Category Archives: General News

A Thing of Beauty: Mary Kay Inc. คว้า 5 รางวัลนายจ้างดีเด่นในช่วงต้นปี 2565 ทั่วสหรัฐอเมริกา ยุโรปและมาเลเซีย

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–16 กุมภาพันธ์ 2565

คนทำงานด้านบริการทั่วโลกต่างกล่าวขาน: Mary Kay Inc. บริษัทด้านความงามและการพัฒนาผู้ประกอบการอันโด่งดัง ได้รับการโหวตให้เป็นสถานที่ทำงานอันดับต้น ๆ อีกครั้ง ในช่วงเวลา 60 วันแรกของปี 2565 แบรนด์ได้รับรางวัลนายจ้างอันทรงเกียรติถึงห้ารางวัลผ่านทาง Forbes และ Kincentric  ในสหรัฐอเมริกา ยุโรป สาธารณรัฐเช็ก สเปน และมาเลเซีย การได้รับเกียรตินี้มาจากความสำเร็จในการจ้างงานอื่น ๆ อีกหลายรางวัลที่ได้รับตลอดสามปีที่ผ่านมา

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220215005276/en/

Melinda Foster Sellers, Chief People Officer at Mary Kay Inc. (Photo: Mary Kay Inc.)

Melinda Foster Sellers ประธานเจ้าหน้าที่บริหารทรัพยากรบุคคลของ Mary Kay Inc. (ภาพ: Mary Kay Inc.)

สุดยอดนายจ้างแห่งปี 2565 ของนิตยสาร Forbes (Forbes Best Employers of 2022) ได้รับการระบุในแบบสำรวจอิสระซึ่งจัดทำโดยพนักงานชาวอเมริกันประมาณ 60,000 รายที่ทำงานให้กับบริษัทที่มีพนักงานมากกว่า 1,000 รายในสหรัฐอเมริกา โดยรวมแล้วนายจ้าง 1,000 รายได้รับการยอมรับจาก 25 ภาคอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันไป และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Mary Kay ได้รับรายชื่อให้เป็นนายจ้างที่เป็นที่ปรารถนาของนิตยสาร Forbes—เมื่อเร็ว ๆ นี้ Forbes ยังระบุให้ Mary Kay เป็นสุดยอดนายจ้างขนาดกลาง สุดยอดนายจ้างสำหรับความหลากหลาย และสุดยอดนายจ้างสำหรับผู้หญิง

รางวัลนายจ้าง Kincentric ของ Mary Kay ในยุโรป สาธารณรัฐเช็ก สเปน และมาเลเซีย เป็นผลจากการประเมินที่แข็งแกร่งซึ่งวัดผลและระบุองค์กรที่เปลี่ยนแนวปฏิบัติด้านบุคลากรเพื่อขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น จากข้อมูลของ Kincentric พนักงานของ Mary Kay ที่เข้าร่วมเกือบ 8 ใน 10 รายตอบว่า “ใช่” เมื่อถูกถามว่า: “Mary Kay เป็นแรงบันดาลใจให้ฉันทำงานให้ดีที่สุดในทุก ๆ วัน” และพนักงานร้อยละ 87 ตอบรับคำกล่าวยืนยันว่า: “ภารกิจขององค์กรนี้ให้ทิศทางที่มีความหมายมาสู่ฉัน” ทั้งนี้เป็น 19 คะแนนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกของ Kincentric

Melinda Foster Sellers ประธานเจ้าหน้าที่บริหารทรัพยากรบุคคลของ Mary Kay Inc. กล่าวว่า “Mary Kay รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการยอมรับอีกครั้งในด้านแนวปฏิบัติของพนักงานและคะแนนการมีส่วนร่วมในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม” “บุคลากรของเราเป็นรากฐานของงานอันน่าทึ่งที่เราทำทั่วโลกและเป็นเหตุผลที่ทำให้เรายังคงเป็นแบรนด์ความงามชั้นนำเกือบ 60 ปีหลังจากการก่อตั้งของเรา เรามีปรัชญาการจ้างงานที่เรียบง่ายที่ Mary Kay: หากพนักงานของเรามาทำงานในทุก ๆ วันโดยเชื่อว่าพวกเขากำลังช่วยทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นนั้นแสดงว่าเรามาถูกทางแล้ว”

ทั้งนี้ปรัชญาดังกล่าวได้แจ้งการตัดสินใจของพนักงานภายในทุกครั้งตลอดหกทศวรรษที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้พนักงานของ Mary Kay ร้อยละ 41 ทั่วโลกจึงร่วมงานกับบริษัทมาเป็นเวลานานกว่าสิบปี โดยร้อยละ 75 ของบทบาทใหม่ได้รับการส่งเสริมจากภายใน และแบรนด์นำเสนอหลายโปรแกรมที่มุ่งพัฒนาทางวิชาชีพ การคิดเชิงนวัตกรรม และสวัสดิภาพของพนักงาน Mary Kay นำเสนอรายการที่เอื้อประโยชน์ให้แก่พนักงานในด้านการรักษาพยาบาล ทันตกรรม และการมองเห็น การประกันชีวิต บัญชีออมทรัพย์สำหรับการรักษาพยาบาลและการดูแลที่ต้องพึ่งพาอาศัยกัน ความคุ้มครองการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุและการสูญเสียอวัยวะ และแผนการออมเพื่อการเกษียณที่มีทั้งแบบ 401k และโปรแกรมแบ่งปันผลกำไรที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความมุ่งมั่นในการแบ่งปันความสำเร็จนี้เป็นรากฐานที่สำคัญของความมุ่งมั่นของ Mary Kay ต่อผู้ที่ทำให้เป็นไปได้

“บางทีฉันภูมิใจกับความพยายามด้านความหลากหลายของเราอย่างมากที่สุด” Sellers กล่าวเสริม “ในฐานะส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเราต่อความหลากหลายและการไม่แบ่งแยก ผู้นำของเรามากกว่า 1,000 ราย ได้เข้ารับการฝึกอบรมเรื่องอคติโดยไม่รู้ตัวและกำลังมีการดำเนินการอย่างอื่นที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้เรายังขอความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการตรวจสอบธุรกิจบุคคลที่สามและผู้ขายข้อมูลความหลากหลายเพื่อประเมินห่วงโซ่อุปทานของเราเพื่อให้แน่ใจว่าเราเป็นตัวแทนของผู้หญิง ชนกลุ่มน้อย และธุรกิจที่เป็นเจ้าของโดยทหารผ่านศึกอย่างเหมาะสม”

พนักงานทั่วโลกของ Mary Kay ร้อยละ 61 เป็นผู้หญิง และร้อยละ 64 ของผู้นำตลาดเป็นผู้หญิง ณ เดือนมีนาคม 2564 

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเมื่อเกือบ 57 ปีที่ผ่านมาโดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ นอกจากการลงทุนทางด้านวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและผลิตภัณฑ์สุดล้ำ Mary Kay ยังทุ่มเทกับการให้ความช่วยเหลือผู้หญิงและครอบครัวของพวกเธอ บริษัทของเรายังสนับสนุนการวิจัยด้านมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน เพื่อให้วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายจนถึงทุกวันนี้ เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ MaryKay.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220215005276/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ถ้อยแถลงเนื่องในวันสากลเพื่อสตรีและเด็กหญิงในงานวิทยาศาสตร์ประจำปี 2565 โดย Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรมแห่ง Mary Kay Inc.

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–11 กุมภาพันธ์ 2565

ด้านล่างนี้คือถ้อยแถลงโดย Dr. Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าทที่ฝ่ายนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และวิทยาศาสตร์ของ Mary Kay Inc. เนื่องในโอกาสวันสากลเพื่อสตรีและเด็กหญิงในงานวิทยาศาสตร์ ประจำปี 2565

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220211005050/en/

Dr. Lucy Gildea, Chief Innovation Officer, Product and Science of Mary Kay Inc. (Photo: Mary Kay Inc.)

Dr. Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และวิทยาศาสตร์ แห่ง Mary Kay Inc. (รูปภาพ: Mary Kay Inc.)

ในการศึกษาที่เป็นการค้นพบครั้งสำคัญซึ่งจัดทำขึ้นระหว่างปี 2509 และ 2520 มีการขอให้เด็กเกือบ 5,000 คนวาดรูปนักวิทยาศาสตร์ขึ้นมาคนละ 1 ภาพ และในบรรดาภาพวาดทั้งหมด มีเพียง 0.6% ที่เป็นภาพวาดของนักวิทยาศาสตร์ผู้หญิง ในการศึกษาที่คล้ายกันเมื่อไม่นานมานี้พบว่าเรื่องนี้มีความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น โดย 28% ของเด็กยุคใหม่วาดภาพนักวิทยาศาสตร์ผู้หญิงเมื่อได้รับโจทย์แบบเดียวกัน

นับว่าเป็นความก้าวหน้า แต่เรายังมีเป้าหมายที่ต้องไปให้ถึง

Mary Kay Inc. จินตนาการถึงอนาคตที่นักวิทยาศาสตร์ผู้หญิงจำนวนมากขึ้นจะต้องมีตัวตนไม่เพียงบนหน้ากระดาษแต่ในโลกแห่งความเป็น นั่นคือเหตุผลที่ในวันสากลเพื่อสตรีและเด็กหญิงในงานวิทยาศาสตร์ปีนี้ เราจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล สถาบันการศึกษา และเพื่อน ๆ ของเราในภาคเอกชนมาลงทุน พร้อมส่งเสริมและสนับสนุนผู้หญิงและเด็กหญิงมากขึ้นในการศึกษาด้าน STEM (วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรม และคณิตศาสตร์) เมื่อมีเด็กผู้หญิงจำนวนมากขึ้นในการศึกษาด้าน STEM สตรีที่ก้าวสู่อาชีพในสาขานี้ก็จะมีจำนวนมากขึ้น ในทางกลับกัน สิ่งนี้ยังช่วยให้เกิดการเข้าถึงโอกาสอย่างเท่าเทียมสำหรับผู้หญิง ลดช่องว่างรายได้ที่ต่างกันเพราะเพศสภาพ กระตุ้นเศรษฐกิจ และกำจัดอคติในวงการวิทยาศาสตร์ด้วย

และนั่นคือเหตุผลที่ Mary Kay ให้การสนับสนุนนักเรียนในสาขา STEM ที่มีเพียงส่วนน้อยผ่านการลงทุนมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ในโครงการต่าง ๆ เช่น Academy of Marketing Science, Society of Investigative Dermatology และ Madam C.J. Walker Scholarship

นั่นคือเหตุผลที่ในแต่ละปี องค์กร Mary Kay Ash FoundationSM ได้สนับสนุนการพัฒนาของนักวิทยาศาสตร์ผ่านการมอบทุนวิจัยซึ่งช่วยให้ค้นพบวิธีรักษามะเร็งที่ส่งผลกระทบต่อผู้หญิงโดยเฉพาะ

ในแต่ละวัน ผ่านนวัตกรรมและวิทยาศาสตร์ มีผู้หญิงจากทั่วโลกที่กำลังหาทางออกให้กับปัญหาอันซับซ้อนของพวกเรา และเรายังทำได้มากกว่านี้เพื่อแสดงออกว่าพวกเรามองเห็นสิ่งที่พวกเธอทำ เพื่อให้พวกเธอได้ส่งเสียงและมีตัวตนมากขึ้นในสาขา STEM

ในอนาคต เมื่อเราขอให้เด็ก ๆ ผู้หญิงวาดรูปนักวิทยาศาสตร์ขึ้นมา 1 ภาพ ดิฉันหวังว่าจะได้เห็นรูปของพวกเธอเองในภาพวาดนั้น

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเมื่อเกือบ 60 ปีที่ผ่านมาโดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ

นอกจากการลงทุนทางด้านวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและผลิตภัณฑ์สุดล้ำ Mary Kay ยังทุ่มเทกับการให้ความช่วยเหลือผู้หญิงและครอบครัวของพวกเธอ บริษัทของเรายังสนับสนุนการวิจัยด้านมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน เพื่อให้วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายจนถึงทุกวันนี้ เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ MaryKayGlobal.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220211005050/en/

ติดต่อ:

ฝ่ายสื่อสารองค์กร Mary Kay Inc.
marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

มหาวิทยาลัยการจัดการแห่งสิงคโปร์ร่วมมือกับ XED เพื่อเสนอโปรแกรม LIVE แบบโต้ตอบสำหรับผู้นำระดับสูง

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–9 กุมภาพันธ์ 2565

มหาวิทยาลัยการจัดการแห่งสิงคโปร์ (SMU) ได้รับการยอมรับในระดับสากลในด้านการวิจัยระดับโลกและการสอนที่โดดเด่น โดยก่อตั้งขึ้นในปี 2543 พันธกิจของ SMU คือการสร้างงานวิจัยระดับแนวหน้าที่มีผลกระทบระดับโลกและจัดหาผู้นำที่มีความคิดสร้างสรรค์และการเป็นผู้ประกอบการที่หลากหลายสำหรับเศรษฐกิจแบบที่ให้เกิดภูมิปัญญา

Singapore Management University Executive Development (SMU ExD) ที่ฝังอยู่ในแรงผลักดันโดยรวมในการคาดการณ์และเชื่อมโยงความสามารถสำหรับอนาคต ได้ร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ XED เพื่อเสนอโปรแกรมผู้บริหารสำหรับผู้นำระดับสูงทั่วทั้งองค์กร

“วิธีที่ดีที่สุดในการทำนายอนาคตคือการสร้างมันขึ้นมา บรรดาผู้นำทั่วโลกกำลังเผชิญกับโลกที่คาดเดาไม่ได้และเศรษฐกิจที่เปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงและการปฏิรูป เราจำเป็นต้องมีการไม่เรียนรู้และเรียนรู้ใหม่เพื่อนำทางกฎใหม่ของเกม การร่วมมือกับ XED ทำให้สิ่งนี้เป็นไปได้ เนื่องจากขณะนี้เราสามารถใช้ประโยชน์จากผู้เชี่ยวชาญของคณาจารย์เพื่อเผยแพร่ความรู้ทั่วภูมิภาค” Eddie Tritton (ผู้อำนวยการบริหารของ ExD แห่งมหาวิทยาลัยการจัดการแห่งสิงคโปร์) กล่าว

โปรแกรมที่จะเกิดขึ้นของเรา: Executive Program in Digital Leadership (EPDL) ได้รับการออกแบบให้เป็นเส้นทางการเรียนรู้ออนไลน์ 5 เดือนที่มีรูปแบบเฉพาะและมุ่งเน้นเพื่อให้แน่ใจว่าผู้เข้าร่วมจะได้สัมผัสกับเสาหลักของการเป็นผู้นำในยุคดิจิทัลและสามารถใช้กับการเรียนรู้ได้สู่สภาพแวดล้อมในการทำงาน เรียนรู้เพิ่มเติม

เซสชั่นจะ LIVE ในกลุ่มเล็ก ๆ ที่มีผู้เข้าร่วม 40 ถึง 50 คนสำหรับประสบการณ์การเรียนรู้ที่ส่งผลกระทบ ผู้เข้าร่วมมีประสบการณ์การทำงานโดยเฉลี่ย 15 ปี และอาศัยอยู่ในฮ่องกง ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แอฟริกาใต้ ไนจีเรีย และอื่น ๆ

ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำบางแห่งและสถาบัน Ivy League ได้สร้างกระแสและประสบความสำเร็จและมีส่วนร่วมเป็นอย่างมาก John Kallelil (ผู้ก่อตั้ง XED) ให้ความเห็นว่า “โปรไฟล์ผู้เข้าร่วมของเราแสดงให้เห็นถึงการผสมผสานที่ไม่ซ้ำใครของผู้นำธุรกิจอาวุโส ตั้งแต่ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพไปจนถึงมืออาชีพรุ่นเก๋าจาก C-suite ผู้เข้าร่วมของเราแสดงความสนใจอย่างมากในการเพิ่มทักษะและเตรียมตัวสำหรับยุคดิจิทัล โมเดลที่มีการพัฒนาและผกผันอย่างต่อเนื่องต้องการการเรียนรู้ที่ต่อเนื่องกันเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร”

XED ได้ฝึกอบรมผู้นำอาวุโสมากกว่า 10,000 รายจาก PepsiCo, IBM, Adobe, John Deere, Bank of America, WNS, Meinhardt, Abu Dhabi Government และอื่น ๆ อีกหลายแห่ง ในอนาคต XED มีแผนที่จะแนะนำโปรแกรมใหม่ที่ช่วยให้ผู้นำระดับสูงสามารถเข้าถึงมหาวิทยาลัยทั่วโลก การศึกษาที่มีคุณภาพ และการเรียนรู้ที่กำหนดเองได้กว้างขึ้น

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220208005679/en/

ติดต่อ:

John Kallelil | john@xedinstitute.org
https://xedinstitute.org/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Women’s Entrepreneurship Accelerator ต้อนรับสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศในฐานะพันธมิตรใหม่ของสหประชาชาติในการเชื่อมโยงความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลระหว่างเพศ

Logo

กิจกรรมจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการสตรีจากกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาและกลุ่มประเทศที่มีระดับการพัฒนาน้อยที่สุด

นิวยอร์ก & เจนีวา–(BUSINESS WIRE)–8 กุมภาพันธ์ 2565

รายงานการค้นพบที่สำคัญของ McKinsey Global Institute พบว่า GDP โลกจะเพิ่มขึ้น 12 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2568 หากผู้หญิงที่ด้อยโอกาสทั่วโลกได้รับสิทธิ์เข้าถึงการศึกษาทักษะด้านดิจิทัลที่สำคัญ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220208005293/en/

Doreen Bogdan-Martin, Director of the Telecommunication Development Bureau at International Telecommunication Union (ITU) (Photo: Mary Kay Inc.)

Doreen Bogdan-Martin ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาโทรคมนาคมแห่งสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) (ภาพ: Mary Kay Inc.)

ช่องว่างที่น่าตกใจนี้ได้แจ้งในความร่วมมือล่าสุดของ Women's Entrepreneurship Accelerator (WEA) กับสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ซึ่งเป็นหน่วยงานเฉพาะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งสหประชาชาติ ทั้งนี้ได้ร่วมกันกับ WEA และ ITU ในการวางแผนที่จะเชื่อมโยงความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลระหว่างเพศ

นอกจากการสนับสนุนของ Mary Kay แล้ว ITU และ WEA จะช่วยให้ผู้ประกอบการสตรีทั่วโลกมีทักษะด้านดิจิทัลที่จำเป็นสำหรับการเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของตนเองในเร็ว ๆ นี้ ผ่านโปรแกรมการฝึกอบรมทักษะคุณภาพสูง นอกจากโมดูลออนไลน์แล้วและในการสนับสนุนของ WEA,  ITU และ Mary Kay จะมีส่วนช่วยในการสร้างระบบนิเวศการเสริมสร้างพลังของผู้หญิงผ่านการเปิดตัวความท้าทายด้านนวัตกรรมประจำปี

“การรู้หนังสือดิจิทัลไม่ใช่แค่เรื่องดีที่จะมีอีกต่อไป—แต่มันคือสิ่งจำเป็น” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้หญิงในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาและกลุ่มประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดจะต้องได้รับการเข้าถึงการฝึกอบรมทักษะดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพสูงและคุณภาพสูง เพื่อให้สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการจากตลาดที่พัฒนาแล้วได้อย่างเท่าเทียมกัน ด้วยการทำงานร่วมกับ WEA และ ITU เราจะทำให้มันเกิดขึ้น”

ช่องว่างทางดิจิทัลยังคงมีอยู่แพร่หลายในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา โดยที่ผู้หญิงเพียงร้อยละ 19 เท่านั้นที่ใช้และได้รับประโยชน์จากอินเทอร์เน็ต1 ความไม่เท่าเทียมกันเหล่านี้ได้รับการเปิดเผยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ผู้ประกอบการจำนวนมาก—ถ้าไม่ใช่ทั้งหมด—ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันด้วยการเคลื่อนย้ายธุรกิจของตนเข้าสู่โลกออนไลน์ พูดง่าย ๆ ก็คือ ผู้ประกอบการสตรีที่มีศักยภาพซึ่งอยู่ในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาและกลุ่มประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด (LDCs) ไม่สามารถทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินการได้ เว้นแต่จะมีทักษะด้านดิจิทัลที่จำเป็น

“ITU รู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับ Women’s Entrepreneurship Accelerator เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ให้ความรู้ และส่งเสริมผู้ประกอบการสตรีทั่วโลก” Doreen Bogdan-Martin ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาโทรคมนาคมของ ITU กล่าว “การทำงานร่วมกันเพื่อสร้างทักษะดิจิทัลและสภาพแวดล้อมที่เปิดใช้งาน ICT รอบ ๆ ผู้ประกอบการเหล่านี้ เราสามารถช่วยให้ผู้หญิงเข้ามาแทนที่ในฐานะผู้นำที่มีทักษะและเท่าเทียมกันในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ”

โครงการริเริ่ม “Bridging the Digital Gender Divide” ซึ่งจะได้รับการแปลเป็นหลายภาษาจะประกอบด้วย:

  • 17 โมดูลออนไลน์เกี่ยวกับการฝึกอบรมทักษะดิจิทัลทั่วไปสำหรับเยาวชนหญิงและผู้ประกอบการในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาและกลุ่มประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด
  • 8 โมดูลออนไลน์เกี่ยวกับทักษะดิจิทัลสำหรับผู้ประกอบการสตรีในภาคสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
  • 4 4 โมดูลออนไลน์เกี่ยวกับทักษะการจัดการสำหรับผู้ประกอบการสตรีในด้านเทคโนโลยี
  • 2-4 โมดูลออนไลน์สำหรับหลักสูตรผู้ประกอบการธุรกิจสีเขียวและเศรษฐกิจ
  • 2-4 โมดูลออนไลน์สำหรับหลักสูตรการดูแลผู้ประกอบการและเศรษฐกิจ

โครงการนี้ไม่เคยมีมาก่อนในการเข้าถึงทั่วโลกที่มีศักยภาพ การมุ่งเน้นที่การฝึกอบรม – ในการมอบทักษะดิจิทัลเพื่อการเปลี่ยนแปลงระหว่างเพศสำหรับผู้ประกอบการสตรี – จะมีส่วนช่วยในการสร้างความมั่นใจในสังคมและเศรษฐกิจที่ครอบคลุมผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ทั้งนี้จะช่วยให้ผู้หญิงในการพัฒนาและ LDCs เข้าถึงหลักสูตรฟรีที่มีคุณภาพสูงที่จะพาพวกเขาผ่านเส้นทางการเรียนรู้เชิงกลยุทธ์จากการระบุตนเองในฐานะผู้ประกอบการ เพื่อรับทักษะดิจิทัลที่จำเป็นต่อความก้าวหน้าในเศรษฐกิจดิจิทัล

โครงการนี้จะมีส่วนช่วยใน Women’s Entrepreneurship Accelerator ด้วยการสร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้ประกอบการสตรีในการเติบโตและก้าวหน้าอย่างครอบคลุมและยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยโดยตรงในการบรรลุวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนปี 2573 และเป้าหมายหลายประการที่เกี่ยวข้องกับ SDG 1 (ความยากจน) SDG 4 (การศึกษา) SDG 5 (เพศ) และ SDG 17 (การเป็นพันธมิตร)

เกี่ยวกับ International Telecommunication Union

สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) เป็นหน่วยงานเฉพาะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งสหประชาชาติ (ICTs) โดยขับเคลื่อนนวัตกรรมด้าน ICTs ร่วมกับประเทศสมาชิก 193 แห่ง และเป็นสมาชิกของบริษัท มหาวิทยาลัย และองค์กรระดับนานาชาติและระดับภูมิภาคกว่า 900 แห่ง ITU ก่อตั้งขึ้นกว่า 150 ปีที่แล้วในปี 2408 ซึ่งเป็นหน่วยงานระหว่างรัฐบาลที่รับผิดชอบในการประสานงานการใช้คลื่นความถี่วิทยุร่วมกันทั่วโลก ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในการกำหนดวงโคจรของดาวเทียม ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารในประเทศที่กำลังพัฒนา และกำหนดมาตรฐานทั่วโลกที่ส่งเสริมการเชื่อมต่อระหว่างกันอย่างราบรื่นของระบบสื่อสารที่หลากหลาย ตั้งแต่เครือข่ายบรอดแบรนด์ไปจนถึงเทคโนโลยีไร้สายล้ำสมัย การนำทางการบินและการเดินเรือ ดาราศาสตร์วิทยุ การเฝ้าติดตามโลกทางมหาสมุทรและดาวเทียม ตลอดจนการรวมกันของโทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยีการแพร่ภาพ ITU มุ่งมั่นที่จะเชื่อมต่อโลก สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.itu.int

เกี่ยวกับ the Women’s Entrepreneurship Accelerator

Women's Entrepreneurship Accelerator (WEA) เป็นโครงการริเริ่มแบบหุ้นส่วนความร่วมมือจากภาคส่วนที่หลากหลายเกี่ยวกับผู้ประกอบการสตรีที่จัดโดยหน่วยงานของสหประชาชาติหกแห่ง ได้แก่ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO), ศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (ITC), สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU), โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP), ข้อตกลงแห่งสหประชาชาติ (UNGC), องค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) และ Mary Kay มุ่งมั่นจะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสตรีจำนวน 5 ล้านคนภายในปี 2573

เป้าหมายสูงสุดของโครงการนี้คือการเพิ่มผลกระทบด้านการพัฒนาของผู้ประกอบการสตรีให้มากที่สุดในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยการสร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้ประกอบการสตรีทั่วโลก โครงการ Accelerator เป็นตัวอย่างของพลังในการเปลี่ยนแปลงของการเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือจากภาคส่วนที่หลากหลายที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร เพื่อควบคุมศักยภาพของผู้ประกอบการสตรี

สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ we-accelerate ติดตามเราบน: Twitter (We_Accelerator) และ Instagram (@we_accelerator), Facebook (@womensentrepreneurshipaccelerator) และ LinkedIn (@womensentrepreneurshipaccelerator)

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นเกือบ 58 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay Inc. ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม  Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขาด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลก โดยมุ่งเน้นที่การสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง การปกป้องช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว สร้างความสวยงามให้กับชุมชน และสนับสนุนให้เด็ก ๆ ได้ทำตามความฝันของพวกเขา วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกาย – และนำพาสู่ความสำเร็จไปทีละขั้น เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Mary Kay ได้ที่ marykayglobal.com

1 https://www.itu.int/itu-d/reports/statistics/2021/11/15/the-gender-digital-divide/

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220208005293/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย



สำนักงานกฎหมาย Kim & Chang ยื่นขอคำสั่งห้ามบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ Cyworld ในฐานะตัวแทนของ Betalabs

Logo

โซล เกาหลีใต้–(บิสิเนสไวร์)–08 ก.พ. 2565

โซล, เกาหลีใต้ — Betalabs (CEO Kim Ho-gwang) ผู้ดำเนินการ Cy Club ได้ยื่นขอ 'คำสั่งห้ามชั่วคราว ได้แก่ การห้ามขัดขวางการทำธุรกิจ เช่น การออกสกุลเงินดิจิทัล' กับสามบริษัท ซึ่งรวมถึง Cyworld Z ในวันที่ 4  ทางอุตสาหกรรมและนักลงทุนกำลังสังเกตภูมิหลังของการมีส่วนร่วมของบริษัทกฎหมาย Kim & Chang ในฐานะตัวแทนทางกฎหมายของ Betalabs

การยื่นขอคำสั่งห้ามโดย Betalabs ต่อศาลกลางกรุงโซลเป็นคำขอเพื่อรับรองสถานะการผูกขาดของ Betalabs ในการดำเนินงานโดยรวมของ Cyworld ซึ่งรวมถึงการออกเหรียญ การรีแบรนด์ การใช้โลโก้ การเชื่อมโยงแพลตฟอร์ม และการใช้ทรัพยากรเนื้อหา  นอกจากนี้ยังมีคำขอให้ระงับโครงการบล็อคเชนที่ Cyworld Z กำลังส่งเสริมกับบริษัทอื่นๆ เช่น Conun Korea เนื่องจากไม่มีสิทธิทางกฎหมาย

เมื่อเร็วๆ นี้ Cyworld Z ไล่ CEO Hogwang Kim ของจากตำแหน่งและแจ้ง Betalabs เพื่อยุติสัญญา ทั้งนี้ Betalabs ได้ตอบโต้ว่า Cyworld Z กำลังละเมิดกฎหมายโดยนำเสนอบันทึกความเข้าใจเมื่อวันที่ 16 มีนาคมของปีที่แล้วและข้อตกลงในการออกเหรียญในวันที่ 14 เมษายน  Betalabs อ้างว่าสถานะพิเศษของ Betalabs ระบุไว้ในเอกสารทั้งสองฉบับและการแจ้งการบอกเลิกสัญญาไม่มีพื้นฐานทางกฎหมาย  หากศาลยอมรับคำเสนอของ Betalabs อุตสาหกรรมจะเชื่อว่า Cyworld Z อาจอยู่ภายใต้ข้อจำกัดที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจ

เมื่อ 'Kim & Chang' ขึ้นศาลในนามของ Betalabs หมู่คนในวงการได้ลือกันว่า 'Kim & Chang' น่าจะรับคดีนี้ขึ้นเพราะมีพื้นฐานทางกฎหมายและคาดว่าจะได้รับชัยชนะ  ฝ่าย 'Kim & Chang' กล่าวว่า “เราต้องรอคำตัดสินของศาลเกี่ยวกับผลการขอคำสั่งห้าม” แต่ยังกล่าวอีกว่า “หลังจากใช้เวลาพอสมควรในการตรวจสอบเนื้อหาที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบแล้ว เราจึงตัดสินใจฟ้องร้องดำเนินคดี” ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Kim & Chang ยอมรับข้ออ้างทางกฎหมายของ Betalabs

ด้วยผู้ใช้และนักลงทุนจำนวนมากที่รอคอยให้ Cyworld เปิด ความสนใจของอุตสาหกรรมจึงมุ่งเน้นไปที่ว่าคำตัดสินของศาลจะเปิดทางไปสู่การฟื้นฟูธุรกิจหรือไม่

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220207005996/en/

ติดต่อ:

Betalabs
Kim Ho-gwang CEO
+82-70-7772-1107
ceo@Betalabs.kr

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay Inc. มุ่งมั่นที่จะปกป้องชายฝั่งของเราในวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลกปี 2565

Logo

แดลลัส–(BUSINESS WIRE)–3 กุมภาพันธ์ 2565

มหาสมุทรให้ออกซิเจน 80% ที่เราหายใจเข้าไป และเป็นแหล่งอาหารและรายได้สำหรับผู้คนกว่าสามพันล้านคนทั่วโลก ในวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก (World Wetland Day) Mary Kay Inc. ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในด้านความยั่งยืนขององค์กรและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ได้ให้คำมั่นครั้งใหม่กับ The Nature Conservancy เพื่อรักษาพื้นที่ชุ่มน้ำอันล้ำค่าที่เรียงราย และปกป้องชายฝั่งของเรา

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220202005881/en/

The Nature Conservancy logo

โลโก้ของ The Nature Conservancy

การเป็นพันธมิตรของ Mary Kay กับ The Nature Conservancy (TNC) เริ่มขึ้นในปี 2533 ในทศวรรษที่ผ่านมา พวกเขาได้รวมพลังเพื่อมีส่วนร่วมกับชนเผ่าพื้นเมืองในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแบบยั่งยืนในนิวซีแลนด์ จัดหาน้ำจืดให้กับผู้คนในเม็กซิโก ทำความสะอาดมหาสมุทรของเรา สงวนพันธุ์และส่งเสริมสตรีในหมู่เกาะโซโลมอน โครงการล่าสุดของพวกเขากับ TNC ซึ่งเริ่มดำเนินการในปี 2562 ที่มุ่งเน้นในการอนุรักษ์และปรับปรุงพื้นที่ชุ่มน้ำ

“พื้นที่ชุ่มน้ำริมชายฝั่งทำให้เกิดการบรรลุความสำเร็จที่สำคัญสามประการของสภาพอากาศอันได้แก่: การดักจับคาร์บอน การปรับตัวให้เข้ากับการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล และความยืดหยุ่นที่เพิ่มขึ้นต่อพายุและน้ำท่วม โดยทั้งหมดนี้และในขณะเดียวกันก็สนับสนุนเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “น่าเสียดายที่รัฐเท็กซัสซึ่งเป็นบ้านเกิดของ Mary Kay ได้สูญเสียพื้นที่ชุ่มน้ำชายฝั่งมากกว่าครึ่งในช่วง 200 ปีที่ผ่านมาในการแปลงสภาพเป็นที่อยู่อาศัย พื้นที่รกร้างว่างเปล่า และความเจริญ ในวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก Mary Kay มุ่งมั่นที่จะปกป้องพื้นที่ชุ่มน้ำของเราอีกครั้งเพื่อเป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นต่อไป”

“ในทุกฤดูใบไม้ผลิ เนื่องจากมีนกหลายร้อยสายพันธุ์อพยพบินข้ามอ่าวจากละตินและอเมริกาใต้ ดังนั้นพื้นที่ชุ่มน้ำของชายฝั่งจึงเป็นจุดแวะพักที่สำคัญสำหรับพวกมันเพื่อพักผ่อนและเติมเชื้อเพลิงก่อนเดินทางต่อไป” Lauren Williams ผู้อำนวยการ Texas Resilient Coast Program ที่ The Nature Conservancy กล่าว “ในขณะที่จำนวนประชากรของรัฐเพิ่มขึ้น คาบสมุทรกัลฟ์ได้กลายเป็นอสังหาริมทรัพย์ชั้นเยี่ยมสำหรับผู้คนมากเท่า ๆ กับสำหรับสัตว์ป่า ด้วยการเป็นพันธมิตรกับ Mary Kay เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการเติบโตตามแนวชายฝั่งที่ยั่งยืนสำหรับเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสัตว์ป่าที่อาศัยพึ่งพา”

Mary Kay และ TNC ร่วมกันทำงานเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องพื้นที่ชุ่มน้ำของเราในปีหน้าดังต่อไปนี้:

  • ระบุพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญสำหรับการป้องกันและฟื้นฟูตามแนวชายฝั่งมากกว่า 27,000 กิโลเมตรตามแนวอ่าวเม็กซิโก
  • จัดทำแผนปฏิบัติการอนุรักษ์และฟื้นฟูชายฝั่งสำหรับระบบนิเวศบลูคาร์บอนสามแห่งของเท็กซัส ได้แก่ ป่าชายเลน บึงเกลือ และหญ้าทะเล รวมถึงพื้นที่ทำแผนที่ที่เราคาดว่าพื้นที่ชุ่มน้ำจะโยกย้ายในอนาคตอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  • ประเมินความเป็นไปได้ของตลาดบลูคาร์บอนเพื่อรองรับความต้องการการจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำในระยะยาวในเท็กซัส
  • ระบุพื้นที่ชุ่มน้ำชายฝั่งทะเลแบบไดนามิกที่สามารถกำหนดเป็น “ห้องปฏิบัติการที่มีชีวิต” เพื่อแบ่งปันเทคนิคการอนุรักษ์ สำรวจการชดเชยบลูคาร์บอน และเน้นความสำคัญของระบบนิเวศที่สำคัญเหล่านี้
  • สร้างแรงผลักดัน ความร่วมมือ และความสามารถในการฟื้นฟูชายฝั่งในเท็กซัสเพื่อดำเนินงานนี้ต่อไปในอนาคต

“กุญแจสำคัญคือการทำงานควบคู่กันไม่ใช่เพียงแค่ The Nature Conservancy เท่านั้น แต่กับธรรมชาติด้วย” Gibbins กล่าวเสริม “เราต้องปรับสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของระบบทั้งของมนุษย์และระบบธรรมชาติ Mary Kay มีความเชื่อพื้นฐานในการทำให้โลกนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้น และไม่มีที่ใดที่จะดีไปกว่าการเริ่มต้นที่บ้าน”

หากต้องการอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของ Mary Kay ในด้านความยั่งยืน สามารถเยี่ยมชมได้ที่ marykayglobal.com/sustainability และดาวน์โหลดกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลกของ Mary Kay ที่ชื่อว่า Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow

เกี่ยวกับ Mary Kay Inc.

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นมากกว่า 57 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมาย 3 ข้อได้แก่ มอบโอกาสให้กับผู้หญิง ผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการ และสร้างโลกให้น่าอยู่ ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอมมากมาย Mary Kay ยังทุ่มเทกับการช่วยให้ผู้หญิงและครอบครัวของพวกเขามีพลังด้วยการร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญและสนับสนุนกับการวิจัยด้านมะเร็ง ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน วิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Mary Kay Ash ยังคงเปล่งประกายและพาเธอสู่ความสำเร็จไปทีละขั้น เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ MaryKay.com

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ดินแดนและน่านน้ำที่ทุกชีวิตต้องพึ่งพาอาศัย ภายใต้การนำด้วยวิทยาศาสตร์ เราสร้างสรรค์โซลูชั่นที่สร้างสรรค์และใช้งานได้จริงเพื่อรับมือกับความท้าทายที่ยากที่สุดในโลกของเรา เพื่อให้ธรรมชาติและผู้คนสามารถเติบโตไปด้วยกัน เรากำลังจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อนุรักษ์พื้นดิน น้ำ และมหาสมุทรในแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จัดหาอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน และช่วยให้เมืองมีความยั่งยืนมากขึ้น การทำงานใน 79 ประเทศและภูมิภาค เราใช้แนวทางการทำงานร่วมกันที่มีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น รัฐบาล ภาคเอกชน และพันธมิตรอื่น ๆ ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ www.nature.org หรือติดตาม @nature_press บน Twitter

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220202005881/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย





BitMEX ให้การต้อนรับ Raphael Polansky เพื่อเข้ามาเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ

Logo

มาเฮ เซเชลส์–(BUSINESS WIRE)–14 ม.ค. 2565

แพลตฟอร์มการลงทุน Crypto BitMEX ยินดีที่จะต้อนรับ Raphael Polansky ให้เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) คนใหม่ โดยในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ Raphael รับผิดชอบการจัดการการดำเนินงานและโครงสร้างพื้นฐานของบริษัท ขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจและการขยายตลาด และการเปลี่ยน BitMEX ให้กลายเป็นระบบนิเวศการลงทุนแบบคริปโตเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ Raphael รายงานตรงต่อ Alexander Höptner ผู้เป็น CEO ของ BitMEX

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย ดูข่าวฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220113005975/en/

BitMEX Welcomes Raphael Polansky as Chief Operating Officer (Photo: Business Wire)

BitMEX ให้การต้อนรับ Raphael Polansky ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (ภาพ: Business Wire)

ก่อนที่จะมาร่วมงานกับ BitMEX คุณ Raphael เคยเป็นกรรมการผู้จัดการของ Blocknox มาเกือบสองปีแล้ว โดยเขาได้จัดตั้งและดำเนินการแพลตฟอร์มการดูแลคริปโต และเป็นผู้นำกลยุทธ์ทางธุรกิจ การพัฒนาไอที และการดำเนินงานของบริษัท Raphael เคยทำงานในตำแหน่งหัวหน้าที่ Boerse Stuttgart และ Deutsche Boerse มาเกือบหนึ่งทศววรษครึ่งแล้ว

Raphael กล่าวว่า: “ผมรู้สึกขอบคุณสำหรับโอกาสที่จะผลักดันการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ BitMEX เรามีท่อส่งโครงการที่แข็งแกร่งซึ่งวางแผนไว้สำหรับปี 2565 และปีต่อ ๆ ไป และทีมงานบุคลากรที่แข็งแกร่งของที่มีความสามารถและความสร้างสรรค์ โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างระบบนิเวศทางการเงินที่ดีขึ้นทั่วโลก ผมตื่นเต้นที่จะได้เป็นผู้นำในการดำเนินงานและการขยายตัวของคริปโตในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวสำหรับเราและอุตสาหกรรมโดยรวม”

Alex กล่าวว่า: “ผมตื่นเต้นที่ได้  Raphael เข้าร่วมทีมผู้นำของเราในฐานะซีโอโอ ความมั่งคั่งของคริปโต, ตลาดการเงิน และประสบการณ์การจัดการของเขาพิสูจน์แล้วว่าเขาสามารถมอบประสิทธิภาพการดำเนินงาน การประสานงาน และการทำงานร่วมกันที่ดียิ่งขึ้นในช่วงระยะต่อไปของการเติบโตของเรา”

BitMEX กำลังหาผู้ร่วมงาน คลิกที่นี่ เพื่อสำรวจโอกาสในการทำงานที่ BitMEX

เกี่ยวกับ BitMEX

BitMEXเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ให้ผู้ใช้เข้าถึงตลาดการเงินสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก BitMEX เป็นเจ้าของโดย HDR Global Trading Limited หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ BitMEX วิสัยทัศน์ของเรา ทีมที่กำลังเติบโต และหนทางข้างหน้า โปรดติดตามเราที่ Twitter, Telegram, และที่ บล็อก BitMEX Blog. ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ press@bitmex.com

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220113005975/en/

ติดต่อ:

สื่อ

Jessica Lindeman

press@bitmex.com

+852 5717 5579

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay สานต่อความมุ่งมั่นทางด้านวิทยาศาสตร์เพื่อการดูแลผิว

Logo

Mary Kay นำเสนองานวิจัย ณ งานประชุมวิชาการที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ 2 แห่ง ได้แก่ งาน Aesthetic & Anti-Aging Medicine World Congress (AMWC) ครั้งที่ 19 และงานที่จัดโดยสมาคมยุโรปเพื่อการวิจัยโรคผิวหนัง (ESDR)

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–13 มกราคม 2565

Mary Kay Inc. หนึ่งในบริษัทผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัยของโลก ได้เข้าร่วมงานประชุมวิชาการที่มีชื่อเสียงของยุโรป 2 งานในช่วงปลายปี 2564 โดยในงาน Aesthetic & Anti-Aging Medicine World Congress ครั้งที่ 19 Mary Kay Inc. ได้ส่งโปสเตอร์วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการใช้และความทนต่อสูตรเรตินอลที่มีความเข้มข้นสูงสำหรับผิวของชาวเอเชีย และยังได้ร่วมกับสมาคมยุโรปเพื่อการวิจัยโรคผิวหนัง (ESDR) ให้การสนับสนุนการจัดการสัมมนาหัวข้อ Future Leaders in Dermatology ในงานประชุมวิชาการประจำปีครั้งที่ 50 ด้วย ซึ่งในงานดังกล่าว Mary Kay Inc. ได้เผยผลการศึกษาทางคลินิกล่าสุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของสูตรเครื่องสำอางในการบรรเทาอาการที่เกี่ยวข้องกับผิวแพ้ง่าย

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220113005071/en/

Dr. Lucy Gildea, Mary Kay Chief Innovation Officer, Product and Science (Photo: Mary Kay Inc.)

ดร. Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และวิทยาศาสตร์ของ Mary Kay (รูปภาพ: Mary Kay Inc.)

งานประชุมวิชาการ Aesthetic & Anti-Aging Medicine World Congress ครั้งที่ 19 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 ถึง 18 กันยายน 2564 ในเมืองมอนติคาร์โล ภายใต้การอุปถัมภ์ของเจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2 แห่งโมนาโก โดยผู้เข้าร่วมงานประชุมเป็นบุคลากรที่มาจากหลากหลายอาชีพ ทั้งแพทย์ผิวหนัง ศัลยแพทย์ตกแต่งและแพทย์ผ่าตัดเพื่อความงาม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการชะลอวัย และแพทย์เวชปฏิบัติเสริมสวยและแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 8,300 คนจาก 130 ประเทศที่ทั้งเดินทางมาด้วยตนเองและร่วมประชุมผ่านทางออนไลน์ แพลตฟอร์มดิจิทัลที่ใช้ยังมอบประสบการณ์ที่สมจริงซึ่งช่วยให้การจัดงาน ณ สถานที่จริงสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้ชมนิทรรศการในรูปแบบดิจิทัลและรับชมการประชุมเชิงปฏิบัติการต่าง ๆ ได้แม้จะอยู่ไกลหรือมีข้อจำกัดเรื่องการเดินทาง

นักวิทยาศาสตร์ของ Mary Kay มีความภาคภูมิใจที่ได้รายงานผลวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับการใช้และความทนต่อเรตินอลในการประชุมดังกล่าว ซึ่งจากการใช้เรตินอลอย่างต่อเนื่องกับชาวเอเชีย พบว่าลักษณะผิวโดยรวมดีขึ้น รวมถึงรอยดำจากการอับเสบลดลง ซึ่งปัญหาดังกล่าวพบได้บ่อยเมื่อใช้เรตินอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มชาวแอฟริกัน ฮิสแปนิก เอเชีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Skin of Color)

“เรตินอลเป็นส่วนผสมสำคัญของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและมากด้วยประโยชน์ที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้ว แต่ประสบการณ์และความทนต่อผลิตภัณฑ์เรตินอลในแต่ละคนนั้นต่างกัน สำหรับผู้ที่มีความกังวลว่าอาจเกิดอาการระคายเคืองหรือรอยดำ ผลจากการศึกษานี้ช่วยให้เราค้นพบกับสิ่งที่อาจเป็นทางออก ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นที่ได้นำผลการวิจัยนี้มาแจ้งให้กับชุมชนวิทยาศาสตร์ทั่วโลก ณ งาน World Congress ครั้งที่ 19 ของ AMWC ทราบ เพื่อแชร์งานวิจัยที่เป็นนวัตกรรมของเรากับบุคลากรในแวดวงวิทยาศาสตร์เพื่อการดูแลผิวและการชะลอวัย” ดร. Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านวิทยาศาสตร์ของ Mary Kay Inc. กล่าว

“งาน AMWC ประจำปี 2564 ประกอบด้วยโปรแกรมเกี่ยวกับเวชศาสตร์ด้านความงามและการชะลอวัยในหลากหลายแง่มุม โดยมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมการศึกษาต่อเนื่องระดับสูง และเรามีความยินดีที่ได้ Mary Kay มาร่วมงานในปีนี้ เราหวังว่าเราได้สร้างความสำเร็จในการช่วยให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะแลกเปลี่ยนความคิดใหม่ ๆ และแบ่งปัน ‘know-how’ ในสาขานี้ไปทั่วโลกให้เกิดขึ้น ดิฉันรู้สึกขอบคุณทีมงานของเรา พันธมิตรจากทั่วโลก ผู้เข้าร่วมงาน และชุมชนวิทยาศาสตร์สำหรับการมีส่วนร่วมของพวกเขา และสำหรับโอกาสที่จะได้รับใช้และตอบสนองความต้องการด้านเวชศาสตร์ความงามและเวชศาสตร์การชะลอวัยของพวกเขาต่อไป” Catherine Decuyper ผู้ก่อตั้งและประธาน EuroMediCom กล่าว

สืบเนื่องจากความสำเร็จของการจัดงาน AMWC ปี 2564 ที่ผ่านมา EuroMediCom จึงได้เตรียมจัดงาน AMWC ประจำปี 2565 ขึ้น ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม ถึง 2 เมษายน 2565 โดยจะจัดในรูปแบบผสมอีกครั้งเพื่อให้ตัวแทนจากทั่วโลกสามารถเข้าร่วมการประชุมระดับโลกด้านเวชศาสตร์ความงามและการชะลอวัย ครั้งที่ 20 ได้ ผู้ที่ลงทะเบียนสามารถเลือกเข้าร่วมงานด้วยตัวเองหรือจะรับชมการประชุมในช่วงต่าง ๆ ผ่านการสตรีมสดได้จากทุกที่ทั่วโลก

งานประชุมวิชาการประจำปีโดยสมาคมยุโรปเพื่อการวิจัยโรคผิวหนัง (ESDR) จะจัดขึ้นในยุโรปในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี สำหรับในปี 2564 ด้วยข้อจำกัดด้านการเดินทางและมาตรการป้องกันโควิด-19 การประชุมประจำปีนี้จึงจัดขึ้นในรูปแบบเสมือนจริง ระหว่างวันที่ 22 ถึง 25 กันยายน 2564 ESDR ให้การสนับสนุนการสืบค้นทางห้องปฏิบัติการทางโรคผิวหนัง (investigative dermatology) โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ป่วยที่ได้รับความทรมานจากโรคผิวหนังและโรคติดเชื้อต่าง ๆ และความผิดปกติของภูมิคุ้มกันมีสุขภาพที่ดีขึ้น และนอกจากนำเสนองานวิจัยแล้ว Mary Kay ยังได้ให้การสนับสนุนการจัดสัมมนาในหัวข้อ Future Leaders in Dermatology ซึ่งเป็นการเปิดงานประชุมอย่างเป็นทางการอีกด้วย

Geetha Kalahasti รองหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ที่ Mary Kay Inc. ได้เผยถึงผลจากการศึกษาทางคลินิกเมื่อไม่นานมานี้ที่ได้ทำการประเมินผลข้างเคียงของสูตรใหม่ซึ่งมีส่วนผสมของไขมันในอัตราส่วนตามธรรมชาติของผิวหนัง สารที่มีฤทธิ์ปิดกั้นตัวรับรู้ความรู้สึกเจ็บปวด (TRPV-1) และสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยลดการหลั่งของโปรอินเฟลมมาทอรีไซโตไคน์

“ที่ Mary Kay เราทุ่มเทกับการทำความเข้าใจในเรื่องชีววิทยาของผิว และการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผิว หัวข้อที่เราให้ความสนใจอยู่ตอนนี้คือความสัมพันธ์ระหว่างผิวที่แพ้ง่ายกับการทำหน้าที่ปกป้องสิ่งแปลกปลอมของผิวหนัง ส่วนผสมแต่ละชนิดจะพุ่งเป้าไปที่แต่ละวิถีทางชีวภาพ (biological pathway) ที่ทำให้ผิวเกิดรอยแดง ผลการศึกษาพบว่าการใช้วิธีการแบบหลายแง่มุมช่วยให้เกราะป้องกันผิวที่ถูกทำลายแข็งแรงขึ้น และยังช่วยลดอาการระคายเคืองที่เกี่ยวข้องกับผิวแพ้ง่ายด้วย” Kalahasti กล่าว

“ในฐานะตัวแทนของคณะกรรมการบริหารของ ESDR ผมอยากแสดงความขอบคุณไปยัง Mary Kay สำหรับการสนับสนุนที่มีต่อ ESDR และการเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมของ ESDR หนึ่งในกิจกรรมที่สำคัญของสมาคมของเราคือการส่งเสริมการนำเสนอข้อมูลวิจัยและแนวคิดใหม่ ๆ และเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ Mary Kay มาเป็นส่วนหนึ่งของงานครั้งนี้” Leopold Eckhart ประธานคณะกรรมการโครงการวิทยาศาสตร์ของ ESDR กล่าว

งานสัมมนาครั้งนี้ได้ช่วยให้นักวิจัยรุ่นใหม่ได้มาพบปะกับนักวิทยาศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับทางด้านโรคผิวหนังและส่งเสริมให้เกิดการทำงานร่วมกัน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ Mary Kay Inc. ให้ความสำคัญอย่างมาก

เกี่ยวกับ MARY KAY

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 2506 โดยมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือ การยกระดับชีวีตของผู้หญิงให้ดีขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นกับการสร้างพลังให้กับผู้หญิงบนเส้นทางสู่ความเป็นอิสระทางเศรษฐกิจของพวกเธอผ่านการให้ความรู้ การสอน การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ยังอุทิศตัวให้กับการลงทุนทางด้านวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสุดล้ำ รวมถึงเครื่องสำอางแต่งหน้า อาหารเสริมที่อุดมด้วยโภชนาการ และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการยกระดับการใช้ชีวิตในวันนี้เพื่อวันข้างหน้าที่ยั่งยืน โดยได้ร่วมกับองค์กรจากทั่วโลกที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยด้านมะเร็ง ผลักดันความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในครอบครัว สร้างชุมชนของเราให้สวยงาม และสร้างแรงบันดาลใจให้เด็ก ๆ เดินตามความฝัน เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราได้ทาง FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราที่ Twitter

เกี่ยวกับ EUROMEDICOM

EuroMediCom ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2542 โดยเป็นส่วนหนึ่งของการจัดงาน Informa Exhibitions มาตั้งแต่ปี 2553 มีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมทางด้านชีววิทยาศาสตร์และความรู้ผ่านการฝึกอบรมเพื่อสร้างความรู้ และการประชุมและการจัดนิทรรศการ สำหรับงาน AMWC ซึ่งเป็นงานหลัก มีการจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2546 และกลายมาเป็นงานประชุมระดับชั้นนำของโลกด้านเวชศาสตร์ความงามที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การจัดงาน AMWC เกิดขึ้นมาพร้อมความเชื่อมั่นอย่างมากว่าการรักษาเพื่อความงามภายนอกและการชะลอวัยจากภายในสามารถทำได้พร้อม ๆ กันจากการบูรณการสองสิ่งเข้าด้วยกัน นั่นคือ กลยุทธ์ด้านความงามจากวิทยาการด้านผิวหนังและขั้นตอนทางการผ่าตัดเพื่อรูปลักษณ์ภายนอก และศาสตร์การชะลอวัยสำหรับป้องกันการความชราและการยกระดับการรักษาเพื่อความงาม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AMWC คลิกที่นี่: https://www.euromedicom.com/en/home.html

เกี่ยวกับสมาคมยุโรปเพื่อการวิจัยโรค (ESDR)

สมาคมยุโรปเพื่อการวิจัยโรค (ESDR) ก่อตั้งขึ้นในปี 2513 และเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ต้องการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานและระดับคลินิกที่เกี่ยวกับโรคผิวหนัง ESDR เป็นสมาคมด้านการสืบค้นทางห้องปฏิบัติการทางโรคผิวหนังที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและมีสมาชิกราว 1100 คนในปัจจุบัน จากการสนับสนุนการสืบค้นทางห้องปฏิบัติการทางโรคผิวหนังและการวิจัยด้านผิวหนัง ESDR ได้เข้าไปมีส่วนในการสร้างความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการปรับดุลยภาพของผิว และต่อการยกระดับสุขภาพของผู้ป่วยที่ได้รับความทรมานจากโรคเกี่ยวกับผิวหนังและกามโรค โรคติดเชื้อต่าง ๆ และความผิดปกติเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันและการอักเสบ ESDR ช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการสืบค้นทางห้องปฏิบัติการทางโรคผิวหนังระหว่างแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก และยังเป็นผู้จัดงานเพื่อให้ความรู้ต่าง ๆ ตลอดทั้งปีเพื่อต่อยอดความรู้ในงานวิจัยด้านผิวหนังต่อไป สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่: https://esdr.org/

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220113005071/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. ฝ่ายสื่อสารองค์กร
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย



Women’s Entrepreneurship Accelerator เปิดตัวโปรแกรมประกาศนียบัตรการเป็นผู้ประกอบการออนไลน์สำหรับผู้หญิงทั่วโลก

Logo

พัฒนาโดย ITC SheTrades และสนับสนุนโดย Mary Kay เพื่อช่วยเหลือสนับสนุนโครงการ WEA ทั้งนี้โปรแกรมใบประกาศนียบัตร หรือ Certificate Programme ที่แนะนำนั้นประกอบด้วยหน่วยวิชาฝึกอบรมเชิงโต้ตอบ 27 หน่วยที่เสริมด้วยวิดีโอมากกว่า 200 รายการครอบคลุมเจ็ดขั้นตอนสำคัญของการพัฒนาธุรกิจ

นิวยอร์ก & เจนีวา–(BUSINESS WIRE)–11 มกราคม 2565

Women's Entrepreneurship Accelerator (WEA) ประกาศเปิดตัวหลักสูตรผู้ประกอบการออนไลน์ทั่วโลกที่ออกแบบมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ให้ความรู้ และส่งเสริมผู้ประกอบการสตรีทั่วโลก โปรแกรมประกาศนียบัตรการเป็นผู้ประกอบการออนไลน์ หรือ Online Entrepreneurship Certificate Programme ได้รับการประกาศครั้งแรกในระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA 76) ในวันครบรอบปีที่สองของ WEA

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220111005443/en/

Deborah Gibbins, Chief Operating Officer at Mary Kay Inc. (Photo: Mary Kay Inc.)

Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. (ภาพ: Mary Kay Inc.)

WEA เป็นหุ้นส่วนความร่วมมือจากภาคส่วนที่หลากหลายที่จัดโดยหน่วยงานสหประชาชาติ 6 แห่ง ได้แก่: องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO), ศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (ITC), สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU), โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP), ข้อตกลงแห่งสหประชาชาติ (UNGC), องค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) และ Mary Kay ทั้งนี้ ITC เป็นผู้นำองค์ประกอบการสร้างขีดความสามารถของพันธมิตรหลายราย

พัฒนาโดย ITC SheTrades และสนับสนุนโดย Mary Kay เพื่อช่วยเหลือสนับสนุนโครงการ WEA ทั้งนี้โปรแกรมประกาศนียบัตรการเป็นผู้ประกอบการที่แนะนำนั้นประกอบด้วยหน่วยวิชาฝึกอบรมเชิงโต้ตอบ 27 หน่วยที่เสริมด้วยวิดีโอมากกว่า 200 รายการ จุดมุ่งหมายคือการสอนผู้ประกอบการสตรี—ผู้ที่มีความใฝ่ฝันหรือผู้มีประสบการณ์—ให้มีทักษะในการออกแบบและจัดตั้งธุรกิจที่มีศักยภาพในเชิงเศรษฐกิจ ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้วิธีนำวัฒนธรรมการเป็นผู้ประกอบการ พัฒนาแนวคิดผ่านการคิดเชิงออกแบบและวิธีการสร้างธุรกิจอย่างมีนวัติกรรมที่ทำให้เกิดความสำเร็จแบบก้าวกระโดด (lean start-up) การเตรียมเครื่องมือที่ช่วยออกแบบโมเดลธุรกิจ การออกแบบเสนอขาย การระบุแหล่งที่มาของเงินทุน การหาพันธมิตรที่เหมาะสม การให้คำปรึกษา การสร้างทีม และการจัดตั้งธุรกิจของตน

โปรแกรมประกาศนียบัตรที่ครอบคลุมเจ็ดขั้นตอนสำคัญของการพัฒนาธุรกิจ:

  • ประกาศนียบัตร 1: การตัดสินใจที่จะเป็นผู้ประกอบการ (6 หน่วย) ,
  • ประกาศนียบัตร 2: การพัฒนาแนวคิด – แนวคิดทางธุรกิจ (3 หน่วย),
  • ประกาศนียบัตร 3: การสร้างแบบจำลองธุรกิจ (4 หน่วย),
  • ประกาศนียบัตร 4: การเสนอขายธุรกิจ (4 หน่วย),
  • ประกาศนียบัตร 5: การให้ทุนแก่กิจการ (3 หน่วย),
  • ประกาศนียบัตร 6: การสร้างทีม (4 หน่วย),
  • ประกาศนียบัตร 7: การจัดตั้งธุรกิจ (3 หน่วย)

โปรแกรมประกาศนียบัตรการเป็นผู้ประกอบการออนไลน์ของ WEA (WEA Online Entrepreneurship Certificate Programme) สามารถเข้าถึงได้จากปลายนิ้วมือของผู้หญิงหลายล้านคนได้โดยตรงบนเว็บไซต์ ITC SheTrades (www.shetrades.com/en/learn/e-learning) และบนเว็บไซต์ของ WEA ปัจจุบันนี้มีให้บริการในภาษาอังกฤษ สเปน และฝรั่งเศส โดยกำลังจะมีภาษาอาหรับ รัสเซีย และจีนกลางในปี 2565 นี้ ทั้งนี้ให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ใช้ shetrades.com ทุกคนด้วยไม่มีการป้องกันในการเข้าร่วม ผู้เข้าร่วมจะได้รับประกาศนียบัตรเมื่อเสร็จสิ้นแต่ละขั้นตอนสำคัญเจ็ดขั้นตอนของการพัฒนาธุรกิจ

“โลกต้องการผู้ประกอบการสตรีมากขึ้น” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ประกอบการสตรีทั้งหมดยืนยันว่าได้รับแรงผลักดันจากความประสงค์ที่จะมีส่วนทำให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมที่ยิ่งใหญ่ ผลกระทบของพวกเขานั้นสามารถมีอย่างมหาศาล โปรแกรมประกาศนียบัตรการเป็นผู้ประกอบการออนไลน์ของ WEA เป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับผู้หญิงและเด็กผู้หญิงทั่วโลก ด้วยเครื่องมือและการสนับสนุนที่เหมาะสม ทั้งนี้ไม่จำกัดสิ่งที่ผู้หญิงสามารถทำได้”

“เราต้องเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในการค้าระหว่างประเทศ โดยช่วยให้พวกเขาขยายธุรกิจเพื่อให้กลายเป็นแรงกระตุ้นสำหรับชุมชนที่ครอบคลุมและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ผู้หญิงเป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงที่ทรงพลัง และการเสริมอำนาจให้ผู้หญิงเป็นประโยชน์ต่อทั่วทั้งสังคม” Pamela Coke-Hamilton กรรมการบริหารของ International Trade Centre กล่าว

งานเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะจัดขึ้นในวันที่ 18 มกราคม 2565 เวลา 15:00 น. ตามเวลายุโรปกลาง (CET) ในความร่วมมือกับ Mary Kay ทั้งนี้จะเรียกผู้ประกอบการสตรีและธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของจากเครือข่าย ITC SheTrades ทั่วโลก งานจะจัดขึ้นเสมือนจริงเป็นภาษาอังกฤษ และจะทำหน้าที่เป็นเวทีในการนำเสนอโปรแกรมประกาศนียบัตรการเป็นผู้ประกอบการ และการฝึกอบรมในประเทศที่กำลังจะมีขึ้น ทีมงาน SheTrades จะนำเสนอหลักสูตรการเป็นผู้ประกอบการรวมถึงเครื่องมืออื่น ๆ ที่มีอยู่ใน www.shetrades.com สามารถลงทะเบียนที่นี่เพื่อเปิดตัวโปรแกรมประกาศนียบัตรการเป็นผู้ประกอบการที่ไม่มีค่าใช้จ่ายของ WEA

การเปิดตัวโปรแกรมประกาศนียบัตร WEA หรือ WEA Certificate Programme บนแพลตฟอร์มการฝึกอบรมออน์ไลน์ของ ITC SheTrades จะได้รับการเสริมในระดับชาติด้วยการฝึกอบรมภาคสนามสำหรับผู้หญิงจากประเทศกำลังพัฒนาที่สนใจในการเป็นผู้ประกอบการและ/หรือวางแผนที่จะรวมเข้ากับห่วงโซ่คุณค่าระดับภูมิภาคและระดับโลก การฝึกอบรมในประเทศจะให้ข้อมูลเชิงลึกและความเชี่ยวชาญในทางปฏิบัติแก่ผู้ประกอบการสตรีและกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSMEs) ทั้งนี้จะมีขึ้นในโคลอมเบีย บราซิล เม็กซิโก และอินเดีย การฝึกอบรมจะจัดขึ้นเป็นภาษาสเปน (โคลอมเบีย เม็กซิโก) โปรตุเกส (บราซิล) และอังกฤษ (อินเดีย) การฝึกอบรมนี้จะเน้นในสองหัวข้อหลัก: “ความสามารถในการแข่งขันและความพร้อมในการส่งออก” (19-20 มกราคม) และ “การสัมมนาเชิงปฏิบัติการการตลาดดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซ” (1-3 กุมภาพันธ์)

การสนับสนุนดังกล่าวอยู่ภายใต้ “โปรแกรมส่งเสริมสตรีเพื่อการค้า” ของ ITC ซึ่งมีส่วนโดยตรงต่อประเด็นที่ ITC มุ่งเน้นที่ 5 เรื่อง “การส่งเสริมและบูรณาการการค้าที่มุ่งหมายอย่างทั่วถึงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ข้อ 5, 8 และ 17

WEA มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมผู้ประกอบการสตรีจำนวน 5 ล้านคนภายในปี 2573

เกี่ยวกับ Women’s Entrepreneurship Accelerator

Women's Entrepreneurship Accelerator (WEA) เป็นโครงการริเริ่มแบบหุ้นส่วนความร่วมมือจากภาคส่วนที่หลากหลายเกี่ยวกับผู้ประกอบการสตรีที่จัดโดยหน่วยงานของสหประชาชาติหกแห่ง ได้แก่ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO), ศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (ITC), สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU), โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP), ข้อตกลงแห่งสหประชาชาติ (UNGC), องค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) และ Mary Kay มุ่งมั่นจะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสตรีจำนวน 5 ล้านคนภายในปี 2573 เป้าหมายสูงสุดของโครงการนี้คือการเพิ่มผลกระทบด้านการพัฒนาของผู้ประกอบการสตรีให้มากที่สุดในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยการสร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้ประกอบการสตรีทั่วโลก โครงการ Accelerator เป็นตัวอย่างของพลังในการเปลี่ยนแปลงของการเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือจากภาคส่วนที่หลากหลายที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร เพื่อควบคุมศักยภาพของผู้ประกอบการสตรี สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ we-accelerate.com ติดตามเราบน: Twitter และ Instagram (@we_accelerator), Facebook และ LinkedIn (@womensentrepreneurshipaccelerator)

เกี่ยวกับ ITC SheTrades

โครงการ SheTrades ของ International Trade Centre มีเป้าหมายที่จะเชื่อมโยงผู้หญิงสามล้านคนเข้าสู่ตลาดภายในปี 2564 และรวบรวมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากทั่วโลกให้ทำงานร่วมกันเพื่อจัดการกับอุปสรรคทางการค้าและสร้างโอกาสที่มากขึ้นสำหรับผู้ประกอบการสตรี ทั้งนี้ได้รับการสนับสนุนโดยเว็บและแพลตฟอร์มดิจิทัลบนมือถือ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม SheTrades.com: https://www.shetrades.com/en

เกี่ยวกับ International Trade Centre

ศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (Interantional Trade Centre) เป็นหน่วยงานร่วมขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization) และสหประชาชาติ (United Nations) ทั้งนี้ ITC ให้ความช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในระบบเศรษฐกิจกำลังพัฒนาและช่วงเปลี่ยนผ่านให้มีความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้มีการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนภายใต้กรอบของวาระความช่วยเหลือทางการค้า หรือ Aid-for-Trade และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (United Nations’ Sustainable Development Goals) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ www.intracen.org ติดตาม ITC บน Twitter | Facebook | LinkedIn | Instagram | Flickr

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220111005443/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย



Black & Veatch ออกแบบศูนย์วิจัยและพัฒนาต้นแบบให้กับบริษัทอาหารทะเลจากการสังเคราะห์ในสิงคโปร์

Logo

Mini Plant ของ Shiok Meats คือกุญแจสู่การขยายการผลิตเพื่อรับมือกับปัญหาความมั่นคงทางอาหารทั่วโลก

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–9 มกราคม 2565

Black & Veatch ร่วมมือกับ Shiok Meats ในการออกแบบและการวางผังศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารทะเลจากการสังเคราะห์ที่มีความทันสมัยและไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อน โดย Ms. Grace Fu รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมของสิงคโปร์ ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

ศูนย์วิจัยฯ แห่งใหม่นี้จะช่วยให้ Shiok Meats ซึ่งเป็นบริษัทเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกลุ่มครัสตาเชียจากการสังเคราะห์แห่งแรกของโลก ขยายการผลิตอาหารทะเลกลุ่มครัสตาเชียจากกรรมวิธีเซลล์สังเคราะห์ และตั้งเป้าหมายเริ่มวางจำหน่ายภายในปีพ.ศ. 2566

Dr. Sandhya Sriram ซีอีโอกลุ่มและผู้ร่วมก่อตั้ง Shiok Meats กล่าวว่า “การสร้าง Mini Plant คือก้าวแห่งความสำเร็จครั้งใหญ่สำหรับเรา โรงงานผลิตของเราซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จในอีก 18 เดือน จะเป็นส่วนขยายของ Mini Plant แห่งนี้ในแง่ของการออกแบบเชิงวิศวกรรมและการวางรากฐาน ศูนย์วิจัยฯ แห่งใหม่นี้จะช่วยให้เราเพิ่มการผลิตอาหารทะเลจากการสังเคราะห์อย่างค่อยเป็นค่อยไปตามกลยุทธ์ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเราจะมีโมเดลการผลิตที่มีความครอบคลุมและผลิตภัณฑ์ชั้นเยี่ยม”

David Ziskind ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมของ Black & Veatch NextGen Ag กล่าวว่า “การพลิกโฉมระบบอาหารของเราจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ พวกเราภูมิใจที่ได้ช่วย Shiok Meats บรรลุก้าวแห่งความสำเร็จครั้งสำคัญในการเปลี่ยนแปลงอนาคตของอาหาร นวัตกรรมและความยั่งยืนคือแกนหลักสู่ทางออกด้านวิศวกรรมและการก่อสร้างของเราในขณะที่เราช่วยให้หลาย ๆ บริษัทลดช่องว่างระหว่างวิทยาศาสตร์ การวิจัยและการพัฒนา วิศวกรรม และการพาณิชย์เพื่อนำผลิตภัณฑ์อาหารใหม่ ๆ สู่ตลาดได้ในปริมาณมาก เราตื่นเต้นที่ได้สนับสนุน Shiok Meats ในความพยายามครั้งใหญ่เพื่อสร้างสรรค์อาหารที่ดีกว่าและมีความยั่งยืนมากขึ้นโดยนำเทคโนโลยีชีวภาพมาใช้เพื่อยกระดับความมั่นคงทางอาหารทั่วโลก”

Hoe Wai Cheong ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารประจำทวีปเอเชียแปซิฟิกและอินเดียของ Black & Veatch กล่าวว่า “ผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมของตลาดอย่าง Shiok Meats กำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่สะอาดและยั่งยืนขึ้นไปอีกขั้น โดยผลิตภัณฑ์อาหารเหล่านั้นเป็นแหล่งโปรตีนทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อซึ่งกำลังเติบโตและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปเอเชีย เรามีความภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับบริษัทอย่าง Shiok Meats ซึ่งมีความมุ่งมั่นเช่นเดียวกันกับเราในการที่จะพัฒนาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมให้มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น และแนะนำให้พวกเขาได้รู้จักกับระดับความพร้อมของเทคโนโลยีตั้งแต่แรกเริ่มไปจนถึงการพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ”

Black & Veatch ให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบและนวัตกรรมในขั้นแรก ไปจนถึงการติดตั้งระบบพร้อมสรรพให้กับทั้งบริษัทเกิดใหม่และผู้ผลิตที่มีความมั่นคง Black & Veatch มีความพร้อมที่จะบริหารจัดการตลอดวงจรชีวิตของโครงการ ตั้งแต่การออกแบบกระบวนการและพัฒนาโครงร่างไปจนถึงงานออกแบบเชิงวิศวกรรม การสร้างโรงงานผลิตทั้งในระดับนำร่องและเชิงพาณิชย์ บริการของบริษัทครอบคลุมในหลายภาคส่วน ทั้งอาหารและเครื่องดื่มแบบดั้งเดิม รวมถึงเทคโนโลยีเพื่อการผลิตอาหารแห่งอนาคต เช่น การเกษตรกรรมในสภาพแวดล้อมปิด โปรตีนทางเลือก และการสังเคราะห์พืชและสัตว์น้ำ

คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดภาพประกอบ

หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ

  • จากการจัดอันดับ 2021 Engineering News-Record’s (ENR) โดย Sourcebook Black & Veatch เป็นหนึ่งใน 10 บริษัทยอดเยี่ยมใน 19 หมวดหมู่ การจัดอันดับดังกล่าวสะท้อนถึงความสำเร็จของบริษัททางด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ การให้คำปรึกษา และการก่อสร้าง ในการคาดการณ์การพัฒนาองกรค์ของลูกค้าที่มุ่งไปสู่การลดการปล่อยคาร์บอนจากการใช้พลังงานให้เหลือศูนย์ การฟื้นฟูระบบน้ำที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น และการใช้ข้อมูลทั่วโลกที่ดียิ่งขึ้น

เกี่ยวกับ Shiok Meats

Shiok Meats คือบริษัทผลิตเนื้อและอาหารทะเลจากการสังเคราะห์แห่งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และบริษัทผลิตอาหารทะเลกลุ่มครัสตาเชีย (กุ้ง ล็อบสเตอร์ ปู กั้ง) จากการสังเคราะห์แห่งแรก ที่จะเสิร์ฟเนื้อสัตว์จากการสังเคราะห์ที่มีความยั่งยืน ดีต่อสุขภาพ ปราศจากการทารุณกรรมสัตว์ และรสชาติอร่อยให้กับโลก ติดตามข่าวของ Shiok Meats ได้ทาง Facebook, Instagram และ Twitter ที่ @shiokmeats

เกี่ยวกับ Black & Veatch

Black & Veatch คือบริษัทออกแบบด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ การให้คำปรึกษา และการก่อสร้างระดับโลกที่มีพนักงานร่วมเป็นเจ้าของ โดยมีประวัติยาวนานกว่า 100 ปีในด้านนวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2458 เป็นต้นมา เราได้ช่วยลูกค้าของเราพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลกโดยการพัฒนาความยืดหยุ่น และคุณภาพของโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของเรา ในปีพ.ศ. 2563 บริษัทมีรายได้รวมในการดำเนินงานกว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดตามเราได้ที่ www.bv.com และทางสื่อสังคม

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211215006149/en/

ติดต่อ:

EMILY CHIA | +65 6335 6623 P | +65 9875 8907 M | Chialp@bv.com
สายด่วน 24 ชั่วโมงสำหรับสื่อ | +1 855-999-5991

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย