Category Archives: Finance

Infinity Ventures Crypto ประกาศปิดกองทุนกองแรกที่ 70 ล้านดอลลาร์

Logo

ไทเป ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–09 ก.พ. 2565

Infinity Ventures Crypto (IVC) ได้ประกาศปิดกองทุนที่มีมูลค่า 70 ล้านดอลลาร์  จุดมุ่งหมายของกองทุนคือการเริ่มต้นและเร่งการเติบโตของนวัตกรรม GameFi, DeFi และ Web 3 ทั่วโลก

ในฐานะที่เป็นกองทุนที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุดของเอเชียที่ลงทุนในอุตสาหกรรมคริปโตที่เฟื่องฟูในภูมิภาคนี้ IVC ได้รับความสนใจจากนักลงทุนรายใหญ่ เช่น Circle, Digital Currency Group และ Animoca Brands  นับตั้งแต่ก่อตั้งในเดือนสิงหาคม 2564 ทาง IVC ได้เพิ่มทุนและความเชี่ยวชาญให้กับบริษัทในพอร์ต 78 แห่ง

ด้วยประสบการณ์ 13 ปี ในการร่วมลงทุนแบบดั้งเดิมภายใต้กองทุน Headline Asia นั้น IVC ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายทั่วโลกเพื่อส่งเสริมสตาร์ทอัพบล็อคเชนทั่วโลก รวมถึงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไต้หวัน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และอื่นๆ  ในฐานะที่เป็นพันธมิตรในการร่วมทุน IVC มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนผู้ก่อตั้งอย่างเต็มที่ ตั้งแต่การออกแบบโทเค็นไปจนถึงรายการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล

“ในฐานะที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างตะวันออกและตะวันตก เรารวบรวมทีมผู้เชี่ยวชาญในท้องถิ่นเพื่อกระตุ้นการเติบโตของบริษัทในพอร์ตโฟลิโอของเรา” Brian Lu หุ้นส่วนของ IVC กล่าว “เราภูมิใจที่ได้เริ่มต้นอย่างรวดเร็ว และรู้สึกตื่นเต้นที่จะแบ่งปันความเชี่ยวชาญของเรากับนักประดิษฐ์มากขึ้น”

การลงทุนครั้งแรกของ IVC คือ Yield Guild Games (YGG) ซึ่งเป็นสมาคมการเล่นเกมเพื่อหารายได้ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในฟิลิปปินส์ และ DAO ที่ลงทุนใน NFT ต่างๆ  IVC และ YGG ร่วมมือกันเพื่อสร้างและบ่มเพาะ subDAO แรกของพวกเขาที่มีชื่อว่า YGG SEA ซึ่งจะช่วยให้การสนับสนุนในระดับท้องถิ่นทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“โดยสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ IVC ในการช่วยเหลือผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงธนาคารได้ เกมเหล่านี้ให้กระแสรายได้เพิ่มเติมแก่ผู้เล่นในช่วงการระบาดใหญ่” Lu กล่าว

พันธมิตรของ IVC ยังรวมถึง Akio Tanaka ผู้ก่อตั้ง Headline Asia; Herbie Fu อดีตหุ้นส่วนที่ 8 Decimal Capital; JT Law ผู้ร่วมก่อตั้ง VerifyInvestor; Alex Yeh ผู้ร่วมก่อตั้ง AuraBlock Ventures; และริชชี่ ชัชวาลย์ เจียรวนนท์ อดีต CEO ของ Snapask Thailand

เกี่ยวกับ Infinity Ventures Crypto

Infinity Ventures Crypto ก่อตั้งขึ้นเพื่อเพิ่มศักยภาพและลงทุนในเกมบุกเบิก GameFi, DeFi และ Web 3 พันธมิตรของกองทุนได้ลงทุนในสินทรัพย์คริปโตมาตั้งแต่ปี 2558 และได้ให้ช่วยบริษัทต่างๆ โตผ่านแนวการพัฒนาที่รวดเร็ว ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 IVC ได้ลงทุนเชิงกลยุทธ์มากมายในบริษัทสตาร์ทอัพที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึง Yield Guild Games และคริปโต stablecoin สกุลเงินเยนของญี่ปุ่น JPYC.  IVC ตั้งเป้าที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และผลักดันผู้ก่อตั้งรุ่นต่อไป

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220208005128/en/

สอบถามข้อมูล:
Kimberly Wang
Director of Communications
+886-909016209
kimberlywang@infinityventures.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Poloniex เปิดตัวโปรแกรม Space Traveller ใหม่พร้อมค่าคอมมิชชั่นสูงถึง 60%

Logo

ปานามา ซิตี้–(BUSINESS WIRE)–8 กุมภาพันธ์ 2565

Poloniex เป็นบริษัทแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีระดับโลก วันนี้ประกาศเปิดตัวโปรแกรม Space Traveller ใหม่ล่าสุด โดยเกณฑ์ผู้นำชุมชน นักเทรด ผู้ทรงอิทธิพล รวมถึงผู้ที่รักและชื่นชอบการแลกเปลี่ยนคริปโทในฐานะแอมบาสเดอร์ เพื่อช่วยเชื่อมโยง Poloniex กับชุมชนต่าง ๆ ให้มากขึ้น และสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ไปทั่วโลก

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220208005142/en/

Join Poloniex Space Traveller program to enjoy up to 60% commission

มาเข้าร่วมโปรแกรม Poloniex Space Traveller เพื่อรับค่าคอมมิชชั่นสูงสุดถึง 60%

โปรแกรม Space Traveller ได้รวมโปรแกรมอาสาสมัครและการแนะนำตัวก่อนหน้านี้ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อดึงดูดผู้มีความสามารถในท้องถิ่นในภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อเติบโตร่วมกันและแบ่งปันผลกำไรจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ Poloniex โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โปรแกรมใหม่นี้มีระบบค่าคอมมิชชั่นที่เอื้อเฟื้อและน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น

ตามจำนวนผู้อ้างอิงและปริมาณการทำธุรกรรม Travellers มีถึงสี่ระดับที่แตกต่างกันอันได้แก่ Rocket Scientist, Moon Explorer, Mars Adventurer และ Sun Captain อัตราค่าคอมมิชชั่นสูงถึง 60% โดยมีค่าคอมมิชชั่นระดับ 2 สำหรับ Sun Captains คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม

Eddie Jiang หัวหน้าฝ่ายการตลาดของ Poloniex กล่าวว่า “การสำรวจโลกของคริปโทก็เหมือนกับการเดินทางท่องเที่ยวไปในอวกาศที่เต็มไปด้วยสิ่งที่เราไม่รู้ ความเป็นไปได้ และความน่าตื่นเต้น” “เพื่อรองรับการพัฒนาที่เป็นไปอย่างรวดเร็วของ Poloniex ในตลาดโลก เราจึงเปิดตัวโปรแกรมใหม่นี้ ซึ่งเราให้ความสำคัญอย่างมากกับผลงานของแต่ละคน และหวังว่าจะมีผู้ที่มีความสามารถจำนวนมากขึ้นมาร่วมงานกับเรา”

Poloniex Space Travellers ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้และการแลกเปลี่ยน และยังช่วยในการพัฒนาของ Poloniex ในรูปแบบต่าง ๆ ตามความเชี่ยวชาญของตนเอง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการจัดการของชุมชน การสร้างเนื้อหา การจัดกิจกรรม และการส่งเสริมสื่อสังคม Travellers จะได้รับรางวัลเพิ่มเติมจาก Poloniex ในระหว่างกระบวนการ อย่างเช่น ของที่ระลึก คำเชิญเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ และการสนับสนุนงบประมาณแคมเปญออนไลน์และออฟไลน์

ในขณะเดียวกันด้วยการร่วมมืออย่างใกล้ชิดและได้รับการสนับสนุนจากการแลกเปลี่ยนชั้นนำ จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับ Travellers ที่จะได้รับประสบการณ์อันมีค่า ความรู้ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ขยายเครือข่ายมืออาชีพ และตระหนักถึงวิสัยทัศน์ส่วนบุคคลในอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี

กรุณาคลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมหรือส่งใบสมัครของคุณโดยตรงมาที่ Poloniex Space Traveller

เกี่ยวกับ Poloniex

Poloniex บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีระดับโลกก่อตั้งขึ้นในเดือนมกราคม 2557 ด้วยแพลตฟอร์มการเทรดและการรักษาความปลอดภัยระดับโลก บริษัทได้รับเงินทุนในปี 2562 จากนักลงทุนที่มีชื่อเสียงซึ่งรวมถึง His Excellency Justin Sun ผู้ก่อตั้ง TRON

Poloniex รองรับการเทรดสัญญาอนุพันธ์ การซื้อขายสปอตและมาร์จิ้นตลอดจนเลเวอเรจโทเคน และบริการของบริษัทที่เข้าถึงผู้ใช้ทั่วโลกในเกือบ 100 ประเทศและภูมิภาคด้วยภาษาที่หลากหลายรวมทั้งภาษาอังกฤษ ตุรกี และรัสเซีย

เว็บไซต์https://poloniex.com

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220208005142/en/

ติดต่อ:

Media
Poloniex
Rachel Huo
rachel.huo@poloniex.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

i2c เผยแพร่รายงานผลิตภัณฑ์บัตรที่รองรับสกุลเงินคริปโตซึ่งมีการจัดทำขึ้นเป็นครั้งแรก

Logo

บริษัทที่เป็นผู้นำของผลิตภัณฑ์หมวดหมู่นี้ยังได้แชร์ข้อมูลเชิงลึกจากบัตรที่รองรับสกุลเงินคริปโตหลายล้านใบที่ออกใน 40 ประเทศ

เรดวูดซิตี้, แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–01 กุมภาพันธ์ 2565

วันนี้ i2c Inc. ผู้ให้บริการระบบชำระเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีการธนาคารชั้นนำ ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับบัตรที่รองรับสกุลเงินคริปโต ซึ่งเป็นหนึ่งในหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์บัตรที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยรายงานดังกล่าวมีการจัดทำขึ้นเป็นครั้งแรกและมีการประมวณผลบัญชีและข้อมูลการทำธุรกรรมจากผลิตภัณฑ์บัตรทั้งแบบทั่วไปและแบบที่รองรับสกุลเงินคริปโตกว่า 4,000 รายการใน 3 ทวีป 40 ประเทศ

ด้วยจำนวนบัตรที่รองรับสกุลเงินคริปโตกว่า 5 ล้านใบบนแพลตฟอร์มที่ใช้ทั่วโลก i2c จึงเป็นพันธมิตรด้านการออกบัตรและการดำเนินการเกี่ยวกับบัตรที่รองรับสกุลเงินคริปโตชั้นนำของโลก

รายงานดังกล่าวมีความแตกต่างจากผลการศึกษาทั่วไป โดยมีความโดดเด่นในเรื่องของการใช้พฤตกรรมจริง (ข้อมูลการทำธุรกรรม) รวมถึงข้อมูลประชากรที่ได้รับการตรวจสอบยืนยันมาอ้างอิงแทนการใช้เพียงข้อมูลจากผู้ตอบแบบสอบถาม ส่วนข้อมูลที่น่าสนใจจากรายงานฉบับนี้เป็นผลการศึกษาที่เหมือนจะเป็นการท้าทายมุมมองโดยทั่วไปต่อผู้ใช้สกุลเงินคริปโต และเสริมแกร่งให้กับทั้งลักษณะโดยธรรมชาติที่ส่งผลในระดับโลกรวมถึงผลประโยชน์ที่ไร้พรมแดนที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดังกล่าว ดังนี้

  • 45% ของผู้ถือบัตรคริปโตเป็นผู้ที่มีอายุเกิน 35 ปี
  • ผลิตภัณฑ์บัตรที่รองรับสกุลเงินคริปโตมีการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนในอัตราที่สูงกว่าบัตรแบบทั่วไปมากกว่า 2 เท่า
  • ผลิตภัณฑ์บัตรที่รองรับสกุลเงินคริปโตมีปริมาณการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนในสกุลเงินดอลลาร์สูงกว่าบัตรทั่วไป (7%)

“บัตรที่รองรับสกุลเงินคริปโตกำลังนำเสนอผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ให้กับอุตสาหกรรมระบบชำระเงิน ขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ของระบบชำระเงินที่ให้บริการทั่วโลกอย่างแท้จริง ในช่วงปีที่ผ่านมาเราได้เห็นว่าบัญชีเกี่ยวกับสกุลเงินคริปโตนั้นเติบโตอย่างมาก ควบคู่ไปกับนวัตกรรมและระดับการมีส่วนร่วมที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีคิดเกี่ยวกับระบบชำระเงินและผู้ถือบัตร” Jim McCarthy ประธาน i2c กล่าว

ดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มที่นี่: Crypto-Backed Cards: Behind the Numbers

เกี่ยวกับ i2c Inc.

i2c เป็นผู้ให้บริการระดับโลกด้านโซลูชันการชำระเงินและการธนาคารที่สามารถปรับแต่งได้อย่างเต็มที่ ด้วยการใช้เทคโนโลยี “building block” ที่เป็นเอกสิทธิ์ของ i2c ลูกค้าสามารถสร้างและจัดการชุดโซลูชันที่ครอบคลุมสำหรับเครดิต เดบิต การชำระล่วงหน้า การให้ยืม และอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็วและคุ้มค่า i2c มอบความยืดหยุ่น ความคล่องตัว ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือที่เหนือชั้นจากแพลตฟอร์ม SaaS เดียวทั่วโลก i2c ก่อตั้งขึ้นในปี 2544 และมีสำนักงานใหญ่ในซิลิคอนแวลลีย์ เทคโนโลยียุคหน้าของ i2c รองรับผู้ใช้หลายล้านคนในกว่า 200 ประเทศ/เขตแดนและในทุกเขตเวลา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.i2cinc.com และติดตามเราได้ที่ @i2cinc

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220201005603/en/

ติดต่อ:

Heather Clifton
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด
media@i2cinc.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Bittrex Global เปิดตัวแพลตฟอร์ม IEO Bittrex Global Starting Block

Logo

วาดุซ ลีชเทินชไตน์–(บิสิเนสไวร์)–2 ก.พ. 2565

Bittrex Global ประกาศเปิดตัว Bittrex Global Starting Block แพลตฟอร์ม Initial Exchange Offer (IEO) ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับโครงการคริปโตระดับสูงที่ต้องการร่วมมือกับผู้นำในอุตสาหกรรมด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เพื่อเปิดตัวโครงการของพวกเขาสู่อนาคต

ในฐานะหนึ่งในแพลตฟอร์มการเทรดดิจิทัลชั้นนำของโลก Bittrex Global มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนนวัตกรรมในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล  ความคิดริเริ่มใหม่ล่าสุดนี้จะช่วยให้โครงการที่มีศักยภาพต่างๆ สามารถเปิดตัว IEO ของพวกเขา ระดมทุนและแจกจ่ายโทเค็น และสร้างการรับรู้สำหรับโครงการของพวกเขาทั่วทั้งอุตสาหกรรม Bittrex Global Starting Block จะช่วยให้ลูกค้าทั้งระดับย่อยและสถาบันได้เข้าถึงโครงการสินทรัพย์ดิจิทัลและนวัตกรรมใหม่เหล่านี้ได้

ด้วยการใช้ความเชี่ยวชาญของ Bittrex Global โครงการต่างๆ จะได้รับการประเมินอย่างครอบคลุมและได้รับการคัดกรองอย่างเข้มงวด  แนวทางการคัดกรองรวมถึงนวัตกรรมโครงการ การตรวจสอบสถานะผู้ออกโทเค็น เศรษฐศาสตร์โทเค็น กำหนดการปลดล็อคอุปทาน การใช้เงินที่ได้รับ แผนงานโครงการ ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ความสนใจของตลาดและการมีส่วนร่วมของชุมชน

โครงการบล็อคเชนที่ได้รับการตรวจสอบและมีคุณสมบัติที่จะเปิดตัวใน Bittrex Global Starting Block จะสามารถเข้าถึงความสามารถทางการตลาดอันทรงพลังของ Bittrex Global และฐานผู้ใช้ทั่วโลก

“เรากำลังสนับสนุนโครงการที่มีแนวโน้มมากที่สุดด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุด  ก่อนที่จะมี IEO, Bittrex Global จะดำเนินการตรวจสอบโครงการอย่างละเอียดและตรวจสอบทุกแง่มุม ตั้งแต่ความเป็นเจ้าของโทเค็นไปจนถึงการขายในอดีต เป้าหมายการกระจายโทเค็น การจัดสรร และระยะเวลาการได้รับสิทธิ โดยมุ่งเน้นที่การสร้างความมั่นใจถึงการมีอุปสงค์และอุปทานที่สมดุลสำหรับผู้เข้าร่วม IEO” Stephen Stonberg ซีอีโอของ Bittrex Global กล่าว

“นวัตกรรมและการทดลองของบล็อคเชนอยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์  ทีมงานของเรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้พบกับโครงการใหม่ๆ ในพื้นที่คริปโตและเราหวังว่าจะได้สนับสนุนโครงการแนวหน้าที่ต้องการผลักดันขอบเขตของเทคโนโลยีบล็อคเชนอย่างแท้จริง” Chris Sinkey ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจของ Bittrex Global กล่าว

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Bittrex Global Starting Block และสำหรับรายละเอียดขั้นตอนการสมัครของเรา โปรดไปที่: https://global.bittrex.com/discover/startingblock

เกี่ยวกับ BITTREX GLOBAL

Bittrex Global แพลตฟอร์มการเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลที่ปลอดภัยที่สุดในโลก ให้บริการทั้งลูกค้ารายย่อยและลูกค้าสถาบันทั่วโลก โดยมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ผู้ใช้สร้างความมั่งคั่ง  Bittrex Global อำนวยความสะดวกในการซื้อและแลกเปลี่ยนโทเค็นมากกว่า 250 รายการด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ​​โปรโตคอลความปลอดภัยขั้นสูง และกลยุทธ์กระเป๋าเงินแบบหลายขั้นตอนที่ยืดหยุ่นได้  บริษัทมอบประสบการณ์ระดับสูงให้กับลูกค้าทั้งมืออาชีพและมือใหม่  Bittrex Global เป็นผู้เล่นหลักในการขับเคลื่อนการนำวิธีการที่ปลอดภัยและกระจายอำนาจมาใช้อย่างกว้างขวางเพื่อสร้างความมั่งคั่งในขณะที่ยังคงปฏิบัติตามมาตรการกำกับดูแลที่หลากหลายทั่วโลก

Bittrex Global GmbH จดทะเบียนกับ Financial Market Authority ตามกฎหมายวันที่ 3 ตุลาคม 2562 บน Tokens and TT Service Providers (TVTG) ในลีชเทินชไตน์ เพื่อดำเนินการเป็น TT Exchange Service Provider, TT Token Depositary และ Token Issuer ในนามของบัญชีบุคคลที่สาม Bittrex Global (Bermuda) Limited ถูกควบคุมโดยหน่วยงานการเงินเบอร์มิวดาและได้รับอนุญาตเป็นธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลคลาส F ภายใต้กฎบัญญัติธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเบอร์มิวดา 2561 เพื่อดำเนินการเป็นการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ให้บริการกระเป๋าสตางค์ที่ได้รับการจัดการ และดำเนินการเป็นแพลตฟอร์มให้บริการแลกเปลี่ยนอนุพันธ์ของสินทรัพย์ดิจิทัล

เรียนรู้เพิ่มเติม: https://global.bittrex.com/

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220201005417/en/

ติดต่อ:

Sarah Evans
Sevans PR
sarah@sevanspr.com 
224- 829-8820

Sarah Mawji
Sevans PR
sm@sevanspr.com

Julia Lazniuk
Sevans PR
Julia@sevanspr.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Blackhawk Network ผู้ให้บริการชำระเงินทั่วโลก เข้าซื้อหุ้นส่วนน้อยในบริษัทซึ่งทำงานด้านรางวัลและแรงจูงใจในสิงคโปร์อย่าง Wogi

Logo

ข้อตกลงนี้จะขยายการเข้าถึงเนื้อหารางวัล สิ่งจูงใจ และบัตรของขวัญแบบที่เน้นดิจิทัลเป็นหลัก สำหรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–31 ม.ค. 2565

ในฐานะส่วนหนึ่งของภารกิจในการมอบรางวัลที่มีความหมายในระดับโลก Blackhawk Network ได้ซื้อหุ้นส่วนน้อยใน Wogi ซึ่งเป็นบริษัทที่งานด้านรางวัลและสิ่งจูงใจในสิงคโปร์ ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยเร่งการเติบโตของรางวัลและสิ่งจูงใจทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจัดหาโซลูชั่นให้กับธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่กำลังทบทวนกลยุทธ์การให้รางวัลของพวกเขาอันเป็นผลมาจากการระบาดใหญ่ของโควิด

ด้วยการลงทุนของ Blackhawk จึงทำให้ Wogi สามารถเสนอรางวัลบัตรของขวัญให้เลือกมากมาย ซึ่งได้แสดงให้เห็นว่าเป็นแรงจูงใจที่มีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนความภักดีและแรงจูงใจในหมู่นักช้อปและพนักงานมาเป็นเวลาสักพักแล้ว1

“การลงทุนนี้จะช่วยให้ Blackhawk สามารถเข้าถึงรางวัล สิ่งจูงใจ และเนื้อหาบัตรของขวัญดิจิทัลเป็นครั้งแรกในประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อย่างเช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย และทำให้ Wogi มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น กรอบงานขององค์กรได้รับประโยชน์จากเครือข่ายบัตรของขวัญและโซลูชั่นมากมายของ Blackhawk” Mark Singer กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Blackhawk Network กล่าว “รางวัลดิจิทัลได้รับความนิยมอย่างสูงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และมีแอพพลิเคชั่นมากมายสำหรับองค์กรในการใช้ประโยชน์จากรางวัลเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากรางวัลอันชาญฉลาดและสิ่งจูงใจเพื่อช่วยเพิ่มรายได้หลัก และปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจโดยสร้างการมีส่วนร่วมและส่งเสริมความพึงพอใจของพนักงาน คู่ค้า และลูกค้า เป็นต้น”

จนถึงปัจจุบัน Wogi ให้การสนับสนุนด้านรางวัลแก่บริษัทแบบ B2B และ B2C มากกว่า 300 แห่ง โดยมีเนื้อหาบัตรของขวัญและพันธมิตรการชำระเงินมากกว่า 700 แห่ง ด้วยการร่วมมือกับ Blackhawk ในครั้งนี้ จะทำให้ลูกค้าของ Wogi ในตลาด APAC จะสามารถเข้าถึงพอร์ตโฟลิโอของรางวัลที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ซึ่งรวมถึงเนื้อหาบัตรของขวัญดั้งเดิมที่ปรับให้เหมาะกับผู้รับแต่ละคน ผ่าน CONNECT API ที่ราบรื่นและเทคโนโลยีการรวมระบบดิจิทัลเพื่อการสั่งซื้อ การประมวลผล และการจัดส่งที่ราบรื่น

Pavlina Atanasov ผู้ก่อตั้งและรองประธานอาวุโสของ Wogi กล่าวว่า “ด้วยการสนับสนุนจาก Blackhawk เราจะมีโอกาสขยายข้อเสนอและแสวงหาโอกาสในการเติบโตสำหรับธุรกิจของเราและธุรกิจของลูกค้าของเรา” “โปรแกรมการให้รางวัลที่ทันสมัยและแข็งแกร่งสามารถสร้างความแตกต่างทางการแข่งขันที่สำคัญสำหรับองค์กรเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดอันมีค่า และด้วยการขยายขีดความสามารถของเรา เราจะช่วยให้พันธมิตรของเรา และบริษัทของเรา สามารถใช้ประโยชน์จากตัวเลือกรางวัลชิ้นล่าสุดและที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”

เยี่ยมชม www.wogi.biz สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันระดับองค์กรและความสามารถของผลิตภัณฑ์ดิจิทัลของ Wogi

เกี่ยวกับ Blackhawk Network

Blackhawk Network นำเสนอโซลูชั่นการชำระเงินที่มีตราสินค้าผ่านผลิตภัณฑ์ระบบเติมเงิน เทคโนโลยี และเครือข่ายที่เชื่อมโยงแบรนด์และผู้คน เราร่วมมือกับพันธมิตรของเราในการสร้างสรรค์นวัตกรรม แปลแนวโน้มของตลาดในการชำระเงินแบบทางเลือก (branded payments)เพื่อเพิ่มการเข้าถึง เพิ่มความภักดีและรายได้ เราดำเนินการโซลูชันที่คำนึงถึงความปลอดภัยทั่วโลกอย่างน่าเชื่อถือ เข้าร่วมกับเราในขณะที่เรากำหนดอนาคตของการชำระเงินทางเลือกทั่วโลก เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ www.blackhawknetwork.com.

เกี่ยวกับ Wogi

Wogi ส่งเสริมความสำเร็จด้วยการสร้างพฤติกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยแรงจูงใจ เราเป็นผู้ให้บริการดิจิทัลของรางวัลในรูปแบบการให้บริการ เปิดใช้งานโปรแกรมรางวัล ความภักดีและแรงจูงใจในแบบเรียลไทม์สำหรับลูกค้า พนักงาน ตลอดจนถึงหุ้นส่วนการพัฒนาธุรกิจ ผ่านผลิตภัณฑ์การชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด บริษัทนำเสนอพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ชำระแบบไร้เงินสดที่เชื่อมต่อกับระบบดิจิทัล ซึ่งเชื่อมโยงแบรนด์ผู้บริโภค องค์กรในท้องถิ่น และผู้บริโภคปลายทาง บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2558 สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมที่ www.wogi.biz.

1 “BrandedPay: วิธีที่ผู้คนและแบรนด์เชื่อมต่อกันผ่านการชำระเงิน” ขึ้นอยู่กับผลการสำรวจทางอินเทอร์เน็ตที่จัดทำโดย Leger ในนามของ Blackhawk Network ระหว่างวันที่ 12 กุมภาพันธ์-17 มีนาคม 2563 จากขนาดตัวอย่างรวมผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 12,000 คนในแปดประเทศ

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220130005002/en/

Ashley Jackson

The Fletcher Group

1.719.332.3495

ashley@fletchergroupllc.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Milken Institute แจ้งว่ามาเลเซียเป็นประเทศชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังเกิดใหม่สำหรับการลงทุนจากต่างประเทศ

Logo

ดัชนีโอกาสการลงทุนจากต่างประเทศ หรือ Global Opportunity Index ของ Milken Institute ประเมินว่า 126 ประเทศใน 7 ภูมิภาคทางภูมิศาสตร์ โดยเน้นที่ประเทศเกิดใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อวัดความน่าดึงดูดใจที่อาจเกิดขึ้นกับนักลงทุนต่างชาติ ทั้งนี้สวีเดนจัดอยู่ในอันดับที่ 1 โดยรวมในประเทศที่น่าลงทุน สหรัฐฯ หลุดจาก 5 อันดับแรก

ลอสแอนเจลิส–(BUSINESS WIRE)–26 มกราคม 2565

มาเลเซียจัดอยู่ในอันดับที่ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็นประเทศเกิดใหม่ที่มีศักยภาพสูงสุดในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ตามดัชนีโอกาสการลงทุนจากต่างประเทศปี 2565 ของ Milken Institute (2022 Milken Institute Global Opportunity Index) การประเมินประจำปีนี้สร้างขึ้นเพื่อช่วยแจ้งให้นักลงทุนและผู้กำหนดนโยบายทราบในการตัดสินใจการลงทุนทั่วโลก ประเมินภูมิทัศน์การลงทุนของเศรษฐกิจโดยใช้ตัวแปรต่าง ๆ อย่างเช่น แนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค การเข้าถึงบริการทางการเงิน ศักยภาพสำหรับนวัตกรรมและการพัฒนาในอนาคต และอื่น ๆ

ดัชนีโอกาสการลงทุนจากต่างประเทศปี 2565 ประกอบด้วยผลรายงานที่เน้นที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่การไหลเข้าของเงินทุนอาจนำไปสู่นวัตกรรมที่เพิ่มขึ้น การสร้างงาน และความสามารถในการแข่งขัน

ประเทศเกิดใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีคะแนนที่ดีเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจเกิดใหม่และที่กำลังพัฒนาอื่น ๆ ใน 3 ด้านหลักได้แก่: 1) มีผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง 2) มีบุคลากรที่มีคุณสมบัติสูง และ 3) มีการบูรณาการอย่างแน่นแฟ้นกับเศรษฐกิจโลก

มาเลเซียซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดตราสารหนี้ที่ใหญ่เป็นอันดับสามในเอเชีย (รองจากญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลี) ได้ดำเนินการตามขั้นตอนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเพื่อผ่อนคลายข้อจำกัดและออกนโยบายเพื่อใช้ประโยชน์จากการพัฒนาการค้า ซึ่งช่วยให้ประเทศสามารถครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในดัชนีปีนี้

“ในผลรายงานประจำปีนี้ เราระบุนโยบายหลายประการที่จะช่วยให้ประเทศเกิดใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงแข่งขันได้ในแง่ของโอกาสในการลงทุน” Claude Lopez, PhD หัวหน้าแผนกวิจัยที่ Milken Institute กล่าว “รัฐบาลในภูมิภาคต้องเสริมสร้างกรอบโครงสร้างสถาบัน บูรณาการในระดับภูมิภาคอย่างลึกซึ้งเพื่อใช้ประโยชน์จากทรัพยากรและโอกาสที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศ และเพิ่มผลกระทบทางสังคมสูงสุดโดยใช้ประโยชน์จากกระแสเงินทุนทั่วโลกเพื่อพัฒนาที่ก้าวไกล”

ผลการรายงานที่สำคัญจากดัชนีโอกาสการลงทุนจากต่างประเทศปี 2565 ได้แก่:

  • สวีเดนยังคงครองอันดับที่ 1 จากปี 2564 ในฐานะประเทศที่มีศักยภาพในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุด ตามมาด้วยสหราชอาณาจักรที่อยู่อันดับ 2 และเดนมาร์กในอันดับที่ 3 สหรัฐฯ ตกลงจากอันดับสามในปี 2564 มาอยู่ที่อันดับเก้าในปีนี้ โดยส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอและสภาวะทางการเงิน
  • มาเลเซีย ไทย และอินโดนีเซียครองตำแหน่งสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เกิดใหม่ มาเลเซียได้รับการจัดอันดับสูงสุดในภูมิภาคเนื่องจากผลงานที่แข็งแกร่งในทุกหมวดหมู่ที่นำมาวัด เวียดนามและฟิลิปปินส์เข้าในห้าประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามลำดับ
  • ในปีนี้ ดัชนีโอกาสการลงทุนจากต่างประเทศได้เพิ่มตัวแปรด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) 7 ประการ ซึ่งรวมถึงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และสัดส่วนของผู้หญิงในตำแหน่งรัฐบาล ตัวแปรเหล่านี้ได้รวมไว้เพื่อสะท้อนถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนในการรวมข้อมูล ESG เข้ากับการตัดสินใจทางธุรกิจ

ดัชนีโอกาสการลงทุนจากต่างประเทศประเมินอย่างไร:

เพื่อสร้างดัชนี Milken Institute ประเมินโอกาสในการลงทุนผ่านตัวแปร 100 ตัวที่จัดเป็น 5 หมวดหมู่และ 14 หมวดหมู่ย่อย หมวดหมู่หลักห้าประเภท ได้แก่ การรับรู้ทางธุรกิจ การบริการทางการเงิน มาตรฐานและนโยบายระหว่างประเทศ ความรู้พื้นฐานด้านเศรษฐกิจ และกรอบโครงสร้างสถาบัน ตัวแปรภายในหมวดหมู่เหล่านี้วัดจากทุกมุมของศักยภาพในการลงทุนของประเทศ ซึ่งรวมถึงการเปิดกว้างและประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ ข้อจำกัดทางธุรกิจ และความสามารถและความหลากหลายของแรงงาน แหล่งข้อมูลรวมถึงธนาคารโลก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ องค์การสหประชาชาติ ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ และการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านสุขภาพโลก

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม สามารถดาวน์โหลดผลรายงานฉบับเต็มได้ที่นี่

ผลรายงานดัชนีโอกาสการลงทุนจากต่างประเทศปี 2565 ของ Milken Institute  โดยรวม
1. สวีเดน
2. สหราชอาณาจักร
3. เดนมาร์ก
4. ฟินแลนด์
5. เนเธอร์แลนด์

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เกิดใหม่
1. มาเลเซีย
2. ไทย
3. อินโดนีเซีย
4. เวียดนาม
5. ฟิลิปปินส์

เกี่ยวกับ Milken Institute

The Milken Institute is a nonprofit, nonpartisan think tank that helps people build meaningful lives in which they can experience health and well-being, pursue effective education and gainful employment, and access the resources required to create ever-expanding opportunities for themselves and their broader communities. For more information, visit https://milkeninstitute.org/.

Milken Institute เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรและไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดที่ช่วยให้ผู้คนสร้างชีวิตที่มีความหมายซึ่งพวกเขาสามารถสัมผัสสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ติดตามการศึกษาที่มีประสิทธิภาพและการจ้างงานที่เหมาะกับความสามารถ และเข้าถึงทรัพยากรที่จำเป็นในการสร้างโอกาสที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับตนเองและชุมชนในวงกว้าง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ https://milkeninstitute.org/

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220126005247/en/

ติดต่อสื่อ: Chad Clinton, cclinton@milkeninstitute.org, + 1 202-262-1067

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Vending Machines International ได้รับข้อตกลงทุนมูลค่า 135 ล้านเหรียญสิงคโปร์จาก Global Emerging Markets (GEM) ในขณะที่บริษัทมุ่งเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์

Logo

บริษัทมุ่งเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในปีหน้าผ่านการควบรวมกิจการแบบย้อนกลับ หรือการเสนอขายหุ้นแบบปกติในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์หรือตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย

สิงคโปร์ –(บิสิเนส ไวร์)–26 ม.ค. 2565

Vending Machines International (VMI) ประกาศในวันนี้ถึงข้อตกลงด้านการลงทุนมูลค่า 135 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์จาก GEM Global Yield LLC SCS (“GGY”) ซึ่งเป็นองค์กรเพื่อการลงทุนทางเลือกของเอกชนในลักเซมเบิร์ก

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220125006251/en/

(Photo: Business Wire)

ภาพ: บิสิเนสไวร์)

ภายใต้ข้อตกลงนี้ GGY จะจัดหาสัญญาจองซื้อหุ้นให้กับ VMI ในมูลค่าสูงถึง 135 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์สำหรับระยะเวลา 36 เดือนหลังจากการจดทะเบียนหุ้นสามัญของ VMI สู่สาธารณะ  VMI จะควบคุมระยะเวลาและจำนวนการเบิกถอนสูงสุดภายใต้สัญญาจองซื้อหุ้นนี้และไม่มีภาระผูกพันในการเบิกถอนขั้นต่ำ

“VMI รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการคัดเลือกจาก GEM Group ให้รับการลงทุนนี้  เรายกย่องผู้บริหาร GEM ที่พวกเขาเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าโลกกำลังเคลื่อนตัวเพื่อกำจัดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวออกจากห่วงโซ่อุปทาน  VMI อยู่ในตำแหน่งที่ดีมากในการใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ ด้วยเงินทุนของ GEM ในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับงบดุล VMI ทางบริษัทจะสามารถช่วยเหลืออุตสาหกรรมเครื่องดื่มโดยเสนอทางเลือกที่ทำงานได้แทนขวดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวในระดับโลก เงินทุนนี้จะขยายขอบเขตการเข้าถึงทั่วโลกของเราและปรับปรุงทรัพยากรด้านการวิจัยและพัฒนาของเราในขณะที่เราดำเนินการกับบริษัทเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก”

Leicester Chatfield – ผู้ก่อตั้งและ CEO

เกี่ยวกับ VMI

Vending Machines International Pte Ltd (VMI) เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในสิงคโปร์ โดยให้บริการโซลูชั่นที่ไม่เหมือนใครในการกระจายน้ำโดยปราศจากขยะพลาสติก  VMI ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2558 ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเครือข่ายตู้จ่ายน้ำของตนเองในออสเตรเลียซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงวิธีการโต้ตอบกับลูกค้าและเพื่อทดสอบเทคโนโลยี VMI  ในขั้นต่อไปของการพัฒนา VMI จะเปลี่ยนไปใช้กลยุทธ์ฉลากขาวและการออกใบอนุญาตที่ปรับขนาดได้สูงซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากจากเจ้าของแบรนด์ FMCG ในต่างประเทศ

บริษัท FMCG ทั่วโลกได้เปลี่ยนไปใช้บรรจุภัณฑ์รูปแบบอื่น เช่น กระป๋อง ขวดแก้ว กล่องกระดาษ ฯลฯ อย่างไรก็ตาม วัสดุเหล่านี้มาพร้อมกับข้อเสีย  เช่น การขุดอะลูมิเนียมทำให้เกิดขยะพิษ ขวดแก้วยังมีคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากกระบวนการผลิตที่ใช้พลังงานมาก และน้ำหนักที่มากขึ้นหมายความว่าพวกเขายังปล่อยมลพิษระหว่างการขนส่งมากกว่าพลาสติก  ดังนั้นการเติมขวดที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้เป็นทางเลือกเดียวที่มีผลกระทบน้อย  ถึงเวลาแล้วที่โลกจะต้องเปลี่ยนจากโซลูชัน “ใช้แล้วทิ้ง” และ “รีไซเคิลได้” เป็น “นำกลับมาใช้ใหม่ได้” และ VMI อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะเป็นผู้นำระดับโลกในความพยายามนี้

สำนักงานใหญ่ของ VMI อยู่ที่สิงคโปร์ในขณะที่ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต การพัฒนาซอฟต์แวร์ และทีมวิจัยและพัฒนาขนาดใหญ่ที่มีประสบการณ์

VMI ยังเน้นการดำเนินงานในตลาดออสเตรเลีย  VMI ยังมีทีมวิจัยและพัฒนาที่พัฒนาเครื่องจำหน่ายน้ำเครื่องแรกของโลกที่ไม่ต้องเติมน้ำอีก เนื่องจากเครื่องจะดึงน้ำออกจากบรรยากาศ

เกี่ยวกับ GEM

Global Emerging Markets (“GEM”) เป็นกลุ่มการลงทุนทางเลือกเอกชนในลักเซมเบิร์กที่มีมูลค่า 3.4 พันล้านดอลลาร์ และมีสำนักงานในปารีส นิวยอร์ก และบาฮามาส  GEM จัดการกลุ่มเครื่องมือการลงทุนที่หลากหลายซึ่งมุ่งเน้นไปที่ตลาดเกิดใหม่ และได้ทำการซื้อขายไปแล้วกว่า 480 รายการในกว่า 70 ประเทศ องค์กรการลงทุนแต่ละแบบมีระดับการควบคุมการปฏิบัติงาน ผลตอบแทนตามระดับความเสี่ยง และสถานะสภาพคล่องที่แตกต่างกัน  กลุ่มกองทุนและเครื่องมือการลงทุนช่วยให้ GEM และพันธมิตรของบริษัทได้มีโอกาสได้เข้าถึงการซื้อกิจการของบริษัทกลุ่มขนาดเล็กและกลาง การลงทุนภาคเอกชนในตราสารทุนสาธารณะ และการลงทุนร่วม ข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.gemny.com

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220125006251/en/

ติดต่อ:

VMI
Mr. Leicester Chatfield
lc@vmi.asia

Global Emerging Markets
Mr. Jean-Luc Bonnefoy
jbonnefoy@gemny.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


BitMEX ต้อนรับหัวหน้าฝ่ายการค้าคนใหม่ Biller

Logo

เกาะมาเฮ เซเชลส์–(บิสิเนสไวร์)–25 ม.ค. 2565

แพลตฟอร์มการลงทุนคริปโต BitMEX มีความยินดีที่จะต้อนรับ Bill Beller เป็นหัวหน้าฝ่ายการค้าซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม  Bill รับผิดชอบกลยุทธ์การเทรดและการขยายขนาดและความสามารถของทีมเทรดของ BitMEX

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220125005650/en/

BitMEX Welcomes New Head of Trading Bill Beller (Photo: Business Wire)

BitMEX ต้อนรับหัวหน้าฝ่ายเทรดทรัพย์คนใหม่ Bill Beller (ภาพ: บิสิเนสไวร์)

ก่อนร่วมงานกับ BitMEX, Bill เป็นกรรมการผู้จัดการที่ Greenville Advisory เป็นเวลาเกือบห้าปี โดยเขาได้ช่วยสตาร์ทอัพ FinTech เปิดตัวแพลตฟอร์มเทรดคริปโตและปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา  ก่อนหน้านั้น เขาเป็นกรรมการผู้จัดการ – หัวหน้าฝ่ายตราสารทุนของ Sberbank CIB และกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าแผนก EEMEA Equity Derivatives Flow Trading ที่ UniCredit  เขานำประสบการณ์กว่าทศวรรษในด้านการบริหารความเสี่ยง การสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการซื้อขาย และการจัดการการลงทุนในตราสารทุนและอนุพันธ์ในตลาดทุนทั่วโลก

Bill กล่าวว่า: “BitMEX กำลังก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและเป็นเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับที่ผมจะได้เข้าร่วมกลุ่มคนที่มีพลังและมีความสามารถ  ผมตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับทีมเพื่อปรับปรุงระบบนิเวศของ BitMEX โดยการพัฒนากลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพซึ่งช่วยปรับปรุงประสบการณ์การซื้อขายของแพลตฟอร์ม”

Alexander Höptner ซีอีโอของ BitMEX กล่าวว่า “ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ Bill เป็นหัวหน้าฝ่ายการเทรดคนใหม่ของเรา  ประวัติการทำงานและระดับความเชี่ยวชาญของเขานั้นโดดเด่น และบริษัทจะได้รับประโยชน์จากประสบการณ์ที่กว้างขวางของเขาในการนำเสนอกลยุทธ์การลงทุนที่แข็งแกร่ง”

BitMEX กำลังจ้างงานอย่างแข็งขัน คลิกที่นี่เพื่อสำรวจโอกาสในการทำงานที่ BitMEX

***

เกี่ยวกับ BitMEX

BitMEX เป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่ให้ผู้ใช้เข้าถึงตลาดการเงินสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก  BitMEX เป็นเจ้าของโดย HDR Global Trading Limited  หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ BitMEX วิสัยทัศน์ ทีมที่กำลังเติบโต และหนทางข้างหน้า โปรดติดตามเราบน Twitter, Telegram และ BitMEX Blog
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ press@bitmex.com

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220125005650/en/

ติดต่อ:

สำหรับสื่อ
Jessica Lindeman
press@bitmex.com  
+852 5717 5579

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Personetics ทำเงินกว่า 160 ล้านดอลลาร์ในปี 2564 และเร่งขยายธุรกิจโซลูชันให้บริการเฉพาะบุคคลและการมีส่วนร่วมผ่าน AI ให้แก่สถาบันการเงินทั่วโลกด้วยการลงทุน 85 ล้านดอลลาร์จาก Thoma Bravo

Logo

  • ปัจจุบัน ลูกค้าธนาคารกว่า 120 ล้านรายต่างหันไปใช้ ‘ระบบการเงินอัตโนมัติ’ ผ่านแพลตฟอร์มการมีส่วนร่วมของ Personetics และเพิ่มประสิทธิภาพด้านการเงิน
  • แพลตฟอร์มการมีส่วนร่วมของ Personetics ได้สร้างข้อมูลเชิงลึกกว่า 6,500 ล้านครั้งและช่วยให้ลูกค้าประหยัดงบที่ใช้ในโซลูชันทางธุรกิจมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์
  • Personetics ร่วมมือกับสถาบันการเงินมากกว่า 80 แห่งใน 30 ตลาดทั่วโลก
  • การเติบโตของ Personetics มาจากสินทรัพย์ด้านข้อมูลและการวิเคราะห์ AI ขั้นสูง ซึ่งสามารถปรับใช้กับตลาดทุกแห่งได้

ลอนดอน, นิวยอร์ก, รีโอเดจาเนโร, ปารีส, สิงคโปร์, ซิดนีย์, เทลอาวีฟ อิสราเอล–(BUSINESS WIRE)–19 มกราคม 2565

Personetics ผู้ให้บริการโซลูชันการตลาดเฉพาะบุคคลและโซลูชันการมีส่วนร่วมกับลูกค้าที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลทางการเงินสำหรับธนาคารและผู้ให้บริการทางการเงิน ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ระดมทุน 85 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการเติบโตจาก Thoma Bravo ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนซอฟต์แวร์ชั้นนำ Personetics ได้รับเงินทุนรวมกว่า 160 ล้านดอลลาร์ในปี 2564 และได้รับการสนับสนุนโดย Viola Ventures, Lightspeed Ventures, Sequoia Capital, Nyca Partners และ Warburg Pincus

แพลตฟอร์มการมีส่วนร่วมบน AI ของ Personetics ซึ่งดำเนินการให้บริการในตลาดระดับโลกและมีมูลค่าประมาณ 15,000 ล้านดอลลาร์ กำลังกลายเป็นมาตรฐานตลาดในการให้บริการเฉพาะบุคคล การมีส่วนร่วมกับลูกค้า และการจัดการด้านการเงินที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลทางการเงินให้แก่สถาบันการเงินทั่วโลกในทุกช่องทาง Personetics ร่วมมือกับสถาบันการเงินเพื่อสร้างสรรค์บริการทางการเงินใหม่โดยผสานรวม AI เข้ากับทุกการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า และสร้างการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจที่สำคัญในเวลาเพียงไม่กี่เดือน

เทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ Personetics มุ่งเน้นไปที่การมีส่วนร่วมในเชิงรุก ซึ่งได้แก่ การวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินแบบเรียลไทม์ การทำความเข้าใจพฤติกรรมทางการเงินของแต่ละบุคคล การคาดเดาความต้องการของลูกค้า และดำเนินการทำงานในนามของลูกค้า Personetics ให้บริการข้อมูลที่สมบูรณ์ ข้อมูลเชิงลึก คำแนะนำทางการเงิน และโปรแกรมสุขภาพอัตโนมัติในแต่ละวัน มีการปรับให้เหมาะกับการธนาคารเพื่อธุรกิจรายย่อย ธุรกิจขนาดเล็ก การบริหารความมั่งคั่ง และผู้ถือบัตรเครดิต สถาบันการเงินที่ใช้ซอฟต์แวร์ AI ของ Personetics พบว่าการมีส่วนร่วมของลูกค้าดิจิทัลเพิ่มขึ้นถึง 35% การเติบโตของบัญชีและยอดเงินเพิ่มขึ้น 20% และการให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลเพิ่มขึ้น 17%

Personetics มุ่งมั่นที่จะทำให้โลกแห่ง 'self-driving finance’ หรือระบบการเงินอัตโนมัติให้เป็นจริง ซึ่งสถาบันการเงินดำเนินการในเชิงรุกในนามของลูกค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าตลอดอายุการใช้งานและขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ การรวมระบบการเงินอัตโนมัติของ Personetics เข้ากับการระบบธนาคาร/การเงินแบบเปิดจะช่วยพลิกโฉมรูปแบบธุรกิจการบริการทางการเงินและกระตุ้นการมีส่วนร่วมกับลูกค้า

ลูกค้ารายใหญ่ประกอบด้วยธนาคารชั้นนำของโลกหลายแห่ง เช่น US Bank (สหรัฐอเมริกา), Huntington Bank (สหรัฐอเมริกา), RBC (แคนาดา), BMO (แคนาดา), Intesa Sanpaolo (อิตาลี), Santander (สเปน), KBC (เบลเยียม) Metro Bank (สหราชอาณาจักร), UOB (สิงคโปร์), Hyundai Card (เกาหลี) และ MUFG (ญี่ปุ่น)

สถาบันการเงินใช้เครื่องมือที่คล่องตัวของ Personetics และเครื่องมือสร้างการมีส่วนร่วมแบบรวดเร็วอย่าง Creation & Management Console เพื่อปรับเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกที่ตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าหลายร้อยรายการ และสร้างเส้นทางของผู้ใช้ที่กำหนดเองเพื่อเร่งสร้างนวัตกรรมอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้ช่วยให้สถาบันการเงินสามารถแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและให้คำแนะนำส่วนบุคคลแบบเรียลไทม์ ตลอดจนโปรแกรมดูแลสุขภาพทางการเงินที่ปรับเปลี่ยนได้แบบอัตโนมัติให้แก่ลูกค้าทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วยลูกค้าธนาคาร ธุรกิจขนาดเล็ก และลูกค้าการบริหารความมั่งคั่ง

David Sosna ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Personetics กล่าวว่า:

“การให้บริการเฉพาะบุคคลและการมีส่วนร่วมของลูกค้าที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลคือสมรภูมิสำหรับสถาบันการเงินทั่วโลก ธนาคารกำลังเปลี่ยนจากความสัมพันธ์แบบเฉื่อยไปสู่ความสัมพันธ์เชิงรุกกับลูกค้า และกำลังมองหาวิธีใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้พวกเขาปรับปรุงสถานะทางการเงินที่ดีขึ้น Personetics ช่วยให้สถาบันการเงินมีแพลตฟอร์มการมีส่วนร่วมที่ครอบคลุมมากที่สุดในตลาด ช่วยให้เกิดความคล่องตัวและความแตกต่างด้วยการให้บริการที่คล่องตัวเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจอย่างรวดเร็ว เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Thoma Bravo หนึ่งในนักลงทุนด้านเทคโนโลยีทางการเงินที่มีประสบการณ์มากที่สุดในโลก เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตและนวัตกรรมนี้อย่างรวดเร็ว จากความร่วมมือนี้ เราจะส่งมอบวิสัยทัศน์เรื่อง 'ระบบการเงินอัตโนมัติ' เข้าถึงคู่ค้าและลูกค้ารายใหม่ ในขณะเดียวกันก็สนับสนุนลูกค้าปัจจุบันของเราด้วยโซลูชันทางนวัตกรรมสำหรับธุรกิจที่ผลักดันการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ”

Robert Sayle หุ้นส่วนของ Thoma Bravo กล่าวว่า:

“ขณะที่ผลิตภัณฑ์ทางการเงินมีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น Personetics ช่วยลดความซับซ้อนและปรับเปลี่ยนบริการทางธนาคารให้เหมาะกับแต่บุคคลให้แก่ผู้บริโภคด้วยเทคโนโลยี AI ชั้นนำของอุตสาหกรรม เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Personetics และใช้ความเชี่ยวชาญด้านการปฏิบัติงานของเราในด้านซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีทางการเงิน เพื่อช่วยเร่งสร้างแรงผลักดันให้แก่บริษัท การออกผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ และการเข้าถึงแพลตฟอร์มของสถาบันการเงินและลูกค้าทั่วโลก”

เกี่ยวกับ Personetics:

AI ของ Personetics ให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมเชิงรุกให้แก่สถาบันการเงิน โดยวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินแบบเรียลไทม์เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมทางการเงินของลูกค้า คาดเดาความต้องการของลูกค้า และมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่สูงมาก ด้วยโซลูชันที่ออกแบบมาสำหรับตลาดทั่วไป การบริหารความมั่งคั่ง และลูกค้าธุรกิจขนาดเล็ก เทคโนโลยีนี้จะช่วยให้ธนาคารสามารถนำเสนอข้อมูลเชิงลึก คำแนะนำทางการเงิน และโปรแกรมสุขภาพทางการเงินอัตโนมัติแบบวันต่อวันให้แก่ลูกค้า ธนาคารต่าง ๆ จะใช้เครื่องมือที่คล่องตัวของ Personetics ในการสร้าง IP ส่วนบุคคลอย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของลูกค้า และสร้างความแตกต่างในตลาดที่มีลูกค้าจำนวนมาก ด้วยความก้าวหน้าเหล่านี้ ธนาคารจึงเปลี่ยนระบบธนาคารดิจิทัลของตนให้เป็นศูนย์กลางทางการเงินของลูกค้า ในขณะเดียวกันก็สร้างการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจอย่างใหญ่หลวง

Personetics นำโดยทีมผู้ประกอบการด้านการเงินและเทคโนโลยีมากประสบการณ์ มุ่งมั่นที่จะทำให้โลกของ 'ระบบการเงินอัตโนมัติ' เป็นจริง โดยที่ธนาคารดำเนินการในเชิงรุกในนามของลูกค้า ทำให้ลูกค้าและธนาคารได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย Personetics ก่อตั้งขึ้นในปี 2554 ดำเนินงานผ่านสำนักงานในนิวยอร์ก ลอนดอน ปารีส สิงคโปร์ รโอเดจาเนโร และเทลอาวีฟ เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ www.personetics.com

เกี่ยวกับ Thoma Bravo:

Thoma Bravo เป็นหนึ่งในบริษัทที่ลงทุนนอกตลาดหลักทรัพย์ (Private Equity) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมากกว่า 91 พันล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 บริษัทลงทุนในบริษัทด้านนวัตกรรมในภาคธุรกิจซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีต่าง ๆ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การเติบโต Thoma Bravo ใช้ความเชี่ยวชาญเชิงลึกของบริษัทและความสามารถด้านกลยุทธ์และการดำเนินงานที่ได้รับการยอมรับมาแล้ว โดยร่วมมือกับบริษัทต่าง ๆ ในพอร์ตโฟลิโอเพื่อนำแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดมาใช้ในการดำเนินงาน ขับเคลื่อนโครงการที่เน้นการเติบโต และเข้าซื้อกิจการที่มุ่งหวังเพื่อกระตุ้นรายได้และกำไร ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าซื้อกิจการบริษัทมากกว่า 325 แห่ง ซึ่งมีมูลค่าสุทธิของกิจการมากกว่า 155,000 ล้านดอลลาร์ บริษัทมีสำนักงานในชิคาโก ไมอามี และซานฟรานซิสโก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ดูที่ www.thomabravo.com

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่:

Personetics:
Dorel Blitz, dorel.blitz@personetics.com
Laura West-Wilson, personetics@pancomm.com

Thoma Bravo:
Megan Frank, mfrank@thomabravo.com
Abigail Farr, abigail.farr@fgh.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายงานเรื่อง Adopt an Agile Digital Banking Platform ของ CR2 ว่าด้วยการปรับปรุงนวัตกรรม สร้างมูลค่าใหม่ และเพิ่มผลกำไร

Logo

ดับลิน, ไอร์แลนด์–(BUSINESS WIRE)–19 ม.ค. 2565

รายงานข้อมูลเชิงลึกล่าสุดของ CR2 (www.cr2.com)เรื่อง “Adopt an Agile Digital Banking Platform หรือ การนำแพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัลแบบที่มีความยืดหยุ่นสูงมาใช้” จัดทำขึ้นร่วมกับ Stessa Cohen (www.pivotassets.co) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการธนาคารทั่วโลกไปสู่ระบบดิจิทัล

ในรายงาน Stessa ระบุว่านายธนาคารต้องมีแพลตฟอร์มการธนาคารดิจิทัลที่คล่องตัวอย่างไรบ้างเพื่อรองรับแนวโน้มและข้อกำหนดในระดับโลกและระดับท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาระบุตลาดเฉพาะกลุ่มใหม่ที่จะขับเคลื่อนนวัตกรรม สร้างมูลค่าใหม่ และเพิ่มผลกำไร รายงานได้ระบุชุดของความสามารถที่แพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัลต้องมี ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารมีอนาคตที่แข่งขันในตลาดได้ และกระตุ้นให้ธนาคารเลือกพันธมิตรด้านการธนาคารดิจิทัลที่จะแบ่งปันด้านนวัตกรรม วิสัยทัศน์ และสนับสนุนการสร้างมูลค่าใหม่ ๆ

ตัวรายงานได้ระบุว่า ตลาดเฉพาะกลุ่ม ผลักดันให้ธนาคารสร้างนวัตกรรมได้อย่างไร เพื่อที่จะให้การสนับสนุนธุรกรรมทางธนาคารขั้นพื้นฐานและที่จำเป็นมากขึ้นไปอีกบนแพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัลเดียวกัน  ด้วยการทำความเข้าใจใหม่ในด้านลูกค้า เช่นนี้ ธนาคารจึงสามารถใช้ประโยชน์จากแนวโน้มเทคโนโลยีระดับโลกและระดับท้องถิ่นที่เหมาะสมเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ และเพิ่มผลกำไร หากไม่ทำเช่นนั้นแล้ว บรรดาคู่แข่ง ธนาคารผู้ท้าชิง และฟินเทคต่าง ๆ จะก้าวเข้าไปจับตลาดเฉพาะซึ่งเป็นเป้าหมายของธนาคารอย่างรวดเร็ว

Stessa อภิปรายว่า ธนาคารไม่เพียงต้องการแพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัลที่พร้อมสำหรับการปรับแต่ง การบูรณาการ และการระบุตลาดใหม่เท่านั้น แต่ยังต้องการพันธมิตรที่สามารถมอบความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและด้านการธนาคารที่ธนาคารเองอาจไม่มีให้ ผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัล เช่น CR2 ที่สนับสนุนความสามารถเหล่านี้ทำมากกว่าแค่การทำธุรกรรมธนาคารและการชำระเงิน เพราะพวกเขาสร้างเส้นทางสำหรับธนาคารเพื่อสร้างมูลค่าใหม่ สำหรับทั้งธนาคารและลูกค้า

หากต้องการดาวน์โหลดรายงาน 'Adopt an Agile Digital Banking Platform' ให้คลิกที่ลิงก์ต่อไปนี้:http://knowledge.cr2.com/adopt-an-agile-digital-banking-platform

เกี่ยวกับ CR2

CR2 มอบโซลูชันดิจิทัล การบริการตนเอง และการชำระเงินแก่ธนาคารเพื่อขยายธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนการบริการลูกค้า และมอบประสบการณ์ลูกค้าที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ไอร์แลนด์ เราช่วยให้ธนาคารกว่า 100 แห่งใน 60 ประเทศเชื่อมต่อและมีส่วนร่วมกับลูกค้าได้อย่างราบรื่นผ่านช่องทางการธนาคารที่สำคัญที่สุดในปัจจุบัน

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220118005901/en/

หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการนัดสัมภาษณ์กับตัวแทน โปรดติดต่อ Nigel Sutton: nige@seventeen59pr.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย