Category Archives: Technology

Cyble เปิดตัวโปรแกรม Managed Security Service Provider (MSSP) โดยเฉพาะ เพื่อเพิ่มศักยภาพของ MSSPs ชั้นนำของอุตสาหกรรม

Logo

แพลตฟอร์ม MSSP ที่ได้รับบริการจัดการของ Cyble ให้การมองเห็นแบบ 360 องศาแก่ลูกค้า ของแนวภัยคุกคาม

อัลฟาเรตตา, จอร์เจีย–(BUSINESS WIRE)–15 มิ.ย. 2565

Cyble ซึ่งเป็นผู้นำ ในด้านข่าวกรองภัยคุกคามทางไซเบอร์ทั่วโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Y Combinator มีความภูมิใจที่จะประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์มข่าวกรองภัยคุกคามล่าสุดสำหรับ Managed Security Service Providers (MSSP) ด้วยการใช้แพลตฟอร์มใหม่นี้ พันธมิตร Cyber MSSP สามารถได้รับประโยชน์จากแดชบอร์ดที่มีความครอบคลุม ซึ่งประกอบด้วยข่าวกรองภัยคุกคามขั้นสูงและการตรวจสอบและบรรเทาอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะเป็นเครื่องมือในการช่วยให้ทั้งลูกค้าและคู่ค้าสามารถทำงานควบคู่กันไปเพื่อการบรรลุเป้าหมายด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้

แพลตฟอร์มดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้พันธมิตร MSSP ของ Cyble ได้รับการควบคุมที่ดียิ่งขึ้นเพื่อการจัดหา กำหนดค่า และตรวจสอบบริการทั้งหมดที่มีให้โดย Cyble Vision ในฐานะที่เป็นชุดซอฟต์แวร์สำหรับลูกค้า การอัปเดตใหม่นี้นำเสนอคุณลักษณะต่าง ๆ เช่น คอนโซลการจัดการแบบผู้ดูแลระบบหลายคน การเข้าถึงแดชบอร์ดของผู้ใช้อย่างราบรื่นเพื่อให้เข้าใจการกระจายสินค้าและการเป็นเจ้าของของลูกค้าได้ง่ายขึ้น แดชบอร์ดและคอนโซลสำหรับการเข้าถึงส่วนกลาง และความสามารถในการจัดการและบำรุงรักษาแดชบอร์ดของผู้ใช้จากบัญชีของตนเอง นอกจากนี้ ยังช่วยให้สามารถติดตามการแจ้งเตือนลูกค้าทั้งหมดได้ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เกิดการแทรกแซงตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อปกป้องทรัพย์สินและผลประโยชน์ของลูกค้า

Cyble Vision ซึ่งเป็นโซลูชั่นระดับองค์กรแบบที่ใช้ SaaS ของบริษัท โดยมีการใช้เทคโนโลยี AI และ ML ที่เป็นกรรมสิทธิ์เพื่อเพิ่มข้อมูลภัยคุกคามและแจ้งเตือนผู้ใช้ด้วยบริบทที่เพียงพอเพื่อทำความเข้าใจความเสี่ยงทางไซเบอร์และใช้มาตรการบรรเทาผลกระทบที่เหมาะสม วัตถุประสงค์เฉพาะของที่ Cyble คือการทำให้การป้องกันความเสี่ยงทางดิจิทัลเป็นสิ่งที่ลูกค้าจัดการได้เอง ผ่านการผสมผสานระหว่างระบบอัตโนมัติ การวิเคราะห์ของมนุษย์ และนวัตกรรม

Manish Chachada COO และผู้ร่วมก่อตั้ง Cyble กล่าวว่า “การเปิดตัวโปรแกรม MSSP ของเราซึ่งถือเป็นการพัฒนาที่สำคัญในการเดินทางของ Cyble จะช่วยให้พันธมิตรของเราสามารถขยายข้อมูลภัยคุกคามต่อ Cyble การบริการป้องกันความเสี่ยงทางดิจิทัลและความสามารถในการตรวจสอบ darkweb และอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตให้กับลูกค้าทั่วโลก เพื่อให้มั่นใจว่ามีการผสานรวมกับสภาพแวดล้อมของลูกค้าอย่างราบรื่น เรามุ่งมั่นอย่างเต็มที่สำหรับความต้องการของลูกค้าและคู่ค้าของเรา ความสามารถของโปรแกรม MSSP ของเราในการจัดหาแดชบอร์ดที่ใช้งานง่ายเพียงรายการเดียวให้กับผู้ใช้สำหรับการจัดการภัยคุกคามโดยการใช้ AI การไล่ล่าภัยคุกคามขั้นสูง และการบรรเทาผลกระทบ ต่างเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างต่างไปจากบริษัทคู่แข่งรายอื่น ”

“การเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับองค์กร เนื่องจากปัจจุบันความต้องการที่ไม่เคยมีมาก่อนในการจัดการกำจัดภัย การตอบสนองต่อเหตุการณ์ การให้คะแนนความเสี่ยงของบุคคลที่สาม และการเฝ้าติดตามความเสี่ยงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เป็นต้น โปรแกรม MSSP จะปูทางสำหรับการประหยัดต้นทุนด้วย ROI และการเข้าถึงของทัศนวิสัยที่ดีขึ้น ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน การควบคุม และระบบข่าวกรอง ที่ดำเนินการได้สำหรับลูกค้าของพันธมิตรของเรา” Mandar Patil รองประธานฝ่ายการตลาดระหว่างประเทศและความสำเร็จของลูกค้าที่ Cyble กล่าว

แพลตฟอร์ม MSSP มาพร้อมกับความสามารถในการตรวจจับภัยคุกคามที่อัปเกรดแล้วซึ่งสนับสนุนโดยนวัตกรรมที่ใช้ AI ความสามารถในการปรับขนาดที่ไม่จำกัด แพลตฟอร์มเปิดที่มีความสามารถในการผสานรวมอย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ภายใต้ข้อบังคับความเป็นส่วนตัวของ GDPR ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวถูกประกาศออกมาไม่นานหลังจากการประกาศล่าสุดของ Cyble เกี่ยวกับการเป็นผู้ชนะใน 8 หมวดหมู่ของรางวัล Global InfoSec ประจำปีอันทรงเกียรติครั้งที่ 10 โดยนิตยสาร Cyber Defense Magazine (CDM) ซึ่งเป็นนิตยสารชั้นนำด้านการรักษาความปลอดภัยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของอุตสาหกรรม

“เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่จะเผยแพร่โมดูลหลักนี้ให้กับฐานพันธมิตรที่กว้างขึ้น และแทบรอไม่ไหวที่จะช่วยชุมชนองค์กรขนาดใหญ่ นี่คือผลลัพธ์ของการทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อออกแบบโซลูชันที่ปรับปรุงการตรวจจับภัยคุกคามและความสามารถในการบรรเทาเชิงรุกของลูกค้าของเรา คู่ค้า MSSP มองหาโซลูชันที่ปลอดภัย ครอบคลุม ใช้งานง่าย และปลอดภัย ที่ให้ข้อมูลภัยคุกคามและการป้องกันความเสี่ยงทางดิจิทัลที่ดีที่สุด โซลูชันของเราตอบโจทย์นั้น! เรามีความตื่นเต้นมาก ๆ และเราตั้งตารอที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับคู่ค้า MSSP เชิงยุทธศาสตร์ เพิ่มไปจากการเป็นพันธมิตรใหม่ทั่วโลกไปอีก” Beenu Arora ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Cyble กล่าว

เกี่ยวกับ Cyble

Cyble เป็นผู้ให้บริการ SaaS อัจฉริยะด้านภัยคุกคามระดับโลกที่ช่วยให้องค์กรปกป้องตนเองได้ จากอาชญากรรมในโลกไซเบอร์และการเปิดเผยบนเว็บ Surface, Deepweb และ Darkweb จุดเน้นหลักของ คือการช่วยให้องค์กรมองเห็นรอยเท้าความเสี่ยงทางดิจิทัลแบบเรียลไทม์ Cyble ได้รับการสนับสนุนจาก Blackbird Ventures, Xoogler และ Y Combinator ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ฤดูหนาวปี 2564 Cyble ยังได้รับการยอมรับจาก Forbes ให้เป็นหนึ่งใน 20 สุดยอดบริษัทสตาร์ทอัพด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ พร้อมกับการยอมรับในอุตสาหกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย Cyble มีสำนักงานใหญ่อยู่ในจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา และยังมีสำนักงานในดูไบ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ และอินเดีย Cyble มีสำนักงานอยู่ทั่วโลก

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Cyble โปรดไปที่ www.cyble.com.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220615005617/en/

ติดต่อ:

สอบถามสื่อ Cyble

อีเมล: enquiries@cyble.com

โทร: +1 678 379 3241

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

โตชิบาร่วมมือกับ Farnell เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทานสำหรับผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่

Logo

การขยายหุ้นส่วนสู่ระดับโลกจะเพิ่มรายการสินค้าเซมิคอนดักเตอร์ไฟฟ้าที่เป็นนวัตกรรมและอุปกรณ์แยกที่เสนอโดย Farnell

คาวาซากิ ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–15 มิ.ย. 2565

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“โตชิบา”) ประกาศว่า Toshiba Electronics Europe GmbH ซึ่งเป็นบริษัทย่อยด้านการขายและการตลาดในยุโรป ได้ขยายความสัมพันธ์กับ Farnell ผู้จัดจำหน่ายชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ และโซลูชั่นระดับโลกที่ซื้อขายในนาม Farnell ในยุโรป Newark ในอเมริกาเหนือ และ element14 ทั่วเอเชียแปซิฟิก  ตามข้อตกลงนี้ Farnell จะสต็อกสินค้าผลิตภัณฑ์ของโตชิบาในปริมาณที่มากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มการสนับสนุนในห่วงโซ่อุปทานของลูกค้าของโตชิบา

ข้อตกลงนี้เป็นผลจากความปรารถนาของทั้งสองบริษัทที่จะนำเสนอโซลูชั่นชั้นนำของของโตชิบาให้แก่ตลาดแลกการใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงยานยนต์ อุตสาหกรรม Internet of Things (IoT) การควบคุมการเคลื่อนไหว โทรคมนาคม เครือข่าย การใช้งานสำหรับผู้บริโภคและเครื่องใช้ในบ้านสีขาว โดยจะมีการมุ่งเน้นที่จุดแข็งของโตชิบามากขึ้น ซึ่งรวมถึงโซลูชั่นด้านพลังงานและการควบคุมมอเตอร์ขั้นสูง

กลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Farnell จะขยายออกไปเพื่อรวมอุปกรณ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของโตชิบามากขึ้น โดยจะครอบคลุมผลิตภัณฑ์ 800 รายการภายในสิ้นปีและเพิ่มขึ้นอีกเป็น 1,000 รายการในช่วงปี 2566 โดยจะเน้นที่ออปโตคัปเปลอร์และรีเลย์ของโตชิบา MOSFET แรงดันต่ำและสูง IGBT แบบแยก ไดโอดสัญญาณขนาดเล็กและทรานซิสเตอร์ ตัวควบคุมแรงดันไฟฟ้า อุปกรณ์ลอจิก และโซลูชันการควบคุมมอเตอร์

Ian Wilson ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขายของ Toshiba Electronics Europe GmbH ให้ความเห็นเกี่ยวกับการเป็นหุ้นส่วนนี้ว่า: “ในช่วงเวลาที่โลกขาดแคลนสินค้า สิ่งสำคัญคือการเสริมความสามารถของเราในการตอบสนองความต้องการด้านผลิตภัณฑ์และการสนับสนุนชุมชนวิศวกรรมที่กำลังดำเนินการออกแบบ รับรอง อัปเกรด และซ่อมแซมด้วยการใช้ส่วนประกอบล่าสุด เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ของเรามีจำหน่ายผ่าน Farnell”

Simon Meadmore รองประธานฝ่ายการจัดการผลิตภัณฑ์และซัพพลายเออร์ที่ Farnell กล่าวเสริมว่า: “Farnell มีความสัมพันธ์ระยะยาวที่ดีกับโตชิบา และนี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะขยายขอบเขตผลิตภัณฑ์ของเราด้วยแบรนด์ที่แข็งแกร่ง สร้างสรรค์ และเป็นที่เคารพนับถือ ลูกค้าของเราสามารถรับประโยชน์จากความพร้อมใช้งานที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์โตชิบา ควบคู่ไปกับการเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ สู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว  ข้อตกลงใหม่นี้ช่วยกระชับความสัมพันธ์โดยรวมระหว่าง Toshiba, Farnell และ Avnet Group เรามุ่งมั่นที่จะเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่อย่างสม่ำเสมอเพื่อปรับปรุงพอร์ตโฟลิโอที่มีอยู่ของเราจากโตชิบา”

เช่นเดียวกับความปรารถนาของโตชิบาที่จะให้การสนับสนุนด้านเทคนิคที่ยอดเยี่ยมแก่ฐานลูกค้าด้านวิศวกรรม Farnell ก็ให้การเข้าถึงแหล่งข้อมูลทางเทคนิค เอกสารข้อมูล บันทึกการใช้งาน วิดีโอ การสัมมนาผ่านเว็บ และการสนับสนุนด้านเทคนิคตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันฟรี

ขณะนี้ผลิตภัณฑ์โตชิบาที่ขยายเพิ่มขึ้นได้รับการสนับสนุน สต็อก และพร้อมสำหรับการจัดส่งที่รวดเร็วจาก Farnell ใน EMEA, Newark ในอเมริกาเหนือ และ element14 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้นๆ

* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมทั้งราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ชั้นนำของโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และสตอเรจขั้นสูง โดยใช้ประสบการณ์และนวัตกรรมกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์แบบแยกอิสระ ระบบ LSI และผลิตภัณฑ์ HDD ให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ

พนักงานของบริษัท 23,000 คนทั่วโลกมีความมุ่งมั่นร่วมกันในการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สูงสุดและส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อสร้างมูลค่าและตลาดใหม่  ด้วยยอดขายประจำปีที่สูงกว่า 850,000 ล้านเยน (7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation มุ่งสร้างและมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทุก

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/22020613005388/en/

ติดต่อ:

สำหรับลูกค้า:
ติดต่อเรา

สำหรับสื่อมวลชน:
K.Tanaka, E.Sugizaki
Corporate Communications & Market Intelligence Group ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
โทรศัพท์: +81-44-548-2122
อีเมล: tdsc-publicrelations@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Kioxia นำเสนอครั้งแรกกับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบถอดได้ XFM Ver.1.0-Compliant PCIe®/NVMe™ ต่อ JEDEC

Logo

KIOXIA XFMEXPRESS™ XT2 เปิดตัวอย่างแล้ว

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–14 มิถุนายน 2565

Kioxia Corporation ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ วันนี้ประกาศเปิดตัวอย่างอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล NVMe™: XFMEXPRESS™ XT2 ในรุ่น 256GB และ 512GB ซึ่ง XFM DEVICE Ver.1.0-compliant แบบถอดได้ที่มี PCIe® เป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรม [1] ด้วยฟอร์มแฟกเตอร์และคอนเนคเตอร์ใหม่ มาตรฐาน XFM DEVICE Ver.1.0 นำเสนอการผสมผสานที่เหนือชั้นของคุณสมบัติที่ออกแบบมาเพื่อปฏิวัติคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ultra-mobile อุปกรณ์ IoT และแอปพลิเคชันฝังตัวต่าง ๆ

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220613005878/en/

KIOXIA XFMEXPRESS™ XT2 PCIe®/NVMe™ Removable Storage Device (Photo: Business Wire)

อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบถอดได้ KIOXIA XFMEXPRESS™ XT2 PCIe®/NVMe™ (ภาพ: Business Wire)

ทำการเปิดตัวครั้งแรกในเดือนสิงหาคม 2562 และนำเสนอเป็นข้อเสนอต่อคณะอนุกรรมการ JEDEC สำหรับข้อกำหนดทางไฟฟ้าและโปรโตคอลคำสั่ง โดย KIOXIA XFMEXPRESS เป็นฟอร์มแฟกเตอร์ใหม่สำหรับอุปกรณ์ PCIe/NVMe ด้วยการผสมผสานอันทรงพลังของขนาดที่เล็ก ความเร็ว และการตรวจสอบสภาวะการใช้งาน เทคโนโลยี XFMEXPRESS ได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในมือถือรุ่นต่อไปและแอปพลิเคชันแบบฝังตัว KIOXIA XFMEXPRESS XT2 เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตรงตามข้อกำหนดของมาตรฐาน JEDEC

Kioxia ตระหนักถึงความจำเป็นในการจัดเก็บข้อมูลแบบถอดได้ในระดับใหม่ โดยใช้ประโยชน์จากพื้นหลังที่กว้างขวางในการออกแบบหน่วยความจำแพ็คเกจเดียวเพื่อพัฒนา XFMEXPRESS XT2 ทั้งนี้ Kioxia จะสาธิตโซลูชัน XFMEXPRESS XT2 แบบไลฟ์สดที่งาน Inerop Tokyo 2022 ใน Makuhari Messe ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 15-17 มิถุนายน ที่บูธ Hall 5 # 5P15 การสาธิตในรูปแบบเดียวกันนี้จะมีขึ้นที่งาน embedded world 2022 ในเมืองนูเรมเบิร์ก ประเทศเยอรมนี ตั้งแต่วันที่ 21-23 มิถุนายน ที่บูธ Hall 3A #3A-117

คุณสมบัติและคุณประโยชน์ที่สำคัญของ KIOXIA XFMEXPRESS XT2:

  • การตรวจสอบสภาวะการใช้งานแบบ Game-Changing
    XFMEXPRESS XT2 ช่วยให้มีอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลขนาดเล็กประเภทใหม่ที่ง่ายต่อการบำรุงรักษาหรืออัปเกรด XFMEXPRESS XT2 ช่วยลดอุปสรรคทางเทคนิคและข้อจำกัดด้านการออกแบบ ด้วยการจับคู่แพ็คเกจขนาดกะทัดรัดที่ทนทานพร้อมฟังก์ชันการจัดเก็บแบบถอดได้และความยืดหยุ่น
  • พื้นที่แบบ Mobile-Friendly
    ขนาดเล็กและโปรไฟล์ต่ำ (14 มม. x 18 มม. x 1.4 มม.) ของฟอร์มแฟกเตอร์ JEDEC XFM DEVICE Ver.1.0 นำเสนอขนาด 252 ตร.มม. ซึ่งปรับพื้นที่ติดตั้งให้เหมาะสมสำหรับอุปกรณ์โฮสต์ที่มีขนาดกะทัดรัดเป็นพิเศษโดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพหรือการตรวจสอบสภาวะการใช้งาน ด้วยความสูงแบบ z ที่ย่อเล็กสุดนี้ ฟอร์มแฟกเตอร์ของ XFMEXPRESS XT2 จึงยอดเยี่ยมสำหรับโน้ตบุ๊กที่บางและเบา และสร้างความเป็นไปได้ในการออกแบบใหม่สำหรับแอปพลิเคชันและระบบในรุ่นต่อไป
  • อินเตอร์เฟซ
    ออกแบบมาเพื่อความเร็ว XFMEXPRESS XT2 ใช้ PCIe 4.0 เลน x 2 อินเตอร์เฟซ NVMe 1.4b

หมายเหตุ
[1] การตรวจวัดของ Kioxia ณ วันที่ 14 มิถุนายน 2565

*NVM Express™ และ NVMe™ เป็นเครื่องหมายจดทะเบียนหรือไม่ได้จดทะเบียนของ NVM Express, Inc. ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ
* PCI Express และ PCIe เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ PCI-SIG
*ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่น ๆ ทั้งหมดอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ

เกี่ยวกับ Kioxia

Kioxia เป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำที่อุทิศตนเพื่อการพัฒนา การผลิต และการขายหน่วยความจำแฟลชและโซลิดสเตตไดรฟ์ (SSD) ในเดือนเมษายน 2560 บริษัท Toshiba Memory ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ Kioxia ได้แยกออกมาจาก Toshiba Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่คิดค้นหน่วยความจำแฟลช NAND ในปี 2530 Kioxia มุ่งมั่นที่จะยกระดับโลกด้วย “หน่วยความจำ”โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ การบริการ และระบบที่สร้างทางเลือกให้กับลูกค้าและคุณค่าแบบจดจำสำหรับสังคม เทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช 3D แบบใหม่ของ Kioxia หรือที่เรียกว่า BiCS FLASH™ กำลังสร้างอนาคตของการจัดเก็บข้อมูลในแอปพลิเคชันที่มีความหนาแน่นสูงซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟนขั้นสูง, พีซี, SSD, ศูนย์ยานยนต์และศูนย์ข้อมูล

สอบถามข้อมูลสำหรับลูกค้า:
Kioxia Corporation
https://www.kioxia.com/en-jp/contact.html

*ข้อมูลในเอกสารนี้รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการและข้อมูลการติดต่อนั้นถูกต้องในวันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220613005878/en/

ติดต่อ:

สอบถามสื่อ:
ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์การขาย
Koji Takahata
โทร: +81-3-6478-2404

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Guardant Health เข้าซื้อกิจการร่วมทุน Guardant Health AMEA

Logo

พาโลอัลโต, แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–13 มิถุนายน 2565

Guardant Health, Inc. (NASDAQ:GH) บริษัทชั้นนำด้านเนื้องอกวิทยาที่มีความแม่นยำ ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ซื้อหุ้นส่วนที่เหลือของ Guardant Health AMEA, Inc. ซึ่งถือครองโดย SoftBank และบริษัทในเครือ ทำให้บริษัทสามารถควบคุมการดำเนินงานทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกาได้อย่างเต็มที่

ผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่โดยประมาณทั่วโลกมากกว่าครึ่งมาจากเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (AMEA)1 การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยให้ Guardant Health จัดการกับภาระมะเร็งที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคได้โดยตรงผ่านการเร่งนำการตรวจเลือดและบริการของบริษัทไปใช้ โดยผู้ให้บริการด้านสุขภาพเพื่อตรวจหาและจัดการกับมะเร็งทุกระยะ

การดำเนินงานของ Guardant Health AMEA จะรองรับ 41 ประเทศทั่วภูมิภาค ในขั้นตอนอันใกล้ บริษัทจะให้ความสำคัญกับการนำบริการตรวจเลือดไปยังผู้ให้บริการด้านสุขภาพและผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะลุกลามในญี่ปุ่น โดยในเดือนมีนาคม 2565 กระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการของประเทศญี่ปุ่น (MHLW) ได้รับการอนุมัติตามระเบียบข้อบังคับของ Guardant360® CDx ซึ่งเป็นการตรวจเลือดเพื่อหาเนื้องอกที่กลายพันธุ์ในผู้ป่วยที่มีเนื้องอกระยะลุกลาม

Helmy Eltoukhy ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของ Guardant Health กล่าวว่า “การซื้อหุ้นที่เหลือของ Guardant Health AMEA ทำให้เรามุ่งเน้นไปที่การสร้างองค์กรระดับโลกแบบรวมศูนย์หนึ่งเดียวที่มอบคำมั่นสัญญาในการต่อสู้กับมะเร็งและช่วยให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้น เราเชื่อว่าการทดสอบด้วยเลือดจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยจัดการกับการเกิดมะเร็งที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค และเราหวังว่าจะได้ช่วยเหลือผู้ป่วยในด้านการวินิจฉัยโรคมะเร็งต่อไปพร้อมกับขยายการดำเนินงานในตลาดเหล่านี้”

ในเดือนพฤษภาคม ปี 2561, Guardant Health และ SoftBank Vision Fund ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุน Guardant Health AMEA เพื่อขยายการจำหน่ายเทคโนโลยีชั้นนำในอุตสาหกรรมด้านการตรวจเลือดของ Guardant Health ทั่วทั้งภูมิภาค ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงร่วมทุนของทั้งสองฝ่ายนี้ Guardant Health จะจ่ายเงินประมาณ 177.8 ล้านดอลลาร์เพื่อเข้าซื้อหุ้นของ Guardant Health AMEA ที่ถือครองโดย SoftBank และบริษัทในเครือ

เกี่ยวกับ Guardant Health

Guardant Health เป็นบริษัทชั้นนำด้านเนื้องอกวิทยาที่มีความแม่นยำที่มุ่งเน้นการช่วยเหลือเพื่อเอาชนะมะเร็งทั่วโลกผ่านการทดสอบที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท ชุดข้อมูลขนาดใหญ่ และการวิเคราะห์ขั้นสูง แพลตฟอร์มด้านเนื้องอกวิทยาของ Guardant Health ใช้ประโยชน์จากความสามารถในการขับเคลื่อนการใช้งานเชิงพาณิชย์ เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาผู้ป่วย และลดต้นทุนด้านการรักษาพยาบาลในทุกขั้นตอนของการดูแลมะเร็งอย่างต่อเนื่อง Guardant Health ได้เปิดตัวการทดสอบเชิงพานิชย์ของ Guardant360®, Guardant360 CDx, Guardant360 TissueNext™, Guardant360 Response™ และ GuardantOMNI® สำหรับผู้ป่วยมะเร็งระยะลุกลาม และ Guardant Reveal™ สำหรับผู้ป่วยมะเร็งระยะเริ่มต้น กลุ่มผลิตภัณฑ์การตรวจคัดกรองของ Guardant Health ซึ่งประกอบด้วย การทดสอบ Shield™ ที่เปิดตัวในเชิงพาณิชย์ มีเป้าหมายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนที่มีสิทธิ์ได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็ง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ guardanthealth.com และติดตามบริษัทผ่าน LinkedIn และ Twitter

แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าซึ่งอยู่ในความหมายของกฎหมายและข้อบังคับด้านหลักทรัพย์ที่บังคับใช้โดยทั่วไป ซึ่งประกอบด้วยคำแถลงเกี่ยวกับสาธารณูปโภค ค่านิยม ประโยชน์ และข้อดีที่เป็นไปได้ของการทดสอบหรือวิเคราะห์เลือดเพื่อตรวจหามะเร็งของ Guardant Health ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างออกไปอย่างมากจากผลลัพธ์และความคาดหมายที่คาดการณ์ไว้ในข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้ แถลงการณ์เหล่านี้อิงตามความคาดหมาย การคาดการณ์และสมมติฐานในปัจจุบัน และผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างอย่างมากจากแถลงการณ์เหล่านี้เนื่องจากปัจจัยหลายประการ ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเพิ่มเติมเหล่านี้ที่อาจส่งผลต่อผลประกอบการและการเงินของ Guardant Health และทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างไปอย่างมากจากที่ระบุไว้ในแถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้จะประกอบด้วยแถลงการณ์บรรยายเกี่ยวกับ “ปัจจัยเสี่ยง” และ “การอภิปรายและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหารด้านสถานะทางการเงินและผลการดำเนินงาน” และอื่น ๆ ในรายงานประจำปีในแบบฟอร์ม 10-K สำหรับปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 และในรายงานอื่น ๆ ที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าในข่าวประชาสัมพันธ์นี้อิงตามข้อมูลที่มีอยู่ใน Guardant Health ณ วันที่ในที่นี้ และ Guardant Health ปฏิเสธภาระผูกพันใด ๆ ในการปรับปรุงข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าที่ให้ไว้เพื่อสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในความคาดหมายหรือเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงใด ๆ เงื่อนไข หรือพฤติการณ์ที่บนพื้นฐานของแถลงการณ์ดังกล่าว ยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด แถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้ไม่ยึดเป็นการแสดงความเห็นของ Guardant Health ณ วันที่ใด ๆ ต่อจากวันที่ในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้

อ้างอิง

  1. เว็บไซต์องค์กรระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยโรคมะเร็งขององค์การอนามัยโลก Gco.iarc.fr เข้าถึงเมื่อ 11 พฤษภาคม 2565 https://gco.iarc.fr/today/fact-sheets-populations

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220613005309/en/

ติดต่อ:

นักลงทุนติดต่อที่:
Alex Kleban
investors@guardanthealth.com
+1 657-254-5417

สื่อติดต่อที่:
Michele Rest
press@guardanthealth.com
+1 215-910-2138

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Recover™ เร่งการเติบโตด้วยเงินลงทุนส่วนน้อย 100 ล้านดอลลาร์ นำโดย Goldman Sachs Asset Management ร่วมมือกับนักลงทุนที่มีอยู่ STORY3 Capital Partners

Logo

การลงทุนในตราสารทุนครั้งใหม่นี้เกิดขึ้นเนื่องจากความยั่งยืนที่กลายมาเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับผู้ค้าปลีกและแบรนด์ชั้นนำระดับโลก

มาดริด–(BUSINESS WIRE)–09 มิถุนายน 2565

Recover™ บริษัทด้านวิทยาศาสตร์วัสดุชั้นนำและผู้ผลิตเส้นใยฝ้ายรีไซเคิลและเส้นใยฝ้ายผสมระดับพรีเมียมและยั่งยืน ประกาศในวันนี้ว่าบริษัทได้ปิดการลงทุนในหุ้นส่วนน้อยจำนวน 100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งนำโดยธุรกิจการลงทุนที่ยั่งยืนภายใน Goldman Sachs Asset Management (Goldman Sachs) โดย Goldman Sachs กำลังลงทุนร่วมกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่อย่าง STORY3 Capital Partners

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220607005869/en/

Goldman Sachs x Recover™ (Photo: Business Wire)

Goldman Sachs x Recover™ (ภาพ: Business Wire)

Recover จะใช้การลงทุนเพื่อเร่งการขยายธุรกิจและกำลังการผลิตทั่วโลก ซึ่งช่วยให้แบรนด์ชั้นนำและผู้ค้าปลีกสามารถนำแนวคิดริเริ่มด้านความยั่งยืนไปปรับใช้ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น Recover ให้บริการผู้ค้าปลีก แบรนด์ และผู้ขายที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก ซึ่งรวมถึง Primark, Inditex, C&A, Revolve และ Lands' End

เส้นใยฝ้ายรีไซเคิลที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Recover ช่วยลดคาร์บอนและความเข้มข้นของน้ำในห่วงโซ่อุปทานของเครื่องแต่งกาย ที่กล่าวถึงการมีส่วนร่วมของภาคส่วนเครื่องแต่งกายในการทำให้เกิดความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดย Recover ประมาณการว่าการลงทุนครั้งใหม่นี้จะวาง Recover บนเส้นทางเพื่อเพิ่มการผลิตเส้นใยฝ้ายรีไซเคิลกว่า 350,000 เมตริกตันต่อปีภายในปี 2569 ประหยัดน้ำได้มากถึง 5 ล้านล้านลิตรต่อปี เทียบเท่ากับน้ำดื่มที่บริโภคโดยผู้คนกว่า 4.5 พันล้านคนในแต่ละปี และช่วยลดการปล่อยคาร์บอน พลังงาน และการใช้ที่ดินอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับเส้นใยฝ้ายสังเคราะห์ อ้างอิงจากการวิจัยในอุตสาหกรรม*

“Goldman Sachs มุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรกับธุรกิจที่เป็นนวัตกรรมในการช่วยขับเคลื่อนความยั่งยืน” Letitia Webster กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความยั่งยืนของแผนกบริหารจัดการสินทรัพย์ของ Goldman Sachs กล่าว “Recover เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในด้านเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอด้วยโซลูชั่นที่ยั่งยืนที่จำเป็นมากซึ่งมีพื้นฐานมาจากวัสดุศาสตร์ เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ลงทุนในการเติบโตของ Recover เพื่อเร่งการผลิตตามขนาดและการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง” Webster จะเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการของ Recover ในการทำธุรกรรมครั้งนี้

Alfredo Ferre ผู้ดูแลครอบครัวรุ่นที่สี่และซีอีโอของ Recover กล่าวว่า “Recover กำลังช่วยสร้างอนาคตที่ยั่งยืนด้วยการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาล และเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ Goldman Sachs เพื่อเร่งการเติบโตของเรา” Ben Malka หุ้นส่วนปฏิบัติการของ STORY3 Capital Partners และประธานบริหารของ Recover กล่าวว่า “Recover ได้ทำให้ศิลปะและวิทยาศาสตร์สมบูรณ์แบบในการผลิตตามสัดส่วนของเส้นใยฝ้ายรีไซเคิลแบบยั่งยืนมากว่า 70 ปีในตระกูล Ferre หลายรุ่นในประเทศสเปน ในวันนี้ Recover นำเสนอโซลูชันที่มีพื้นฐานมาจาก IP ที่เป็นกรรมสิทธิ์ซึ่งให้เส้นใยฝ้ายรีไซเคิลที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและต้นทุนที่แข่งขันได้สำหรับทั้งการผลิตแบบโรเตอร์และแบบวงแหวน”

แบรนด์ Recover เป็นส่วนสำคัญของคำมั่นสัญญาและการรับรองด้านความยั่งยืนของผู้ค้าปลีกและแบรนด์ชั้นนำ และจำนวนลูกค้าของ Recover ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เป็นผลิตภัณฑ์ร่วมแบรนด์กับ Recover ที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาผลิตด้วยเส้นใยฝ้ายรีไซเคิลของบริษัท ทั้งนี้ Recover ดำเนินธุรกิจในตลาดฝ้ายมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและธุรกิจที่กำหนดหมวดหมู่สินค้าที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว บริษัทได้เปิดศูนย์กลางการผลิตแห่งใหม่ในปากีสถานและบังคลาเทศ โดยมีศูนย์กลางเพิ่มเติมในบังคลาเทศและเวียดนามที่จะเปิดในระยะเวลาอันใกล้นี้

“เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในวงกว้างในอุตสาหกรรมแฟชั่น เราต้องการพันธมิตรและความร่วมมือกับนักนวัตกรรมอย่าง Recover” Lynne Walker ผู้อำนวยการ Primark Cares ของ Primark กล่าว “เมื่อเราเพิ่มการใช้เส้นใยฝ้ายรีไซเคิลของ Recover ในผลิตภัณฑ์ Primark การลงทุนนี้จะช่วยให้เราปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาของเราในการสร้างแฟชั่นที่ยั่งยืนมากขึ้นในราคาที่ลูกค้าหลายล้านคนสามารถซื้อได้”

Peter Comisar หุ้นส่วนผู้บริหารจัดการของ STORY3 Capital Partners และอดีตหุ้นส่วนของ Goldman Sachs กล่าวว่า “เรารู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ความร่วมมือของเรากับ Recover ช่วยให้ธุรกิจขยายตัวได้อย่างมากนับตั้งแต่การเข้าซื้อกิจการในปี 2563 ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง การเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ด้วยโซลูชั่นที่ยั่งยืน Recover อยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นในการเป็นผู้นำระดับโลกด้านเส้นใยฝ้ายที่ยั่งยืน และเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ร่วมมือกับ Goldman Sachs ในวิวัฒนาการขั้นต่อไปของ Recover”

*แหล่งที่มา: การศึกษา LCA ได้รับการยืนยันโดย AITEX, Universitat de València และ UNESCO

เกี่ยวกับ Recover™

Recover™ เป็นบริษัทวิทยาศาสตร์ด้านวัสดุชั้นนำและผู้ผลิตเส้นใยฝ้ายรีไซเคิลและเส้นใยฝ้ายผสมที่มีผลกระทบต่ำและมีคุณภาพสูง ผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และต้นทุนที่แข่งขันได้ถูกสร้างขึ้นโดยความร่วมมือกับห่วงโซ่อุปทานสำหรับผู้ค้าปลีกและแบรนด์ระดับโลก โดยนำเสนอโซลูชันที่ยั่งยืนต่อแนวคิดหมุนเวียนบนแฟชั่น ในฐานะที่เป็นบริษัทครอบครัวรุ่นที่สี่ซึ่งมีประวัติยาวนาน 70 ปีในอุตสาหกรรมสิ่งทอ Recover อยู่ในภารกิจที่จะขยายขอบเขตเทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์เพื่อสร้างผลเชิงบวกที่ยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นพันธมิตรกับแบรนด์/ผู้ค้าปลีก และผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายความยั่งยืนของอุตสาหกรรม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ www.recoverfiber.com และติดตาม @recoverfiber บนโซเชียลมีเดีย

เกี่ยวกับ STORY3 Capital Partners

STORY3 เป็นผู้จัดการการลงทุนทางเลือกชั้นนำที่มุ่งเน้นเฉพาะในห่วงโซ่คุณค่าของผู้บริโภค ซึ่งรวมถึงธุรกิจที่อยู่บริเวณจุดตัดของผู้บริโภคและความยั่งยืน นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในเดือนตุลาคม 2561 ทีมงาน STORY3 ได้จัดหา จัดการ และดำเนินการธุรกรรมเงินทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในธุรกิจที่ต้องเผชิญกับผู้บริโภค STORY3 ใช้กลยุทธ์การลงทุนที่ยืดหยุ่นและจับคู่ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอย่างลึกซึ้ง การสนับสนุนด้านปฏิบัติการ และประสบการณ์การทำธุรกรรมที่ไม่เหมือนใคร เพื่อสนับสนุนการสร้างมูลค่าให้กับพันธมิตร สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม www.story3capital.com

เกี่ยวกับ Goldman Sachs Asset Management

การรวมการลงทุนแบบดั้งเดิมและทางเลือกเข้าด้วยกัน Goldman Sachs Asset Management ช่วยให้ลูกค้าทั่วโลกมีพันธมิตรที่ทุ่มเทและมุ่งเน้นที่ประสิทธิภาพในระยะยาว ในฐานะที่เป็นพื้นที่การลงทุนหลักภายใน Goldman Sachs (NYSE: GS) เราให้บริการด้านการลงทุนและการให้คำปรึกษาแก่สถาบันชั้นนำของโลก ที่ปรึกษาทางการเงิน และบุคคลทั่วไป โดยใช้เครือข่ายระดับโลกที่เชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งของเราและข้อมูลเชิงลึกของผู้เชี่ยวชาญที่ปรับให้เหมาะสมในทุกภูมิภาคและตลาด โดยดูแลทรัพย์สินกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ภายใต้การดูแลทั่วโลก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 ทั้งนี้ขับเคลื่อนด้วยความกระตือรือร้นในประสิทธิภาพของลูกค้าของเรา เราพยายามสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวตามความเชื่อมั่น ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน และความสำเร็จร่วมกันเมื่อเวลาผ่านไป ติดตามเราบน LinkedIn

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220607005869/en/

ติดต่อสื่อ:
สำหรับ Recover และ STORY3
Stacy Berns / Michael McMullan
Berns Communications Group
sberns@bcg-pr.com / mmcmullan@bcg-pr.com

สำหรับ Goldman Sachs
Avery Reed
Goldman Sachs & Co. LLC
Avery.Reed@GS.com
+1 212 902 5400

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย





Cyble กวาดรางวัล Editor’s Choice ด้านการตรวสอบข้อมูลภัยคุกคาม พร้อมรางวัลอื่น ๆ รวม 8 สาขาในการประกาศรางวัล Global InfoSec Awards 2022

Logo

Cyble คว้ารางวัลอันทรงเกียรติจากงาน Global InfoSec Awards ครั้งที่ 10 – #RSAC 2022

อัลฟาเรตตา, จอร์เจีย–(BUSINESS WIRE)–08 มิถุนายน 2565

Cyble บริษัทตรวจสอบข้อมูลภัยคุกคามทางไซเบอร์ด้วยเทคโนโลยี AI ระดับโลกที่สนับสนุนโดย Y Combinator มีความภูมิใจที่จะประกาศว่า บริษัทได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะใน 8 สาขาในการประกาศมอบรางวัล Global InfoSec ประจำปีครั้งที่ 10 โดย Cyber Defense Magazine (CDM) ซึ่งเป็นนิตยสารด้านความปลอดภัยของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำในอุตสาหกรรม

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220607006027/en/

Cyble wins prestigious awards at the 10th Annual Global InfoSec Awards - #RSAC 2022 (Graphic: Business Wire)

Cyble คว้ารางวัลอันทรงเกียรติจากงาน Global InfoSec Awards ประจำปีครั้งที่ 10 – #RSAC 2022 (กราฟิก: Business Wire)

  • รางวัล Editor's Choice ด้านการตรวจจับภัยคุกคาม
  • การจัดการรูปแบบการโจมตีที่ครอบคลุมที่สุด
  • การวิเคราะห์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ยุคใหม่
  • เทคโนโลยี AI ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ทันสมัยที่สุด
  • บริการแบบกำหนดเป้าหมายที่ช่วยป้องกันภัยภัยคุกคามยอดนิยม
  • บริษัทสตาร์ทอัพด้านความปลอดภัยของข้อมูลยุคใหม่แห่งปี
  • รางวัล Publisher's Choice บริษัทด้านความปลอดภัยแห่งปี
  • การบริหารความเสี่ยงบุคคลที่สามรุ่นถัดไป (TPRM)

การมอบรางวัลนี้ตอกย้ำตำแหน่งของ Cyble ในฐานะผู้บุกเบิกการแก้ปัญหาพื้นฐานของการแปลงเสียงให้กลายเป็นข้อมูลด้านภัยคุกคามที่สำคัญได้

Cyble ช่วยอำนวยความสะดวกให้ธุรกิจมีความต่อเนื่องโดยให้ข้อมูลภัยคุกคามที่เกี่ยวข้องและทันเวลาที่เกิดขึ้นบนเว็บปกติ (surface web) เว็บเฉพาะกลุ่ม (deepweb) เว็บมืด (darkweb) และอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่มีองค์กรและบุคคลเป็นเป้าหมาย บริษัทจะมอบความสามารถที่ผสานกันของข้อมูลภัยคุกคามทางไซเบอร์ บริการป้องกันความเสี่ยงดิจิทัล และการตรวจจับอาชญากรรมทางไซเบอร์และเว็บมืด Cyble Vision ซึ่งเป็นโซลูชันซอฟต์แวร์ระดับองค์กรของบริษัทจะแจ้งเตือนผู้ใช้งานด้วยบริบทที่เพียงพอเพื่อทำความเข้าใจความเสี่ยงทางไซเบอร์และจัดลำดับความสำคัญผ่านการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์และการดำเนินการด้านข้อมูลภัยคุกคาม วัตถุประสงค์สูงสุดของ Cyble คือการให้องค์กรสามารถมองเห็นช่องโหว่จากร่องรอยทางดิจิทัลได้แบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการต่อสู้กับภัยคุกคามทางไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพ

Gary S. Miliefsky ผู้จัดพิมพ์นิตยสาร Cyber Defense กล่าวว่า “Cyble ประกอบคุณสมบัติหลัก 3 ประการที่ตัดสินว่าใครจะเป็นผู้ชนะ ได้แก่ ความเข้าใจในวันนี้ถึงภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า การมอบโซลูชันที่คุ้มค่าใช้จ่าย และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ในรูปแบบที่คาดไม่ถึงซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงทางไซเบอร์และเดินนำหน้าภัยคุกคามครั้งต่อไปหนึ่งก้าว”

Manish Chachada ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Cyble กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งและขอบคุณนิตยสาร Cyber Defense สำหรับรางวัลนี้ ที่ Cyble เราเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่พัฒนาขึ้นในอุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์ และเราได้ทำงานเพื่อแก้ไขข้อกังวลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ซับซ้อนในปัจจุบันให้แก่ลูกค้าของเรา รางวัลเหล่านี้เป็นเครื่องหมายแห่งความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีต่อบริการของเรา และในช่วงเวลาที่ Cyble ยังคงก้าวเดินไปสู่จุดสูงสุด เราก็จะพยายามรักษาเป้าหมายของเราในการมอบความเท่าเทียมด้านบริการป้องกันความเสี่ยงทางดิจิทัลผ่านระบบอัตโนมัติ การวิเคราะห์มนุษย์ และนวัตกรรม”

Cyble Hawk เป็นสำนักงานบังคับคดี (LEA) และโซลูชันป้องกันภัยคุกคามของ Cyble มีเป้าหมายช่วยเหลือสำนักงานบังคับคดีและหน่วยงานของรัฐโดยเฉพาะ ในการรวบรวม วิเคราะห์ และตอบโต้ต่อการเปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอย่างมาก ๆ และยังเสริมทัพด้วยการวิเคราะห์และการวิจัย SIGINT ของ Cyble ที่อาจสร้างผลกระทบอย่างกว้างขวาง

Beenu Arora ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Cyble กล่าวว่า “เรารู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์อันทรงเกียรติและเป็นที่ปรารถนามากที่สุดในโลกจากนิตยสาร Cyber Defense และเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของงานซึ่งจัดขึ้นโดย CDM และขอแสดงความยินดีกับนิตยสารเนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี ในฐานะผู้ให้บริการข่าวและข้อมูลความปลอดภัยทางไซเบอร์อิสระ เราทราบว่าการแข่งขันเป็นไปอย่างยากลำบาก และกรรมการต่างก็เป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับต้น ๆ ด้านความปลอดภัยของข้อมูลจากทั่วโลก เราจึงยิ่งยินดีเป็นอย่างยิ่งกับการได้รับรางวัลเหล่านี้”

เกี่ยวกับ Cyble

Cyble เป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์การป้องกันภัยคุกคามระดับโลกที่ช่วยให้องค์กรปกป้องตนเองจากอาชญากรรมทางไซเบอร์และการเผชิญกับเว็บปกติ (surface web) เว็บเฉพาะกลุ่ม (deepweb) และเว็บมืด (darkweb) ความตั้งใจหลักของบริษัทคือการทำให้องค์กรต่าง ๆ สามารถมองเห็นร่องรอยความเสี่ยงทางดิจิทัลแบบเรียลไทม์ได้ Cyble ได้รับการสนับสนุนจาก Blackbird Ventures, Xoogler และ Y Combinator ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้สนับสนุนในฤดูหนาวปี 2564 Cyble ยังได้รับการยอมรับจากนิตยสาร Forbes ให้เป็นหนึ่งใน 20 อันดับแรกของบริษัทสตาร์ทอัพด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ดีที่สุด และรางวัลชื่นชมในสาขาอื่น ๆ อีกหลายรายการ Cyble มีสำนักงานใหญ่อยู่ในรัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา และมีสำนักงานในออสเตรเลีย สิงคโปร์ และอินเดีย และยังมีสาขาอยู่ทั่วโลกอีกด้วย เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Cyble ได้ที่ www.cyble.com

เกี่ยวกับ CDM InfoSec Awards

งานนี้เป็นการประกาศรางวัลเกียรติยศให้แก่ผู้ออกแบบนวัตกรรมการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลระดับโลกของนิตยสาร Cyber Defense ปีที่ 10 เงื่อนไขผู้เข้าร่วมของเราได้แก่บริษัทสตาร์ทอัพ ในระยะเริ่มต้น และในระยะปลาย หรือบริษัทมหาชนในด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล (INFOSEC) ที่เชื่อว่าตนเองมีผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีมูลค่าและเป็นเอกลักษณ์ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cyberdefenseawards.com

เกี่ยวกับคณะกรรมการตัดสิน

คณะกรรมการตัดสิน ประกอบด้วย CISSP, FMDHS, CEH เหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยที่ได้รับการรับรองจะลงคะแนนโหวตตามมุมมองของตนเองโดยดูจากเอกสารที่แต่ละบริษัทยื่นบนเว็บไซต์ในขั้นตอนการสมัคร ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงเอกสารข้อมูล สมุดปกขาว ข้อมูลผลิตภัณฑ์ และตัวแปรตลาดอื่น ๆ CDM ยึดถือในหลักการที่ยืดหยุ่นเพื่อเฟ้นหาผู้ออกแบบนวัตกรรมที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์ใหม่ ๆ แทนที่จะเป็นผู้ออกแบบนวัตกรรมที่มีลูกค้าหรือเงินในธนาคารมากที่สุด CDM มักจะถามว่า “ขั้นต่อไปคืออะไร” ดังนั้นเราจึงมองหาโซลูชันการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลรุ่นใหม่

เกี่ยวกับนิตยสาร Cyber Defense

Cyber Defense Magazine เป็นแหล่งข่าวและข้อมูลความปลอดภัยทางไซเบอร์ชั้นนำสำหรับวิชาชีพด้านความปลอดภัยของข้อมูลในธุรกิจและรัฐบาล เราได้รับการจัดการและเผยแพร่โดยและสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยข้อมูลที่มีจริยธรรม ซื่อสัตย์ และกระตือรือร้น ภารกิจของเราคือการแบ่งปันความรู้ที่ทันสมัย ​​เรื่องราวในโลกแห่งความเป็นจริง และรางวัลเกี่ยวกับแนวคิด ผลิตภัณฑ์ และบริการที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ เราจัดส่งนิตยสารอิเล็กทรอนิกส์ฟรีทุกเดือนผ่านทางออนไลน์ และฉบับพิเศษเฉพาะสำหรับการประชุม RSA, CDM เป็นสมาชิกที่น่าภาคภูมิใจของ Cyber ​​Defense Media Group เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเราที่ https://www.cyberdefensemagazine.com และเยี่ยมชม https://www.cyberdefensetv.com รวมถึง https://www.cyberdefenseradio.com เพื่อดูและฟังหนึ่งในบทสัมภาษณ์ที่มีประโยชน์มากที่สุดจากผู้บริหารบริษัทที่ชนะรางวัลเหล่านี้ เข้าร่วมการสัมมนาผ่านเว็บที่ https://www.cyberdefensewebinars.com และตระหนักว่าความรู้ความปลอดภัยของข้อมูลคือพลัง

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220607006027/en/

ติดต่อ:

สื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Cyble ได้ที่
อีเมล: enquiries@cyble.com
มือถือ: +1 678 379 3241

สื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ CDM ได้ที่
ติดต่อ: Irene Noser, Marketing Executive
อีเมล: marketing@cyberdefensemagazine.com
โทรฟรี (สหรัฐอเมริกา): 1-833-844-9468
โทรระหว่างประเทศ: 1-646-586-9545
เว็บไซต์: www.cyberdefensemagazine.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Toshiba เพิ่มวงจรขับเกตมอสเฟตใหม่ 5 รายการ ที่จะช่วยลดฟุตพริ้นท์ของอุปกรณ์

Logo

– ผลิตภัณฑ์ซีรีส์ TCK42xG รองรับการเชื่อมต่อแบบหลังชนหลังของมอสเฟตชนิดที่ใช้ภายนอก –

คาวาซากิ, ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–07 มิถุนายน 2565

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) ได้เพิ่ม 5 ผลิตภัณฑ์ใหม่ในไลน์อัพของวงจรขับเกตมอสเฟต ซีรีย์ TCK42xG สำหรับอุปกรณ์มือถือ เช่น อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ในซีรีส์นี้มาพร้อมฟังก์ชันหยุดการทำงานเมื่อแรงดันเกินและฟังก์ชันควบคุมแรงดันเกตของมอสเฟตที่ใช้ภายนอกตามแรงดันขาเข้า

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220530005063/en/

Toshiba: new MOSFET gate driver ICs

Toshiba: วงจรขับเกตมอสเฟตใหม่ “ซีรียส์ TCK42xG” ที่จะช่วยลดฟุตพริ้นท์ของอุปกรณ์ (กราฟิก: Business Wire)

ผลิตภัณฑ์ใหม่ประกอบด้วย “TCK420G” สำหรับสายไฟขนาด 24V; “TCK422G” และ “TCK423G” สำหรับสายไฟขนาด 12V; “TCK424G” สำหรับสายไฟขนาด 9V และ “TCK425G” สำหรับสายไฟขนาด 5V และยังมีที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้คือ “TCK421G” สำหรับสายไฟขนาด 20V ซึ่งวางจำหน่ายในขณะนี้

ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มเข้ามา ตอนนี้ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ตระกูล TCK42xG จึงสามารถเลือกแรงดันระหว่างขั้วเกต-ซอร์สได้สองประเภท คือ 10V และ 5.6V ซึ่งครอบคลุมการใช้งานกับมอสเฟตที่มากขึ้น นอกจากนี้ ไลน์อัพดังกล่าวยังมีแรงดันตรวจจับหลายระดับสำหรับฟังก์ชันหยุดการทำงานเมื่อแรงดันเกิน ซึ่งทำให้สามารถใช้ผลิตภัณฑ์กับสายไฟขนาด 5V ถึง 24V ได้ เมื่อใช้ร่วมกับมอสเฟตแบบหลังชนหลังที่ใช้ภายนอก จึงทำให้ผลิตภัณฑ์เหมาะสำหรับใช้กำหนดค่าวงจรตัดการจ่ายไฟ (Fig.1) หรือวงจรมัลติเพลกซ์ (Fig.2) ที่มีฟังก์ชันการบล็อกกระแสย้อนกลับ ไม่เพียงเท่านั้น ด้วยวงจรอัดประจุในตัวซึ่งรองรับแรงดันขาเข้าที่กว้างตั้งแต่ 2.7V ถึง 28V แรงดันระหว่างเกตและซอรส์ของมอสเฟตแบบหลังชนหลังที่ใช้ภายนอกที่มีการทำงานเป็นพัก ๆ จึงมีความเสถียร ซึ่งทำให้สามารถสลับกระแสที่มีปริมาณมากได้

ผลิตภัณฑ์ตระกูล TCK42xG จุอยู่ในแพ็คเกจ WCSP6G[1] ซึ่งเป็นหนึ่งในแพ็คเกจที่เล็กที่สุดของอุตสาหกรรม[2] และยังคำนึงถึงการติดตั้งโดยใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าในอุปกรณ์ขนาดเล็กอย่างอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะและสมาร์ทโฟน ซึ่งช่วยลดค่าฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ลงด้วย

Toshiba ยังได้พัฒนา “ดีไซน์อ้างอิงสำหรับ “วงจรมัลติเพลกซ์” ซึ่งเป็นตัวอย่างดีไซน์สำหรับมัลติเพล็กเซอร์ที่ใช้ฟังก์ชันของ TCK42xG โดยสามารถดูได้ที่เว็บไซต์ของ Toshiba ตั้งแต่วันนี้

หมายเหตุ :
[1] แพ็คเกจชิป 1.2มม. x 0.8มม.
[2] ในบรรดาวงจรขับเกตมอสเฟต อ้างอิงจากการสำรวจของ Toshiba เมื่อเดือนมิถุนายน 2565

การใช้งาน

  • อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ (Wearables)
  • สมาร์ทโฟน
  • คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก, แท็บเลต
  • อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และอื่น ๆ

คุณสมบัติ

  • การตั้งค่าแรงดันระหว่างขั้วเกต-ซอร์ส (5.6V, 10V) ซึ่งขึ้นอยู่กับแรงดันขาเข้า พร้อมวงจรอัดประจุที่มีมาในตัว
  • ฟังก์ชันหยุดการทำงานเมื่อแรงดันเกินรองรับที่ 5V ถึง 24V
  • แรงดันขาเข้าเมื่อมีการตัดวงจรต่ำ: IQ(OFF)= 0.5μA (สูงสุด) @VIN=5V

คุณสมบัติจำเพาะหลัก

(นอกจากระบุให้เป็นค่าอื่น, T a=25°C)

หมายเลขชิ้นส่วน

TCK420G

TCK421G

[3]

TCK422G

TCK423G

TCK424G

TCK425G

แพ็คเกจ

ชื่อ

WCSP6G

ขนาด (มม.)

1.2×0.8 (ทั่วไป), t=0.35 (สูงสุด)

ช่วงการทำงาน

แรงดันขณะใช้งานขาเข้า

VIN_opr (V)

@Ta= -40

to 85°C

2.7 – 28

คุณสมบัติทางไฟฟ้า

VIN UVLO ขีดเริ่ม, VOUT ขณะลดลง

VIN_UVLO

ทั่วไป/สูงสุด (V)

@Ta= -40

to 85°C

2.0/2.5

VIN OVLO ขีดเริ่ม

VOUT ขณะลดลง

VIN_OVLO

ต่ำสุด/สูงสุด (V)

@Ta= -40

to 85°C

26.50

/28.50

22.34

/24.05

13.61

/14.91

10.35

/11.47

5.76

/6.87

กระแสโหมดสแตนด์บาย

(เมื่อไม่มีการใช้งาน)

IQ(OFF) สูงสุด (μA)

@VIN=5V, Ta= -40

to 85°C

0.5

แรงดันขับเกต

(VGATE1-VIN)

(VGATE2-VOUT)

VGS ทั้วไป (V)

@VIN=

12V/20V

10/10

10/10

10/-

5.6/-

-/-

-/-

แรงดันขับเกต

(VGATE1-VIN)

(VGATE2-VOUT)

VGS ทั่วไป (V)

@VIN=

5V/9V

10/10

10/10

10/10

5.6/5.6

5.6/5.6

5.6/-

VGS ON time

tON ทั่วไป (ms)

@VIN=5V,

CGATE1,2=

4000pF

2.9

VGS OFF time

tOFF ทั่วไป (μs)

@VIN=5V,

CGATE1,2=

4000pF

52

23

OVLO

VGS turn OFF time

tOVP ทั่วไป (μs)

@CGATE1,2=

4000pF

31

34

41

16

18

19

การตรวจสอบสินค้าและวางจำหน่าย

ซื้อออนไลน์

ซื้อออนไลน์

ซื้อออนไลน์

ซื้อออนไลน์

ซื้อออนไลน์

ซื้อออนไลน์

หมายเหตุ:
[3] ผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายแล้ว

กดลิงก์ด้านล่างเพื่อดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่
TCK420G
TCK422G
TCK423G
TCK424G
TCK425G

ตรวจสอบการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ผ่านตัวแทนจำหน่ายทางออนไลน์ได้ที่
TCK420G
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/semiconductor/where-to-buy/stockcheck.TCK420G.html

TCK422G
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/semiconductor/where-to-buy/stockcheck.TCK422G.html

TCK423G
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/semiconductor/where-to-buy/stockcheck.TCK423G.html

TCK424G
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/semiconductor/where-to-buy/stockcheck.TCK424G.html

TCK425G
https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/semiconductor/where-to-buy/stockcheck.TCK425G.html

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่น ๆ ที่กล่าวถึงในที่นี้อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ
* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาเกี่ยวกับบริการ และข้อมูลติดต่อมีความถูกต้องและเป็นปัจจุบันในวันที่ประกาศซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ระดับแถวหน้าผู้จัดหาโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และการจัดเก็บที่มีความก้าวล้ำ รวบรวมประสบการณ์และนวัตกรรมที่สะสมมากว่าครึ่งศตวรรษ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์ ระบบ LSIs และ HDD อันโดดเด่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจของเรา

พนักงานทั้ง 23,000 คนจากทั่วโลกของ TDSC มุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ของเราให้ถึงระดับสูงสุด และให้ความสำคัญกับการทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า เพื่อส่งเสริมการสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ ๆ ร่วมกัน ด้วยยอดขายต่อปีที่สูงกว่า 8.5 แสนล้านเยน (7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในขณะนี้ TDSC หวังที่จะได้มีส่วนสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับผู้คนทั่วโลก
ดูเพิ่มเติมที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220530005063/en/

ติดต่อ:

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับลูกค้า
ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์สัญญาณขนาดเล็ก
โทร: +81-44-548-2215
Contact Us

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อ:
Chiaki Nagasawa
ฝ่ายการตลาดดิจิทัล
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

TDCX Thailand เปิดตัวโครงการฝึกอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับตัวแทนด้วยทักษะที่จำเป็นในปี 2025

Logo

มุ่งพัฒนาบุคลากรให้พร้อมรับบทบาทผู้นำ

กรุงเทพฯ–(บิสิเนส ไวร์)–06 มิ.ย. 2022

TDCX Thailand ผู้ให้บริการโซลูชันประสบการณ์ดิจิทัลแก่ลูกค้าสำหรับเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมและบริษัทบลูชิพอื่นๆ ประกาศเปิดตัวโครงการฝึกอบรมความเป็นผู้นำเพื่อเพิ่มทักษะให้กับผู้เชี่ยวชาญด้านประสบการณ์ลูกค้าในด้านความคิดเชิงวิพากษ์ การแก้ปัญหา และความคล่องตัว ทักษะเหล่านี้เป็นทักษะอันดับต้นๆ ที่จำเป็นในปี 2025 ตามที่ระบุไว้ในรายงานของ World Economic Forum1

โปรแกรมกำลังเปิดตัวในขณะที่การนำเทคโนโลยีมาใช้เร่งความเร็วขึ้นหลังจากเกิดการระบาดใหญ่และความคาดหวังของลูกค้าในการแก้ไขปัญหาที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

โปรแกรมการฝึกอบรมของ TDCX Thailand จะช่วยให้พนักงานมีทักษะและความรู้ในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น โดยเพิ่มทักษะที่จำเป็นเพื่อให้สามารถปรับตัวให้เข้ากับอนาคต  นอกจากนี้ยังจะปลูกฝังทักษะความเป็นผู้นำและการจัดการเพื่อเตรียมพนักงานให้พร้อมสำหรับบทบาทของผู้อาวุโสที่สูงขึ้น

ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการจัดฝึกอบรมคือ FLASH Learn แพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัลของ TDCX.  FLASH Learn เป็นโปรแกรมแบบโต้ตอบที่นำหลักการ gamification มาใช้ในการฝึกอบรมที่ปรับตามความต้องการและความเร็วในการเรียนรู้ของพนักงาน  สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจาก TDCX นำแนวทางการทำงานแบบไฮบริดมาใช้ จากการศึกษาพนักงาน 71 เปอร์เซ็นต์คาดหวังอยากใช้งานแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์เพื่อพัฒนาทักษะได้ตามสะดวกเมื่อต้องทำงานทางไกล  การใช้การเรียนรู้ออนไลน์ยังช่วยให้บริษัทได้วิเคราะห์ว่าพนักงานตอบสนองต่อการฝึกอบรมอย่างไร เพื่อให้สามารถปรับปรุงระบบต่อไปได้

โปรแกรมจะรวมการฝึกอบรมแบบตัวต่อตัวเพื่อพนักงานบรรลุผลการเรียนรู้ที่ต้องการและนำไปใช้ในบทบาทของพวกเขา พนักงานจะใช้เวลาทั้งหมด 40 ชั่วโมงเพื่อเสร็จสิ้นโปรแกรมการฝึกอบรม  นอกเหนือจากการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับบทบาทของพวกเขา ในปี 2021 พนักงาน TDCX Thailand ใช้เวลาฝึกอบรมโดยเฉลี่ย 59 ชั่วโมง

หลังจากเสร็จสิ้นโปรแกรมการฝึกอบรม พนักงานจะได้รับการฝึกสอน ความเป็นผู้นำ และความสามารถในการบริหารจัดการ จากนั้นพนักงานจะนำทักษะเหล่านี้ไปปฏิบัติจริงผ่านการฝึกอบรมภาคปฏิบัติ โดยพวกเขายังจะมีโอกาสได้รับบทบาทระดับสูงขึ้นอีกด้วย

ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ TDCX Thailand ในการดูแลบุคลากร

ความคิดริเริ่มดังกล่าวตอกย้ำความมุ่งมั่นของ TDCX Thailand ในการเร่งการก้าวหน้าด้านอาชีพของผู้คน

ประเทศไทยมีความสำคัญในเครือข่ายศูนย์จัดส่งของ TDCX ในเอเชีย ยุโรป และละตินอเมริกา โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในขณะที่บริษัทจับตาดูประเทศ CLMV ที่เติบโตอย่างรวดเร็วของกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม (CLMV)

TDCX Thailand ได้เห็นความต้องการบริการด้านประสบการณ์ลูกค้าที่เพิ่มขึ้นซึ่งต้องการเจ้าของภาษาจากตลาดเหล่านั้น  ณ สิ้นปี 2021, TDCX Thailand เพิ่มจำนวนตัวแทนเป็นสองเท่าและมีรายได้เพิ่มขึ้น 32% จากปีที่แล้ว

Ms Angie Tay ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการและรองประธานบริหาร สิงคโปร์ ไทย จีน และเกาหลี กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นสถานที่ที่น่าสนใจสำหรับการให้บริการลูกค้า เนื่องจากมีพนักงานที่มีทักษะและความสามารถมากมาย และเป็นประตูสู่ตลาด CLMV  ในขณะที่บริษัทจำนวนมากขึ้นมองหาโอกาสจาก CLMV และตลาดที่กำลังเติบโตของประเทศไทย เราคาดว่าความต้องการบริการของเราจะเพิ่มขึ้น  ความต้องการดังกล่าวคาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากบริษัทเศรษฐกิจใหม่ที่มีการเติบโตสูง ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะมีทรัพย์สินน้อย และต้องการการสนับสนุนจากพันธมิตร เช่น TDCX ที่สามารถมอบผลลัพธ์ประสบการณ์ลูกค้าที่มีคุณภาพและปรับขนาดได้อย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองความต้องการในการขยายธุรกิจ

“เพื่อให้แน่ใจว่าเราอยู่ในตำแหน่งที่จะสามารถตอบสนองความต้องการนี้ เรากำลังเพิ่มทักษะพนักงานในประเทศไทยในเชิงรุก เพื่อให้พวกเขาพร้อมที่จะทำงานที่ซับซ้อนเพื่อตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น สิ่งนี้จะช่วยให้เราบรรลุวัตถุประสงค์สองประการ: เพื่อสนับสนุนลูกค้าของเราในการส่งมอบระดับความพึงพอใจของลูกค้าในระดับสูง และเพื่อให้พนักงานของเรามีอาชีพที่เติมเต็ม

หนึ่งในพนักงานของ TDCX ที่ได้รับประโยชน์จากโปรแกรมการฝึกอบรมก่อนหน้านี้คือ คุณอรณิชา ยมดี หัวหน้าทีมของทีมไทย เธอเข้าร่วมบริษัทในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านปฏิบัติการชุมชนเมื่อสองปีก่อน และปัจจุบันเป็นหัวหน้าทีม

“แม้ว่าฉันจะเพิ่งเข้าร่วม TDCX เมื่อสองปีที่แล้ว ฉันได้รับโอกาสให้มีบทบาทที่หลากหลายและได้เพิ่มพูนทักษะของฉันในทุกขั้นตอนของการทำงาน  ฉันได้รับการฝึกอบรมที่จำเป็นเพื่อมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงสิ่งที่จำเป็นต่อการประสบความสำเร็จในบทบาทนี้

“เมื่อฉันได้รับประสบการณ์มากขึ้น ฉันได้ทราบว่ามีความแตกต่างระหว่าง 'ตัวแทนระดับสูง' ที่เชี่ยวชาญในการจัดการคำถามของลูกค้าและหัวหน้าทีม  นอกจากการมีความรู้ด้านผลิตภัณฑ์แล้ว ยังต้องสามารถคิดอย่างมีวิจารณญาณ สอนสมาชิกในทีม และแก้ปัญหาได้ด้วย การฝึกอบรมที่ฉันได้รับได้เปิดใจและแสดงให้ฉันเห็นว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพการงานของฉัน  วันนี้ ฉันภูมิใจที่จะบอกว่าทักษะที่ฉันได้รับและการสนับสนุนจากผู้จัดการทำให้ฉันได้กลายเป็นหัวหน้าทีมแล้ว และฉันก็ตั้งตารอที่จะเป็นที่ปรึกษาเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ของฉันกับเพื่อนร่วมงาน”

เกี่ยวกับ TDCX Inc.

TDCX ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ ให้บริการโซลูชั่น CX ดิจิทัลเพื่อช่วยให้แบรนด์ชั้นนำระดับโลกสามารถแสวงหาลูกค้าใหม่ สร้างความภักดีของลูกค้า และปกป้องชุมชนออนไลน์ของพวกเขา

TDCX ช่วยให้ลูกค้าบรรลุแรงบันดาลใจในการสร้างประสบการณ์ของลูกค้าโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี ความฉลาดของมนุษย์ และเครือข่ายทั่วโลก  บริษัทให้บริการลูกค้าในด้านฟินเทค เกม เทคโนโลยี การแบ่งปันที่บ้านและการเดินทาง การโฆษณาดิจิทัลและโซเชียลมีเดีย การสตรีมและอีคอมเมิร์ซ  ความเชี่ยวชาญและเครือข่ายที่แข็งแกร่งของ TDCX ในเอเชียทำให้ TDCX เป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้สำหรับลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทเศรษฐกิจใหม่ที่มีการเติบโตสูง โดยมองหาศักยภาพในการเติบโตของภูมิภาค

ความมุ่งมั่นของ TDCX ในการมอบผลลัพธ์เชิงบวกให้กับลูกค้าของเรานั้นขยายไปถึงบทบาทในฐานะพลเมืองที่มีความรับผิดชอบ โครงการความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรมุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงชีวิตของประชาชน ชุมชน และสิ่งแวดล้อมในเชิงบวก

TDCX มีพนักงานมากกว่า 15,000 คนในวิทยาเขต 26 แห่งทั่วโลก โดยเฉพาะสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ จีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินเดีย โรมาเนีย สเปน และโคลัมเบีย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม www.tdcx.com:

1 ที่มา: The Future of Jobs Report, 2020, World Economic Forum. https://www3.weforum.org/docs/WEF_Future_of_Jobs_2020.pdf

2 ที่มา: The Future of work: From remote to hybrid, Capgemini. https://www.capgemini.com/wp-content/uploads/2020/12/Report-The-Future-of-Work.pdf

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news /home/20220605005112/th/

ติดต่อ:

สอบถามข้อมูล:
Eunice Seow, eunice.seow@tdcx.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Hillstone Networks มอบความคล่องตัวทางไซเบอร์ให้กับลูกค้าผ่านผลิตภัณฑ์โซลูชันที่แข็งแกร่ง

Logo

Hillstone Networks เป็นผู้สนับสนุนงาน RSAC ที่ มอสคอน เซ็นเตอร์ ซานฟรานซิสโก วันที่ 7-9 มิถุนายน ินี้

ซานตาคลารา, แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–08 มิถุนายน 2565

Hillstone Networks ผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชันการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่และสามารถเข้าถึงได้ ประกาศการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เรียบง่ายทั่วโลก ซึ่งจะมอบความคล่องตัวทางไซเบอร์ ช่วยรักษาความปลอดภัยสินทรัพย์ที่สำคัญจากการโจมตีทางไซเบอร์ที่ซับซ้อนหลากหลาย และป้องกันพื้นที่การโจมตีที่เพิ่มขึ้น

พนักงานและเวิร์กโหลดในปัจจุบันต้องการความยืดหยุ่น คุณภาพของการบริการ และเหนือสิ่งอื่นใดคือการป้องกัน โซลูชันการรักษาความปลอดภัยต้องมีความยืดหยุ่นอย่างเท่าเทียมกันและส่งมอบความสามารถในการแก้ไขและรับมือกับปัญหาทางไซเบอร์ระดับองค์กร โซลูชัน Hillstone Networks ได้พัฒนาจากแพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยเครือข่ายไปเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพแข็งแกร่งที่มอบความคล่องตัวทางไซเบอร์ ตั้งแต่หน่วยประมวลผลที่ใกล้ต้นทางที่สุด (edge) ไปจนถึงระบบคลาวด์ ขั้นตอนทุกอย่างระหว่างทาง ไปจนถึงลูกค้ากว่า 23,000 ราย ทั่วโลก โดยโซลูชันนี้จะรวมอยู่ในรายงานประเมิน Magic Quadrant ของ Gartner สำหรับ Enterprise Firewalls เป็นเวลา 8 ปีติดต่อกัน

Hillstone จะนำเสนอโซลูชันที่หลากหลายในโครงการต่าง ๆ ในงาน RSAC 2022 ในซานฟรานซิสโก ดังนี้

  • SD-WANHillstone Secure SD-WAN จะรักษาความปลอดภัยเครือข่ายไร้พรมแดนในปัจจุบันด้วยความสามารถในการมองเห็นและการบังคับใช้ที่ละเอียดไปยังการโต้ตอบทั้งหมดในทุกจุดเข้าใช้งานเครือข่าย พร้อมความสามารถในการเจาะลึกเพิ่มเติมในผู้ใช้ อุปกรณ์ และพฤติกรรมการเข้าใช้งาน
  • ZTNAโซลูชัน ZTNA ของ Hillstone จะรักษาความปลอดภัยการเข้าถึงระยะไกลสำหรับการทำงานจากทุกที่ในปัจจุบัน หรืออุตสาหกรรมที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวดด้วยข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ซึ่งจำเป็นต้องรักษาความปลอดภัยขอบเขตขอบที่กำลังพัฒนา การควบคุมการเข้าถึงแบบละเอียดจะช่วยบังคับการใช้สิทธิ์ได้อย่างแม่นยำจากทุกที่หากจำเป็น
  • MicrosegmentationHillstone CloudHive จะปกป้องแอปพลิเคชันแบบ cloud-native และ cloud-based ให้แก่ทีม dev/ops ที่พึ่งพาการพกพาแอปพลิเคชันและไมโครเซอร์วิส และผู้ให้บริการคลาวด์ที่การเช่าหลายรายการอาจมีความเสี่ยงโดยไม่มีการแบ่งกลุ่มหรือแยกการเข้าถึงเครือข่าย การสนับสนุนสำหรับทั้ง VMware และ OpenStack ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายข้ามแพลตฟอร์มบนระบบคลาวด์ได้
  • CWPPHillstone CloudArmour จะปกป้องแอปพลิเคชันระบบคลาวด์ที่ทำงานในสภาพแวดล้อมแบบสาธารณะหรือระบบคลาวด์หลายระบบ โดยผสานเข้ากับสภาพแวดล้อมและกระบวนการ CI/CD และ DevOps ที่มีอยู่ พร้อมความสามารถในการมองเห็นแอปพลิเคชันแบบ full-stack ปกป้องโฮสต์ Bare Metal เครื่องจักรเสมือน คอนเทนเนอร์ และเวิร์กโหลดแบบไร้เซิร์ฟเวอร์
  • NDRHillstone sBDS จะนำเสนอการตรวจสอบเครือข่ายอย่างต่อเนื่องด้วยแพลตฟอร์มการตรวจจับและตอบโต้เครือข่ายที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งรวบรวมข้อมูลการรับส่งข้อมูลเครือข่าย ใช้การวิเคราะห์พฤติกรรมและ AI/ML และมอบข้อมูลเชิงลึกให้กับทีมรักษาความปลอดภัยจากมุมมองเดียว
  • XDRHillstone iSource จะรวบรวมกิจกรรมหลักทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วย การตรวจจับภัยคุกคาม การสอบสวน การตอบโต้ และการค้นหาภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ในแพลตฟอร์มเดียว และรับการมองเห็นที่ครอบคลุมในข้อมูลภัยคุกคามที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจากอุปกรณ์ปลายทาง แอปพลิเคชัน เครือข่าย และอุปกรณ์ความปลอดภัย รวมถึงอุปกรณ์ของบุคคลที่สาม

“Tim Liu ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและผู้ร่วมก่อตั้ง Hillstone Networks กล่าวว่า “ความคล่องตัวทางไซเบอร์คือความสามารถของโครงสร้างพื้นฐานในการฝ่าฟันปัญหาจากการโจมตีได้อย่างทันท่วงทีและกลับสู่สภาพปกติอย่างรวดเร็ว โครงสร้างพื้นฐานทางไซเบอร์ที่คล่องตัวจะเปลี่ยนการรักษาความปลอดภัยแบบดั้งเดิมซึ่งไม่ยืดหยุ่น คงที่ และใช้งานไม่ได้ ให้กลายเป็นแผนการรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยและคล่องตัว ซึ่งจะปรับเปลี่ยน เคลื่อนที่ และใช้งานได้จริง นี่คือวิสัยทัศน์ของ Hillstone และสะท้อนให้เห็นในโซลูชันที่เรานำเสนอสู่ตลาด”

“Will Townsend รองประธานและหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ด้านนโยบายปฏิบัติด้านเครือข่ายและความปลอดภัย ของ Moor Insights & Strategy กล่าวว่า “สภาพแวดล้อมโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีทั่วไปในปัจจุบันส่วนใหญ่จะมีการแยกส่วนอยู่แล้ว และนำเสนอความท้าทายที่ซับซ้อนในแง่ของความปลอดภัย ผมเชื่อว่า Hillstone Networks นำเสนอชุดโซลูชันความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ได้รับการปรับปรุงด้วย AI/ML ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีความสามารถในการมองเห็น ง่ายต่อการปรับใช้ และลดความซับซ้อนในการจัดการอย่างต่อเนื่องผ่านการบูรณาการเข้ากับกรอบการทำงาน SecOps ปัจจุบัน”

เกี่ยวกับ Hillstone Networks

โซลูชันนวัตกรรมการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เข้าถึงได้ของ Hillstone Networks ได้เปลี่ยนรูปแบบการรักษาความปลอดภัยขององค์กร สร้างความคล่องตัวทางไซเบอร์พร้อมลดต้นทุนการเป็นเจ้าของ ด้วยการมอบความสามารถในการมองเห็นอย่างครอบคลุม ความอัจฉริยะที่เหนือกว่า และการป้องกันที่รวดเร็วในตรวจดู ทำความเข้าใจ และดำเนินการกับภัยคุกคามทางไซเบอร์แบบหลายชั้นและหลายขั้นตอน Hillstone ได้รับการจัดอันดับอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจจากนักวิเคราะห์ชั้นนำและได้รับความเชื่อถือจากบริษัทระดับโลก ศึกษาเพิ่มเติมที่ www.hillstonenet.com

ติดต่อ:

สื่อ 
Zeyao Hu 
+1 4085086750 
inquiry@hillstonenet.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ICCPP ODM+ เปิดตัวโซลูชันขดลวดเซรามิกแบบใช้แล้วทิ้งและใช้งานหลายประเภท ซึ่งเป็นผลมาจากกลยุทธ์การวิจัยและพัฒนาดิจิทัล

Logo

เบอร์มิงแฮม, อังกฤษ–(BUSINESS WIRE)–31 พฤษภาคม 2565

ICCPP เปิดตัวโซลูชันขดลวดเซรามิกเต็มรูปแบบ ซึ่งประกอบด้วย ขดลวดเซรามิกแบบใช้แล้วทิ้งที่งาน Vaper Expo UK ในเบอร์มิงแฮมเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2565 ผลิตภัณฑ์นี้เป็นผลิตภัณฑ์ในหมวดหมู่ใหม่ที่ได้รับการสนับสนุนผ่านกลยุทธ์ “Digital Transformation” หรือการนำเทคโนโลยีและกลยุทธ์ทางดิจิทัลเข้ามาใช้ในธุรกิจ ซึ่งถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ในอุตสาหกรรมบุหรี่ไฟฟ้าทั่วโลก

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220528005017/en/

(Photo: Business Wire)

(ภาพ: Business Wire)

เป็นครั้งแรกที่ ICCPP ร่วมจัดแสดงสินค้าเป็นกลุ่มและนำเสนอโซลูชันแบรนด์ ODM+ และโซลูชันขดลวดเซรามิกเต็มรูปแบบ ขดลวดเซรามิกของ ICCPP จะถูกผสานเข้ากับธุรกิจ ODM+ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่มากขึ้นในอุตสาหกรรมผ่านการนำเทคโนโลยี Gene Tree มาใช้งาน ขดลวดเซรามิก ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แรกของ ICCPP ตั้งแต่การเปิดตัวกลยุทธ์ดิจิทัลร่วมกับ SAP และ PwC จะกลายเป็นเกณฑ์มาตรฐานในอุตสาหกรรมบุหรี่ไฟฟ้าทั่วโลก

ความก้าวหน้าครั้งสำคัญ กับ โซลูชันขดลวดเซรามิกสำหรับใช้แล้วทิ้งและใช้งานได้ในหลายหมวดหมู่

ในอุตสาหกรรมบุหรี่ไฟฟ้า เทคโนโลยีขดลวดเซรามิกเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของบริษัท ICCPP เริ่มมีส่วนร่วมในเทคโนโลยีขดลวดเซรามิกในปี 2562 โดยจัดตั้งทีมวิจัยและพัฒนาที่นำโดยผู้มีความสามารถจากโครงการชื่อว่า “Peacock Program” โดยมุ่งหวังที่จะประสบผลสำเร็จในระดับอุตสาหกรรมชั้นนำด้วยขดลวดเซรามิกรุ่นที่ 3 หรือ 4 และแซงหน้าคู่แข่งด้วยรุ่นที่ 5 หรือรุ่นที่ 6

ICCPP มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในเทคโนโลยีการทำให้เกิดละออง โดยนำประสบการณ์การสูบที่เป็นธรรมชาติและพึงพอใจมาสู่ลูกค้าด้วยวัสดุนาโนคริสตัลไลน์ (NC) และนวัตกรรมทางเทคนิค เทคโนโลยีการทำให้เกิดละอองเซรามิกด้วยวัสดุนาโนคริสตัลไลน์ของ ICCPP มีการปรับรูปแบบข้อมูลของขดลวดให้เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มความแข็งแกร่งด้านการวิจัยและพัฒนาของทีมเพื่อแก้ไขปัญหาในอุตสาหกรรมขดลวดสำหรับบุหรี่ไฟฟ้า ตั้งแต่ฟิล์มหนาไปจนถึงฟิล์มบาง จากการให้ความร้อนด้วยลวดและการให้ความร้อนที่พื้นผิว ไปจนถึงการให้ความร้อนผ่านของแข็ง เทคโนโลยีฟิล์มบางของ Gene Tree ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่มีข้อดีทางเทคนิค 5 ประการ ได้แก่ ปราศจากผง ความปลอดภัยเพิ่มขึ้น การแยกเป็นละอองละเอียดยิ่งขึ้น อายุการใช้งานยาวนานขึ้น และรสชาติดีขึ้น

จากความพยายามอย่างต่อเนื่องของทีมวิจัยและพัฒนา ICCPP จึงเปิดตัวเทคโนโลยีฟิล์ม Gene Tree รุ่นใหม่ และมีการขออนุญาตใช้งานผลิตภัณฑ์ ซึ่งเมื่อเทียบกับขดลวดเซรามิกรุ่นที่ 3 ขดลวดรุ่นใหม่นี้ได้ปรับปรุงรสชาติ เพิ่มอายุการใช้งานของขดลวด และเพิ่มความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การสูบที่เป็นธรรมชาติและน่าพึงพอใจ

ICCPP จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์แบบใช้แล้วทิ้งซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยีเซรามิกของ Gene Tree และคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น รสชาติที่ติดทนนาน สูบได้นานมากขึ้น รสชาติที่ดีขึ้น และความน่าเชื่อถือที่สูงขึ้น โดยจะปฏิวัติประสบการณ์การใช้งาน กระตุ้นการปฏิวัติในอุตสาหกรรม และทำให้กลายเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรม

“นวัตกรรมดิจิทัล + เทคโนโลยี” เพื่อให้บริการโซลูชันดิจิทัล ODM +

ข้อดีหลัก ๆ ของ ICCPP ในระดับเทคนิคมาจากการลงทุนมหาศาลในด้านนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ICCPP ได้ประกาศเปิดตัวโครงการนำเทคโนโลยีและกลยุทธ์ทางดิจิทัลเข้ามาใช้ในธุรกิจ หรือ “Digital Transformation Project” อย่างเป็นทางการที่สำนักงานใหญ่ในเซินเจิ้น กลายเป็นบริษัทรายใหญ่รายแรกของโลกในอุตสาหกรรมบุหรี่ไฟฟ้าที่ร่วมมือกับ SAP และ PwC ความพยายามนี้ชี้ให้เห็นว่า ICCPP จะนำพาอุตสาหกรรมไปสู่ขั้นตอนของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล

กลยุทธ์ดิจิทัลหมายถึงนวัตกรรมด้านดิจิทัลทั้งหมดของบริษัทที่ผสานรวมกับการวิจัยและพัฒนา การผลิต การส่งออก การตลาดในต่างประเทศ ฯลฯ ในอนาคต ICCPP จะสร้าง “ระบบควบคุมวงปิดแบบดิจิทัล” ที่ไม่เคยมีมาก่อน รวมถึงความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลแบบใหม่ผ่านการสร้างสรรค์งานวิจัยและพัฒนาด้านดิจิทัล การผลิตแบบดิจิทัล การตลาดแบบดิจิทัล และประสบการณ์การสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภคผ่านทางดิจิทัล โหมด “นวัตกรรมดิจิทัล + เทคโนโลยี” จะสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันของ ICCPP ซึ่งประกอบด้วย การเปลี่ยนเป็นระบบดิจิทัล + ชิป, การเปลี่ยนเป็นระบบดิจิทัล + กลิ่น และการเปลี่ยนเป็นระบบดิจิทัล + การผลิตอัจฉริยะ “บริษัทจะขับเคลื่อนการพัฒนาผ่านระบบดิจิทัล และสร้างมูลค่าใหม่ผ่านระบบดิจิทัล” ผ่านการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระบบดิจิทัล โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะนำคุณูปการที่มากขึ้นมาสู่อุตสาหกรรมและผู้บริโภคทั่วโลก

เพื่อพัฒนาขดลวดเซรามิก ICCPP ได้จำลองเอฟเฟกต์การทำให้เกิดละอองอย่างรวดเร็วโดยการตั้งค่าแบบจำลองข้อมูลและการป้อนพารามิเตอร์ เช่น อินเทอร์เฟสและขนาด เพื่อค้นหาการกำหนดค่าที่เหมาะสมที่สุดโดยไม่ต้องมีการผลิตตัวอย่างสินค้า ซึ่งจะช่วยเร่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการส่งมอบ ปัจจุบัน ICCPP มีแผนระยะยาวสำหรับผลิตภัณฑ์ขดลวดเซรามิกแบบรีฟิลและแบบใช้แล้วทิ้ง และได้บรรลุความตั้งใจในการร่วมมือกับลูกค้ารายใหญ่ในต่างประเทศอย่างน้อย 5 รายแล้ว

พันธกิจของบริษัทที่กำลังดำเนินการอยู่คือการส่งเสริมลูกค้าทั่วโลกด้วยนวัตกรรมทางเทคนิค

ICCPP ทราบดีว่าลูกค้าในยุคนี้ไม่ต้องการ ODM แบบเดิม ๆ อีกต่อไป แต่ต้องใช้แบรนด์ ODM+ ดังนั้น บริษัทจึงได้ริเริ่มความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ใหม่ที่มีการผสมผสานประเด็นต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ได้แก่ ตำแหน่งทางการตลาดของแบรนด์ ข้อมูลเชิงลึกของผู้ใช้ การออกแบบผลิตภัณฑ์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการหลังการขาย เพื่อเป็นแนวทางให้ลูกค้าเปิดรับการปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ในยุคใหม่

ประการแรก ICCPP สัญญาว่าจะให้บริการลูกค้าด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด และมอบเทคโนโลยีที่เหมือนกันหรือดีกว่าให้กับลูกค้าภายใต้แบรนด์ของ ICCPP ประการที่สอง ICCPP จะแบ่งปันเทคโนโลยีล้ำสมัยทั้งหมดให้กับห่วงโซ่อุตสาหกรรมทั้งหมดผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ซึ่งได้แก่ ห้องแล็บและสถาบัน โรงงานระบบอัตโนมัติ ข้อมูลเชิงลึกของผู้ใช้ในต่างประเทศ และบริการการตลาดทั่วโลก ความเชื่อมั่นของ ICCPP มาจากประสบการณ์ในต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จและร่ำรวย และความสามารถในการให้บริการแบบครบวงจรแก่ลูกค้า ICCPP มุ่งมั่นที่จะสร้างแพลตฟอร์มระดับโลก 2 แพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับลูกค้า ได้แก่ แพลตฟอร์มเทคโนโลยีบุหรี่ไฟฟ้าที่คล้ายกับ Android ซึ่งเปิดให้เข้าถึงอย่างกว้างขวาง และแพลตฟอร์มโลกาภิวัตน์จากประสบการณ์ในต่างประเทศหลายปี

ในฐานะที่เป็นหมวดหมู่ด้านกลยุทธ์แรกหลังการอัปเกรดเป็นระบบดิจิทัล โซลูชันขดลวดเซรามิกสามารถปรับให้เข้ากับกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมดได้ โดยถูกออกแบบให้สร้างหมวดหมู่ใหม่สำหรับบุหรี่ไฟฟ้า ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน และนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่โครงสร้างตลาดผ่านการใช้งานเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุดในอุตสาหกรรม ในอีกด้านหนึ่ง ธุรกิจ ICCPP ODM+ จะได้รับการอัปเกรดแบบดิจิทัลและอัปเกรดประสิทธิภาพของระบบปฏิบัติการทั้งหมดที่ผสานรวมกับการสำรวจตลาด การวิจัยและพัฒนา การออกแบบผลิตภัณฑ์ การสั่งซื้อ การส่งมอบ และบริการหลังการขาย ในทางกลับกัน แพลตฟอร์มนี้จะสร้างความร่วมมือเชิงลึกกับลูกค้าทั่วโลกในการแก้ปัญหาขดลวดเซรามิก กระทั่งตอนนี้ ICCPP ได้บรรลุถึงความตั้งใจที่จะร่วมมือในเทคโนโลยีขดลวดเซรามิกนี้กับลูกค้ารายใหญ่ในต่างประเทศจำนวนมาก ICCPP คาดว่าจะสร้างความประหลาดใจให้กับลูกค้าทั่วโลกและปรับโครงสร้างการตลาดในอนาคต

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220528005017/en/

ติดต่อ:

สื่อมวลชนสัมพันธ์: Tingkai Xu, ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์
มือถือ: 15957944779
อีเมล: kai@voopootech.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย