Category Archives: Lifestyle

AJC จะจัด “สัมนาการท่องเที่ยว BIMP-EAGA – ข้อมูลเชิงลึกและแนวโน้มของตลาดญี่ปุ่นหลังโควิด-19” ในวันที่ 12 มกราคม 2565

Logo

โตเกียว–(บิสิเนสไวร์)–06 ม.ค. 2565

ศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น (AJC) จะจัดสัมมนาผ่านเว็บสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านการท่องเที่ยวในบรูไน ดารุสซาลาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เขตพัฒนาอาเซียนตะวันออกหรือ BIMP-EAGA ในวันพุธที่ 12 มกราคม 2565  การสัมมนาผ่านเว็บนี้ออกแบบมาเพื่อนำเสนอ ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับตลาดการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นและแนะนำวิธีการส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวของ BIMP-EAGA ให้กับประเทศญี่ปุ่น

BIMP-EAGA เปิดตัวในปี 2537 เพื่อกระตุ้นการพัฒนาในพื้นที่ห่างไกลและด้อยพัฒนาในสี่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เข้าร่วม  ประเทศเหล่านี้อยู่ห่างไกลจากเมืองหลวงของประเทศในเชิงภูมิศาสตร์ แต่ก็อยู่ใกล้กันในเชิงกลยุทธ์  รัฐและจังหวัดเหล่านี้มีสัดส่วนมากกว่า 60% ของพื้นที่แผ่นดินของประเทศ BIMP-EAGA แต่พวกเขาคิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่า 20% ของประชากรและ 18% ของกำลังแรงงาน

ห้าเสาหลักเชิงกลยุทธ์ของ BIMP-EAGA VISION 2025 ได้แก่ ความเชื่อมโยง ตะกร้าอาหาร สิ่งแวดล้อม และสังคมวัฒนธรรมและการศึกษา และการท่องเที่ยว  AJC ได้จัดการประชุมสัมมนาที่มุ่งเน้นไปที่สี่เสาหลักข้างการท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม 2564 โดยการสัมมนาผ่านเว็บเกี่ยวกับการท่องเที่ยวนี้จะครอบคลุมเสาหลักเชิงกลยุทธ์ทั้งหมดของวิสัยทัศน์

การสัมมนาผ่านเว็บด้านการท่องเที่ยวที่กำลังจะจัดขึ้นจะนำเสนอข้อมูลอัปเดตและแนวโน้มที่น่าสนใจของตลาดญี่ปุ่น เช่น ความรู้สึกของผู้บริโภคนักเดินทางชาวญี่ปุ่น และมุ่งเน้นไปที่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดแข็งของภูมิภาค พร้อมทั้งให้ข้อมูลเกี่ยวกับการตลาดดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

การสัมมนาผ่านเว็บเกี่ยวกับการท่องเที่ยว BIMP-EAGA

-ข้อมูลเชิงลึกและแนวโน้มของตลาดญี่ปุ่นหลังโควิด-19-

วันที่/เวลา:

วันพุธที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 15:00น. – 17:00น. (เวลาประเทศญี่ปุ่น)

สถานที่:

Zoom

โปรแกรม:

เปิดงาน

  • Dr. Kunihiko Chris Hirabayashi , เลขาธิการศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น
  • Mr. Shu Kawano ผู้อำนวยการ กรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สอง กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น
  • Ms. Salinah Md. Salleh รักษาการอธิบดีกรมการท่องเที่ยว บรูไนดารุสซาลาม/ประธานศูนย์พัฒนาการท่องเที่ยว BIMP-EAGA

การนำเสนอ

  1. นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นมองประเทศ BIMP อย่างไร?
    – อ่านแนวโน้มผ่านการสำรวจการรับรู้ถึงการเดินทางในอาเซียน1
    วิทยากร: Ms. Haruna Chinzei, Account Manager, Marketing Voice Ltd.
     
  2. บทใหม่ของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศหลังโควิด 19
    – กรณีของญี่ปุ่นและอื่น ๆ –
    วิทยากร: คุณ Masaru Takayama ประธานเครือข่ายการท่องเที่ยวเชิงนิเวศเอเชีย
     
  3. วิธีดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นด้วยการตลาดดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพ
    วิทยากร: Mr. Kei Shibata, ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ Venture Republic – TRAVEL jp & Trip101

ผู้จัดงาน:

ศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น

องค์กรสนับสนุน:

ศูนย์อำนวยการ BIMP-EAGA

ภาษา:

อังกฤษ

ค่าลงทะเบียน:

ฟรี

กรุณาลงทะเบียนจากลิงค์ด้านล่างเพื่อเข้าร่วม: https://bit.ly/3rLorpu

(คลิกที่ “ภาษาอังกฤษ” ที่มุมบนขวาของเว็บไซต์)


1แบบสำรวจความตระหนักด้านการเดินทางของอาเซียนจัดทำโดย AJC ในเดือนมกราคม 2564 สำหรับชาวญี่ปุ่นใน 20s-60s. รายงานอาเซียน (โดยรวม) และข้อมูลสมาชิกอาเซียนแต่ละประเทศมีอยู่ในเว็บไซต์ AJC ที่ด้านล่างของ URL ต่อไปนี้: https://www.asean.or.jp/en/tourism-info/20210617/

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220105006054/en/

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น (AJC)

ติดต่อ:

Tomoko Miyauchi (MS)
URL: https://www.asean. or.jp/en/
โทร: +81-3-5402-8118
อีเมล: toiawase_ga@asean.or.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

การเฉลิมฉลองนับถอยหลังสู่ปีใหม่ของฮ่องกงต้อนรับปี 2022 ด้วยการแสดงศิลปะอันตระการตาครั้งแรกทั่วทั้งอ่าววิคตอเรีย

Logo

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–4 มกราคม พ.ศ. 2565

อ่าววิคตอเรียอันโด่งดังของฮ่องกงสว่างไสวเป็นพิเศษในขณะที่เมืองนี้ส่งเสียงดังก้องในปี 2022 โดยนำฉากศิลปะที่เฟื่องฟูมาสู่เวทีกลางระดับโลก

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211231005124/en/

Hong Kong rang in 2022 with an arts spectacular highlighted by a special edition of A Symphony of Lights, which lit up the city’s iconic skyline with searchlights, lasers and pyrotechnic effects. (Photo: Business Wire)

ฮ่องกงส่งเสียงดังก้องในปี 2022 ด้วยงานศิลปะที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยเน้นที่การแสดง A Symphony of Lights ฉบับพิเศษ ซึ่งส่องสว่างของเส้นขอบฟ้าอันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองด้วยแสงจากไฟฉาย แสงเลเซอร์ และเอฟเฟกต์พลุดอกไม้ไฟ (ภาพ: Business Wire)

เมื่อเวลา 23:59 น. ของวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ไฟ LED สูง 65.8 เมตรตกแต่งบนฟาซาดของ M+ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมทางสายตาร่วมสมัยระดับโลกแห่งแรกของเอเชียในเขตวัฒนธรรมเกาลูนตะวันตกได้เปลี่ยนเป็นนาฬิกานับถอยหลังที่เดินทางข้ามเมืองอันอุดมสมบูรณ์ของฮ่องกง

เมื่อนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืน การแสดงมัลติมีเดียฉบับพิเศษที่ชื่อว่า A Symphony of Lights จะนำเสนอวิชวลเอฟเฟกต์อันตระการตาทั่วเส้นขอบฟ้าอันโด่งดังของฮ่องกง พร้อมด้วยพลุดอกไม้ไฟบนชั้นดาดฟ้าและเอฟเฟกต์แสงสีที่เปิดตัวตามระดับความสูงต่าง ๆ พร้อมคำอวยพรวันปีใหม่ใน 15 ภาษา บนฟาซาดของพิพิธภัณฑ์ M+ พร้อมส่งคำอวยพรอย่างจริงใจไปยังที่อื่น ๆ ของโลก

มหกรรมศิลปะการแสดงแสงสีที่ตระการตาทั่วทั้งท่าเรือประสานกับดนตรีที่มีชีวิตชีวาและสนุกสนานโดย Hong Kong Philharmonic Orchestra ซึ่งเป็นวงออเคสตราที่สำคัญที่สุดของเมืองที่เป็นคอนเสิร์ตกลางแจ้งในเขตวัฒนธรรมเกาลูนตะวันตก

ข้อมูลการดาวน์โหลดวิดีโอและรูปภาพ

  • สามารถดาวน์โหลดฟุตเทจวิดีโอและภาพถ่ายของการเฉลิมฉลองการนับถอยหลังสู่วันปีใหม่ของฮ่องกงได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565 เวลา 03:00 น. ตามเวลาฮ่องกง (31 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เวลา 19:00 น. ตามเวลามาตรฐานกรีนิช) สื่อที่สนใจในการถ่ายทอดงานสามารถดาวน์โหลดเอกสารได้จากลิงก์ด้านล่าง

    ลิงก์สำหรับดาวน์โหลด: https://assetlibrary.hktb.com/assetbank-hktb/action/browseItems?categoryId=728&categoryTypeId=2&cachedCriteria=1

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบนbusinesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211231005124/en/

ติดต่อ:

Mr Cameron Tong
โทร: (852) 2807 6367
อีเมล: cameron.tong@hktb.com

Ms Vivian Li
โทร: (852) 2807 6206
อีเมล: vivian.li@hktb.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


GOOD Meat ได้รับการอนุมัติตามกฎข้อบังคับสำหรับผลิตภัณฑ์ไก่ตัวใหม่ในสิงคโปร์ โดยบริษัทวางแผนการผลิตขนาดใหญ่ขึ้น

Logo

บริษัทจะนำเสนอตัวอย่างผลิตภัณฑ์อกไก่ในสัปดาห์หน้า

สิงคโปร์–(บิสิเนสไวร์)–16 ธ.ค. 2564

Eat Just, Inc. บริษัทที่ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อสร้างอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีและยั่งยืนมากขึ้นได้ประกาศว่าแผนก GOOD Meat ได้รับการอนุมัติด้านกฎระเบียบให้จำหน่ายเนื้อไก่เพาะพันธุ์ใหม่ในประเทศสิงคโปร์  จะมีการนำเสนออกไก่รูปแบบใหม่นี้ที่ JW Marriott Singapore South Beach ในสัปดาห์หน้า โดยกลุ่มคนหนุ่มสาวจาก Camp Asia’s Super Chef Camp จะนั่งรับประทานอาหารค่ำกับไก่นี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211215006131/en/

GOOD Meat Chicken Breast & Greens (Photo: Eat Just, Inc.)

อกไก่ GOOD Meat และผัก (ภาพ: Eat Just, Inc.)

การรับรองล่าสุดโดย Singapore Food Agency (SFA) เนื่องในโอกาสครบรอบหนึ่งปีของของ GOOD Meat เป็น การเปิดตัวเนื้อสัตว์แท้คุณภาพสูงครั้งแรกในโลกซึ่งผลิตขึ้นโดยตรงจากเซลล์สัตว์และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความมุ่งมั่นของประเทศในการใช้เทคโนโลยีในการแก้ปัญหาที่ส่งเสริมการดูแลสิ่งแวดล้อม  การสนับสนุนภาคส่วนเนื้อสัตว์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ “30 By 30” ของสิงคโปร์เพื่อสร้างความสามารถในการอุปทาน 30 เปอร์เซ็นต์ของความต้องการทางโภชนาการในท้องถิ่นอย่างยั่งยืนภายในปี 2573

GOOD Meat ยังคงลงทุนในอนาคตของสิงคโปร์ด้วยการออกแบบและระบบการผลิตที่จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตเนื้อสัตว์เพาะพันธุ์ได้อย่างสำคัญ โดยมีเป้าหมายที่จะให้อุปกรณ์ติดตั้งและใช้งานได้ในอีกสองปีข้างหน้า  บริษัทจะยังคงจ้างวิศวกร นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิต และอื่นๆ ในท้องถิ่นเพื่อดำเนินการโรงงานและขับเคลื่อนธุรกิจ

“โลกของเราเปลี่ยนแปลงไปมากมายในปีที่แล้ว แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยังคงเหมือนเดิม: สิงคโปร์ยังคงเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงระบบอาหารระดับโลกที่ชาญฉลาดและยั่งยืนมากขึ้น  เราภูมิใจที่จะเฉลิมฉลองการครบรอบหนึ่งปีของเราในการขายเนื้อสัตว์เพาะพันธุ์ครั้งแรกด้วยการประกาศกฎระเบียบและผลิตภัณฑ์ที่สำคัญซึ่งเกิดขึ้นอีกครั้งในสิงคโปร์” Josh Tetrick ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Eat Just กล่าว

GOOD Meat กำลังจัดเตรียมโอกาสใหม่ๆ สำหรับผู้บริโภคในการซื้อเมนูไก่เพาะพันธุ์ที่ศูนย์หาบเร่ที่มีชื่อเสียงของสิงคโปร์ในปี 2565 โดยที่แรกจะเป็นร้าน Loo's Hainanese Curry Rice ซึ่งเป็นธุรกิจที่ดำเนินกิจการโดยครอบครัวมากว่า 74 ปี  โซนแผงลอยหาบเร่เป็นพื้นที่ขนาดเล็กที่มีชื่อเสียงของสังคมพหุวัฒนธรรมของสิงคโปร์ และการดำรงชีวิตของพวกเขาได้รับผลกระทบจากการตกต่ำของธุรกิจในช่วงการระบาดใหญ่ เพื่อสนับสนุนวัฒนธรรมพ่อค้าหาบเร่และชุมชน GOOD Meat จะบริจาคเงินเพื่อสิ่งนี้ผ่านศูนย์อาสาสมัคร National Volunteer and Philanthropy Centre (NVPC)

GOOD Meat ยังได้ประกาศเมื่อวันพุธว่า José Andrés เชฟผู้มีชื่อเสียงระดับโลกในด้านมนุษยธรรมได้เข้าร่วมคณะกรรมการบริหาร และให้คำมั่นว่าจะให้บริการไก่ที่เพาะพันธุ์ของบริษัทที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งของเขาในสหรัฐอเมริกาหลังการตรวจสอบกฎระเบียบที่นั่น  Andrés ซึ่ง ThinkFoodGroup ดำเนินธุรกิจร้านอาหารมากกว่า 30 แห่งในสหรัฐอเมริกา จะให้คำปรึกษาด้านการทำอาหารแก่ทีมเชฟและนักวิทยาศาสตร์ของบริษัทขณะที่พวกเขาทำงานเพื่อปรับปรุงรสชาติ เนื้อสัมผัส และความเก่งกาจของผลิตภัณฑ์ของตน ซึ่งจะวางจำหน่ายในสิงคโปร์และทั่วโลกในที่สุด

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20211215006131/en/

ติดต่อ:

Andrew Noyes
press@goodmeat.co

Upcycle Communications
goodmeat@upcyclecomms.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge รุ่นที่สามเน้นที่ผู้ประกอบการระดับโลกหกรายเร่งการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมแฟชั่น

Logo

Changemaker Yara Shahidi และ Tommy Hilfiger จะทำหน้าที่เป็นกรรมการตัดสินการแข่งขัน ตามที่ผู้ประกอบการได้นำเสนอแนวคิดทางธุรกิจด้วยเงินรางวัล 200,000 ยูโรที่จะแบ่งให้ระหว่างผู้ชนะสองคน

อัมสเตอร์ดัม–(BUSINESS WIRE)–13 ธันวาคม พ.ศ. 2564

Tommy Hilfiger ซึ่งเป็นเจ้าของโดย PVH Corp. [NYSE: PVH] ยินดีที่จะประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบสุดท้ายจำนวนหกคนของการแข่งขัน Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ปี 2021 ซึ่งได้รับการคัดเลือกมาอย่างดีจากแอปพลิเคชันกว่า 430 รายการที่ได้รับจากบริษัทสตาร์ทอัพและสเกลอัพทั่วโลก โดยสร้างจากวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนของ Tommy Hilfiger ในการไม่สูญเปล่าและยินดีต้อนรับทุกคน หรือ Waste Nothing and Welcome All โปรแกรมรุ่นที่สามมุ่งมั่นที่จะขยายและสนับสนุนผู้ประกอบการคนผิวดำ ชนพื้นเมือง และคนผิวสี (BIPOC) ที่กำลังพัฒนาชุมชนของตน ในขณะที่ส่งเสริมอนาคตของแฟชั่นที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น ด้วยความจำเป็นในการขับเคลื่อนผลกระทบในอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญมากขึ้นกว่าเดิม ปีที่สามของการแข่งขัน Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ได้ดำเนินการในรูปแบบเสมือนอย่างสมบูรณ์เพื่อเอาชนะข้อจำกัดและความท้าทายของการระบาดใหญ่ของโควิด-19

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211213005214/en/

ในกระบวนการที่มีหลายขั้นตอนตลอดทั้งปี แอปพลิเคชันได้ผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยผู้เชี่ยวชาญภายในและภายนอกโดยอิงตามเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งรวมถึงผลกระทบทางสังคมที่อาจเกิดขึ้นและการเติบโตของตลาด ผู้เข้ารอบหกคนสุดท้ายจะนำเสนอแนวคิดทางธุรกิจของตนต่อคณะกรรมการตัดสินที่ประกอบด้วยผู้นำทางธุรกิจและความยั่งยืนที่งานรอบชิงชนะเลิศ Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ระดับโลกเสมือนในวันที่ 12-13 มกราคม พ.ศ. 2565

Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge รวบรวมภารกิจที่มีมาอย่างยาวนานของเราในการควบคุมพลังของแฟชั่นที่ส่งเสริมการรวมตัว การเป็นตัวแทน และการเปลี่ยนแปลง” Tommy Hilfiger กล่าว “อุตสาหกรรมของเราจะก้าวไปข้างหน้าได้ด้วยแนวคิดใหม่ ๆ ที่ท้าทายวิธีการคิด สร้างและรังสรรค์ของเรา ในฐานะแบรนด์สิ่งสำคัญคือเราใช้แพลตฟอร์มของเราเพื่อให้ผู้ประกอบการอย่างเช่นผู้เข้ารอบสุดท้ายของเราได้มีเสียงและโอกาสในการสร้างผลกระทบที่แท้จริงและยาวนาน”

ผู้เข้ารอบ 6 คนสุดท้ายได้แก่:

  • Clothes to Good: กิจการเพื่อสังคมจากแอฟริกาใต้ที่สร้างโอกาสและงานในธุรกิจขนาดเล็กสำหรับคนพิการและครอบครัวของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เป็นมารดาผ่านการรีไซเคิลสิ่งทอ
  • Haelixa: เทคโนโลยีตรวจสอบย้อนกลับผลิตภัณฑ์จากสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงทั่วโลกไปสู่ห่วงโซ่อุปทานสินค้าอุปโภคบริโภคที่โปร่งใส
  • MAFI MAFI: แบรนด์แฟชั่นที่ยั่งยืนจากเอธิโอเปียที่รังสรรค์คอลเลกชั่นเสื้อผ้าสำเร็จรูป อนุรักษ์ประเพณีโบราณ และส่งเสริมช่างฝีมือที่ถูกลดสำคัญลง
  • Lalaland: แพลตฟอร์มจากเนเธอร์แลนด์ซึ่งใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการสร้างแบบจำลองสังเคราะห์ที่ปรับแต่งและครอบคลุมสำหรับกลุ่มชาติพันธุ์ อายุ และขนาดที่แตกต่าง ทั้งหมดด้วยรูปแบบท่าทางต่าง ๆ มากกว่า 35 แบบ
  • SOKO: ธุรกิจเครื่องประดับจากเคนยาแห่งนี้ใช้เทคโนโลยีมือถือเพื่อเชื่อมต่อช่างฝีมือชาวเคนยาที่ถูกลดความสำคัญลงให้เข้ากับตลาดโลกโดยตรงผ่านแพลตฟอร์มมือถือ
  • UZURI K&Y: แบรนด์รองเท้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจากรวันดาแห่งนี้ใช้ยางรถยนต์รีไซเคิลจากแอฟริกาใต้สะฮารา และจ้างงานเยาวชนในท้องถิ่นเพื่อเตรียมความพร้อมให้พวกเขามีทักษะและความเป็นอิสระทางเศรษฐกิจ

กรรมการตัดสินการแข่งขันในรอบสุดท้ายได้แก่:

  • Mr. Tommy Hilfiger
  • Martijn Hagman ซีอีโอของ Tommy Hilfiger Global และ PVH Europe
  • Yara Shahidi นักแสดงหญิงที่ได้รับรางวัล โปรดิวเซอร์ และผู้นำการเปลี่ยนแปลงในองค์กร
  • Esther Verburg, รองกรรมการผู้จัดการ (EVP) ธุรกิจและนวัตกรรมที่ยั่งยืนของTommy Hilfiger Global และ PVH Europe
  • Adrian Johnson, Entrepreneur ผู้ประกอบการ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านการเป็นผู้ประกอบการ เทคโนโลยีและสื่อที่ INSEAD
  • Katrin Ley กรรมการผู้จัดการของ Fashion for Good และผู้ก่อตั้ง Curator of the Amsterdam Global Shapers Hub
  • Yvonne Bajela สมาชิกผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทการลงทุน Impact X Capital

ด้วยการสนับสนุนจาก Tommy Hilfiger และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านของ INSEAD ผู้เข้ารอบทั้ง 6 คนสุดท้ายได้พัฒนาและปรับปรุงแผนธุรกิจ ซึ่งพวกเขาจะนำเสนอในการแข่งขันรอบสุดท้าย Arooj Aftab ผู้สร้างเนื้อหา นักวาดภาพประกอบ นักเขียนและผู้ก่อตั้งของ #DonewithDiversity จะจัดงานแข่งขันรอบสุดท้ายซึ่งกรรมการตัดสินจะมอบเงินรางวัล 200,000 ยูโร โดยแบ่งให้ระหว่างผู้ชนะสองคนที่ได้รับเลือกตามลำดบเพื่อสนับสนุนการลงทุนของพวกเขา ผู้ชนะยังจะได้รับคำปรึกษาเป็นเวลาหนึ่งปีกับผู้เชี่ยวชาญของ Tommy Hilfiger และ INSEAD ทั้งสองตลอดจนได้รับตำแหน่งในโปรแกรม INSEAD Social Entrepreneurship Program (ISEP) นอกจากนี้จะมีการมอบรางวัลเพิ่มเติมอีก 15,000 ยูโรให้กับผู้เข้ารอบสุดท้ายที่ Tommy Hilfiger ร่วมเลือกการโหวต 'Audience Favorite' ของพวกเขา

“ในฐานะผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมแฟชั่น ทั้งนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของเราในการสนับสนุน เพิ่มขีดความสามารถ และส่งเสริมการรวมกลุ่ม Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของเราในการสร้างสรรค์ผลงานที่มีความหมายและยั่งยืนต่ออุตสาหกรรมแฟชั่นที่ดีขึ้น” Martijn Hagman ซีอีโอของ Tommy Hilfiger Global และ PVH Europe กล่าว “เป็นธรรมชาติของเราที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง แม้ในช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุด เราภูมิใจที่ได้ขยายแนวคิดของผู้ประกอบการที่กำลังสร้างภูมิทัศน์ด้านแฟชั่นที่เราต้องการและจำเป็นต้องเห็นต่อไป”

พันธกิจของ Tommy Hilfiger คือการเป็นบริษัทด้านไลฟ์สไตล์ดีไซน์เนอร์ที่ยั่งยืนชั้นนำ ซึ่งมีวิสัยทัศน์ Wastes Nothing and Welcomes All ผ่านวิธีการสร้างผลิตภัณฑ์ จัดการการดำเนินงาน และเชื่อมต่อกับชุมชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางสู่ความยั่งยืนของ Tommy Hilfiger ซึ่งขับเคลื่อนโดยกลยุทธ์ Forward Fashion ของ PVH ได้ที่ https://global.tommy.com/en_int/about-us-corporate-responsibility

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Tommy Hilfiger Fashion Frontier Challenge ได้ที่นี่: https://responsibility.pvh.com/tommy/fashion-frontier-challenge/ ขอเชิญเพื่อน ๆ และผู้ติดตามของแบรนด์เข้าร่วมการสนทนาบนโซเชียลมีเดียโดยใช้ #TommyHilfiger และ @TommyHilfiger

เกี่ยวกับ Tommy Hilfiger

TOMMY HILFIGER ประกอบด้วยแบรนด์ TOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์ดีไซน์เนอร์ระดับพรีเมียมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลก มุ่งเน้นการออกแบบและจำหน่ายเสื้อผ้าและชุดกีฬาคุณภาพสูงสำหรับบุรุษ คอลเลกชันเครื่องแต่งกายและชุดกีฬาสตรี เครื่องแต่งกายเด็ก คอลเลกชันเสื้อผ้าเดนิม ชุดชั้นใน (รวมถึงชุดคลุม ชุดนอน และชุดลำลองสำหรับใส่ในบ้าน) รองเท้าและเครื่องประดับ Tommy Hilfiger ยังเป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ เช่น แว่นตา นาฬิกา น้ำหอม ชุดว่ายน้ำ ถุงเท้า เครื่องหนังชิ้นเล็ก ๆ ของใช้ภายในบ้าน รวมถึงกระเป๋าเดินทาง ไลน์ผลิตภัณฑ์ TOMMY JEANS ประกอบด้วยชุดยีนและรองเท้าสำหรับบุรุษและสตรี เครื่องประดับและน้ำหอม ผู้บริโภคทั่วโลกสามารถเลือกซื้อสินค้าภายใต้แบรนด์ TOMMY HILFIGER  และ TOMMY JEANS ได้ที่เครือข่ายร้านค้าปลีกของTOMMY HILFIGER และ TOMMY JEANS ที่มีอยู่มากมาย รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านค้าปลีกออนไลน์ และที่ tommy.com

เกี่ยวกับ PVH Corp.

PVH เป็นหนึ่งในบริษัทแฟชั่นที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกที่เชื่อมต่อกับผู้บริโภคในกว่า 40 ประเทศ แบรนด์ที่เป็นสัญลักษณ์ระดับโลกของเรา ได้แก่ Calvin Klein และ TOMMY HILFIGER  ประวัติความเป็นมาเวลา 140 ปีของเราได้สร้างขึ้นจากความแข็งแกร่งของแบรนด์ ทีมงานของเรา และความมุ่งมั่นของเราในการขับเคลื่อนแฟชั่นไปข้างหน้าได้ตลอดไป และทั้งหมดนี้คือพลังของเรา คือพลังของ PVH

ติดตามเราบน FacebookInstagramTwitter และ LinkedIn.

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211213005214/en/

ติดต่อ:

สื่อ Tommy Hilfiger
Virginia Ritchie
รองประธานฝ่ายสื่อสารระดับโลก (Vice President, Global Communications)
อีเมล: virginia.ritchie@tommy.com
โทร: +31 6 4318 4870

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Wella Company ฉลองปีแรกในฐานะบริษัทเอกเทศด้วยการก้าวข้ามเป้าหมายการเติบโตในการแนะนำนวัตกรรมที่ก้าวล้ำและขยายขีดความสามารถในการเป็นผู้นำ

Logo

นิวยอร์ก & เจนีวา–(BUSINESS WIRE)–01 ธันวาคม 2564

Wella Company ผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมความงามมูลค่า 1 แสนล้านเหรียญ ในวันนี้ฉลองครบรอบหนึ่งปีในฐานะบริษัทแบบสแตนด์อโลน Wella Company มีความเชี่ยวชาญและการค้าปลีกในด้านผลิตภัณฑ์ทำสีและดูแลเส้นผม กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีความงามและสีทาเล็บที่สุดแห่งแบรนด์ รวมถึง Wella Professionals, Clairol, OPI, Nioxin, Sebastian Professional และ ghd บริษัทก่อตั้งขึ้นที่ประเทศเยอรมันนีในปี 2423 และกลับสู่สถานะการดำเนินงานอิสระในวันที่ 1 ธันวาคม 2563 ซึ่งนำโดย Kohlberg Kravis and Roberts (“KKR”) บริษัทด้านการลงทุนระดับโลกที่ลงทุนในหุ้นส่วนใหญ่โดยเพิ่มขึ้นสองเท่าในปีที่ผ่านมา

Wella Company ได้ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทั่วโลก ในระหว่างนั้นอุตสาหกรรมร้านเสริมสวยมืออาชีพเกือบทั้งหมดที่เป็นฐานลูกค้าหลักของบริษัทได้ถูกล็อกดาวน์ แม้จะมีสภาพแวดล้อมระดับโลกที่ท้าทายเช่นนี้ บริษัทได้กำหนดกลยุทธ์การเติบโตที่มุ่งเน้นในการสร้างรากฐานการดำเนินงานเพื่อความสำเร็จแบบสแตนด์อโลน และรับสมัครพนักงานเกือบ 1,100 คนทั่วโลก รวมถึงรายชื่อผู้นำด้านความงาม ร้านค้าปลีก และสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำมาร่วมในทีมผู้บริหาร

“ในปีแรกของบริษัท ทีมงานของเรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก เราได้รับสถานะอิสระในช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับอุตสาหกรรมความงามและมีรายได้เติบโตที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับทั้งปี 2563 และ 2562 โดยปีงบประมาณของเราซึ่งเริ่มในวันที่ 1 กรกฎาคมนั้นได้เริ่มต้นอย่างมั่นคง ธุรกิจโดยรวมของเราอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก และผลประกอบการทางการเงินของเรากำลังส่งมอบเกินเป้าหมายประจำปีในทุกธุรกิจและทุกภูมิภาค” Annie Young-Scrivner ซีอีโอของ Wella Company กล่าว “เราพร้อมแล้วสำหรับการเติบโตไปยังทั่วโลก และยังคงมุ่งเน้นในการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าและผู้บริโภคด้วยนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง โดยจะเดินหน้าขยายช่องทางและภูมิศาสตร์ต่อไปในขณะที่ปลดล็อกศักยภาพแบรนด์ของเรา”

ประสิทธิภาพและนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์

Wella Company มีกระบวนการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งในการผลิตผลงานในปีแรกนี้

หัวข้อเด่นจากผลิตภัณฑ์ที่ออกภายใต้แบรนด์ที่ดีที่สุดของ Wella Professionals ได้แก่:

  1. True Grey ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคที่ยอมรับผมสีเทาของพวกเขา มีการลงทะเบียนร้านเสริมสวย 10 แห่งทุก ๆ ชั่วโมงในช่วงสองเดือนแรกทั่วภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA)
  2. Koleston Perfect ผลิตภัณฑ์ทำสีผมถาวรสำหรับมืออาชีพที่ขายดีที่สุดในโลก ได้มาถึงจุดที่ใช้อ้างอิงใหม่ – ทั้งนี้มีการซื้อหนึ่งหลอดทุก ๆ วินาทีทั่วโลก
  3. ยอดขายผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม Wella Professional Hair Care ยังคงเติบโตในอัตราเลขสองหลักอย่างแข็งแกร่งทั่วโลก

Clairol และ Wella ซึ่งเป็นสองแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำสีและดูแลเส้นผมสำหรับค้าปลีกของบริษัท โดยได้รับประโยชน์จากการลงทุนใหม่และการปรับเปลี่ยนแบรนด์ ทั้งนี้ Clairol กำลังประกาศผลกำไรที่แข็งแกร่งกว่าเจ็ดเดือนติดต่อกัน ในส่วนของทาง Wella Retail แบรนด์ดังกล่าวมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 24% ในเม็กซิโก และปัจจุบันครองตำแหน่งทางการตลาดอันดับ 1 ในตะวันออกกลาง และเป็นแบรนด์ระดับพรีเมียมอันดับ 1 ในบราซิลอีกด้วย

OPI แบรนด์ผลิตภัณฑ์ทาเล็บชั้นนำจากลอสแองเจลิส ซึ่งเป็นที่รู้จักจากชื่อเฉดสีที่น่าจดจำ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ทาเล็บวีแก้นที่มีต้นกำเนิดจากธรรมชาติอย่าง Nature Strong ในตลาดกว่า 20 แห่งในช่วงซัมเมอร์นี้ Nature Strong ดำเนินการได้ดีเกินคาด ช่วยให้ผลงานเติบโตในอัตราตัวเลขสองหลัก

ตลอดปี 2564 Nioxin มีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นในอัตราตัวเลขสองหลักในปี 2563 เนื่องจากผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการดูแลตนเองและการบำรุงรักษาที่บ้านมากขึ้น รวมถึงการดูแลหนังศีรษะและผมร่วงในช่วงที่มีการระบาดใหญ่

Ghd (good hair day) ในลอนดอน ซึ่งกำลังนิยามเทคโนโลยีความงามใหม่ ghd ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเส้นผมที่เป็นเอกสิทธิ์ของตนเองเพื่อเปิดตัว Unplugged เครื่องจัดแต่งทรงผมไร้สายที่เป็นที่ต้องการทั่วโลก การเติบโตในอัตราตัวเลขสองหลักอย่างสม่ำเสมอของพวกเขาเพิ่มขึ้นเมื่อพวกเขาเปิดตัวสู่ตลาดจีน โดยขายเครื่องจัดแต่งทรงผม 2,500 เครื่องได้ในห้านาที

ความมุ่งมั่นของอุตสาหกรรม

การสนับสนุนให้ศิลปินในอุตสาหกรรมเสริมสวยอยู่นำหน้าเทรนด์และฝึกฝนฝีมือและทักษะต่าง ๆ เป็นส่วนหนึ่งของตัวตน Wella Company ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา Wella Company ได้เปิดสอนชั้นเรียนการศึกษาออนไลน์หลายร้อยชั้นเรียนเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและฝึกอบรมสไตลิสต์ ในเดือนเมษายนเมื่อโลกส่วนใหญ่ยังอยู่ในภาวะล็อกดาวน์ บริษัทได้จัดงานเสมือนจริงระดับโลกขึ้นเป็นครั้งแรกชื่อว่า “WeCreate” ซึ่งจัดประชุมสไตลิสต์และนักการศึกษาระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมเพื่อสัมผัสทักษะใหม่ ๆ และค้นพบความหลงใหลในงานฝีมืออีกครั้ง เพื่อให้สามารถเปิดร้านใหม่ได้สำเร็จหลังจากการล็อกดาวน์ WeCreate เข้าถึงผู้เชี่ยวชาญด้านความงามมากกว่า 100,000 คนใน 100 ประเทศ และบริษัทได้บริจาคค่าเล่าเรียนเพื่อตอบแทนอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งเป็นการลงทุนมูลค่าประมาณ 30 ล้านดอลลาร์

“เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้สนับสนุนอุตสาหกรรมเสริมสวยและเชื่อมั่นในพลังของการยกระดับสไตลิสต์และช่างเทคนิคที่ทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว” Young-Scrivner กล่าว “เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กเหล่านี้เป็นกำลังที่สำคัญของชุมชนของพวกเขา เราเชื่อว่าเมื่ออุตสาหกรรมประสบความสำเร็จ เราก็ประสบความสำเร็จด้วยเช่นกัน การสนับสนุนของเราสำหรับเจ้าของร้านเสริมสวยทั่วโลกเป็นเพียงวิธีหนึ่งที่เรากำลังสร้างธุรกิจที่มีจุดมุ่งหมาย”

ความเป็นผู้นำ

ทีมผู้นำของ Wella Company ประกอบด้วยผู้บริหารจากทั่วทั้งยุโรป เอเชีย บราซิล และสหรัฐอเมริกา และเกือบครึ่งหนึ่งเป็นผู้หญิง บริษัทยังคงลงทุนในความสามารถระดับสูง การนัดหมายครั้งล่าสุดในเดือนพฤศจิกายนเพื่อขยายขีดความสามารถของอุตสาหกรรมความงามทั่วโลกของทีมผู้บริหารดังนี้:

Yannis Rodocanachi ได้รับการแต่งตั้งตำแหน่งประธานบริษัทของอเมริกา Yannis นำประสบการณ์ด้านความงามระดับโลกที่ละเอียดครอบคลุม โดยได้ร่วมงานกับทั้งบริษัทผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคที่มีมูลค่าตลาดสูง และการเริ่มธุรกิจใหม่ด้านความงามและเส้นผมที่ได้รับการสนับสนุนจากหุ้นนอกตลาดที่มีการเติบโตสูง เขาใช้เวลาเกือบ 20 ปีที่ L’Oréal ขยายผลงานผลิตภัณฑ์ด้านเส้นผมและความงามไปทั่วโลก และทำงานด้านการขาย การตลาด และการจัดการทั่วไปในยุโรป เอเชีย และสหรัฐอเมริกา ในช่วงสองปีที่ผ่านมาเขาดำรงตำแหนงซีอีโอของ BH Cosmetics ในแอลเอ ซึ่งเขาเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงของบริษัทที่กำหนดเป้าหมาย Gen Z ไปสู่ธุรกิจที่หลากหลาย ยุติธรรม และยั่งยืน พร้อมปรับขนาดเพื่อการเติบโตในการขายสินค้าแบบปลีกผ่านช่องทางการขายเฉพาะที่เป็นของแบรนด์เอง

Emmanuel Miran ได้เข้าร่วมในบทบาทที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีระดับโลก โดยเป็นการบูรณาการและเร่งรัดความมุ่งมั่นด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีของบริษัทภายใต้องค์กรเดียวกัน Miran นำประสบการณ์ด้านความงาม, CPG, สื่อ และการดูแลสุขภาพมาอย่างละเอียดครอบคลุม และเคยดำรงตำแหน่งผู้นำหลายตำแหน่ง ซึ่งรวมถึง CIO, CTO และ CDO การใช้ประโยชน์จากข้อมูลและเทคโนโลยีในการสร้างรายได้เพื่อขับเคลื่อนการเติบโต โดยใช้เวลามากกว่า 16 ปีที่ L’Oréal ในตำแหน่งผู้นำด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี ก่อนหน้านั้นเขาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและดิจิทัลของ Mondelez International, News Corp. และครั้งล่าสุดที่ International SOS

ทีมผู้บริหารของบริษัทยังรวมถึงการเพิ่ม Virginie Costa ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินระดับโลก Gretchen Koback Pursel ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลระดับโลก และ Hugh Dineen ประธานของ Global Brands และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดระดับโลก ซึ่งทั้งหมดได้เข้าร่วมในเดือนสิงหาคม Costa เป็นหนึ่งในเจ็ด CFO ระดับโลกที่เป็นผู้หญิงจาก 25 บริษัทด้านความงามชั้นนำ

Wella Company มีพนักงานมากกว่า 6,000 คนในกว่า 100 ประเทศ ในปัจจุบันพนักงานของ Wella 57 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลกเป็นผู้หญิง และ 45 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงที่ Wella อยู่ในระดับตำแหน่งผู้อำนวยการขึ้นไป ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 การจ้างงานใหม่เกือบ 70% เป็นผู้หญิง และประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ของการเลื่อนตำแหน่งทั้งหมดที่ได้รับก็เป็นผู้หญิง

“เราเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างขึ้นบนกำลังสำคัญของผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นช่างทำสีผม สไตลิสต์ ช่างทำเล็บ ในความเป็นจริงแล้วเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ของอุตสาหกรรมร้านเสริมสวยมืออาชีพในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรประกอบด้วยผู้หญิง แต่เป็นเจ้าของธุรกิจจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น” Young-Scrivner กล่าว “เราต้องการสนับสนุนความสำเร็จของอุตสาหกรรมทั้งหมด และเชื่อว่านั่นหมายถึงการทำในส่วนของเราเพื่อสนับสนุนผู้หญิงในอุตสาหกรรมนี้”

เกี่ยวกับ Wella Company

Wella Company เป็นหนึ่งในบริษัทด้านความงามชั้นนำของโลก ซึ่งประกอบด้วยที่สุดแห่งแบรนด์ดังต่าง ๆ เช่น Wella Professionals, Clairol, OPI, Nioxin, Sebastian Professional และ ghd ที่ Wella Company เราเป็นนวัตกรที่พยายามสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้บริโภคและผู้เชี่ยวชาญด้านความงามผ่านแบรนด์ของเราเพื่อให้มีรูปลักษณ์ สัมผัส และเป็นตัวตนที่แท้จริง เรามุ่งมั่นที่จะสร้างบริษัทด้านความงามที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม โดยที่พนักงานกว่า 6,000 คนของเราในกว่า 100 ประเทศสามารถทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการทำงาน ด้วยค่านิยมของบริษัทและนำโดยวัตถุประสงค์ในการส่งผลลัพธ์เชิงบวกต่อผู้คนผ่านผลิตภัณฑ์และต่อโลกและสังคม เรามอบการเติบโตอย่างยั่งยืนแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Wella Company สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.wellacompany.com และติดตามเราบน LinkedInInstagram และ Facebook

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211201005310/en/

ติดต่อ:

Hilary Crnkovich
+1 646 217 1700
Hilary.crnkovich@wella.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

งานแสดง HKTDC Lifestyle Sourcing Show เปิดวันที่ 1 ธันวาคมนี้

Logo

งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ทางออนไลน์และกายภาพ

ช่วยให้ธุรกิจคว้าโอกาสใหม่ ๆ

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–29 พฤศจิกายน 2564

ด้วยการจัดซื้อทั่วโลกกลายเป็นรูปแบบดิจิทัลมากขึ้นหลังจากเกิดการแพร่ระบาดใหญ่ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) กำลังจัดแสดง HKTDC Lifestyle Sourcing Show | Physical + Online งานมหกรรมการค้าที่จัดขึ้นทั้งในรูปแบบออนไลน์และทางกายภาพ เพื่อช่วยให้ธุรกิจปรับตัวเข้ากับรูปแบบการจัดซื้อใหม่และเอาชนะความท้าทายที่เกิดจากสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในปัจจุบัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนือหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211128005240/en/

HKTDC Lifestyle Sourcing Show (Photo: Business Wire)

งานแสดง HKTDC Lifestyle Sourcing Show (ภาพ: Business Wire)

ด้วยธีม “การจัดซื้ออย่างมีสไตล์ หรือ Sourcing in Style” งานแสดงนี้จะรวบรวมผู้แสดงสินค้ามากกว่า 580 รายจาก 9 ประเทศและภูมิภาค โดยจัดแสดงของเล่น ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ของขวัญและสินค้าพรีเมียม ของใช้ภายในบ้าน ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสายตา ไวน์และสุราใหม่ล่าสุด งานแสดงทางกายภาพจะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 3 ธันวาคมศูนย์การประชุมและนิทรรศการฮ่องกง (HKCEC) หลังจากเข้าร่วมงานแสดงทางกายภาพแล้ว ผู้ซื้อและซัพพลายเออร์สามารถมีส่วนร่วมผ่านแพลตฟอร์มนิทรรศการออนไลน์ที่จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 ถึง 10 ธันวาคม

งานแสดง Lifestyle Sourcing Show ฉบับกายภาพของ HKCEC จะจัดแสดงสินค้าอุปโภคบริโภคและไลฟ์สไตล์และโซลูชั่นในรูปแบบ showcase สำหรับการแสดงออนไลน์ ผู้แสดงสินค้าจะได้รับบูธ 3 มิติเพื่อใช้โปรโมตแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของตนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่สร้างสรรค์ด้วยภาพ ผู้ซื้อและผู้แสดงสินค้าสามารถหารือเกี่ยวกับข้อตกลงผ่านแพลตฟอร์มการจับคู่ธุรกิจของ HKTDC ที่ Click2Match ซึ่งใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการจับคู่อัตโนมัติระหว่างคู่ค้าทางธุรกิจที่มีศักยภาพ แพลตฟอร์มนี้ยังช่วยให้ผู้เข้าร่วมจัดกำหนดการประชุม ประชุมทางวิดีโอ สนทนาแบบเรียลไทม์ และแลกเปลี่ยนนามบัตร e-business ได้ตามความต้องการในการจัดซื้อ

การแสดงจะติดตามเทรนด์ไลฟ์สไตล์ล่าสุดอย่างเต็มที่ โดยจะประกอบไปด้วยซุ้มนิทรรศการ 12 กลุ่ม อย่างเช่น Fujian, Jiangsu, Jiaxing, Pinghu และ Zhejiang จากจีนแผ่นดินใหญ่ Fukui Optical Industrial Association ของญี่ปุ่น KOTRA จากเกาหลี และสมาคมต่าง ๆ ของไต้หวัน ซึ่งรวมถึงของขวัญ ของใช้ภายในบ้าน ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ของเล่น ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสายตาและการศึกษา

เพื่อเติมเต็มงานแสดงผู้นำและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมได้รับเชิญให้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกของพวกเขาที่งานในระหว่างการออกอากาศ งานสัมมนาหัวข้อเรื่อง “Stay Ahead in a Reshaped Business Landscape” จัดขึ้นในระหว่างการแสดงทางกายภาพ โดยมีหัวข้อที่ครอบคลุมในเรื่อง “we-media” เกี่ยวกับการตลาดแบบใช้อินฟลูเอนเซอร์ การจับโอกาสทางธุรกิจด้วยกลยุทธ์แบบผสมผสาน และโซลูชันออนไลน์สู่ออฟไลน์สำหรับสนับสนุนกิจกรรมแบบผสมผสาน มีการสัมมนาและการสัมมนาทางออน์ไลน์เพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์อีคอมเมิร์ซ และหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมของเล่นและออปติคอล

เว็บไซต์: https://LSShow.hktdc.com

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211128005240/en/

สอบถามสื่อ

กรุณาติดต่อฝ่ายนิทรรศการ HKTDC:
Clavel Mui
โทร: (852) 2240 4136
อีเมล: clavel.sl.mui@hktdc.org

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีเปิดตัวแคมเปญ ‘Come Play with Korea K-VIBE FESTA’ แคมเปญระดับโลกใหม่ที่ใช้เมตาเวิร์ส

Logo

– ประสบการณ์การเดินทางแบบใหม่ที่จะพาไปเยือนสถานที่ที่ได้รับความนิยมในเกาหลีผ่านโลกเสมือนจริง

– เผยแพร่เสน่ห์ของประเทศเกาหลีไปทั่วโลกด้วย K-Travelog, K-VIBE in ZEPETO และ K-VIBE CONCERT

โซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–23 พฤศจิกายน 2564

กระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว (รัฐมนตรี Hee Hwang) และ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (ประธาน Young-bae Ahn) เปิดตัวแคมเปญใหม่ 'Come Play with Korea, K-VIBE FESTA' โดยใช้แพลตฟอร์มเมตาเวิร์สกับเทคโนโลยีความเป็นจริงขยาย (extended reality หรือ XR) เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางสู่เกาหลีแบบใหม่ก่อนที่จะได้เดินทางมาเยือนด้วยตัวเอง ซึ่งเกาหลีได้รับความสนใจขึ้นมากหลังเปิดตัวซีรีส์ “Feel the Rhythm of Korea” ไปเมื่อปีที่แล้วพร้อมบทเพลงอย่าง “Tiger is Coming Down”

A new campaign 'Come Play with Korea, K-VIBE Festa' using the metaverse platform on an extended reality (XR) to provide a new traveling experience to Korea is launched. As part of the campaign, Korea Tourism Organization introduces Korea's diverse attractions with 'K-Travelog', the Korean virtual travel experience platform, and provides the 'K-VIBE in ZEPETO' program that connects 3D avatars to Korea’s representative tourist destination Gyeongju. In addition, a 'K-VIBE Concert' with top K-pop artists will be held with Korean local attractions (K-Local) implemented on XR in the background, to display the charms of Korea. (Graphic: Business Wire)

แคมเปญใหม่ที่ชื่อ 'Come Play with Korea, K-VIBE FESTA' โดยใช้แพลตฟอร์มเมตาเวิร์สกับเทคโนโลยี XR เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางสู่เกาหลีในรูปแบบใหม่ได้รับการเปิดตัว โดยองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีได้แนะนำความน่าสนใจของประเทศเกาหลีที่หลากหลายผ่าน 'K-Travelog', แพลตฟอร์มประสบการณ์การเดินทางสู่เกาหลีแบบเสมือน และโปรแกรม 'K-VIBE in ZEPETO' ที่จะพาอวทาร์แบบสามมิติมาเยือนจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่เป็นเมืองตัวแทนของเกาหลีอย่างคยองจู นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม 'K-VIBE CONCERT' ที่จะได้พบกับศิลปินเคป๊อปของเกาหลีโดยมีสถานที่ท่องเที่ยวของเกาหลี (K-Local) ที่นำเสนอผ่านเทคโนโลยี XR เป็นฉากหลังเพื่อถ่ายทอดเสน่ห์ของเกาหลี (กราฟิก: Business Wire)

สำหรับแคมเปญใหม่นี้ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) จะใช้เทคโนโลยีเมตาเวิร์สในการแนะนำเอกลักษณ์และเสน่ห์ของแต่ละภูมิภาคให้กับผู้ใช้ที่อยู่ทั่วโลก

นอกจากนั้น องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลียังจะแนะนำความน่าสนใจของประเทศเกาหลีที่หลากหลายผ่าน 'K-Travelog', แพลตฟอร์มประสบการณ์การเดินทางสู่เกาหลีแบบเสมือน และโปรแกรม 'K-VIBE in ZEPETO' ที่จะพาอวทาร์แบบสามมิติมาเยือนจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่เป็นเมืองตัวแทนของเกาหลีอย่างคยองจู รวมถึงกิจกรรม 'K-VIBE CONCERT' ที่จะได้พบกับศิลปินเคป๊อปแถวหน้าของเกาหลีโดยมีสถานที่ท่องเที่ยวของเกาหลี (K-Local) ที่นำเสนอผ่านเทคโนโลยี XR เป็นฉากหลังเพื่อถ่ายทอดเสน่ห์ของเกาหลี

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีจะใช้ K-Travelog เพื่อมอบโอกาสที่จะได้สัมผัสประเทศเกาหลีโดยตรงและยังให้สามารถกำหนดแผนการเดินทางได้เอง นอกจากนี้ยังมีสถานที่น่าสนใจและร้านอาหารหลายแห่งในเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทั้งในปูซาน อันดง คยองจู แทกู ยางยาง โซล และอีกมากมายโดยสามารถเลือกชมได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ (www.kvibefesta.com) ซึ่งเปิดตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 เพื่อให้ผู้ใช้สามารถออกแบบและวางแผนการเดินทางในฝันครั้งใหม่ในการมาเยือนประเทศเกาหลี

ไม่เพียงเท่านั้น องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีจะนำรูปภาพของผู้เข้าร่วมแคมเปญมาสร้างสรรค์เป็นวิดีโอท่องเที่ยวเพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับพวกเขาต่อไป ในวิดีโอ ผู้เข้าร่วมจะรู้สึกราวกับว่าได้มาเยือนเกาหลีจริง ๆ และยังมีโอกาสที่จะได้รับ 'K-Random Box' ซึ่งภายในกล่องประกอบไปด้วยสิ่งของที่ผลิตขึ้นมาพิเศษในจำนวนจำกัด โดยมีทั้งของที่ระลึกที่สื่อถึงวัฒนธรรมเกาหลีและของที่ระลึกจากศิลปินเคป๊อป และในหน้าแคมเปญจะมีการจัดกิจกรรม 'Fan Letter Event' ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกศิลปินและสถานที่ในเกาหลีที่ต้องการไปเยือนพร้อมกับศิลปินได้ด้วย

สำหรับกิจกรรม K-VIBE in ZEPETO ซึ่งเชื่อมกับ ZEPETO แพลตฟอร์มเมตาเวิร์สที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดของเกาหลี องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีได้จำลองเมืองคยองจู ซึ่งเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยมรดกแห่งอาณาจักรชิลลาอันน่าตื่นตาตื่นใจขึ้นมา โดยผู้ใช้จะได้เห็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างถนนฮวังริดังอิลและหมู่บ้านบุกชอนฮันอก รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เช่น หอดูดาวชอมซองแด สุสานชอนมาชง และศาลาโพซอกจอง พร้อมกับมีการแสดงรายชื่อสถานที่ในท้องถิ่นที่ได้รับความนิยมอย่างร้าน Hwangnam Bakery และ Yangji Dabang เพื่อสนับสนุนเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กและดึงดูดความสนใจจากผู้ใช้

ในส่วนของกิจกรรม K-VIBE CONCERT ซึ่งจะจัดขึ้นโดยใช้เทคโนโลยี XR ที่เป็นเทคโนโลยีหลักของเมตาเวิร์สนั้น จะแสดงความงดงามของประเทศเกาหลีในที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศเพื่อชวนผู้ใช้จากทั่วโลกดำดิ่งไปในเสน่ห์อันน่าหลงใหลของประเทศเกาหลี คอนเสิร์ตซึ่งเตรียมจัดขึ้นในเดือนธันวาคมนี้จะเผยแพร่ผ่านการสตรีมสดแบบเรียลไทม์จากสตูดิโอเป็นเวลาราว 80 นาที เพื่อให้ได้ชมศิลปินเคป๊อปไปพร้อมสถานที่ท่องเที่ยวรอบ ๆ เกาหลีอย่างอาคารลอตเต้ ย่านอินซาดง และหาดเซิร์ฟยางยาง

Choongsub Oh ผู้อำนวยการฝ่าย Brand Marketing ขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี กล่าวว่า “เมตาเวิร์สคือระบบนิเวศใหม่ที่ทำให้เส้นแบ่งเขตแดนหายไปและทำให้ฝันและประสบการณ์ของทุกคนกลายเป็นจริง ด้วยแคมเปญเมตาเวิร์สนี้ เราจะสามารถมอบโอกาสให้กับผู้คนทั่วโลกได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางสู่เกาหลีและความฝันที่จะได้มาเยือนเกาหลีในรูปแบบใหม่ และยังมอบโอกาสให้ประเทศของเราได้อวดความเป็นผู้นำในตลาดเมตาเวิร์สอีกด้วย”

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ดูภาพ/แกลเลอรี่สื่อมัลติมีเดียที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/52528824/en

ติดต่อ:

Korea Tourism Organization

Brand Marketing Team

Choongsub Oh

+82-33-738-3331

ocs@knto.or.kr

Kichan Nam

+82-33-738-3335

yuki4@knto.or.kr 

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

งานเทศกาล Jeonju Kimchi Culture Festival ประจำปี 2564 จัดขึ้นที่จอนจู เมืองแห่งรสชาติ

Logo

จอนจู เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–18 พฤศจิกายน 2564

งานเทศกาลที่ผู้เข้าร่วมสามารถเรียนรู้การทำกิมจิซึ่งเปิดในจอนจู เมืองแห่งรสชาติ

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211116006491/en/

A festival where participants can learn Kimchi making in Jeonju, the city of taste, 2021 Jeonju Kimchi Culture Festival is held online and across Jeonju city from November 2 to 30. The festival offers various programs including Kimchi making, Kimchi sharing, Kimchi culture tour, and other specialized programs. (Photo: Business Wire)

งานเทศกาลที่ผู้เข้าร่วมสามารถเรียนรู้การทำกิมจิในจอนจู เมืองแห่งรสชาติ Jeonju Kimchi Culture Festival ประจำปี 2564 จัดขึ้นทางออนไลน์และทั่วทั้งเมืองจอนจู ตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 30 พฤศจิกายน เทศกาลนำเสนอโปรแกรมที่หลากหลาย รวมถึงการทำกิมจิ การแบ่งปันกิมจิ ทัวร์วัฒนธรรมกิมจิ และโปรแกรมที่มีความชำนาญพิเศษอื่น ๆ (ภาพ: Business Wire)

เมืองจอนจูประกาศว่างานเทศกาล Jeonju Kimchi Culture Festival ประจำปี 2564 ที่จัดงานโดยศูนย์ Jeonju Food Integrated Support Center จะมีขึ้นทางออนไลน์และทั่วทั้งบริเวณเมืองรวมถึงสนามกีฬา Jeonju Stadium ตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 30 พฤศจิกายน

เทศกาล Jeonju Kimchi Culture Festival จัดขึ้นเป็นครั้งที่สามของปีนี้ ซึ่งจัดแสดงในสถานที่ต่าง ๆ ในเวลาที่แตกต่างกันโดยคำนึงถึงสถานการณ์ของโควิด-19 แม้ว่าเทศกาลปีที่แล้วได้จัดให้มีโปรแกรมที่มอบประสบการณ์การทำกิมจิ (กิมจัง หรือ Kimjang) ให้เป็นงาน Drive-Thru เท่านั้น แต่ในปีนี้จะจัดขึ้นทั้งแบบ Drive-Thru และจัดงานนอกสถานที่อีกด้วย

งานเทศกาลนี้นำเสนอทั้งหมด 12 โปรแกรม รวมถึงการทำกิมจิ การแบ่งปันกิมจิ ทัวร์วัฒนธรรมกิมจิ และโปรแกรมที่มีความชำนาญพิเศษอื่น ๆ

Kimjang experience ซึ่งเป็นโปรแกรมหลักที่จะจัดขึ้นเป็นงาน Drive-Thru ในวันที่ 19 พฤศจิกายน โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวน 450 ครอบครัว ในวันที่ 20 และ 21 จำนวน 150 ครอบครัว แบ่งเป็นกลุ่มละ 25 ครอบครัวต่อการเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์การทำกิมจิที่สนามกีฬา Jeonju Stadium นอกจากนี้ยังมอบประสบการณ์ Kimjang experience สำหรับครอบครัวหลากหลายทางวัฒนธรรมและนักเรียนต่างชาติ ซึ่งจัดขึ้นให้ที่ศูนย์ Jeonju Kimchi Cultural Center และมหาวิทยาลัยในแต่ละแห่ง

ในวันที่ 19 และ 20 จะมีการจัดกิจกรรมแบ่งปันกิมจิ องค์กรและกลุ่มต่าง ๆ ในจอนจูจะมอบกิมจิให้กับชั้นเรียนที่ถูกละเลยไป โปรแกรมนี้ยังรวมกิจกรรม 'การแบ่งปันกิมจิด้วยเรื่องราว หรือ Kimchi Sharing with Story' ที่ผู้เข้าร่วมสามารถส่งกิมจิไปยังคนที่พวกเขาต้องการแสดงความขอบคุณหรือเพื่อนบ้านที่ต้องการความช่วยเหลือ

Two-day Kimchi culture tour ประกอบด้วยโปรแกรม 'นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์กิมจัง หรือ Kimjang Experience for Tourists' ซึ่งช่วยให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับประสบการณ์การทำกิมจิไปพร้อม ๆ กับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม รวมทั้ง 'โรงเรียนกิมจิที่แสนอร่อย หรือ Delicious Kimchi School' และโปรแกรมการทำกิมจิสุดพิเศษ 1 กิโลกรัม โดยผู้เข้าร่วมสามารถลองทำกิมจิหลากหลายชนิดที่ใช้ผลิตผลจากฟาร์มท้องถิ่นของจอนจู

นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างเช่น การประกวดกิมจิกำหนดไว้ที่ 20 ครอบครัว สัมผัสประสบการณ์การนวดข้าว และโซนภาพถ่าย

ผักกะหล่ำปลีที่ใช้ในช่วงเทศกาลจะจัดหามาจากบ้านไร่ทั่วจอนจูและนำไปหมักเกลือที่โรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน HACCP ส่วนเครื่องปรุงต่าง ๆ อย่างเช่น พริกแดงและหัวไชเท้า จะใช้เฉพาะที่ผ่านการทดสอบความปลอดภัยสำหรับสินค้าเกษตรเท่านั้น หลังจากเสร็จสิ้นงานเทศกาลผักกะหล่ำปลีและเครื่องปรุงรสที่เหลือจะวางขายที่ตลาด Kimchi Street Farmers’ Market ซึ่งจะเปิดให้บริการในวันที่ 25-27 พฤศจิกายนในร้าน Jeonju Food store

เจ้าหน้าที่ศูนย์ Jeonju Agricultural Technology Center กล่าวว่า “ท่ามกลางการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ความเป็นเลิศของกิมจิที่มีต่อสุขภาพของมนุษย์ได้รับการตรวจสอบยืนยันทั่วโลก เราได้เตรียมเทศกาลนี้เพื่อช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสประสบการณ์และเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการทำกิมจิแบบดั้งเดิมของเกาหลี ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางด้านวัฒนธรรมที่ของมนุษยชาติขององค์การยูเนสโก (UNESCO Intangible Cultural Heritage of Humanity)”

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211116006491/en/

ติดต่อ:

JEONJU CITY
Inuk Hwang
+82-63-281-2226
inuk0614@korea.kr

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายงานแนวโน้มทั่วโลกจาก Hilton เผยโรคระบาดได้เปลี่ยนมุมมองของผู้คนและความสนใจของนักท่องเที่ยวในปี 2565 ในรูปแบบต่าง ๆ ที่คาดไม่ถึง

Logo

มีการคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวในปี 2565 จะนิยมเดินทางท่องเที่ยวพร้อมสัตว์เลี้ยง เดินทางเพื่อพบปะสังสรรค์ ประสบการณ์แบบไร้สัมผัส การเรียนรู้และทดลองทำอาหาร การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และอื่น ๆ

ประเทศไทย–(BUSINESS WIRE)–8 พฤศจิกายน 2564

การระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ได้เปลี่ยนแปลงการเดินทางท่องเที่ยวอย่างไม่ต้องสงสัย แต่นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องราวทั้งหมด วันนี้ Hilton ได้เผยแพร่รายงานแนวโน้มและทิศทางการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยเผยว่าการระบาดของโรคได้เปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คน อย่างไร ผ่านรายงานหัวข้อ “รายงานจาก Hilton หัวข้อ นักท่องเที่ยวในปี 2565 กับเทรนด์เกิดใหม่และนิยามใหม่ของนักท่องเที่ยว” หรือ “The 2022 Traveler: Emerging Trends and the Redefined Traveler, a Report from Hilton” โดยจะเจาะลึกถึงความจริงที่สำคัญว่า ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก และสิ่งนั้นก็เปลี่ยนแปลงผู้คนอย่างรุนแรงในช่วง 2 ปี

ในฐานะบริษัทที่ต้อนรับแขกผู้เข้าพัก 3 พันล้านคนในประวัติศาสตร์กว่า 100 ปีที่ผ่านมา Hilton ได้นำเสนอในรายงานว่าโรงแรมมีการพัฒนาไปพร้อมกับนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร โดยจัดการกับความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ เช่น:

  • ฟิตเนส: วิธีการของแอปพลิเคชันออกกำลังกายและกิจวัตรการออกกำลังกายใหม่ ๆ ได้เปลี่ยนแนวทางของผู้คนในการออกกำลังกายในสถานที่ไหน เมื่อไร และอย่างไร
  • สปา: การให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้นนั้นทำให้สปาและประสบการณ์ด้านโรงแรมแบบองค์รวมพัฒนาขึ้นได้อย่างไร
  • อาหารและเครื่องดื่ม: เทรนด์การอบขนมที่บ้านทำให้ความต้องการในการเรียนรู้และทดลองทำอาหารเพิ่มมากขึ้น เช่น ความต้องการเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่ำไปจนถึงไม่มีแอลกอฮอล์
  • ความยั่งยืน: การล็อคดาวน์ 18 เดือนทำให้เกิดความสนใจใหม่เพื่อโลกที่ยั่งยืน ตั้งแต่การจัดหาอาหารไปจนถึงการลดของเสียได้อย่างไร
  • การออกแบบ: การพัฒนาสิ่งของ DIY งานอดิเรกปลูกต้นไม้ และการทำงานจากลานบ้านกำลังเปลี่ยนมุมมองของผู้คนต่อการออกแบบของโรงแรมได้อย่างไร
  • สิ่งอำนวยความสะดวก: การเพิ่มจำนวนเจ้าของสัตว์เลี้ยงในช่วงการระบาดใหญ่นั้นทำให้การท่องเที่ยวพร้อมสัตว์เลี้ยงและการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสัตว์เลี้ยง สิทธิพิเศษ และอื่น ๆ ของโรงแรมได้รับความสนใจมากขึ้นได้อย่างไร
  • ความภักดี: การเพิ่มขึ้นของโปรแกรมสมาชิกในทุกภาคส่วนนำไปสู่การออกแบบเฉพาะบุคคลและผลประโยชน์ที่ดีกว่าให้กับลูกค้าได้อย่างไร

“คริส นาสเซตตาประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Hilton กล่าวว่า “โลกและอุตสาหกรรมการบริการได้ผ่านอะไรมามากมายในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และตามที่เราได้เปิดเผยในรายงานนี้ ความต้องการและความสนใจของนักท่องเที่ยวก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ที่ Hilton เราทุ่มเทอย่างมากในการมอบประสบการณ์ที่แขกของเรากำลังมองหาผ่านทุกสิ่งที่เราเผชิญมา ขณะที่เรามองไปยังอนาคตอยู่นั้น ฉันมองเห็นสิ่งดี ๆ ที่รออยู่ข้างหน้า การท่องเที่ยวจะกลับมาอีกครั้งแน่นอน และเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะทำให้แนวโน้มนั้นเกิดขึ้น”

รายงานนี้เน้นย้ำถึงแนวโน้มและทิศทางการท่องเที่ยวและพฤติกรรมที่น่าสนใจมากมายที่นำไปสู่นวัตกรรมทั้งในและนอกโรงแรม ขณะที่เทรนด์แต่ละอย่างจะบอกรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลเชิงลึกและการเปลี่ยนแปลงที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอยู่นั้น หัวข้อที่สอดคล้องกัน 4 หัวข้อก็ปรากฎขึ้น โดยสรุปถึงนักท่องเที่ยวแบบใหม่ที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงจากโรคระบาดดังนี้:

  • ผู้คนได้พบกับความมีประสิทธิภาพต่าง ๆ ท่ามกลางความวุ่นวาย และจะมองหาประสิทธิภาพนี้ในการท่องเที่ยว: ผู้คนได้นำเอาประสิทธิภาพต่าง ๆ มาปรับใช้ในหลาย ๆ ด้านของชีวิต และจะมองหาสิ่งอำนวยความสะดวกที่คล้ายคลึงกันในการท่องเที่ยว เช่น การเช็คอินและเช็คเอาต์แบบไร้สัมผัส และดิจิทัลคีย์
  • การมุ่งเน้นด้านสุขภาพโดยรวมจะครอบคลุมมากกว่าโรงยิม: ด้วยสถานที่ทำงานที่ปรับโฉมใหม่ บวกกับกิจวัตรและพฤติกรรมใหม่ ๆ นักท่องเที่ยวจะจำกัดบริเวณและสร้างความสมดุลในตารางการเดินทางของพวกเขามากขึ้น
  • นักท่องเที่ยวมีความสนใจเรื่องใหม่และเรื่องเดิมที่มีอยู่ และจะมีรสนิยมและความชอบที่ละเอียดลออกว่าเดิม: งานอดิเรกที่เพิ่มมาใหม่ทำให้นักท่องเที่ยวปี 2565 มีข้อมูลมากขึ้น ซับซ้อนยิ่งขึ้น และในบางกรณีมีความแข็งแรงของสุขภาพมากขึ้นด้วย
  • ความรู้สึกใส่ใจรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้น และคาดหวังว่าจะแข็งแกร่งขึ้น: การระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ได้แยกครอบครัวและเพื่อนฝูงออกจากกัน ซึ่งทำให้การเดินทางเพื่อพบกันอีกครั้งและการเดินทางเพื่อพบปะสังสรรค์มีความสำคัญลำดับต้น ๆ ในปี 2565 นอกเหนือจากแวดวงที่เกี่ยวข้องแล้ว มีการคาดหวังว่านักท่องเที่ยวจะใส่ใจต่อความยั่งยืนและชุมชนมากขึ้น และยังคงรักษาความภักดีต่อแบรนด์ บริษัท และองค์กร ซึ่งสอดคล้องกับค่านิยมของพวกเขา

ดร. เคท คัมมินส์นักจิตวิทยาคลินิกที่ตระหนักว่าการท่องเที่ยวเป็นองค์ประกอบสำคัญของการมีสุขภาพจิตที่ดี กล่าวว่า “ผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้รับการบันทึกไว้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการตระหนักถึงผลกระทบด้านจิตวิทยาที่โรคระบาดนี้ได้สร้างไว้ และจะยังคงสร้างผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวในอีกหลายปีข้างหน้า พฤติกรรมนักท่องเที่ยวอาจเปลี่ยนไป แต่ประโยชน์ของการท่องเที่ยวยังคงอยู่เหมือนเดิม ทั้งด้านสุขภาพทางอารมณ์และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และหลังจาก 2 ปีที่หนักหนาสาหัสผ่านไป นั่นคือสิ่งที่เราทุกคนต้องการ”

อเล็กซานดร้า จาริทส์รองประธานอาวุโส ฝ่ายบริหารแบรนด์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Hilton  กล่าวว่า “จากข้อจำกัดด้านการเดินทางที่ค่อย ๆ ผ่อนคลายลงในตลาดเอเชียแปซิฟิกบางแห่ง ปี 2565 จึงดูมีแนวโน้มที่ดีสำหรับภูมิภาคนี้ แม้จะมีการระบาดใหญ่ของโรค แต่เรายังคงขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องและนำแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาในเอเชียแปซิฟิก และเราตั้งตารอที่จะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งในอนาคตอันใกล้และพร้อมส่งต่อแสงสว่างและความอบอุ่นของการเดินทางและการต้อนรับอย่างมีไมตรีจิต แขกของเราคือหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่เราทำที่ Hilton และการมีความเข้าใจถึงการปรับตัวของนักท่องเที่ยวถือเป็นหัวใจสำคัญในการมอบประสบการณ์พิเศษที่แขกของเราใฝ่หามาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา”

รับชมข้อมูลเพิ่มเติมและรายงานฉบับเต็มได้ที่ Newsroom.Hilton.com/TrendsReport หรือวางแผนการท่องเที่ยวปี 2565 ได้ที่ Hilton.com

###

เกี่ยวกับ Hilton
Hilton (NYSE: HLT) บริษัทด้านการบริการชั้นนำระดับโลก ที่มีแบรนด์โรงแรมระดับโลกภายใต้การบริหารของบริษัทถึง 18 แบรนด์ มากกว่า 6,700 แห่งและมีห้องพักกว่า 1 ล้านห้อง ใน 122 ประเทศและเขตการปกครอง Hilton มุ่งมั่นทำตามวิสัยทัศน์เริ่มต้นที่จะนำพาชีวิตชีวาและความอบอุ่นแห่งการบริการมาสู่โลกใบนี้ โดยได้ต้อนรับแขกกว่า 3 พันล้านคนตลอดระยะเวลากว่า 100 ปี ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดของโลกปี 2564 และเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมระดับโลก ปี 2563 จาก Dow Jones Sustainability Indices และในปี 2563 โปรแกรม Hilton CleanStay ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อสร้างมาตรฐานการบริการทางด้านความสะอาดและการฆ่าเชื้อ และนำไปใช้ในโรงแรมฮิลตันทั่วโลก ตลอดจนการบริหารโปรแกรมสมาชิก Hilton Honors ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ได้รับรางวัลมากมาย มีสมาชิกกว่า 123 ล้านคนสำรองห้องพักผ่านช่องทางของ Hilton โดยตรง เพื่อการเข้าพักและประสบการณ์ในรูปแบบพิเศษที่หาซื้อไม่ได้ แขกที่เข้าพักสามารถใช้แอปพลิเคชัน Hilton Honors บนโทรศัพท์มือถือเพื่อจองที่พัก เลือกห้องพัก เช็คอิน ปลดล็อกประตูด้วยดิจิทัลคีย์ และเช็คเอาท์ ทั้งหมดนี้ทำได้จากสมาร์ทโฟนของตน ติดตามข้อมูลของฮิลตันได้ที่ newsroom.hilton.com หรือติดตามผ่านFacebook, Twitter, LinkedIn, Instagram และ YouTube

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/52510996/en

ข้อมูลติดต่อสำหรับสื่อ:
Daphne Tan
Hilton – Asia Pacific
Daphne.Tan@Hilton.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Hyatt เข้าซื้อ Apple Leisure Group สำเร็จ พร้อมสร้างความเป็นผู้นำระดับโลกด้านการพักผ่อนและการเดินทางอันหรูหราแบบครบวงจร

Logo

ก้าวสู่จุดที่พร้อมช่วงชิงความต้องการต่อการเดินทางเพื่อพักผ่อนที่มีสูงและกำลังเติบโต ด้วยข้อเสนอแบบครบวงจรและพอร์ตโฟลิโออันหลากหลายที่กำลังขยายมากขึ้น

ตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะขายสินทรัพย์เพิ่มเติมเพื่อสร้างรายได้เพิ่มอีก 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในสิ้นสุดปี 2567 ขณะที่การขายสินทรัพย์รอบปัจจุบันนั้นดำเนินการเสร็จสมบูรณ์แล้ว

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–02 พฤศจิกายน 2564

วันนี้ Hyatt Hotels Corporation (NYSE: H) ประกาศว่า Hyatt ได้ดำเนินการเข้าซื้อ Apple Leisure Group® (ALG) กลุ่มบริษัทชั้นนำด้านการบริหารจัดการรีสอร์ตหรู การท่องเที่ยว และการบริการจากบริษัทในเครือของทั้ง KKR และ KSL Capital Partners, LLC สำเร็จเรียบร้อยแล้วหลังจากที่ได้มีการประกาศไปก่อนหน้านี้

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20211102005724/en/

Dreams Las Mareas Resort and Spa (Photo: Business Wire)

Dreams Las Mareas Resort and Spa (ภาพ: Business Wire)

Hyatt พร้อมขยายอาณาจักรรีสอร์ตทั่วโลกเป็นสองเท่าผ่านธุรกิจภายใต้แบรนด์ AMR™ Collection ของ ALG ที่เข้ามาเสริมทัพ ซึ่งประกอบไปด้วยโรงแรมและรีสอร์ตราว 100 แห่งใน 10 ประเทศ รวมถึงข้อเสนอต่าง ๆ อีก 24 รายการที่ได้เริ่มดำเนินการไปแล้วในสหรัฐฯ และยุโรป ส่งผลให้ Hyatt กลายเป็นหนึ่งในเครือรีสอร์ตหรูแบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดของโลก รวมถึงจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ ของ Hyatt ในเมือง เช่น อากาปุลโก กือราเซา หมู่เกาะคะแนรี เกาะมินอร์กา และเกาะเซนต์มาร์ติน การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ทำให้ Hyatt เป็นเจ้าของอสังหาในตลาดยุโรปเพิ่มเติมอีก 11 แห่งและขยายธุรกิจในยุโรปไปถึง 60% ซึ่งช่วยเสริมแกร่งให้กับศักยภาพในการเติบโตของ Hyatt ในภูมิภาคที่มีความสำคัญต่อความต้องการในการเดินทางเพื่อการพักผ่อนทั่วโลก

ไม่เพียงเท่านั้น Hyatt ยังนำเสนอตัวเลือกและประสบการณ์ที่มากยิ่งขึ้นให้กับแขกและฐานลูกค้าในกลุ่มตลาดบน และยกระดับประสบการณ์การเดินทางเพื่อการพักผ่อนแบบครบวงจรในรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้

  • Unlimited Vacation Club® by AMR™ Collection คลับแบบเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับสมาชิกที่ให้สมาชิกจะได้เพลิดเพลินกับอัตราค่าบริการที่พึงพอใจและสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ณ ที่พักในเครือ AMR™ Collection ที่ร่วมรายการ
  • ALG Vacations® หนึ่งในผู้ให้บริการแพ็คเกจท่องเที่ยวและแพลตฟอร์มการเดินทางเพื่อการพักผ่อนที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกาเหนือ ซึ่งให้บริการในสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และแคริบเบียน
  • Amstar บริษัทชั้นนำด้านการจัดการบริการที่จุดหมายปลายทาง
  • Trisept Solutions® แพลตฟอร์มเทคโนโลยีด้านการเดินทางเพื่อการพักผ่อนที่มีความเฉพาะไม่เหมือนใคร

Hyatt อยู่ระหว่างพิจารณารูปแบบที่โปรแกรม World of Hyatt® และ Unlimited Vacation Club® ของ ALG จะสามารถมอบความคุ้มค่าและสิทธิประโยชน์ที่มีความพิเศษมากยิ่งขึ้นให้กับฐานสมาชิกของแต่ละแบรนด์ โดย Hyatt มีแผนที่จะรวม AMR™ Collection เข้ากับโปรแกรม World of Hyatt ในปี 2565 นี้ เพื่อให้สมาชิกสามารถสะสมและแลกคะแนนจาก World of Hyatt ณ โรงแรมและรีสอร์ตในเครือ AMR™ Collection ที่มีกว่า 100 แห่งได้

Mark Hoplamazian ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Hyatt กล่าวว่า “การเข้าซื้อ ALG ของ Hyatt เป็นเหตุการณ์ที่จะกำหนดทิศทางแบรนด์ในประวัติศาสตร์กว่า 60 ปีของเรา และเป็นการต่อยอดความเป็นผู้นำทางด้านการบริการที่เราสานต่อจนถึงปัจจุบัน ธุรกิจของ Hyatt และ ALG มีความลงตัวกันอย่างมากและเรายังยึดมั่นอย่างลึกซึ้งในการมอบประสบการณ์ที่เน้นเรื่องการใส่ใส่ดูแลเพื่อร่วมงานและแขกเหมือนกัน หลังเข้าสู่อุตสาหกรรมที่พักหรูแบบครบวงจรที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นครั้งแรกในปี 2556 เราได้ก้าวมาสู่จุดที่มีความพร้อมในการช่วงชิงความต้องการต่อการเดินทางเพื่อการพักผ่อนที่มีอย่างมากและกำลังเพิ่มขึ้น และขยายบริการระดับโลกที่เรามีอยู่ให้กับนักเดินทางกลุ่มใหม่ ๆ ได้อย่างครอบคลุม เราตื่นเต้นที่จะได้ต้อนรับทีม ALG สู่ครอบครัว Hyatt และตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกันเพื่อทะยานสู่การเติบโตในระดับใหม่และสร้างความคุ้มค่าให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกส่วน ซึ่งรวมถึงผู้ถือหุ้น เจ้าของ ลูกค้า แขกผู้เข้าพัก สมาชิก และเพื่อนร่วมงานของเรา”

Alejandro Reynal ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธาน Apple Leisure Group กล่าวว่า “วันนี้คือจุดเริ่มต้นของบทใหม่สำหรับ ALG ซึ่งเราจะนำความภักดีของลูกค้าและชื่อเสียงอันแข็งแกร่งที่เราสะสมมาจากแบรนด์และบริการด้านการเดินทางระดับหรูมาต่อยอดต่อไปหลังจากที่เราได้เข้าไปส่วนหนึ่งกับ Hyatt แล้วในตอนนี้ เราเชื่ออย่างมากว่าเราสามารถประสบความสำเร็จได้มากขึ้นร่วมกัน และตื่นเต้นกับโอกาสที่รออยู่ข้างหน้าที่จะเกิดขึ้นกับครอบครัวที่ใหญ่ขึ้นของเรา รวมถึงสมาชิกทีม ALG ที่ตื่นเต้นกับการได้เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรระดับโลกที่ใหญ่ขึ้น ด้วยความเชี่ยวชาญจาก Hyatt ที่จะเข้ามาเสริม เราหวังที่จะเร่งขยายธุรกิจของเราให้เติบโตจากการต้อนรับนักเดินทางที่มากขึ้นและช่วยเปลี่ยนความฝันในการเดินทางพักผ่อนให้เป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืม”

ธุรกิจของ ALG จะยังคงดำเนินการภายใต้การนำของ Alejandro Reynal และทีมบริหารปัจจุบันของ ALG โดย ALG จะดำเนินการในรูปแบบของธุรกิจอิสระภายใต้ Hyatt ทั้งนี้ คุณ Reynal ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมบริหารของ Hyatt และรายงานตรงต่อคุณ Hoplamazian

ในเดือนกันยายน 2564 ทาง Hyatt ได้บรรลุข้อตกลงในการเข้าครอบครองสินทรัพย์มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งได้ประกาศไปในปี 2563 ส่งผลให้มีรายได้รวมที่รับรู้เพิ่มขึ้นกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับตั้งแต่ได้มีการประกาศกลยุทธ์ในการเข้าครอบครอบสินทรัพย์ไปในปี 2560 ด้วยกำไร EBITDA ที่รวมกันมากกว่า 17 เท่า Hyatt ยังตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มรายได้อีก 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการขายอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรมภายในสิ้นปี 2567

ที่ปรึกษา
สำหรับการทำธุรกรรมครั้งนี้มี BDT & Company, LLC และ J.P. Morgan ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ Hyatt และ Latham & Watkins LLP ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย PJT Partners ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ ALG และ Simpson Thacher & Bartlett LLP ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย Credit Suisse และ Deutsche Bank Securities Inc. ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ KKR และ KSL Capital Partners

ในเอกสารประชาสัมพันธ์นี้ใช้คำว่า “Hyatt” เพื่อความสะดวกในการอ้างอิงถึง Hyatt Hotels Corporation และ/หรือบริษัทในเครือหนึ่งแห่งหรือมากกว่า

เกี่ยวกับ Hyatt Hotels Corporation
Hyatt Hotels Corporation ซี่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในชิคาโก เป็นบริษัทด้านการบริการชั้นนำของโลกที่มีแบรนด์ระดับพรีเมียมในเครือถึง 20 แบรนด์ เมื่อสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทมีโรงแรมกว่า 1,000 แห่งในพอร์ตโฟลิโอและอสังหาแบบครบวงจรใน 68 ประเทศ ครอบคลุม 6 ทวีปทั่วโลก บริษัทมีเจตนารมณ์ในการให้ความใส่ใจต่อผู้อื่น ให้ข้อมูลที่พร้อมที่สุดสำหรับการตัดสินใจทางธุรกิจ และการวางยุทธศาสตร์เพื่อการเติบโตซึ่งมุ่งมั่นที่จะดึงดูดใจให้ผู้มากฝีมือของอุตสาหกรรมนี้เข้ามาร่วมงาน สร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าและแขกผู้มาพัก ตลอดจนสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ยังมีบริษัทย่อยที่พัฒนา เป็นเจ้าของ ดำเนินงาน บริหาร ดูแลแฟรนไชส์ จดทะเบียน หรือให้บริการแก่โรงแรม รีสอร์ต ห้องพักระดับหรู และผู้ที่มีธุรกิจที่พักเพื่อการพักผ่อน ภายใต้ชื่อดังนี้ Park Hyatt®, Miraval®, Grand Hyatt®, Alila®, Andaz®, The Unbound Collection by Hyatt®, Destination by Hyatt™, Hyatt Regency®, Hyatt®, Hyatt Ziva™, Hyatt Zilara™, Thompson Hotels®, Hyatt Centric®, Caption by Hyatt, JdV by Hyatt™, Hyatt House®, Hyatt Place®, tommie™, UrCove และ Hyatt Residence Club® รวมทั้งโปรแกรม World of Hyatt® ที่มอบสิทธิประโยชน์และประสบการณ์อันเหนือระดับให้แก่สมาชิกผู้มีอุปการะคุณ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ www.hyatt.com

เกี่ยวกับ Apple Leisure Group®
Apple Leisure Group® (ALG) เป็นกลุ่มบริษัทด้านการบริหารจัดการแบรนด์รีสอร์ต การท่องเที่ยว และการบริการชั้นนำในภูมิภาคอเมริกาเหนือซึ่งมีโมเดลทางธุรกิจที่แตกต่างและให้บริการนักเดินทางในจุดหมายปลายทางต่าง ๆ ทั่วโลก ผ่านการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทในเครือ ALG ได้มอบประสบการณ์ที่มีค่าให้กับนักเดินทางและผลประกอบการที่แข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการรีสอร์ตและพันธมิตรมาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ประโยชน์จากแบรนด์ที่มีในพอร์ตโฟลิโออย่างมีกลยุทธ์ โดยแบรนด์เหล่านั้นประกอบด้วย: AMResorts LP หรือบริษัทในเครืออย่างน้อยหนึ่งแห่ง ซึ่งให้บริการครบทั้งด้านการขาย การตลาด และการบริหารจัดการแบรนด์กับแบรนด์รีสอร์ตในเครือ AMR™ Collection ซึ่งประกอบด้วยแบรนด์รีสอร์ตหรูระดับ 5 ดาว และ 4 ดาว ที่เคยคว้ารางวัลมาแล้ว ได้แก่ Secrets® Resorts & Spas, Dreams® Resorts & Spas, Breathless® Resorts & Spas, Zoëtry® Wellness & Spa Resorts, Alua® Hotels & Resorts และ Sunscape® Resorts & Spas รวมถึง ALG Vacations® หนึ่งในผู้จำหน่ายแพ็คเกจท่องเที่ยววันหยุดรายใหญ่ที่สุดและผู้ให้บริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากสหรัฐอเมริกาไปยังเม็กซิโกและประเทศในแถบแคริบเบียน รวมถึงแบรนด์ที่มีความมั่นคงอย่าง Apple Vacations®, Funjet Vacations®, Travel Impressions®, CheapCaribbean.com®, BeachBound®, Blue Sky Tours®, Southwest Vacations® และ United Vacations® รวมถึงโปรแกรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับสมาชิกอย่าง Unlimited Vacation Club® และบริการจัดการจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดในตลาดโดย Amstar DMC รวมถึงผู้ให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง Trisept Solutions® ซึ่งเชื่อมโยงตัวแทนท่องเที่ยวมากกว่า 88,000 แห่งเข้ากับผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวชั้นนำ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับจุดเด่นของ Apple Leisure Group® โปรดดูที่ www.appleleisuregroup.com

แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า
แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งไม่ใช่ข้อมูลในอดีต ในเอกสารประชาสัมพันธ์นี้เป็นแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าภายใต้ความหมายของกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคล พ.ศ. 2538 แถลงการณ์เหล่านี้ประกอบด้วยแถลงการณ์เกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการ Apple Leisure Group® ของบริษัท รวมถึงผลประโยชน์ทางการเงินและการดำเนินการที่คาดซึ่งเป็นผลจากการเข้าซื้อดังกล่าว ผลประโยชน์สำหรับแขกผู้เข้าพักและผู้ประกอบการที่จะได้จากการเข้าซื้อครั้งนี้ จำนวนและระยะเวลาในการขายสินทรัพย์ในอนาคตและยอดขายที่คาดการณ์ว่าจะได้จากการขายสินทรัพย์นั้น การเติบโตที่คาดการณ์ของการเดินทางแบบหรูหราทั่วโลกและสัดส่วนรายได้จากค่าห้องพักทั้งหมดของบริษัท รายได้รวมจากค่าธรรมเนียมในอนาคตของบริษัท สิทธิประโยชน์และมูลค่าเพิ่มที่คาดการณ์จากโปรแกรม World of Hyatt สำหรับสมาชิกและข้อเสนอสำหรับสมาชิกโดย Apple Leisure Group แผน กลยุทธ์ ภาพรวม ผลประกอบการ ประมาณการ ข้อเสนอทางการเงิน โอกาสหรือเหตุการณ์ในอนาคตของบริษัท ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงทั้งในปัจจุบันและในอนาคตซึ่งยากที่จะคาดการณ์ ดังนั้น ผลการดำเนินการ ผลประกอบการ หรือความสำเร็จที่เกิดขึ้นจริงอาจแตกต่างอย่างมากจากที่ระบุในแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าทั้งโดยตรงและโดยนัย ในบางกรณี คุณสามารถระบุแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าโดยการใช้คำศัพท์เช่น “อาจ” “อาจจะ” “คาดว่า” “ตั้งใจว่า” “วางแผน” “มุ่งหา” “คาดการณ์” “เชื่อว่า” “ประมาณว่า” “พยากรณ์ว่า” “มีแนวโน้ม” “เดินหน้า” “เป็นไปได้ว่า” “จะ” และหรือคำหรือวลีอื่น ๆ ที่คล้ายกัน หรือคำที่มีความหมายในเชิงลบของคำหรือวลีที่คล้ายกันเหล่านี้ แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้านี้ตั้งอยู่บนการคาดการณ์และสมมติฐานต่าง ๆ ซึ่งแม้จะผ่านการพิจารณาอย่างสมเหตุสมผลโดยบริษัทและผู้บริหารของเราแล้วแต่ก็มีความไม่แน่นอน ปัจจัยสำคัญที่อาจทำให้ผลที่แท้จริงแตกต่างอย่างมากจากการคาดการณ์ในปัจจุบันประกอบด้วยความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความสมบูรณ์ในการเข้าซื้อกิจการของ Apple Leisure Group® รวมถึงการเป็นหนี้ที่ไม่ได้มาจากการกู้ยืมเพิ่มเติม ความสามารถของบริษัทในการบูรณาการกับพนักงานและการดำเนินการของ Apple Leisure Group ได้สำเร็จ ความสามารถในการรับรู้ผลประโยชน์ที่คาดและการทำงานร่วมกันของการเข้าซื้อกิจการของ Apple Leisure Group® ตามที่เสนออย่างรวดเร็วหรือในระดับที่คาดหวัง ระยะเวลาของการเกิดโรคระบาดโควิด-19 และความรวดเร็วในการฟื้นตัวหลังสิ้นสุดโรคระบาด การกลับมาระบาดซ้ำ หรือสายพันธุ์ของโควิด -19 ผลกระทบทั้งในระยะสั้นและระยะยาวจากการระบาดของโควิด-19 รวมถึงความต้องการต่อการท่องเที่ยว ที่พักระยะสั้นและธุรกิจกลุ่ม และระดับความมั่นใจของผู้บริโภค ผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 การกลับมาระบาดซ้ำ สายพันธ์ุของโควิด-19 และผลกระทบจากการรับมือของรัฐบาล ธุรกิจ และบุคคลต่อเศรษฐกิจทั้งในระดับโลกและภูมิภาค ข้อจำกัดและการห้ามเดินทาง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจ รวมถึงระยะเวลาและความรุนแรงของผลกระทบด้านเศรษฐกิจต่ออัตราการว่างงานและการใช้จ่ายตามดุลยพินิจของผู้บริโภค การกระจายของวัคซีนโควิด-19 และการยอมรับวัคซีนนั้นของประชาชนทั่วไปในวงกว้าง ความสามารถของเจ้าของที่เป็นบุคคลที่สาม บุคคลที่ได้รับสิทธิในการดําเนินธุรกิจ หรือพันธมิตรธุรกิจบริการในการรับมือกับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 การกลับมาระบาดซ้ำ หรือสายพันธ์ุของโควิด-19 ได้สำเร็จ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโดยรวมในตลาดทั่วโลก และภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยหรือการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับต่ำ อัตราและระยะเวลาในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ข้อจำกัดและการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ความเสี่ยงที่ส่งผลต่อตลาดในกลุ่มที่พักระดับหรู รีสอร์ต และที่พักแบบครบวงจร ระดับการใช้จ่ายในภาคธุรกิจ การพักผ่อน และภาคส่วนทั้งหมด รวมถึงความมั่นใจของผู้บริโภค อัตราการเข้าพักและอัตราเฉลี่ยต่อวันที่ลดลง การคาดการณ์การสำรองที่พักในอนาคตที่ทำได้อย่างจำกัด การสูญเสียบุคลากรในตำแหน่งที่สำคัญ เงื่อนไขทางการเมืองและภูมิศาสตร์การเมืองภายในประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงความไม่สงบทางการเมืองหรือที่เกี่ยวกับพลเมือง หรือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายด้านการค้า การมุ่งร้าย หรือความหวาดกลัวต่อการมุ่งร้าย รวมถึงการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในอนาคตซึ่งส่งผลกระทบต่อการเดินทาง อุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง ภัยพิบัติที่เกิดจากธรรมชาติหรือมนุษย์ เช่น แผ่นดินไหว สึนามิ พายุทอร์นาโด เฮอร์ริเคน น้ำท่วม ไฟป่า การรั่วไหลของน้ำมัน เหตุการณ์เกี่ยวกับนิวเคลียร์ การเกิดโรคระบาดหรือโรคติดต่อทั่วโลก เช่น การระบาดของโควิด-19 หรือความหวาดกลัวต่อการระบาดของโรค ความสามารถของเราในการสร้างผลกำไรจากการดำเนินการในระดับที่คาดหวังได้สำเร็จของโรงแรมที่มีการทดสอบประสิทธิภาพหรือมีการรับรองเพื่อผลประโยชน์ของผู้ประกอบการที่เป็นบุคคลที่สาม ผลกระทบจากการปรับโฉมและพัฒนาโรงแรมใหม่ ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับแผนจัดสรรเงินทุนของเรา โครงการซื้อหุ้นคืน และการจ่ายเงินปันผล รวมถึงการลดลง การยกเลิก หรือการระงับกิจกรรมซื้อหุ้นคืนหรือการจ่ายเงินปันผล ลักษณะตามฤดูกาลและวัฏจักรของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการบริการ การเปลี่ยนแปลงในข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนท่องเที่ยวทางอินเทอร์เน็ต การเปลี่ยนแปลงในรสนิยมและความชอบของลูกค้าของเรา ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานและสหภาพแรงงานและการเปลี่ยนแปลงกฎหมายแรงงาน เงื่อนไขทางการเงินและความสัมพันธ์ของเรากับเจ้าของทรัพย์สินประเภทบุคคลที่สาม บุคคลที่ได้รับสิทธิในการดําเนินธุรกิจ และพันธมิตรกิจการบริการ การไร้ความสามารถที่อาจเกิดขึ้นของผู้ประกอบการบุคคลที่สาม บุคคลที่ได้รับสิทธิในการดําเนินธุรกิจ หรือพันธมิตรที่เป็นผู้พัฒนาในการเข้าถึงเงินทุนที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน หรือดำเนินการตามแผนเพื่อการเติบโต ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเข้าซื้อกิจการและการจัดการที่อาจเกิดขึ้นและการขายและการเปิดตัวแนวคิดแบรนด์ใหม่ ระยะเวลาในการเข้าซื้อกิจการและการขายและความสามารถของเราในการรวมการเข้าซื้อกิจการที่เสร็จสมบูรณ์เข้ากับการดำเนินงานที่มีอยู่ ความล้มเหลวในการทำธุรกรรมที่เสนอให้สำเร็จ (รวมถึงความล้มเหลวในการปฏิบัติตามเงื่อนไขการปิดหรือได้รับการอนุมัติที่จำเป็น) ความสามารถของเราในการดำเนินการตามกลยุทธ์ให้ประสบความสำเร็จในการขยายธุรกิจการจัดการและแฟรนไชส์ ไปพร้อมกับการลดสินทรัพย์ที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ของเราภายในกรอบเวลาเป้าหมายและตามมูลค่าที่คาดหวัง การลดลงของมูลค่าทรัพย์สินด้านอสังหาริมทรัพย์ของเรา การยุติข้อตกลงการจัดการหรือแฟรนไชส์ของเราโดยไม่คาดคิด การเปลี่ยนแปลงกฎหมายภาษีของรัฐบาลกลาง รัฐ ท้องถิ่น หรือต่างประเทศ การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศหรือการปรับโครงสร้างสกุลเงิน การที่แบรนด์หรือนวัตกรรมใหม่ไม่ได้รับการยอมรับ ความผันผวนทั่วไปของตลาดทุนและความสามารถของเราในการเข้าถึงตลาดดังกล่าว การเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมการแข่งขันในอุตสาหกรรมของเรา รวมถึงที่เป็นผลจากการระบาดของโควิด-19 การรวมตัวกันของอุตสาหกรรมและตลาดที่เราเข้าไปดำเนินธุรกิจ ความสามารถของเราในการขยายโปรแกรม World of Hyatt และข้อเสนอสำหรับสมาชิกจาก Apple Leisure Group ได้สำเร็จ เหตุการณ์ทางไซเบอร์และความล้มเหลวของเทคโนโลยีสารสนเทศ ผลของกระบวนการทางกฎหมายหรือทางปกครอง และการละเมิดกฎระเบียบหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจแฟรนไชส์ของเรา และความเสี่ยงอื่น ๆ ที่ระบุไว้ในเอกสารของบริษัทที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ รวมถึงรายงานประจำปีของเราซึ่งอยู่ในส่วนของ Form 10-K และรายงานประจำไตรมาสในส่วนของ Form 10-Q ซึ่งสามารถขอรับได้จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ ไม่ควรเชื่อมั่นเกินควรในแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้านี้ ซึ่งจัดทำขึ้นในวันที่เผยแพร่เอกสารฉบับนี้ เราไม่มีข้อผูกมัดในการปรับปรุงข้อความในแถลงการณ์นี้ตามผลที่เกิดขึ้นจริง ข้อมูลใหม่ หรือเหตุการณ์ในอนาคต การเปลี่ยนแปลงในสมมติฐานหรือการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลกระทบต่อแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้า ยกเว้นในขอบเขตที่กำหนดโดยกฎหมายที่บังคับใช้ หากเราได้ทำการแก้ไขแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ ไม่ควรมีการอนุมานว่าเราจะแก้ไขเพิ่มเติมในแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้านี้หรือในอนาคต

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20211102005724/en/

ข้อมูลติดต่อสำหรับสื่อ:
Franziska Weber
+1 312 780 6106
franziska.weber@hyatt.com

ข้อมูลติดต่อสำหรับนักลงทุน:
Noah Hoppe
+1 312 780 5991
noah.hoppe@hyatt.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย