Tag Archives: mary

Mary Kay Ash Foundation℠ เฉลิมฉลองห้าปีสำหรับการสร้างอนาคตในการวิจัยโรคมะเร็ง โดยร่วมมือกับ UT Southwestern Medical Center

Logo

DALLAS–(BUSINESS WIRE)–7 พฤศจิกายน 2023

The Mary Kay Ash Foundation℠ ผู้นำและผู้สนับสนุนการค้นหาวิธีการรักษาโรคมะเร็งที่มีผลต่อสุขภาพของผู้หญิงมานานหลายทศวรรษ และ UT Southwestern Medical Center ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์การแพทย์เชิงวิชาการชั้นนำของประเทศในเมือง Dallas, Texas ร่วมเฉลิมฉลองห้าปีแห่งความสำเร็จในการทำงานร่วมมือกันในโครงการ International Postdoctoral Scholars in Cancer Research Fellowship ซึ่งทุนนี้จัดขึ้นที่ Harold C. Simmons Comprehensive Cancer Center ที่ UT Southwestern Medical Center โดยเป็นโครงการปริญญาเอกสองปีที่ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation

International Postdoctoral Scholars in Cancer Research, Class of 2023. Back Row: Dongqi Xie, Ph.D. (left), Principal Investigator Jerry Shay, Ph.D. (middle), Pedro Nogueira, Ph.D. (right); Front Row: Debora Andrade Silva, Ph.D. (left), Hong-Yi Liu, Ph.D. (middle), and Maria Del Chica Parrado, Ph.D. (right). (Photo: Mary Kay Inc.)

ทุนระดับปริญญาเอกระดับนานาชาติในการวิจัยโรคมะเร็ง ชั้นปี 2023 แถวหลัง: Dongqi Xie, Ph.D. (ซ้าย), Principal Investigator Jerry Shay, Ph.D. (กลาง), Pedro Nogueira, Ph.D. (ขวา); แถวหน้า: Debora Andrade Silva, Ph.D. (ซ้าย), Hong-Yi Liu, Ph.D. (กลาง) และ Maria Del Chica Parrado, Ph.D. (ขวา) (ภาพถ่าย: Mary Kay Inc.)

โปรแกรมนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2019 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรับสมัครนักวิจัยจากประเทศต่างๆ ที่โดดเด่นในสาขาของตน แบ่งปันประสบการณ์อันล้ำค่า ให้คำปรึกษา และมอบทุนตอบแทนเพื่อสนับสนุนการแสวงหาความรู้ต่อไปในประเทศบ้านเกิด โดยนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปต่อยอด

จนถึงปัจจุบัน โครงการนี้ประสบความสำเร็จในการสรรหานักวิจัยระดับปริญญาเอกที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง 13 คนจากบราซิล จีน เยอรมนี เม็กซิโก สิงคโปร์ สเปน และโปรตุเกส โดยเจ็ดคนในจำนวนนี้ประสบความสำเร็จในโครงการนี้ อีกหกคนยังคงดำเนินโครงการวิจัยของตนเองใน Dallas ต่อไป และทุกคนล้วนได้รับความสนับสนุนในการตีพิมพ์ผลงานวิจัยที่โดดเด่น

“เป็นเวลากว่าสองทศวรรษแล้วที่มูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation และ UT Southwestern Medical Center ได้ร่วมมือกันในความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อค้นหาวิธีการรักษาโรคมะเร็งที่มีผลต่อสุขภาพของผู้หญิงตลอดมา” Michael Lunceford ประธานคณะกรรมการบริหารของมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation กล่าว “ความร่วมมือของเรายังคงนำนวัตกรรมที่สำคัญมาสู่แนวหน้าเพื่อการวิจัยโรคมะเร็ง โดยขจัดอุปสรรคและสนับสนุนการแบ่งปันข้อมูลข้ามพรมแดนและทั่วโลก การค้นพบนี้จะได้รับการแบ่งปันในระดับโลกและช่วยเหลือผู้หญิงทั่วทุกมุมโลก”

ภายใต้คำแนะนำด้านความเชี่ยวชาญจาก Dr. Jerry Shay ศาสตราจารย์ด้านชีววิทยาเซลล์และโดดเด่นด้านผู้สูงอายุในสาขา Geriatrics ที่ UT Southwestern Medical Center ของ The Southland Financial Corporation โดยโปรแกรมนี้ดึงดูดและคัดเลือกผู้สมัครที่มีความโดดเด่นมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจที่จะได้บุคคลที่มีคุณสมบัติสูงจากพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่หลากหลายมาเข้าร่วม ในความพยายามเพื่อสรรหาบุคคลากรล่าสุด นักวิชาการที่โดดเด่นสองคนจะได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการคือ Debora Andrade Silva, Ph.D. จาก University of Sao Paulo ในบราซิล และ Quan Wang, Ph.D. จาก Shanghai Jiao Tong University ในจีน

“เราขอขอบคุณการลงทุนอย่างต่อเนื่องของมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation ใน UT Southwestern Medical Center และอนาคตของการวิจัยโรคมะเร็ง ด้วยการสนับสนุนของมูลนิธิ เราสามารถดึงดูดผู้สมัครระดับแนวหน้าจากประเทศต่างๆ นำเสนอสิ่งอำนวยความสะดวกล้ำสมัยของเราในการทำงานร่วมกับที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และสร้างสรรค์ความก้าวหน้าด้านการวิจัยเป็นอย่างมาก” Dr. Jerry Shay กล่าว “ทุนระดับปริญญาเอกระดับโลกเปิดโอกาสให้ผู้มีความสามารถด้านการวิจัยโรคมะเร็งที่หลากหลายมีโอกาสดำเนินการวิจัยโรคมะเร็งด้วยระบบที่ล้ำสมัยที่ศูนย์มะเร็ง UT Southwestern Simmons Cancer Center และในประเทศบ้านเกิดของพวกเขา”

มูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation มีความภูมิใจในการสานต่อมรดกอันยาวนาน เพื่อสร้างสรรค์ให้โลกเป็นสถานทีที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพมากขึ้นสำหรับผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขา

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/53709537/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

The Mary Kay Ash Foundation
marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

แหล่งข้อมูล: Mary Kay Ash Foundation

หกทศวรรษแห่งการอุทิศตน: Mary Kay เผยแพร่รายงานเชิงลึกเกี่ยวกับด้านที่สำคัญต่อความยั่งยืนอย่างมีนัยสำคัญ

Logo

รายงานพิเศษเกี่ยวกับความยั่งยืน ประจำปี 2023’ เน้นย้ำผลกระทบที่มีต่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจของ Global Beauty Brand ตลอด 60 ปีที่ผ่านมา

DALLAS–(BUSINESS WIRE)–2 พฤศจิกายน 2023

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนระดับโลกด้านความยั่งยืนและการดูแลองค์กร เผยแพร่ “รายงานพิเศษเกี่ยวกับความยั่งยืน ประจำปี 2023” โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของแบรนด์ ในการยกระดับชีวิตของผู้หญิงและรับประกันอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีชองแบรนด์นี้ Mary Kay มีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความร่วมมือระดับโลกกับผู้ถือหุ้นหลัก และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนขององค์กรสหประชาชาติ เพื่อเสริมสร้างความก้าวหน้าในด้านที่สำคัญต่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ

Mary Kay details its unwavering commitment to enriching lives and ensuring a sustainable future for all in its latest report. (Asset Source: Mary Kay Inc.)

Mary Kay เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ในการยกระดับชีวิตของผู้หญิงและรับประกันอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคนในรายงานล่าสุด (แหล่งข้อมูล: Mary Kay Inc.)

“ความยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงคำคำหนึ่งสำหรับพวกเรา – แต่มีการสานต่อเป็นโครงสร้างที่สำคัญว่า เรามีจุดยืนอย่างไรในฐานะแบรนด์” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “ในขณะที่เราเฉลิมฉลองความสำเร็จของเราในปีนี้ เรายังคงมีความแน่วแน่ในภารกิจของเรา เรามุ่งมั่นที่จะมีความรับผิดชอบมากขึ้นในการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม เพื่อให้มั่นใจว่า Mary Kay ไม่เพียงเพิ่มพลังให้แก่ผู้หญิง แต่ยังมีการปกป้องบ้านที่เราอยู่ร่วมกันอีกด้วย”

ในโลกที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว Mary Kay เป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง โดยสนับสนุนพลังของผู้หญิง ในขณะเดียวกัน มีความตระหนักถึงการขับเคลื่อนที่ผู้หญิงมีส่วนสำคัญในการกำหนดเศรษฐกิจโลก และผลักดันการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญด้านความยั่งยืน รายงานประจำปี 2023 เน้นย้ำถึงโครงการริเริ่มทั่วโลกที่ขับเคลื่อนโดยผู้หญิง:

ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

  • ทรัพยากรพื้นฐานและมีค่า: น้ำ
  • พลังของผู้หญิงในการอนุรักษ์
  • แกนนำผู้หญิงในการฟื้นฟูมหาสมุทร

ความยั่งยืนทางสังคม

  • การพลิกโฉมหน้าวิทยาศาสตร์ระดับโลก
  • ปลดปล่อยศักยภาพผู้ประกอบการสตรีอย่างเต็มที่
  • ป้องกันอย่างทรงพลัง
  • เป็นผู้นำในการวิจัยโรคมะเร็งในสตรี

ความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ

  • ความหลากหลายและไม่แบ่งแยก: ผู้ขับเคลื่อนหลักในนวัตกรรมผลิตภัณฑ์
  • เพิ่มศักยภาพให้กับผู้ประกอบการสตรีกว่าล้านคนทั่วโลก
  • เป็นผู้บุกเบิกการวิจัยความเท่าเทียมทางเพศในอัลกอริทึมและปัญญาประดิษฐ์

รายงานเป็นไปตาม รายงานความยั่งยืนและผลกระทบทางสังคมประจำปี 2020-2022 ของ Mary Kay ซึ่งครอบคลุมเสาหลักสามประการของความยั่งยืน ได้แก่ เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนระดับโลกของ Mary Kay คลิก ที่นี่

เกี่ยวกับ Mary Kay

จากอดีต สู่ปัจจุบัน และตลอดไป Mary Kay Ash หนึ่งในผู้ก้าวข้ามกำแพงวัฒนธรรมดั้งเดิม และเป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์ความงามตามความฝันของเธอในเท็กซัส เมื่อปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียว นั่นคือ การทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทระดับโลกที่มีพนักงานขายอีสระหลายล้านคน ในกว่า 35 ประเทศ เป็นเวลากว่า 60 ปีแล้วที่การเปิดโอกาสของ Mary Kay ได้ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของผู้หญิงในการกำหนดอนาคตของตัวเองผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงาม และการผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อในการรักษาโลกของเราให้แก่คนรุ่นต่อไป ปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งและการละเมิดในครอบครัว และสนับสนุนให้เยาวชนได้ทำตามความฝันของพวกเขา สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราได้ที่ FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ที่ Twitter

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53711947/en

ติดต่อ

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

แหล่งข้อมูล: Mary Kay Inc.

Mary Kay Inc นำเสนอการค้นพบครั้งใหม่ของการผสานสารต้านอนุมูลอิสระ ที่สามารถลดริ้วรอยจากผลของมลพิษและริ้วรอยของวัยบนผิวได้

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–21 กันยายน 2023

Mary Kay Inc. ผู้นำด้านนวัตกรรมการดูแลผิวระดับโลก ได้เปิดเผยผลการวิจัยครั้งยิ่งใหญ่สำหรับการบำบัด ที่ช่วยลดริ้วรอยที่เป็นผลจากมลพิษและริ้วรอยของวัยบนผิวมนุษย์ได้ Mary Kay ได้แบ่งปันงานวิจัยนี้ที่การประชุม International Societies for Investigative Dermatology (ISID) โดยงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าสามารถช่วยยกกระชับผิวและลดเลือนริ้วรอย รวมถึงรอยใต้ตาตลอดช่วงการวิจัยได้อย่างมาก

“Mary Kay scientists have spent years researching the latest ingredient innovations to best defend against free radicals and help delay the onset of premature skin aging,

“นักวิทยาศาสตร์ Mary Kay ใช้เวลาหลายปีในการวิจัยนวัตกรรมของวัตถุดิบล่าสุด เพื่อป้องกันอนุมูลอิสระได้ดีที่สุดและช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนเวลาอันควร” ดร. Lucy Gildea เจ้าหน้าที่หัวหน้าด้านนวัตกรรม ของฝ่ายผลิตภัณฑ์และวิทยาศาสตร์ที่ Mary Kay กล่าว (ภาพ: Mary Kay Inc.)

“นักวิทยาศาสตร์ Mary Kay ใช้เวลาหลายปีในการวิจัยนวัตกรรมส่วนประกอบล่าสุด เพื่อป้องกันอนุมูลอิสระได้ดีที่สุดและช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยของวัยจากความเครียดที่เกิดจากสภาพแวดล้อมและไลฟ์สไตล์ เช่น ผลจากท่อไอเสียรถและมลภาวะทางอากาศ” ดร. Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์และวิทยาศาสตร์ ที่ Mary Kay กล่าว งานวิจัยนี้ยังได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร International Journal of Cosmetic Science

นักวิทยาศาสตร์ที่ Mary Kay ได้ตรวจสอบผลของมลภาวะทางอากาศบนผิวหนังผ่านความร่วมมือทางวิชาการตั้งแต่ปี 2016 จากการศึกษาครั้งก่อนมีการวิเคราะห์การตอบสนองทางชีวเคมีของเซลล์ผิวมนุษย์ต่อรูปแบบมลภาวะอันเป็นพิษที่หลากหลาย ทั้งไอเสียดีเซลและมลพิษทางอากาศในเมือง การค้นพบครั้งสำคัญเผยให้เห็นว่า การผสานสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดการตอบสนองเหล่านั้นได้

 “ไม่เหลือความกังขาอีกแล้วว่ามลภาวะทางอากาศส่งผลต่ออายุผิวจริง” ดร. Jean Krutmann ผู้บุกเบิกการแพทย์สภาพแวดล้อม ศาสตราจารย์ผิวหนังวิทยาและผู้อำนวยการของ IUF แห่ง สถาบันวิจัย Leibniz Research Institute for Environmental Medicine ใน Düsseldorf ประเทศเยอรมัน กล่าว โดยเขาเป็นผู้นำการวิจัยเพื่อค้นหาผลของมลภาวะทางอากาศบนผิวหนังมนุษย์นับตั้งแต่มีงานตีพิมพ์งานวิจัยสำคัญในปี 2010 ที่แสดงให้เห็นถึงผลกระทบของอนุภาคอากาศต่ออายุผิว

งานวิจัยที่นำเสนอที่ ISID 2023 เป็นเพียงความพยายามครั้งล่าสุดโดย Mary Kay ที่จะช่วยตอกย้ำความมุ่งมั่นอันยาวนานของแบรนด์ในการวิจัยและการพัฒนาอันก้าวหน้าของสุขภาพและความงามผิว Mary Kay มีสิทธิบัตรผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และงานออกแบบแพ็คเกจกว่า 1,600 รายการที่เป็นผลงานของบริษัท

เกี่ยวกับ Mary Kay

จากตอนนั้น ถึงตอนนี้ และตลอดไป หนึ่งในผู้ที่ทำสิ่งที่ไม่เคยมีใครคิดว่าจะทำได้ Mary Kay Ash ได้ก่อตั้งแบรนด์ความงามในฝันของเธอที่เท็กซัสในปี 1963 โดยมีเป้าหมายหนึ่งเดียวคือ เพื่อส่งเสริมชีวิตของผู้หญิง ความฝันนั้นเบ่งบานมาเป็นบริษัทระดับโลกที่มีสมาชิกการขายอิสระมากกว่า 35 ประเทศ Mary Kay ได้สร้างโอกาสและส่งเสริมผู้หญิงให้กำหนดอนาคตตัวเองผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรมมาเป็นเวลากว่า 60 ปี Mary Kay ทุ่มเทในการลงทุนวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงามและการดูแลผิวที่ล้ำสมัย เครื่องสำอางสี อาหารเสริม และเครื่องหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการรักษาโลกของเราเพื่อคนรุ่นหลัง ปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งและความรุนแรงในครอบครัว และสนับสนุนให้เยาวชนตามความฝันของพวกเขา ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com ค้นหาเราได้ที่ Facebook, Instagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ที่ Twitter

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53556797/en

รายชื่อติดต่อ

Mary Kay Inc. ฝ่ายสื่อสารบริษัท
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

ที่มา: Mary Kay Inc.

ทรงพลังยิ่ง: Mary Kay Inc. ครองตำแหน่งแบรนด์ขายตรง #1 สำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางระดับโลก

Logo

DALLAS–(BUSINESS WIRE)–5 กันยายน 2023

เติมสีสันให้ชีวิตของเรา แบรนด์ความงามอันโดดเด่นและบริษัทผู้ประกอบการระดับโลก Mary Kay Inc. ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น แบรนด์ขายตรง #1 สำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางระดับโลก* โดย Euromonitor International เราได้รับเกียรตินี้เมื่อบริษัทเฉลิมฉลอง 60 ปีในการดำเนินธุรกิจ โดยสานต่อมรดกการเสริมสร้างศักยภาพให้กับผู้หญิงจากก่อนหน้านี้ จนถึงปัจจุบัน และตลอดไป ของ Mary Kay Ash

The honor comes as the company celebrates its 60th anniversary in business, continuing Mary Kay Ash’s legacy of empowering women then, now, and always. (Graphic: Mary Kay Inc.)

เกียรติภูมิพร้อมเฉลิมฉลองบริษัทครบรอบ 60 ปีในการดำเนินธุรกิจ โดยสานต่อมรดกของ Mary Kay Ash ในการสร้างเสริมศักยภาพแก่กลุ่มผู้หญิงทั้งจากนี้และตลอดไป (ภาพ: Mary Kay Inc.)

Euromonitor International ยืนหยัดในฐานะผู้ให้บริการชั้นนำด้านข่าวกรองธุรกิจระดับโลก การวิเคราะห์ด้านการตลาด และข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค ด้วยประสบการณ์กว่า 50 ปีในการทำวิจัยตลาดกว่า 100 ประเทศ การที่ Mary Kay ได้รับการยอมรับไม่เพียงเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพที่ไม่มีใครเทียบได้ของแบรนด์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการปรากฎตัวบนเวทีระดับโลกอย่างกว้างขวางและการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

นี่เป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่จาก Euromonitor เป็นเสมือนลูกเชอรี่ประดับบนยอดเค้กวันเกิดของเรา” Nathan Moore ประธานฝ่ายขายและการตลาดทั่วโลกของ Mary Kay กล่าว “รายงานนี้กล่าวถึงความมุ่งมั่นของเราในคุณภาพและนวัตกรรม ตลอดจนถึงชุมชนที่ปรึกษาด้านความงามที่น่ายกย่องของเรา ซึ่งยังคงเป็นหัวใจหลักและแรงผลักดันของเรา ความทุ่มเทและหลงใหลเป็นตัวนำความสำเร็จก้าวผ่านอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของเราด้วยความสดใส”

Mary Kay มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาสุขภาพผิว วิจัยและพัฒนา และโภชนาการมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน แบรนด์ถือครองสิทธิบัตรกว่า 1,600 ฉบับสำหรับผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และการออกแบบบรรจุภัณฑ์ในผลงานทั่วโลก

เราเพิ่งเริ่มต้น” Moore กล่าวเสริม “แม้ว่านี่จะเป็นความสำเร็จทางธุรกิจที่โดดเด่นและบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งในแบรนด์ของเรา แต่ Mary Kay Ash ได้สอนให้เราไม่หยุดอยู่กับที่ นี่คือก้าวต่อไปในการส่งเสริม นวัตกรรม และความสำเร็จสำหรับในอีก 60 ปีข้างหน้า”

*”แหล่งข้อมูล Euromonitor International Limited; Beauty and Personal Care ฉบับปี 2023 มูลค่ายอดค่าที่ RSP ข้อมูลจากปี 2022”

เกี่ยวกับ Mary Kay

จากก่อนหน้านี้ จนถึงปัจจุบัน และตลอดไป Mary Kay Ash หนึ่งในผู้ริเริ่มฝ่ากำแพงในใจของตัวเอง ก่อตั้งแบรนด์ผลิตภัณฑ์ด้านความงามในเท็กซัสเมื่อปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือ การทำให้ผู้หญิงมีชีวิตที่ดีขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทระดับโลกที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนใน 35 ประเทศ เป็นเวลากว่า 60 ปีแล้วที่ Mary Kay สร้างโอกาสและเพิ่มขีดความสามารถของผู้หญิงในการกำหนดอนาคตของตัวเองผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรม Mary Kay ได้ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยซึ่งเป็นเบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการรักษ์โลกเพื่อคนรุ่นใหม่ ปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งและการละเมิดในครอบครัว รวมถึงสนับสนุนให้เยาวชนทำตามความฝันของพวกเขา สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราได้ที่ FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ที่ Twitter

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53547550/en

ติดต่อ

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

แหล่งข้อมูล: Mary Kay Inc.


Mary Kay ประกาศโครงการปลูกป่าปี 2023 และเฉลิมฉลอง 15 ปีสำหรับผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนร่วมกับมูลนิธิ Arbor Day

Logo

Mary Kay ตั้งเป้าหมายที่จะปลูกต้นไม้เพิ่มอีก 100,000 ต้นในปี 2023

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–22 มิถุนายน 2023

วันนี้ Mary Kay ประกาศการปลูกป่าในปี 2023 โครงการร่วมกับมูลนิธิ Arbor Day ปีนี้ Mary Kay มีกำหนดจะฉลองครบรอบ 60 ปี และยังฉลองการเป็นหุ้นส่วน 15 ปีกับ Arbor Day Foundation

In 2013, Mary Kay began supporting large-scale reforestation projects around the world including the United States, Brazil, China, Germany, Ireland, Peru, and Madagascar. Mary Kay is set to plant an additional 100,000 trees in 2023 with tree plantings in the United States, Mexico, and Spain. (Credit: Arbor Day Foundation)

ในปี 2013 Mary Kay เริ่มสนับสนุนโครงการปลูกป่าขนาดใหญ่ทั่วโลก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา บราซิล จีน เยอรมนี ไอร์แลนด์ เปรู และมาดากัสการ์ Mary Kay ตั้งเป้าที่จะปลูกต้นไม้เพิ่มอีก 100,000 ต้นในปี 2023 โดยจะปลูกต้นไม้ในสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และสเปน (เครดิต: Arbor Day Foundation)

โครงการปลูกป่าทั่วโลกในปีนี้ประกอบด้วย

  • สหรัฐอเมริกา
    • ต้นไม้ 80,000 ต้นเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูที่อยู่อาศัยที่หายากและความหลากหลายทางชีวภาพในหลายมณฑลของจอร์เจีย Longleaf pine เคยเป็นพันธุ์ไม้ที่โดดเด่นในภาคใต้ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 90 ล้านเอเคอร์ตั้งแต่เวอร์จิเนียไปจนถึงเท็กซัส ทุกวันนี้ ต้นสนใบยาวปกคลุมพื้นที่น้อยกว่า 3% ของพื้นที่เดิม การสูญเสียระบบนิเวศดังกล่าวได้ทำลายล้างสัตว์และพืชเกือบ 600 สายพันธุ์ที่ต้องพึ่งพาอาศัย ด้วยความร่วมมือกับมูลนิธิ Arbor Day และ The Nature Conservancy ต้นสนใบยาวและใบสั้นจะปลูกในพื้นที่ส่วนบุคคลและสาธารณะในจอร์เจีย เมื่อต้นไม้เติบโต พวกมันจะลดการกระจายตัวของป่าและสนับสนุนสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์และถูกคุกคาม เช่น นกหัวขวานแดง งูสีครามตะวันออก และเต่าโกเฟอร์
    • ต้นไม้ 12,000 ต้นเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูไฟป่าในป่าสงวนแห่งชาติลาสเซ็นในแคลิฟอร์เนีย Dixie Fire ลุกลามไปทั่วแคลิฟอร์เนียตอนเหนือเป็นเวลาสามเดือนที่ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุดในปี 2021 โหมกระหน่ำตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม นี่เป็นไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ของรัฐ โดยมีแผลเป็นจากการเผาไหม้กว่า 963,000 เอเคอร์ ป่าไม้ที่ถูกทำลายโดยไฟป่าอาจใช้เวลาหลายชั่วอายุคนในการกลับคืนสู่ความรุ่งเรืองในอดีต หากฟื้นตัวได้ทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ ความพยายามในการปลูกป่าอย่างเร่งด่วนและตั้งใจจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โครงการนี้มุ่งเน้นไปที่การรักษาสุขภาพของป่าสงวนแห่งชาติลาสเซ็นซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลายร้อยชนิด และมีความสำคัญต่อสุขภาพของภูมิประเทศและทะเลสาบ Almanor ที่อยู่ใกล้เคียง ต้นไม้ที่ปลูกใหม่ในบริเวณนี้จะเริ่มสร้างแหล่งที่อยู่อาศัยที่ถูกไฟไหม้ ซึ่งรวมถึงบ้านของเสือคูการ์ กระแต หมีดำ และซาลาแมนเดอร์หัวยาว เมื่อต้นไม้หยั่งรากและเติบโตเป็นยอดเต็ม ระบบรากจะป้องกันการกัดเซาะ พร้อมปรับปรุงคุณภาพน้ำในทะเลสาบ Almanor
  • เม็กซิโก
    • ต้นไม้ 4,000 ต้นเพื่อสนับสนุนการปลูกป่าอย่างยั่งยืน การฟื้นฟูแหล่งต้นน้ำ และความหลากหลายทางชีวภาพในเขตรักษาพันธุ์ผีเสื้อ Cerro Pelon ของเม็กซิโก แม้ว่าเรื่องราวการอพยพและการทำรังของผีเสื้อโมนาร์ชจะเป็นสัญลักษณ์ของเม็กซิโก แต่ตอนนี้สายพันธุ์นี้กำลังเผชิญกับความท้าทายบางอย่างที่เป็นสัญลักษณ์ของยุคสมัยของเรา ต้นโอยาเมลเฟอร์พื้นเมืองที่ผีเสื้อโมนาร์ชมักทำรัง กำลังถูกผลักให้สูงขึ้นและอุณหภูมิที่เย็นลงเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ การดำเนินการนี้นอกเหนือจากการตัดไม้และเคลียร์พื้นที่สำหรับต้นอะโวคาโดที่ทำกำไรแล้ว ยังลดพื้นที่ทำรังของพระราชาและคุกคามสายพันธุ์ที่รอดตายในระยะยาว โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างการปกคลุมต้นสนโอยาเมลในพื้นที่เหล่านี้อีกครั้ง ในขณะเดียวกันก็เป็นประโยชน์ต่อชุมชนท้องถิ่น
  • สเปน
    • ต้นไม้ 4,000 ต้นเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูไฟป่าในเมืองเบโลราโด ประเทศสเปน เนินเขาเบโลราโดเป็นพื้นที่ที่สวยงามทางตอนเหนือของสเปน อย่างไรก็ตาม ความลาดชันเหล่านี้ได้เผชิญกับไฟป่าและคลื่นความร้อนจำนวนมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ต้นไม้ที่เคยยืนต้นอยู่ที่นี่เป็นเรื่องยากที่จะหยั่งรากอีกครั้งด้วยตัวมันเอง ซึ่งทำให้ภูมิทัศน์ธรรมชาติถูกกัดเซาะมากขึ้น การปลูกต้นไม้ผลัดใบผสมกันหลายๆ ชนิดในบริเวณนี้จะช่วยยึดดินและทำให้ดินมีความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและไฟป่ามากขึ้น และสำหรับพื้นที่ชนบทที่ได้รับผลกระทบจากการย้ายถิ่นฐานจากชนบทสู่เมือง โครงการนี้จะให้งานบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องทั่วทั้งภูมิภาค

“การตัดไม้ทำลายป่าและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจทำให้เศรษฐกิจโลกเสียหายหลายพันล้านในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ความหวังของเราที่ Mary Kay คือโครงการเหล่านี้ช่วยลดผลกระทบเหล่านั้นในขณะที่ให้ที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าที่มีค่า” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc กล่าว “ป่าที่ปลูกใหม่เหล่านี้จะเติบโตและให้ทรัพยากรที่มีค่า บริการระบบนิเวศ และมรดกที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไปในอนาคต”

ความร่วมมือของ Mary Kay และ Arbor Day Foundation เริ่มขึ้นในปี 2008 และประสบความสำเร็จในเหตุการณ์สำคัญหลายประการตลอดความร่วมมือ 15 ปี:

  •  ในปี 2008 ที่ปรึกษาด้านความงามอิสระของ Mary Kay ได้เข้าร่วมในโครงการรีไซเคิลที่ซึ่งต้นไม้ถูกปลูกไว้ในป่าที่ต้องการนำวัสดุเก่าทั้งหมดมารีไซเคิล ด้วยความพยายามในการรีไซเคิลระดับประเทศโดยที่ปรึกษาด้านความงามอิสระและลูกค้า ตลอดจนพนักงานของบริษัท Mary Kay บรรลุเป้าหมายการรวบรวมคอมแพคเก่า 200,000 ชิ้น
  •  ตั้งแต่ปี 2009 ถึง 2012 ความร่วมมือของ Mary Kay กับมูลนิธิ Arbor Day Foundation ได้สนับสนุนห้องเรียน Nature Explore ในที่พักพิงสำหรับความรุนแรงในครอบครัว เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมีสถานที่ที่ปลอดภัยในการเชื่อมต่อกับธรรมชาติ
  •  ตั้งแต่ปี 2013 Mary Kay เริ่มสนับสนุนโครงการปลูกป่าขนาดใหญ่ทั่วโลก รวมถึงสหรัฐอเมริกา บราซิล จีน เยอรมนี ไอร์แลนด์ เปรู และมาดากัสการ์
  •  ในปี 2018 ขณะที่ Mary Kay ตัดริบบิ้นที่โรงงาน Richard R. Rogers Manufacturing/R&D แห่งใหม่ใน Lewisville รัฐเท็กซัส บริษัทได้ฉลองความสำเร็จในการปลูกต้นไม้หนึ่งล้านต้นด้วยการปลูกต้นไม้ในพิธีที่ไซต์งาน
  •  จนถึงวันนี้ Mary Kay และมูลนิธิ Arbor Day ได้ปลูกต้นไม้ 1.3 ล้านต้นผ่านความร่วมมือ และยังคงทำงานเพื่อสร้างผลกระทบในอนาคตด้วยต้นไม้เพิ่มอีก 100,000 ต้นในปีนี้

“เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้สานต่อความร่วมมือนี้โดยสร้างผลกระทบในวงกว้างต่อผืนป่าทั่วโลก” Katie Loos ประธาน Arbor Day Foundation กล่าว “เป็นเวลา 15 ปีแล้วที่ Mary Kay ได้ทุ่มเทความพยายามในการบูรณะที่มีความหมายในสถานที่ที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด พันธมิตรของเราในชุดสีชมพูยังคงความเป็นเลิศผ่านโครงการปลูกป่าเชิงกลยุทธ์ที่เน้นความมุ่งมั่นในการทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์สิ่งแวดล้อมสำหรับโลกใบนี้”

เกี่ยวกับ Mary Kay

อดีต ปัจจุบัน และตลอดไป หนึ่งในผู้ทำลายเพดานแก้วดั้งเดิม Mary Kay Ash ก่อตั้งแบรนด์ความงามในฝันของเธอในเท็กซัสในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานเป็นบริษัทระดับโลกที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ เป็นเวลา 60 ปีแล้วที่โอกาสของ Mary Kay ช่วยให้ผู้หญิงสามารถกำหนดอนาคตของตนเองผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอางที่มีสี อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อในการอนุรักษ์โลกของเราสำหรับคนรุ่นอนาคต ปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งและการถูกทำร้ายในครอบครัว และสนับสนุนให้เยาวชนทำตามความฝัน เรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com ค้นหาเราได้บน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราได้บน Twitter

เกี่ยวกับมูลนิธิ Arbor Day

มูลนิธิ Arbor Day Foundation ก่อตั้งขึ้นในปี 1972 เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มีสมาชิกรายใหญ่ที่สุดในโลกที่อุทิศตนเพื่อการปลูกต้นไม้ โดยมุ่งเน้นไปที่ชุมชนและป่าที่มีความจำเป็นสูงสุด มูลนิธิร่วมกับสมาชิก ผู้สนับสนุน และหุ้นส่วนที่มีคุณค่ากว่า 1 ล้านคน ได้ช่วยกันปลูกต้นไม้ 500 ล้านต้นในกว่า 50 ประเทศ ตามพันธกิจในการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนปลูก ดูแล และเฉลิมฉลองต้นไม้ Arbor Day Foundation มุ่งมั่นที่จะปลดล็อกพลังของต้นไม้เพื่อช่วยแก้ปัญหาวิกฤตที่ผู้คนและโลกกำลังเผชิญอยู่ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบของมูลนิธิ Arbor Day ที่ arborday.org

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่ออนุรักษ์ผืนดินและผืนน้ำที่ทุกชีวิตต้องพึ่งพา เราสร้างวิธีแก้ปัญหาที่เป็นนวัตกรรมและใช้งานได้จริที่ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับความท้าทายที่ยากที่สุดในโลกของเรา เพื่อให้ธรรมชาติและผู้คนสามารถเติบโตไปด้วยกัน เรากำลังจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อนุรักษ์ผืนดิน น้ำ และมหาสมุทรในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน จัดหาอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน และช่วยให้เมืองมีความยั่งยืนมากขึ้น การทำงานใน 79 ประเทศและดินแดน เราใช้วิธีการทำงานร่วมกันที่มีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น รัฐบาล ภาคเอกชน และพันธมิตรอื่นๆ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ www.nature.org หรือติดตาม @nature_press บน Twitter

รายชื่อติดต่อ

Mary Kay Inc.
การสื่อสารองค์กร
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือmedia@mkcorp.com

ที่มา: Mary Kay Inc.






Mary Kay เฉลิมฉลองสัปดาห์แห่งมหาสมุทรโดยการยืนยันความร่วมมือกับ The Nature Conservancy

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–8 มิถุนายน 2023 

Mary Kay เฉลิมฉลองสัปดาห์แห่งมหาสมุทรโดยการยืนยันความร่วมมือที่ยาวนานนับทศวรรษกับ The Nature Conservancy (TNC) เพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์มหาสมุทรและการปกป้องแนวปะการัง แนวปะการัง ซึ่งมักเรียกกันว่าป่าร้อนชื้นของทะเล ครอบคลุมพื้นที่น้อยกว่า 1% ของพื้นผิวโลก แต่รองรับ 25% ของสิ่งมีชีวิตในทะเลทั้งหมดและประชากรมากกว่าหนึ่งพันล้านคน

Dr. Elizabeth McLeod, The Nature Conservancy’s Global Oceans Director, conducting research in Ulong Channel, Palau as part of the Super Reefs project, a collaborative effort to discover the secrets of “super reefs” with support from Mary Kay. (Credit: © Kip Evans/CCC Marketing)

Dr. Elizabeth McLeod ผู้อำนวยการ Global Oceans ของ The Nature Conservancy กำลังดำเนินการวิจัยใน Ulong Channel ที่ประเทศ Palau โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการแนวปะการังขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นการดำเนินการร่วมมือกันในการค้นหาความลับของ “แนวปะการังขนาดใหญ่” โดยได้รับการสนับสนุนจาก Mary Kay (เครดิต: © Kip Evans/CCC Marketing)

เนื่องจากกลยุทธ์การอนุรักษ์แนวปะการังแบบดั้งเดิมนั้นไม่เพียงพอในการรับมือกับการสูญเสียแนวปะการังทั่วโลก Mary Kay เป็นผู้ร่วมลงนามใน UN Global Compact Sustainable Ocean Principles โดยสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญจาก TNC, Woods Hole Oceanographic Institution (WHOI) และ Stanford University ในฐานะที่พวกเขาเป็นผู้นำในการทำงานร่วมกันเพื่อค้นหาความลับของ “แนวปะการังขนาดใหญ่” ซึ่งเป็นชุมชนปะการังที่แตกต่างกันในระบบแนวปะการังที่ทนทานต่อคลื่นความร้อนที่สามารถสร้างความเสียหาย เพื่อพิสูจน์และป้องกันแนวปะการังที่สำคัญ

Mary Kay ยังคงสนับสนุนโปรแกรม Global Oceans และ Super Reefs ของ TNC อย่างต่อเนื่อง ช่วยให้นักวิจัยสามารถประเมินสุขภาพของแนวปะการังขนาดใหญ่ และระบุตำแหน่งที่เป็นไปได้ของแนวปะการังขนาดใหญ่ และหารือเกี่ยวกับโอกาสในการปรับปรุงการจัดการแนวปะการังในพื้นที่ ข้อมูลนี้จะช่วยแนะแนวทางในการอนุรักษ์และฟื้นฟู พื้นที่ที่น่าสนใจสำหรับงานแนวปะการังขนาดใหญ่ในปัจจุบัน รวมถึง Hawaii, Palau, Indonesia, the Marshall Islands, the Bahamas, the Dominican Republic และ Belize

เช่นเดียวกับแม่น้ำและคูคลองต่างๆ สิ่งดีๆ ต่างๆ ในโลกนี้ของเราเริ่มต้นจากมหาสมุทร” กล่าวโดย Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ของ Mary Kay Inc. “Mary Kay กำลังทำงานร่วมกันกับพันธมิตรอย่าง The Nature Conservancy เพื่อปกป้องทรัพยากรที่มีค่าที่สุดของโลก น้ำที่สะอาดและดีต่อสุขภาพไม่เพียงสำคัญต่อธุรกิจของเราเท่านั้น แต่ยังสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตในทุกๆ ที่อีกด้วย”

TNC มุ่งมั่นในการอนุรักษ์มหาสมุทร 4 พันล้านเฮกเตอร์ภายในปี 2030 และเราขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนจาก Mary Kay ที่ช่วยให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายที่สำคัญนี้ ความร่วมมือกับรัฐบาล องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร บริษัทต่างๆ และชุมชนท้องถิ่นมีความสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จของเรา” Dr. Lizzie Mcleod ผู้อำนวยการ Global Oceans ของ TNC กล่าว

ในปีนี้ Mary Kay จะยังคงให้การสนับสนุนพื้นที่ชุ่มน้ำชายฝั่งใน Texas ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแบรนด์ความงาม ในปี 2023 TNC จะยังคงทำงานตามวัตถุประสงค์ของโครงการระยะเวลาสามปี:

ในปี 1990 Mary Kay และ TNC ประกาศร่วมมือกัน Mary Kay ริเริ่มการอนุรักษ์จากใกล้บ้าน โดยมุ่งเน้นการปกป้องและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติใน Texas ในช่วง 33 ปีที่ผ่านมา Mary Kay มีการขยายการสนับสนุนเป็นหลายร้อยโครงการโดยความร่วมมือกับ TNC รวมถึงงานการฟื้นฟูมหาสมุทรและแนวปะการังทั่วโลก และด้วยความร่วมมือกับ TNC Mary Kay ยังได้ยกระดับความเป็นผู้นำของผู้หญิงในการอนุรักษ์ทะเลในโปรแกรมความยั่งยืนเพื่อสร้างเสริมความเท่าเทียมทางเพศ

เกี่ยวกับ Mary Kay

ตลอดและต่อไป Mary Kay Ash หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ความงามตามความฝันของเธอใน Texas ในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือ ทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น และความฝันของเธอได้เบ่งบานกลายเป็นบริษัทระดับโลกที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ เป็นเวลากว่า 60 ปีแล้วที่ Mary Kay สร้างโอกาสให้ผู้หญิงสามารถกำหนดอนาคตของตัวเองการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนด้านวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอาง อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการอนุรักษ์โลกสำหรับคนรุ่นใหม่ในอนาคต ปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งและการถูกทำร้ายภายในครอบครัว และสนับสนุนให้เยาวชนทำตามความฝัน เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com ค้นหาเราได้ที่ FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ที่ Twitter

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ผืนดินและผืนน้ำที่ทุกชีวิตต้องพึ่งพา เราสร้างสรรค์วิธีการแก้ปัญหาเชิงนวัตกรรมตามหลักการวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ธรรมชาติและผู้คนสามารถก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน ซึ่งเป็นความท้าทายที่ยากที่สุดในโลก เราต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ อนุรักษ์ผืนดิน ผืนน้ำ และมหาสมุทรในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน จัดหาอาหารและน้ำในรูปแบบที่ยั่งยืน และช่วยให้เมืองต่างๆ มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น โดยมีการทำงานใน 76 ประเทศและภูมิภาค—37 แห่งที่มีผลกระทบด้านการอนุรักษ์โดยตรง และคู่ค้า 39 แห่ง—เราใช้วิธีการทำงานร่วมกันกับชุมชน รัฐบาล ภาคเอกชน และพันธมิตรอื่นๆ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม สามารเข้าไปดูได้ที่ www.nature.org หรือติดตามเราได้ที่ @nature_press บน Twitter

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53417208/en

ติดต่อ

Mary Kay Inc.
Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

แหล่งข้อมูล: Mary Kay




Mary Kay ประกาศผู้ชนะการแข่งขันด้านนวัตกรรมระดับโลกในเครือข่ายอบรมผู้ประกอบการประจำปีที่สาม

Logo

การแข่งขันระดับโลกที่สนับสนุนเยาวชนในการใช้ความคิดเชิงวิพากย์เพื่อแก้ปัญหา UN SDGs

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–18 เมษายน 2023

Mary Kay Inc. องค์กรที่สนับสนุนการศึกษาของสตรีและการเป็นผู้ประกอบการมานานหลายทศวรรษ ได้ประกาศผู้ชนะสามอันดับแรกประจำปีที่สาม การแข่งขันนวัตกรรมระดับโลก (World Series of Innovation – WSI) โดยร่วมมือกับเครือข่ายอบรมผู้ประกอบการ (Network for Teaching Entrepreneurship – NFTE) การแข่งขันระดับโลกครั้งนี้สนับสนุนให้เยาวชนอายุ 13-24 เพื่อใช้ประโยชน์จากทักษะการคิดเชิงวิพากษ์เพื่อช่วยแก้ปัญหาที่สำคัญที่สุดของโลกในท้องถิ่น ภูมิภาค หรือระดับนานาชาติ ในฐานะส่วนหนึ่งของความก้าวหน้าใน เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs) ของสหประชาชาติ

Mary Kay Inc. announced the top 3 winners of its third annual Network for Teaching Entrepreneurship World Series of Innovation Challenge. Winning teams are Angel Gear, Saving the Superstars of the Global Ecosystem, and Reversify. (Graphic: Mary Kay Inc.)

Mary Kay Inc. ประกาศผู้ชนะอันดับสูงสุด 3 รายในเครือข่ายการอบรมผู้ประกอบการในการแข่งขันนวัตกรรมระดับโลกประจำปีที่ 3 ทีมที่ชนะได้แก่ Angel Gear, Saving the Superstars of the Global Ecosystem และ Reversify (ภาพ: Mary Kay Inc.)

การแข่งขัน WSI ของ Mary Kay ได้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายน โดยร่วมกับ World Clean Up Day และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรุ่นเยาว์เสนอการแก้ปัญหาที่มีนวัตกรรมเพื่อจัดการกับปัญหา UN SDG 14: ชีวิตใต้น้ำ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักเรียนได้รับโจทย์ให้ออกแบบวิธีแก้ปัญหาเพื่ออนุรักษ์และ/หรือปกป้องระดับนิเวศใต้น้ำและชุมชนริมชายผั่งของโลก

“ธุรกิจและบุคคลมีบทบาทสำคัญในการปกป้องและอนุรักษ์ทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในโลกของเรา” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “การนำความท้าทายของระบบนิเวศทางทะเลของโลกไปสู่คนรุ่นต่อไปทำให้เกิดมุมมองใหม่ในการแก้ปัญหา และไม่มีวิธีแก้ปัญหาใดที่เล็กเกินไป นักเรียนได้พิจารณาทุกมุมของปัญหา เสนอวิธีการที่สร้างสรรค์ ยั่งยืน และมีประสิทธิภาพในการจัดการกับการอนุรักษ์น้ำทุกที่จากบ้านของตนเอง ไปจนถึงการจัดการกับมหาสมุทรอันกว้างใหญ่”

ทุกปี NFTE เข้าถึงเยาวชนมากกว่า 40,000 คนทั่วโลก โดยมีนักเรียน 3,860 คนจากทั่วโลกเสนอแนวคิดสำหรับการแข่งขัน WSI ในปีนี้ นักเรียนมากกว่า 485 คนได้เข้าร่วมในการแข่งขันที่สนับสนุนโดย Mary Kay ผู้ชนะ 3 อันดับแรกในการแข่งขัน WSI ของ Mary Kay ปี 2022 ได้แก่

  • ชนะเลิศ: Angel Gear ได้พัฒนาธุรกิจที่ซื้อตาข่ายจับปลาและเกียร์อื่นที่ชำรุดแล้ว เพื่อใช้ประโยชน์เป็นตาข่ายที่นำกลับมาใช้ได้ใหม่ พัฒนาโดย Ryan Zhang (17 ปี) และ Jia-Teng Lu (16 ปี) จากโรงเรียนนานาชาติ Kang Chaio ประเทศไต้หวัน ดู วิดีโอที่นำเสนอ
  • รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง: Saving the Superstars of the Global Ecosystem ใช้โดรนบินเหนือผิวน้ำไร้คนขับร่วมกับระบบสำรวจระยะไกลผ่านดาวเทียมเพื่อค้นหาและระบุการเบ่งบานของสาหร่ายในอ่าวเชซาพีก พัฒนาโดย Emily Carver (17 ปี) จากโรงเรียนมัธยม Douglas S. Freeman ในรัฐเวอร์จิเนีย ดู วิดีโอที่นำเสนอ
  • รองชนะเลิศอันดับสอง: Reversify ได้ออกแบบเครื่องซักผ้าแบบยั่งยืนที่ใช้ประโยชน์จากน้ำฝนและกรองมลพิษที่อันตรายในน้ำเสีย พัฒนาโดย Iyshly Chen (16 ปี), Davia Linang (16 ปี) และ Kelly Luo (16) จากโรงเรียนมัธยม Abraham Lincoln ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ดู วิดีโอที่นำเสนอ

“แต่ละปี ผู้เข้าร่วมงาน WSI จะได้เลือกหัวข้อการแข่งขันที่ได้รับเสนอที่แตกต่างกัน โดยมักเลือกหัวข้อที่ตรงกับประสบการณ์ส่วนตัวมากที่สุด ในการแข่งขันการอนุรักษ์มหาสมุทรระดับโลกของ Mary Kay ได้ให้นักเรียนได้คิดเชิงวิพากษ์เกี่ยวกับหนึ่งในทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของโลก นั่นคือ น้ำ และไอเดียเชิงนวัตกรรมที่จะไม่ทำให้ผิดหวัง” ดร. J.D. LaRock ประธานและซีอีโอของ NFTE กล่าว “ผลงานมีตั้งแต่แนวคิดทางสังคม เช่น การมีส่วนร่วมของชุมชนในการทำความสะอาดแหล่งน้ำในท้องถิ่น ไปจนถึงแนวคิดทางวิศวกรรม เช่น การสร้างโดรนที่กวาดขยะในมหาสมุทรโดยไม่รบกวนแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ”

NFTE เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรด้านการศึกษาระดับโลกที่มุ่งเน้นการนำพลังของการเป็นผู้ประกอบการไปสู่ชุมชนที่มีรายได้น้อย นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อกว่า 35 ปีที่แล้ว NFTE ได้ฝึกอบรมครูหลายพันคนและให้ความรู้แก่เยาวชนกว่าล้านคนทั่วโลก ทุกฤดูใบไม้ร่วง NFTE จะเปิดตัวการแข่งขันชุดใหม่สำหรับการแข่งขัน WSI และเชิญผู้สนับสนุนองค์กรให้จัดการกับ UN SDGs NFTE World Series of Innovation ปี 2022 นำเสนอโดย Citi Foundation และมีกิจกรรมแข่งขันที่สนับสนุนโดย Mary Kay Inc., MetLife Foundation, Mastercard, Bank of the West, Link, Maxar, Ernst & Young, LLP (EY), ServiceNow และ Zuora ดูผู้ชนะสามอันดับแรกสำหรับแต่ละความท้าทายและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความท้าทาย World Series of Innovation ทั้งหมดได้ที่ https://innovation.nfte.com/

เกี่ยวกับ Mary Kay

อดีต ปัจจุบัน ทุกเมื่อ Mary Kay Ash ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ทำลายอุปสรรคต่อความก้าวหน้าได้สร้างแบรนด์ความงามในฝันของเธอในเท็กซัสในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือการทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น ความฝันนั้นได้เติบโตจนกลายเป็นบริษัทระดับโลกที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ เป็นเวลากว่า 60 ปีแล้วที่โอกาสของ Mary Kay ช่วยให้ผู้หญิงสามารถกำหนดอนาคตของตนเองผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย ​​เครื่องสำอางที่มีสี อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อในการอนุรักษ์โลกของเราสำหรับคนรุ่นต่อไป ปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งและการถูกทำร้ายในครอบครัว และสนับสนุนให้เยาวชนทำตามความฝัน เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบเราได้บน FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้บน Twitter.

ติดต่อเรา

Mary Kay Inc. ฝ่ายสื่อสารองค์กร
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

ที่มา: Mary Kay Inc.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


Mary Kay และสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศประกาศผู้ชนะการแข่งขัน Women’s Entrepreneurship Accelerator Digital Innovation Challenge

Logo

สตาร์ทอัพที่เป็นเจ้าของหรือนำโดยผู้หญิงสิบรายจากทั่วโลกจะได้รับการฝึกอบรมเสริมสร้างศักยภาพและให้คำปรึกษาเฉพาะด้านเพื่อปรับขนาดโซลูชันดิจิทัลเพื่อช่วยสร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้ประกอบการสตรี

DALLAS–(BUSINESS WIRE)–18 เมษายน 2023

สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ที่ได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรี (CSW67) โดยได้รับการสนับสนุนจาก Mary Kay Global ได้ประกาศรายชื่อบริษัทที่ชนะ 10 แห่งจาก Women’s Entrepreneurship Accelerator (WEA) Digital Innovation Challenge ในงานอีเวนต์ที่จัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ MetLife นครนิวยอร์ก มีผู้แทนองค์การสหประชาชาติ ภาคเอกชน นักลงทุน และองค์กรภาคประชาสังคมเข้าร่วมประชุม บริษัทสตาร์ทอัพ 3 แห่ง ได้แก่ Tiny Totos, Gwiji for Women และ Health Innovation Exchange (HIEx) ได้รับรางวัลในฐานะ Special Recognition สำหรับนวัตกรรมแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด

The ten winning companies of the WEA Digital Innovation Challenge were invited to present their two-minute live pitches before an expert Grand Jury comprised of investors and cross-sectoral representatives. (Graphic: Mary Kay Inc.)

บริษัทที่ชนะการแข่งขัน WEA Digital Innovation Challenge 10 แห่งได้รับเชิญให้นำเสนอการเสนอขายแบบสดความยาว 2 นาทีต่อหน้าคณะกรรมการตัดสินผู้เชี่ยวชาญซึ่งประกอบด้วยนักลงทุนและตัวแทนข้ามภาคส่วน (เครดิต: ITU)

การแข่งขัน WEA Digital Innovation Challenge ที่เปิดตัวในเดือนธันวาคม 2022 ที่สำนักงานใหญ่ระดับโลกของ ITU ในเจนีวา มี 250 รายการจากบริษัทต่าง ๆ ใน 54 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงเป็นเจ้าของหรือมีผู้ก่อตั้งผู้หญิงอย่างน้อยหนึ่งคน แต่ละบริษัทได้แสดงให้เห็นว่าโซลูชันดิจิทัลที่ไม่เหมือนใครของพวกเขาสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการดิจิทัลในการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ได้อย่างไร ความท้าทายนี้เผยให้เห็นว่าระบบนิเวศที่เกิดขึ้นใหม่ของผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัลมีลักษณะอย่างไรด้วยความคิดสร้างสรรค์และความเฉลียวฉลาดที่โดดเด่น

ความคิดริเริ่มของ Women’s Entrepreneurship Accelerator1 (WEA) โดยความร่วมมือกับ Mary Kay และการดำเนินการโดย ITU โดยสอดคล้องกับ Innovation and Entrepreneurship Alliance for Digital ของ ITU นั้นมีวัตถุประสงค์ของการแข่งขันคือการสร้างบริบทที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้ประกอบการสตรีในท้ายที่สุด โดยจัดการกับอุปสรรคที่มีต่อการเป็นผู้ประกอบการสตรี รวมถึงการแบ่งเพศทางดิจิทัล ด้วยการช่วยเสริมธีมของ CSW67 ประจำปีนี้ในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากมุมมองทางเพศ

โซลูชันดิจิทัลที่ส่งมามีตั้งแต่แอปพลิเคชันมือถือเพื่อการศึกษาที่ช่วยพัฒนาการพูดและภาษาของเด็กในฟิลิปปินส์ ไปจนถึงระบบซอฟต์แวร์เพื่อติดตามขยะของบริษัทในอุรุกวัย ไปจนถึงโซลูชันดิจิทัลที่ตอบสนองความต้องการการดูแลลูกของแม่ที่มีรายได้น้อยในเคนยา ตลอดจนโปรแกรมให้คำปรึกษาทางวิชาชีพออนไลน์สำหรับผู้หญิงในคาซัคสถาน

เกณฑ์การคัดเลือกผู้ชนะทั้ง 10 ได้แก่

– ความคุ้มค่าและความสามารถในการปรับขนาดของโซลูชันทางเทคโนโลยี

– ระดับของนวัตกรรมดิจิทัลที่แสดงและ

– ศักยภาพของโซลูชันที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิต ขับเคลื่อนผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม และขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน

บริษัทที่ชนะทั้ง 10 แห่งได้รับเชิญให้นำเสนอการเสนอขายแบบสดความยาว 2 นาทีต่อหน้าคณะกรรมการตัดสินผู้เชี่ยวชาญซึ่งประกอบด้วยนักลงทุนและตัวแทนข้ามภาคส่วน ซึ่งแต่ละคนได้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่ไม่เหมือนใครตามเกณฑ์ข้างต้น ผู้ชนะจะสามารถเข้าถึง “Digital Innovation Challenge Acceleration Program” ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งพวกเขาจะได้รับการฝึกอบรมการเสริมสร้างศักยภาพและค่ายฝึกเสมือนจริงเพื่อช่วยปรับปรุงแผนธุรกิจของพวกเขา ตลอดจนการให้คำปรึกษาเฉพาะด้าน และการเข้าถึงเครือข่ายผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง หลังจากนี้ ผู้ชนะที่ได้รับการคัดเลือกจะเข้าร่วมใน Global Innovation Forum อันทรงเกียรติของ ITU ในปลายปีนี้ และเข้าร่วมชุมชนนักปฏิบัติเพื่อสำรวจวิธีก้าวกระโดดจากความแตกแยกของนวัตกรรมดิจิทัลและจัดการกับความท้าทายระดับโลก

สมาชิกคณะลูกขุนใหญ่ มีดังนี้

  • Dan Seymour ผู้อำนวยการฝ่ายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ของ UN Women
  • Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Global
  • Harry O’Mealia ซีอีโอและประธาน 1919 Investor Council
  • Julia Pimsleur ผู้ก่อตั้ง Million Dollar Women Network
  • Selin Oz ผู้จัดการอาวุโส ฝ่าย SME Banking Entrepreneurship Banking ของ Garanti BBVA
  • Tess Mateo, Sustainability ESG Impact Investor, US W20 Delegate to G20
  • Ursula Wynhoven ผู้แทนสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติในนิวยอร์ก

ประการแรก Tiny Totos เป็นองค์กรเพื่อสังคมของเคนยาที่ทำงานเพื่อรับรองการดูแลเด็กที่มีคุณภาพ การให้การฝึกอบรม การเข้าถึงแหล่งเงินทุน เครือข่ายและแพลตฟอร์มเทคโนโลยี ช่วยให้ศูนย์ดูแลเด็กประสบความสำเร็จ และเพิ่มความพร้อมและปรับปรุงคุณภาพของบริการดูแลเด็กในประเทศ Health Innovation Exchange (HIEx) และ Gwiji for Women ซึ่งเป็นรองชนะเลิศ 2 ราย กำลังพูดถึงประเด็นสำคัญทางสังคม HIEx ระบุความท้าทายที่ระบบสุขภาพต้องเผชิญ และเชื่อมโยงผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมกับผู้มีส่วนร่วมในระบบนิเวศด้านสุขภาพที่สำคัญในแอฟริกาและเอเชียเป็นหลัก เพื่อนำเสนอโซลูชันเพื่อปรับปรุงการเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพ Gwiji for Women เป็นสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีที่จัดการกับอุปสรรคในการเข้าร่วมตลาดแรงงานของผู้หญิงที่มีรายได้น้อยในเคนยา โดยจะระบุ ตรวจสอบ ฝึกอบรม และให้อำนาจแก่สตรีที่มีภูมิหลังทางเศรษฐกิจและสังคมที่ต่ำกว่าในฐานะพนักงานทำความสะอาดทั่วไป โดยเชื่อมโยงพวกเธอกับลูกค้าที่คาดหวังผ่านแอปพลิเคชันมือถือ

การแข่งขัน WEA Digital Innovation Challenge ได้จัดขึ้นโดยมีฉากหลังเป็นบริบททางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งได้เห็นการเพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีดิจิทัลและการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล การตระหนักถึงศักยภาพของการเร่งความเร็วทางดิจิทัลเพื่อขยายขอบเขตของความไม่เท่าเทียมกัน ความท้าทายนี้นำเสนอโอกาสในการหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่เป็นอุปสรรคต่อสถานะทางเศรษฐกิจของผู้หญิง

คุณรู้หรือไม่

อุปสรรค 3 อันดับแรกที่ผู้ประกอบการดิจิทัลหญิงต้องเผชิญในการนำผลิตภัณฑ์และบริการของตนเข้าสู่ตลาด มีดังนี้

ขาดเงินทุนและการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจของพวกเขา2

การเข้าถึงที่จำกัดในการเชื่อมต่อและเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICTs) และ

– โอกาสในการเรียนรู้ทักษะที่สำคัญที่จำเป็นต่อการแข่งขันในเศรษฐกิจดิจิทัล3

Dr. Cosmas Zavazava ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาโทรคมนาคมของ ITU กล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาที่นำเสนอตลอดการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้นอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง โดยเน้นย้ำถึงศูนย์กลางและความสำคัญอย่างยิ่งยวดของนวัตกรรมดิจิทัลในบริบทปัจจุบัน โดยเสริมว่า “นวัตกรรมที่ครอบคลุมและเท่าเทียมกันจะช่วยให้เรานำทางไปสู่โลกดิจิทัลใบใหม่ที่ผันผวน ไม่แน่นอน ซับซ้อน และคลุมเครือมากขึ้นเรื่อย ๆ” เพื่อจัดการกับการแบ่งแยกทางเพศซึ่งจำกัดระบบนิเวศของนวัตกรรมและทำให้เศรษฐกิจและสังคมอ่อนแอในที่สุด Dr. Zavazava เรียกร้องให้มีความพยายามมากขึ้นเพื่อจัดการกับช่องว่างนี้ “เพื่อช่วยป้องกันวิกฤตทางเศรษฐกิจและสังคมที่เราได้เห็น”

นอกจากนี้ Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay ยังเรียกร้องให้มีการดำเนินการ “เพื่อย้อนกลับแนวโน้มปัจจุบันของนวัตกรรมที่มีความมืดบอดทางเพศและแก้ไขช่องว่างทางเพศทางดิจิทัลที่มีอยู่ในการเข้าถึงเทคโนโลยี รวมถึงในการศึกษาและทักษะดิจิทัล” ด้วยความท้าทาย เธอได้เชิญ “พันธมิตรข้ามภาคส่วนมากขึ้นเพื่อเข้าร่วมความพยายามในการสร้างเงื่อนไขสำหรับผู้ประกอบการสตรีในการสร้างสรรค์นวัตกรรม แข่งขัน และเติบโต”

ในฐานะหนึ่งในเจ็ดสมาชิกคณะลูกขุนใหญ่ Tess Mateo, Sustainability ESG Impact Investor, US W20 Delegate to G20 ได้ยกย่องการแข่งขันเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบนิเวศนวัตกรรมดิจิทัลสำหรับบริษัทที่นำโดยสตรี โดยกล่าวว่า “การแข่งขันด้านนวัตกรรมดิจิทัลนี้ได้รับผลงานมากกว่า 200 รายการจาก 54 ประเทศ แสดงให้เห็นว่านวัตกรรมที่ขับเคลื่อนโดยผู้ประกอบการมีความสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการรวมดิจิทัลอย่างไร ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นกรรมการตัดสินและรับฟังการเสนอขายที่ชนะทั้ง 10 รายการ ซึ่งแต่ละรายการมีโซลูชันดิจิทัลที่ไม่เหมือนใครสำหรับระบบนิเวศที่คำนึงถึงเพศมากขึ้น วิธีแก้ปัญหาของพวกเขากำลังเปลี่ยนแปลงโลกอย่างปฏิเสธไม่ได้เพื่อเสริมสร้างสังคมและเศรษฐกิจที่ดีขึ้น เราต้องการความท้าทายมากกว่านี้เพื่อนำนักประดิษฐ์สตรีและนวัตกรรมที่นำโดยสตรีมารวมกันเพื่อสร้างเงื่อนไขสำหรับผู้ประกอบการสตรีในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและแข่งขันในเศรษฐกิจดิจิทัลระดับโลก”

สตาร์ทอัพทั้งสามที่ได้รับสถานะ Special Recognition ได้กล่าวถึงความสำคัญของการแข่งขันในฐานะแพลตฟอร์มหลักในการนำเสนอนวัตกรรมดิจิทัลของตน

“Tiny Totos เป็นองค์กรเพื่อสังคมของเคนยาที่แก้ปัญหาวิกฤตการดูแลเด็กในแอฟริกาด้วยการเปลี่ยนพี่เลี้ยงเด็กนอกระบบให้เป็นผู้ประกอบการดูแลเด็กที่ทำกำไรได้ การได้รับการยอมรับและแพลตฟอร์มที่จัดโดย WEA Digital Innovation Challenge ทำให้เราได้รับการรับรองรูปแบบธุรกิจของเราในระดับสูงสุดของแนวทางปฏิบัติของชุมชนระดับโลก ในฐานะผู้ก่อตั้งสตรี การเป็นสมาชิกของชุมชนของผู้ประกอบการด้านดิจิทัลที่มีแนวคิดเดียวกันช่วยเติมพลังความคิดสร้างสรรค์ของเราและผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตลาดการดูแลเด็กนอกระบบของแอฟริกา บรรลุการเติบโตแบบทวีคูณในเครือข่ายผู้ประกอบการดูแลเด็กที่มีรายได้น้อยของเรา และช่วยให้ผู้หญิงทำงานยกระดับตนเองให้พ้นจากความยากจน”

Emma Caddy ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Tiny Totos

“WEA Digital Innovation Challenge เป็นเวทีที่ยอดเยี่ยมในการแสดงผลงานของเราในการเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงและช่วยให้ผู้ประกอบการสตรีขยายความรู้และโอกาสในการสร้างเครือข่าย สิ่งนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งในเวทีสุขภาพ เนื่องจากทุกวันนี้ 1 ใน 2 คนหรือครึ่งหนึ่งของโลกยังขาดการเข้าถึงการดูแลสุขภาพที่จำเป็น และน้อยกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ของเงินทุนร่วมลงทุนทั่วโลกที่มอบให้กับผู้หญิง แม้จะมีหลักฐานว่าการลงทุนของพวกเธอให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า สตาร์ทอัพที่มีเจ้าของหรือผู้นำที่เป็นผู้หญิงต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายกว่าจะประสบความสำเร็จ รวมถึงการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่จำกัด โอกาสในการสร้างเครือข่าย อคติทางเพศ และปัญหาความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการด้านดิจิทัลนั้นนำเสนอโอกาสที่แท้จริงสำหรับนักประดิษฐ์สตรีในการเอาชนะอุปสรรคดังกล่าว รวมถึงการเข้าถึงตลาดโลก เครือข่ายการสนับสนุน และการเพิ่มการรับรู้และการยอมรับ

Paula Navajas ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) นวัตกรรมด้านสุขภาพและการแลกเปลี่ยนการลงทุน (HIEx)

“WEA Digital Innovation Challenge เปิดโอกาสให้ธุรกิจที่นำโดยผู้หญิงได้แสดงความคิดเห็นในพื้นที่ที่มีผู้ชายเป็นใหญ่ โปรแกรมนี้ใช้งานได้จริงและปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการของการลงทุนในระยะเริ่มต้นที่จัดการกับความท้าทายที่เร่งด่วนที่สุดในสังคมของเรา ทุกครั้งที่เข้าร่วม ฉันรู้สึกมั่นใจในความสามารถของตัวเองมากขึ้นทั้งในฐานะผู้ประกอบการและในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง”

Elizabeth Mwangi ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการ Gwiji for Women

สามารถดูบันทึกการแข่งขัน WEA Digital Innovation Challenge ได้ที่นี่

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 1963 โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือเติมเต็มชีวิตให้กับผู้หญิง ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในกว่า 35 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน การสร้างเครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com พบกับเราบน FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

เกี่ยวกับ ITU

สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) เป็นหน่วยงานเฉพาะของสหประชาชาติสำหรับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICTs) ขับเคลื่อนนวัตกรรมด้าน ICT ร่วมกับประเทศสมาชิก 193 ประเทศ และเป็นสมาชิกของบริษัท มหาวิทยาลัย และองค์กรระหว่างประเทศและระดับภูมิภาคกว่า 900 แห่ง ITU ก่อตั้งขึ้นเมื่อกว่า 150 ปีที่แล้วในปี 1865 เป็นหน่วยงานระหว่างรัฐบาลที่รับผิดชอบในการประสานงานการใช้สเปกตรัมวิทยุร่วมกันทั่วโลก ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในการกำหนดวงโคจรดาวเทียม ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารในประเทศที่กำลังพัฒนา และสร้างมาตรฐานทั่วโลกที่สนับสนุนการเชื่อมต่อโครงข่ายที่ไร้รอยต่อของระบบการสื่อสารที่หลากหลาย ตั้งแต่เครือข่ายบรอดแบนด์ไปจนถึงเทคโนโลยีไร้สายที่ล้ำยุค การนำทางการบินและการเดินเรือ ดาราศาสตร์วิทยุ การสำรวจพื้นโลกด้วยดาวเทียมและมหาสมุทร รวมทั้งการรวมโทรศัพท์เคลื่อนที่ อินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยีการแพร่ภาพกระจายเสียงเข้าด้วยกัน ITU มุ่งมั่นที่จะเชื่อมต่อโลกเข้าด้วยกัน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.itu.int

1 Women's Entrepreneurship Accelerator (WEA) ที่ริเริ่มขึ้นโดย Mary Kay และเปิดตัวในปี 2019 เป็นโครงการริเริ่มความร่วมมือแบบหลายฝ่ายเกี่ยวกับการเป็นผู้ประกอบการสตรี โดยมีหน่วยงานของสหประชาชาติ 6 หน่วยงานประกอบด้วยสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ  (ITU), องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO), ศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (ITC), โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP), UN Global Compact (UNGC) และ UN Women

2 การวิจัยชี้ให้เห็นว่าผู้ประกอบการสตรีเผชิญกับการขาดดุลทางการเงิน 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ MSME Finance Gap, International Finance Corporation, 2017 https://www.ifc.org/wps/wcm/connect/03522e90-a13d-4a02-87cd-9ee9a297b311/121264-WP-PUBLIC-MSMEReportFINAL.pdf?MOD=AJPERES&CVID=m5SwAQA

3 จากจำนวนประชากรประมาณ 2.9 พันล้านคนที่ยังคงออฟไลน์ ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็กผู้หญิงที่มีแนวโน้มที่จะใช้โทรศัพท์ เข้าถึงอินเทอร์เน็ต หรือมีทักษะในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลน้อย https://www.gsma.com/r/wp-content/uploads/2022/06/The-Mobile-Gender-Gap-Report-2022.pdf?utm_source=website&utm_medium=download-button&utm_campaign=gender-gap-2022

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53380887/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

ที่มา: Mary Kay Inc.







Mary Kay เน้นย้ำถึงความสำคัญของความเป็นผู้นำของผู้หญิงและการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในการอนุรักษ์ที่งาน World Ocean Summit 2023 ซึ่งจัดโดย Economist Impact

Logo

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–22 มีนาคม 2023 

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนระดับโลกด้านความยั่งยืนขององค์กรและผู้ลงนามในหลักการมหาสมุทรที่ยั่งยืนของ UN Global Compact ยังคงมีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์มหาสมุทร ในเดือนกุมภาพันธ์ แบรนด์ความงามนี้ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มที่ล้ำสมัยและเป็นมิตรกับผู้ใช้ โดยนำเสนอคำแนะนำอันทรงคุณค่า เครื่องมือสนับสนุนการตัดสินใจ และความรู้เชิงปฏิบัติสำหรับผู้ปฏิบัติงานทางทะเล หลังจากการประกาศ เมื่อไม่นานมานี้ Mary Kay ได้เข้าร่วมงาน World Ocean Summit และ Expo 2023 ครั้งที่ 10 ที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ซึ่งจัดโดย Economist Impact

Sandra Silva, Mary Kay Portugal’s General Manager participates on a panel on the topic of

Sandra Silva ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay Portugal เข้าร่วมการอภิปรายในหัวข้อ “Putting Coral Reef Restoration at the Heart of Ocean Conservation Action” ที่งาน World Ocean Summit ที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส (เครดิต: Mary Kay Inc.)

World Ocean Summit เป็นงานระดับโลกประจำปีที่รวบรวมภาคส่วนกว้างที่สุดของชุมชนมหาสมุทร ตั้งแต่ธุรกิจและการเงินไปจนถึงรัฐบาล ผู้กำหนดนโยบายระดับชาติและระดับนานาชาติ ภาคประชาสังคม และสถาบันการศึกษา ผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 1,500 คนจากกว่า 100 ประเทศเข้าร่วมการประชุมสุดยอดสามวัน โดยมีวิทยากร 188 คนกล่าวถึงความท้าทายเร่งด่วนที่สุดที่มหาสมุทรต้องเผชิญ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และมลพิษ

Sandra Silva ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay Portugal เป็นหนึ่งในผู้ร่วมอภิปรายที่โดดเด่นในการอภิปราย Putting Coral Reef Restoration at the Heart of Ocean Conservation Action” ของการประชุมสุดยอด ซึ่งเธอได้เข้าร่วมกับวิทยากรที่มีชื่อเสียงคนอื่น ๆ เช่น Yabanex Batista จาก Global Fund for Coral Reefs (สหประชาชาติ), Tom Moore จาก King Abdullah University of Science and Technology (ซาอุดีอาระเบีย) และ Deborah Brosnan จาก Deborah Brosnan & Associates

Silva เน้นย้ำถึงความสำคัญของการอนุรักษ์มหาสมุทร โดยกล่าวว่า “มหาสมุทรมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของผู้คนหลายพันล้านคน และเราทุกคนมีบทบาทในการอนุรักษ์มหาสมุทรและเศรษฐกิจที่ได้จากมหาสมุทรอย่างยั่งยืน Mary Kay สนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถของผู้หญิงในทุกด้านของชีวิตและธุรกิจ รวมถึงความสมบูรณ์ของโลกของเรา”

Martin Koehring หัวหน้าฝ่ายโครงการ World Ocean Initiative ของ Economist Impact กล่าวว่า “การรักษาโมเมนตัมต่อปฏิบัติการในมหาสมุทร ซึ่งรวมถึงผ่านการประชุมสุดยอดและสื่อสิ่งพิมพ์ของเรานั้นมีความสำคัญ ในปีนี้ การประชุมสุดยอดได้ผลักดันความก้าวหน้าโดยนำเสนอการประชุมข้ามอุตสาหกรรมเพื่อใช้ประโยชน์จากการทำงานร่วมกันและส่งเสริมการมีส่วนร่วมข้ามภาคส่วน การมีส่วนร่วมของ Mary Kay ใน World Ocean Summit และ Expo 2023 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการอนุรักษ์มหาสมุทรและความทุ่มเทในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน”

โครงการ World Ocean Initiative เปลี่ยนโมเมนตัมและจุดโฟกัสของ World Ocean Summit ให้เป็นโครงการตลอดทั้งปีในมหาสมุทรที่ขับเคลื่อนความสามารถทั้งหมดของ Economist Impact โดยผสมผสานความเฉลียวฉลาดของคลังความคิดเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ของแบรนด์สื่อเพื่อดึงดูดผู้ชมที่มีอิทธิพลทั่วโลก โครงการ World Ocean Initiative พยายามที่จะให้ความกระจ่าง กระตุ้น และปลูกฝังการทำงานร่วมกันที่ดีขึ้นระหว่างธุรกิจ ผู้กำหนดนโยบาย นักลงทุน นักวิทยาศาสตร์ และองค์กรพัฒนาเอกชน เพื่อแสวงหาแนวทางแก้ไขสำหรับความท้าทายและโอกาสในมหาสมุทรที่เร่งด่วนที่สุด

Mary Kay ทำงานเพื่อยกระดับสุขภาพของมหาสมุทรและการรับรู้แนวปะการังผ่านการเป็นพันธมิตรกับ The Nature Conservancy มานานกว่า 32 ปี หนึ่งในโครงการสำคัญที่ Mary Kay สนับสนุนเรียกว่า “Super Reefs” ซึ่งระบุ ปกป้อง และสร้างเครือข่ายแนวปะการังทั่วโลกที่มีความยืดหยุ่นสูงที่สามารถอยู่รอดได้ในมหาสมุทรที่ร้อนขึ้น

Dr. Elizabeth McLeod จาก The Nature Conservancy กล่าวว่า “ทีม Super Reefs รวบรวมรัฐบาลและชุมชนแนวปะการัง พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์มหาสมุทร การอนุรักษ์ และการจัดการจาก Woods Hole Oceanographic Institution, Stanford University และ The Nature Conservancy พร้อมด้วยการสนับสนุนจากภาคเอกชนจาก Mary Kay ในช่วงเวลาวิกฤตในประวัติศาสตร์ของแนวปะการัง”

คลิกที่นี่เพื่อชมการอภิปราย Putting Coral Reef Restoration At The Heart Of Ocean Conservation Action

คุณรู้หรือไม่?

  • CEO Water Mandate เป็นความคิดริเริ่มของ UN Global Compact ที่ระดมผู้นำทางธุรกิจเกี่ยวกับน้ำ สุขอนามัย และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (Mary Kay เป็นผู้ลงนามและเข้าร่วมในเดือนกุมภาพันธ์ 2021)
  • หลักการด้านมหาสมุทรที่ยั่งยืน ซึ่งจัดทำขึ้นโดยปรึกษาหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกว่า 300 ราย ได้จัดทำกรอบแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจที่มีความรับผิดชอบในภาคส่วนและภูมิภาคต่าง ๆ พวกเขาสร้างและเสริมหลักการสิบประการของข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แรงงาน สิ่งแวดล้อม และการต่อต้านการทุจริต (Mary Kay เป็นผู้ลงนามและเข้าร่วมในเดือนกุมภาพันธ์ 2021)
  • มหาสมุทรมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจที่มีสุทธิเป็นศูนย์ มีความยืดหยุ่น และมีความเท่าเทียมกัน และส่งมอบวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนในปี 2030 ทั้งหมด ชุมชนธุรกิจทั่วโลกมีความรับผิดชอบร่วมกันในการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อรักษามหาสมุทรที่ดี (Mary Kay เป็นสมาชิกและเข้าร่วมในเดือนสิงหาคม 2022)

เกี่ยวกับ MARY KAY

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 1963 โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือเติมเต็มชีวิตให้กับผู้หญิง ความฝันนั้นได้เบ่งบานกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราบน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ผืนดินและผืนน้ำที่ทุกชีวิตต้องพึ่งพา ด้วยแนวทางทางวิทยาศาสตร์ เราได้สร้างวิธีแก้ปัญหาที่เป็นนวัตกรรมบนพื้นฐานสำหรับความท้าทายที่ยากที่สุดในโลกของเรา เพื่อให้ธรรมชาติและผู้คนสามารถเติบโตไปด้วยกันได้ เรากำลังจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อนุรักษ์ผืนดิน น้ำ และมหาสมุทรในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน จัดหาอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน และช่วยให้เมืองมีความยั่งยืนมากขึ้น เราทำงานใน 76 ประเทศและดินแดน 37 แห่งโดยผลกระทบด้านการอนุรักษ์โดยตรง และ 39 แห่งโดยคู่ค้า เราใช้วิธีการทำงานร่วมกันที่มีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น รัฐบาล ภาคเอกชน และพันธมิตรอื่น ๆ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ www.nature.org หรือติดตาม @nature_press บน Twitter

เกี่ยวกับโครงการ World Ocean Initiative

World Ocean Initiative ของ Economist Impact สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจมหาสมุทรที่ยั่งยืนโดยจัดการกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ทะเลของเราเผชิญ ซึ่งก็คือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และมลพิษ ตลอดทั้งปีและที่งาน World Ocean Summit ซึ่งเป็นเรือธงของเรา เราสร้างแรงบันดาลใจในการคิดที่กล้าหาญ เริ่มความร่วมมือใหม่ ๆ และสำรวจการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อดาวเคราะห์สีฟ้าที่สมบูรณ์ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ impact.economist.com/ocean

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53366240/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

ที่มา: Mary Kay Inc.








Mary Kay Inc. ได้รับการรับรองจาก Forest Stewardship Council และเฉลิมฉลองปลูกต้นไม้ 1.3 ล้านต้นร่วมกับมูลนิธิ Arbor Day

Logo

เนื่องในวันป่าไม้สากล Mary Kay เน้นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการอนุรักษ์และการแก้ปัญหาที่อิงกับธรรมชาติ

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–21 มีนาคม 2023

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนระดับโลกด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและความยั่งยืนขององค์กร กำลังฉลองวันป่าไม้สากลโดยเน้นการรับรองล่าสุดจาก Forest Stewardship Council® (FSC®)

Mary Kay Inc., a global advocate for corporate social responsibility and sustainability, is celebrating International Day of Forests by highlighting its recent certification from the Forest Stewardship Council® (FSC®). (Credit: Mary Kay Inc.)

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนระดับโลกด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและความยั่งยืนขององค์กร กำลังฉลองวันป่าไม้สากลโดยเน้นการรับรองล่าสุดจาก Forest Stewardship Council® (FSC®) (เครดิต: Mary Kay Inc.)

ใบรับรองนี้ใช้กับศูนย์การพิมพ์และภาพดิจิทัลของ Mary Kay ซึ่งตั้งอยู่ที่สำนักงานใหญ่ของบริษัททั่วโลกและศูนย์กระจายสินค้าระดับภูมิภาคที่ตั้งอยู่ในรัฐเท็กซัสตอนเหนือ และเป็นการยืนยันความมุ่งมั่นของ Mary Kay ในการสนับสนุนการป่าไม้อย่างมีความรับผิดชอบโดยใช้วัสดุรีไซเคิล FSC 100% หรือแหล่งกระดาษผสม FSC สำหรับการพิมพ์เชิงพาณิชย์ โดยใช้กระดาษสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกไปทั่วโลกเป็นหลัก

FSC® เป็นองค์กรระดับโลกที่ไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งส่งเสริมการจัดการป่าไม้อย่างมีความรับผิดชอบทั่วโลกโดยกำหนดมาตรฐานตามหลักการที่ตกลงร่วมกันสำหรับการดูแลป่า ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ การรับรอง FSC หมายถึงการจัดหาอย่างยั่งยืนที่ให้ความสำคัญกับป่าและผู้คนเป็นอันดับแรก รวมถึงรับประกันว่าผลิตภัณฑ์นั้นมาจากป่าที่มีการจัดการอย่างมีความรับผิดชอบ

“เราภูมิใจในความก้าวหน้าในเส้นทางสู่ความยั่งยืนของเรา” กล่าวโดย Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay “ใบรับรอง FSC เป็นผลมาจากการทำงานอย่างหนักเป็นเวลาหลายเดือน การเตรียมการ การนำโปรโตคอลใหม่ไปใช้ และการฝึกอบรม ความสำเร็จนี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Mary Kay ที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและความเป็นเลิศทางธุรกิจ”

บริษัทด้านความงามและผู้ประกอบการระดับโลกที่มีชื่อเสียงแห่งนี้กำหนดจะเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีในปี 2023 โดยสานต่อพันธสัญญาที่มีมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษในการเพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตทั่วโลกและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ปีนี้ Mary Kay ยังฉลองการเป็นหุ้นส่วน 15 ปีกับมูลนิธิ Arbor Day Foundation ความร่วมมือของ Mary Kay และมูลนิธิ Arbor Day เริ่มขึ้นในปี 2008 ซึ่งมีประเด็นสำคัญ ดังนี้

  • ในปี 2008 ที่ปรึกษาด้านความงามอิสระของ Mary Kay ได้เข้าร่วมในโครงการรีไซเคิลโดยปลูกต้นไม้ในป่าที่ต้องการนำคอมแพคเก่าทั้งหมดมารีไซเคิล ด้วยความพยายามในการรีไซเคิลระดับประเทศโดยที่ปรึกษาด้านความงามอิสระและลูกค้า รวมถึงพนักงานของบริษัท ทำให้ Mary Kay บรรลุเป้าหมายการรวบรวมคอมแพคเก่า 200,000 ชิ้น
  • ตั้งแต่ปี 2009 ถึง 2012 ความร่วมมือของ Mary Kay กับมูลนิธิ Arbor Day Foundation ได้สนับสนุนห้องเรียน Nature Explore ในที่พักพิงสำหรับความรุนแรงในครอบครัว เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมีสถานที่ที่ปลอดภัยในการเชื่อมต่อกับธรรมชาติ
  • ตั้งแต่ปี 2013 Mary Kay เริ่มสนับสนุนโครงการปลูกป่าขนาดใหญ่ทั่วโลก รวมถึงสหรัฐอเมริกา บราซิล จีน เยอรมนี ไอร์แลนด์ เปรู และมาดากัสการ์
  • ในปี 2018 ขณะที่ Mary Kay ตัดริบบิ้นที่โรงงาน Richard R. Rogers Manufacturing / R&D แห่งใหม่ใน Lewisville รัฐเท็กซัส บริษัทได้ฉลองความสำเร็จในการปลูกต้นไม้ครบหนึ่งล้านต้นด้วยการปลูกต้นไม้ในพิธีที่ไซต์งาน
  • จนถึงวันนี้ Mary Kay และมูลนิธิ Arbor Day Foundation ได้ปลูกต้นไม้ 1.3 ล้านต้นร่วมกัน และยังคงทำงานต่อไปเพื่อสร้างผลกระทบในอนาคต

“ความมุ่งมั่นที่ยั่งยืนของ Mary Kay ได้แสดงให้เห็นแล้วในการสนับสนุนโครงการผสมผสานที่หลากหลายซึ่งปลูกต้นไม้ที่เหมาะสมในสถานที่ที่เหมาะสม ทำให้ความร่วมมือครั้งนี้เป็นความร่วมมือที่พิเศษอย่างแท้จริง” กล่าวโดย Katie Loos ประธานมูลนิธิ Arbor Day Foundation “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การทำงานร่วมกันของเราได้เติบโตขึ้นเพื่อสร้างผลกระทบในระดับโลกในด้านป่าไม้ที่มีความจำเป็นมากที่สุด Mary Kay เข้าใจความหมายและสิ่งที่จำเป็นในการเป็นเจ้าหน้าที่บริการที่ดีต่อระบบนิเวศและชุมชนที่เปราะบางที่สุดของเรา และเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นอนาคตของความร่วมมือนี้ที่รออยู่สำหรับโลกใบนี้”

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของ Mary Kay ในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนได้ที่ https://marykayglobal.com/sustainability/

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 1963 โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือเติมเต็มชีวิตให้กับผู้หญิง ความฝันนั้นได้เบ่งบานกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราบน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

เกี่ยวกับ the Arbor Day Foundation

มูลนิธิ Arbor Day Foundation ก่อตั้งขึ้นในปี 1972 และเติบโตจนกลายเป็นองค์กรสมาชิกที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ใหญ่ที่สุดที่อุทิศตนเพื่อการปลูกต้นไม้ โดยมีสมาชิก ผู้สนับสนุน และพันธมิตรที่ทรงคุณค่ามากกว่าหนึ่งล้านคน ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิ Arbor Day Foundation ปลูกต้นไม้เกือบ 500 ล้านต้นในละแวกใกล้เคียง ชุมชน เมือง และป่าทั่วโลก วิสัยทัศน์ของเราคือการนำไปสู่โลกที่ต้นไม้ถูกนำมาใช้ในการแก้ปัญหาที่มีความสำคัญต่อการอยู่รอด

ในฐานะหนึ่งในมูลนิธิที่ดำเนินงานเพื่อการอนุรักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มูลนิธิ Arbor Day Foundation ผ่านสมาชิก พันธมิตร และโครงการต่าง ๆ ได้ให้ความรู้และสนับสนุนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและชุมชนต่าง ๆ ทั่วโลกให้มีส่วนร่วมในภารกิจการปลูก บำรุงเลี้ยง และเฉลิมฉลองต้นไม้ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ arborday.org

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53365297/en

ติดต่อ

Mary Kay Inc.
การสื่อสารองค์กร
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

ที่มา: Mary Kay Inc.