Category Archives: General News

NielsenIQ แยกตัวเป็นบริษัทอิสระอย่างแท้จริง

Logo

ในฐานะบริษัทใหม่ NielsenIQ มุ่งมั่นที่จะพลิกโฉมธุรกิจของตนและให้ข้อมูลอนาคตด้านการค้า

ชิคาโก–(บิสิเนสไวร์)–08 มี.ค. 2564

วันนี้ NielsenIQ เริ่มบทต่อไปในฐานะบริษัทอิสระด้วยการปิดการซื้อกิจการโดย Advent International ร่วมกับประธานบริหารและซีอีโอ James “Jim” Peck  ในฐานะที่เป็นธุรกิจแบบอิสระ NielsenIQ อยู่ในตำแหน่งที่ยอดเยี่ยมในการเร่งการเปลี่ยนแปลงและเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งผู้นำตลาดของตน

เพื่อก้าวไปข้างหน้าในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรม FMCG และสร้างยุคใหม่ของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม ผู้นำใหม่สามคนจะเข้าร่วม NielsenIQ โดย Mohit Kapoor เข้าร่วมเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี Steve Matthesen ของ Nielsen เข้าร่วมในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์เพื่อช่วยพัฒนาและดำเนินการตามกลยุทธ์ขององค์กรและโครงการริเริ่มที่สำคัญต่างๆ Curt Miller เข้าร่วมเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพัฒนาองค์กรเพื่อขับเคลื่อนการจัดตำแหน่งองค์กรให้สนับสนุนกลยุทธ์การเติบโตของ NielsenIQ

“NielsenIQ มีโอกาสพิเศษในการเป็นพันธมิตรที่มีประสิทธิภาพด้วยความยืดหยุ่นในการเพิ่มการลงทุนเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรมในอนาคต” Jim Peck ประธานบริหารและซีอีโอของ NielsenIQ กล่าว “ความเป็นอิสระของเราแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่มีต่อแผนในการสนับสนุนลูกค้าและคู่ค้าของเราให้ดีขึ้นและมอบคุณค่าสูงสุด โดยปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและลูกค้า”

ลูกค้าจะสามารถพึ่งพาข้อมูลชั้นนำในอุตสาหกรรมของ NielsenIQ ได้อย่างต่อเนื่องในขณะที่บริษัทเร่งการให้บริการความสามารถใหม่ๆ และปรับแต่งการดำเนินงาน  ในฐานะพันธมิตรที่เชื่อถือได้ ซึ่งมีความรู้อย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับ FMCG และอุตสาหกรรมค้าปลีก NielsenIQ มีโอกาสในการตัดสินใจ ปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของลูกค้า และนำบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง

เกี่ยวกับ NielsenIQ

NielsenIQ เป็นผู้นำในการนำเสนอมุมมองพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลกที่สมบูรณ์และเป็นกลางที่สุด  การขับเคลื่อนด้วยแพลตฟอร์มข้อมูลผู้บริโภคที่ล้ำสมัยและด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ที่หลากหลาย NielsenIQ ช่วยให้บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคและผู้ค้าปลีกชั้นนำของโลกสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและชัดเจน

ด้วยการใช้ชุดข้อมูลที่ครอบคลุมและการวัดธุรกรรมทั้งหมดอย่างเท่าเทียมกัน NielsenIQ ช่วยให้ลูกค้าสามารถคาดการณ์พฤติกรรมของผู้บริโภคเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในทุกแพลตฟอร์มการค้าปลีก  ปรัชญาแบบเปิดของเราเกี่ยวกับการรวมข้อมูลทำให้เรามีชุดข้อมูลผู้บริโภคที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก  NielsenIQ มอบความจริงที่สมบูรณ์แบบ

NielsenIQ ซึ่งเป็นบริษัทในพอร์ตโฟลิโอของ Advent International โดยมีการดำเนินงานในเกือบ 100 ตลาดและครอบคลุมมากกว่า 90% ของประชากรโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชม www.nielseniq.com

เกี่ยวกับ Advent International

Advent International ก่อตั้งขึ้นในปี 2527 เป็นหนึ่งในนักลงทุนหุ้นเอกชนรายใหญ่ที่สุดและมีประสบการณ์มากที่สุดในโลก  บริษัทได้ลงทุนในหุ้นเอกชนกว่า 350 รายใน 41 ประเทศและ ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร 66.2 พันล้านดอลลาร์  ด้วยสำนักงาน 15 แห่งใน 12 ประเทศ Advent ได้จัดตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนทั่วโลกกว่า 200 คนทั่วอเมริกาเหนือ ยุโรป ละตินอเมริกา และเอเชีย  บริษัทมุ่งเน้นการลงทุนในห้าภาคส่วนหลัก ได้แก่ ธุรกิจและบริการทางการเงิน การดูแลสุขภาพ อุตสาหกรรม การค้าปลีกผู้ บริโภคและการท่องเที่ยว และเทคโนโลยี  หลังจาก 35 ปีที่ทุ่มเทให้กับการลงทุนระหว่างประเทศ Advent ยังคงมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับทีมผู้บริหารเพื่อสร้างรายได้และการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับบริษัทในพอร์ตโฟลิโอ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.adventinternational.com หรือ www.linkedin.com/company/advent-international

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210308005067/en/

Media Relations: Fernanda Paredes, fernanda.paredes@nielseniq.com , +1 917-291-1196

Gillian Mosher, gillian.mosher@nielseniq.com , +1 647-282-9714

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Milliken & Company แต่งตั้ง Cindy Boiter เป็นรองประธานบริหารและประธานฝ่ายเคมี

Logo

สปาร์ตันเบิร์ก รัฐเซาท์แคโรไลนา–(BUSINESS WIRE)–5 มีนาคม 2564

Milliken & Company มีความยินดีที่จะประกาศว่า Cindy Boiter ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นรองประธานบริหารและประธานฝ่ายเคมีของ Milliken ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคมเป็นต้นไป เธอจะก้าวเข้าสู่บทบาทที่ David Moody ดำรงอยู่ในปัจจุบันในขณะที่เขาเปลี่ยนไปรับบทบาทภายนอกของ Milliken

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210304005823/en/

Cindy Boiter, newly announced executive vice president and president of Milliken's Chemical Division (Photo: Business Wire)

Cindy Boiter รองประธานบริหารและประธานฝ่ายเคมีของ Milliken ที่เพิ่งประกาศใหม่ (ภาพ: Business Wire)

 “เป็นการแต่งตั้งที่น่าตื่นเต้นสำหรับบริษัทของเรา เนื่องจาก Cindy จะกลายเป็นประธานฝ่ายหญิงคนแรกของ Milliken” Halsey Cook ประธานและประธานบริหารของ Milliken กล่าว “เธอมีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนใครในการเป็นผู้นำฝ่ายเคมีของเรา และต้องขอขอบคุณเธอด้วยประสบการณ์อันยาวนานในการเข้าซื้อกิจการที่เธอทำสำเร็จและเธอเป็นภาพรวมในเป้าหมายของ Milliken”

Boiter ได้เข้าร่วมงานกับฝ่ายเคมีของ Milliken ในปี 2555 ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลยุทธ์และการพัฒนาธุรกิจ และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินของฝ่าย ซึ่งเธอมีบทบาทสำคัญและเติบโตอย่างรวดเร็ว ในปี 2561 เธอได้เปลี่ยนไปเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Milliken ซึ่งเธอเป็นผู้นำการริเริ่มการวางแผนเชิงกลยุทธ์ของบริษัทของปี 2568 และดูแลการเข้าซื้อกิจการที่สำคัญสองครั้ง Boiter เป็นผู้รับรางวัล Milliken Honors Award for Diversity and Inclusion และเป็นพันธมิตรที่กระตือรือร้นกับผู้ร่วมงานทั่วโลก

 “เราอยากจะใช้เวลาสักครู่เพื่อขอขอบคุณ David Moody สำหรับ 33 ปีของการทำงานที่ Milliken และขอแสดงความปรารถนาดีให้กับเขาในการก้าวไปสู่ขั้นต่อไปในอาชีพการงาน” Cook กล่าวสรุป

เกี่ยวกับ Milliken

Milliken & Company ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวัสดุศาสตร์ ตระหนักดีว่าโมเลกุลเดี่ยวมีศักยภาพที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ ด้วยโซลูชั่นที่มีความสร้างสรรค์ในวงการอุตสาหกรรมสิ่งทอ วัสดุที่ใช้ปูพื้น เคมีพิเศษ และการดูแลสุขภาพ Milliken ตอบโจทย์ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นบริษัทที่ได้รับการเสนอชื่อว่าเป็นบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกโดยสถาบัน Ethisphere ติดต่อกันถึง 15 ปี บริษัทมีความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ในการนำเสนอโซลูชั่นที่ยั่งยืนสำหรับลูกค้าและชุมชน โดยมีผู้ร่วมงานกว่าแปดพันคนใน 46 แห่งทั่วโลก โดยเบื้องหลังการชุมนุมที่มีจุดประสงค์ร่วมกัน: เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกหลายยุคสมัย ค้นหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดที่น่าสนใจและแรงบันดาลใจในการแก้ไขปัญหาของ Milliken ได้ที่ milliken.com and on FacebookInstagram, LinkedIn และ Twitter.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210304005823/en/

ติดต่อ:

Betsy Sikma
betsy.sikma@milliken.com
864.909.7908

Liz Morris
liz@edit-grp.com
864.918.5196

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

TEPCO Power Grid Incorporated และ บริษัท เอทีที คอนซัลแตนท์ จำกัด ร่วมกันชนะการประกวดสัญญาโครงการก่อสร้างสถานีย่อยใต้ดิน จากการประกาศต่อสาธารณะโดยการไฟฟ้านครหลวงแห่งประเทศไทย

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–25 ก.พ. 2564

TEPCO Power Grid, Inc. (สำนักงานใหญ่: โตเกียว ต่อไปนี้จะเรียกว่า“ TEPCO PG”) ร่วมกับ บริษัท เอทีที คอนซัลแตนท์ จำกัด(สำนักงานใหญ่: กรุงเทพฯ กรรมการผู้จัดการ: มนตรี บุษบาธร ต่อจากนี้เรียกว่า“ ATT”) ประกาศการลงนามในวันนี้ในสัญญาที่ปรึกษากับการไฟฟ้านครหลวง (สำนักงานใหญ่: กรุงเทพมหานคร; ผู้ว่าการ: กีรพัฒน์ เจียมเศรษฐ์; ต่อไปนี้เรียกว่า“ กฟน.”) เพื่อให้บริการเป็นที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าใต้ดิน โดยนี่จะเป็นครั้งแรกที่ TEPCO PG ให้บริการที่ปรึกษาสำหรับการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าใต้ดินในประเทศไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210224005467/en/

More than 40 years’ experience in underground substation construction and O&M, including in the vast and densely populated Tokyo area. (Graphic: Business Wire)

ประสบการณ์มากกว่า 40 ปีในการก่อสร้างสถานีย่อยใต้ดินและ O&M ซึ่งรวมถึงในพื้นที่โตเกียวที่กว้างใหญ่และประชากรหนาแน่น (กราฟิก: Business Wire)

กฟน. มีแผนจะก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยใหม่ให้กลมกลืนกับโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ เนื่องในวาระที่สวนลุมพินีครบรอบ 100 ปีในปี พ.ศ. 2568 การสร้างสถานีย่อยใต้ดินด้านล่างสวนสาธารณะเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความปลอดภัยและรักษาสภาพแวดล้อมโดยรอบ ประสบการณ์มากกว่า 40 ปีของ TEPCO PG ในการออกแบบการก่อสร้าง การดำเนินการ และการบำรุงรักษาสถานีไฟฟ้าใต้ดินในญี่ปุ่นและต่างประเทศ ตลอดจนถึงงานวิจัยหัวข้อ“ การศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นสำหรับสถานีไฟฟ้าย่อยที่แข็งแกร่งและกะทัดรัดในกรุงเทพฯ” (ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรม) นำไปสู่การได้เข้าทำสัญญานี้

ในโครงการนี้ TEPCO PG จะเสนอการออกแบบสถานีย่อยใต้ดินขั้นพื้นฐานที่คำนึงถึงความปลอดภัยในพื้นที่และสภาพแวดล้อมโดยรอบ และการตรวจสอบข้อกำหนดของอุปกรณ์และแบบแผนผังสำหรับสถานีย่อยใต้ดิน ในระหว่างการดำเนินงานนั้น TEPCO PG จะช่วยให้ กฟน. สร้างสถานีย่อยใต้ดินในสถานที่สาธารณะเป็นรูปธรรม

TEPCO PG จะใช้ประโยชน์จากการวางแผนสิ่งอำนวยความสะดวก การออกแบบ และเทคโนโลยีการทำงานของระบบกริดที่ได้รับการพัฒนาผ่านธุรกิจส่งและจำหน่ายไฟฟ้าในประเทศและบริการให้คำปรึกษาในต่างประเทศและตอบสนองความท้าทายในการขยายธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งรวมไปถึงในด้านการให้คำปรึกษาการก่อสร้างสถานีย่อยใต้ดิน

โครงร่าง “การให้บริการด้านการปรึกษาโครงการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าใต้ดินในกรุงเทพมหานครประเทศไทย”

1. ระยะเวลาโครงการและพื้นที่

  • กุมภาพันธ์ 2564 – สิงหาคม 2566 (ตามแผน)
  • เขตปทุมวันกรุงเทพมหานคร (ณ ที่ตั้งของสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยและย่านการค้าที่พลุกพล่านแห่งหนึ่ง)

2. ภาพรวมคู่สัญญา

ชื่อบริษัท

การไฟฟ้านครหลวง

ตัวแทน

กีรพัฒน์ เจียมเศรษฐ์ (ผู้ว่าราชการจังหวัด)

ก่อตั้ง

1 สิงหาคม 2501

ที่ตั้ง

กรุงเทพมหานคร

โครงร่างธุรกิจ

ธุรกิจแจกจ่ายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ

3. คำอธิบายโครงการ

  • สนับสนุนการสร้างสถานีย่อยใต้ดินในที่สาธารณะโดยมีข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมของชุมชน

สถานีย่อยใต้ดิน (ตามแผน)

แรงดันไฟฟ้าหลัก (Primary Voltage)

115 kV หรือ 69 kV

แรงดันไฟฟ้ารอง (Secondary Voltage)

24 kV หรือ 12 kV

ความจุของสถานีย่อย

ประมาณ 240 MVA

4. บทบาทของ TEPCO Power Grid, Inc.

  • ข้อเสนอการออกแบบขั้นพื้นฐาน (ข้อกำหนดของอุปกรณ์ รูปแบบอุปกรณ์ ฯลฯ )
  • ตรวจสอบแบบเค้าโครงและข้อมูลจำเพาะของอุปกรณ์
  • การสนับสนุนขั้นตอนการเสนอราคา (การจัดเตรียมเอกสารการเสนอราคาและการรวบรวมราคาโดยประมาณ)
  • การตรวจสอบภาพวาดและเอกสารอื่น ๆ ที่ส่งโดยผู้รับเหมา

5. ภาพรวมคู่สัญญา

ชื่อบริษัท

ATT Consultants Company Limited

ตัวแทน

ดร. มนตรี บุษบาธร (กรรมการผู้จัดการ)

ก่อตั้ง

 27 เม.ย. 1990

ที่ตั้ง

กรุงเทพมหานคร

โครงร่างธุรกิจ

บริการให้คำปรึกษาด้านพลังงานพลังงาน ไฟฟ้า น้ำมัน ก๊าซ ท่าเรือ สาธารณูปโภค ฯลฯ

6. ประสบการณ์สถานีย่อยใต้ดินของ TEPCO PG

  • ประสบการณ์มากกว่า 40 ปีในการก่อสร้างสถานีย่อยใต้ดินและ O&M รวมถึงในพื้นที่โตเกียวที่กว้างใหญ่และมีประชากรหนาแน่น

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210224005467/en/

ติดต่อ:

So Terauchi

สำนักงานเลขานุการและบริหารความเสี่ยง, TEPCO Power Grid, Inc.

tepcopg@tepco.co.jp / +81-3-6373-1111

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

HanesBrands ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในบริษัท ที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกประจำปี 2564

Logo

การสมัครครั้งแรกกับ Ethisphere ทำให้บริษัทได้อยู่ในรายชื่อ 135 บริษัททั่วโลกที่ได้รับการยอมรับในการดำเนินธุรกิจที่มีจริยธรรม

วินสตัน-ซาเลม นอร์ทแคโรไลนา–(บิสิเนสไวร์)–23 ก.พ.2564

HanesBrands (NYSE: HBI) ผู้นำด้านการตลาดที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและเป็นผู้นำระดับโลกด้านเครื่องแต่งกายพื้นฐานในชีวิตประจำวันได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งใน บริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกปี 2563 โดย Ethisphere ผู้นำระดับโลกในการกำหนดและพัฒนามาตรฐานของธุรกิจที่มีจริยธรรม

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210223005687/en/

HanesBrands เป็นหนึ่งในผู้ผลิตเครื่องแต่งกายเพียงสองรายที่ได้รับการยอมรับจาก 135 บริษัทใน 22 ประเทศและ 47 อุตสาหกรรม  กระบวนการประเมินของ Ethisphere ประกอบด้วยคำถามมากกว่า 200 ข้อเกี่ยวกับวัฒนธรรม การปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม กิจกรรมด้านจริยธรรม และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ การกำกับดูแล ความหลากหลาย และการริเริ่มเพื่อสนับสนุนห่วงโซ่คุณค่าที่แข็งแกร่ง ในปีนี้ Ethisphere ยังได้ประเมินว่าความสามารถของผู้สมัครในการปรับตัวและตอบสนองต่อการระบาดด้านสุขภาพทั่วโลก ความปลอดภัย ความเสมอภาคและการไม่แบ่งแยก และความยุติธรรมในสังคม

“เรามีความมุ่งมั่นอย่างมากในการดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบและเราภูมิใจมากที่ได้รับการยอมรับจาก Ethisphere” ซีอีโอก Steve Bratspies ล่าว “รางวัลนี้เป็นผลมาจากพนักงาน 61,000 คนทั่วโลกที่มุ่งมั่นที่ดำเนินธุรกิจของเราในทางที่ถูกต้อง  ผู้บริโภครับรู้ได้ว่าเมื่อเขาเลือกเครื่องแต่งกายของเราพวกเขากำลังเลือกบริษัทที่มุ่งมั่นอย่างยิ่งต่อความยั่งยืน”

HBI มีความมุ่งมั่นมายาวนานในการเป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจที่มีจริยธรรม  เมื่อเร็วๆ นี้ ทางบริษัทได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งใน 100 บริษัทที่ยั่งยืนที่สุดในประเทศเป็นปีที่สองโดย Barron's และได้รับคะแนนระดับผู้นำ A หลังจากสองปีที่ได้รับคะแนน A- ในรายงานการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของ CDP 2020  HBI ยังเป็นบริษัทเครื่องแต่งกายเพียงแห่งเดียวในประวัติศาสตร์ที่ได้รับรางวัล Energy Star Sustained Excellence จากสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา

ในเดือนตุลาคมปี 2563 HBI ได้ประกาศเป้าหมายด้านความยั่งยืนทั่วโลกสำหรับปี 2573 ซึ่งรวมถึงความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อมที่อิงวิทยาศาสตร์ เป้าหมายในการปรับปรุงชีวิตของผู้คนอย่างน้อย 10 ล้านคน และการใช้พลาสติกและวัตถุดิบที่ยั่งยืนในผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์  เป้าหมายดังกล่าวเปิดตัวผ่านเว็บไซต์ด้านความยั่งยืนใหม่ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มความโปร่งใสของบริษัทและการรายงานเกี่ยวกับตัวชี้วัดที่สำคัญ รวมถึงความหลากหลาย เกณฑ์มาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชน และการประเมินความเสี่ยงสำหรับนักลงทุน

“ในขณะที่เรารับมือกับความท้าทายที่ยากลำบากในปี 2563 เราได้เห็นบริษัทต่างๆ ที่เป็นผู้นำเหนือสถาบันอื่นๆ ในการได้รับความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียผ่านความยืดหยุ่นและความมุ่งมั่นในจริยธรรมและความซื่อสัตย์” Timothy Erblich CEO ของ Ethisphere กล่าว “บริษัท ที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกยังคงแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ในการมอบคุณค่าสูงสุดและการส่งผลดีต่อชุมชนที่พวกเขาให้บริการ  ขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่ HanesBrands ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลก”

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดของโลกและความมุ่งมั่นที่จะHanesBrand รับผิดชอบ

สถาบัน Ethisphere Institute

Ethisphere® Institute เป็นผู้นำระดับโลกในการกำหนดและพัฒนามาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่มีจริยธรรมขององค์กร ความไว้วางใจในตลาด และความสำเร็จทางธุรกิจ  Ethisphere มีความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งในการวัดและกำหนดมาตรฐานจริยธรรมโดยใช้ข้อมูลเชิงลึกซึ่งช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถปรับปรุงลักษณะขององค์กร วัดผล และปรับปรุงวัฒนธรรมของตน  Ethisphere ยกย่องความสำเร็จที่เหนือกว่าผ่านโครงการยกย่องบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกและมอบชุมชนผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมด้วย Business Ethics Leadership Alliance (BELA) ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ethisphere ได้ที่: https://ethisphere.com

HanesBrands

HanesBrands ซึ่งตั้งอยู่ในวินสตัน-ซาเลม นอร์ทแคโรไลนาเป็นผู้ขายชุดชั้นในและเครื่องแต่งกายพื้นฐานในชีวิตประจำวันในอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย และเอเชียแปซิฟิกชั้นนำที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม  บริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์เครื่องแต่งกายได้แก่ Hanes, Champion, Bonds, Maidenform, DIM, Bali, Playtex, Bras N Things, Nur Die/Nur Der, Alternative, L’eggs, JMS/Just My Size, Lovable, Wonderbra, Berlei และ Gear for Sports  บริษัทจำหน่ายเสื้อยืด ยกทรง กางเกงชั้นใน ชุดชั้นใน ถุงเท้า ชุดชั้นใน และชุดแอคทีฟที่ผลิตในห่วงโซ่ทุนต่ำระดับโลก บริษัทอยู่ใน Fortune 500 และเป็นสมาชิกของดัชนีหุ้น S&P 500 (NYSE:HBI) Hanes มีพนักงานประมาณ 61,000 คนในกว่า 40 ประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทที่ www.Hanes.com/corporate และห้องแถลงข่าวที่ https://newsroom.hanesbrands.com/ เชื่อมต่อกับบริษัทผ่านโซเชียลมีเดีย: Twitter (@hanesbrands), Facebook (www.facebook.com/hanesbrandsinc), Instagram (@hanesbrands) และ LinkedIn (@Hanesbrandsinc)

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210223005687/en/

ติดต่อ:

Carole Crosslin
(336) 671-3704
carole.crosslin@hanes.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

การจัดประชุมสัมมนาออนไลน์ (Online Symposium) โดย JETRO – สังคมแห่งอนาคตหลังจากความคาดหวังจากการระบาดใหญ่สำหรับงานเอ็กซ์โป 2568 และศักยภาพของภูมิภาคคันไซ โอซาก้า

Logo

โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–20 กุมภาพันธ์ 2564

องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) และสมาคมญี่ปุ่น เพื่องานแสดงสินค้าโลกปี 2568 จะมีการจัดงานสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อเรื่อง “Future Society after the Pandemic, EXPO 2025 และ the Potential of the Osaka Kansai Region” ในวันที่ 3 มีนาคม 2564 นี้

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210219005225/en/

(Graphic: Business Wire)

(กราฟิก: Business Wire)

นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ปัญหาสิ่งแวดล้อม และความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ การระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ยังกลายเป็นความท้าทายที่สำคัญระดับโลก ในการประชุมสัมมนาครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมจะร่วมหารือกันว่า งาน  EXPO 2025 Osaka Kansai สามารถมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร

ในส่วนแรกการประชุมสัมมนาร่วมทบทวนบทบาทและความสำคัญของงาน EXPO 2025 Osaka Kansai นอกเหนือจากการคาดการณ์ในอนาคตอันใกล้หลังจากการระบาดของโควิด-19 ส่วนที่สองจะเน้นไปที่ระบบนิเวศและฟังก์ชันนวัตกรรมของภูมิภาคคันไซ

รายละเอียดของงาน

วันที่: วันพุธที่ 3 มีนาคม 2564 เวลา 14:00-16:30 น. ตามเวลาของประเทศญี่ปุ่น (JST)
สถานที่: ออน์ไลน์ (การไลฟ์สตรีมมิ่งผ่าน Zoom)
ภาษา: ญี่ปุ่น อังกฤษ (การล่ามแบบพูดพร้อม)
ผู้จัดงาน: องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) สมาคมญี่ปุ่นเพื่องานแสดงสินค้าโลกปี 2568
ผู้ร่วมจัดงาน: สำนักงานเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมคันไซ
การลงทะเบียน: จากเว็บไซต์ (https://www.jetro.go.jp/en/events/20210303.html)

วาระการประชุม:

[กล่าวเปิดงาน]

Hiroyuki Ishige เลขาธิการ สมาคมญี่ปุ่นเพื่องานนิทรรศการโลกปี 2568 (Secretary-General, Japan Association for the 2025 World Exposition)

Nobuhiko Sasaki ประธานกรรมการและประธานบริหาร JETRO (Chairman and CEO, JETRO)

[คำปราศรัย]

“อนาคตเป็นสิ่งที่เราไม่รู้ แต่หลีกเลี่ยงไม่ได้ – ความร่วมมือคือทางออก” 

Richard Baldwin ศาสตราจารย์ คณะเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ สถาบันการศึกษา Graduate เจนีวา (Professor of International Economics, Graduate Institute, Geneva)
“สังคมแห่งอนาคต และงานเอ็กซ์โป 2568 โอซาก้า คันไซ” (“Future Society and EXPO 2025 Osaka Kansai”)

Hiroshi Ishiguro ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยโอซาก้า และ ATR Intelligent Robotics and Communication Laboratories

[การนำเสนอและการอภิปราย]

งานนำเสนอ 1 เรื่อง: “นวัตกรรมและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)”

Jonas Svensson หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลก UNOPS (Head of Global Innovation and Technology, UNOPS)

งานนำเสนอ 2: “แบบจำลอง Living Laboratory เพื่อร่วมสร้างนวัตกรรมที่ยั่งยืน” 

Matt van Leeuwen ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรม บริษัท SUNWAY Group (Chief Innovation Officer, SUNWAY group)

การอภิปราย: “ ในฐานะแพลตฟอร์มนวัตกรรมแบบเปิด ภูมิภาคคันไซจะร่วมมือกับสังคมโลก และมีส่วนช่วยในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ได้อย่างไร 

ผู้ร่วมอภิปราย:

-Yasuo Kitaoka ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร สำนักงาน Co-creation มหาวิทยาลัยโอซาก้า (Executive Assistant to the Director, Co-creation Bureau, Osaka University) ผู้อำนวยการแผนกนวัตกรรม (Director, Innovation Division)

-Yoshimasa Sakai ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์ สมาคมญี่ปุ่นเพื่องานแสดงสินค้าโลกปี 2568 (Director-General of Public Relations Strategy Bureau, Japan Association for the 2025 World Exposition)

-Jonas Svensson หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลก UNOPS (Head of Global Innovation and Technology, UNOPS)

-Chikara Takagishi  ผู้จัดการทั่วไปอาวุโสฝ่ายบริหารเมือง บริษัท Hankyu Hanshin Properties Corp. (Senior General Manager of Urban Management Division, Hankyu Hanshin Properties Corp.)

-Shogoro Fujiki ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร บริษัท Biome Inc. (Founder & CEO, Biome Inc.)

[กล่าวปิดงาน]

Takeshi Yonemura ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมคันไซ (Director-General, Kansai Bureau of Economy Trade and Industry)

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210219005225/en/

ติดต่อ:

JETRO Osaka
Toyokazu Fukuyama
อีเมล์: osc@jetro.go.jp
โทร: +81-6-4705-8604 (9:00-17:00 น. วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ยกเว้นวันหยุดราชการของญี่ปุ่น)

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


บริษัท แปซิฟิค ไพร์ม เข้าซื้อบริษัทนายหน้าภายใต้กลุ่ม CXA หลังจากการเข้าซื้อนี้ บริษัท แปซิฟิค ไพร์ม กลายมาเป็นนายหน้าผลประโยชน์พนักงานที่ใหญ่เป็นอันดับสามในประเทศสิงคโปร์และฮ่องกง

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–17 กุมภาพันธ์ 2564

บริษัทนายหน้าประกันภัยระดับโลก บริษัท แปซิฟิค ไพร์ม ได้มีการขยายการลงทุนในเอเชียแปซิฟิกด้วยการเข้าซื้อบริษัทนายหน้าในกลุ่ม CXA  ซึ่งมีการดำเนินงานในประเทศฮ่องกงและสิงคโปร์ โดยกลุ่ม  CXA เป็นบริษัทอินชัวร์เทคที่ออกจากธุรกิจดังกล่าวเพื่อพุ่งเป้าไปที่ธุรกิจ SaaS ขององค์กรบนระบบคลาวด์ ข้อตกลงการเข้าซื้อครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564

ที่ผ่านมาธุรกิจอินชัวร์เทคของ CXA นั้นได้รับการสนับสนุนจากหลายหน่วยงานดังนี้ ธนาคาร HSBC บริษัท Singtel Innov8 หน่วยงานด้านการลงทุนของคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจสิงคโปร์หรือ EDBI และ B Capital Group บริษัทร่วมลงทุนของผู้ร่วมก่อตั้งเฟสบุ๊ค อย่าง Eduardo Saverin

การเข้าซื้อบริษัทนายหน้ากลุ่ม CXA ในประเทศฮ่องกงและสิงคโปร์นี้เป็นการลงทุนครั้งสำคัญ สำหรับบริษัท แปซิฟิค ไพร์ม ที่ต้องการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลก การซื้อกิจการในครั้งนี้ทำให้บริษัท แปซิฟิค ไพร์ม สามารถนำเสนอเทคโนโลยีที่มีความยืดหยุ่นและไม่ซับซ้อน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าทั่วโลกได้อย่างเต็มรูปแบบ

คุณนีล เรย์มอนด์ ซีอีโอของบริษัท แปซิฟิคไพร์ม พอใจกับการลงทุนครั้งนี้ โดยกล่าวว่า “กลุ่ม CXA มีความเชี่ยวชาญที่เราสามารถใช้ประโยชน์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการใช้เทคโนโลยีพลิกโฉมรูปแบบการดูแลผลประโยชน์ของพนักงาน ซึ่งผมเชื่อว่าการลงทุนในครั้งนี้จะทำให้เราเป็นนายหน้าผู้จัดหาผลประโยชน์พนักงานที่ใหญ่เป็นอันดับสามในประเทศสิงคโปร์และฮ่องกง หลังจากที่ได้มีการการควบรวมกิจการของ Aon-WTW และ Mercer-JLT การซื้อกิจการครั้งนี้จะขับเคลื่อนเราไปสู่เป้าหมายระยะยาวในการเป็นผู้เชี่ยวชาญ ผู้ดูแลผลประโยชน์ของพนักงานระดับโลก”

คุณโรซาริน เชาวน์ คู ซีอีโอของกลุ่ม  CXA กล่าวว่า “เรามั่นใจที่จะให้บริษัท แปซิฟิค ไพร์ม สานต่อธุรกิจอินชัวร์เทคในประเทศฮ่องกงและสิงคโปร์ เพราะเรามีความมุ่งมั่นในการใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนธุรกิจเช่นเดียวกัน”

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัท แปซิฟิค ไพร์ม เป็นผู้สร้างธุรกิจอินชัวร์เทคของตัวเองขึ้นมาทั้งหมด โดยพนักงาน 15% จากทั้งหมด 600 คนเป็นพนักงานด้านไอที การดำเนินธุรกิจอินชัวร์เทคมีส่วนอย่างมากต่อการเติบโตของ บริษัท แปซิฟิค ไพร์ม ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีที่บริษัทจะได้รับในการเข้าซื้อกลุ่ม CXA นั้น จะเข้ามาเติมเต็มเทคโนโลยีที่ใช้ภายในของ บริษัท แปซิฟิค ไพร์ม ได้อย่างมาก และจะช่วยให้ บริษัท แปซิฟิค ไพร์ม สามารถนำเสนอทางเลือกที่สนับสนุนต่อความต้องการของลูกค้าผลประโยชน์พนักงานโดยมีความยืดหยุ่นให้กับลูกค้าของบริษักไม่ว่าจะเป็นบริษัทข้ามชาติขนาดใหญหรือธุรกิจเอสเอ็มอีขนาดเล็ก

การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะเข้ามาช่วยสนับสนุนผลประโยชน์พนักงานและเทคโนโลยีการจ่ายผลตอบแทนของ บริษัท แปซิฟิค ไพร์ม ที่มีอยู่แล้วให้ดีมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ทีมทรัพยากรบุคคลทั่วโลกลดความซับซ้อนในการบริหารแผนงานภายในองค์กร และสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกที่ระบบมีไว้ให้ รวมถึงการจัดการผลตอบแทนพนักงานได้ทั้งหมด

ข้อมูลเกี่ยวกับ บริษัท แปซิฟิค ไพร์ม

บริษัท แปซิฟิค ไพร์ม เป็นผู้นำระดับโลกในด้านการประกันภัยองค์กรและผลประโยชน์ของพนักงาน โดยมีสำนักงานมากถึง10 แห่งทั่วโลก บริษัทมีวิธีเฉพาะในการเป็นตัวกลางเจรจาผลประโยชน์พนักงานและสร้างเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนลูกค้า สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ แปซิฟิค ไพร์ม ได้ที่: https://www.pacificprime.com/corporate.

ข้อมูลเกี่ยวกับ บริษัท CXA Group

CXA Group เป็นแพลตฟอร์มคาดการณ์และวิเคราะห์ข้อมูลแบบครบวงจรในเอเชีย บริษัทเริ่มธุรกิจอินชัวร์เทคโดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ บริษัทมมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมสุขภาพ ความมั่งคั่ง และเป็นตัวเลือกด้านสุขภาพที่ดีกว่าให้กับบุคคลทั่วไป สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ CXA ได้ที่ https://www.cxagroup.com/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้ มีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210208005303/en/

ติดต่อ:

Stephen Ho, ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด – Pacific Prime และ Kwiksure,

+852 3589 0508

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

IWBI ก้าวข้ามอีกขั้นของความสำเร็จครั้งสำคัญในการยกระดับการพัฒนาด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิต

Logo

โครงการในกว่า 80 ประเทศยื่นรับการประเมินจาก WELL คิดเป็นพื้นที่กว่า 1.5 พันล้านตารางฟุต

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–01 กุมภาพันธ์ 2564

International WELL Building Institute (IWBI) หน่วยงานระดับโลกด้านการใช้อาคารและชุมชนเพื่อการพัฒนาด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้คนภายใน ประกาศในวันนี้ว่าขณะนี้มีโครงการที่เข้ารับการประเมินภายใต้ระบบ WELL แล้วคิดเป็นพื้นที่กว่า 1.5 พันล้านตารางฟุตในประเทศต่าง ๆ กว่า 80 ประเทศทั่วโลก ก้าวแห่งความสำเร็จนี่คือเครื่องพิสูจน์ถึงการเร่งนำระบบประเมินนี้ไปใช้ทั่วโลกและการเติบโตอย่างมากในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี ซึ่งในเวลานั้นมีโครงการต่าง ๆ ที่ผ่านการประเมิน WELL คิดเป็นพื้นที่กว่า 500 ล้านตารางฟุตในเกือบ 60 ประเทศ

ในเดือนมิถุนายน 2563 IWBI ได้เปิดตัวระบบประเมินด้านสุขภาพและความปลอดภัย WELL จากความเชี่ยวชาญที่มีอยู่พร้อมทั้งความเห็นของสมาชิก 600 คนจากทีมที่ดูแลงานด้านโควิด-19 ของ IWBI ระบบประเมินด้านสุขภาพและความปลอดภัย WELL ซึ่งต่อยอดจากมาตรฐานอาคาร เป็นระบบประเมินจากหลักฐานและรับรองโดยหน่วยงานภายนอกที่สามารถใช้ได้กับอาคารทั้งเก่าและใหม่รวมถึงประเภทของพื้นที่ซึ่งให้ความสำคัญกับนโยบายเชิงปฏิบัติการ เกณฑ์วิธีด้านการบำรุงรักษา แผนฉุกเฉิน และกลยุทธ์การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถจัดลำดับความสำคัญในเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยสำหรับพนักงาน แขกผู้มาเยือน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้ และสามารถกลับมาดำเนินงานได้ในช่วงที่เกิดระบาดของโรค

อาคารสถานที่กว่า 8,500 แห่งได้ยื่นขอรับการประเมินด้านสุขภาพและความปลอดภัย WELL ในขณะนี้ รวมถึงสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงอย่างเช่นสนามกีฬา Yankee Stadium และตึก Empire State องค์กรด้านการเงินระดับโลกอย่าง JPMorgan Chase บริษัทบริหารจัดการโรงแรมชั้นนำอย่าง Aimbridge Hospitality องค์กรด้านโทรคมนาคมอย่าง T-Mobile ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่าง Brookfield Properties and Kilroy Realty รวมถึงองค์กรด้านการดูแลสุขภาพ เช่น Life Time และอื่น ๆ อีกมากมาย

“การระบาดของโรคทำให้บทสนทนาเรื่องสุขภาพเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และบทบาทของ IWBI ในเรื่องการช่วยลดความรุนแรงของผลกระทบจากไวรัส รวมถึงการให้ความสนับสนุนด้านความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของผู้คนนั้นไม่เคยชัดเจนกว่านี้มาก่อน” Paul Scialla, ผู้ก่อตั้ง IWBI และซีอีโอของ Delos ซึ่งเป็นบริษัทแม่ กล่าว

“อัตราการนำระบบประเมินไปใช้นั้นน่าทึ่งมาก โดยในแต่ละวันมีอาคารสถานที่ต่าง ๆ ยื่นขอรับการประเมินจาก WELL คิดเป็นพื้นที่เฉลี่ยถึง 2 ล้านตารางฟุต” Rachel Hodgdon, ประธานและซีอีโอของ IWBI กล่าว “สิ่งนี้เกิดขึ้นได้จากชุมชนที่มุ่งมั่นทุ่มเทของเราจากทั่วโลก ได้แก่ WELL APs และ WELL Faculty รวมถึงสมาชิก ลูกค้า และที่ปรึกษาของเรา”

WELL APs และ WELL Faculty เป็นชุมชนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและทำงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนำความรู้เกี่ยวกับ WELL มาถ่ายทอดในกลุ่มเพื่อนร่วมงานและลูกค้าทั่วโลก โดยขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนหรือผ่านการรับรองจาก WELL AP แล้วกว่า 16,000 ราย ซึ่งช่วยให้ IWBI รับมือกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

“นี่คือความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ตลอดเวลาหกปีนับตั้งแต่ WELL เปิดตัวในครั้งแรก” Hodgdon เสริม “โรคระบาดได้เข้ามาทำให้ชีวิตของพวกเราเปลี่ยนแปลงอย่างมาก แต่ก็ยังนำมาซึ่งโอกาสในการสานต่อการเติบโตของการเคลื่อนไหวครั้งนี้ ซึ่งมีศักยภาพในการทำสิ่งดี ๆ อีกมากมาย แต่ละก้าวความสำเร็จเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความต้องการของอาคารสถานที่ที่ให้ความสำคัญกับผู้คนเป็นอันดับหนึง และเราไม่สามารถรอที่จะแบ่งปันสิ่งที่เรามีได้อีกต่อไป”

เกี่ยวกับ International WELL Building Institute

International WELL Building Institute (IWBI) เป็นอัตถบริษัทเอกชนและองค์กรชั้นนำระดับโลกที่มุ่งเน้นในเรื่องการเตรียมความพร้อมของอาคารสถานที่ที่ให้ความสำคัญกับผู้คนเป็นอันดับหนึ่ง เพื่อขับเคลื่อนวัฒนธรรมด้านสุขภาพทั่วโลกให้ก้าวหน้า IWBI ขับเคลื่อนชุมชนของตนผ่านการบริหารมาตรฐานอาคาร WELL Building Standard และระบบประเมินด้านสุขภาพและความปลอดภัย WELL Health-Safety Rating การบริหารจัดการการรับรอง WELL AP การสรรหางานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การพัฒนาแหล่งความรู้ และการสนับสนุนนโยบายที่ส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตในทุกสถานที่ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ WELL สามารถดูได้ที่นี่

International WELL Building Institute pbc เป็นบริษัทในเครือของ Delos และ International WELL Building Institute, IWBI, WELL Building Standard, WELL v2, WELL Certified, WELL AP, WELL Portfolio, WELL Portfolio Score, The WELL Conference, We Are WELL, WELL Community Standard, WELL Health-Safety Rating, WELL Health-Safety Rated, WELL Health-Equity, WELL และอื่น ๆ รวมถึงโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายรับรองของ International WELL Building Institute ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20210201005203/en/

ติดต่อ:

Jamie Matos
media@wellcertified.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ITOCHU ประกาศข้อความถึงโลกด้วย 21 ภาษา อวยพรให้ผู้คนทั่วโลกมีความสุข

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–10 มกราคม 2564

ITOCHU Corporation (สำนักงานใหญ่ Minato-ku, Tokyo; Yoshihisa Suzuki, President & COO; ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “ITOCHU”) แสดงภาพที่ฉายบนผนังสำนักงานใหญ่โตเกียวเป็นเวลาสามวัน ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 9 มกราคม จนถึงวันจันทร์ที่ 11 มกราคม 2564 (การแสดงสดได้ถ่ายทอดลงบน YouTube อีกด้วย)

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย รับชมฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20210109005017/en/

(Photo: Business Wire)

(ภาพ: Business Wire)

การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่สร้างความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้วยังไม่ชะลอตัวจากสถานการณ์นี้ ITOCHU ซึ่งเป็นบริษัทที่คอยสนับสนุนการใช้ชีวิตของผู้คนกำลังส่งข้อความถึงโลกด้วย 21 ภาษา เพื่อสะท้อนถึงปี 2564 ด้วยความหวังที่จะแสดงความปรารถนาร่วมกันสำหรับปีใหม่ที่สดใสและสมหวังให้กับผู้คนให้มากที่สุดทั่วโลก

โครงร่างของการแสดงการฉายภาพ:

เวลาและวันที่: วันเสาร์ที่ 9 มกราคม ถึงวันจันทร์ที่ 11 มกราคม 2564

18.00 น. ถึง 18.40 น. (JST) : เนื้อหาต้นฉบับของ ITOCHU (ใน 21 ภาษา)  

18.40 น. ถึง 20.00 น. (JST) : ข้อความสาธารณะเกี่ยวกับภัยพิบัติโควิด-19 (ใน 4 ภาษา)

สถานที่: ภาพจะถูกฉายบนผนังทางด้านสวน ITOCHU (ทางด้าน Gaien Icho Namiki) ของสำนักงานใหญ่โตเกียว ITOCHU

URL การถ่ายทอดสด: วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม – https://youtu.be/dE2jTMoCQfk

วันจันทร์ที่ 11 มกราคม – https://youtu.be/-sNQFeiM0z4

การแสดงการฉายภาพจะถ่ายทอดสดบนเว็บไซด์ดังต่อไปนี้

ช่อง YouTube อย่างเป็นทางการ
https://youtu.be/ZzcEM2nPAkA

ข้อมูลรูปภาพอย่างเป็นทางการ URL:
https://drive.google.com/drive/folders/1qY7IM7U1Y71i91bF-Am43FAQWV-dqX8F

รับชมเวอร์ชันต้นฉบับบน  businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20210109005017/en/

ติดต่อ:

ITOCHU Corporation
Media & Public Relations Department
Corporate Communications Division
HIROMICHI AKASHI
+81-3-3497-7270

 
 

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย




Egon Zehnder ชี้ให้เห็นความก้าวหน้าที่เชื่องช้าและไม่มากพอในรายงานผลการสำรวจความหลากหลายในคณะกรรมการบริหารทั่วโลกของ กระตุ้นให้มีการเร่งลงมือเพื่อผลที่ชัดเจน

Logo

  • ตำแหน่งในคณะกรรมการบริหาร 23.3% ในปัจจุบันเป็นของผู้หญิง เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจาก 20.4% ในปี 2561
  • จำนวนผู้อำนวยการที่เป็นคนผิวสีคิดเป็นเพียง 4.1% ของผู้อำนวยการในสหรัฐฯ ในบริษัทระดับ Russell 3000 ในสหราชอาณาจักร 37% ของบริษัทระดับ FTSE 100 ไม่พบว่ามีผู้อำนวยการที่ไม่ใช่คนผิวขาว
  • มีผู้ที่เป็นชาว LGBTQ+ อย่างเปิดเผยเพียง 24 คนที่ได้ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารที่มีมากกว่า 5,000+ ตำแหน่งในบริษัทระดับ Fortune 500
  • การแต่งตั้งสมาชิกคณะกรรมการบริหารใหม่คิดเป็นเพียง 13.5% ของทั้งหมด เพิ่มขึ้นจาก 11.4% ในปี 2561 จากจำนวนดังกล่าว มี 30% ที่เป็นผู้หญิง เพิ่มขึ้นจาก 27%

ลอนดอน & นิวยอร์ก & ซูริก–(BUSINESS WIRE)–05 ธันวาคม 2563

วันนี้ Egon Zehnder บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลก ได้เผยแพร่รายงานผลการสำรวจความหลากหลายในคณะกรรมการบริหารทั่วโลกประจำปี 2563 (2020 Global Board Diversity Tracker) โดยตลอด 16 ปีที่ผ่านมา Egon Zehnder จะสำรวจความหลากหลายทางเพศและความเป็นนานาชาติของคณะกรรมการบริหารทั่วโลกทุก ๆ สองปี

รายงานในปีนี้ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลของบริษัท 1,685 แห่งใน 44 ประเทศ ซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมกว่า 48 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ และเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อการขับเคลื่อนให้เกิดผลที่จับต้องได้ทั้งในแง่ของเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ Egon Zehnder ได้ขยายขอบเขตให้ครอบคลุมหัวข้ออื่น ๆ ในด้านความหลากหลาย โดยนำเสนอกรณีศึกษาร่วมกับผู้อำนวยการ (director) ผู้บริหารระดับสูง (chief executive) และประธาน (chair) ต่าง ๆ เพื่อหารือถึงการยอมรับในความแตกต่างด้านชาติพันธุ์ รสนิยมทางเพศ และมุมมองต่าง ๆ อย่างเท่าเทียมกันในห้องประชุมคณะกรรมการบริหาร

ผลลัพธ์ที่ได้นั้นมีความชัดเจน ถึงแม้ทั่วโลกจะมีความก้าวหน้าในเรื่องความหลากหลายทางเพศ แต่อัตราการเปลี่ยนแปลงนั้นยังถือว่าเล็กน้อย แม้ความหลากหลายและการไม่แบ่งแยกจะได้รับความสนใจมากขึ้น ซึ่งจุดประกายให้เกิดการพูดคุยและความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่การทำให้เกิดความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรมนั้นยังเป็นเรื่องท้าทาย

อีกหนึ่งภาระเร่งด่วนที่เพิ่มขึ้นมานอกเหนือจากความจำเป็นในการเพิ่มอัตราการขยายความหลากหลาย คือ การออกข้อบังคับให้มีการปรับวิธีคิดเกี่ยวกับวัฒนธรรมและการผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในคณะกรรมการบริหาร ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันจากสมาชิกใหม่ บริษัทต่าง ๆ จะต้องเพิ่มการลงมือทำเพื่อสร้างผลลัพธ์ร่วมกันแทนที่การเพิ่มหรือส่งต่อตำแหน่งเพียงอย่างเดียว

เวลานี้ ความสนใจในเรื่องความหลากหลายในคณะกรรมการบริหารที่เพิ่มขึ้นช้า ๆ แต่คงที่ รวมกับการเคลื่อนไหวทางสังคมอันทรงพลังที่เกิดขึ้นในปีนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะลงมือปฏิบัติ วันนี้ เหล่าผู้นำมีทั้งความสนใจ ความสอดคล้อง และการดำเนินการ ซึ่งจำเป็นสำหรับการตัดสินใจครั้งสำคัญเพื่อให้เกิดความหลากหลายที่มากขึ้นในคณะกรรมการบริหารของพวกเขารวมถึงองค์กรทั้งองค์กร “ข่าวเมื่อไม่นานมานี้เกี่ยวกับการเสนอข้อกำหนดคณะกรรมการบริหารใหม่ของ Nasdaq เป็นสัญญาณที่เป็นรูปธรรมของการพูดคุยถึงเรื่องนี้ที่มากขึ้น” Pamela Warren ประธานร่วมแห่งสภาสากลว่าด้วยความเท่าเทียม ความหลากหลาย และการมีส่วนร่วมภายในบริษัท กล่าว “การรับรู้ถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงมีเพิ่มมากขึ้น รวมถึงความไม่พอใจต่อการไม่ลงมือดำเนินการใด ๆ ที่สูงขึ้น”

Jill Ader ประธานแห่ง Egon Zehnder กล่าวว่า “ปัจจุบัน เราเห็นถึงความสนใจและการรับรู้ว่าเราต้องการให้คณะกรรมการบริหารมีความหลากหลายมากขึ้น อย่างไรก็ดี ความหลากหลายนั้นไม่จำกัดเฉพาะในเรื่องเพศเท่านั้น ในตอนนี้การก้าวข้ามการวัดผลด้าน D&I แบบเดิม ๆ จึงมีความสำคัญมากกว่าที่เคย รวมถึงการจัดลำดับความสำคัญการสร้างทีมที่เป็นตัวแทนของผู้คนที่มีภูมิหลังแตกต่างกัน สมาชิกในคณะกรรมการบริหารมีอำนาจที่จะเปลี่ยนระบบปกครองให้ทันสมัยจากก้าวอันกล้าหาญเพียงไม่กี่ก้าว การเปลี่ยนแปลงนั้นอยู่แค่เอื้อม”

ผลลัพธ์ที่สำคัญ

ขณะที่ความก้าวหน้ามุ่งไปทางด้านความหลากหลายทางเพศ ช่วงเวลาไม่กี่ปีนับจากนี้นับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปลดล็อกพลังแห่งความคิดที่หลากหลาย:

  • ปีนี้ 89% ของบริษัทขนาดใหญ่มีผู้หญิงอย่างน้อยหนึ่งคนในคณะกรรมการบริหารเพิ่มขึ้นจาก 85% ในปี 2561 และประเทศต่าง ๆ 18 ประเทศ เพิ่มขึ้นจาก 13 ประเทศในปี 2561 มีผู้หญิงโดยเฉลี่ย 3 คนขึ้นไปอยู่ในคณะกรรมการบริหารของบริษัทที่ใหญ่ที่สุด
  • ในการศึกษาของเรา มี 25 ประเทศ รวมถึงจีน บราซิล เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา ที่บริษัทขนาดใหญ่ยังไม่มีผู้หญิงอยู่ในคณะกรรมการบริหาร
  • 8 ใน 18 ประเทศที่มีผู้หญิงโดยเฉลี่ยสามคนขึ้นไปในคณะกรรมการบริหาร มีโควตาหรือข้อบังคับที่กำหนดให้จ้างผู้หญิง สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศล่าสุดที่ได้เพิ่มโควตานี้เข้าไป

ขณะนี้มีความจำเป็นอย่างมากที่คณะกรรมการบริหารจะขยายคุณค่าของความหลากหลายให้ครอบคลุมกว่าเฉพาะเรื่องเพศหรือกลุ่มชาติพันธุ์ใดชาติพันธุ์หนึ่ง:

  • ปัจจุบัน ขณะที่มีการมุ่งเน้นไปที่ความหลากหลายทางชาติพันธุ์และเชื้อชาติ ซึ่งถือว่ามีความเหมาะสม แต่ในสหรัฐอเมริกา จำนวนผู้อำนวยการที่เป็นคนผิวดำคิดเป็นเพียง 4.1% ของผู้อำนวยการทั้งหมดในบริษัทระดับ Russell 3000
  • ในสหราชอาณาจักร Parker Review Committee ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริหารที่ไม่แสวงหาผลกำไร ตั้งเป้าหมายให้บริษัทในกลุ่ม FTSE 100 มีผู้อำนวยการที่ไม่ใช่คนขาวอย่างน้อยหนึ่งคนภายในปี 2564 และบริษัทในกลุ่ม FTSE 250 จะต้องดำเนินการเช่นเดียวกันภายในปี 2567 ในช่วงต้นปี 2563 พบว่า 37% ของบริษัทในกลุ่ม FTSE 100 ที่รายงานผลไม่มีตัวแทนดังกล่าวในคณะกรรมการบริหารของพวกเขา และมีเพียง 54% ของบริษัทในกลุ่ม FTSE 250 ที่บรรลุเป้าหมายดังกล่าว
  • ใน 70 ประเทศ การเป็นชาว LGBTQ + อย่างเปิดเผยยังคงผิดกฎหมาย แม้แต่ในสหรัฐอเมริกาเองที่มีการออกความคุ้มครองมากมายสำหรับชาว LGBTQ +  ข้อมูลจาก Out Leadership เผยว่า จากตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารในบริษัทระดับ Fortune 500 กว่า 5,000 ตำแหน่ง มีคณะกรรมการบริหารเพียง 24 คน เท่านั้นที่เป็นชาว LGBTQ + อย่างเปิดเผย ในจำนวนนี้มีเพียงสองคนเท่านั้นที่เป็นคนผิวสีและไม่มีผู้หญิงผิวสีเลยแม้แต่คนเดียว

เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกจะต้องให้ผู้หญิงและกลุ่มคนที่มักถูกมองข้ามขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำ ไม่เฉพาะการเป็นสมาชิกในคณะกรรมการบริหารเท่านั้น ตัวแทนที่เป็นผู้หญิงจะช่วยสร้างผลลัพธ์ให้สำเร็จได้แบบทวีคูณ ด้วยความสามารถที่จะช่วยให้ผู้สมัครที่มีความหลากหลายประสบความสำเร็จ และเพิ่มความหลากหลายผ่านเครือข่ายของพวกเธอ:

  • ปัจจุบัน มีผู้หญิง 27.3% เป็นผู้นำในคณะกรรมการบริหารทั่วโลก เพิ่มขึ้นจาก 25.5% ในปี 2561
  • อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้หญิงที่เป็นประธานคณะกรรมการมีเพียง 2.1% เพิ่มขึ้นจาก 1.5% ในปี 2561
  • ทั่วโลก การแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารใหม่คิดเป็นเพียง 13.5% ของตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารทั้งหมดในปี 2563 เพิ่มจาก 11.4% ในปี 2561 จากตัวเลขดังกล่าว เป็นผู้หญิง 30% เพิ่มขึ้นจาก 27% ในปี 2561 ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งนี้หมายถึงว่าจากจำนวนผู้อำนวยการทั้งหมด มีเพียง 4% เท่านั้นที่เป็นผู้หญิง เพิ่มขึ้นเพียง 0.9% จากปี 2561

แผนดำเนินการ

Egon Zehnder เชื่อว่าจะต้องมีการดำเนินการทั้งในระยะยาวและระยะสั้นหลายด้าน เพื่อสร้างความแตกต่างในแง่ของความหลากหลายให้ประสบความสำเร็จ:

  • สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงจากหัวแถว –แทนที่จะทำให้ผู้บริหารเสียชื่อเสียง สิ่งสำคัญกว่าคือการเปลี่ยนคำวิจารณ์ให้เป็นโอกาสในการเรียนรู้พฤติกรรมใหม่ ๆ
  • การไม่แบ่งแยกเป็นสิ่งสำคัญ – ความหลากหลายทำให้เกิดการแลกเปลี่ยน หรือแม้แต่ความเห็นต่าง ซึ่งจะนำไปสู่ความคิดรูปแบบใหม่ ๆ ในที่สุด
  • การใช้อำนาจผ่านตัวเลข – เสียงของคนส่วนน้อยจะถูกละเลยตราบที่คนส่วนใหญ่ที่มีอำนาจเหนือกว่ายังคงอยู่
  • เฟ้นหาศักยภาพ – ความอยากรู้อยากเห็น การมี่ส่วนร่วม ข้อมูลเชิงลึก และความมุ่งมั่นคือคุณลักษณะที่ดีของความเป็นผู้นำ
  • ขยายเครือข่าย – มองให้ไกลกว่าคนใกล้ตัว และตั้งใจขยายเครือข่ายเพื่อให้ครอบคลุมถึงผู้คนที่จะนำมาซึ่งมุมมองและประสบการณ์ที่แตกต่าง
  • สร้างช่องทางเชื่อมต่อให้กับผู้อื่น – ให้ซีอีโอเป็นผู้รับผิดชอบต่อพันธกิจเรื่องเพื่อให้เกิดความยั่งยืนของเจตนารมย์นี้
  • ฉกฉวยโอกาส – ใช้โอกาสจากการพูดคุยที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเพื่อเรียนรู้จากมุมมองใหม่ ๆ

คุณสามารถดูคำแนะนำและผลการศึกษาทั้งหมดจากรายงานงานนี้ สร้างรายงานแบบกำหนดเองโดยใช้การวัดผลต่างๆ รวมถึงกลุ่มและประเทศ และดูวิดีโอกรณีศึกษาได้ที่ www.egonzehnder.com/global-board-diversity-tracker

บทสัมภาษณ์

รายงานนี้ประกอบด้วยมุมมองแบบเจาะลึกจากกลุ่มผู้บริหาร

บทสัมภาษณ์ผู้บริหารที่สำคัญ ๆ จากรายงาน มีดังนี้:

“คุณต้องเป็นตัวแทนของชุมชนที่คุณรับใช้ การเสียชีวิตอันน่าเศร้าของ George Floyd เป็นการจุดประกายให้กับเรื่องความเท่าเทียมทางเชื้อชาติขึ้นมากจริง ๆ” – Kathleen Taylor ประธาน Royal Bank of Canada

“ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องยอมรับว่าสิ่งที่เรากำลังพูดคุยกันวันนี้ควรจะเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อ 20, 30, 40 ปีที่แล้ว น่าเสียดายที่มันไม่ได้เกิดขึ้น แต่วันนี้เรามีโอกาสแล้วที่จะขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นนับจากนี้ไป เรามีหน้าที่ที่จะต้องสร้างโลกที่ดีกว่าให้กับพนักงาน บริษัท และลูก ๆ ของพวกเรา” – Enrique Lores ซีอีโอ HP Inc.

“เมื่อผู้คนมาถึงที่ทำงาน พวกเขาควรต้องรู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขามีโอกาสที่จะก้าวหน้า หากพวกเขามองไม่เห็นตัวเองนั่งอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารระดับกลางหรือระดับสูงของบริษัท หรือมองไม่เห็นตัวเองในคณะกรรมการบริหาร ก็ยากที่พวกเขาจะรู้สึกว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งกับบริษัท” – Jim Fitterling ซีอีโอและประธาน Dow Inc.

“หากคุณเป็นชาวละติน หญิงหรือชาย เมื่อคุณได้รับการทาบทามให้รับตำแหน่งในคณะกรรมการบริหาร มันมักจะมีเหตุผลเสมอ เช่น ช่วยให้พวกเขาเข้าใจตลาด ช่วยให้พวกเขาเข้าใจพลังและศักยภาพ ช่วยให้พวกเขาคิดเกี่ยวกับวิธีพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดที่สื่อถึงความจริงใจและเกี่ยวข้องกับชุมชนของเรา” – Monica Lozano ผู้อำนวยการฝ่ายเป้าหมาย Bank of America

“ผมรู้สึกเสมอว่าตัวเองได้รับเกียรติในการมาเป็นผู้นำ ซึ่งส่วนหนึ่งของความท้าทายคือการสร้างเงื่อนไขให้กับทุกคนเพื่อให้คนเหล่านั้นทำงานให้กับบริษัทได้อย่างสุดความสามารถ มันเป็นเรื่องยากมากที่จะต้องสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับธุรกิจหากคุณไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้เมื่อมาทำงาน” – Robert Hanson รองประธานบริหารและประธานแผนกไวน์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ Constellation Brands

“เราคงไม่อาจ . . . ในสามหรือสี่ปีนับจากนี้ ก้าวจากบริษัทสัญชาติบราซิลที่มีแบรนด์และตลาดเดียว สู่การเป็นองค์กรระดับโลกที่มีแบรนด์และช่องทางจำหน่ายหลากหลายได้หากไม่ใช่เพราะความเชื่อมั่นอันแรงกล้าต่อความจำเป็นในการนำความสามารถและศักยภาพที่มีความแตกต่าง รวมถึงความหลากหลายและการยอมรับความแตกต่างมาไว้ในการดำเนินงานของเรา” – Roberto Marques ประธานและซีอีโอ Natura & Co.

“ความหลากหลายนำมาซึ่งความเห็นต่าง เมื่อคุณต้องตัดสินใจทางธุรกิจ การที่ทุกคนในที่ประชุมเห็นตรงกันแบบไม่มีข้อขัดแย้งคือสิ่งที่แย่และเป็นการเสียเวลาอย่างที่สุด เมื่อฉันนึกถึงการมีผู้หญิงจำนวนมากขึ้นในคณะกรรมการบริหารที่เข้ามาจุดประกายให้กับการหารือและทำลายความสอดคล้องทางสังคมนั้น นั่นเป็นเรื่องสำคัญมาก” – Nadia Shouraboura ผู้อำนวยการ, X5, Blue Yonder, Ferguson plc, MTS Group

หมายเหตุบรรณาธิการ:

เกี่ยวกับ Egon Zehnder

Egon Zehnder เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการเป็นผู้นำแถวหน้าของโลก โดยมีเป้าหมายหนึ่งเดียวคือช่วยให้บุคลากรและองค์กรพัฒนา เรารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ผู้นำที่ยิ่งใหญ่สามารถทำได้ และเรามีความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบบริการให้คำปรึกษาด้านความเป็นผู้นำที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าของเรา

บริษัทของเราประกอบด้วยที่ปรึกษามากกว่า 500 คน ประจำสำนักงาน 68 แห่ง ใน 40 ประเทศ ซึ่งนำจุดแข็งของแต่ละคนมารวมกันเพื่อสร้างทีมงานที่มีพลังรวมกันเป็นหนึ่งเดียว บริการของเราประกอบด้วย การพัฒนาความเป็นผู้นำ ประสิทธิพลระดับบุคคล ทีม และองค์กร การเฟ้นหาซีอีโอและการสืบทอดตำแหน่ง การเฟ้นหาผู้บริหารและการประเมิน ที่ปรึกษาคณะกรรมการ และการเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ http://www.egonzehnder.com และติดตามเราได้ที่ LinkedIn และ Twitter

ติดต่อ:

Jennifer Reingold
ผู้อำนวยการฝ่ายเนื้อหา
Jennifer.reingold@egonzehnder.com
โทร +1 646 337 5566

Stacy Drumtra
ผู้อำนวยการร่วมฝ่ายการตลาด
หัวหน้าฝ่ายการตลาดและการสื่อสารประจำสหรัฐฯ
stacy.drumtra@egonzehnder.com
โทร +1 312-260-8974

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

เมื่อวัน Black Friday มาถึง คุณจะเลือกซื้อสินค้าเพื่อช่วยให้คุณหายจาก Holiday Blues หรือไม่ ลองคิดถึงอารมณ์ของคุณไปพร้อม ๆ กับการให้ Guardian Angels ช่วยป้องกันคุณจากการแรงกระตุ้นการจับจ่ายซื้อของที่มากเกินไป

Logo

การศึกษาใหม่ศึกษาว่า วิธีการที่เราแทนค่าอารมณ์ให้เป็นมนุษย์ ส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อของเราอย่างไร

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–2 ธันวาคม 2563

เมื่อใดก็ตามที่เรารู้สึกแย่พวกเราหลายคนชอบที่จะดื่มด่ำกับการช้อปปิ้งบำบัด ด้วยความที่ปีนี้ดำเนินไป แบบนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นการใช้จ่ายอย่างหุนหันพลันแล่นในช่วงวันหยุดช้อปปิ้ง อย่างเช่น Black Friday และ Cyber Monday เพราะการซื้อของให้ตัวเองนั้นทำให้คนรู้สึกดี

แม้ว่าเราจะเข้าใจได้ว่าความรู้สึกแย่ กระตุ้นให้เราเปิดกระเป๋าสตางค์ได้อย่างไรแต่การศึกษาใหม่ที่ร่วมเขียนโดย Dr. Rocky Chen จาก Hong Kong Baptist University School of Business แสดงให้เห็นว่าเราประมวลผลอารมณ์อย่างเช่นความเศร้าได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปรียบมันเหมือนคน (มานุษยรูปนิยม) ในลักษณะเดียวกับที่ Disney แสดงถึงความสุข ความเศร้า ความโกรธ ความกลัว และความรังเกียจ ในภาพยนตร์เรื่อง Inside Out ส่งผลกระทบต่อเราในฐานะผู้บริโภค

แนวคิดเรื่องการทำให้อารมณ์มีความเป็นคนมากขึ้น กำลังผนวกรวมกับการที่นักการตลาดดึงดูดเราด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่มีความเป็นมนุษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยน้ำเสียงและภาพลักษณ์ที่สร้างสรรค์แบรนด์ต่าง ๆ จึงทำการตลาดโดยคำนึงถึงอารมณ์และบุคลิกภาพเป็นหลัก นักการตลาดชอบที่จะมองหาโอกาสที่ดีที่สุดที่จะขายให้เรา นั่นคือเวลาที่เรามีความสุข เศร้า หรืออาจเป็นความรู้สึกระหว่างสองความรู้สึกนั้น

นี่คือความคิดแบบมานุษยรูปนิยมที่ส่งผลต่อการบริโภคของเรา:

  • เมื่อคุณทำให้ความรู้สึกเศร้ามีความเป็นคน คุณจะรู้สึกถึงความเข้มข้นของความเศร้าน้อยลง การคิดถึงความเศร้าในฐานะคน ๆ หนึ่งช่วยให้คุณรู้สึกแยกตัวออกจากมันมากขึ้นซึ่งอาจทำให้การใส่ความเป็นมนุษย์ในความรู้สึก เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ได้ผลในการบรรเทาความเศร้า
  • การลดความเข้มข้นของความเศร้าด้วยการใส่ความเป็นมนุษย์ในความเศร้า ก่อนที่จะช้อปปิ้งจะช่วยให้คุณควบคุมตนเองได้มากขึ้น การประมวลผลความเศร้าโดยแทนค่าความรู้สึกเศร้าให้เป็นมนุษย์ก่อนช้อปปิ้งหมายความว่าคุณมีโอกาสที่ดีกว่าในการเลือกซื้อที่เป็นประโยชน์แทนที่จะซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น คุณอาจจะพูดกับตัวเองว่า“ ลืมชีสเค้กไปได้เลยฉันจะทานสลัด” ก้ได้ จากการศึกษาพบว่าผู้ที่แทนค่าความเป็นมนุษย์เกี่ยวกับความรู้สึกไม่ดีของพวกเขามักจะเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าการเลือกการบำเรอตนเองที่ไม่จำเป็น
  • การคิดแทนค่าความรู้สึกด้วยความเป็นมนุษย์ ไม่ได้ใช้ได้ต่อความเศร้าเท่านั้น แต่ยังสามารถเจือจางความสุขได้ด้วย เราสามารถแยกตัวออกจากความสุขได้มากขึ้นเมื่อแทนค่าความสุขความเป็นตัวละครอิสระ ผู้บริโภคอาจต้องการใช้การแทนค่าความสุขหากพวกเขามีแนวโน้มที่จะใช้สอยเกินจำเป็นในช่วงเวลาดังกล่าว ความสุขอาจท่วมท้นจนนำไปสู่การตัดสินใจที่บุ่มบ่าม ดังนั้นบางคนอาจต้องการถอยออกมาสักก้าวและสงบสติอารมณ์ นักการตลาดยังสามารถพิจารณาได้ว่าอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และเส้นทางของลูกค้าอาจเป็นไปในทางการแทนค่าด้วยความเป็นมนุษย์ได้อย่างไร

ในขณะที่คุณเรียกดูข้อเสนอดี ๆ ที่จะปรากฏในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งในช่วงวันหยุดนี้คุณอาจต้องพิจารณาสภาพอารมณ์ของคุณก่อนที่คุณจะคลิก "สั่งซื้อเลย" และชำระเงิน การทำเช่นนี้อาจช่วยให้คุณเป็นนักช้อปที่มีสติมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้คุณซื้อสิ่งที่คุณต้องการจริง ๆ ในระยะยาวแทนที่จะเป็นสิ่งที่คุณรู้สึกว่าถูกดึงดูดในชั่วครั้งชั่วคราวในช่วงเวลาที่รู้สึกแย่

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20201119005581/en/

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

Eva Sham

Evasham@hkbu.edu.hk

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย