Category Archives: Technology

Midea ประกาศผลประกอบการครึ่งปี 2565: มีการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่องและการเร่งผลกำไรในการเปลี่ยนแปลงที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี

Logo

ฝัวชาน ประเทศจีน–(BUSINESS WIRE)–31 ส.ค. 2565

Midea เผยแพร่รายงานทางการเงินสำหรับครึ่งแรกของปี 2565 โดยแสดงการเติบโตของรายรับครึ่งปีจาก 5.0% เป็น 183.7 พันล้านหยวน การเติบโตของกำไรสุทธินั้นเร็วกว่ารายได้ โดยเข้ามาที่ 16 พันล้านหยวนโดยเพิ่มขึ้น 6.6% เมื่อเทียบปีต่อปี

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220830006040/en/

Midea 2022 Semi-annual Results (Photo: Business Wire)

ผลประกอบการครึ่งปี 2565 ของ Midea (ภาพ: Business Wire)

โดยสร้างสมดุลในธุรกิจ ToB และ ToC รายได้ Midea Smart Home ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 มีมูลค่า 126.9 พันล้านหยวน  จากข้อมูลของ AVC ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในบ้านของ Midea อยู่ในอันดับที่ 1 ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ในด้านส่วนแบ่งการตลาดทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ในประเทศจากหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน 7 ประเภท รวมถึงเครื่องปรับอากาศและเตาอบไมโครเวฟ

เทคโนโลยีอุตสาหกรรมทำรายได้ 12.1 พันล้านหยวน โดยเติบโต 13.3% เมื่อเทียบปีต่อปี และตลาดคอมเพรสเซอร์สำหรับบ้านเรือนทั่วโลกของ Midea เพิ่มขึ้นเป็น 44% ซึ่งถือเป็นอันดับ 1 ของโลก ยอดขายต่อหน่วยของมอเตอร์สำหรับเครื่องปรับอากาศในที่พักอาศัยและเครื่องซักผ้าคิดเป็น 42% ของตัวเลขทั่วโลก

Building Technology เติบโต 33.1% คิดเป็น12.2 พันล้านหยวน  รายได้ AC เชิงพาณิชย์อยู่ในอันดับที่ 1 ท่ามกลางส่วนแบ่งการตลาดในประเทศ ในขณะที่มูลค่าการส่งออกปั๊มความร้อนของ Midea เติบโตขึ้นกว่า 200% เมื่อเทียบปีต่อปี โดยปริมาณการส่งออกอยู่ในอันดับที่ 1 ในอุตสาหกรรมปั๊มความร้อนของจีน

รายได้ในต่างประเทศของ Midea ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 อยู่ที่ 77.8 พันล้านหยวน โดยเพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบปีต่อปี  Midea ได้ขยายฐานการผลิตในอียิปต์และบราซิลให้ครอบคลุมตลาดท้องถิ่น ฐานการผลิตคอมเพรสเซอร์แอร์ของอินเดีย และรวมบริษัทคอมเพรสเซอร์ของไทยด้วย “การจัดหาจากจีนสำหรับโลก + ท้องถิ่น” ด้วยเครือข่ายการขายใหม่กว่า 20,000 เครือข่าย และการเปิดร้านขายตรงของ Midea ในบราซิลและฟิลิปปินส์ Midea ยังคงปรับปรุงช่องทางการจัดจำหน่ายในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

ด้วยความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่แน่วแน่ในฐานะกลยุทธ์ระยะยาว Midea ยังคงสร้างความสามารถด้านเทคนิคปัญญาประดิษฐ์ด้วยการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 คิดเป็นมูลค่า 5.9 พันล้านหยวน โดยมีการเติบโต 10.5% เมื่อเทียบปีต่อปี Midea เป็นเจ้าของศูนย์ R&D ทั่วโลก 35 แห่ง และมีสิทธิบัตรที่ได้รับอนุญาตมากกว่า 77,000 รายการจนถึงปัจจุบัน

โดยขับเคลื่อนโดยข้อมูล Midea loT มีอุปกรณ์และบริการที่เชื่อมต่อใหม่เกือบ 13 ล้านเครื่องสำหรับกว่า 70 ล้านครอบครัว

เกี่ยวกับ Midea Group

Midea Group ประกอบด้วย 5 เสาหลักของธุรกิจเชิงกลยุทธ์ ได้แก่ บ้านอัจฉริยะ เทคโนโลยีอุตสาหกรรม เทคโนโลยีการก่อสร้าง หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ และนวัตกรรมดิจิทัล Midea Group มีพนักงานมากกว่า 160,000 คนในกว่า 200 ประเทศและภูมิภาค และอยู่ในอันดับที่ 245 ในรายการ Global Fortune 500 ประจำปี 2565

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220830006040/ th/

ติดต่อ:

Lori Luo, luory17@midea.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

นอกเหนือจากการลดการปล่อยคาร์บอนในสายการผลิตพลังงานหมุนเวียนแล้ว eBook ของ Black & Veatch ยังกล่าวถึงว่าด้วยการ ลดการปล่อยคาร์บอนในช่วงเวลาที่เหมาะสมในภาคอุตสาหกรรมเหมืองแร่ของออสเตรเลีย

Logo

บริษัทผู้ให้บริการโซลูชั่นของงานระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานในระดับโลกได้เปิดเผยถึงโอกาสในการที่จะบรรลุเป้าหมายของการลดคาร์บอนแบบที่ใช้ต้นทุนต่ำสำหรับภาคอุตสาหกรรมหนักของออสเตรเลีย

เมลเบิร์น, ออสเตรเลีย–(BUSINESS WIRE)–01 ก.ย. 2565

การผสานรวมโซลูชันของงานระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานด้านพลังงาน น้ำ และเทคโนโลยีที่สำคัญอื่น ๆ จะทำให้อุตสาหกรรมเหมืองแร่ของออสเตรเลียมีโอกาสที่จะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกขั้นตอนของกระบวนการทำเหมือง

eBook เล่มใหม่ของ Black & Veatch ที่มีชื่อว่า Beyond Renewables: Impactful Decarbonisation of Australia’s Mining Sector  ได้เขียนถึงแนวทางใหม่ ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น และให้รายละเอียดของข้อมูลเกี่ยวกับการลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนในการทำเหมืองของออสเตรเลีย

eBook เล่มนี้ ได้เขียนถึง ว่าในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทเหมืองแร่ได้มีการพัฒนาที่ยั่งยืนของการขจัดคาร์บอน อย่างมาก

ใน eBook เล่มนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำและพลังงานของ Black & Veatch ได้เสนอแผนพัฒนาการกำจัดคาร์บอนที่ในแบบที่มีประสิทธิภาพในช่วงเวลา 30 ปี ซึ่งจะช่วยให้บริษัทเหมืองแร่มีความเข้าใจถึงการ จัดการกับงบประมาณที่จำกัด ไทม์ไลน์ของเทคโนโลยี และกฎระเบียบที่ซับซ้อน ซึ่งเป็นกรอบเวลาที่คล้ายกับของการลงทุนด้านระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่สำคัญอื่น ๆ

“แผนพัฒนาการลดคาร์บอนจำเป็นต้องมีการวางแผนในระยะยาวสิ่งสำคัญในขั้นตอนการวางแผนซึ่งครอบคลุมเวลาหลายทศวรรษ คือต้องหลีกเลี่ยงผลที่ตามมาของการติดอยู่ในเส้นทางที่ปราศจากทางเลือกอื่น ทั้งนี้ต้องอาศัยความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับความพร้อมของเทคโนโลยีและต้นทุน เราให้ความกระจ่างนี้ผ่านการปรับใช้เทคโนโลยีที่หลากหลาย ร่วมกับการประเมินความพร้อมของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่อย่างตรงไปตรงมา”” Mick Scrivens รองประธาน ผู้อำนวยการทวีปออสเตรเลียแปซิฟิกของ Black & Veatch กล่าว

แผนงานการลดการปล่อยคาร์บอนจะช่วยให้บริษัทเหมืองแร่ประเมินเทคโนโลยีที่พร้อมใช้ในเชิงพาณิชย์และเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ที่มีประสิทธิภาพ และนำเสนอเส้นทางที่ปราศจากความเสี่ยงในการปล่อยมลพิษให้เป็นศูนย์ แผนงานดังกล่าวแสดงให้นักลงทุนและชุมชนเห็นว่าผู้ดำเนินการขุดเหมืองแร่กำลังวิเคราะห์ความเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจและการดำเนินงานของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแต่ละรายการอย่างเป็นระบบตลอดระยะช่วงของการดำเนินงาน

eBook นี้ ยังครอบคลุมหัวข้ออื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น การผลิตไฮโดรเจนสีเขียว การจัดเก็บพลังงานในระยะยาว การใช้พลังงานไฟฟ้าของยานพาหนะและอุปกรณ์ การดักจับอากาศโดยตรง การรีไซเคิลน้ำที่ปล่อยคาร์บอนศูนย์ วัตถุระเบิดกับพลังงานนิวเคลียร์เครื่องปฏิกรณ์แบบแยกส่วนขนาดเล็กที่ปราศจากการปล่อยมลพิษ ตลอดจน โอกาสสร้างรายได้ในอนาคตจากการผลิตไฟฟ้าหลังปิดเหมือง

Scrivens ได้พูดเกี่ยวกับโอกาสของออสเตรเลียในการลดการปล่อยคาร์บอนที่งาน NT Resources Week ในเดือนสิงหาคม

หมายเหตุบรรณาธิการ:

  • ดาวน์โหลด eBook ชื่อ Beyond Renewables: Impactful Decarbonisation of Australia's Mining Sector ได้ฟรี ที่นี่
  • Black & Veatch ได้เข้าร่วม the Australian Hydrogen Council  (AHC) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเร่งการผลิตพลังงานที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ทั่วโลก และเร่งการพัฒนาเศรษฐกิจพลังงานไฮโดรเจนทั่วโลก นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นสมาชิกของสภาไฮโดรเจน Hydrogen Council, ศูนย์ความปลอดภัยของไฮโดรเจน Center for Hydrogen Safety, สมาคมเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนและพลังงาน สภาธุรกิจไฮโดรเจนแห่งแคลิฟอร์เนีย California Hydrogen Business Council และสมาคมพลังงานแอมโมเนีย Ammonia Energy Association
  • Black & Veatch ออกแบบ และสร้าง Electric Island ซึ่งเป็นสถานีชาร์จแบบสาธารณะความจุสูงแห่งแรก ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับยานพาหนะไฟฟ้าขนาดกลางและขนาดใหญ่ และเป็นแม่แบบสำหรับยานพาหนะและอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในพื้นที่เหมือง
  • BHP ว่าจ้าง Black & Veatch ให้ทำหน้าที่เป็นผู้ออกแบบและวิศวกรของโครงการขยายแหล่งน้ำ Escondida หรือ Escondida Water Supply Expansion (EWSE) ที่เหมือง Minera Escondida ในชิลี ซึ่งเป็นโครงการจัดหาเหมืองทองแดงที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยน้ำกลั่น 100 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำใต้ดิน

เกี่ยวกับ Black & Veatch

Black & Veatch เป็นบริษัทด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ ที่ปรึกษา และการก่อสร้างระดับโลกที่มีพนักงานเป็นเจ้าของ 100 เปอร์เซ็นต์ ด้วยผลงานด้านนวัตกรรมในโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนมากกว่า 100 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2458 เราได้ช่วยลูกค้าของเราพัฒนาชีวิตของผู้คนทั่วโลกโดยยืนหยัดต่อสู้และสร้างความเชื่อมั่นในสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของเรา รายได้ของเราในปี 2564 มีมูลค่าเกิน 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดตามเราได้ที่ www.bv.com และบนโซเชียลมีเดีย

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220822005329/en/

ติดต่อ:

EMILY CHIA | +65 6335 6623 P | +65 9875 8907 M | Chialp@bv.com

24-HOUR MEDIA HOTLINE | +1 855-999-5991

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Toshiba เปิดตัวโฟโตคัปเปลอร์ตัวขับเกตอัจฉริยะที่ช่วยให้การออกแบบวงจรต่อพ่วงสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าง่ายขึ้น

Logo

คาวาซากิ, ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–31 สิงหาคม 2565

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) ได้ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์โฟโตคัปเปลอร์ของตัวขับเกตอัจฉริยะ ซึ่งเป็นตัวขับเกตแยกที่สามารถป้องกันกระแสไฟฟ้าที่สูงเกินสำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น MOSFET หรือ IGBT อุปกรณ์ใหม่อย่าง “TLP5222” ซึ่งเป็นโฟโตคัปเปลอร์สำหรับตัวขับเกตอัจฉริยะ เอาท์พุตขนาด 2.5A มาพร้อมกับฟังก์ชันการกู้คืนอัตโนมัติในตัวจากระบบการป้องกัน โดยสินค้าเริ่มส่งออกสู่ตลาดแล้ววันนี้

เอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220830005390/en/

Toshiba: a 2.5A output smart gate driver photocoupler

Toshiba: โฟโตคัปเปลอร์สำหรับตัวขับเกตอัจฉริยะเอาท์พุตขนาด 2.5A รุ่น “TLP5222” ที่มีฟังก์ชันการกู้คืนอัตโนมัติในตัวจากระบบการป้องกัน (กราฟิก: Business Wire)

TLP5222 จะตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าขาเดรนและขาซอร์ส (VDS)[1] หรือแรงดันสูงสุดที่ทนได้ (VCE)[2] ของอุปกรณ์จ่ายไฟที่ใช้งาน การตรวจจับกระแสไฟที่สูงเกินในตัวและฟังก์ชันป้องกันจะตรวจจับการเพิ่มขึ้นของ VDS หรือ VCE อันเป็นผลมาจากกระแสไฟเกินที่เกิดขึ้นในอุปกรณ์จ่ายไฟ และช่วยปิดเครื่องอย่างนุ่มนวล

โฟโตคัปเปลอร์ใหม่ยังมีฟังก์ชันการกู้คืนอัตโนมัติในตัว ซึ่งจะรีเซ็ตอุปกรณ์ให้กลับมาทำงานปกติ 25.5μs (ทั่วไป) หลังจากเปิดใช้งานระบบป้องกัน  ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในการตั้งค่าลำดับในคอนโทรลเลอร์ นอกจากนี้ยังรวมเอาฟังก์ชันรายงานสถานะ FAULT แบบแยกออกมา ซึ่งจะส่งสัญญาณความผิดปกติไปยังตัวควบคุมเมื่อตรวจพบกระแสไฟเกิน และฟังก์ชัน active Miller clamp ซึ่งป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ไฟฟ้าบนและล่างลัดวงจร[3] ช่วยลดความซับซ้อนในการออกแบบและลดวงจรจากภายนอก

TLP5222 บรรจุอยู่ในแพ็คเกจ SO16L ที่รับประกันระยะห่างระหว่างผิวฉนวนและระยะปล่อยผ่าน 8 มม. (นาที) ผลิตภัณฑ์นี้ยังสามารถใช้ในอุปกรณ์ที่ต้องการประสิทธิภาพของฉนวนสูงอีกด้วย นอกจากนี้ ด้วยช่วงอุณหภูมิการทำงานที่กว้างระหว่าง -40 องศา ถึง 110 องศา จึงเหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลายในสภาพแวดล้อมที่ร้อนจัด เช่น ระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์และแหล่งจ่ายไฟสำรอง (UPS) 

กลุ่มผลิตภัณฑ์ยังประกอบด้วย TLP5212, TLP5214A และ TLP5214 ซึ่งไม่มีฟังก์ชันการกู้คืนอัตโนมัติในตัว แต่จะรีเซ็ตให้กลับมาทำงานปกติโดยอินพุตสัญญาณไปยัง LED ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพการใช้งานได้

หมายเหตุ:
[1] สำหรับ MOSFET กำลัง
[2] สำหรับ IGBT
[3] หากเกิดเหตุการณ์ที่กระแสไฟฟ้ามิลเลอร์ไม่ทำงานระหว่างการสลับจะทำให้เกิดเสียงรบกวนหรือความผิดปกติของอุปกรณ์จ่ายไฟที่จ่ายให้อุปกรณ์ไฟฟ้าบนหรือล่าง

การใช้งาน

  • ตัวขับเกต MOSFET/IGBT
  • อินเวอร์เตอร์อุตสาหกรรมและ AC Servos
  • อินเวอร์เตอร์สำหรับพลังงานหมุนเวียน (อินเวอร์เตอร์ไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ (PV) และอื่น ๆ)
  • อุปกรณ์จ่ายไฟแบบสวิตชิ่ง (UPS เป็นต้น)

คุณสมบัติ

  • ฟังก์ชันการกู้คืนอัตโนมัติในตัวจากระบบการป้องกัน
  • อัตรากระแสไฟขาออกสูงสุด: IOPH/IOPL=±2.5A
  • ฟังก์ชันการป้องกันในตัว เช่น การตรวจจับกระแสไฟฟ้าเกิน การตอบกลับสถานะความผิดปกติแบบแยกส่วน และ active Miller clamp
  • แพ็คเกจ SO16L ที่มีระยะห่างระหว่างผิวฉนวนและระยะปล่อยผ่าน 8 มม. (นาที)

คุณสมบัติหลักจำเพาะ

(@Ta=-40°C to 110°C เว้นแต่ระบุไว้เป็นอย่างอื่น)

หมายเลขชิ้นส่วน

TLP5222

แพ็คเกจ

ชื่อสินค้า

SO16L

ขนาด (มม.)

10.3 x 10 (ทั่วไป)

t: 2.3 (สูงสุด)

ระดับสูงสุด

อุณหภูมิการทำงาน Topr (°C)

-40 ถึง 110

กระแสเอ้าท์พุตสูงสุด IOPH/IOPL (A)

±2.5

การตั้งค่าใช้งานที่แนะนำ

แรงดันฝั่งเอ้าท์พุตทั้งหมด (VCC2−VEE) (V)

15 ถึง 30

แรงดันจ่ายไฟฟ้าไอซีรายงานข้อผิดพลาด VCC1 (V)

2.7 ถึง 5.5

ลักษณะจำเพาะทางไฟฟ้า

กระแสไฟฟ้าจากแหล่งจ่าย ICC2H, ICC2L max (mA)

5

กระแสไฟฟ้าอินพุตเทรชโฮลด์ (L/H) IFLH max (mA)

6.0

แรงดันเทรชโฮลด์ DESAT VDESAT typ. (V)

6.6

ลักษณะจำเพาะสวิตชิ่ง

เวลาในการหน่วง tpHL, tpLH max (ns)

250

เวลาปิดเสียงอินพุต DESAT tDESAT(MUTE) typ. (μs)

25.5

ภูมิคุ้มกันชั่วคราวในโหมดธรรมดา

CMH, CML min (kV/μs)

@Ta=25°C, CF=Open

±25

@Ta=25°C, CF=1nF

±50

ลักษณะจำเพาะ Isolation

แรงดัน Isolation BVS min (Vrms)

@Ta=25°C

5000

ดูตัวอย่างและความพร้อมในการจำหน่าย

ซื้อออนไลน์

คลิกลิงก์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่
TLP5222

คลิกลิงก์ด้านล่างสำหรับการใช้งานโฟโตคัปเปลอร์ตัวขับเกตอัจฉริยะของ Toshiba
Smart Gate Driver Photocoupler TLP5214A/TLP5214/TLP5212/TLP5222 Application Note -Introduction
Smart Gate Driver Photocoupler TLP5214A/TLP5214/TLP5212/TLP5222 Application Note -Advanced edition-

คลิกลิงก์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวแยก/โซลิดสเตตรีเลย์ของ Toshiba
Isolators/Solid State Relays

ตรวจสอบความพร้อมของการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ได้ที่:
TLP5222
ซื้อออนไลน์

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทที่เกี่ยวข้อง
* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์เนื้อหาของบริการและข้อมูลการติดต่อเป็นปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ระดับแถวหน้าผู้จัดหาโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และการจัดเก็บที่มีความก้าวล้ำ รวบรวมประสบการณ์และนวัตกรรมที่สะสมมากว่าครึ่งศตวรรษ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์ ระบบ LSIs และ HDD อันโดดเด่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจของเรา
พนักงานทั้ง 23,000 คนจากทั่วโลกของ TDSC มุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ของเราให้ถึงระดับสูงสุด และให้ความสำคัญกับการทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า เพื่อส่งเสริมการสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ ๆ ร่วมกัน ด้วยยอดขายต่อปีที่สูงกว่า 8.5 แสนล้านเยน (7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในขณะนี้ TDSC หวังที่จะได้มีส่วนสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับผู้คนทั่วโลก
ดูเพิ่มเติมที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220830005390/en/

ติดต่อ:

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับลูกค้า:
ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์ออปโตอิเล็กทรอนิกส์
โทร: +81-44-548-2218
ติดต่อเรา

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อ:
Chiaki Nagasawa
ฝ่ายการตลาดดิจิทัล
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
เมล: semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

โตชิบาเปิดตัว SiC MOSFET รุ่นที่ 3 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่อุปกรณ์อุตสาหกรรม

Logo

– กลุ่มผลิตภัณฑ์ประกอบด้วยขนาด 1200 โวลต์ และ 650 โวลต์ –

คาวาซากิ ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–30 สิงหาคม 2565

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“โตชิบา”) ได้เปิดตัวอุปกรณ์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ในซีรีส์ “TWxxNxxxC” อย่าง MOSFET ซิลิคอนคาร์ไบด์ (SiC) รุ่นที่ 3[1] [2] ที่ให้ค่าความต้านทานไฟฟ้าต่ำและลดสูญเสียเนื่องจากการเปลี่ยนสถานะได้อย่างมาก ผลิตภัณฑ์รุ่นนี้มี 10 รายการ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ 1200 โวลต์จำนวน 5 รายการ และ 650 โวลต์ จำนวน 5 รายการ โดยออกสู่ตลาดแล้ววันนี้

เอกสารประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220829005265/en/

Toshiba: 3rd generation SiC MOSFETs

โตชิบา: SiC MOSFET รุ่นที่ 3 “ซีรี่ส์ TWxxxNxxxC” (กราฟิก: Business Wire)

ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ช่วยลดความต้านทานต่อหน่วยพื้นที่ (RDS(ON)A) ลงประมาณ 43%[3] ทำให้เกิดความต้านทานไฟฟ้าของขาเดรนกับซอร์ส * ลักษณะการชาร์ของขาเกตและเดรน (RDS(ON)*Qgd) ซึ่งเป็นดัชนีสำคัญที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างการสูญเสียการนำไฟฟ้าและการสูญเสียเนื่องจากการเปลี่ยนสถานะ ซึ่งจะลดลงประมาณ 80%[4]

ผลิตภัณฑ์นี้ช่วยลดการสูญเสียเนื่องจากการเปลี่ยนสถานะ 20%[5] และลดทั้งความต้านทานไฟฟ้าและการสูญเสียเนื่องจากการเปลี่ยนสถานะ รวมทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่อุปกรณ์มากขึ้น

โตชิบาจะยังคงขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ไฟฟ้าและปรับปรุงโรงงานผลิต และตั้งเป้าสร้างเศรษฐกิจที่ปราศจากก๊าซคาร์บอนโดยการจัดหาอุปกรณ์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงที่ใช้งานง่าย

หมายเหตุ:

[1] โตชิบาได้พัฒนาโครงสร้างอุปกรณ์ที่ลดความต้านทานไฟฟ้าต่อหน่วยพื้นที่ (RDS(ON)A) โดยใช้โครงสร้างที่มีไดโอดกั้น schottky ในตัวที่พัฒนาขึ้นสำหรับ SiC MOSFET รุ่นที่ 2 และยังลดความจุป้อนกลับในบริเวณทรานซิสเตอร์ฟิลด์เอฟเฟกต์ทางแยก

[2] MOSFET คือ ทรานซิสเตอร์แบบ field-effect ของเซมิคอนดักเตอร์เมทัลออกไซด์

[3] จากการสำรวจของโตชิบา เปรียบเทียบ SiC MOSFET ขนาด 1200 โวลต์ใหม่กับ SiC MOSFET รุ่นที่ 2 เมื่อตั้งค่า RDS(ON)A เป็น 1

[4] จากการสำรวจของโตชิบา เปรียบเทียบ SiC MOSFET ขนาด 1200 โวลต์ใหม่กับ SiC MOSFET รุ่นที่ 2 เมื่อตั้งค่า RDS(ON)*Qgd เป็น 1

[5] จากการสำรวจของโตชิบา เปรียบเทียบ SiC MOSFET ขนาด 1200 โวลต์ใหม่กับ SiC MOSFET รุ่นที่ 2

การใช้งาน
・สวิตช์จ่ายไฟ (เซิร์ฟเวอร์ ศูนย์ข้อมูล อุปกรณ์สื่อสาร ฯลฯ)
・สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
・อินเวอร์เตอร์ไฟฟ้าโซลาร์เซลล์
・เครื่องสำรองไฟ (UPS)

คุณสมบัติ
・ความต้านทานต่ำต่อหน่วยพื้นที่ (RDS(ON)A)
・ความต้านทานไฟฟ้าของขาเดรนกับซอร์ส * ลักษณะการชาร์ของขาเกตและเดรนต่ำ(RDS(ON)*Qgd)
・แรงดันของไดโอดต่ำ: VDSF= -1.35V (typ.) @VGS= -5V

ลักษณะจำเพาะหลัก

(@Ta=25°C เว้นแต่ระบุไว้เป็นอย่างอื่น)

รหัสสินค้า

แพ็คเกจ

ระดับสูงสุด

ลักษณะจำเพาะทางไฟฟ้า

ดูตัวอย่างสินค้า

&

การวางจำหน่าย

แรงดันไฟฟ้าขาเดรน

VDSS

(V)

แรงดันไฟฟ้าขาเกต

VGSS

(V)

กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่าน

(DC)

ID

(A)

แรงดันไฟฟ้าขาเดรนกับซอร์ส

RDS(ON)

typ.

(mΩ)

แรงดันไฟฟ้า เกตเทรชโฮลด์

Vth

(V)

การชาร์จขาเกตทั้งหมด

Qg

typ.

(nC)

การชาร์จขาเกตกับเดรน

Qgd

typ.

(nC)

ค่าความจุไฟฟ้าทางอินพุต

Ciss

typ.

(pF)

แรงดันของไดโอด

VDSF

typ.

(V)

@Tc=25°C

@VGS=18V

@VDS=10V

@VDS=400V,

f=100kHz

@VGS= -5V

TW015N120C

TO-247

1200

-10 to 25

100

15

3.0 to 5.0

158

23

6000

-1.35

ซื้อออนไลน์

TW030N120C

60

30

82

13

2925

ซื้อออนไลน์

TW045N120C

40

45

57

8.9

1969

ซื้อออนไลน์

TW060N120C

36

60

46

7.8

1530

ซื้อออนไลน์

TW140N120C

20

140

24

4.2

691

ซื้อออนไลน์

TW015N65C

650

100

15

128

19

4850

ซื้อออนไลน์

TW027N65C

58

27

65

10

2288

ซื้อออนไลน์

TW048N65C

40

48

41

6.2

1362

ซื้อออนไลน์

TW083N65C

30

83

28

3.9

873

ซื้อออนไลน์

TW107N65C

20

107

21

2.3

600

ซื้อออนไลน์

คลิกลิงก์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ตัวใหม่
ผลิตภัณฑ์ 1200 โวลต์
TW015N120C
TW030N120C
TW045N120C
TW060N120C
TW140N120C

ผลิตภัณฑ์ 650 โวลต์
TW015N65C
TW027N65C
TW048N65C
TW083N65C
TW107N65C

ติดตามลิงก์ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SiC MOSFET ของโตชิบา

SiC Power Devices
SiC MOSFETs

ตรวจสอบการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ โดยเข้าไปที่:

ผลิตภัณฑ์ 1200 โวลต์

TW015N120C
ซื้อออนไลน์

TW030N120C
ซื้อออนไลน์

TW045N120C
ซื้อออนไลน์

TW060N120C
ซื้อออนไลน์

TW140N120C
ซื้อออนไลน์

ผลิตภัณฑ์ 650 โวลต์

TW015N65C
ซื้อออนไลน์

TW027N65C
ซื้อออนไลน์

TW048N65C
ซื้อออนไลน์

TW083N65C
ซื้อออนไลน์

TW107N65C
ซื้อออนไลน์

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทที่เกี่ยวข้อง
* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์เนื้อหาของบริการและข้อมูลการติดต่อเป็นปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ระดับแถวหน้าผู้จัดหาโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และการจัดเก็บที่มีความก้าวล้ำ รวบรวมประสบการณ์และนวัตกรรมที่สะสมมากว่าครึ่งศตวรรษ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์ ระบบ LSIs และ HDD อันโดดเด่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจของเรา

พนักงานทั้ง 23,000 คนจากทั่วโลกของ TDSC มุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ของเราให้ถึงระดับสูงสุด และให้ความสำคัญกับการทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า เพื่อส่งเสริมการสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ ๆ ร่วมกัน ด้วยยอดขายต่อปีที่สูงกว่า 8.5 แสนล้านเยน (7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในขณะนี้ TDSC หวังที่จะได้มีส่วนสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับผู้คนทั่วโลก

ดูเพิ่มเติมที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

ดูเนื้อหาต้นฉบับ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220829005265/en/

ติดต่อ:

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับลูกค้า:

ฝ่ายการตลาดและฝ่ายขายอุปกรณ์กำลัง

โทร: +81-44-548-2216
ติดต่อเรา

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อ:

Chiaki Nagasawa

ฝ่ายการตลาดดิจิทัล

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

เมล: semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

โมดูล 5G R16 แบนด์วิดท์สูงพิเศษของ Quectel ได้รับการรับรองว่าใช้กับเครือข่าย 5G และ LTE-A ของ T-Mobile ได้

Logo

แวนคูเวอร์, บริติชโคลัมเบีย–(BUSINESS WIRE)–29 ส.ค. 2565

Quectel Wireless Solutions ผู้ให้บริการโซลูชัน IoT ระดับโลก ประกาศว่าโมดูล 5G NR  RM520N-GL ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน 3GPP Release 16 (R16) ได้รับการรับรองว่าสามารถทำงานบนเครือข่าย 5G และ LTE-A ของ T-Mobile ในสหรัฐอเมริกาได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหาเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220829005280/en/

Quectel's 5G module RM520N-GL and its IoT application scenarios (Photo: Business Wire)

โมดูล 5G ของ Quectel RM520N-GL และการใช้งาน IoT รูปแบบต่าง ๆ (รูปภาพ: Business Wire)

ด้วยการรับรองครั้งนี้ ลูกค้า RM520N-GL สามารถติดตั้งเกตเวย์ที่บ้าน เราเตอร์อุตสาหกรรม อุปกรณ์อัตโนมัติทางอุตสาหกรรม ยานพาหนะไร้คนขับ หุ่นยนต์ โดรน แล็ปท็อปสำหรับผู้บริโภคและอุตสาหกรรม และแอปพลิเคชัน IoT รุ่นต่อไปอื่น ๆ บนเครือข่าย 5G และ LTE-A ของ T-Mobile

Norbert Muhrer ประธานและ CSO ของ Quectel กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นว่า Quectel มีความก้าวหน้าอย่างมากใน 5G โดยโมดูลของเราที่รองรับคุณสมบัติ 5G R16 ได้รับการรับรองสำคัญในตลาดอเมริกาเหนือ “สิ่งนี้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเราในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและมอบโซลูชัน IoT ที่น่าเชื่อถือและในระดับที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าทั่วโลก ซึ่งจะช่วยขับเร่งคลื่นลูกต่อไปของแอปพลิเคชัน 5G IoT”

RM520N-GL ซึ่งอิงแพลตฟอร์ม SDX62 ของ Qualcomm รองรับทั้งโหมด 5G NSA และ SA รวมถึงคุณสมบัติ R16 ที่ได้รับการปรับปรุง เช่น แบนด์วิดธ์ระดับสูงพิเศษ เวลาแฝงระดับมิลลิวินาที การแบ่งส่วนเครือข่าย 5G และความน่าเชื่อถือในการใช้งานในระดับพิเศษ

โมดูลนี้มุ่งเป้าไปที่ตลาดโลก โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับ 28 ย่านความถี่ย่อย 6GHz หลักทั่วโลก (n1/ 2/3/ 5/ 7/8/12/ 13/ 14/ 18/ 20/25/ 26/ 28/ 29/ 30/ 38/ 40/41/ 48/ 66/ 70/ 71/ 75/ 76/ 77/ 78/ 79) เข้ากันได้กับเครือข่าย LTE-A/3G และฟีเจอร์ GNSS ในตัวสำหรับบริการระบุตำแหน่ง โมดูลที่มีการบูรณาการอย่างสูงโมดูลนี้ สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการปรับใช้ IoT ทั่วโลกของลูกค้าได้อย่างมาก

การออกแบบในฟอร์มแฟกเตอร์ M.2 ที่เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรม ขนาดของ RM520N-GL คือ 30.0 มม. x 52.0 มม. x 2.3 มม. ทำให้เข้ากันได้กับโมดูล 5G ของ Quectel ซีรีส์ RM50xQ, โมดูล LTE-A Cat 6 EM06/ EM060K ซีรีส์, Cat 12 โมดูล EM12/ EM12xR/ EM120K ซีรีส์ และ Cat 16 โมดูล EM160R-GL ซึ่งอำนวยความสะดวกในการอัพเกรดเครือข่ายของอุปกรณ์ของลูกค้าให้เป็นไปได้โดยง่าย

RM520N-GL รองรับดาวน์ลิงค์และอัปลิงค์ NR 2 x Carrier Aggregation (CA) และสามการรวมกันของ sub-6GHz time division duplex (TDD) และ frequency division duplex (FDD) CA รวมถึง CA ของ FDD+TDD, FDD+FDD และ TDD+TDD. สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ถึงความครอบคลุม ความจุ และปริมาณงาน 5G ที่รองรับมากขึ้นโดยการเริ่มใช้งานการรวมสินทรัพย์สเปกตรัม 5G ที่พร้อมใช้งาน คุณลักษณะเหล่านี้ช่วยให้ RM520N-GL มีอัตราดาวน์ลิงก์สูงสุด 3.4Gbps และอัตราอัปลิงก์สูงสุดที่ 900Mbps อัตราข้อมูลเหล่านี้ตอบสนองความต้องการของแอปพลิเคชันในอุตสาหกรรมที่ต้องการโมบายบรอดแบนด์ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นและความสามารถในการสื่อสารที่เชื่อถือได้มากขึ้น เช่น การเข้าถึงแบบ  fixed wireless access  (FWA) อุปกรณ์บรอดแบนด์มือถือ และระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรม

ด้วยชุดโปรโตคอลอินเทอร์เน็ตที่หลากหลาย RM520N-GL รองรับฟังก์ชั่นเสริมมากมาย รวมถึง eSIM และ VoLTE และบูรณาการอินเทอร์เฟซความเร็วสูง USB 3.1/ PCIe 3.0

นอกเหนือจากการอนุมัติ T-Mobile แล้ว RM520N-GL ของ Quectel ยังได้รับการรับรองทั่วโลกจาก GCF, PTCRB, CE, CCC, RCM, FCC และ IC อีกด้วย

เพื่อช่วยให้ลูกค้าออกแบบได้ง่ายขึ้น Quectel ยังมีเสาอากาศ 5G แบบออฟไลน์และแบบที่ปรับแต่งเองได้เต็มรูปแบบ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อไร้สายได้อย่างมาก นักพัฒนา IoT สามารถรวมโมดูล RM520N-GL เข้ากับเสาอากาศและบริการรับรองล่วงหน้าของ Quectel ซึ่งช่วยลดต้นทุนและเวลาในการออกสู่ตลาดสำหรับอุปกรณ์ 5G ของพวกเขา

เกี่ยวกับ Quectel

ความหลงใหลในโลกที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้นของ Quectel ผลักดันให้เราเร่งสร้างนวัตกรรม IoT ในฐานะองค์กรที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เราเป็นผู้ให้บริการโซลูชัน IoT ระดับโลกที่มีทีมงานสนับสนุนและบริการที่โดดเด่น ทีมงานระดับโลกที่กำลังเติบโตของเราซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญกว่า 4,000 คนเป็นผู้ทำฝห้เราเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในโมดูลเซลลูลาร์, GNSS, Wi-Fi และ Bluetooth®, โมดูล, เสาอากาศ และ การเชื่อมต่อแบบ IoT  ด้วยสำนักงานระดับภูมิภาคและการสนับสนุนทั่วโลก ความเป็นผู้นำระดับนานาชาติของเรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา IoT และช่วยสร้างโลกที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมไปที่: www.Quectel.com, LinkedIn, Facebook, และ Twitter.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220829005280/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ

Ashley Liu – media@quectel.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

World Smart City Expo 2022: สัมผัสปัจจุบันและอนาคตแห่งเมืองอัจฉริยะ

Logo

โซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–26 สิงหาคม 2565

งาน World Smart City Expo 2022 ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม ถึง 2 กันยายน นี้ พร้อมเมืองและธุรกิจต่าง ๆ  300 ราย จาก 20 ประเทศเข้าร่วม ณ​ KINTEX 1 เมืองโกยาง ประเทศเกาหลีใต้

งาน World Smart City Expo 2022 (WSCE 2022) ที่จะจัดขึ้นภายใต้สโลแกน “Digital Earth, Connecting Together” นี้จะพาไปสำรวจธีมหลักในเรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutrality) การสัญจรอย่างยั่งยืน (sustainable mobility) และการฟื้นคืนสภาพของเมือง (urban resilience)

โซนจัดแสดง 6 ธีมนั้นประกอบด้วย โซนเมืองแห่งอนาคต โซนการฟื้นคืนสภาพของเมือง โซนความเป็นกลางทางคาร์บอน และโซนการสัญจรอย่างยั่งยืน

สำหรับที่บริเวณซุ้มเมืองอัจฉริยะต้นแบบแห่งชาติ ผู้เยี่ยมชมงานจะได้พบกับเทคโนโลยีสุดล้ำที่จะถูกปล่อยออกมาให้ใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจากนั้น ผู้เยี่ยมชมงานยังจะได้สัมผัสกับบริการอัจฉริยะรวมถึงผลิตภัณฑ์จากเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก

คุณ Jason Schenker ผู้ซึ่ง Bloomberg News ยกให้เป็นนักพยากรณ์อันดับ 1 ของโลก จะมาเป็นวิทยากรในการบรรยายพิเศษหัวข้อ “บทบาทของเมืองอัจฉริยะและทิศทางสำหรับยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลครั้งใหญ่” พร้อมด้วยคุณ Won-jae Lee รองรัฐมนตรีอันดับที่ 1 ของกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และการขนส่ง หลังจบการบรรยายพิเศษของรองรัฐมนตรีในหัวข้อเทคโนโลยีแห่งอนาคตและเมืองอัจฉริยะ

ขณะที่จะมีการจัดประชุมในหัวข้อต่าง ๆ 18 หัวข้อ ครอบคลุมการพูดคุยในหัวข้อใหม่ล่าสุดเกี่ยวกับเมือง เช่น การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล เมตาเวิร์ส การจัดการ ESG พลังงานสีเขียว และห้องปฏิบัติการชีวิต (living labs) พร้อมผู้เข้าร่วมจากอุตสาหกรรมชั้นนำ แวดวงวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญงานวิจัยจากทั่วโลก

คุณ Chris Sheldrick ผู้ก่อตั้ง What3Words ที่คิดระบบการตั้งชื่อที่อยู่ด้วยคำสามคำ และศาสตราจารย์ Alex Edmans แห่ง London Business School ผู้ตอกย้ำถึงการสร้างประโยชน์ต่อสังคมขององค์กรในงานประชุมของสภาเศรษฐกิจโลก ณ เมืองดาวอส จะมาร่วมแชร์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับปัญหาของเมืองและทิศทางในอนาคตของเมืองอัจฉริยะด้วย

ทั้งนี้ WSCE Awards ได้เลือกบริษัทและเมืองสุดล้ำที่ได้มีส่วนร่วมให้เกิดความก้าวหน้าในการสร้างเมืองอัจฉริยะ โดยผู้ชนะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ซึ่งประกอบด้วยการจัดแสดงผลงาน การสัมภาษณ์บน WSCE ON-AIR และการได้รับเชิญเข้าร่วมงาน 'WSCE Networking Night'

คุณสามารถรับชมการสัมภาษณ์ของบริษัทที่เข้าร่วมและวิทยากร รวมถึงวิดีโอสถานที่จัดนิทรรศการได้ที่เว็บไซต์ทางการของ WSCE (https://www.worldsmartcityexpo.com)

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220825005746/en/

ติดต่อ:

สำหรับ World Smart City Expo 2022 
PR House Co., Ltd. 
Celine Yang 
+82 70 4278 1935

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Toshiba เปิดตัว Stepping Motor Driver IC ที่ช่วยประหยัดพื้นที่บนแผงวงจร

Logo

คาวาซากิ ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–25 ส.ค. 2565

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“โตชิบา”) ได้ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์stepping motor driver IC ด้วยการเปิดตัว “TB67S549FTG” ซึ่งเป็น stepping motor driver IC ที่อยู่ในแพ็คเกจขนาดเล็กพร้อมการควบคุมกระแสคงที่ในตัวที่ไม่จำเป็นต้องใช้ส่วนประกอบวงจรภายนอก ไดรเวอร์ใหม่ช่วยประหยัดพื้นที่บนแผงวงจรและเหมาะสำหรับอุปกรณ์อุตสาหกรรม เช่น ระบบอัตโนมัติในสำนักงานและอุปกรณ์ทางการเงิน เริ่มจัดส่งได้แล้ววันนี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220824005284/en/

Toshiba:

โตชิบา: “TB67S549FTG” stepping motor driver IC ที่อยู่ในแพ็คเกจ QFN24 ขนาดเล็ก (กราฟิก: Business Wire)

TB67S549FTG ใช้ DMOS FET ของโตชิบา[1] สำหรับทรานซิสเตอร์กำลังเอาท์พุต และมีอัตราแรงดันไฟฟ้าเอาท์พุตของมอเตอร์ที่ 40V และอัตรากระแสไฟเอาท์พุตของมอเตอร์ที่ 1.5A[2] การใช้แพ็คเกจ QFN24 จะลดพื้นที่การติดตั้งลงเหลือประมาณ 64% ของแพ็คเกจ QFN32 ที่ใช้สำหรับผลิตภัณฑ์ปัจจุบันของโตชิบา TB67S539FTG ช่วยประหยัดพื้นที่บนแผงวงจร

นอกจากนี้ ไดรเวอร์ใหม่ยังรวมส่วนตรวจจับกระแสไฟสำหรับการควบคุมมอเตอร์กระแสไฟคงที่ และไม่ต้องมีตัวเก็บประจุภายนอกสำหรับวงจรปั๊มประจุ ซึ่งจะช่วยลดส่วนประกอบวงจรภายนอกและจะช่วยประหยัดพื้นที่บนแผงวงจร

TB67S549FTG รองรับแรงดันไฟฟ้าของแหล่งจ่ายไฟมอเตอร์ตั้งแต่ 4.5V ถึง 33V และมีการใช้กระแสไฟสูงถึง 1μA ใน sleep mode ทำให้ใช้งานได้อย่างกว้างขวางสำหรับแหล่งจ่ายไฟ 12V/24V

โตชิบาจะยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อการใช้งานที่หลากหลาย และนำเสนอโซลูชั่นแบบครบวงจรที่ช่วยให้การออกแบบของผู้ใช้ง่ายขึ้น ลดพื้นที่บอร์ด และลดต้นทุนโดยรวม

หมายเหตุ:

[1] MOSFET แบบกระจายสองเท่า

[2] กระแสจริงที่สามารถขับเคลื่อนมอเตอร์ได้นั้นถูกจำกัดด้วยอุณหภูมิแวดล้อม แรงดันไฟฟ้าของแหล่งจ่ายไฟ และสภาวะการทำงานอื่นๆ

การใช้งาน

  • เครื่องพิมพ์
  • เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่น (MFP)
  • ATM อัตโนมัติ
  • เครื่องแลกเงิน
  • กล้องวงจรปิด
  • โปรเจ็กเตอร์

คุณสมบัติ

  • แพ็คเกจ QFN24 ขนาดเล็ก: 4.0 มม. × 4.0 มม. (ทั่วไป)
  • ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวต้านทานการตรวจจับกระแสภายนอกสำหรับการควบคุมมอเตอร์กระแสไฟคงที่
  • ไม่ต้องการตัวเก็บประจุภายนอกสำหรับวงจรปั๊มชาร์จ
  • ใช้พลังงานต่ำใน sleep mode: IM1=1μA (สูงสุด)

ข้อมูลจำเพาะหลัก

(เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น @Ta=25°C)

หมายเลขชิ้นส่วน

TB67S549FTG

ช่วงการทำงาน

แหล่งจ่ายไฟของมอเตอร์ VM (V)

@Ta=-20

ถึง 85°C

4.5 ถึง 33

ค่าสูงสุด

แรงดันไฟขาออกของมอเตอร์ VOUT (V)

40

กระแสไฟขาออกของมอเตอร์ IOUT (A)

1.5

รองรับมอเตอร์

สเต็ปปิ้งแบบไบโพลา

เอาท์พุตทรานซิสเตอร์ระหว่าง drain และ source On resistance (บน + ล่าง)

RON(D-S) typ. (Ω)

M=,

j=25°C,

IOUT=2.0A

1.2

การใช้งาน IM1 max (μA)

@Sleep mode

1

ฟังก์ชันความปลอดภัย

การตรวจจับกระแสไฟเกิน การปิดเครื่องตามอุณหภูมิ การล็อกเอาท์กระแสไฟ

แพคเกจ

ชื่อ

QFN24

ขนาด (มม.)

4.0×4.0

เช็คตัวอย่างและการจัดจำหน่าย

ซื้อออนไลน์

ตามลิงค์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่
TB67S549FTG

ตามลิงค์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ IC สเต็ปปิ้งมอเตอร์ของโตชิบา
Stepping Motor Driver ICs

หากต้องการตรวจสอบความพร้อมใช้งานของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ โปรดไปที่: TB67S549FTG

ซื้อออนไลน์

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทที่เกี่ยวข้อง

* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมทั้งราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และการจัดเก็บข้อมูลระดับสูง ใช้ประสบการณ์และนวัตกรรมกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์แบบแยกอิสระ ระบบ LSI และผลิตภัณฑ์ HDD ให้กับลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจ

พนักงานของบริษัท 23,000 คนทั่วโลกมีความมุ่งมั่นร่วมกันในการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สูงสุด และส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในการร่วมสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ ด้วยยอดขายประจำปีที่สูงกว่า 850,000 ล้านเยน (7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ตั้งตารอที่จะสร้างและมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทุกที่

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220824005284/en/

ติดต่อ:

Customer สอบถามข้อมูล
Analog & Automotive Device Sales & Marketing Dept.  (ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์อนาล็อกและยานยนต์)
โทรศัพท์: +81-44-548-2219

ติดต่อเรา

สอบถามข้อมูลสำหรับ:
Chiaki Nagasawa
Digital Marketing Department (ฝ่ายการตลาดดิจิทัล)
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
Mail: semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp 

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

WP Engine เน้นย้ำถึงการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย

Logo

ด้วยการเติบโตของลูกค้า APAC ถึง 400% นับตั้งแต่เปิดสำนักงานในบริสเบนในปี 2017 WP Engine ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจในภูมิภาคด้วยการเปิดสำนักงานใหม่ในสิงคโปร์

สิงคโปร์–(บิสิเนส ไวร์)–24 ส.ค. 2022

WP Engine บริษัทเทคโนโลยี WordPress ที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลกประกาศแผนการขยายใน APAC พร้อมสำนักงานใหม่ในสิงคโปร์ จากความสำเร็จของบริษัทในภูมิภาคนับตั้งแต่เปิดสำนักงานในบริสเบน ประเทศออสเตรเลียในปี 2017 WP Engine กำลังเปิดตัวในสิงคโปร์ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ระดับภูมิภาคใหม่และงานสำคัญสำหรับลูกค้าที่ Fullerton Hotel Singapore โดยเปิดกว้างสำหรับสื่อ งานจะรวบรวมลูกค้าและพันธมิตรจากสิงคโปร์พร้อมกับความเป็นผู้นำของบริษัท

ความสำเร็จที่ขับเคลื่อนโดยออสเตรเลียจนถึงวันนี้

Mark Randall รองประธานฝ่ายขาย APAC สำหรับ WP Engine เปิดสำนักงานในบริสเบนของบริษัทในปี 2560 โดยมีตัวแทนฝ่ายขายหนึ่งคน วันนี้ Randall เป็นผู้นำทีมพนักงาน 45 คน และการปรากฏตัวของ WP Engine ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้นยิ่งใหญ่กว่าที่เคย โดยให้บริการแบรนด์หลัก ๆ เช่น Sealy, Gregory Jewelers และ Volvo และผลักดันการเติบโตระดับสากลของ WP Engine

“การทำงานโดยตรงกับแบรนด์และเอเจนซี่ APAC ที่น่าทึ่งสำหรับการสร้างสรรค์เว็บไซต์และประสบการณ์ดิจิทัลทุกวันถือเป็นสิทธิพิเศษสำหรับเรา” Randall กล่าว “หลังจากประสบกับการเติบโตอย่างมากในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ผมภูมิใจที่ได้เห็น WP Engine ยังคงพัฒนาต่อไป รากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโต การดึงดูดผู้มีความสามารถที่ดีที่สุด และยังคงให้ความสำคัญกับค่านิยมหลักของเรา วัฒนธรรมองค์กรที่โดดเด่น และพนักงานที่น่าทึ่งของเรา”

ทำไมต้องสิงคโปร์?

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา WP Engine ได้เห็นความต้องการของลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วทั้งเอเชียและโดยเฉพาะในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นสัญญาณของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีพาร์ทเนอร์ของ WP Engine Agency Chillybin ทำงานร่วมกับ WP Engine และ Fullerton Fund Management ในการออกแบบเว็บไซต์ใหม่ซึ่งทำให้การเข้าซื้อกิจการโดยตรงเพิ่มขึ้น 53% การสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับแบรนด์และเอเจนซี่ในสิงคโปร์เป็นสิ่งจำเป็นเชิงกลยุทธ์สำหรับ WP Engine เนื่องจากบริษัทได้ขยายแพลตฟอร์ม ผลิตภัณฑ์ และความเชี่ยวชาญของ WordPress ไปทั่วเอเชีย

“จากการทำงานร่วมกับลูกค้าในสิงคโปร์ ซึ่งบางคนเป็นพันธมิตรกับเรามาสองสามปีแล้ว เราเห็นได้ชัดว่าเมืองและภูมิภาคในวงกว้างนี้มีความสำคัญต่อเอเชียเพียงใด และได้เห็นเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่น่าทึ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่นี่” Fabio Torlini รองประธานอาวุโสและกรรมการผู้จัดการ WP Engine ระหว่างประเทศกล่าว “ด้วยการขยายแพลตฟอร์ม ผลิตภัณฑ์ของเรา และทีมงานของเราที่นี่ในสิงคโปร์ WP Engine จะมีผลกระทบอย่างมาก ผมไม่สงสัยเลยว่าเราจะสร้างพันธมิตรที่น่าทึ่งที่สุดของเราได้”

WP Engine จะจัดงานเปิดตัวลูกค้าในสิงคโปร์ที่ The Fullerton Hotel Singapore ในวันที่ 24 สิงหาคม พร้อมโอกาสในการสร้างเครือข่ายและข้อมูลเชิงลึกจากลูกค้าและพันธมิตรในภูมิภาคปัจจุบัน ตลอดจนความเป็นผู้นำของบริษัท

วัฒนธรรมที่ได้รับรางวัล

ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาค WP Engine เพิ่งได้รับการยอมรับจาก Great Place to Work ว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดของออสเตรเลีย โดย 97% ของพนักงาน WP Engine ยอมรับว่าเป็นสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยม Great Place To Work คือหน่วยงานระดับโลกด้านวัฒนธรรมสถานที่ทำงาน และเป็นเครื่องบ่งชี้ที่ชัดเจนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการส่งเสริมสถานที่ทำงานที่เปิดกว้างและยอมรับได้ ซึ่งส่งเสริมความโปร่งใสและความไว้วางใจ

เติมพลังให้อิสระในการสร้างด้วย WP Engine

WP Engine มอบพลังอิสระในการสร้างบน WordPress ผลิตภัณฑ์และแพลตฟอร์มเว็บของบริษัทเร็วที่สุดในบรรดาผู้ให้บริการ WordPress ทั้งหมด ขับเคลื่อนประสบการณ์ดิจิทัล 1.5 ล้านครั้ง เว็บไซต์ชั้นนำกว่า 200,000 แห่งทั่วโลกใช้ WP Engine เพื่อขับเคลื่อนประสบการณ์ดิจิทัลของพวกเขามากกว่าใครๆ ใน WordPress สัมผัสความได้เปรียบของ Managed WordPress Hosting ที่สมบูรณ์แบบ แล้ววันนี้

ที่ WP Engine เราทำสิ่งที่ถูกต้องสำหรับลูกค้าของเรา และการมุ่งเน้นนี้ช่วยให้เราทำงานได้ดีที่สุดในอาชีพการงานของเรา เราให้ความสำคัญกับการลงทุนในความสำเร็จของพนักงานและมอบโอกาสที่จะช่วยให้พวกเขาเติบโตและพัฒนาอย่างมืออาชีพ เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ wpengine.careers

เกี่ยวกับ WP Engine

WP Engine บริษัทเทคโนโลยี WordPress นำเสนอแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและเชื่อถือได้มากที่สุด และผลิตภัณฑ์ WordPress ที่เน้นนักพัฒนาสำหรับบริษัทและเอเจนซี่ทุกขนาด รวมถึง managed WordPress hosting, enterprise WordPress, headless WordPress, Flywheel, Local, Advanced Custom Fields, และ Genesis นวัตกรรมเทคโนโลยีของ WP Engine และผู้เชี่ยวชาญ WordPress ที่ได้รับรางวัลช่วยให้ลูกค้ามากกว่า 185,000 รายใน 150 ประเทศ

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220823005801/en/

ติดต่อ:

press@wpengine.com 

WPEngineSG@zenogroup.com 

WPEngineAU@zenogroup.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Australian Red Cross ร่วมกับ Boomi เพื่อช่วยระดมเงิน 27 ล้านดอลลาร์สำหรับชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

Logo

  • Boomi ให้การเชื่อมต่อข้อมูลและการสนับสนุนทางเทคนิคเพื่อรับรองความสำเร็จของ Australia Unites Telethon ล่าสุด
  • ตามมาด้วย ลูกค้าที่ได้มารายล่าสุด ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เมื่อเร็วๆ นี้ Boomi เพิ่งสร้างสถิติด้านอุตสาหกรรมสำหรับฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มแบบบูรณาการ

เชสเตอร์บรูค เพนซิลเวเนีย–(BUSINESS WIRE)–22 สิงหาคม 2565

Boomi ผู้นำด้านการเชื่อมต่ออัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ ประกาศในวันนี้ถึงการสนับสนุนในการช่วยเหลือ Australian Red Cross ระดมเงินกว่า 27 ล้านดอลลาร์สำหรับชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยการเปิดใช้งานการเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ทั่วทั้งโครงการบรรเทาอุทกภัยของ Australia Unites Telethon

Australian Red Cross Taps Boomi to Help Raise $27M For Flood-affected Communities (Graphic: Business Wire)

Australian Red Cross ร่วมกับ Boomi เพื่อช่วยระดมเงิน 27 ล้านดอลลาร์สำหรับชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย (กราฟิก: Business Wire)

ในเดือนกุมภาพันธ์ ชุมชนต่าง ๆ ในตอนเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์และทางตอนใต้ของรัฐควีนส์แลนด์ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมอย่างรุนแรง ซึ่งทำลายบ้านเรือนและวิถีชีวิตของผู้คนหลายพันคน เครือข่ายโทรทัศน์เชิงพาณิชย์รายใหญ่ทั้งสามแห่งของออสเตรเลียได้จัดการถ่ายทอดสดรายการโทรทัศน์แบบมาราธอนเพื่อระดมเงินช่วยเหลือสำหรับการทำงานของ Red Cross กับครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ ด้วยเวลาสี่วันในการเตรียมตัว Red Cross ร่วมกับ Boomi เพื่อให้แน่ใจว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสามารถรองรับขนาดของการมีส่วนร่วมของผู้สนับสนุนที่คาดการณ์ไว้ในระหว่างการออกอากาศทั่วประเทศเป็นเวลาห้าชั่วโมง

“ในขณะที่การรับสายโทรศัพท์ 30,000 รายการบนทีวีดูราบรื่น โครงสร้างพื้นฐานแบ็กเอนด์ในการทำให้การถ่ายทอดรายการโทรทัศน์แบบมาราธอนเป็นไปได้ซึ่งเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่” Brett Wilson ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศ (CIO) ของ Australian Red Cross กล่าว “ชาวออสเตรเลียกระตือรือร้นที่จะค้นหาลึกลงไป นอกเหนือไปจากการไหลเข้าของผู้โทร เราเห็นผู้ใช้เว็บพร้อมกัน 24,000 คนในหน้าเพจการบริจาคของเรา เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบสามารถดำเนินการและรับความช่วยเหลือจากเพื่อนชาวออสเตรเลียได้ เราจำเป็นต้องมีเทคโนโลยีของเราดำเนินการตามที่ควรจะเป็น Boomi เป็นลิงก์ทั่วไปที่ดึงระบบและข้อมูลทั้งหมดของเราเข้าด้วยกัน รับมือการเยี่ยมชมเว็บที่พุ่งสูงขึ้นของ Telethon และรองรับการมีส่วนร่วมของผู้สนับสนุนนั้นแม่นยำและเสถียร”

Red Cross ใช้แพลตฟอร์ม Boomi AtomSphere Platform ในปี 2563 เป็นแพลตฟอร์มแบบบูรณาการเพื่อเชื่อมต่อแอปพลิเคชันหลักจำนวนหนึ่ง สิ่งนี้ช่วยให้แน่ใจว่าข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงาน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และสมาชิกจะยังคงปลอดภัย ถูกต้อง และพร้อมใช้งานอยู่เสมอ และสร้างรากฐานของพอร์ทัลออนไลน์ MyRedCross

สำหรับ Australian Unites Telethon โดย Red Cross ได้ขยายการบริการ Boomi อย่างรวดเร็วเพื่อมุ่งเน้นไปที่ระบบที่มีลำดับความสำคัญ รวมถึงพอร์ทัล MyRedCross  ศูนย์กลางระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) แอปพลิเคชันทางการเงินเทคโนโลยี 1 และบริการคลาวด์ภายในอื่น ๆ เพื่อรักษาการเชื่อมต่อที่ราบรื่นสำหรับช่วงระยะเวลาของการถ่ายทอดสด ทีมสนับสนุนในพื้นที่ของ Boomi ช่วยเตรียมการและอยู่ในโหมดเตรียมพร้อมเพื่อให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีจะทำงานตามที่ตั้งใจไว้

ด้วยความเอื้ออาทรของสาธารณชน การถ่ายทอดรายการโทรทัศน์แบบมาราธอนมอบเงินช่วยเหลือเป็นเงินสดแก่ผู้คนมากกว่า 66,000 คน

Red Cross กล่าวว่าความสำเร็จนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาวิกฤติด้วยเหตุการณ์สภาพอากาศอันเลวร้ายที่เพิ่มขึ้นทั้งความถี่และความรุนแรง ความคล่องตัวและความเสถียรของรากฐานข้อมูลจะช่วยให้องค์กรตอบสนองต่อผลกระทบด้านมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

“เราได้ยินมามากเกี่ยวกับบทบาทของข้อมูลในโลกปัจจุบัน แต่เราไม่ค่อยเห็นการแสดงผลลัพธ์ของชุมชนที่เป็นรูปธรรมอย่างเป็นรูปธรรมเช่นนี้” Nathan Gower หัวหน้าบริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ (A/NZ) ของ Boomi กล่าว “แอปพลิเคชันและระบบต่าง ๆ ที่ประกอบกันเป็นกระบวนการบริจาคของ Red Cross ถูกนำไปทดสอบระหว่างงาน Telethon และเงินจำนวน 27 ล้านดอลลาร์ที่ระดมได้นั้นเป็นข้อพิสูจน์ถึงการเชื่อมต่อและความถูกต้องของข้อมูลที่รวมอยู่ในชุดเทคโนโลยีขององค์กรการกุศล บทบาทของ Boomi ในการบูรณาการข้อมูลเพื่อเชื่อมโยงผู้คนและการบริจาคให้ดีขึ้นจะมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจาก Red Cross เน้นการสนับสนุนเพื่อช่วยให้ชุมชนชาวออสเตรเลียเตรียมพร้อมสำหรับการปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศได้ดียิ่งขึ้น”

Boomi ได้รับตำแหน่งผู้นำใน Gartner® Magic Quadrant™ สำหรับ Enterprise Integration Platform as a Service (EiPaaS) เป็นเวลาแปดปีติดต่อกัน

ในฐานะบริษัทให้บริการด้านซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลก (SaaS) ที่มีฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มแบบบูรณาการ Boomi นำเสนอชุมชนผู้ใช้ที่กำลังเติบโตซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 100,000 ราย และหนึ่งในอาร์เรย์ที่ใหญ่ที่สุดของผู้รวมระบบ (GSI) ทั่วโลกในด้าน iPaaS บริษัทมีความภูมิใจในเครือข่ายทั่วโลกของพันธมิตรประมาณ 800 ราย ซึ่งรวมถึง Accenture, Deloitte, SAP และ Snowflake; และเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการคลาวด์ไฮเปอร์สเกลอร์ที่ใหญ่ที่สุด รวมถึง Amazon Web Services, Google และ Microsoft เป็นต้น

บริษัทเพิ่งได้รับรางวัล Gold Globee® Award ในประเภท Platform as a Service (PaaS) และได้รับการจัดอันดับอันทรงเกียรติระดับ 5-star rating ใน CRN Partner Program Guide ซึ่งเป็นรายการสรุปของโปรแกรมพันธมิตรที่โดดเด่นที่สุดจากผู้จำหน่ายเทคโนโลยีชั้นนำของอุตสาหกรรมที่จัดหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมและบริการที่ยืดหยุ่นผ่านช่องทางไอที แพลตฟอร์ม cloud-native แบบ low-code ของ Boomi ช่วยให้องค์กรในทุกอุตสาหกรรมเชื่อมต่อข้อมูลแอปพลิเคชัน ปรับปรุงประสิทธิภาพเวิร์กโฟลว์ และมอบประสบการณ์ลูกค้าแบบบูรณาการมากขึ้น

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบของ Gartner:

Gartner, Magic Quadrant for Enterprise Integration Platform as a Service, Eric Thoo, Keith Guttridge, Bindi Bhullar, Shameen Pillai, Abhishek Singh, 29 กันยายน 2564

Gartner ไม่รับรองผู้จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใด ๆ ที่ปรากฎในเอกสารการวิจัย และไม่แนะนำให้ผู้ใช้เทคโนโลยีเลือกเฉพาะผู้ขายที่มีคะแนนสูงสุดหรือกำหนดตำแหน่งอื่น ๆ สิ่งพิมพ์วิจัยของ Gartner ประกอบด้วยความคิดเห็นขององค์กรวิจัยของ Gartner และไม่ควรตีความว่าเป็นข้อเท็จจริง Gartner ปฏิเสธการรับประกันทั้งหมด ไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยนัย ในส่วนที่เกี่ยวกับการวิจัยนี้ รวมถึงการรับประกันความสามารถในการซื้อขายหรือความเหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะ GARTNER และ Magic Quadrant เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนและเครื่องหมายบริการของ Gartner, Inc. และ/หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ และได้รับอนุญาตให้ใช้ในที่นี้ สงวนลิขสิทธิ์ หมายเหตุ: Boomi เป็นที่รู้จักในชื่อ Dell Boomi ตั้งแต่ปี 2557 ถึง 2562

เกี่ยวกับ Boomi

Boomi ตั้งเป้าที่จะทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นโดยเชื่อมโยงทุกคนเข้ากับทุกสิ่งและทุกที่ ผู้บุกเบิกการให้บริการแพลตฟอร์มบูรณาการ (iPaaS) และปัจจุบันเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ระดับโลก (SaaS) ชั้นนำ Boomi นำเสนอฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มบูรณาการและเครือข่ายพันธมิตรกว่า 800 รายทั่วโลก รวมถึง Accenture, Capgemini, Deloitte, SAP, Snowflake, Amazon Web Services, Google Cloud และ Microsoft องค์กรระดับโลกหันไปใช้แพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลของ Boomi ในการค้นหา จัดการ และประสานข้อมูล ในขณะที่เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน กระบวนการ และผู้คนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.boomi.com

© 2022 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ 'B', Boomiverse และ AtomSphere เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP หรือบริษัทย่อยหรือบริษัทในเครือ สงวนลิขสิทธิ์ ชื่อหรือเครื่องหมายอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

ดูคลังภาพ/มัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52815370/en

ติดต่อ:

Boomi:
Kristen Walker
Global Corporate Communications
kristenwalker@boomi.com
+1-415-613-8320

Boomi Australia and New Zealand
boomi@watterson.com.au

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมไอทีแห่งปูซาน (Busan IT Industry Promotion Agency) เลือกโครงการ 2022 Korea-ASEAN XR Joint Project เป็นหัวสะพานสู่ตลาดอาเซียน

Logo

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรุงเทพฯ ประเทศไทย จะจัดแสดงมรดกทางวัฒนธรรมโดยใช้เทคโนโลยีการสร้างเนื้อหา XR ของประเทศเกาหลี

การคัดเลือก 9 โครงการมูลค่าประมาณ 2.3 ล้านเหรียญสหรัฐจะได้รับการสาธิตและทำให้เป็นการค้า

บริษัท XR ของเกาหลีที่สามารถแข่งขันได้นั้นคาดว่าจะเข้าสู่ตลาดโลกและเป็นผู้บุกเบิกช่องทางการส่งออก

ปูซาน เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–16 สิงหาคม 2565

Busan IT Industry Promotion Agency (Mun-Seob Jeong ประธานและซีอีโอ) ผ่านทาง ASEAN-ROK ICT Convergence Village ประกาศเลือกโครงการใหม่ 9 โครงการสำหรับโครงการ2022 Korea-ASEAN XR Joint Project เพื่อสาธิตและจัดตั้งบริษัท XR ของเกาหลีที่สามารถแข่งขันได้ และเพื่อขยายเทคโนโลยี XR และ Metaverse ขั้นสูงสู่ตลาดอาเซียน

หลังจากการประชุมสุดยอด 2019 ASEAN-ROK Commemorative Summit ที่จัดขึ้นที่เมืองปูซาน ซึ่ง ASEAN-ROK ICT Convergence Village ได้รับการดำเนินการครั้งแรกในปี 2563 โดยโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายการแลกเปลี่ยน ICT และการเติบโตร่วมกันในเกาหลีและอาเซียนอยู่ภายใต้สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมไอทีแห่งชาติ หรือ National IT Industry Promotion Agency (NIPA) ) และสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมไอทีแห่งปูซาน (BIPA) ซึ่งจัดโดย Korean Ministry of Science and ICT และ Busan Metropolitan City

เก้าโครงการที่ได้รับการคัดเลือกมีดังนี้:

1. เนื้อหาพิพิธภัณฑ์แบบ XR และแพลตฟอร์มนิทรรศการสำหรับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรุงเทพฯ ประเทศไทย (Fun it Co., Ltd.)

2. โครงการ live interaction อวตารเสมือนจริงที่จับภาพการเคลื่อนไหวเต็มรูปแบบของอินโดนีเซีย (Kovee Co., Ltd., Filder tax Co., Ltd.)

3. โครงการสาธิต XR Convergence Sports Contents และ Experience Center ในเมียนมาร์ (Insol M&T Co., Ltd., KMPI Consortium Co., Ltd.)

4. แพลตฟอร์มนิทรรศการเสมือนจริงของเกาหลีและอาเซียนบนแกลเลอรี metaverse แบบสามมิติในเมียนมาร์ (GD Communication & Asian Arts Cooperation)

5. โซลูชันการออกกำลังกาย Metaverse ที่ปรับแต่งสำหรับประเภทร่างกายของชาวเวียดนามโดยใช้เทคโนโลยีการจดจำร่างกายและตู้คีออส (Tiger AI, RH-Tech Co., Ltd., Industrial-Academic Cooperation Group of Dongmyeong University)

6. ระบบการฝึกซ้อมปืนเทเซอร์ของตำรวจในอินโดนีเซียโดยใช้ VR (Jacob System Co., Ltd., Premoem Co., Ltd.)

7. ระบบการฝึกซ้อมโทเทิลกอล์ฟโดยใช้เทคโนโลยี XR ในมาเลเซีย (Smile Square, Hello Studio Co., Ltd.)

8. ระบบ telemedicine และการทำงานร่วมกันแบบ AR ในอินโดนีเซีย (Pusan ​​National University Hospital, ITIZ, ION-M Solution Co., Ltd.)

9. การผลิตเนื้อหาการศึกษาและการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยแบบ XR ในบรูไน (Safety XR) (YST Co., Ltd.)

BIPA วางแผนที่จะจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการดังกล่าวเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 2.3 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับการสาธิตและการค้าในตลาดอาเซียน โดยมีกำหนดจะสนับสนุนการนำเนื้อหา XR ไปใช้กับธุรกิจต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน

ในปี 2564 เพียงปีเดียว BIPA ได้ให้เงินสนับสนุนประมาณ 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับโครงการ 6 โครงการ ซึ่งรวมถึงโครงการสร้างแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวแบบ XR สำหรับนครจักรพรรดิเมืองเว้ ซึ่งเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก ส่งผลให้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยว

Mun-Seob Jeong ประธานและซีอีโอของ BIPA กล่าวว่า “ผมหวังว่าโครงการ 2022 Korea-ASEAN XR Joint Project จะกลายเป็นโอกาสที่ดีสำหรับอาเซียนและ ROK ในการเริ่มต้นความร่วมมือในโครงการต่าง ๆ ทั้งนี้ BIPA จะยังคงค้นหาและสนับสนุนโครงการที่กำหนดต่อไปตามความต้องการของภูมิภาคอาเซียน”

ติดต่อ:

Busan IT Industry Promotion Agency
Policy Planning Department
Seung-wan Han
051-749-9452
hsw1103@busanit.or.kr

Digital Transformation Department
Seong-il Byeon
051-715-9121
skpr12@busanit.or.kr

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย