Category Archives: Technology

Chevron Singapore ขยายความสัมพันธ์กับ PDI เตรียมใช้โซลูชันระบบขายหน้าร้าน (POS) ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

Logo

โซลูชัน POS บนคลาวด์ของ PDI มาพร้อมการทำงานเชิงลึกที่จะสนับสนุนการดำเนินการของร้านสะดวกซื้อ สถานีขายปลีกน้ำมัน และศูนย์อาหาร ด้วยการผสานการทำงานอย่างไร้รอยต่อในระบบนิเวศธุรกิจค้าปลีก

แอตแลนตา–(BUSINESS WIRE)–11 กุมภาพันธ์ 2565

วันนี้ PDI (www.pdisoftware.com) ผู้ให้บริการระดับโลกด้านโซลูชันซอฟต์แวร์ชั้นนำสำหรับร้านสะดวกซื้อและอุตสาหกรรมค้าส่งปิโตรเลียม ประกาศว่าได้ลงนามในข้อตกลงกับ Chevron Singapore Pte. Ltd. (Chevron) เพื่อทำการติดตั้งโซลูชันระบบขายหน้าร้าน (POS) PDI ที่อยู่บนคลาวด์ โดยข้อตกลงดังกล่าวจะสนับสนุนการทำงานในประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) และทั่วทั้งเครือข่ายค้าปลีกของ Chevron พร้อมบูรณาการกับระบบหลังบ้าน PDI ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และโซลูชันสำหรับธุรกิจโฮมออฟฟิศที่จะทำให้การดำเนินการอันซับซ้อนของทุกศูนย์กำไรเป็นเรื่องง่าย โซลูชัน POS ของ PDI จะรองรับการทำงานทั้งในร้านสะดวกซื้อ สถานีขายปลีกน้ำมัน และศูนย์บริการอาหารของ Chevron ด้วยการผสานการทำงานที่ไร้รอยต่อในระบบนิเวศธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ของบริษัท

เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา PDI ได้ประกาศว่าจะทำการติดตั้งเจเนอเรชันใหม่ของโซลูชันซอฟต์แวร์ PDI Envoy สำหรับระบบหลังบ้านและโฮมออฟฟิศ ณ สำนักงานของ Chevron ทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิก การประกาศในวันนี้จะทำให้ Chevron สามารถใช้ประโยชน์จากทีมผู้เชี่ยวชาญระดับโลกของ PDI ต่อไป เพื่อสนับสนุนความพยายามด้านการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลในภูมิภาคซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ และยิ่งไปกว่านั้น Chevron จะอาศัยชุดเทคโนโลยีที่ทรงพลัง ทำงานอย่างลื่นไหล และมีความน่าเชื่อถือของ PDI เพื่อสร้างรากฐานให้กับการลงทุนด้านเทคโนโลยีขั้นสูงในอนาคต

Brad McGuinness รองประธานอาวุโสด้านโซลูชันระบบ POS ของ PDI กล่าวว่า “เราตื่นเต้นที่จะได้ขยายความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานกับ Chevron ในเอเชียแปซิฟิก และนับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ให้บริการและช่วยให้ลูกค้าอย่าง Chevron ได้รับประโยชน์จากการลงทุนด้านเทคโนโลยีของ PDI ในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและร้านสะดวกซื้อ การประกาศครั้งนี้ยังสร้างความชอบธรรมให้กับการลงทุนมหศาลของ PDI ในอุตสาหกรรมนี้ รวมถึงตลาดต่างประเทศ และธุรกิจโซลูชันของเรา”

PDI เป็นผู้นำตลาดในการส่งมอบโซลูชันที่มาพร้อมรากฐานสำคัญสำหรับการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลสำหรับทั้งการขยายและการดำเนินการที่รองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เหล่าผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกชั้นนำอย่าง Chevron ยังคงเดินหน้าลงทุนในเทคโนโลยีที่เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจและช่วยทำให้ประสบการณ์ของผู้มาใช้บริการดีขึ้นด้วยโซลูชัน POS ที่ล้ำสมัย

Dean Gilbert ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายสนับสนุนการตลาดและการขายของ Chevron ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าและเพิ่มผลิตภาพให้กับธุรกิจ เราจึงปรับโฉมใหม่ให้กับโซลูชัน POS ของเรา PDI คือพันธมิตรที่มีความทุ่มเทและเป็นที่ไว้วางใจ ทั้งยังมีผลงานเป็นที่ประจักษ์จากการสนับสนุนการทำงานของเราในภูมิภาคนี้ ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอย่างลึกซึ้งจาก PDI ช่วยสร้างความสำเร็จให้กับ Chevron ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเราตื่นเต้นที่จะได้ขยายความสำเร็จนี้สู่ระบบ POS ของเรา”

โซลูชัน POS ของ PDI ทำให้ Chevron สามารถเพิ่มการให้บริการที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลางด้วยโปรโมชันและการดำเนินงานที่เข้มแข็ง และการควบคุมดูแลธุรกิจได้อย่างดียิ่งขึ้น รวมถึงการปรับปรุงข้อมูลคงคลัง ยอดขาย ราคา และพนักงานแบบเรียลไทม์

Sin Hin Wong ผู้จัดการทั่วไปของ PDI และรองประธานฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “Chevron ให้ความสำคัญกับการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้ารวมถึงระบบ POS ที่ทันสมัยและมีการบูรณาการการทำงาน ซึ่งจะพาพวกเขาไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้และเพิ่มผลิตภาพให้ธุรกิจไปพร้อมกัน เราตั้งตารอที่จะได้ทำงานร่วมกับ Chevron ในทุกภาคส่วนของธุรกิจค้าปลีกในเอเชียและทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”

เกี่ยวกับ PDI

ซอฟต์แวร์ของ Professional Datasolutions, Inc. (PDI) ช่วยธุรกิจและแบรนด์ต่าง ๆ เพิ่มยอดขาย ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งกว่า รวมถึงช่วยให้สามารถตัดสินใจเรื่องที่สำคัญได้ดีขึ้น ตั้งแต่ปี 2526 เป็นต้นมา PDI รับใช้อุตสาหกรรมร้านสะดวกซื้อและอุตสาหกรรมปิโตรเลียมด้วยความภาคภูมิใจ กว่า 1,500 บริษัทที่มีตัวแทนจำหน่ายในที่สถานที่ต่าง ๆ กว่า 200,000 แห่งทั่วโลกอาศัยโซลูชันและความเชี่ยวชาญของ PDI ในการส่งมอบความสะดวกสบายและพลังงานให้กับโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ PDI โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราที่ www.pdisoftware.com

เกี่ยวกับ Chevron

Chevron เป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานที่มีความครบวงจรระดับชั้นนำของโลก เราเชื่อว่าพลังงานที่มีราคาเหมาะสม น่าเชื่อถือ และสะอาดกว่าที่เคยเป็นส่วนสำคัญที่จะนำไปสู่การทำให้โลกอุดมสมบูรณ์และมีความยั่งยืนยิ่งขึ้น Chevron เป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรชาติ เชื้อเพลงที่ใช้ในการขนส่ง น้ำมันหล่อลื่น ปิโตรเคมีและสารเติมแต่ง และเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีที่จะยกระดับธุรกิจและอุตสาหกรรมของเรา เราให้ความสำคัญกับการลดดัชนีการเกิดคาร์บอน (carbon intensity) ในการดำเนินธุรกิจของเรา และมุ่งสร้างธุรกิจที่ลดการสร้างคาร์บอนให้เติบโตควบคู่ไปกับธุรกิจดั้งเดิมของเรา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Chevron สามารถดูได้ที่ www.chevron.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220210006001/en/

ติดต่อ:

Kelly O’Brien
kelly.obrien@pdisoftware.com

Dimitra Farou
dfarou@pdisoftware.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

NielsenIQ: 60% ของการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ไม่คุ้มทุน

Logo

NielsenIQ BASES แนะนำให้สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อช่วยให้แบรนด์สร้างความสนใจ

BASES Renovator เป็นโซลูชันที่ก้าวล้ำที่ช่วยให้แบรนด์นำหน้าคู่แข่ง

ชิคาโก–(บิสิเนส ไวร์)–09 ก.พ. 2565

ทั่วโลก มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่มากกว่า 230,000 รายการต่อปี  อย่างไรก็ตาม มีผู้บริโภคเพียง 8% เท่านั้นที่มุ่งมั่นที่จะใช้แบรนด์ตามเดิม ตามการวิจัยของ NielsenIQ  เพื่อสร้างความสนใจในสภาพแวดล้อมการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แบรนด์จำเป็นต้องปรับตัว มิฉะนั้นจะเสี่ยงต่อการสูญเสียส่วนแบ่งตลาด  อย่างไรก็ตาม หากแบรนด์รอนานเกินไปที่จะพัฒนาตนเอง ก็อาจจะสายเกินไปเช่นกัน

NielsenIQ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ข้อมูลเชิงลึกที่ลูกค้าสามารถนำไปปฏิบัติได้ ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพตามข้อมูลที่ได้รับ  เราทราบว่า 60% ของการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เดิมใหม่ไม่ประสบความสำเร็จในการฟื้นยอดขายที่ลดลง  ดังนั้นเราจึงพัฒนาโซลูชันที่ก้าวล้ำใหม่ที่จะช่วยให้แบรนด์มีการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมและลึกซึ่งที่เร็วขึ้นเพื่อช่วยปรับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ให้เข้ากับแนวโน้มของผู้บริโภคและปัจจัยทางการตลาดที่หลากหลาย

BASES Renovator สร้างสมดุลระหว่างความจำเป็นในการปรับตัวและการเสริมสร้างประสิทธิภาพของแบรนด์ผ่านแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์แบบโต้ตอบที่รวดเร็วด้วยวิธีการเฉพาะ  BASES Renovator จะผสมผสานการประเมินบริบทการแข่งขันเข้าและเผยข้อมูลเชิงลึกที่มอบภาพที่ชัดเจนว่าการเปลี่ยนแปลงจะส่งผลต่อความเป็นอยู่ที่ดีทางการเงิน ปฏิสัมพันธ์ในการแข่งขัน และมุมมองเชิงกลยุทธ์ของแบรนด์ในอนาคตอย่างไร  นอกจากนี้ BASES Renovator ยังบรรลุผลลัพธ์เหล่านี้โดยใช้เวลาเพียงครึ่งเดียวของโซลูชันแบบดั้งเดิมอื่นๆ

“การมาถึงของ Renovator เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ดีมาก” Joe Willke ประธาน NielsenIQ BASES กล่าว “ปัจจัยภายนอกได้บังคับให้ลูกค้าของเราจำนวนมากให้ความสำคัญกับข้อเสนอหลักของพวกเขา  Renovator เป็นโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบสำหรับบริษัทที่ต้องการลงทุนและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในแบรนด์ที่มีอยู่  ข้อมูลเชิงลึกที่แข็งแกร่งซึ่งรวบรวมได้จากโซลูชันนี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการแข่งขันเพื่อการซื้อของผู้บริโภคอย่างประสบผลสำเร็จ ในขณะเดียวกันก็เสริมความแข็งแกร่งให้กับตราสินค้าของแบรนด์ด้วย”

เกี่ยวกับ NielsenIQ

NielsenIQ เป็นผู้นำการให้บริการมุมมองที่สมบูรณ์ที่สุดเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลก  NielsenIQ ขับเคลื่อนโดยแพลตฟอร์มข้อมูลผู้บริโภคที่ก้าวล้ำและด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ที่หลากหลาย ทำให้สามารถตัดสินใจได้อย่างกล้าหาญและมั่นใจสำหรับบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคและผู้ค้าปลีกชั้นนำของโลก

การใช้ชุดข้อมูลที่ครอบคลุมและการวัดผลธุรกรรมทั้งหมดอย่างเท่าเทียมกัน NielsenIQ ช่วยให้ลูกค้ามีมุมมองเชิงคาดการณ์ล่วงหน้าเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในแพลตฟอร์มการค้าปลีกทั้งหมด  ปรัชญาเปิดของเราในการรวมข้อมูลช่วยสร้างชุดข้อมูลผู้บริโภคที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก  NielsenIQ มอบความจริงที่สมบูรณ์

NielsenIQ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Advent International มีการดำเนินงานในเกือบ 100 ตลาด ครอบคลุมมากกว่า 90% ของประชากรโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยม NielsenIQ.com

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220209005150/en/

ติดต่อ:

Alex Tekip
alexandra.tekip@nielseniq.com 
+1 517-249-1588

Fernanda Paredes
fernanda.paredes@nielseniq.com  
+1-917-291-1196

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Toshiba วางจำหน่ายวงจรขับเกตมอสเฟตใหม่ที่จะช่วยลดฟุตพริ้นท์ของอุปกรณ์

Logo

– ผลิตภัณฑ์ซีรีส์ TCK42xG รองรับการเชื่อมต่อแบบหลังชนหลังของมอสเฟตชนิด N-channel ที่ใช้ภายนอก –

คาวาซากิ, ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–09 กุมภาพันธ์ 2565

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) ได้วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์รุ่น “TCK421G” สำหรับสายไฟขนาด 20V โดยเป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกจาก “ซีรีส์ TCK42xG” ใหม่ของวงจรขับเกตมอสเฟต อุปกรณ์จากซีรีส์นี้ออกแบบมาเพื่อการควบคุมแรงดันเกตของมอสเฟตชนิด N-channel ที่ใช้ภายนอก โดยอิงจากแรงดันขาเข้าและมีฟังก์ชันหยุดการทำงานเมื่อแรงดันเกินด้วย การจัดส่งสู่ตลาดจะเริ่มต้นในวันนี้

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220208005552/en/

Toshiba: a new MOSFET gate driver IC TCK421G that will help to reduce device footprints. (Graphic: Business Wire)

Toshiba: วงจรขับเกตมอสเฟตรุ่น TCK421G ใหม่ที่จะช่วยลดฟุตพริ้นท์ของอุปกรณ์ (กราฟิก: Business Wire)

TCK421G เหมาะสำหรับกำหนดค่าวงจรมัลติเพล็กซ์หรือวงจรตัดการจ่ายไฟที่มีการบล็อกกระแสย้อนกลับร่วมกับการเชื่อมต่อแบบหลังชนหลังของมอสเฟตชนิด N-channel แบบใช้ภายนอก ประกอบด้วยวงจรอัดประจุที่รองรับแรงดันขาเข้าที่กว้างตั้งแต่ 2.7 โวลต์ ถึง 28 โวลต์ และเป็นแหล่งจ่ายไฟที่เสถียรให้กับแรงดันระหว่างขั้วเกต-ซอร์สของมอสเฟตภายนอกโดยมีการทำงานเป็นพัก ๆ (intermittent operation) ซึ่งทำให้สามารถสลับกระแสที่มีปริมาณมากได้

TCK421G มาในแพ็คเกจ WCSP6G[1] ซึ่งเป็นหนึ่งในแพ็คเกจที่เล็กที่สุดในอุตสาหกรรม[2] และยังคำนึงถึงการติดตั้งโดยใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าในอุปกรณ์ขนาดเล็กอย่างเช่นอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะและสมาร์ทโฟน ซึ่งช่วยลดฟุตพรินต์ของอุปกรณ์เหล่านั้น

Toshiba จะยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ซีรีส์ TCK42xG ต่อพร้อมเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์อีกทั้งหมด 6 เวอร์ชัน ฟังก์ชันหยุดการทำงานเมื่อแรงดันเกินของซีรีส์ TCK42xG จะรองรับแรงดันขาเข้าตั้งแต่ 5 โวลต์ ถึง 24 โวลต์ นอกจากนี้จะมีแรงดันขาออกให้เลือกสองระดับ ได้แก่ 5.6 โวลต์ และ 10 โวลต์ เพื่อเลือกใช้กับแรงดันระหว่างขั้วเกต-ซอร์สแบบต่าง ๆ ในมอสเฟตภายนอก นอกจากนี้ยังสามารถเลือกฟังก์ชันหยุดการทำงานเมื่อแรงดันเกินและแรงดันขาออกได้ตามอุปกรณ์ของผู้ใช้ด้วย

หมายเหตุ:
[1] 1.2 มม. x 0.8 มม.
[2] ในบรรดาวงจรขับเกตมอสเฟต อ้างอิงจากการสำรวจของ Toshiba เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565

การใช้งาน

  • อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ (Wearables)
  • สมาร์ทโฟน
  • คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก, แท็บเลต
  • อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และอื่น ๆ

คุณสมบัติของซีรีส์ใหม่

  • การตั้งค่าแรงดันระหว่างขั้วเกต-ซอร์ส (5.6 โวลต์, 10 โวลต์) ซึ่งขึ้นอยู่กับแรงดันขาเข้า พร้อมวงจรอัดประจุที่มีมาในตัว
  • ฟังก์ชันหยุดการทำงานเมื่อแรงดันเกินรองรับที่ 5 โวลต์ ถึง 24 โวลต์
  • แรงดันขาเข้าเมื่อมีการตัดวงจรต่ำ: IQ(OFF)= 0.5μA (สูงสุด) @VIN=5V, Ta= -40 ถึง 85°C

คุณสมบัติจำเพาะหลัก

(Ta=25°C นอกจากจะระบุให้เป็นค่าอื่น)

หมายเลขชิ้นส่วน

TCK421G

แพ็คเกจ

ชื่อ

WCSP6G

ขนาด (มม.)

1.2×0.8 (ทั่วไป.),

t=0.35 (สูงสุด)

ช่วงการทำงาน

แรงดันขาเข้า VIN (V)

@Ta= -40 ถึง 85°C

2.7 ถึง 28

คุณสมบัติ

ทางไฟฟ้า

VIN UVLO ขีดเริ่ม, Vout ขณะลดลง

VIN_UVLO ทั่วไป/สูงสุด (V)

@Ta= -40 ถึง 85°C สำหรับ VIN_UVLO สูงสุด

2.0/2.5

VIN UVLO ฮิสเตอร์เรซิส VIN_UVhyst

ทั่วไป (V)

0.2

VIN OVLO ขีดเริ่ม, Vout ขณะลดล

VIN_OVLO ต่ำสุด/สูงสุด (V)

@Ta= -40 ถึง 85°C

22.34/24.05

VIN OVLO ฮิสเตอร์เรซิส

VIN_OVhyst ทั่วไป (V)

0.12

กระแสเข้าในสภาวะปกติ

(เมื่อใช้งาน) [3]

IQ(ON) ทั่วไป (μA)

@VIN=5V

140

@VIN=12V

185

กระแสในโหมดสแตนด์บาย

(เมื่อไม่มีการใช้งาน)

IQ(OFF) สูงสุด (μA)

@VIN=5V, Ta= -40 ถึง 85°C

0.5

@VIN=12V, Ta= -40 ถึง 85°C

0.9

แรงดันขับเกต

(VGATE1-VIN)

(VGATE2-VIN)

VGS ต่ำสุด/ทั่วไป/สูงสุด

(V)

@VIN=2.7V

8/9.2/10

@VIN=5V

9/10/11

@VIN=9V

9/10/11

@VIN=12V

9/10/11

@VIN=20V

9/10/11

VGS เมื่อใช้งาน

tON ทั่วไป (ms)

@VIN=5V, CGATE1,2=4000pF

2.9

VGS เมื่อไม่มีการใช้งาน

tOFF ทั่วไป (μs)

VIN=5V, @CGATE1,2=4000pF

52

OVLO VGS turn OFF time

tOVP ทั่วไป (μs)

@CGATE1,2=4000pF

34

ตรวจสอบสินค้าตัวอย่างและการวางจำหน่าย

ซื้อออนไลน์

หมายเหตุ:
[3] ไม่รวมกระแสที่เทอร์มินอลควบคุม (ICT)

กดลิงก์ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่
TCK421G
TCK42xG Series

ตรวจสอบการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ผ่านตัวแทนจำหน่ายทางออนไลน์ได้ที่:
TCK421G

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับลูกค้า
ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์สัญญาณขนาดเล็ก
โทร: +81-44-548-2215
Contact Us

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่น ๆ ที่กล่าวถึงในที่นี้อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ
* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาเกี่ยวกับบริการ และข้อมูลติดต่อมีความถูกต้องและเป็นปัจจุบันในวันที่ประกาศซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ระดับแถวหน้าผู้จัดหาโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และการจัดเก็บที่มีความก้าวล้ำ รวบรวมประสบการณ์และนวัตกรรมที่สะสมมากว่าครึ่งศตวรรษ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์ ระบบ LSIs และ HDD อันโดดเด่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจของเรา

พนักงานทั้ง 22,000 คนจากทั่วโลกของ TDSC มุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ของเราให้ถึงระดับสูงสุด และให้ความสำคัญกับการทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า เพื่อส่งเสริมการสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ ๆ ร่วมกัน ด้วยยอดขายต่อปีที่สูงกว่า 7.1 แสนล้านเยน (6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในขณะนี้ TDSC หวังที่จะได้มีส่วนสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับผู้คนทั่วโลก
เรียนรู้เพิ่มเติมที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220208005552/en/

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อ:
Chiaki Nagasawa
ฝ่ายการตลาดดิจิทัล
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
โทร: +81-44-549-8361
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Toshiba เปิดตัววงจรแบบ Pre-Driver สำหรับตัวควบคุมมอเตอร์กระแสตรงแบบไร้แปรงถ่านที่มีสามเฟส ใช้ตัวขับแบบ Sine-Wave และไม่มี Hall Sensor ซึ่งช่วยลดการสะเทือนและเสียง

Logo

คาวาซากิ, ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–08 กุมภาพันธ์ 2565

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) ได้เปิดตัววงจร pre-driver สำหรับควบคุมมอเตอร์กระแสตรงแบบไร้แปรงถ่านที่มีสามเฟส รุ่น “TC78B011FTG” และได้เริ่มจัดส่งเพื่อการจำหน่ายในวันนี้ ผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้สามารถใช้ได้กับมอเตอร์ความเร็วสูง ซึ่งรวมถึงมอเตอร์ที่ใช้กับพัดลมของเซิร์ฟเวอร์และเครื่องเป่าลม และมอเตอร์ที่ใช้ในเครื่องดูดฝุ่นไร้สายและหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทำความสะอาด

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220207005310/en/

Toshiba: TC78B011FTG, a sine-wave drive three-phase brushless DC motor control pre-driver IC. (Graphic: Business Wire)

Toshiba: TC78B011FTG วงจร pre-driver สำหรับตัวควบคุมมอเตอร์กระแสตรงแบบไร้แปรงถ่านที่มีสามเฟสและใช้ตัวขับแบบ sine-wave (กราฟิก: Business Wire)

TC78B011FTG ใช้วิธีขับแบบ sine-wave ที่ไม่มีตัวควบคุม Hall Sensor ซึ่งช่วยลดการสั่นสะเทือนและเสียงรบกวน นอกจากนี้ การควบคุมความเร็วแบบวงปิดที่มีมาในตัวยังช่วยให้สามารถตั้งค่าโปรไฟล์ความเร็วอย่างละเอียดลงในหน่วยความจำแบบไม่ลบเลือน (NVM) ของวงจรได้ ซึ่งจะช่วยป้องกันความผันผวนของความเร็วในการหมุนที่เกิดจากความผันผวนของแรงดันไฟฟ้าและโหลดของแหล่งจ่ายไฟโดยไม่จำเป็นต้องใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์ภายนอก

Toshiba ยังผลิตสินค้ารุ่น TC78B009FTG ในปริมาณมาก โดยใช้วิธีขับแบบ rectangular-wave ที่ไม่ใช้การควบคุม Hall Sensor และผู้ใช้สามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับวิธีที่ใช้ขับมอเตอร์ของพวกเขาได้ด้วย

การใช้งาน

– พัดลมระบายสำหรับเสิร์ฟเวอร์
– มอเตอร์ดูดสำหรับเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย
– มอเตอร์ดูดสำหรับหุ่นยนต์ทำความสะอาด
– ปั๊ม
– เครื่องเป่า และอื่น ๆ

คุณสมบัติ

– ไม่มี Hall Sensor
– ตัวขับแบบ Sine-wave
– การควบคุมความเร็วแบบวงปิด (Closed loop)

ข้อมูลจำเพาะหลัก

หมายเลขชิ้นส่วน

TC78B011FTG

แรงดันไฟฟ้าที่จ่าย

(ช่วงการทำงาน)

5.5 ถึง 27V

วิธีขับ

แบบ Sine-wave

คุณสมบัติ

ไม่มี Hall Sensor

เลือกการควบคุมความเร็วได้ทั้งแบบวงปิดหรือวงเปิด

มีฟังก์ชันสแตนด์บาย

การกำหนดค่ากระแสเกต FET สำหรับการควบคุมสลูว์เรต

เลือกระหว่างการหมุนไปข้างหน้าหรือการหมุนย้อนกลับได้

รองรับการควบคุมความเร็วด้วยสัญญาณดิวตี้ PWM, สัญญาณแรงดันไฟฟ้าอะนาล็อก และ I2C

รองรับการตั้งค่าต่าง ๆ ด้วยอินเทอร์เฟส I2C

แพ็คเกจ

P-WQFN36-0505-0.50-001 (5มม.×5มม.×0.8มม.)

ตรวจสอบ

สินค้าตัวอย่างและ

การวางจำหน่าย

ซื้อออนไลน์

ติดตามลิงก์ด้านล่างเพื่อดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่
TC78B011FTG

ติดตามลิงก์ด้านล่างเพื่อดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับวงจรขับมอเตอร์ของ Toshiba
วงจรขับมอเตอร์

ตรวจสอบการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ผ่านตัวแทนจำหน่ายทางออนไลน์ได้ที่:
TC78B011FTG

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับลูกค้า:
กลุ่มส่งเสริมการข่ายอุปกรณ์อะนาล็อกและยานยนต์
โทร: +81-44-548-2219
Contact Us

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่น ๆ ที่กล่าวถึงในที่นี้อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ
* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาเกี่ยวกับบริการ และข้อมูลติดต่อมีความถูกต้องและเป็นปัจจุบันในวันที่ประกาศซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ระดับแถวหน้าผู้จัดหาโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และการจัดเก็บที่มีความก้าวล้ำ รวบรวมประสบการณ์และนวัตกรรมที่สะสมมากว่าครึ่งศตวรรษ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์ ระบบ LSIs และ HDD อันโดดเด่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจของเรา
พนักงานทั้ง 22,000 คนจากทั่วโลกของ TDSC มุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ของเราให้ถึงระดับสูงสุด และให้ความสำคัญกับการทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า เพื่อส่งเสริมการสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ ๆ ร่วมกัน ด้วยยอดขายต่อปีที่สูงกว่า 7.1 แสนล้านเยน (6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในขณะนี้ TDSC หวังที่จะได้มีส่วนสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับผู้คนทั่วโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220207005310/en/

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อ:
Chiaki Nagasawa
ฝ่ายการตลาดิจิทัล
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
โทร: +81-44-549-8361
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

GlideFast Consulting ได้รับการประกาศให้เป็นพันธมิตรทรงเกียรติระดับ Elite แห่งปี ของ ServiceNow ประจำปี 2565

Logo

บอสตัน–(BUSINESS WIRE)–7  กุมภาพันธ์ 2564

GlideFast Consulting ประกาศว่าบริษัทได้รับยกย่องในฐานะพันธมิตรยอดเยี่ยมระดับ Elite แห่งปีของ ServiceNow Americas Elite Partner of the Year ประจำปี 2565 ทั้งนี้ GlideFast ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อ ServiceNow ผ่านการปรับใช้งานกับลูกค้าชั้นนำของอุตสาหกรรมและความสามารถในการแสดงให้เห็นถึงการเติบโตเป็นอย่างมาก

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหาเป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220207005290/en/

GlideFast Consulting Announced as the 2022 ServiceNow Elite Partner of the Year (Photo: Business Wire)

GlideFast Consulting ได้รับการประกาศให้เป็น ServiceNow Elite Partner of the Year ประจำปี 2565 (ภาพ: Business Wire)

องค์กร ServiceNow Global Alliances and Channel Ecosystem (ACE) ตระหนักถึงความสำเร็จของบริษัทพันธมิตรที่อยู่ในระดับที่ดีเยี่ยม ซึ่งมีส่วนสนับสนุนเส้นทางการเติบโตของ ServiceNow ด้วยการขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จให้กับลูกค้าร่วมของบริษัท โดยรางวัลประจำปีนี้พิจารณาจากประสิทธิภาพของพันธมิตรในปี 2564 โดยการประเมินคุณลักษณะหลักดังต่อไปนี้ ซึ่งได้แก่ ส่วนแบ่งรายได้/การเติบโต การขยายสายผลิตภัณฑ์ การเติบโตของเวิร์กโฟลว์และทักษะ และนวัตกรรมทางธุรกิจที่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่เกี่ยวข้อง

รางวัลนี้ถูกนำเสนอในงานประกาศผล Americas Partner Awards แบบดิจิทัล ของ ServiceNow  ในวันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

GlideFast Consulting เป็นบริษัทที่ปรึกษาที่ก่อตั้งโดยสถาปนิกและนักพัฒนาของ ServiceNow ในปี 2558 ภายในเวลาไม่กี่ปี ทีมงานได้ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของระบบนิเวศของ ServiceNow Partner อย่างรวดเร็วในฐานะ Elite Partner โดยการนำเสนอโซลูชันด้านไอทีชั้นนำแก่องค์กรต่าง ๆ โดยเฉพาะในด้านโทรคมนาคม การดูแลสุขภาพ การเงิน และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา GlideFast เติบโตขึ้นอย่างมาก พวกเขาได้เริ่มโครงการพัฒนา ServiceNow ชื่อ GlideFast Consulting University และได้เข้าซื้อกิจการของหุ้นส่วนรายก่อนของ ServiceNow Elite อย่าง CloudPires กับ Pharicode

“เรายินดีและรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติที่สุดของ ServiceNow สมาชิกในทีม GlideFast ทุกคนควรรู้สึกภาคภูมิใจ นี่เป็นผลโดยตรงจากความพยายามอย่างเต็มที่ที่พวกเขาให้กับงานทุกวัน ในนามของทีม GlideFast ผมขอขอบคุณสมาชิกทีม ServiceNow ที่น่าทึ่งทุกคน ที่ร่วมมือกับเราและลูกค้าประจำของเราที่ไว้วางใจเราให้ช่วยโครงการเชิงยุทธศาตร์ของพวกเขา” Michael Lombardo ซีอีโอของ GlideFast Consulting กล่าว

ในปีที่ผ่านมา ServiceNow ได้ขยายระบบนิเวศของพันธมิตรทั่วโลกอย่างต่อเนื่องโดยสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพันธมิตรเพื่อสนับสนุนลูกค้าที่ต้องการความช่วยเหลือเพื่อนำทางเส้นทางการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบดิจิทัลและปรับตัวให้เข้ากับโลกของการทำงานแบบใหม่ การเป็นสมาชิกในโปรแกรมพันธมิตรของ ServiceNow ช่วยมอบเครื่องมือในการจัดเตรียม การเปิดใช้งาน และเพิ่มขีดความสามารถในการหาโครงการโดดเด่นที่สอดคล้องกันในตลาด ตลอดจนถึงข้อเสนอและโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ ซึ่งมอบมูลค่าทางธุรกิจที่ดึงดูดใจให้แก่ลูกค้า พร้อมกับเร่งการเติบโตให้กับธุรกิจ ServiceNow ของเรา

“เรารู้สึกขอบคุณที่ ServiceNow ให้การยอมรับผลงานของเรา ภารกิจของเรายังคงดำเนินต่อไปเพื่อเป็นผู้นำที่ชัดเจนในพื้นที่ของ ServiceNow เรามีความคาดหวังในตัวเองสูง และเราก็ได้ยกมาตรฐานขึ้นอีกครั้ง” Jarred Pippy ซีโอโอของ GlideFast Consulting กล่าว

GlideFast Consulting รู้สึกตื่นเต้นที่ได้รับรางวัลนี้จาก ServiceNow แต่ยังคงมุ่งเน้นไปที่การเติบโต การปรับปรุง และการขยายตัวต่อไป รางวัลนี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของความมุ่งมั่นในการเป็นพันธมิตรที่ประสบความสำเร็จในระบบนิเวศของ ServiceNow ทั่วโลก ในเวลานี้บริษัทได้ตั้งเป้าไปที่การเป็น Global Elite พร้อม ๆ ไปกับการขยายตัวไปทั่วโลกในปีนี้

เกี่ยวกับ GlideFast Consulting

GlideFast คือหนึ่งในพันธมิตรระดับ Elite Partner ของ ServiceNow  และเป็นบริษัทบริการระดับมืออาชีพในการให้บริการโซลูชันและการใช้งาน ServiceNow การบูรณาการ บริการสนับสนุนที่มีการจัดการ การพัฒนาแอปพลิเคชัน และการฝึกอบรม เรียนรู้เพิ่มเติมที่ www.glidefast.com และติดต่อกับทีมงานของเราได้ใน www.linkedin.com/company/glidefast

ServiceNow, โลโก้ ServiceNow, Now, Now Platform และเครื่องหมายอื่น ๆ ของ ServiceNow เป็นเครื่องหมายการค้าและ/หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ ServiceNow, Inc. ในสหรัฐอเมริกาและ/หรือประเทศอื่นๆ

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220207005290/en/

ติดต่อ:

Lauren Jankowski

lauren.jankowski@glidefast.com

(908) 477-1533

www.glidefast.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Gupshup เข้าซื้อกิจการ Knowlarity ผู้นำด้านเสียงที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอการสนทนา

Logo

Gupshup เพิ่มโซลูชันการส่งข้อความด้วยโซลูชันเสียงชั้นนำ Knowlarity เพื่อรวมความเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีการสนทนา

ซานฟรานซิสโก–(บิสิเนส ไวร์)–2 ก.พ. 2565

Gupshup ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีการสนทนาได้เข้าซื้อ Knowlarity Communications. Knowlarity  เป็นผู้นำระดับโลกในด้านการสื่อสารบนคลาวด์ โดยให้บริการโทรศัพท์บนคลาวด์ ระบบอัตโนมัติของศูนย์ติดต่อ ผู้ช่วยด้านเสียงที่ขับเคลื่อนด้วย AI และโซลูชันการวิเคราะห์คำพูดให้กับลูกค้ากว่า 6,000 รายใน 65 ประเทศ  การเข้าซื้อกิจการช่วยเสริมชุดเครื่องมือส่งข้อความสนทนาชั้นนำของ Gupshup และทำให้ Gupshup เป็นผู้นำด้านการสื่อสารด้วยเสียงและวิดีโอเช่นกัน  Knowlarity ดำเนินการในตลาด Conversational Engagement ด้วยเสียง ซึ่งพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงศูนย์ติดต่อ ระบบ IVR และระบบเสียงอัจฉริยะ ซึ่งคิดเป็นขนาดตลาดรวม (TAM) เกือบ 1 หมื่น 8 พันล้านดอลลาร์1 ในปี 2567

รายได้ของ Knowlarity เพิ่มขึ้น 50% เมื่อปีที่แล้ว ในขณะที่รายรับจากต่างประเทศนอกอินเดียเติบโต 100% ในช่วงเวลาเดียวกัน  Knowlarity นำเสนอโซลูชันที่มีความน่าเชื่อถือและความชาญฉลาดที่ไม่มีใครเทียบได้ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถมีส่วนร่วมกับลูกค้าได้ดีขึ้นผ่านโซลูชันเสียงและวิดีโอที่เปิดใช้งาน AI เพื่อ ROI ที่ดีขึ้น  มีการใช้โซลูชันของ Knowlarity ในหลายอุตสาหกรรม รวมถึง BFSI สินค้าอุปโภคบริโภค IT/ITeS และการดูแลสุขภาพทั่วเส้นทางของลูกค้าที่หลากหลายซึ่งครอบคลุมการขายและการสร้างลูกค้าเป้าหมาย การบริการลูกค้าและการสนับสนุน การโทรอัตโนมัติ การสำรวจความคิดเห็น การขนส่งและการจัดส่ง และงานระยะไกล  พวกเขามีพันธมิตรชั้นนำของอุตสาหกรรมกับ Google Cloud for Speech Analytics และการผสานรวมกับระบบ CRM ชั้นนำของโลก เช่น Salesforce, Freshworks, Hubspot และ Zoho และอื่นๆ Knowlarity มีลูกค้ายูนิคอร์นจำนวนมากที่สุดในตลาดเสียงของอินเดีย

“ในขณะที่การมีส่วนร่วมระหว่างธุรกิจกับผู้บริโภคกลายเป็นการสนทนา Gupshup กำลังเปิดโอกาสให้ธุรกิจได้นำเสนอประสบการณ์ที่หลากหลาย ด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ของ Knowlarity  ธุรกิจต่างๆ จะสามารถสร้างประสบการณ์การสนทนาที่ราบรื่นทั้งผ่านช่องทางการส่งข้อความและเสียง” Beerud Sheth ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Gupshup กล่าว “Knowlarity เป็นผู้นำตลาดในด้านเสียงที่ชัดเจนด้วยชุดผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมซึ่งครอบคลุมระบบโทรศัพท์คลาวด์และระบบอัตโนมัติของศูนย์ติดต่อ ควบคู่ไปกับการโต้ตอบกับลูกค้าที่ยอดเยี่ยมจะช่วยยกระดับตำแหน่งผู้นำของ Gupshup ต่อไป  ผมตื่นเต้นที่จะได้ต้อนรับทีม Knowlarity สู่ครอบครัว Gupshup”

“พวกเราที่ Knowlarity รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ Gupshup สิ่งนี้จะนำไปสู่ประสบการณ์ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นสำหรับลูกค้าปัจจุบันและในอนาคตของเรา ควบคู่ไปกับการเพิ่มพูนผลิตภัณฑ์และโอกาสในการขยายทางภูมิศาสตร์ที่สำคัญ  วัฒนธรรมที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางและนวัตกรรมของเรามีความสอดคล้องกันอย่างสมบูรณ์และเรามองเห็นการทำงานร่วมกันที่เกิดขึ้นจากการรวมกันของสองทีมที่ยอดเยี่ยม” Yatish Mehrotra ซีอีโอของ Knowlarity กล่าว

“ความจำเป็นของธุรกิจในการรักษาการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพกับลูกค้าเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและยาวนานโดยไม่คำนึงถึงภาคส่วน เวที หรือตลาด  การระบาดใหญ่ได้เน้นย้ำถึงความต้องการนี้และการเพิ่มความต้องการโซลูชันการสื่อสารที่เป็นหนึ่งเดียวและไร้รอยต่อที่ช่วยให้ บริษัทต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกับลูกค้าในทุกช่องทาง  การรวมกันของ Gupshup และ Knowlarity ทำให้เกิดการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมือนใครสำหรับลูกค้าทั่วภูมิภาค สิ่งนี้ตอกย้ำตำแหน่งความเป็นผู้นำของทั้งสองธุรกิจในด้านการมีส่วนร่วมในการสนทนาและการสื่อสารบนระบบคลาวด์ อย่างเร็ว  ในฐานผู้เชื่อมั่นใน Knowlarity, Sequoia India ยังคงตื่นเต้นกับภาคส่วนนี้ต่อไปและหวังว่าจะเป็นพันธมิตรที่ยั่งยืน” Sandeep Kher ผู้อำนวยการ Sequoia Capital India และ South East Asia กล่าว

“การลงทุนและการเดินทางของเรากับ Knowlarity ตลอดหลายปีที่ผ่านมายังคงตอกย้ำความเชื่อของเราว่าอินเดียเป็นฐานผลิตธุรกิจ SaaS ระดับโลก  Gupshup และ Knowlarity เข้ากันได้อย่างเป็นธรรมชาติ  เราขอแสดงความยินดีกับทีมต่างๆ ที่ Gupshup และ Knowlarity และขอให้พวกเขาพบเจอแต่สิ่งดีๆ ในการสร้างความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งในปีต่อๆ ไป” Subeer Monga หุ้นส่วนของ Mayfield India กล่าว

“ลูกค้าต้องการสื่อสารกับองค์กรต่างๆ ในรูปแบบข้อความ เสียง และช่องทางอื่นๆ ได้ตามต้องการ  Knowlarity เป็นผู้บุกเบิกระบบโทรศัพท์ระดับองค์กรในตลาดเกิดใหม่และ Gupshup เป็นผู้นำตลาดด้านการส่งข้อความ  การเข้าซื้อกิจการ Knowlarity ของ Gupshup เป็นเหตุการณ์สร้างผู้นำด้านการสื่อสารในประเทศตลาดเกิดใหม่ที่ใหญ่โตและก้าวหน้าที่สุด” Ambarish Gupta ผู้ร่วมก่อตั้ง Knowlarity กล่าว

ในปี 2564 Gupshup กลายเป็นยูนิคอร์นด้วยมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์และระดมทุน 340 ล้านดอลลาร์จาก Tiger Global, Fidelity Management and Research Co. LLC และนักลงทุนรายอื่นๆ ทั่วโลก  นี่คือการเข้าซื้อกิจการครั้งที่สองของ Gupshup ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา หลังจากการเข้าซื้อกิจการของ Dotgo ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม RCS (Rich Communications Services) ชั้นนำของโลก

ธุรกรรมนี้คาดว่าจะปิดได้ภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการแล้วเสร็จของเงื่อนไขการปิดการซื้อขาย  DC Advisory ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพียงผู้เดียวให้กับ Knowlarity ในการทำธุรกรรม

เกี่ยวกับ Gupshup

Gupshup ช่วยสร้างความมีส่วนร่วมของผู้ใช้ผ่านการสนทนา  Gupshup เป็นแพลตฟอร์มการมีส่วนร่วมในการสนทนาชั้นนำ ที่ขับเคลื่อนข้อความมากกว่า 6 พันล้านข้อความต่อเดือน ในแนวดิ่ง  ธุรกิจขนาดใหญ่และเล็กหลายพันแห่งในตลาดเกิดใหม่ใช้ Gupshup เพื่อสร้างประสบการณ์การสนทนาแบบ Omni-channel ในด้านการตลาด การขาย และการสนับสนุน  Gupshup นำเสนอ API การส่งข้อความเดียวสำหรับช่องการส่งข้อความมากกว่า 30 ช่อง โซลูชันเสียงที่ขับเคลื่อนด้วย AI ชุดเครื่องมือสร้างประสบการณ์การสนทนาที่หลากหลาย การผสานรวมมากกว่า 500 รายการกับระบบ CRM อีคอมเมิร์ซและระบบการตลาดอัตโนมัติชั้นนำ และเครือข่ายพันธมิตรตลาดเกิดใหม่ในแอพการรับส่งข้อความ ผู้ผลิตอุปกรณ์ ISV และผู้ให้บริการมือถือ  ด้วย Gupshup ธุรกิจต่างๆ ได้ทำให้การสนทนาเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จในการมีส่วนร่วมกับลูกค้า www.gupshup.io

เกี่ยวกับ Knowlarity

Knowlarity ช่วยให้มีการสื่อสารอัตโนมัติโดยอนุญาตให้ผู้ปฏิบัติงานทำงานออนไลน์ผ่านระบบคลาวด์  Knowlarity ช่วยให้ธุรกิจสามารถทำงานบนเครือข่ายการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพผ่านโซลูชันระบบคลาวด์ เช่น คลิกเพื่อโทร การปิดบังหมายเลข ระบบ IVR หลายระดับ WhatsApp Business API หมายเลขโทรฟรี แพลตฟอร์มวิดีโอ โซลูชันที่เปิดใช้งาน AI เช่น Speech Analytics และ VoiceBot /ChatBot และอื่นๆ  Knowlarity มีความสามารถในการเพิ่มขีดความสามารถให้กับทีมของคุณด้วยโซลูชันการทำงานเสมือนจริง เพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินธุรกิจจะไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบจากการเปิดใช้งานจากทุกที่  Knowlarity ก่อตั้งโดย Ambarish Gupta และ Pallav Pandey https://www.knowlarity.com

  1. การวิเคราะห์พยากรณ์ของ Gartner Contact center ทั่วโลก ม.ค. 2564

รูปภาพ/แกลเลอรีมัลติมีเดียพร้อมใช้: https://www.businesswire.com/news/home/52572422/en

ติดต่อ:

สื่อ

Richard Laermer
RLM PR | gupshup@rlmpr.com | (212) 741-5106 x 216

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Wipro แต่งตั้ง Badrinath Srinivasan เป็นกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Logo

สิงคโปร์และบังกาลอร์ อินเดีย–(บิสิเนสไวร์)– 27 ม.ค. 2565

Wipro Limited (NYSE: WIT, BSE: 507685, NSE: WIPRO) บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การให้คำปรึกษา และการบริการด้านกระบวนการทางธุรกิจ ประกาศแต่งตั้ง Badrinath Srinivasan (Badri) เป็นกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Badri จะมุ่งเน้นไปที่วิสัยทัศน์ของ Wipro สำหรับการเติบโตของธุรกิจ การขยายรายได้ ความสัมพันธ์กับลูกค้าและผู้มีอิทธิพล การพัฒนาความสามารถ และการสร้างแบรนด์  Badri จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับตลาดสำคัญ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเน้นที่ข้อตกลงขนาดใหญ่และการมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์

ในบทบาทล่าสุดของเขา Badri เป็นผู้นำเอเชียในด้านธุรกิจบริการทางการเงินและการประกันภัยที่ Infosys  ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปีของเขากับบริษัท Badri ได้ดำรงตำแหน่งผู้นำหลายตำแหน่งในด้านการขายและการให้คำปรึกษาทั่วตลาดสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชียแปซิฟิก และร่วมมือกับลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนวาระการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล  เขาเป็นผู้นำการริเริ่มเชิงกลยุทธ์ในเอเชีย รวมถึงการผลักดันการควบรวมและการเข้าซื้อกิจการ การสร้างกิจการร่วมค้า และการสร้างระบบนิเวศพันธมิตรเชิงกลยุทธ์

“เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่มุ่งเน้นเชิงกลยุทธ์สำหรับ Wipro ตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยิ่งในตอนนี้ ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้สำหรับโซลูชันการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่ครอบคลุม ความคล่องตัวและขนาด ความต้องการด้านเทคโนโลยีเฉพาะทาง และนวัตกรรม ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ต้อนรับ Badri มาเป็นผู้นำธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมั่นใจว่าความเป็นผู้นำและความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับตลาดของเขาจะช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จและขับเคลื่อนแผนการเติบโตของเราในภูมิภาคนี้” NS Bala, CEO, APMEA, Wipro Limited กล่าว

“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมกับ Wipro ซึ่งเป็นองค์กรที่ผมชื่นชมในวัฒนธรรมและค่านิยมอย่างแท้จริง  เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่สำคัญและผมดีใจที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับทีมที่โดดเด่นและระบบนิเวศของพันธมิตรของเราในขณะที่เรายังคงมอบคุณค่าให้กับลูกค้าของเราต่อไป  ผมหวังว่าจะได้มีส่วนร่วมในการขยายธุรกิจ Wipro ในภูมิภาค ในขณะที่เราขยายการลงทุนเพื่อสร้างความสามารถในท้องถิ่น” Badri Srinivasan กล่าว

Badri สำเร็จการศึกษาระดับวิศวกรรมศาสตร์ในสาขาอิเล็กทรอนิกส์และการสื่อสาร และเป็น MBA จาก Indian Institute of Management, Lucknow  ปัจจุบันเขาประจำอยู่ในสิงคโปร์และจะรายงานต่อ NS Bala, CEO, APMEA

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหนึ่งในหกภูมิภาคที่สำคัญที่ประกอบด้วยหน่วยตลาดเชิงกลยุทธ์ APMEA (เอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง อินเดีย และแอฟริกา) ของ Wipro  ทาบริษัทดำเนินธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มานานกว่าทศวรรษ โดยได้ร่วมมือกับองค์กรภาครัฐและเอกชนชั้นนำในอุตสาหกรรมหลายประเภทในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจและเส้นทางดิจิทัล  Wipro ยังมีสถานะในภูมิภาคนี้ผ่านหน่วยงานที่ได้มา ซึ่งได้แก่ Capco, Designit และ Topcoder  เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการของเราในภูมิภาคนี้ เรายังคงลงทุนในการปรับเข้ากับท้องถิ่น การสร้างความสามารถตามขนาด ในขณะที่เสริมสร้างความร่วมมือและความรู้เกี่ยวกับความต้องการในภูมิภาคเพื่อนำเสนอบริการและประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับลูกค้าของเรา

เกี่ยวกับ Wipro Limited

Wipro Limited (NYSE: WIT, BSE: 507685, NSE: WIPRO) เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การให้คำปรึกษา และกระบวนการทางธุรกิจ  เราควบคุมพลังของการประมวลผลทางความคิด ระบบไฮเปอร์ออโตเมชั่น หุ่นยนต์ คลาวด์ การวิเคราะห์ และเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่เพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราปรับตัวเข้ากับโลกดิจิทัลและทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จ  เราเป็นบริษัทที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในด้านบริการที่ครอบคลุม ความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าเพื่อความยั่งยืน และการเป็นพลเมืองที่ดี  เรามีพนักงานที่ทุ่มเทมากกว่า 220,000 คนที่ให้บริการลูกค้าในหกทวีป  เราค้นพบแนวคิดและเชื่อมโยงจุดต่างๆ ร่วมกันเพื่อสร้างอนาคตใหม่ที่ดีกว่าและกล้าหาญ

แถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า

ข้อความที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าในที่นี้แสดงถึงความเชื่อของ Wipro เกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคต ซึ่งตามปกติมีความไม่แน่นอนและอยู่นอกเหนือการควบคุมของ Wipro  ข้อความดังกล่าวรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ข้อความเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของ Wipro ผลการดำเนินงานทางการเงินในอนาคต และแผนงาน ความคาดหวังและความตั้งใจของ Wipro  ทางบริษัทเตือนผู้อ่านว่าข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าในที่นี้มีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างอย่างมากจากผลลัพธ์ที่คาดการณ์ไว้ในข้อความดังกล่าว  ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนดังกล่าว รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความผันผวนของรายได้และผลกำไรของเรา ความสามารถของเราในการสร้างและจัดการการเติบโต การดำเนินการขององค์กร การแข่งขันที่รุนแรงในบริการไอที ความสามารถของเราในการรักษาความได้เปรียบทางต้นทุน ค่าแรงที่เพิ่มขึ้นในอินเดีย ความสามารถของเราในการดึงดูดและรักษาผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะสูง เวลาและค่าใช้จ่ายเกินในสัญญาราคาคงที่ ความเข้มข้นของฐานลูกค้า ข้อจำกัดในการย้ายถิ่นฐาน ความสามารถของเราในการจัดการการดำเนินงานระหว่างประเทศ ความต้องการในเทคโนโลยีหลักของเราที่ลดลด การหยุดชะงักในเครือข่ายโทรคมนาคม ความสามารถของเราในการดำเนินการให้เสร็จสมบูรณ์และการเข้าซื้อกิจการที่อาจเกิดขึ้น ความรับผิดต่อความเสียหายในสัญญาบริการของเรา ความสำเร็จของบริษัทที่เราลงทุนเชิงกลยุทธ์ การเพิกถอนสิ่งจูงใจทางการคลัง ความไม่มั่นคงทางการเมือง สงคราม ข้อจำกัดทางกฎหมายในการระดมทุนหรือการเข้าซื้อกิจการนอกอินเดีย การใช้ทรัพย์สินทางปัญญาของเราโดยไม่ได้รับอนุญาตและสภาพเศรษฐกิจทั่วไปที่มีผลกระทบต่อธุรกิจและอุตสาหกรรมของเรา เงื่อนไขที่เกิดจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ที่อาจทำให้การใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีลดลง ส่งผลเสียต่อความต้องการผลิตภัณฑ์ของเรา ส่งผลกระทบต่ออัตราการใช้จ่ายของลูกค้า และอาจส่งผลเสียต่อความสามารถหรือความเต็มใจของลูกค้าในการซื้อข้อเสนอของเรา การชะลอการตัดสินใจซื้อของลูกค้าในอนาคตที่ส่งผลกระทบต่อความสามารถของเราในการให้บริการให้คำปรึกษาในสถานที่ และการไม่สามารถให้บริการลูกค้าหรือการล่าช้าในการจัดหาข้อเสนอของเราซึ่งอาจส่งผลเสียต่อยอด ผลการดำเนินงาน และประสิทธิภาพทางการเงินโดยรวมของเราขายในอนาคต  การดำเนินงานของเราอาจได้รับผลกระทบทางลบจากปัจจัยภายนอกหลายประการที่เกี่ยวข้องกับการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ซึ่งไม่อยู่ในการควบคุมของเรา  ความเสี่ยงเพิ่มเติมที่อาจส่งผลต่อผลการดำเนินงานในอนาคตของเรานั้นได้อธิบายไว้อย่างครบถ้วนในเอกสารที่เรายื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงรายงานประจำปีในแบบฟอร์ม 20-F เอกสารที่ยื่นเหล่านี้มีอยู่ www.sec.govที่ในบางครั้ง เราอาจทำแถลงการณ์ที่เป็นลายลักษณ์อักษรและโดยวาจาเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งรวมถึงข้อความที่อยู่ในเอกสารที่บริษัทยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และรายงานของเราต่อผู้ถือหุ้น  เราไม่ดำเนินการปรับปรุงข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าใดๆ ที่อาจทำขึ้นเป็นครั้งคราวโดยเราหรือในนามของเรา

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220126006116/en/

ติดต่อสำหรับสื่อ:
Sandeep Deb Varman
Wipro Limited
sandeep.varman@wipro.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

โมดูล MOSFET ซิลิคอนคาร์ไบด์ 1200V และ 1700V ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ของโตชิบาจะมีส่วนช่วยให้อุปกรณ์อุตสาหกรรมขนาดเล็กมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Logo

คาวาซากิ ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–26 ม.ค. 2565

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) ได้เปิดตัวโมดูล MOSFET ซิลิกอนคาร์ไบด์ (SiC) สองโมดูล ได้แก่ “MG600Q2YMS3” ที่มีพิกัดแรงดันไฟฟ้า 1200V และอัตรากระแสไฟ drain current rating ที่ 600A ส่วนรุ่น “MG400V2YMS3” ที่มีระดับแรงดันไฟฟ้า 1700V มีกระแสไฟ drain current rating ที่ 400A ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ของโตชิบารุ่นแรกที่มีพิกัดแรงดันไฟฟ้า เหมือนกับของรุ่น MG800FXF2YMS3 ที่วางจำหน่ายไปก่อนหน้านี้ในอุปกรณ์ขนาด 1200V, 1700V และ 3300V ตามลำดับ

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหาเป็นมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220125005489/en/

Toshiba: 1200V and 1700V silicon carbide (SiC) MOSFET modules that contribute to smaller, more efficient industrial equipment. (Graphic: Business Wire)

โตชิบา: โมดูล MOSFET ซิลิกอนคาร์ไบด์ (SiC) 1200V และ 1700V ที่ช่วยให้อุปกรณ์อุตสาหกรรมมีขนาดเล็กลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น (กราฟิก: Business Wire)

โมดูลใหม่นี้มีความเข้ากันได้ในการติดตั้งกับโมดูล IGBT ซิลิคอน (Si) ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ลักษณะการสูญเสียพลังงานต่ำตอบสนองความต้องการสำหรับประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและการลดขนาดในอุปกรณ์อุตสาหกรรม เช่น คอนเวอร์เตอร์และอินเวอร์เตอร์สำหรับยานพาหนะทางรถไฟ และระบบผลิตพลังงานทดแทน

 การใช้งาน

  • อินเวอร์เตอร์และคอนเวอร์เตอร์สำหรับยานพาหนะรถไฟ
  • ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน
  • อุปกรณ์ควบคุมมอเตอร์
  • ตัวแปลง DC-DC ความถี่สูง

ฟีเจอร์

  • การติดตั้งเข้ากันได้กับโมดูล Si IGBT
  • การสูญเสียต่ำกว่าโมดูล Si IGBT

MG600Q2YMS3

VDS(on)sense =0.9V (typ.) @ID=600A, Tch=25°C

Eon=25mJ (typ.), Eoff=28mJ (typ.) @VDS=600V, ID=600A, Tch=150°C

MG400V2YMS3

VDS(on)sense=0.8V (typ.) @ID=400A, Tch=25°C

Eon=28mJ (typ.), Eoff=27mJ (typ.) @VDS=900V, ID=400A, Tch=150°C

  • เทอร์มิสเตอร์ NTC ในตัว

ข้อมูลจำเพาะหลัก

( @Tc=25°C นอกจากที่ระบุไว้เป็นอย่างอื่น)

หมายเลขชิ้นส่วน

MG600Q2YMS3

MG400V2YMS3

บรรจุภัณฑ์

2-153A1A

อัตรากระแสสูงสุด

กระแส Drain-source voltage VDSS (V)

1200

1700

กระแส Gate-source voltage VGSS (V)

+25/-10

+25/-10

กระแส Drain current (DC) ID (A)

600

400

กระแส Drain current (pulsed) IDP (A)

1200

800

กระแส Channel temperature Tch (°C)

150

150

กระแส Isolation voltage Visol (Vrms)

4000

4000

คุณลักษณะไฟฟ้า

Drain-source on-voltage (sense)

VDS(on)sense typ. (V)

@VGS =+20V,

Tch=25°C

0.9

@ID=600A

0.8

@ID=400A

Source-drain on-voltage (sense)

VSD(on)sense typ. (V)

@VGS =+20V,

Tch=25°C

0.8

@IS=600A

0.8

@IS=400A

Source-drain off-voltage (sense)

VSD(off)sense typ. (V)

@VGS =-6V,

Tch=25°C

1.6

@IS=600A

1.6

@IS=400A

Turn-on switching loss Eon typ. (mJ)

Eon typ. (mJ)

@Tch=150°C

25

@ VDS=600V,

ID=600A

28

@VDS=900V,

ID=400A

Turn-off switching loss Eoff typ. (mJ)

Eoff typ. (mJ)

@Tch=150°C

28

@ VDS=600V,

ID=600A

27

@VDS=900V,

ID=400A

คุณลักษณะเทอร์มิสเตอร์

Rated NTC resistance R typ. (kΩ)

5.0

5.0

NTC B value B typ. (K)

@TNTC=25 – 150°C

3375

3375

ติดตามลิงค์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่

MG600Q2YMS3

MG400V2YMS3

ตามลิงค์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SiC Power Devices ของโตชิบา

SiC Power Devices

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ

* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และสตอเรจขั้นสูง ใช้ประสบการณ์และนวัตกรรมกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์แบบแยกส่วน LSIs และผลิตภัณฑ์ HDD ให้กับลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจ

พนักงานของบริษัท 22,000 คนทั่วโลกมีความมุ่งมั่นร่วมกันในการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สูงสุด และส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในการร่วมสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ ด้วยยอดขายประจำปีที่สูงกว่า 710,000 ล้านเยน (6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ตั้งตารอที่จะสร้างและมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทุกที่

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220125005489/en/

ติดต่อ:

สอบถามสำหรับลูกค้า

Power Device Sales & Marketing Dept.

โทร: +81-44-548-2216

ติดต่อเรา

ติดต่อสำหรับสื่อ:

Chiaki Nagasawa

ฝ่ายการตลาดดิจิทัล

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

โทร: +81-44-549-8361

semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

UVD Robots เข้าร่วมข้อเสนอการป้องกันการติดเชื้อทั่วโลกของ Ecolab เพื่อต่อสู้กับการติดเชื้อในโรงพยาบาล

Logo

โอเดนเซ่ เดนมาร์ก–(BUSINESS WIRE)–26 มกราคม 2565

ขณะที่สายพันธุ์ใหม่ของโคโรนาไวรัสได้แพร่กระจาย ความต้องการโซลูชั่นในการป้องกันการติดเชื้อโดยใช้แสง UV-C ที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 18.94 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2573 โดยมีอัตราการเติบโต 59.7% ต่อปี ตั้งแต่ปี 2564 ถึง 2573 ทั้งนี้ปัจจัยที่กระตุ้นความต้องการคือมีการติดเชื้อในโรงพยาบาล (HAIs) เพิ่มขึ้นทั่วโลกทำให้มีการเสียชีวิตมากขึ้นเนื่องจากการดื้อยาปฏิชีวนะที่เพิ่มขึ้นจากการติดเชื้อธรรมดา

Disinfecting hospitals with UV-C lights is not a new concept, however, existing solutions including UV ceiling lights, stationary cleaning robots, and air purifiers may not reach shadowed or remote areas as well as the mobile platform offered by the autonomous UVD Robots. (Photo: Business Wire)

การฆ่าเชื้อในโรงพยาบาลด้วยแสง UV-C ไม่ใช่แนวคิดใหม่ อย่างไรก็ตาม โซลูชันที่มีอยู่ซึ่งรวมถึงไฟเพดาน UV หุ่นยนต์ทำความสะอาดแบบอยู่กับที่ และเครื่องฟอกอากาศอาจไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ที่มีเงามืดหรือห่างไกลได้ เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มเคลื่อนที่ที่นำเสนอโดย UVD Robots ที่ทำงานแบบออโตโนมัส (ภาพ: Business Wire)

หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อ UV-C ที่ทำงานได้อย่างอิสระด้วยตนเองกลายเป็นโซลูชันเพื่อเสริมมาตรฐานการทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อเพื่อจัดการกับ HAIs และข้อกำหนดด้านสุขอนามัยที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการระบาดของ โควิด-19 หุ่นยนต์ UVD เป็นหุ่นยนต์เคลื่อนที่ที่ทำงานแบบออโตโนมัสเต็มรูปแบบโดยใช้แสง UV-C เพื่อฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ช่วยเสริมการควบคุมและป้องกันการติดเชื้อ

ในฐานะที่เป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นและบริการป้องกันการติดเชื้อ Ecolab ได้ขับเคลื่อนเพื่อช่วยให้ระบบสุขภาพและโรงพยาบาลปรับปรุงผลลัพธ์ของผู้ป่วย และตระหนักถึงคุณค่าทางคลินิก การดำเนินงาน และการเงินผ่านแนวทางแบบเป็นโปรแกรมเพื่อให้แน่ใจว่าพนักงานและสถานพยาบาลมีสุขอนามัยที่ดี Ecolab ได้ขยายพอร์ตโฟลิโอของโซลูชั่นการป้องกันการติดเชื้อทั่วโลกเพื่อรวม UVD Robots ในการนำเสนอสำหรับลูกค้าในด้านการดูแลสุขภาพ รวมถึงบริการของโรงพยาบาล คลินิกผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ห้องผ่าตัดผู้ป่วยนอก คลินิกฟื้นฟูและสถานพยาบาลอื่น ๆ

Per Juul Nielsen ซีอีโอของ UVD Robots มองว่าการทำงานร่วมกันของ Ecolab เป็นการตรวจสอบประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมของโซลูชันที่ทำงานได้อย่างอิสระด้วยตนเองของ UVD Robots “เรารู้สึกตื่นเต้นที่การร่วมมือกันครั้งนี้ขยายออกไปเพื่อประโยชน์ของสถานพยาบาลในระดับโลก” เขากล่าวและเสริมว่าเทคโนโลยีการฆ่าเชื้อด้วย UV-C ของ UVD Robots ช่วยจัดการดูแลห้องผ่าตัดภายในเวลาประมาณแปดถึงสิบห้านาที

“หุ่นยนต์ UVD แก้ปัญหาความท้าทายในการปรับตำแหน่งและลดการเกิดเงามืด ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ขัดขวางการใช้งานในการฆ่าเชื้อด้วย UV-C อย่างครอบคลุม ในขณะที่ให้การเข้าถึงรายงานการปฏิบัติตามข้อกำหนดและประสิทธิภาพของขั้นตอนการฆ่าเชื้อแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน” Claus Risager ประธานของคณะกรรมการ UVD Robots และซีอีโอของ Blue Ocean Robotics กล่าว

UVD Robots เป็นบริษัทในเครือของกลุ่มผู้นำระดับโลกด้านการพัฒนาหุ่นยนต์บริการสำหรับผู้เชี่ยวชาญอย่าง Blue Ocean Robotics ทั้งนี้ Ecolab เป็นผู้นำระดับโลกในด้านโซลูชั่นและบริการป้องกันด้านน้ำ สุขอนามัย และการติดเชื้อที่ปกป้องผู้คนและทรัพยากรที่สำคัญ

เอกสารสำหรับสื่อ: ดาวน์โหลดภาพได้ที่นี่

ดูคลังภาพ/มัลติเมียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52567592/en

ติดต่อ:

Cornelia Hjortshøj, PR & Marketing Coordinator
Blue Ocean Robotics
+45 93 10 20 56
ch@blue-ocean-robotics.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

McAfee ยังคงมอบความปลอดภัยออนไลน์ชั้นนำแก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง

Logo

ด้วยโลกดิจิทัลที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว McAfee ยืนหยัดเคียงข้างผู้บริโภคในการนำเสนอโซลูชั่นความปลอดภัยออนไลน์ชั้นนำ

ซานโฮเซ่ แคลิฟอร์เนีย–(บิสิเนสไวร์)–21 ม.ค. 2565

วันนี้ McAfee Corp. (NASDAQ: MCFE, “McAfee”) ผู้นำระดับโลกด้านการความปลอดภัยออนไลน์ ได้ให้ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับข้อเสนอสำหรับผู้บริโภคและธุรกิจระดับองค์กรที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้

ในเดือนกรกฎาคม 2564 McAfee ได้เสร็จสิ้นการขายธุรกิจระดับองค์กร  การขายกิจการนี้ทำให้ McAfee สามารถมุ่งความสนใจไปที่ธุรกิจผู้บริโภคและเร่งกลยุทธ์ในการเป็นผู้นำในการปกป้องออนไลน์สำหรับผู้บริโภค

“McAfee ยังคงปกป้องความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และตัวตนของผู้บริโภคของเราต่อไปในขณะที่โลกดิจิทัลพัฒนาอย่างรวดเร็ว” Gagan Singh รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสรรพากรและผลิตภัณฑ์ของ McAfee กล่าว “เรายังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงว่าการปกป้องที่มีความหมายเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลสำหรับผู้บริโภคและเพิ่งเปิดตัวการอัปเดตที่สำคัญและเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึง McAfee Total Protection and Protection Score ที่คอยดูแลผู้บริโภคทางออนไลน์ รวมถึงความเป็นส่วนตัวและตัวตนของพวกเขาด้วย”

ธุรกิจ McAfee Enterprise ถูกซื้อโดย Symphony Technology Group (STG).  STG ประกาศเมื่อปลายปีที่แล้วว่าได้ซื้อ FireEye ซึ่งเป็นบริษัทด้านความปลอดภัยที่นำโดยหน่วยข่าวกรองแยกต่างหาก  STG เพิ่งประกาศเปิดตัว Trellix ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกิดจากการรวมตัวล่าสุดของ McAfee Enterprise และ FireEye

“STG เป็นพันธมิตรที่เหมาะสมที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้สำหรับลูกค้าองค์กรและพนักงาน และเราตั้งตารอที่จะได้เห็นผลกระทบระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องที่บริษัทที่ควบรวมกันใหม่นี้จะมี” Singh กล่าว “สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงก็คือ McAfee จะยังคงอยู่เคียงข้างผู้บริโภคและพันธมิตรทั่วโลกต่อไป”

McAfee ยังคงทำงานตามปกติ โดยทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อปกป้องผู้บริโภคทั่วโลก เราขอขอบคุณลูกค้าและคู่ค้าของเราสำหรับความภักดีอย่างต่อเนื่องและเป้าหมายร่วมกันเพื่อสนุกกับชีวิตออนไลน์อย่างมั่นใจ

เกี่ยวกับ McAfee

McAfee Corp. (Nasdaq: MCFE) เป็นผู้นำระดับโลกด้านความปลอดภัยออนไลน์สำหรับผู้บริโภค  โซลูชันสำหรับผู้บริโภคของ McAfee มุ่งเน้นไปที่การปกป้องผู้คน ไม่ใช่แค่อุปกรณ์เท่านั้น โดยปรับให้เข้ากับความต้องการของผู้ใช้ในโลกออนไลน์ตลอดเวลา ทำให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยผ่านโซลูชันแบบบูรณาการและใช้งานง่าย ซึ่งปกป้องครอบครัวและชุมชนของพวกเขาด้วยการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะสม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม https://www.mcafee.com

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220120006089/en/

ติดต่อ:

Colton Hightower:
Chightower@webershandwick.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย