Category Archives: Technology

Consensys ประกาศเปิดตัว MetaMask Snaps ต่อสาธารณะ: เสริมศักยภาพผู้ใช้ด้วยการปรับแต่งแพลตฟอร์มที่ไม่เคยมีมาก่อน

Logo

MetaMask Snaps จะรวบรวมนวัตกรรมที่เกิดขึ้นใน Web3 อย่างเต็มรูปแบบ โดยช่วยให้นักพัฒนาบุคคลที่สามสามารถนำความเชี่ยวชาญเฉพาะทางมาใช้สร้างในแพลตฟอร์ม MetaMask โปรแกรมนวัตกรรมที่ไม่มีกลไกการอนุญาตนี้พร้อมที่จะเปลี่ยนรูปแบบการใช้งาน MetaMask ของผู้ใช้ทั่วโลก โดยนำเสนอความเป็นไปได้ในการควบคุมและการปรับแต่งที่เหนือชั้น ในระยะเริ่มแรก สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการให้ผู้ใช้ MetaMask ที่เชี่ยวชาญได้ลองใช้ MetaMask Snaps และรวบรวมความเห็นของพวกเขา ขณะที่ทีม MetaMask ยังคงเดินหน้าพัฒนาเพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ขั้นสูงสุดของ MetaMask Snaps

ฟอร์ตเวิร์ธ, เท็กซัส–(BUSINESS WIRE)–12 กันยายน 2023

วันนี้ Consensys บริษัทซอฟต์แวร์บล็อกเชนและ Web3 ชั้นนำ ได้ประกาศเปิดตัว MetaMask Snaps เวอร์ชันใหม่สู่สาธารณะเป็นครั้งแรก MetaMask Snaps ได้รับการตั้งค่าให้ปฏิวัติวิธีที่ผู้ใช้โต้ตอบกับ MetaMask ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Web3 ที่กำกับดูแลตนเองชั้นนำของโลก โดยนำเสนอการควบคุมและการปรับแต่งที่ไม่เคยมีมาก่อน Snaps คือคุณสมบัติและฟังก์ชันใหม่ที่สร้างขึ้นโดยนักพัฒนาบุคคลที่สาม ซึ่งผู้ใช้ MetaMask ทั่วโลกสามารถติดตั้งลงในวอลเล็ตของตนได้โดยตรง ซึ่งเดิมทีคุณสมบัติของ MetaMask ได้รับการพัฒนาโดยเฉพาะโดยนักพัฒนา MetaMask ที่ Consensys ว่าจ้าง การเปิดตัวครั้งแรกจะรวม 34 Snaps ที่ให้อรรถประโยชน์เกี่ยวกับข้อมูลเชิงลึกของธุรกรรม การทำงานร่วมกันกับบล็อกเชนที่ไม่ใช่ EVM เช่น Bitcoin และการแจ้งเตือน

การเปิดตัว MetaMask Snaps ต่อสาธารณะถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของวิวัฒนาการของ MetaMask ในฐานะวอลเล็ต ด้วยการมอบชุดเครื่องมือใหม่ที่พัฒนาโดยนักพัฒนาบุคคลที่สามทั่วโลกแก่ผู้ใช้ MetaMask Snaps จะช่วยให้บุคคลสามารถกำหนดประสบการณ์ Web3 ของตนได้ตามความต้องการและความชอบเฉพาะตัว ผู้ใช้ MetaMask ที่เชี่ยวชาญสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการติดตั้ง Snaps แรกที่มีได้จาก เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ กระบวนการแรกจะมุ่งเน้นไปที่การให้ผู้ใช้ MetaMask ที่มีประสบการณ์มาลองใช้ MetaMask Snaps และรวบรวมคำติชมของพวกเขา ขณะที่ทีม MetaMask ยังคงเดินหน้าพัฒนาเพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ขั้นสูงสุด

การเปิดตัว Snaps เริ่มต้น: ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับธุรกรรม ความสามารถในการทำงานร่วมกัน และการแจ้งเตือน

ในช่วงเริ่มต้นของการบรรลุวิสัยทัศน์นี้ MetaMask Snaps จะเปิดตัวพร้อม ชุด Snaps 34 รายการ Snaps เหล่านี้ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยและถูกรวมไว้ในรายการที่อนุญาตโดยทีม MetaMask MetaMask จะยังคงตรวจสอบและรวม Snaps ไว้ในรายการที่อนุญาตจนกว่าจะบรรลุการเปลี่ยนไปใช้ระบบที่ไม่มีกลไกการอนุญาต โดยไม่จำเป็นต้องใช้ขั้นตอนนี้

Snaps แรกเหล่านี้จะทำให้เกิดกรณีการใช้งานที่ไม่ซ้ำใครซึ่งรวมถึง:

  • ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับธุรกรรม: ปรับปรุงการเดินทางของ Web3 ของผู้ใช้ด้วยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับธุรกรรมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ช่วยให้พวกเขาสามารถระบุข้อกังวลด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นและสัญญาอัจฉริยะที่เป็นอันตรายก่อนที่จะทำธุรกรรมให้เสร็จสิ้น
  • การทำงานร่วมกัน: MetaMask Snaps ขยายการใช้งาน Web3 ให้ครอบคลุมบล็อกเชนที่ไม่ใช่ EVM เช่น Bitcoin, Solana, Cosmos และโซลูชัน EVM Layer 2 เช่น StarkNet
  • การแจ้งเตือน: แจ้งให้ผู้ใช้ทราบและมีส่วนร่วมกับการแจ้งเตือนเฉพาะ Web3 โดยตรงใน MetaMask เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะไม่พลาดการอัปเดตหรือกิจกรรมที่จำเป็น

ดูรายการ Snaps ทั้งหมดได้ใน MetaMask Snaps Directory

วิสัยทัศน์ของ MetaMask เกี่ยวกับนวัตกรรมที่ไม่มีกลไกการอนุญาต

ในปี 2022 MetaMask มีผู้ใช้งานทะลุ 100 ล้านคน ระบบนิเวศของ Web3 มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว นำไปสู่กรณีการใช้งานใหม่ๆ ที่หลากหลาย นวัตกรรมที่มอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่เป็นส่วนตัวยังคงเป็นสิ่งสำคัญในการขจัดอุปสรรคในการเข้าถึงและอำนวยความสะดวกในการเติบโตของระบบนิเวศของ Web3 โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการเพิ่มผู้ใช้ 1 พันล้านคน แม้ว่าต้นกำเนิดของมันจะมีรากฐานมาจาก Ethereum แต่ MetaMask ก็มีความเชื่อมั่นว่านวัตกรรมนั้นเกิดขึ้นในหลายโดเมนทั่วทั้งระบบนิเวศของ Web3 ด้วย Snaps วอลเล็ต Web3 ชั้นนำหวังว่าจะรวบรวมนวัตกรรมที่เกิดขึ้นใน Web3 ได้อย่างเต็มที่ยิ่งขึ้น โดยช่วยให้นักพัฒนาบุคคลที่สามสามารถนำความเชี่ยวชาญเฉพาะทางมาสร้างแพลตฟอร์มได้ MetaMask จินตนาการถึงระบบนวัตกรรมที่เปิดกว้างและไม่มีกลไกการอนุญาต ซึ่งนักพัฒนา Web3 คนใดก็ตามสามารถสร้าง Snap และเปิดให้ผู้ใช้ใช้งานได้ เป็นแพลตฟอร์มเพื่อชุมชนที่สร้างโดยชุมชน

“ส่วนที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับ Snaps สำหรับฉันคือตอนนี้เรามีระบบที่เป็นหัวใจของวอลเล็ตของเราซึ่งช่วยให้เราสามารถหยุดฟังและเชิญชวนชุมชนให้เสนอวิธีแก้ปัญหาของปัญหาที่ยากที่สุดอย่างนอบน้อม ฉันมีความคิดและความคิดเห็นที่ยิ่งใหญ่เกี่ยวกับอนาคตของความปลอดภัยในการทำธุรกรรม แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลว่าทำไมมันจะต้องเป็นความคิดเดียวที่ได้รับการพิสูจน์ เรากำลังช่วยนำเสนอกระบวนทัศน์ใหม่ของการประมวลผลแบบกระจาย และมีคำถามมากมายที่ต้องการโซลูชันที่สร้างสรรค์ ดังนั้น ฉันยังคงเชื่อว่าการลดอุปสรรคและค่าใช้จ่ายในการลองสิ่งใหม่ๆ อาจเป็นตัวเร่งสำคัญในการค้นหาคำตอบที่ดีของปัญหาที่ยากลำบากเหล่านั้น ซึ่งไม่เกี่ยวกับการเร่งเทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ของตัวมันเอง แต่เป็นการเร่งกระบวนการค้นหาการปรับปรุงวิธีที่เราทำสิ่งต่างๆ” Dan Finlay ผู้ร่วมก่อตั้ง MetaMask และ Chief Ethos Officer ของ Consensys กล่าว

นักพัฒนาบุคคลที่สามที่สร้าง Snaps สามารถจัดส่งและดูแลรักษาผลงานสร้างสรรค์ของตนได้อย่างอิสระ โดยแยกจาก MetaMask พวกเขารักษาความเป็นเจ้าของรหัสและสร้างการเชื่อมต่อโดยตรงกับผู้ใช้ Snap ในระยะยาว ผู้ใช้ MetaMask จะได้รับประโยชน์จากความสะดวกสบายและความสามารถรอบด้านของ Snaps จำนวนนับไม่ถ้วน ซึ่งได้รับการปรับให้เหมาะกับกรณีการใช้งานต่างๆ บนโปรโตคอลต่างๆ พวกเขาจะได้เห็นคุณสมบัติที่ยังไม่เคยมีใครจินตนาการมาก่อน ซึ่งพัฒนาขึ้นด้วยความเร็วที่ MetaMask ไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง

“เรากำลังสร้าง MetaMask Snaps ให้เป็นแพลตฟอร์มแบบเปิดสำหรับนวัตกรรม และเราไม่เรียกเก็บเงินจากนักพัฒนาสำหรับการเผยแพร่ Snaps บนแพลตฟอร์มนี้ เราเชื่อว่านวัตกรรมที่ไม่มีกลไกการอนุญาตเป็นรากฐานสำคัญของระบบกระจายศูนย์ที่ไม่ต้องมีผู้รักษาประตู นวัตกรรมเจริญรุ่งเรืองตามความเร็วของเครือข่าย ไม่ใช่แค่ภายในทีมพัฒนาของ Consensys เท่านั้น” Christian Montoya หัวหน้าผลิตภัณฑ์ของ MetaMask Snaps กล่าวเน้นย้ำ

ด้วยการคาดการณ์อนาคตและสิ่งที่รออยู่ข้างหน้า MetaMask จึงได้หารือกับนักพัฒนามากกว่า 150 รายในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเพื่อขยายขอบเขตของ Snaps นักพัฒนาเหล่านี้มาจากภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงแอฟริกา เอเชีย ยุโรป ลาตินอเมริกา และสหรัฐอเมริกา

เกี่ยวกับ Consensys

Consensys คือบริษัทซอฟต์แวร์บล็อกเชนและ Web3 ชั้นนำ ตั้งแต่ปี 2014 Consensys เป็นผู้นำด้านนวัตกรรม โดยบุกเบิกการพัฒนาทางเทคโนโลยีภายในระบบนิเวศของ Web3 ด้วยชุดผลิตภัณฑ์ของเรา รวมถึงแพลตฟอร์ม MetaMaskInfuraLineaDiligence และแพลตฟอร์ม NFT ของเรา เราได้กลายเป็นแพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันที่เชื่อถือได้สำหรับผู้ใช้ ผู้สร้าง และนักพัฒนาบนเส้นทางการสร้างและเป็นส่วนหนึ่งของโลกที่พวกเขาต้องการเห็น ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง dApp, คอลเลกชัน NFT, พอร์ตโฟลิโอ หรืออนาคตที่ดีกว่า สัญชาตญาณในการสร้างสรรค์นั้นเป็นสากล Consensys เป็นแรงบันดาลใจและสนับสนุนสัญชาตญาณการสร้างสรรค์ของทุกคนด้วยการทำให้ Web3 ใช้งานง่ายและพัฒนาอย่างเป็นสากล ดูผลิตภัณฑ์และโซลูชันของเราที่ https://consensys.io/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

pr@consensys.io

ที่มา: Consensys

Sazae Japan ร่วมมือกับ Boomi เพื่อแก้ไขปัญหาการบูรณาการที่บริษัทญี่ปุ่นต้องเผชิญ

Logo

โตเกียว และเชสเตอร์บรูค รัฐเพนซิลเวเนีย–(BUSINESS WIRE )–13 กันยายน 2023

Boomi™ ผู้นำด้านการเชื่อมต่ออัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ ได้ประกาศความร่วมมือครั้งใหม่กับ Sazae Japan, Inc (“Sazae”) ผู้ให้บริการให้คำปรึกษาด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่โดดเด่น Boomi เป็นแพลตฟอร์มบูรณาการแห่งแรกของ Sazae ในฐานะพันธมิตรด้านบริการ (iPaaS) ในญี่ปุ่น

Sazae Japan Partners With Boomi to Tackle Integration Issues Faced by Japanese Companies (Graphic: Business Wire)

Sazae Japan ร่วมมือกับ Boomi เพื่อแก้ไขปัญหาการบูรณาการที่บริษัทญี่ปุ่นต้องเผชิญ (กราฟิก: Business Wire)

ในฐานะบริษัทในเครือของญี่ปุ่น Sazae Pty Ltd นั้น Sazae ดำเนินธุรกิจอย่างแข็งแกร่งในญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเวียดนาม Sazae จะรวมแพลตฟอร์ม Boomi ที่ใช้โค้ดน้อยและใช้งานง่าย เข้ากับบริการให้คำปรึกษาด้านไอทีขั้นต้นที่ครอบคลุมในทุกอุตสาหกรรม

เนื่องจากความต้องการการประมวลผลแบบคลาวด์เพิ่มขึ้นในหมู่บริษัทญี่ปุ่น iPaaS จึงได้รับความสนใจในฐานะเครื่องมือการบรรลุการบูรณาการระบบในระบบคลาวด์

Sazae มีส่วนร่วมในโครงการระดับโลกมากมายที่ต้องการการบูรณาการระหว่างแอปพลิเคชันและระบบในหลายประเทศ หลังจากประสบความสำเร็จในการร่วมมือกับ Boomi ในโครงการ ServiceNow Sazae รู้สึกประทับใจกับความง่ายในการใช้งานของแพลตฟอร์ม Boomi การรองรับวงจรการพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบ ความเสถียร และความสามารถในการปรับขนาด

ความร่วมมือดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือลูกค้าของ Sazae Japan ในการบูรณาการระบบการจัดการเนื้อหา เช่น ServiceNow และ Drupal

“เราคาดหวังว่าการร่วมมือกับ Boomi จะช่วยให้เราสามารถโยกย้ายโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลของลูกค้าปัจจุบันไปยังแพลตฟอร์มการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (DX) ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ” Ayumu Mizojiri กรรมการและผู้ก่อตั้ง Sazae Pty Ltd. กล่าว “สำหรับโครงการระดับโลก เราเชื่อว่าการร่วมมือกับ Boomi จะมีประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะมีประวัติที่พิสูจน์แล้วในด้านการขจัดความซับซ้อนและการส่งมอบความเร็วและประสิทธิภาพ”

“เนื่องจากความต้องการ iPaaS ยังคงเติบโตในญี่ปุ่น เราจึงวางแผนที่จะทำงานร่วมกับ Sazae ในโครงการระดับโลกของพวกเขา และช่วยให้ลูกค้าของพวกเขาเชื่อมโยงข้อมูล แอปพลิเคชัน กระบวนการ และผู้คน เพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้นและเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของพวกเขา” Kazunori Hori ผู้อำนวยการ Boomi ประเทศญี่ปุ่น กล่าว

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Boomi
Boomi ตั้งเป้าหมายที่จะทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นโดยการเชื่อมโยงทุกคนเข้ากับทุกสิ่ง ทุกหนแห่ง ผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มการบูรณาการบริการ (iPaaS) บนคลาวด์ และในตอนนี้เป็นบริษัทบริการซอฟต์แวร์ (SaaS) ชั้นนำระดับโลกในสาขานี้ Boomi ดึงดูดฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มการบูรณาการและเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลกประมาณ 800 ราย รวมถึง Accenture, Capgemini, Deloitte, SAP และ Snowflake องค์กรระดับโลกหันมาใช้แพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลของ Boomi เพื่อค้นหา จัดการ และประสานข้อมูล ในขณะที่เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน กระบวนการ และผู้คนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและเร็วขึ้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ http://boomi.com

© 2023 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ “B” และ Boomiverse เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP หรือบริษัทย่อยหรือบริษัทในเครือของบริษัท สงวนลิขสิทธิ์ ชื่อหรือเครื่องหมายอื่นๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53550309/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อผู้ติดต่อ

Boomi:
Jasmine Ee
หัวหน้าฝ่ายสื่อและนักวิเคราะห์สัมพันธ์ APJ
jasmine.ee@boomi.com

ที่มา: Boomi, LP

Hillstone Networks ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำด้านการเติบโตและนวัตกรรมของ NGFW ในรายงาน Frost Radar™ 2023

Logo

รับตำแหน่งผู้นำใน NGFW Arena

ซานตาคลารา แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–8 กันยายน 2023 

Hillstone Networks ผู้ให้บริการโซลูชันด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ชั้นนำ ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและการเติบโตใน รายงาน 2023 Frost Radar™ Next Generation Firewalls

ในรายงาน Frost Radar™ 2023 ซึ่งจัดทำโดย Frost & Sullivan นำเสนอการวิเคราะห์ตลาดเชิงลึกที่ประเมินผู้ใช้งานในอุตสาหกรรมผ่านมุมมองด้านกลยุทธ์ในการเติบโต นวัตกรรม ประสบการณ์ของลูกค้า และส่วนแบ่งการตลาด รายงานนี้เป็นแหล่งข้อมูลอันมีค่า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจในการตัดสินใจพร้อมข้อมูลสำหรับความต้องการโซลูชันไฟร์วอลล์รุ่นต่อไป (NGFW)

เราเป็นบริษัทที่ยอดเยี่ยม และได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้นำในรายงาน Frost Radar™ 2023” กล่าวโดย Tim Liu CTO และผู้ร่วมก่อตั้ง Hillstone Networks “ในขณะที่ภูมิทัศน์เทคโนโลยีมีการขยายตัวที่กว้างขึ้น จึงมีความท้าทายในการรักษาความปลอดภัยสำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของเราด้วยเช่นกัน การได้รับการยอมรับในรายงาน NGFW Frost Radar เป็นการตอกย้ำถึงความทุ่มเทของเราในด้านโซลูชันทางวิศวกรรมขั้นสูง เรามีความภูมิใจที่ได้ยืนอยู่แถวหน้าของการพัฒนาไฟร์วอลล์รุ่นต่อไป พร้อมกับความสามารถด้านเทคนิคของเราที่เพิ่มสูงขึ้นเพื่อรองรับความมุ่งมั่นของเราในการสร้างการป้องกันทางไซเบอร์ การได้รับการยอมรับส่งเสริมให้เราสามารถเจาะลึกนวัตกรรมเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อย่างไม่ลดละ ก้าวข้ามอุปสรรคต่าง ๆ และยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของเครือข่ายให้ครอบคลุมได้ดียิ่งขึ้น”

จากข้อมูลของ Frost & Sullivan แนวคิดขอบเขตการรักษาความปลอดภัยมีการปรับเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง เนื่องจากการประมวลผลบนคลาวด์ การทำงานระยะไกล อุปกรณ์ระบบ edge และความคิดริเริ่มในการปรับเปลี่ยนทางดิจิทัลอื่น ๆ ปัจจุบันนี้ NGFW ยังมีภาพรวมที่ไม่ชัดเจน ความสามารถในการปรับขนาดและการกำหนดนโยบายที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมการทำงานแบบไฮบริดใหม่ยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งหมายถึง NGFW จะต้องมีการปรับเปลี่ยนด้านความสามารถในการทำงานด้วยเช่นกัน Frost มีการระบุให้มีการผสานรวมและขยายขอบเขตโซลูชันการรักษาความปลอดภัยที่เชื่อมโยงกัน รวมถึง “ซอฟต์แวร์กำหนดเครือข่ายบริเวณกว้าง (SD-WAN) สื่อกลางในการเข้าถึงระบบการรักษาความปลอดภัยในระบบคลาวด์ (CASB) เกตเวย์เว็บที่ปลอดภัย (SWG) การเข้าถึงเครือข่ายแบบ zero trust (ZTNA) และ NGFW เข้าเป็นกลุ่ม SASE”

กลุ่มผลิตภัณฑ์ NGFW ที่ได้รับรางวัลของ Hillstone Networks นำเสนอสถาปัตยกรรมระบบความปลอดภัยที่พร้อมสำหรับอนาคต เพื่อปรับให้เข้ากับการขยายโครงสร้างพื้นฐานและขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ และเป็นรากฐานสำหรับสถาปัตยกรรมแบบ zero-trust เพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ และป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ขั้นสูง Hillstone A-Series และ X-Series Next-Generation Firewalls ส่งมอบระบบการป้องกันเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูง มีความน่าเชื่อถือ และปรับขนาดได้สำหรับองค์กรและผู้ให้บริการ พร้อมความสามารถในการตรวจจับและป้องกันภัยคุกคามที่ครอบคลุมและชาญฉลาด เพื่อปกป้องทรัพย์สินดิจิทัลขององค์กร

แพลตฟอร์ม Hillstone NGFW ยังเป็นรากฐานสำหรับโซลูชัน Hillstone SD-WAN และ ZTNA ซึ่งครอบคลุม ควบคุม และผสานรวม

ด้วยความช่วยเหลือของกลไก AI ที่ซับซ้อน Hillstone ช่วยให้องค์กรสามารถวิเคราะห์และตรวจจับการรับส่งข้อมูลที่เข้ารหัสโดยไม่ต้องถอดรหัส ปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมและมีความแม่นยำในการตรวจจับภัยคุกคาม” กล่าวโดย Martin Naydenov นักวิเคราะห์ด้านอุตสาหกรรมอาวุโส – ความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ Frost & Sullivan “Hillstone มีวิสัยทัศน์ที่แข็งแกร่งและมีกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ พร้อมครอบคลุม Mega Trends ระดับโลก ตัวอย่างเช่น การประมวลผลบนคลาวด์ ด้วยเหตุนี้ จึงยังคงเปิดตัวโซลูชันใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น Cloud Workload Protection โดยมีการร่วมมือกับผู้ให้บริการระบบคลาวด์รายใหญ่อย่าง AWS และ Azure เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมไอทีแบบไฮบริด”

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Hillstone Next-Generation Firewalls ได้ที่นี่

เกี่ยวกับ Hillstone Networks

Hillstone Networks เป็นผู้นำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ พร้อมมอบการปกป้องทั้งในเชิงลึกและเชิงกว้างแก่บริษัททุกขนาด ตั้งแต่ edge ไปจนถึง cloud และรองรับปริมาณงานทุกระดับ แนวทางการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เชิงบูรณาการของ Hillstone Networks มีความครอบคลุม พร้อมการควบคุม และสามารถผสานรวมระบบสำหรับองค์กรกว่า 26,000 แห่งทั่วโลก www.hillstonenet.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ช่องทางสอบถามสำหรับสื่อ
Zeyao Hu
+1 4085086750
inquiry@hillstonenet.com

แหล่งข้อมูล: Hillstone Networks

Technology Innovation Institute เปิดตัว Falcon 180B โมเดลภาษาขนาดใหญ่แบบโอเพ่นซอร์สที่ทรงพลังที่สุดในโลก

Logo

  • โมเดลใหม่ครองอันดับ 1 ใน Hugging Face Leaderboard ของโมเดลภาษาขนาดใหญ่แบบโอเพ่นซอร์ส
  • โมเดลที่มีพารามิเตอร์ 180 พันล้านได้รับการฝึกฝนบนชุดข้อมูล 3.5 ล้านล้านโทเค็น พร้อมทรัพยากรการประมวลผลของ LLaMA 2 ของ Meta ถึง 4 เท่า
  • Falcon 180B เป็นโมเดลที่เข้าถึงได้แบบโอเพ่นซอร์สสำหรับนักวิจัยและผู้ใช้เชิงพาณิชย์

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE )–6 กันยายน 2023

Technology Innovation Institute (TII) ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กำลังก้าวข้ามขีดจำกัดของ Generative AI อีกครั้งด้วยการเปิดตัว Falcon 180B ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ขั้นสูงที่เป็นรุ่นเรือธงของพวกเขา การเปิดตัวที่ล้ำสมัยนี้ช่วยเสริมความเป็นผู้นำของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ในด้าน AI โดยนำเสนอ Falcon 180B ให้เป็นโมเดลการเข้าถึงแบบโอเพ่นซอร์สสำหรับการวิจัยและการใช้เชิงพาณิชย์

Falcon 180B Benchmarks (Photo: AETOSWire)

เกณฑ์มาตรฐาน Falcon 180B (รูปภาพ: AETOSWire)

หลังจากความสำเร็จอันน่าทึ่งของ Falcon 40B ซึ่งเป็นโมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์สที่ทะยานขึ้นสู่อันดับสูงสุดใน Hugging Face Leaderboard ของโมเดลภาษาขนาดใหญ่เมื่อเดือนพฤษภาคม 2023 TII ซึ่งเป็นเสาหลักการวิจัยประยุกต์ของ Advanced Technology Research Council (ATRC) ของอาบูดาบียังคงเป็นผู้นำในการพัฒนา Generative AI Falcon 40B ถือเป็นตัวอย่างแรกๆ ของโมเดลโอเพ่นซอร์สสำหรับทั้งนักวิจัยและผู้ใช้เชิงพาณิชย์ และถือเป็นการก้าวกระโดดของการบุกเบิกในสาขานี้

H.E. Faisal Al Bannai เลขาธิการของ Advanced Technology Research Council เน้นย้ำถึงผลกระทบเชิงบวกของ Falcon ที่มีต่อภูมิทัศน์ของ AI และกล่าวว่า “เรามองเห็นอนาคตที่พลังการเปลี่ยนแปลงของ AI อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมของทุกคน เรามุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการเข้าถึง AI ขั้นสูงให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น เนื่องจากความเป็นส่วนตัวและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นของ AI ต่อมนุษยชาติไม่ควรถูกควบคุมโดยคนเพียงไม่กี่คน แม้ว่าเราอาจไม่มีคำตอบทั้งหมด แต่ความมุ่งมั่นของเรายังคงแน่วแน่ นั่นคือการทำงานร่วมกันและมีส่วนร่วมในชุมชนโอเพ่นซอร์ส เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะได้แบ่งปันประโยชน์ของ AI”

ด้วยพารามิเตอร์ที่น่าทึ่งถึง 180 พันล้านพารามิเตอร์และฝึกฝนบนชุดข้อมูล 3.5 ล้านล้านโทเค็น Falcon 180B ทะยานขึ้นสู่อันดับสูงสุดของ Hugging Face Leaderboard ของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ผ่านการฝึกฝนมาแล้ว โมเดลนี้มีประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่งที่มีชื่อเสียงอย่าง LLaMA 2 ของ Meta ในเกณฑ์มาตรฐานต่างๆ รวมถึงการทดสอบการใช้เหตุผล การเขียนโค้ด ความชำนาญ และการทดสอบความรู้

ในบรรดาโมเดลภาษาขนาดใหญ่แบบปิดที่ดีที่สุด Falcon 180B อยู่ในอันดับที่ตามหลัง GPT 4 ล่าสุดของ OpenAI และทัดเทียมกับประสิทธิภาพของ PaLM 2 Large ของ Google ซึ่งเป็นโมเดลที่ขับเคลื่อน Bard แม้ว่าจะมีขนาดเพียงครึ่งหนึ่งของโมเดลก็ตาม กรอบการอนุญาตใช้งานสำหรับโมเดลนี้กำหนดขึ้นโดยใช้ “Falcon 180B TII License” ซึ่งอิงตาม Apache 2.0

Dr. Ebtesam Almazrouei กรรมการบริหารและรักษาการหัวหน้านักวิจัยของ AI Cross-Center Unit ของ TII กล่าวว่า “การเปิดตัว Falcon 180B เป็นตัวอย่างของการอุทิศตนของเราในการพัฒนาขอบเขตของ AI และเรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้แบ่งปันศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของมันกับโลก Falcon 180B ประกาศศักราชใหม่ของ Generative AI โดยสร้างศักยภาพของความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ผ่านการเข้าถึงแบบโอเพ่นซอร์สเพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนนวัตกรรมแห่งอนาคต ขณะที่เราเจาะลึกขอบเขตของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิสัยทัศน์ของเราขยายไปไกลกว่านวัตกรรม นั่นคือการรักษาความสัมพันธ์อันลึกซึ้งเพื่อรับมือกับความท้าทายระดับโลกผ่านความก้าวหน้าทางการทำงานร่วมกัน”

ด้วยนักพัฒนามากกว่า 12 ล้านคนที่ยอมรับและปรับใช้ Falcon รุ่นแรก การอัปเกรดครั้งสำคัญนี้จึงพร้อมที่จะกลายเป็นโมเดลชั้นนำสำหรับโดเมนต่างๆ ตั้งแต่แชทบอทไปจนถึงการสร้างโค้ด และอื่นๆ อีกมากมาย

Falcon 180B เข้ากันได้กับภาษาหลักต่อไปนี้: อังกฤษ เยอรมัน สเปน และฝรั่งเศส โดยมีความสามารถจำกัดในภาษาอิตาลี โปรตุเกส โปแลนด์ ดัตช์ โรมาเนีย เช็ก และสวีเดน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ FalconLLM.tii.ae

ที่มาAETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรบั ชมภาพในรูปแบบมลัติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/20230906583274/en

รายชื่อผู้ติดต่อ

Jennifer Dewan ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสาร
jennifer.dewan@tii.ae

ที่มา: The Technology Innovation Institute

XEV เปิดตัวโมเดล YOYO รุ่นล่าสุดที่งาน IAA Mobility พร้อมวางจำหน่ายในไตรมาสที่ 4

Logo

MUNICH, Germany–(BUSINESS WIRE)–5 กันยายน 2023

วันที่ 4 เดือนกันยายน ปี 2023 XEV บริษัทเทคโนโลยียานยนต์พลังงานแหล่งใหม่ระดับโลก เปิดตัวผลิตภัณฑ์ยานยนต์เพื่อการคมนาคมในเมืองที่ได้รับการอัปเกรด YOYO ที่ IAA Mobility โดยโมเดล YOYO ใหม่นี้จะเปิดตัวพร้อมกันในประเทศต่างๆ เช่น อิตาลี เยอรมันี ฝรั่งเศส และสเปน โดยมีกำหนดวางจำหน่ายในไตรมาสที่สี่ของปี 2023 ราคาตั้งต้นที่ 16,990 ยูโร (ไม่รวมอุปกรณ์เสริม) ปัจจุบัน XEV มีการติดตั้งจุดจำหน่ายมากกว่า 120 แห่งในประเทศอิตาลี เยอรมันี ฝรั่งเศส และสเปน และคาดว่า จะมีจุดจำหน่ายทั้งหมดในยุโรปกว่า 300 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้

(Photo: Business Wire)

(รูปภาพ: Business Wire)

ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ทันสมัย ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการในการคมนาคมภายในเมือง YOYO ผสมผสานเทคโนโลยี สุนทรียภาพ และการใช้งานได้จริง โดยมีการออกแบบที่ล้ำสมัย ซึ่งประกอบด้วยคุณสมบัติต่างๆ เช่น หน้าต่างไร้กรอบ กลุ่มไฟ LED แบบสามมิติ และหลังคากระจกแบบพาโนรามา ด้วยหน้าจออัจฉริยะความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว (carplay& androidauto) และฟังก์ชันการควบคุมระยะไกลผ่านแอปมือถือ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมระบบเครื่องปรับอากาศ เปิดปิดหน้าต่าง ปลดล็อครถยนต์ และตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ YOYO ถือเป็นเพื่อนคู่ใจในอุดมคติของคุณสำหรับการคมนาคมาภายในเมือง

ด้วยกำลังไฟเต็มรูปแบบที่ระยะทาง 150 กม. และความเร็วสูงสุดที่ 80 กม./ชม. YOYO มาพร้อมการควบคุมที่แม่นยำและคล่องตัว ช่วยให้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสำรวจเมือง นอกจากนี้ ด้วยระบบการเปลี่ยนแบตเตอรี่น้ำหนักเบาอันเป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวของ XEV YOYO สามารถสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ภายใน 3 นาที ช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจในการเดินทางโดยไม่หยุดชะงัก

XEV มีการร่วมมือกับ ENI ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ในยุโรป เพื่อปรับใช้และสร้างเครือข่ายเพื่อรองรับการเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั่วยุโรป ช่วยให้ผู้ใช้สามารถชาร์จไฟได้ที่ปั๊มน้ำมันของ ENI ด้วยการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของ ENI จึงช่วยให้ XEV สามารถสร้างสถานีได้กว่า 30 แห่งในห้าเมืองของอิตาลี รวมถึงโรม มิลาน ตูริน และโบโลญจน์ และผ่านการพิสูจน์แล้วว่า ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่ผู้ใช้งาน พร้อมการเปิดตัวของ YOYO ในประเทศอิตาลี เยอรมันี ฝรั่งเศส สเปน และประเทศอื่นๆ เครือข่ายรองรับการเปลี่ยนแบตเตอรี่ของ XEV ก็มีการขยายไปทั่วด้วยเช่นกัน เอื้อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การคมนาคมภายในเมืองที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น

ในงาน IAA Mobility ปีนี้ XEV ได้เปิดตัวบริการเฉพาะบุคคล Xpression อย่างเป็นทางการ โดยมีการนำเสนอการออกแบบ YOYO แบบต่างๆ ที่สามารถปรับแต่งได้เฉพาะตัว XEV ยังได้ร่วมมือกับ UAAD ที่เป็นแพลตฟอร์มศิลป์ออนไลน์ที่นิวยอร์ก เพื่อนำเสนอตัวเลือกการออกแบบที่เป็นนวัตกรรมและน่าดึงดูดใจแก่ผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง ช่วยให้การคมนาคมภายในเมืองมีความสร้างสรรค์และสนุกสนานยิ่งขึ้น

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53548984/en

ติดต่อ

XEV Global
Benjamin Lu
xev-PR@xev-global.com

แหล่งข้อมูล: XEV

LED Expo Thailand รวบรวม “ประสิทธิภาพการใช้พลังงานและดิจิทัลสำหรับระบบไฟอัจฉริยะ” ไว้ด้วยกัน

Logo

กรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE)–5 กันยายน 2023

นิทรรศการโซลูชัน LED และระบบไฟอัจฉริยะที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน LED Expo Thailand เตรียมกลับมาอีกครั้งที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 20-22 กันยายน 2023 ซึ่งจัดโดย MEX Exhibitions และ IMPACT Exhibition Management งานนี้รับประกันประสบการณ์สมจริงที่ผู้เข้าร่วมสามารถสำรวจความก้าวหน้าล่าสุดในเทคโนโลยี LED และระบบไฟอัจฉริยะ พบกับผู้นำต่าง ๆ ในอุตสาหกรรม และรับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับระบบไฟในอนาคต

งานนี้นำเสนอพื้นที่จัดแสดงที่ครอบคลุม โดยมีนิทรรศการของ กฝผ. เพื่อส่งเสริมระบบไฟ LED ให้เป็นโซลูชันหลักในการรับมือกับความต้องการพลังงานที่เพิ่มมากขึ้น โดยนำเสนอนวัตกรรมล่าสุดในเทคโนโลยีและการใช้งานระบบไฟอัจริยะที่นำเสนอโดยผู้แสดงสินค้ากว่า 400 รายในด้านระบบไฟที่หลากหลาย รวมถึงระบบไฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ระบบไฟที่ประหยัดพลังงาน ระบบไฟสำหรับการดูแลสุขภาพและสังคม ระบบไฟสำหรับพืชสวน ระบบไฟที่ให้ความสำคัญกับมนุษย์ ระบบไฟอัจฉริยะ และระบบไฟที่ยั่งยืน จากประเทศไทย จีน มาเลเซีย ฟินแลนด์ อินเดีย ไต้หวัน เป็นต้น ผู้ซื้อจากทั่วโลกสามารถสำรวจผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของแบรนด์ LED ชั้นนำ แบรนด์ชั้นนำบางส่วนที่จะเข้าร่วมงาน LED Expo Thailand ได้แก่ EXELUX (มาเลเซีย), LEDIL OY (ฟินแลนด์), TOYO LED ELECTRONICS LIMITED (ฮ่องกง), YUS UNITED ENTERPRISES INC., LEDLINK (ไต้หวัน), HORTISPECTRA, LEDESTAR (จีน), TRANS.AD SOLUTIONS COMPANY LIMITED, RAYLIGHT TECHNOLOGY CO., LTD (ประเทศไทย) และอื่น ๆ อีกมากมาย

Himani Gulati ผู้อำนวยการ MEX Exhibitions Pvt. Ltd. กล่าวว่า “ในปีนี้ เรามุ่งมั่นที่จะแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยี LED มีการพัฒนาอย่างไรเพื่อตอบสนองความท้าทายของโลกยุคใหม่ โดยเน้นไปที่ความยั่งยืน ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และการใช้งานอัจฉริยะ”

ไฮไลท์ของงานได้แก่ การประกวด Innovative LED Lighting Project Pitching Contest ที่ผู้ซื้อจะได้ชมการจัดแสดงโครงการระบบไฟที่ยั่งยืนโดยนักศึกษา/กลุ่มมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย สัมมนา Thailand Smart Lighting Industry Seminar ที่นำเสนอความคืบหน้าจากภาครัฐและเอกชนเกี่ยวกับโครงการสำคัญ โอกาสทางการตลาด และแผนงานเมืองอัจฉริยะในประเทศไทย งานนี้ยังจัดเป็นแพลตฟอร์มพิเศษสำหรับการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมทางธุรกิจและความร่วมมือระหว่างผู้แสดงสินค้าและผู้เข้าร่วมงานด้วย HOSTED BUYER PROGRAMME โดยมุ่งเน้นที่การประชุมทางธุรกิจแบบตัวต่อตัว

“เราภูมิใจที่ได้ต้อนรับผู้เข้าร่วมและผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก LED Expo Thailand ทำหน้าที่เป็นสะพานสำหรับความร่วมมือระหว่างประเทศ ที่ซึ่งได้รวมความคิด นวัตกรรม และความร่วมมือไว้ด้วยกัน” Mr. Loy Joon How ผู้จัดการทั่วไป IMPACT Exhibition Management Co. Ltd. กล่าว

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Ms. Robby Keshan, 011-46464830

แหล่งที่มา: LED Expo Thailand

Hytera ลงนามกรอบข้อตกลงประจำปีกับ Sinopec Group

Logo

เซินเจิ้น จีน–(BUSINESS WIRE )–1 กันยายน 2023

Hytera Communications (SZSE: 002583) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชันการสื่อสารระดับมืออาชีพชั้นนำระดับโลก ชนะการประมูลจัดซื้ออุปกรณ์วิทยุสองทางด้านอุตสาหกรรมของ Sinopec Group ปี 2023-2024 ในเดือนสิงหาคม 2023 Hytera เป็นผู้ชนะการประมูลแต่เพียงผู้เดียวและขอบเขตการจัดซื้อครอบคลุมผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานของ TETRA, PDT และ PoC ตลอดจนวิทยุความปลอดภัยสองทางในตัวและกล้องที่สวมใส่ติดตัว (BWC)

ในฐานะโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลกและบริษัทเคมีภัณฑ์รายใหญ่อันดับสอง Sinopec Group ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) อย่างต่อเนื่อง การประมูลครั้งนี้นำไปสู่การซื้อเฟรมเวิร์กรวมศูนย์สำหรับอุปกรณ์และระบบวิทยุสองทางของ Sinopec Group เป็นครั้งแรก ความร่วมมือนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การดำเนินงานที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพทั่วทั้งโรงงานของ Sinopec

“Hytera ให้บริการลูกค้าปิโตรเคมีจำนวนมากทั่วโลกอย่างภาคภูมิใจ โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในสถานที่ทำงานเหนือสิ่งอื่นใด ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นข้อพิสูจน์อีกประการหนึ่งถึงการยอมรับในอุตสาหกรรมของผลิตภัณฑ์และความสามารถของ Hytera” Mu Qiao ผู้จัดการทั่วไปของ Hytera China กล่าว “ในอนาคตข้างหน้า เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่อไปและเพิ่มขีดความสามารถให้กับการดำเนินงานที่ปลอดภัย เชื่อถือได้ และมีประสิทธิภาพสำหรับลูกค้าในอุตสาหกรรมพลังงานและปิโตรเคมีในวงกว้างยิ่งขึ้น ความมุ่งมั่นนี้ผลักดันให้เราก้าวข้ามขอบเขตของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้าของเรา”

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันน้ำมันและก๊าซของ Hytera ได้ที่ https://www.hytera.com/en/industries/oil-and-gas.html

เกี่ยวกับ Hytera

Hytera Communications Corporation Limited (SZSE: 002583) คือผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชันการสื่อสารระดับมืออาชีพชั้นนำระดับโลก ด้วยความสามารถด้านเสียง วิดีโอ และข้อมูล เรามอบการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว ปลอดภัยยิ่งขึ้น และหลากหลายยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้ทางธุรกิจและภารกิจที่สำคัญ เราทำให้โลกมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้นโดยช่วยให้ลูกค้าของเราประสบความสำเร็จมากขึ้นทั้งในด้านการปฏิบัติงานประจำวันและการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

lele.yao@hytera.com

ที่มา: Hytera Communications

โซลูชันการจัดการฝุ่นโดยใช้หัวฉีดสเปรย์จาก IKEUCHI

Logo

IKEUCHI นำเสนอโซลูชันการจัดการและควบคุมฝุ่นโดยใช้หัวฉีดสเปรย์เพื่อป้องกันมลพิษทางอากาศที่โรงเก็บถ่านหิน โรงถลุงเหล็ก และโรงงานอุตสาหกรรมอื่นๆ

โอซาก้า ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE )–1 สิงหาคม 2023

H. IKEUCHI & CO., LTD. ผู้ผลิตหัวฉีดสเปรย์ชั้นนำที่มีสำนักงานใหญ่ในญี่ปุ่น ได้ริเริ่มแคมเปญการขายที่ครอบคลุมทั่วโลกเพื่อนำเสนอโซลูชันการจัดการและควบคุมฝุ่นที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูง

IKEUCHI offers dust suppression and dust control solutions using spray nozzles for preventing air pollution at coal storages, steel mills, and other industrial facilities. (Graphic: Business Wire)

IKEUCHI นำเสนอโซลูชันการจัดการและควบคุมฝุ่นโดยใช้หัวฉีดสเปรย์เพื่อป้องกันมลพิษทางอากาศที่โรงเก็บถ่านหิน โรงถลุงเหล็ก และโรงงานอุตสาหกรรมอื่นๆ (ภาพ: Business Wire)

การใช้ระบบหัวฉีดสเปรย์ ที่ออกแบบมาเพื่อความต้องการเฉพาะสำหรับลานเก็บถ่านหินในโรงไฟฟ้า ไซต์การขุด  ไซต์งานภายในโรงงานถลุงเหล็ก และโรงงานอุตสาหกรรมอื่นๆ เหล่านี้จะช่วยพ่นไอน้ำละเอียดไปทั่วพื้นที่อย่างทั่วถึง เพื่อจับและขจัดอนุภาคฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ระบบเหล่านี้ยังสามารถพ่นไอน้ำไปยังจุดที่ก่อให้เกิดฝุ่นได้โดยตรง เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นลอยขึ้นไปในอากาศ ดังนั้นจึงป้องกันการกระจายตัวของฝุ่นและปรับปรุงสภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงาน ผ่านการฟอกอากาศได้

ดูลิงก์โซลูชันการจัดการฝุ่นของเรา

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการมุ่งเน้นที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับฝุ่นในโรงงานที่เกี่ยวข้องกับพลังงานและอุตสาหกรรมอื่นๆ หนึ่งในแนวทางทั่วไปคือการติดตั้งเครื่องตกตะกอนด้วยไฟฟ้าสถิต แต่มักจะต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากเนื่องจากพื้นที่เป้าหมายมีขนาดใหญ่ ในทางกลับกัน การฉีดพ่นน้ำอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนในสถานที่ทำงานและปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการปล่อยน้ำเสีย นอกจากนี้ ในโรงงานถลุงเหล็ก ยังมีความกังวลอื่นที่เกี่ยวกับการระเบิดของไอน้ำที่เกิดจากการสัมผัสกับน้ำในโซนที่มีอุณหภูมิสูง

IKEUCHI จึงได้พัฒนาแนวทางที่ต่างออกไปด้วยระบบสองประเภทเพื่อนำเสนอโซลูชันการจัดการฝุ่นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ประเภทแรกคือ “ระบบไอน้ำนุ่ม” ที่พ่นไอน้ำละเอียดและนุ่มนวลเพื่อจับและทำลายอนุภาคฝุ่นในอากาศด้วยแรงโน้มถ่วง ประเภทที่สองคือ “ระบบไอน้ำความเร็วสูง” ที่พ่นไอน้ำละอองละเอียดจำนวนมากด้วยความเร็วสูงเพื่อขจัดฝุ่นไม่ให้ลอยขึ้นและกระจายตัว ทั้งสองระบบติดตั้งง่าย โดยลูกค้าเพียงต้องมีอากาศอัดและน้ำเท่านั้น

ก่อนที่จะเสนอขายระบบ ตัวแทนฝ่ายขายของเราจะประเมินผลที่ไซต์งานและหารือกับลูกค้าก่อน กระบวนการทำงานร่วมกันนี้จะทำให้มั่นใจถึงการออกแบบระบบการจัดการฝุ่นที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละไซต์งาน

ด้วยการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายระดับโลกของเราและความสำเร็จที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในหลายประเทศ IKEUCHI มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือในการจัดการกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมในแต่ละภูมิภาคผ่านการประยุกต์ใช้ระบบเหล่านี้

เครือข่ายได้แก่ ญี่ปุ่น จีน อินโดนีเซีย ไทย  สหรัฐอเมริกา

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53545294/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

Yoshikazu Ueno
H. IKEUCHI & CO., LTD.
overseas@kirinoikeuchi.co.jp

ที่มา: H. IKEUCHI & CO., LTD.

Toshiba เปิดตัว SiC MOSFET รุ่นที่ 3 สำหรับเครื่องจักรอุตสาหกรรมพร้อมแพ็กเกจสี่พินที่ช่วยลดการสูญเสียเมื่อเปิดปิด

Logo

คาวาซากิ ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–31 สิงหาคม 2023

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (Toshiba) ได้เปิดตัว MOSFET ซิลิคอนคาร์ไบด์ (SiC) “ซีรีส์ TWxxxZxxxC” ที่ใช้แพ็กเกจ TO-247-4L(X) สี่พินที่ช่วยลดการสูญเสียเมื่อเปิดปิดด้วย[1 ] ชิป SiC MOSFET รุ่นที่ 3 สำหรับเครื่องจักรอุตสาหกรรม การจัดส่งผลิตภัณฑ์สิบรายการจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ โดยห้ารายการที่มีระดับ 650V และห้ารายการที่มีระดับ 1200V

Toshiba: 3rd generation SiC MOSFETs for industrial equipment with four-pin package that reduces switching loss. (Graphic: Business Wire)

Toshiba: SiC MOSFET รุ่นที่ 3 สำหรับเครื่องจักรอุตสาหกรรมพร้อมแพ็กเกจสี่พินที่ช่วยลดการสูญเสียเมื่อเปิดปิด (กราฟิก: Business Wire)

ผลิตภัณฑ์ใหม่คือ ผลิตภัณฑ์แรกในกลุ่มผลิตภัณฑ์ SiC MOSFET ของโตชิบาที่ใช้แพ็กเกจ TO-247-4L(X) สี่พิน ซึ่งช่วยให้สามารถเชื่อมต่อแบบเคลวินของขั้วต่อแหล่งสัญญาณสำหรับไดรฟ์เกต แพ็กเกจสามารถลดผลกระทบของการเหนี่ยวนำสายไฟภายในแพ็กเกจ ปรับปรุงประสิทธิภาพการเปิดปิดความเร็วสูง สำหรับ TW045Z120C ใหม่ การสูญเสียเมื่อเปิดเครื่องจะลดลงประมาณ 40% และการสูญเสียเมื่อปิดเครื่องจะลดลงประมาณ 34%[2] เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ปัจจุบันของ Toshiba ซึ่งคือ TW045N120C ในแพ็กเกจ TO-247 สามพิน ซึ่งจะช่วยลดการสูญเสียพลังงานของเครื่องจักร

การออกแบบอ้างอิงสำหรับอินเวอร์เตอร์สามเฟสที่ใช้ SiC MOSFETs ถูกเผยแพร่ทางออนไลน์

Toshiba จะยังคงขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ของตนต่อไปเพื่อตอบสนองแนวโน้มของตลาด และมีส่วนช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักรและขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า

หมายเหตุ:
[1] ณ เดือนสิงหาคม 2023
[2] ณ เดือนสิงหาคม 2023 ค่าที่วัดโดย Toshiba (เงื่อนไขการทดสอบ: VDD=800V, VGG=+18V/0V, ID=20A, RG=4.7Ω, L=100μH, Ta=25°C)

การใช้งาน

  • การสลับแหล่งจ่ายไฟ (เซิร์ฟเวอร์ ศูนย์ข้อมูล อุปกรณ์สื่อสาร ฯลฯ)
  • สถานีชาร์จ EV
  • อินเวอร์เตอร์ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
  • เครื่องสำรองไฟ (UPS)

คุณสมบัติ

  • แพ็กเกจสี่พิน TO-247-4L(X):
    การสูญเสียเมื่อเปิดปิดจะลดลงโดยการเชื่อมต่อแบบเคลวินของขั้วต่อแหล่งสัญญาณสำหรับไดรฟ์เกต
  • SiC MOSFET รุ่นที่ 3
  • ค่าความต้านทานจากแหล่งเดรนต่ำ x ค่าประจุเกต-เดรน
  • แรงดันไปข้างหน้าของไดโอดต่ำ: VDSF=-1.35V (typ.) (VGS=-5V)

ข้อมูลจำเพาะหลัก

(Ta=25°C เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น)

หมายเลขชิ้นส่วน

แพ็กเกจ

ระดับกระแสไฟสูงสุดโดยสัมบูรณ์

คุณลักษณะทางไฟฟ้า

การตรวจสอบตัวอย่าง

และ

ความพร้อม

ค่าความต้านทาน

จาก

จากเกต

VDSS

(V)

ค่าประจุ

จาก

จากเกต

VGSS

(V)

กระแส

เดรน

(DC)

ID

(A)

ค่าความต้านทาน

จาก

แหล่ง

เดรน

RDS(ON)

(mΩ)

แรงดันไฟฟ้า

เทรชโฮลด์

จากเกต

Vth

(V)

ค่าประจุ

เกต

รวม

Qg

(nC)

ค่าประจุ

เกต-

รวม

Qgd

(nC)

อินพุต

ความจุ

Ciss

(pF)

แรงดัน

ไปข้างหน้า

จากเกต

VDSF

(V)

Tc=25°C

VGS=18V

VDS=10V

VGS=18V

VGS=18V

typ.

ทดสอบ

สภาพ

VDS

(V)

VGS=-5V

typ.

typ.

typ.

typ.

TW015Z120C

TO-247-4L(X)

1200

-10 ถึง 25

100

15

3.0 ถึง 5.0

158

23

6000

800

-1.35

ซื้อออนไลน์

TW030Z120C

60

30

82

13

2925

ซื้อออนไลน์

TW045Z120C

40

45

57

8.9

1969

ซื้อออนไลน์

TW060Z120C

36

60

46

7.8

1530

ซื้อออนไลน์

TW140Z120C

20

140

24

4.2

691

ซื้อออนไลน์

TW015Z65C

650

100

15

128

19

4850

400

ซื้อออนไลน์

TW027Z65C

58

27

65

10

2288

ซื้อออนไลน์

TW048Z65C

40

48

41

6.2

1362

ซื้อออนไลน์

TW083Z65C

30

83

28

3.9

873

ซื้อออนไลน์

TW107Z65C

20

107

21

2.3

600

ซื้อออนไลน์

ไปที่ลิงก์ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่
TW015Z120C
TW030Z120C
TW045Z120C
TW060Z120C
TW140Z120C
TW015Z65C
TW027Z65C
TW048Z65C
TW083Z65C
TW107Z65C

ไปที่ลิงก์ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MOSFET ของ Toshiba
MOSFET

ไปที่ลิงก์ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอโซลูชันของ Toshiba

การใช้งาน
เซิร์ฟเวอร์
เครื่องสำรองไฟ
ไฟ LED

หากต้องการตรวจสอบความพร้อมของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ โปรดไปที่:
TW015Z120C
ซื้อออนไลน์

TW030Z120C

ซื้อออนไลน์

TW045Z120C
ซื้อออนไลน์

TW060Z120C
ซื้อออนไลน์

TW140Z120C
ซื้อออนไลน์

TW015Z65C
ซื้อออนไลน์

TW027Z65C
ซื้อออนไลน์

TW048Z65C
ซื้อออนไลน์

TW083Z65C
ซื้อออนไลน์

TW107Z65C
ซื้อออนไลน์

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทที่เกี่ยวข้อง
* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาบริการ และข้อมูลการติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation เป็นซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และการจัดเก็บขั้นสูง ที่ประยุกต์ใช้ประสบการณ์กว่าครึ่งศตวรรษและนวัตกรรมในการนำเสนอผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์ชนิดแยกชิ้น ผลิตภัณฑ์ระบบ LSI และ HDD อันโดดเด่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ
พนักงานของบริษัท 21,500 คนทั่วโลกมีความมุ่งมั่นร่วมกันในการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุด และส่งเสริมการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในการสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ร่วมกัน Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation คาดหวังที่จะสร้างและมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีขึ้นเพื่อทุกคนทั่วโลก โดยมียอดขายต่อปีเกือบ 800 พันล้านเยน (6.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53546551/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

ช่องทางสอบถามสำหรับลูกค้า:
ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์ไฟฟ้า
โทร: +81-44-548-2216
ติดต่อเรา

ช่องทางสอบถามสำหรับสื่อ:
Chiaki Nagasawa
ฝ่ายการตลาดดิจิทัล
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

ที่มา: Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation


Travelshift ระดมทุนได้ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Logo

เรคยาวิก, ไอซ์แลนด์–(BUSINESS WIRE )–29 สิงหาคม 2023

Travelshift บริษัทตัวแทนการท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) ชั้นนำในไอซ์แลนด์ได้ระดมทุน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากผู้ถือหุ้นปัจจุบัน ทำให้ยอดระดมทุนทั้งหมดเป็น 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

David Byron Stewart, the CEO of Travelshift and former Head of Global Private Equity at State Street Global Advisors (Photo: Business Wire)

David Byron Stewart ซีอีโอของ Travelshift และอดีตหัวหน้าฝ่าย Global Private Equity ที่ State Street Global Advisors (รูปภาพ: Business Wire)

การจัดหาเงินทุนดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นจากนักลงทุนปัจจุบันของ Travelshift เกี่ยวกับแนวทางการเติบโตของบริษัทและศักยภาพในอนาคต Harshal Chaudhari ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ GE Investment Management Co. กล่าวว่า “เราภูมิใจที่ได้สนับสนุนการเดินทางอันน่าทึ่งของ Travelshift ต่อไป ความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของบริษัทในด้านนวัตกรรมและความพึงพอใจของลูกค้าถือเป็นเครื่องมือในความสำเร็จ และเราเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทที่จะพลิกโฉมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนต่อไป”

การระดมทุนรอบล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากการเปิดตัว Guide to Europe ล่าสุดของ Travelshift ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเดินทางที่ช่วยแก้ปัญหา Connected Trip (การจองทุกอย่างสำหรับการท่องเที่ยวผ่านออนไลน์) สำหรับตลาดการท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนในยุโรป บริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้ซึ่งขับเคลื่อนโดย AI ช่วยให้นักเดินทางสามารถจองทุกสิ่งที่ต้องการได้ในการชำระเงินครั้งเดียว และจัดการการเดินทางทั้งหมดได้ในแอปเดียว นอกจากนี้ยังช่วยให้นักเดินทางสามารถเข้าถึงแผนการเดินทางนับพันที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมด้วย AI โดยปัจจุบันกลายเป็นตัวเลือกแพ็กเกจวันหยุดที่ใหญ่ที่สุดในโลกในยุโรป

“เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้รับการสนับสนุนและความไว้วางใจอย่างต่อเนื่องจากผู้ถือหุ้นปัจจุบันของเรา” David Stewart ซีอีโอของ Travelshift กล่าว “การระดมทุนรอบนี้ช่วยให้เราสามารถเร่งความคิดริเริ่มเพื่อการเติบโตของเรา และดำเนินการสร้างการเดินทางที่ล้ำสมัยผ่านการใช้นวัตกรรมและการประยุกต์ใช้ AI ต่อไป เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ปรับแต่งให้เหมาะกับบุคคลและราบรื่น”

Travelshift ขอแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อทีมงานที่ทุ่มเท ลูกค้าประจำ และผู้ถือหุ้นที่แน่วแน่ที่ให้การสนับสนุนและความเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของบริษัทเสมอมา

เกี่ยวกับ Travelshift

Travelshift คือตัวแทนการท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) ชั้นนำของไอซ์แลนด์ที่เชี่ยวชาญด้านโซลูชันการเดินทางที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ด้วยประสบการณ์กว่าทศวรรษในอุตสาหกรรม Travelshift มุ่งมั่นที่จะปฏิวัติวิธีการเดินทางของผู้คน นำเสนอบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่และประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมแก่ลูกค้า

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53544826/en

ติดต่อ

สำหรับสื่อมวลชนหรือข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ
David Stewart
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
อีเมล: dave@travelshift.com
โทรศัพท์: +354 791 9394

ที่มา: Travelshift