fund to End Violence against Women และครบรอบ 75 ปีของ CARE

สาระสำคัญระดับโลกที่กำหนดโดยแคมเปญ UN Secretary-General’s UNiTE Campaign สำหรับกิจกรรมเพื่อการเปลี่ยนแปลง 16 วัน ของปี 2564 เพื่อต่อต้านความรุนแรงทางเพศ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2564 ในหัวข้อ Orange the world: ยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงเดี๋ยวนี้! หรือ Orange the world: End violence against women now!”

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเกือบ 58 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay Inc. ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม  Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขาด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลก โดยมุ่งเน้นที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว สร้างความสวยงามให้กับชุมชน และสนับสนุนให้เด็ก ๆ ได้ทำตามความฝันของพวกเขา วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกาย – และนำพาสู่ความสำเร็จไปทีละขั้น เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Mary Kay ได้ที่ MaryKay.com

เกี่ยวกับมูลนิธิ Mary Kay Ash FoundationSM

เพื่อสานต่อความฝันของ Mary Kay Ash ในการส่งเสริมชีวิตของผู้หญิงทั่วโลก มูลนิธิ Mary Kay Ash FoundationSM ได้ระดมทุนและทำการแจกจ่ายเพื่อลงทุนในการวิจัยโรคมะเร็งเพื่อค้นหาวิธีรักษาโรคมะเร็งที่มักเกิดกับผู้หญิง และเพื่อยุติผลกระทบความรุนแรงต่อผู้หญิงภายในประเทศ ตั้งแต่ปี 2539 เป็นต้นมา มูลนิธฺ Mary Kay FoundationSM ได้มอบเงินบริจาคมากกว่า 80 ล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรต่าง ๆ ที่ทำงานสอดคล้องกับพันธกิจของมูลนิธิโดยให้ความสำคัญอย่างเท่ากัน นอกเหนือจากนั้นมูลนิธิยังสนับสนุนโครงการสร้างการรับรู้ โครงการเข้าถึงชุมชน และการสนับสนุนช่วยเหลือการร่างกฏหมายเพื่อให้ผู้หญิงมีสุขภาพดีและปลอดภัย พร้อมกันนั้นก็สร้างโลกให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นสำหรับผู้หญิง ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้ความรู้ การสนับสนุน อาสาสมัคร และการบริจาค รวมทั้งเข้าร่วมกิจกรรมช่วยเหลือชีวิตเพื่อสร้างแรงผลักดันแก่ผู้หญิง กรุณาเยี่ยมชม marykayfoundation.org ค้นหาเราได้ทาง Facebook และ Instagram หรือติดตามเราได้ที่ Twitter

เกี่ยวกับ United Nations Trust Fund to End Violence against Women

กองทุน United Nations Trust Fund to End Violence against Women (UN Trust Fund) ซึ่งบริหารจัดการโดย UN Women ในนามของระบบ UN system เป็นการให้ทุนระดับโลกเพียงกลไกเดียวที่อุทิศให้กับการขจัดความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิงในทุกรูปแบบโดยเฉพาะ ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมาบริษัทได้สนับสนุนองค์กร 609 แห่ง ลงทุนในโซลูชั่นที่นำโดยภาคประชาสังคมที่เป็นนวัตกรรมและอิงตามหลักฐาน และโครงการที่เปลี่ยนแปลงชีวิต โครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนมุ่งเน้นไปที่การป้องกันความรุนแรง การนำกฎหมายและนโยบายไปปฏิบัติเพื่อแก้ไขและยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิง และการปรับปรุงการเข้าถึงบริการที่จำเป็นสำหรับผู้รอดชีวิต เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ untf.unwomen.org  และติดตามเราบน FacebookInstagram และ Twitter

เกี่ยวกับ CARE

CARE ก่อตั้งขึ้นในปี 2488 โดยมีการสร้าง CARE Package® เป็นองค์กรด้านมนุษยธรรมชั้นนำที่ต่อสู้กับความยากจนทั่วโลก CARE มีประสบการณ์มากกว่าเจ็ดทศวรรษในการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินในช่วงวิกฤต การตอบสนองวิกฤตการณ์ของเรามุ่งเน้นไปที่ความต้องการของกลุ่มประชากรที่เปราะบางที่สุดโดยเฉพาะเด็กผู้หญิงและผู้หญิง ซึ่งปีที่แล้ว CARE ทำงานใน 100 ประเทศและเข้าถึงผู้คนเกือบ 70 ล้านคนทั่วโลก เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ www.care.org

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211124005749/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย








25 ปีแห่งการทำโลกนี้ให้น่าอยู่ขึ้นสำหรับผู้หญิง: มูลนิธิ Mary Kay Ash FoundationSM เฉลิมฉลองวันครบรอบเหตุการณ์สำคัญ

Logo

องค์กรการกุศลเปิดตัวชื่อ โลโก้ เว็บไซต์ การรีแบรนด์ และรายงานประจำปีใหม่ของมูลนิธิที่ไม่เคยมีมาก่อน

แดลลัส–(BUSINESS WIRE)–10 พฤศจิกายน 2564

การเฉลิมฉลองวันครบรอบ 25 ปี และเพื่อสานต่อความฝันของ Mary Kay Ash ในการส่งเสริมชีวิตของผู้หญิงทั่วโลก มูลนิธิ Mary Kay Ash FoundationSM ได้เผยแพร่รายงานประจำปีของมูลนิธิเป็นครั้งแรก พร้อมชื่อ โลโก้เว็บไซต์ และการรีแบรนด์ใหม่ ตั้งแต่ปี 2539 มูลนิธิได้บริจาคเงินจำนวนมากกว่า 80 ล้านดอลลาร์ให้กับองค์กรที่สอดคล้องกับพันธกิจสองประการ อันได้แก่ การให้ทุนในการสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็งที่ส่งผลกระทบต่อผู้หญิง และการยุติความรุนแรงในครอบครัวและความรุนแรงทางเพศต่อสตรีและเด็กหญิง

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211110005237/en/

The Mary Kay Ash Foundation℠ logo (Graphic: Mary Kay Inc.)

โลโก้ ของ Mary Kay Ash Foundation℠ (กราฟิก: Mary Kay Inc.)

มูลนิธิได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องในฐานะผู้นำด้านการกุศลระดับโลกที่มุ่งเน้นที่ผู้หญิงมากกว่าสองทศวรรษที่ผ่านมา เพื่อเป็นการฉลองครบรอบเหตุการณ์สำคัญ องค์กรได้เปลี่ยนชื่อไปเล็กน้อยจาก Mary Kay FoundationSM เป็น Mary Kay Ash FoundationSM เพื่อปรับปรุงการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา นอกจากนี้มูลนิธิยังได้เปิดเผยโลโก้และเว็บไซต์ การรีแบรนด์ และรายงานประจำปีของมูลนิธิ Mary Kay Ash FoundationSM เป็นฉบับแรก รายงานนี้แสดงให้เห็นภาพรวมของการริเริ่มในปี 2563 ในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก ผลสรุปที่สำคัญในรายงานประกอบด้วย:

  • ในปี 2563 มูลนิธิ Mary Kay Ash FoundationSM ได้มอบเงินสนับสนุนรวม 1,825,000 ดอลลาร์ให้กับสาเหตุต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกา และทุนที่จะสร้างความแตกต่างไปทั่วโลกผ่านทุนวิจัยด้านนวัตกรรม/การแปลง และโปรแกรม International Post-Doctoral Fellowship Cancer Research Program ตั้งแต่ปี 2539 มูลนิธิ Mary Kay Ash FoundationSM ได้สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็งที่เป็นนวัตกรรมและการทดลองทางคลินิกเพื่อค้นหาวิธีรักษาโรคมะเร็งที่ส่งผลกระทบต่อผู้หญิง โดยมอบเงินรางวัลมากกว่า 25 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการอันล้ำสมัยกว่า 250 โครงการในโรงเรียนแพทย์และสถาบันวิจัยชั้นนำทั่วโลก
  • เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 มีการรายงานความรุนแรงในครอบครัวเพิ่มขึ้นอย่างมากทั่วทั้งโลกในปี 2563 การระบาดใหญ่ในวงกว้างนี้ขยายขอบเขตความรุนแรงในครอบครัวไปถึงขีดจำกัดของพวกเขา มูลนิธิ Mary Kay Ash FoundationSM ได้มอบเงินช่วยเหลือฉุกเฉินเป็นจำนวนเงินรวม 1,000,000 ดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนคนทำงานด่านหน้าเกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งเป็นหน่วยกู้ภัยกลุ่มแรกสำหรับผู้หญิงและเด็ก ในความพยายามที่จะขยายความมุ่งมั่นระดับโลกในการขจัดความรุนแรงในครอบครัวที่อิงจากเพศสภาพ Mary Kay Inc. และมูลนิธิ Mary Kay Ash FoundationSM ได้ผนึกกำลังกับ CARE USA ผู้นำด้านมนุษยธรรมระดับโลก และกองทุนสหประชาชาติเพื่อยุติความรุนแรงต่อสตรี หรือ United Nations Trust Fund to End Violence Against Women and CARE USA  ตั้งแต่ปี 2543 มูลนิธิได้บริจาคเงินมากกว่า 58 ล้านดอลลาร์เพื่อยุติความรุนแรงทางเพศ ความพยายามดังกล่าวได้สนับสนุนผู้หญิงและเด็กหญิงกว่าหกล้านคนในการค้นหาที่พักพิงและการช่วยเหลือจากการถูกล่วงละเมิด

“เมื่อ 25 ปีที่แล้ว คุณยายของฉัน Mary Kay Ash ได้ก่อตั้งมูลนิธิที่ยังคงเป็นหัวใจของ Mary Kay Inc. พนักงานของบริษัทและที่ปรึกษาด้านความงามอิสระ ผู้ซึ่งมุ่งมั่นที่จะรักษาวิสัยทัศน์ในการทำให้โลกนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้นสำหรับผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขา” Ryan Rogers ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนและรองประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธิ Mary Kay Ash FoundationSM กล่าว “ในขณะที่มูลนิธิ Mary Kay Ash FoundationSM ได้เติบโตในเท็กซัสและเฝ้าดูพวกเขาแผ่ขยายไปทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา เฉกเช่นเดียวกับตัวบริษัทเองงานของมูลนิธินั้นไร้พรมแดน เราจินตนาการถึงโลกที่ซึ่งผู้หญิงมีพลังอำนาจ สุขภาพดีและปลอดภัย ในวันครบรอบอันสำคัญนี้เรายังคงรักษาคำมั่นสัญญาอันแน่วแน่ต่อผู้หญิงทั่วโลก และได้รับการเตือนใจว่าเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างแท้จริงเพียงใดที่ได้สานต่อการทำงานของคุณยายต่อไป”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม เยี่ยมชมได้ที่ marykayashfoundation.org.

เกี่ยวกับมูลนิธิ Mary Kay Ash FoundationSM

เพื่อสานต่อความฝันของ Mary Kay Ash ในการส่งเสริมชีวิตของผู้หญิงทั่วโลก มูลนิธิ Mary Kay Ash FoundationSM ได้ระดมทุนและทำการแจกจ่ายเพื่อลงทุนในการวิจัยโรคมะเร็งเพื่อค้นหาวิธีรักษาโรคมะเร็งที่มักเกิดกับผู้หญิง และเพื่อยุติผลกระทบความรุนแรงต่อผู้หญิงภายในประเทศ ตั้งแต่ปี 2539 เป็นต้นมา มูลนิธฺ Mary Kay FoundationSM ได้มอบเงินบริจาคมากกว่า 80 ล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรต่าง ๆ ที่ทำงานสอดคล้องกับพันธกิจของมูลนิธิโดยให้ความสำคัญอย่างเท่ากัน นอกเหนือจากนั้นมูลนิธิยังสนับสนุนโครงการสร้างการรับรู้ โครงการเข้าถึงชุมชน และการสนับสนุนช่วยเหลือการร่างกฏหมายเพื่อให้ผู้หญิงมีสุขภาพดีและปลอดภัย พร้อมกันนั้นก็สร้างโลกให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นสำหรับผู้หญิง ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้ความรู้ การสนับสนุน อาสาสมัคร และการบริจาค รวมทั้งเข้าร่วมกิจกรรมช่วยเหลือชีวิตเพื่อสร้างแรงผลักดันแก่ผู้หญิง กรุณาเยี่ยมชม marykayashfoundation.org ค้นหาเราได้ทาง Facebook และ Instagram หรือติดตามเราที่ Twitter

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211110005237/en/

ติดต่อ: 

marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย